คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : [SF] แค่คำว่ารัก... (ch.2)
คลุก คลิก คลุก คลิก คลุก คลิก เสียงนี้คือเสียงที่ชายคนหนึ่งกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ในครัว อย่างตั้งใจ เพื่อเป็นอาหารเช้าให้กับตัวเอง
“อาหารเช้าเสร็จแล้ว” ว่าแล้วเค้าก็ยกหม้อของข้าวต้มสำหรับมื้อเช้าที่เค้าพึ่งทำเสร็จด้วยความพยายามสุดความสามารถขึ้นมา เพื่อที่จะไปวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว เตรียมพร้อมสำหรับมื้อเช้าของวันนี้
“พี่ครับ ทำอะไร เมื่อคืนไม่เหนื่อยหรอ”
แบคโฮที่พึ่งลุกออกมาจากที่นอนเดินเข้ามาหาอารอนอย่างเงียบ ๆ เหมือนจะตื่นเพราะได้กลิ่นอาหารอารอนทำ เมื่อมาถึงก็กอดไปที่เอวของอารอนโดยที่อีกคนไม่ทันได้ตั้งตัว ก็เลย.....
“โฮ๊ะ!” อารอนอุทานขึ้นแล้วความตกใจ พร้อมกับมือที่ปล่อยจากหม้อข้าวต้มที่ตนนั้นถืออยู่ด้วยความตกใจเช่นกัน และด้วยความตกใจอีกนั่นแหละอารอนจึงลืมคิดและพยายามจะคว้าหม้อเอาไว้ แน่นอนแหละว่าหม้อนั้นต้องร้อนแน่ ๆ แบคโฮจึงดึงตัวของอารอนให้ถอยหลังออกมา เพื่อไม่ให้โดนน้ำซุปจากหม้อที่ร้อน ๆ นั้นลวกเอา หม้อซุปนี้จึงล่วงลงสู่พื้นทันที โดยมีสายตาสองคู่มองตามหม้อนั้นไป สายตาคู่หนึ่งมองด้วยความอาวรณ์และความโกรธ ส่วนอีกคู่หนึ่งก็อาวรณ์เช่นกันพร้อม ๆ กับสายตาตายแน่แล้วตู เมื่อหม้อข้าวต้มล่วงลงสู่พื้นอย่างเป็นทางการ
“พี่ครับเป็นอะไรไหมเจ็บตรงไหนรึเปล่า” ถามพร้อมกับสำรวจไปที่ร่างกายของอารอน หมุนซ้าย หมุนขวา หมุนไปรอบ แล้วก็จับมือขึ้นมาดู “โอ๊ะมือพี่” แบคโฮดูที่มือของอารอนก็พบว่ามือของอารอนโดนน้ำซุปลวกด้วย ถึงแม้ว่าแบคโฮจะดึงตัวของอารอนออกมาแล้วมือของอารอนก็โดนน้ำซุปลวกเอาอยู่ดี เหตุการณ์ก็ดูเหมือนจะสร้างความโรแมนติกให้กับทั้งสองคน พระเอกดึงนางเอกเพื่อช่วยไม่ให้นางเอกบาดเจ็บอะไรแบบนี้ แต่สองคนนี้ไม่ใช่ เหตุผลก็ไม่ใช่เพราะอารอนของเราโดนน้ำร้อนลวกหรอกนะ
“คุณคัง คุณเล่นอะไร” อารอนดึงมือออกมาจากมือของแบคโฮพร้อมกับตะโกนใส่หน้าอย่างดัง โดยปกติแล้วอารอนจะไม่เรียกแบคโฮห่างเหิน นอกจากเวลาเดียวเท่านั้น นั่นคือเวลาที่เค้าโกรธแบคโฮมาก ๆ
“ทำไมต้องเรียกผมห่างเหินอย่างงั้นด้วยล่ะ ผมเป็นน้องพี่นะ”
“แล้วไงล่ะ ก็เพราะว่าเป็นน้องไงถึงได้ยอมมาตลอด ถ้าไม่งั้นคิดว่าฉันจะยอมหรอไง แล้วนี่มาเล่นอะไรอีก เมื่อคืนไม่พอรึไง บอกแล้วใช่ป่ะว่าไม่ แล้วก็ยังจะทำ ขอถามสักคำเราเป็นอะไรกัน เป็นแค่พี่น้องแล้วเมื่อคืนนายทำแบบนั้นทำไม” อารอนระเบิดอารมณ์ใส่แบคโฮออกมาก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์โดยไม่ให้แบคโฮเห็น
