คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Devil Guy :: My friend (HunTae) EP 3 100%
Devil Guy :: EP 3
My friend
กิจกรรม ณ วันรับน้อง
- เดินทางไปยังเกาะเสม็ด
- เช็คอินเข้าโรงแรมแพลตตินั่ม ระดับ 5 ดาว
- เข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง
- เข้าร่วมฐานนันทนาการ
- เล่นเกมรับน้องสยองขวัญ
- โชว์การแสดง / Dance Party
- เต้นร่ำร่วมกันระหว่างรุ่นพี่-รุ่นน้องรหัส
- เข้าโรงแรม ทำธุระส่วนตัว/นอน
ใบกิจกรรมในวันรับน้องแบบคร่าวๆถูกส่งมายังฉัน ให้ตายสินี่กิจกรรมรับน้องเวรไรเนี่ย รับน้องที่เกาะเสม็ดนี่มันกะจะให้รุ่นน้องกับรุ่นพี่ร้องเพลงร่วมกันหรือไง แบบว่า'มาฟิเจอริ่งกันเบเบ้' อะไรประมาณนั้น ใครเป็นคนคิดการรับน้องเวรเนี่ยบอกกูที
หลังจากวันที่จับฉลากรุ่นพี่รุ่นน้อง ฉันก็ไม่ได้ไปเรียนเลย ไม่ใช่เพราะว่างหรือขี้เกียจหรอกนะ แต่ฉันไม่อยากไปไม่อยากเจอไอ้เด็กหัวสายรุ้งนั่น ฉันจึงหมกตัวอยู่ที่คอนโดมาอาทิตย์นึงแล้ว และตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งอ่านกิจกรรมวันรับน้องกับยัยเพื่อนสาวตัวดีอีก 2 คน
"ซอๆ ไอ้กิจกรรมวันรับน้องบ้าๆเนี่ย เราโดดไม่ไปร่วมได้ปะ?" ฉันถามออกไปอย่างสงสัย และหวังว่าคำตอบมันจะคือได้
"ใช่ๆ เค้าก็ไม่อยากไปเหมือนกันอ่า~" ยัยยุนอาพูดเห็นด้วยพร้อมทำแก้มป่องๆ คิดว่ามันน่ารักมั้ยเนี่ยเหม่งเอ้ย แล้วไอ้สรรพนามเลี่ยนๆพวกนี้เมื่อไรจะเลิกใช้เนี่ยฟังแล้วรู้สึกแหวะจะตาย
"ซอว่าน่าจะต้องไปทุกคนนะคะ ก็อาจารย์บอกว่าใครไม่ไปร่วมอาจารย์จะหักจิตพิสัยด้วยนะคะ" ยัยซอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างปกติ
แต่ตอนนี้ฉันกับยุนอาชักจะไม่ปกติแล้วว ฉันน่ะอาจจะแค่อยากจะบ้าแต่ยัยเหม่งน่ะบ้าไปแล้ว
"อ้ากกกก ไม่นะ เค้าจะไม่ไปรับน้องโดยเด็ดขาดอะ รุ่นน้องหื่นกามนั่นจะทำมิดีมิร้ายเค้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ เค้ายิ่งสวยๆอยู่ แล้วถ้ามันจับเค้าปล้ำขึ้นมาล่ะ ไม่นะ เค้าไม่อยากเสียความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่รักษามาเป็นสิบๆปีให้กับไอ้เด็กดำหน้าตาเหมือนโจรป่า(?)แบบ นั้นอ่าา" ยัยยุนอาโวยวายออกมาพร้อมดิ้นเหมือนคนบ้า ไม่สิมันบ้าอยู่แล้ว เหอะ ถ้ารุ่นน้องที่ว่านั่นได้เห็นยุนอาตอนรั่วนี่คงไม่คิดจะทำอะไรยุนอาแน่ๆเลย ฉันฟันธง เพราะขนาดฉันที่เป็นเพื่อนยัยยุนอามาตั้งแต่เด็กๆยังรับกับนิสัยบ้าๆของมัน ไม่ได้เลย - -! เพื่อนฉันคนนี้นี่เต็มมั้ย?
