ตอนที่ 4 : 💔 PHILOPHOBIA {02} หัวใจมยองซู
2
.
.
หัวใจมยองซู
“ผมไม่ว่าง”
(มาเถอะนะ วันนี้แข่งนัดสำคัญด้วย)
“ก็บอกว่าไม่ว่างไง”
(แปปเดียวก็ไม่ได้เลยหรอ?) ผมกรอกตามองบนใส่ปลายสายที่เร้าหรืออยากให้ผมไปซะเหลือเกิน ในเมื่อวอแวมาขนาดนี้แล้วผมจะไปทำอะไรได้
“แข่งกี่โมง”
(บ่ายสามครับ)
“อืม เดี๋ยวไป”
(พูดจริงนะ?)
“อื้อ”
(งั้นเดี๋ยวใกล้ถึงเวลาแล้วพี่ไปรับที่หน้าโรงเรียนนะ) ผมตอบรับเสียงอ่อยก่อนจะกดปุ่มสีแดงวางสายอย่างรำคาญใจเต็มทน พลางฟุบหน้าลงบนโต๊ะอ่านหนังสือในห้องสมุด โดยไม่สนใจสายตาของใครทั้งนั้น
“แฟนโทรมาชวนไปเที่ยวทั้งที มันต้องดีใจไม่ใช่หรอวะ?”
“เที่ยวบ้านป้ามึงสิ”ผมแหวใส่เพื่อนรักไปหนึ่งที โทษฐานพูดจาไม่เข้าท่า พาลให้ผมหงุดหงิดหนักกว่าเดิม
“เอ้า ถ้างั้นพี่เขาโทรมาทำไม?”
“ชวนไปดูแข่งมอไซค์บ้าบออะไรก็ไม่รู้ แม่ง!” ซองยอลตบบ่าผมเบาๆหนึ่งทีเป็นสัญญาณให้เบาเสียงลงก่อนที่บรรดาเด็กเนิร์ดทั้งหลายทั้งแหล่จะเข้ามาเขมือบหัวเพราะไปทำเขาเสียสมาธิอ่านหนังสือ -_-
“แล้วมึงไปตกลงทำหอกอะไร”
“...” เป็นคำถามที่ผมเองก็ไม่มีความกล้าที่จะตอบสักนิด ใจนึงก็ไม่อยากไป ไม่อยากไปเหยียบที่นั่นอีกเพราะแค่นึกถึง ใบหน้าสองคนที่ยืนเกาะแขนกันก็ลอยมาทักทายก่อนใครเพื่อนแล้ว แต่อีกใจก็...
โครตอยากเจอ...
“เฮ้อ มึงนี่นะ”
---------------------------The philophobia-------------------------------
“ไหนวะ!”หลังจากออกมายืนรอที่ป้ายรอรถเมล์หน้าโรงเรียนจนเกือบชั่วโมง ก็ยังไม่เห็นวี่แววคนที่อาสาว่าจะมารับสักที บ่ายสามนะเว้ยไม่ใช่หกโมงเย็นที่จะแดดล่มลมตก แดดร้อนระอุขนาดนี้ ใจคอจะให้รอไปถึงไหน? ในเมื่อความหงุดหงิดมาเยือนอีกครั้ง ผมเลยควักโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงออกมากดพิมพ์รัวๆส่งไปหาตัวต้นเหตุ
[ มยองซู ] ทำไมยังไม่มาสักที?
[ พี่โฮวอน ] ถึงแล้ว
[ พี่โฮวอน ] หันหลังมา
ผมทำตามแบบที่ในข้อความบอกอย่างไม่ลังเล แต่คนที่ยืนอยู่กลับไม่ใช่คนในข้อความ กลายเป็นคนที่ผมทั้งอยากและไม่อยากเจอมากที่สุด
“พี่กยู” ผมเผลอเรียกชื่อคนที่อยู่ตรงข้ามอีกฝั่งของถนนในลำคอเบาๆ เขายืนพิงบิ๊กไบค์สีดำด้านคู่ใจ แขนข้างนึงกอดหมวกกันน็อคสีเดียวกันไว้ข้างเอว ตาเรียวมองมาที่ผมนิ่ง ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรที่บ่งบอกว่ามาหา หรือ รู้จักกัน
ลมจากรถราที่ขับสวนกันบนท้องถนน พัดวูบปะทะร่างกายผมเป็นระยะๆ ตัวผมหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหน มือที่ถือโทรศัพท์เมื่อครู่ก็ยังยกขึ้นค้างอยู่แบบนั้น ภายในดวงตาคมของผมที่โฟกัสผู้ชายคนนั้นกำลังมีน้ำใสๆคลอออกมา แต่เสียงโทรศัพท์มือถือในมือดันสั่นเรียกขัดจังหวะซะก่อน
[ พี่โฮวอน ] รอตรงนั้นนะ
ใช้เวลาไม่นานพี่กยูก็ขับรถยูเทิร์นกลับมาจอดด้านหน้าผมอย่างว่องไว ผมเองก็ยังไม่ได้ขยับตัวออกจากจุดเดิมไปแม้แต่ก้าวเดียว เขาจัดการถอดหมวกกันน็อคออกอย่างทะมัดทะแมง แล้วยกมือเรียวสวยขึ้นยีผมให้พอเป็นทรง ก่อนจะหันหน้ามามองที่ผม...