ส่วนแบคโฮเมื่อได้ยินคำพูดแล้วก็ไม่ได้พูดหรือตอบโต้อะไรไปอีกได้แต่ยืนอึ้งกับคำพูดของอารอนพลางคิดว่าอารอนโกรธเรื่องเมื่อคืนนี้จริง ๆ หน่ะหรอ ตั้งสติได้เค้าก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาอารอนที่ดูเหมือนว่าจะนั่งงอนตุ๊บป่องซะมากกว่านั่งโกรธอยู่บนโซฟานะ
“พี่ครับเจ็บมากไหม” เมื่อเค้ามาถึงหน้าอารอนก็นั่งคุกเข่าลง แล้วจับมือของอารอนข้างที่โดนน้ำซุปลวกขึ้นมา แต่เค้าก็ยังไม่กล้ามองหน้าของอารอนอยู่ดีด้วยความที่รู้สึกผิด
อารอนมองคนที่นั่งคุกเข้าตรงหน้าแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร แต่บนใบหน้าก็ไม่ได้ร่องรอยของการโกรธเลยเลยนิด มีแต่เพียงรอยยิ้มที่แสดงถึงความสะใจออกมาแค่นั้นเอง
“งั้น เดี๋ยวผมไปหายามาทาให้นะ” อยู่ ๆ แบคโฮก็เงยหน้าขึ้นมาแบบที่อารอนไม่ทันได้ตั้งตัว หันหน้าหนีแอ๊บเกือบไม่ทัน พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และนุ่มนวลกว่าที่เคยเป็นด้วยความรู้สึกผิด แล้วก็ลุกขึ้นไปหายามาทาให้พี่ชายจอมเจ้าเล่ห์
...........งระหว่างที่แบคโฮเดินไปหยิบยา อารอนก็หัวเราะชอบใจอยู่คนเดียว
แบคโฮเดินกลับมาพร้อมกับขวดยาในมือแล้วก็พยายามยิ้มให้คนตรงหน้าว่าจะหายโกรธไหม ส่วนอารอนก็แสร้งทำเป็นตีหน้านิ่งใส่ ทำเป็นว่าไม่สนใจ คนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“พี่ครับถ้านายโกรธพี่มากก็อย่านิ่งไปงี้สิ ด่ามาก็ได้ว่าอะไรมาก็ได้ผมยอมหมดเลยนะ แต่อย่านิ่งแบบนี้เลยผมกลัว” แล้วแบคโฮก็ลงไปนั่งที่เดิมพร้อมกับจับมือของอารอนขึ้นมาทายาให้อย่างเบามือ
......... อารอนเงียบและไม่พูดอะไรตอบไปทั้งนั้น แต่ก็ยอมให้แบคโฮจับมือไปทายาแต่โดยดี
“เอางี้ผมจะไปทำความสะอาดไอ้ที่มันเลอะในครัวก่อนนะ แล้วเดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกันนะครับ”
......... พูดจบก็มองหน้าคนที่นั่งอยู่บนโซฟา ไม่พูดนิ่ง เงียบ ดังนั้นจึงกลับมาทำหน้าสลดอีกครั้ง แล้วก็เดินไปทำความสะอาดในครัว
“ฮึฮึฮึ แบคโฮอยากเจ้าเล่ห์นักโดนบ้างเป็นไงล่ะ อย่าคิดว่าจะทำได้คนเดียวนะ” อารอนหัวเราะอย่างชอบใจที่ได้แก้แค้นน้องชายจอมแสบบ้างซะที แล้วก็นั่งมองเสืออ้วนทำความสะอาดครัวอย่างมีความสุข