"ยุนอาคะ ซอว่ายุนอาตั้งสติก่อนนะคะ หายใจเข้าลึกๆค่ะ ออกซิเจนจะได้ไปเลี้ยงสมองเยอะๆ - -" ยัยซอพูดขึ้นมาด้วยสีหน้านิ่งๆ
"นั่นดิ ฉันว่าแกตั้งสติหน่อยเหอะ ฉันว่าไอ้เด็กหื่นนั่นมันคงไม่คิดจะทำอะไรแกหรอกมั้ง" ฉันพูดพร้อมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
"มัน ไม่คิดแต่มันทำเลยน่ะสิ อ้ากกกก ยังไงเค้าก็ไม่ยอมเสียตัวให้กับไอ้เด็กนั่นเด็ดขาด นางฟ้าอย่างเค้าก็ต้องคู่กับเจ้าชายสิจะไปคู่กับหมาไนอย่างเด็กนั่นได้ยัง ไง" ยัยยุนอายังคงไม่ได้สติ แถมยังมีอาการฟลุ้งคลั่ง เหมือนคนบ้า เออจะไม่เหมือนได้ไงล่ะเนอะ ในเมื่อยัยยุนอามันบ้า นี่ฉันคิดอะไรเนี่ย คนบ้ามันก็ต้องมีอาการบ้าๆเป็นธรรมดา ="=
"ยุนแกช่วยตั้งสตินิดนึงนะ เออ ซอดูแลยัยยุนหน่อยนะ อย่าให้มันอาละวาดจนห้องพัง ฉันขอตัวก่อน ง่วงนอนมาก" พอฉันพูดกับซอฮยอนจบแล้วฉันก็เดินตรงดิ่งไปยังห้องนอนทันที ฉันเปิดประตูเข้าไป แล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสีขาว ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป
'ป๊าป ป๊าป '
'เด็กเวร แกเกิดมาเพื่อขัดความสุขฉัน แกมันไอเด็กนรก เกิดมาทำไม ทำไมไม่ตายไปซะ !'
เสียงกระทบของไม้เรียวกับเนื้อของเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ร่างกายของเด็กผู้โชคร้ายเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำร้ายโดยปราศจากความปรานีจากผู้ที่ได้ชื่อว่า 'แม่' เด็กหญิงผู้น่าสงสารทำได้เพียงอดทนกับการถูกทำร้ายและกลั้นน้ำตาไว้เท่านั้น
"กริ๊ดดดด ไม่นะ ไม่ ! " ฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนก่อนจะกรีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความรู้สึกผวา ฉันฝันถึงผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว ผู้หญิงที่เกลียดฉัน ผู้หญิงที่อยากให้ฉันตายๆไปซะตั้งแต่ฉันยังไม่ได้ลืมตาดูโลก ผู้หญิงที่ทำให้ฉันเป็นคนแบบนี้ ผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นว่าฉันเป็นลูก ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า'แม่' แม่แท้ๆของฉัน
"แทยอน แทยอน เกิดอะไรขึ้น?" เสียงหวานดึงฉันจากฝันร้าย ยุนอาเขย่าตัวฉันเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความห่วง
"เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ฝันร้ายเหมือนเดิมน่ะ" ฉันตอบออกไปอย่างปัดๆเพราะไม่อยากให้ยุนอากังวล
"ฝัน ถึงผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วใช่มั้ย เฮ้อ... เมื่อไรจะเลิกฝันถึงอดีตบ้าๆแบบนั้นสักที เรื่องนั้นมันก็ผ่านมาเป็นสิบๆปีแล้วนะ ตัวควรจะลืมนังแม่มดใจร้ายนั่นได้แล้ว" ยุนอาพูดพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย ใช่ มันผ่านมานานเป็นสิบๆปีแล้วสินะ แต่ทำไมฉันยังจำมันได้ดีเหมือนเรื่องราวทั้งหมดมันเพิ่งเกิดขึ้นมาเมื่อวาน ก็แค่แม่ไม่รัก ไม่สิ ก็แค่แม่เกลียดฉันตั้งแต่ยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก ก็แค่นั้นมันเจ็บปวดตรงไหน
"นั่นสินะ เรื่องนั้นมันก็ผ่านมานานแล้วแต่ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นกันนะ ฮึก " ฉันพูดออกไปตามความรู้สึกทั้งน้ำตา
"ไม่ เป็นไรนะ เค้ายังอยู่ข้างๆตัวเสมอ ตัวไม่ต้องร้องไห้นะ ไม่เอา ไม่เอา ตัวร้องไห้แล้วไม่สวยเลยนะ ตัวต้องยิ้มสิ " ยุนอาค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ฉัน แล้วค่อยๆเข้ามาโผกอดฉันอย่างเบาๆ
"อะ อื้ม ฉันไม่เป็นไรหรอก อีกไม่นานฉันก็จะลืมอดีตพวกนั้นได้แล้ว นอนกันเหอะ มันก็เป็นเพียงแค่อดีตที่ไม่น่าจดจำ ตอนนี้ฉันก็มีความสุขดีแกก็เห็น" ฉันพูดพร้อมปาดน้ำตาก่อนจะค่อยๆล้มตัวลงนอน ยัยยุนอาจึงล้มตัวลงนอนตามฉันไป
"อืม เค้าเข้าใจแล้วล่ะ นอนเถอะนะ แล้วตัวก็ห้ามร้องไห้นะ ถ้าตัวร้องไห้เสียงดังเดี๋ยวคนอื่นก็ตื่นขึ้นมา ปลอบตัวอีก ตัวไม่ชอบไม่ใช่หรอ ตัวไม่ชอบให้คนอื่นมองว่าตัวอ่อนแอ ดังนั้นตัวต้องเข้มแข็งนะ" ยุนอากระซิบข้างหูฉันเบาๆ
อีกไม่นานฉันต้องลืมอดีตนั่นได้แน่ ซักวันฉันจะกลายเป็นคนเข้มแข็งเหมือนแก ยุนอา ฉันจะไม่อ่อนแอแล้ว อีกไม่นาน....
ฉันได้แต่คิดในใจคนเดียว แล้วหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง....
"เค้าหวังว่าตัวจะมีความสุขดีอย่างที่พูดจริงๆนะ" ยุนอาได้แต่คิดในใจ
"ฮ้าวว~" ฉันอ้าปากหวอก่อนจะหาวออกมาอย่างง่วงๆ ก็เมื่อคืนยัยทิฟฟานี่ดันชวนเล่น(?)ด้วยกันทั้งคืนน่ะสิ กว่าจะได้นอนก็ปาไปเที่ยงคืนแล้ว ง่วงจะตายชัก ถ้าไม่ติดว่าวันนี้มีสอบและฉันโดดเรียนมาหลายวันแล้วฉันคงไม่แบกสังขารมาเรียนหรอก
เมื่อไรคาบนี้จะจบนะ อาจารย์ก็สอนอะไรไม่รู้ น่าเบื่อชะมัด --! สอนแต่เรื่องง่ายๆแบบนี้ จะสอนทำไมวะ ของแบบนี้หลับตาทำยังทำได้เลย
"ฟานี่อีกกี่นาทีวะ?" ฉันหันไปถามยัยทิฟฟานี่ต้นตอที่ทำให้ฉันง่วงนอนอย่างนี้
"อีกประมาณ 5 นาที ถามทำไม แกจะรีบไปส่องผู้ชายกับยัยยูริหรือไง?" ทิฟฟานี่ถามอย่างหงุดหงิด
"เปล่าหรอก ฉันก็แค่ขี้เกียจเรียน สอนแต่เรื่องง่ายๆ แม่งน่าเบื่อว่ะ" ฉันพูดพร้อมสบถออกไป
"ก็ดี อย่าให้ฉันรู้ว่าแกจะไปนั่งส่องผู้ชายกับยัยยูริล่ะกัน" ยัยทิฟฟานี่พูดพลางคลี่ยิ้ม
"เออๆ บอกว่าไม่ ก็ไม่สิ นี่เพื่อนหรือแม่วะ หวงกูจัง" ฉันพูดพร้อมขยี้ผมอย่างเซ็งๆ
"เหอะ เป็นแม่หรือเป็นเมียกันแน่" เสียงยัยยูริพูดขึ้นพร้อมทำสีหน้ากวนบาทาใส่ฉัน
"หยุดเลยยู มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้ชอบเพศเดียวกัน กูไม่ชอบเล่นดนตรีไทยชัดมั้ย?" ฉันพูดออกไปอย่างไม่พอใจ ถึงฉันจะชอบทำร้ายพวกผู้ชาย ด้วยคำพูดทำร้ายจิตใจมันก็ไม่ได้แปลว่าฉันชอบเพศเดียวกันจบนะ
"เออ ใช่หยุดพูดอะไรแบบนี้เหอะยู ฉันขนลุกหมดแล้ว" ยัยทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
"เออ ขอให้มันจริงเหอะว่ะ ถ้ากูเห็นมึงสอนคนรักกันเกินเพื่อนเมื่อไหร่นะ กูเลิกคบพวกมึงแน่" ยูริยังคงพูดออกมา โดยไม่ได้ดูหน้าฉันเลยว่าฉันสนุกกับคำพูดหมาๆของมันหรือเปล่า
"นี่ยู ถ้ามึงไม่หยุด วันนี้มึงคงจะได้กินตีนกูเป็นอาหารแทนข้าวและ" ฉันพูดออกไปด้วยความหงุดหงิด
"กูล้อเล่นครัสแหม่ กูพูดเล่นนิดๆหน่อยๆนี่มันไม่ได้เลยใช่ไหม อะไรๆก็จะใช้กำลังกับกูตลอด กูยิ่งเป็นผู้หญิงเปราะบางและอ่อนแออยู่ " ยัยยูริพูดพลางทำหน้าน่าสงสาร ฉันก็คงจะสงสารหรอก ถ้าไอ้คนที่ทำอาการแบบนี้ไม่ใช่ยูริ
"มึงเลิกทำหน้ากระแดะๆแบบนั้นเลย กูเห็นแล้วจะอ้วก เก็บมารยาไว้ใช้กับผู้ชายในแคตตาล็อกมึงเหอะ ไอมารยาร้อยเล่มเกวียนของมึงอะ ใช้กับกูไม่ได้ผลหรอก ดังนั้นเลิกทำหน้าแบบนี้ได้แล้วนะ" ฉันพูดพร้อมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างที่ชอบทำ