อันที่จริงเรื่องเมื่อคืนนี้เค้าก็ไม่ได้โกรธเลยสักนิด เพียงแต่รู้สึกเสียหน้าก็แค่นั้นแหละ แต่ว่ายังไม่รู้จะหาวิธีการแก้แค้นยังไงก็แค่นั้น พอมาเกิดเหตุเมื่อตอนเช้าขึ้นเรื่องนี้แหละที่เค้าโกรธ เพราะอารอนนั้นเป็นคนที่ทำอาหารไม่เก่งเลย คือกว่าจะทำอาหารอะไรได้สักถ้วยก็ยากมาก แล้วเมื่อแบคโฮมีส่วนมาทำให้ข้าวต้มที่ทำสุดแสนจะยากลำบากของเค้าเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง อารอนเลยโกรธอยู่เหมือนกัน และในช่วงเวลานั้นความคิดชั่วร้ายของเค้าก็แล่นขึ้นมาในสมองทันทีแกล้งอำมันตอนนี้แหละเนียนสุด ๆ เอาแรง ๆ ไปเลย ยังไงแบคโฮก็ต้องเชื่อเพราะแบคโฮก็รู้ว่าอารอนนั้นทำอาหารไม่เก่งและกว่าจะทำได้แต่ล่ะอย่างมันยากแค่ไหน ดังนั้นโอกาสนี้แหละ เสร็จแน่คังแบคโฮ ฮึฮึฮึ *หัวเราะแบบชั่วร้ายมาก
“พี่ครับผมทำความสะอาดครัวให้สะอาดเอี่ยมเลยเห็นป่ะ งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะนะ”
......... เงียบ
“ยังไม่หายโกรธผมอีกหรอเนี่ย ไปกินข้าวที่ร้านกันดีกว่านะครับ”
......... ก็ยังคงเงียบอยู่
“โอเค งั้นไปกัน”
“เฮ้ย อะไรเนี่ยปล่อยดิ”
ในเมื่อไม่ยอมพูดซักที ไม่ยอมเอ่ยวาจาออกมาแบคโฮก็เลยเดินเข้าไปแบกอารอนขึ้นมาไว้บนบ่าซะเลย ตัดปัญหา ในเมื่อไม่ยอมพูดก็เอางี้แหละ ง่ายดี
“ยอมพูดกับผมแล้วหรอคับ”
“ปล่อย” แต่อารอนก็ไม่ได้พูดเปล่า ๆ หรอกนะ
บั๊ก! เสียงมือของอารอนทุบเข้าเต็ม ๆ หลังของแบคโฮเต็มแรงเลยค่ะ
ฮึก! ฮืม เม้นปากแล้วก้มหน้าลง ประมาณว่าเจ็บเอาเรื่องเลยล่ะ แต่พูดอะไรตอนนี้ไม่ได้ เพราะอารอนยังไม่หายโกรธ
แบคโฮไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากแค่นั้นแหละ เพราะยังต้องการง้อพี่คนนี้อยู่ ก่อนจะค่อย ๆ วางอารอนลง ดีนะยังอยู่ในอารมณ์รู้สึดผิดอยู่ ไม่งั้นไอ้คนที่โดนแบกโดนทุ่มลงมาแน่ ๆ ไอ้คนทุบทีนี่ไม่ได้คิดก่อนเลยล่ะว่าเค้าจะโยนตัวเองทิ้งลงเลยไหมคุณชาย
“แล้วจะไปไหมครับ”
“ไป แต่ไปเองได้ แต่ไม่ได้ไปเพราะชวนหรอกนะ พอดีว่าคิดถึงมินฮยอน” อารอนยังคงยั่วโมโหแบคโฮต่อไป ก่อนที่จะเดินนำแบคโฮออกจากห้องไป โดยไม่หันมามองคนข้างหลังเลยสักนิด
“สวัสดี ทุกคน” อารอนเมื่อมาถึงร้านก็ทักทายทุก ๆ ทันที แล้วก็หันหลังไปมองคนที่กำลังเดินตามหลังมา เมื่อเห็นว่าเริ่มเดินใกล้เข้ามาแล้ว เขาก็ยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก พร้อมกับเดินไปหามินฮยอนทันที
“มินฮยอน วันนี้เป็นเด็กเสิร์ฟหรอ ไม่เบื่อหรือไงที่รัก” อารอนพูดพร้อมกับเข้าไปกอดเอวของมินฮยอนเอาไว้
“เฮ้ย เล่นอะไรเนี่ยใครที่รักพี่” มินฮยอนตกใจเล็กน้อยเมื่ออารอนพี่ชายที่รักอยู่ดี ๆ ก็มากอดเค้าซะงั้น และก็เลยพยายามแกะมือของอีกคนออกไป
ปึง !
เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นจากใครคนหนึ่ง
จากที่มินฮยอนพยายามจะแกะมือของอารอนออกไปก็หยุดเพราะความตกใจ ส่วนอารอนยิ่งชอบใจใหญ่ก็เลยกอดมินฮยอนให้แน่นขึ้นอีก
“เป็นอะไรกันอีกเนี่ย มีอะไรกันเนี่ย” มินฮยอนหันไปถามอารอนเพราะพอจะรู้แล้วว่าน่าจะเรื่องอะไรกับสองคนนี้แน่ ๆ
“อยากช่วยฉันแกล้งไอ้เสือปากแข็งนี่ไหมล่ะ” อารอนกระซิบกับมินฮยอนเบา ๆ
“จริงอ๊ะ น่าสนุกงั้นเอาด้วย” ก็นะมินฮยอนอยากหาโอกาสแกล้งไอ้เสืออ้วนตัวนี้มานานมากและ แต่ก็ไม่มีโอกาส ไหน ๆ โอกาสก็มาแล้วก็จัดหนัก ๆ เลยก็แล้วกันเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจการชวนของอารอนผู้เป็นพี่ที่รักมาก
เมื่อตกลงกันได้มินฮยอนก็เริ่มแผนการช่วยพี่ชายทันที
“พี่ครับเดินมากว่าจะถึงที่นี่เหนื่อยไหม ดื่มน้ำไหมเดี๋ยวผมไปเอามาให้” มินฮยอนหมุนตัวที่ยังอยู่ในอ้อมแขนของอารอน แล้วหันมามองหน้าคนที่กอดเค้าอยู่
“อ่า ดื่มสิมินฮยอนตอนนี้ฉันอยากดื่มน้ำมากเลย”
“งั้นรอแปปนะครับ เดี๋ยวไปเอามาให้นะ” มินฮยอนพูดพร้อมกับลูบไปที่แก้มอันเนียนนุ่มของอารอนพร้อมส่งสายตาหวาน ๆ ให้ อารอนของเราก็ใช่ย่อยส่งตายตาหวานเยิ้มกลับไปให้เช่นกัน ก่อนที่มินฮยอนจะเดินไปหยิบน้ำมาให้อารอน โอ้ย เหมือนทั้งร้านมีแต่เราสอง
ส่วนคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะนั้นหน่ะหรอ ก็หน้าเขียวแล้วล่ะตอนนี้ อาการตอนนี้ก็คือ ลมออกหู ตาแดง หน้าตาเขียวปั๊ด หายใจแร้งแรง คล้าย ๆ กำลังจะระเบิดในอีกไม่ช้า
เร็นกับเจอาร์ที่นั่งดูเหตุการณ์ระหว่างอารอนกับมินฮยอนมาได้สักพัก เร็นก็นึกอะไรขึ้นได้แล้วเดินไปหาแบคโฮที่กำลังนั่งโกรธลมออกหูอยู่ที่โต๊ะ
.......แกล้งแบคโฮกันหรอ น่าสนุกดีงั้นขอร่วมด้วยคนก็แล้วกันนะ
*วันนี้เร็นเค้าเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นนายกวักเรียกลูกค้าเป็นเพื่อนเจอาร์เค้าหน่ะค่ะ โดยมีมินฮยอนไปเป็นเด็กเสิร์ฟให้แทน
“พี่ครับ สองคนนั้นเค้าคบกันแล้วหรอ ทำไมดูหวานกันจัง มีส่งสายตาหวาน ๆ ให้กันด้วยเนอะ” เร็นเดินมาพูดใส่ไฟเพิ่มเติมเพื่อบิ้วอารมณ์ให้แบคโฮโกรธมากยิ่งขึ้นไปอีก
.........แบคโฮหันมามองเร็นส่งสายตาประมาณว่า รู้แล้วจะมาบิ้วเพื่อ? เดี๋ยวก็จับฆ่าหมกโต๊ะนี่ซะหรอก