"เออๆ กูไม่ทำก็ได้วะ กูว่ากูฝึกวิชาทำหน้าสะตอได้เนียนแล้วนะ เบื่อว่ะพวกรู้ทันมารยากูเนี่ย รู้ทันมารยากูกูไม่ว่า นี่มึงยังมาด่ากูอีก กูงอนมึงแล้วT^T" ยูริบ่นพลางขมวดคิ้วแล้วเบะปาก นี่มันงอนฉันอยู่สินะ
"ยูริ..." ฉันเรียกยูริเบาๆ ยูริค่อยๆหันหน้ามาหาฉันช้า
"มึงเป็นอะไรเนี่ย ปากนี่จะเบะทำเหี้ยไร ทำแล้วน่ารักตายห่าแหละ เมนส์มึงมาป่ะวะ?" ฉันถามพลางยกคิ้วขึ้นสูง
"โถ อีเหี้ยกูนึกว่ามึงจะมาง้อกู ที่ไหนได้มึงกับมาด่ากูซะงั้น กูทำผิดเหี้ยไรยัง?" ยูริพูดพร้อมเชิดหน้าใส่ฉัน นี่มันงอนฉันจริงๆใช่มั้ย
"มึงผิดตั้งแต่เกิดมาเป็นเพื่อนกูแล้ว" ฉันพูดสั้นๆตามประสาคนปากหมา
"...." ยัยยูริเงียบไปไม่เถียงอะไรกลับเลย มีเพียงสีหน้าเศร้าเท่านั้น ตอนนี้ยูริคงจะรู้สึกแย่น่าดูสินะ เฮ้อ นี่ฉันพูดแรงไปหรือป่าวเนี่ย ยัยยูริต้องรู้สึกเสียใจแน่ๆเลย ความรู้สึกผิดเริ่มก่อเกิดในใจของฉันเล็กน้อย
"เออ ก็ใช่สิกูมันผิดตั้งแต่เข้ามาในชีวิตมึงแล้ว ใครจะไปเหมือนยัยทิฟฟานี่ เมียมึงอะ ทำอะไรมึงก็เห็นด้วยทุกอย่าง ใช่สิกูก็แค่เพื่อนความสำคัญก็คงไม่เท่าเมีย" ยูริพูดพร้อมรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้ามันอีกครั้ง สิ้นเสียงของยัยยูริความรู้สึกผิดที่ฉันมีก็หายไปทันที ถ้ามีปัญญามากัดฉันต่อได้ ก็แสดงว่ายัยยูริไม่ได้โกธรหรืองอนอะไรหรอก
"ยูรินี่มึงยังไม่จบใช่มั้ย มึงหยุดได้แล้ว กูบอกไม่ชอบก็ไม่ชอบดิ กูกับฟานี่เป็นแค่เพื่อนกัน ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น พอใจมั้ย?" ฉันพูดออกไปด้วยความหงุดหงิดเล็กๆ คือยูริมันจะพูดจนกว่าฉันจะยอมรับรึไง ว่าฉันชอบทิฟฟานี่ คือถ้าจะให้พูดก็พูดได้ แต่ที่ไม่พูดเพราะไม่อยากโกหก ฉันไม่ได้ชอบทิฟฟานี่ ฉันยอมรับว่าฉันค่อนข้างจะห้าวนิดๆและชอบจิกกัดผู้ชาย แต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนผู้หญิงมากไปกว่าคำว่า'เพื่อน'หรอกนะ
"เออๆ กูเชื่อก็ได้วะ ความจริงกูก็รู้อยู่แล้วว่าคนอย่างมึงไม่ชอบเพศเดียวกันหรอก แต่ไอ้คนที่นั่งข้างๆมึงนี่ก็ไม่แน่นะ นั่งเงียบไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ ไม่เถียง ไม่ด่า ไม่ปฏิเสธ จริงมั้ยทิฟฟานี่" ยูริพูดพลางยกมุมปากขึ้น มันก็จริงอย่างที่ยูริพูดนั่นแหละ ฟานี่ไม่ได้ปริปากพูด ไม่ได้เถียง ไม่ได้ทำอะไรใดๆทั้งสิ้น ได้แต่นั่งนิ่งๆฟังฉันกับยัยยูริเถียงกันแบบเงียบๆเท่านั้น