อีกด้านหนึ่ง
มินฮยอนเดินไปเอาน้ำแล้วมานั่งด้านหน้าของอารอนที่นั่งรออยู่
“พี่อารอนครับน้ำเย็น ๆ จากคนน่ารักมาเสิร์ฟให้แล้วครับ ดื่มเยอะ ๆ นะ จะได้หายเหนื่อย” มินฮยอนพูดพร้อมกับยื่นแก้วน้ำไปหาอารอนมือนึงเค้าจับหลอดเอาไว้ให้อารอนดูดมัน โดยที่อารอนไม่ต้องถือ แล้วเค้าก็ยักคิ้วข้างหนึ่งให้อารอน เหมือนจะเป็นการบอกว่าเป็นไงใช้ได้ป่ะ อารอนของเราก็ยิ้มรับอย่างพอใจประมาณว่าใช้ได้ แล้วก็ก้มลงไปดูดน้ำจากแก้วสายตาก็มองที่หน้าของมินฮยอนอย่างหวานซึ้ง
“หยุดได้แล้ว ไม่ต้องกินแล้วน้ำเนี่ย” บุคคลจากโต๊ะนั้นเดินเข้ามาแล้วดึงแก้วน้ำออกไป ไม่รู้ก่อนดึงนี่ดูรึเปล่า เพราะว่าแก้วน้ำนั้นอีกคนนึงก็ถืออยู่ไอ้คนที่ถืออยู่มันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่อีกคนมันกำลังดูดน้ำอยู่นี่ดิ
“พี่อารอน พี่กำลังทำอะไรอยู่ มาจ้องตาหวานกับไอ้มินฮยอนอย่างงี้ได้ไง พี่เป็นของผมแล้วนะ” เมื่อดึงแก้วน้ำออกไปแล้วก็หันมาโวยวายใส่คนตรงหน้า
“เอ๊ะ!” เสียงอุทานดังมาจากคนอีกสามคนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วยความตกใจกับคำพูดที่ว่า พี่เป็นของผมแล้วนะ (เร็นก็เดินตามแบคโฮมาด้วย เพราะเห็นว่าท่าทางของท่านแบคโฮดูไม่ดีเท่าไหร่ตอนเดินมา ก็เลยตามมาด้วยเผื่อจะมาห้ามทัพ เพราะเมื่อกี้ก็ใส่ไฟไว้เยอะอยู่ เจอาร์นั่งดูอยู่ไกล ๆ ก็มาร่วมวงด้วยอีกคน)
“ฉันหรอเป็นของนาย ใช่หรอ ขอถามอีกครั้งนะเราเป็นอะไรกันด้วยหรอ ฉันถึงจะเป็นของนายได้อ่ะ” พูดจากวนใส่คนตรงหน้าที่กำลังเดือดปุด ๆ ปฏิกิริยาแตกต่างจากสามคนเมื่อกี้นี้นัก ก็นะรู้ ๆ กันอยู่ (เอ๊ะ รึไม่รู้)
“ส่วนนายมินฮยอนนายก็มีคนของนายอยู่แล้ว จะมายุ่งกับคนของฉันอีกทำไม” ก่อนจะหันไปหามินฮยอนก็มีปฏิกิริยาอึ้งนิดหน่อยก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปหาคนอื่นแทน
“ใครเป็นคนของนายไม่ทราบ มีอะไรเป็นเครื่องวัดหรอ” อารอนของเราดึงแขนแบคโฮให้มองมาที่ตัวเองเพราะเห็นว่าแบคโฮหันไปหาคนอื่นพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อเลี่ยงการตอบคำถาม
“เรื่องเมื่อคืนไง”
“โฮะ เรื่องเมื่อคืนหรอ มันวัดกันไม่ได้หรอกมั้งว่าเราเป็นอะไรกัน มันก็แค่เรื่องที่นายเล่นสนุก ๆ กับพี่ไม่ใช่หรอ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่”
“ก็เราเป็นแฟนกันไง”
“แฟนหรอเป็นตอนไหนไม่ทราบ”
“ก็ตอนนี้แหละ ผมบอกว่าเป็นตอนไหนก็ตอนนั้นแหละ”
“ง่าย ๆ อย่างงี้อ่ะนะ แล้วจะเป็นแฟนกันได้ยังไงในเมื่อเราก็ไม่ได้รักกันซักหน่อยใช่ไหมล่ะ นายก็ไม่ได้รักฉันจริง ๆ นี่นา ฉันก็แค่ของเล่นของนายแค่นั้นเอง” อารอนเริ่มจะพอใจกับคำตอบที่ได้มาแล้วล่ะ แต่เค้าก็ยังไม่ได้คำตอบที่เค้าต้องการจริง ๆ ก็เลยขอแกล้งต่ออีกซักหน่อย
“ไม่ใช่! พี่ไม่ใช่ของเล่นของผมนะ” คนตัวใหญ่กว่ารีบแก้ตัวทันควัน “ผม. ผม. ผม..” คนนี้ก็ปากหนักปากแข็งจะพูดอะไรก็ไม่พูด
โอ้ย อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ ปากมันจะหนักอะไรหนักหนาว่ะเนี่ย ก็พูด ๆ ออกมาสักทีขี้เกียจเก๊กแล้วนะไอ้แบคโฮไอ้คนที่ยืนรอฟังอยู่ก็ลุ้นตัวเกร็งหมดแล้ว ไม่พูดออกมาสักที แต่อารอนก็ไม่ได้พูดออกไป ได้แต่ด่าอยู่ในใจ
“ผมรักพี่”
“ว่าไงนะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ”
“ผมรักพี่ แล้วก็รักมากด้วย”
“ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็ยอมพูดออกมาซะทีนะ” อารอนหัวเราะชอบใจในที่สุดน้องจอมปากแข็งก็พูดออกมาซักที
“วู้ว ยินดีด้วยครับพี่ชาย สำเร็จแล้ว” เสียงจากผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์สามคนแสดงความยินดีกับคนตรงหน้า
“อ๋อ ทั้งหมดนี่พี่แกล้งผมหรอ แล้วเรื่องที่พี่โกรธผมล่ะ” แบคโฮหันไปมองปฏิกิริยาของไอ้คนที่หัวเราะเค้าอยู่และอีกสามคนที่อยู่ตอนนี้ด้วยก็เลยเริ่มจะรู้ตัวซักที
“ฉันไม่ได้โกรธนายเลยสักนิดนะ ฉันก็แค่จะเอาคืนเรื่องเมื่อคืนแค่นั้นแหละ”
“งั้นก็แสดงว่าไอ้สองคนนั่นมันก็ร่วมด้วยสิ” พูดพร้อมกับหันหน้าไปหาสามคนที่ยืนดูอยู่พร้อมกับสายตาอาฆาตและสุดแสนที่จะอำมหิตส่งไปให้
“ป้าววววว ฉันสามคนไม่เกี่ยวเล้ย คนนู้นนนคนเดียวเลย พวกฉันโดนบังคับ จริง ๆ นะ” เมื่อเห็นสายตาของแบคโฮที่ส่งมาสองคนถึงกับขนลุก ก็เลยตอบเสียงสู้งสูง ทำหน้าตาบ้องแบ๊ว แล้วโยนความผิดไปให้อารอนแต่เพียงผู้เดียว