'กริ๊งงงงงงงงงงง' เสียงออดบอกเวลาหมดคาบเรียนดังขึ้น ออดห่าจะมาดังอะไรตอนนี้วะ
"อย่างที่แทยอนพูดนั่นแหละ ฉันกับแทยอนเราเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันก็ไม่ได้ชอบยัยแทเหมือนกัน ฉันก็แค่ขี้เกียจเถียงอะไรก็เท่านั้น" ยัยทิฟฟานี่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ พร้อมทำสีหน้านิ่งๆเหมือนยัยซอ แปลก แปลกมาก ปกติยัยทิฟฟานี่เป็นคนอารมณ์ดี เวลาอยู่ด้วยกันทิฟฟานี่ก็มักจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา แทบจะไม่หุบยิ้มเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมวันนี้ยัยทิฟถึงได้ทำสีหน้าเย็นชาแบบนี้
"เหอะ ปากแข็งเข้าไป อย่ารู้นะว่าแกชอบแทมันอะ งั้นกูไปก่อนนะ กูจะไปเล่นของเล่นสะหน่อย แล้วไว้เจอกันที่คอนโด" ยัยยูริพูดแล้วลุกออกจากที่นั่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ส่วนยัยทิฟฟานี่ก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของใส่ถุงเคียงเงียบๆ ฉันจึงได้แต่เก็บหนังสือใส่กระเป๋าอย่างเงียบๆ โดยไม่ได้ถามเรื่องที่สงสัยออกไป
'ทิฟฟานี่ แกชอบฉันจริงๆป่าววะ?' ฉันได้แต่เพียงเก็บข้อสงสัยที่มีเอาไว้ในใจเท่านั้น...
"ฟานี่ แกเป็นอะไรหรือป่าววะ" ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย
"เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" ยัยทิฟฟานี่พูดเบาๆพลางจดสรุปที่อาจารย์สอนวันนี้ ซึ่งฉันไม่ได้จด อย่าถามว่าทำไม ก็เพราะฉันสวย เริ่ด เชิ่ด เก่ง ฉลาด ไม่ต้องจดสรุปก็เรียนเข้าใจ ใช่เวลาเล่นมั้ยเนี่ย
"แล้วทำไมแก...."
"ถ้าเป็นเรื่องที่ฉันเงียบๆ หงอยๆ ทำสีหน้านิ่งๆล่ะก็นะ เหตุผลมันก็ไม่มีอะไรมาก ฉันแค่เหนื่อย ช่วงนี้มีเรียนหนัก กลับไปฉันก็ต้องนั่งสรุปเนื้อหาทุกวันเลย อีกอย่างวิชานี้ฉันไม่ได้ถนัดอยู่แล้ว ฉันเลยรำคาญพวกแก 2 คนที่เถียงกันจนฉันเรียนไม่รู้เรื่องก็เท่านั้น" ทิฟฟานี่พูดแทรกขึ้นมาทั้งๆที่ฉันยังพูดไม่จบ เฮ้อ ก็อย่างว่าแหละ แค่มองตามันก็รู้ใจฉันหมดทุกเรื่องแล้ว ก็เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันนี่นา
เฮ้อ เรื่องที่ฉันสงสัยมันคงไม่ใช่เรื่องจริงหรอก ฉันคงจะคิดมากไปสินะ....
ความคิดเห็น