“ฝากไว้ก่อน ทั้งคู่เลย” แบคโฮก็ไม่ได้เชื่อสองคนนั้นหรอก เพราะไอ้พฤติกรรมที่ทำมันน่าให้เชื่อไหม โดยเฉพาะเร็นนี่แหละตัวดี ใครจะเชื่อ ยิ่งทำหน้าแบ๊วยิ่งไม่ใช่อ่ะ
“อย่าไปยุ่งกับสองคนนั้นเลย มาพูดถึงเรื่องของเราดีกว่า เมื่อกี้นายบอกว่ารักฉันใช่ไหม”
“ใช่”
“งั้นฉันก็มีอะไรจะบอกนายเหมือนกันนะ”
“บอกอะไร”
“ฉันรักนายนะ”
แล้วอารอนก็ประทับริมฝีปากบางของตัวเองลงไปบนริมฝีปากหนาของแบคโฮ โดยแบคโฮเองก็ตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งสองบดเบียดริมฝีปากเข้าหากันอย่างนุ่มนวลจนอุ่นได้ที่ อารอนก็ดูดริมฝีปากของแบคโฮเบา ๆ แบคโฮก็ตอบรับกับจูบนั้นของอารอนด้วยการเอาลิ้นสอดใส่เข้าไปกวาดชิมความหวานด้านในของอารอนจนกระทั่งลิ้นของทั้งสองสัมผัสกัน แบคโฮเลื่อนมือของเค้ามากอดที่เอวของอารอนเอาไว้ ส่วนอารอนก็เลื่อนมือของตัวเองขึ้นไปกอดที่คอของแบคโฮเอาไว้เช่นกันเป็นการกระชับร่างกายของคนทั้งคู่ให้แนบชิดกันมากขึ้นไปอีก จากนั้นก็แลกเปลี่ยนความหวานของภายในของกันและกัน สัมผัสที่ลึกซึ้งแต่นุ่มนวล จากนั้นทั้งคู่ก็ปล่อยลิ้นสัมผัสแลกเปลี่ยนไออุ่นซึ่งกันและอย่างอิสระตามความรู้สึกที่พามันไป ด้วยความรักและความอบอุ่นที่มีให้แก่กัน
“อะไรกันเนี่ยสองนี้ ไม่อายเด็ก ๆ สามคนที่อยู่ตรงนี้ก็อาย ๆ คนอื่นในร้านมั่งดิ” เร็นพูดขึ้น
“นั่นสิ หมั่นไส้” เจอาร์และมินฮยอนก็พูดสนับสนุนเร็นอีกเสียงขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“เร็นเรามาทำงั้นมั่งไหม มามะ มามะ จุ๊บ จุ๊บ” ว่าเจอาร์ก็จับหน้าของเร็นเข้ามาทำปากจู๋ แล้วทำท่าจะจูบเร็น ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ไม่เอา เร็นมาทำกับเค้าดีกว่า” มินฮยอนที่อยู่ด้วยถึงกับยอมไม่ได้ที่เจอาร์จะมาจุ๊บเร็นได้เยี่ยงไรต้องเป็นเค้าสิ”
“กับเค้า”
“กับเค้าสิ”
“โอ้ย พอได้แล้วทั้งสองคนเลย หมุนอยู่ได้ปวดหัวไปหมดแล้วเนี่ย” แล้วคนกลางอย่างเร็นก็เริ่มหมดความอดทนบ้าง หมุนไปหมุนมาแย่งกันอยู่ได้
“ขอโทษนะเร็น” เจอาร์ที่พูดเหมือนจะรู้สึกผิด
“เร็นเป็นอะไรมากรึเปล่า” มินฮยอนนี่ก็เช่นกัน
แต่ทั้งสองก็ยังวุ่นวายอยู่กับเร็นไม่เลิก
“โธ่ โว้ย เกิดมาสวยทำไมมันปวดหัวอย่างงี้เนี่ย โอ้ย! ปวดหัว อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดดด” แล้วเร็นก็เดินออกมาด้วยความรำคาญไอ้สองคนนี้ที่กำลังมาพยายามวุ่นวายกับเค้าอยู่ได้
“เร็นไปไหน รอฉันด้วยสิ”
ส่วนไอ้คู่นั้นมันก็จูบกันต่อไป
------------------------------------------
“นูน่าครับนูน่า”
“อะไร ใครนูน่า”
“ก็พี่ไง”
“ใครบอกว่าฉันเป็นนูน่า ฉันพี่ชายนายนะ ห้ามเรียกแบบนี้เข้าไจ้”
“ทำไมล่ะ ครับนูน่า” ทำหน้ากวน ๆ ใส่
“บอกว่าอย่าเรียกแบบนี้ไงเล่า” คุณพี่ควักหันไปกระชากคอเสื้อแบคโฮเข้ามาอย่างแรง
“ก็ผมจะเรียก” อ้าว ไอ้นี่ก็กวนไม่เลิก แล้วตอนนี้หน้าของทั้งสองคนก็อยู่ห่างกันแค่นิดเดียว
“แน่ใจนะ ว่าจะเรียกแบบนี้”
“ครับนูน่า”
“จะไม่หยุดแน่นะ ไหนลองเรียกอีกทีดี๊” ในเมื่อมันอยากกวนนักได้เดี๋ยวได้รู้กัน
“นู.. อุ๊บ O O” ยังไม่คำที่คำว่าน่าจะหลุดออกมาจากปากของแบคโฮ คุณพี่อารอนของเราก็หยุดคำพูดนั้นด้วยปากของเค้าทันที
อารอนคว้าคอของแบคโฮเข้ามา แล้วก็ประกบริมฝากของเค้าไปที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายทันที เพื่อหยุดคำพูดของอีกคน ก่อนที่จะรีบถอนออกมา อย่างอาย ๆ
“นูน่า”
“อะไรไอ้บ้า”
“อ้าวไม่จูบผมอีกหรอครับนูน่า” แบคโฮแกล้งแซวคนที่ตอนนี้หน้าแดงยิ่งกว่าลูกเชอร์รี่ล่ะ
“อย่ามาเยอะนะไอ้บ้า แล้วก็เลิกเรียกฉันว่านูน่าได้แล้ว” อารอนตอนนี้เขินจนหน้าแดงไปหมดแล้ว
“เวลาพี่เขินนี่น่ารักที่สุดเลยรู้ไหม” แบคโฮพูดพร้อมกับกอดคนที่ตอนนี้เขินจนไม่รู้ว่าจะยังไงและ
“เออ รู้”
“ผมขอเรียกพี่ว่านูน่าได้ไหม แค่ผมคนเดียวหน่ะ” แบคโฮกระซิบไปที่ข้างหูของอารอนที่อยู่ในอ้อมกอดของเค้าเบา ๆ
“ได้สิ เพราะฉันก็จะให้นายเรียกแค่คนเดียว” แล้วคนตัวเล็กก็แอบขโมยหอมแก้มคนตัวใหญ่ไปซะหนึ่งที
“ถ้ารู้ว่าบอกรักแล้ว จะเป็นแบบนี้ผมบอกพี่ไปตั้งนานแล้ว”
“จุ๊บ” พูดจบแบคโฮก็จุ๊บไปที่แก้มนุ่ม ๆ ของอารอนไปอีกหนึ่งที แอร้ย
จบแล้วจ้า
อารอน ‘แค่คำว่ารักมันพูดยากนักรึไง กว่าจะพูดออกมาได้แทบแย่’
แบคโฮ ‘คำว่ารักมันก็พูดไม่ยากหรอก แค่การกระทำยังไม่พออีกหรอ’
-------------------------------------------------------------------------------
แม้จะลงมารอบที่ 2 แล้วแต่ก็ยังคิดชื่อเรื่องไม่ได้อยู่ดี ๕๕๕ เอาเป็นว่าชื่อนี้แล้วกันนะคะ
ความคิดเห็น