“ขึ้นรถสิ”
“พี่โฮวอนไปไหน?” ผมรวบรวมสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง แล้วยิงคำถามถามถึงอีกคนเสียงห้วนพร้อมขมวดคิ้วแน่น จ้องไปที่คนข้างหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ ต่างจากเขาที่ทำเพียงยิ้มมุมปากเบาๆแล้วตอบกลับมานิ่งๆเหมือนพวกผู้ใหญ่ใจเย็น
“มันต้องวอมแล้วก็เช็คเครื่องก่อนแข่ง เลยให้ฉันมารับแทน”
“ผมไม่ไป!” ผมตะคอกใส่เขาเสียงแข็ง ก่อนจะหันหลังกดโทรศัพท์หาเพื่อนรักเพื่อขอความช่วยเหลือ พี่ซองกยูเลยจอดรถแล้วยืนพิงมอไซค์คันเดิมอย่างสบายอารมณ์
“ซองยอล”
(ฮะ?ว่าไง)
“เอารถมาให้กูหน่อย”
(เอ้า แล้วกูจะกลับหอยังไงอะ)
“ไปกับกูนี่ไง กูก็จะกลับด้วย”น้ำเสียงร้อนรนจนเกือบจะสั่นเครือที่ตัวเองฟังยังดูน่าสมเพช เริ่มใส่อารมณ์มากขึ้นเมื่ออีซองยอลยังคงลีลา ถามซอกแซกไม่รู้จบ
(กูทำแล็บอยู่)
“ก็ออกมาแปปนึงไม่ได้หรือไง!”
(มึงใจเย็นๆก่อน ไหนมีเรื่องอะไรเล่ามาดิ้)
“พี่โฮวอนให้พี่ซองกยูมารับกู ได้ยินแบบนี้แล้วกูควรจะใจเย็นอยู่อีกมั้ยซองยอล?”
(กูรู้นะว่ามันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับมึง แต่ตอนนี้กูทำแล็บอยู่ ออกไปไม่ได้จริงๆ ขอโทษนะมึง) พูดจบก็ตัดสายฉับไม่เว้นว่างรอให้ผมแย้งอะไรทั้งสิ้น ผมเลยหัวเสีย คิดอะไรไม่ออกนอกซะจากเดินออกไปให้พ้นจากตรงนี้ โดยที่ยังไม่ทันจะได้ก้าวเท้า ข้อมือตัวเองก็ถูกมือเรียวของคนข้างหลังดึงเอาไว้ก่อน ผมเลยหันขวับแล้วสะบัดข้อมือตัวเองออกแทบจะทันที
“ฉันบอกให้ขึ้นรถ”
“อย่ายุ่ง”
“มันเสียเวลา!”
“ก็ไม่ได้ขอให้มาเสียเวลาป่ะ?”พี่ซองกยูอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆที่มุมปากอีกครั้ง คราวนี้เขาโน้มตัวลงต่ำ ขยับหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดเสียงเบาจนแทบจะเหมือนกระซิบ พร้อมเน้นสองคำในประโยคอย่างจงใจยั่วโมโห
“ก็แค่แฟนเก่า จะกลัวอะไรนักหนา?”
“ไม่ได้กลัว!”
“ไม่กลัวก็ขึ้นรถ”พี่ซองกยูยกยิ้มชอบใจ พลางยักคิ้วข้างนึงใส่ผมอย่างคนเหนือกว่า ก่อนจะเดินนำกลับไปที่รถโดยไม่ได้รอหรือหันมามองว่าผมจะตามไปด้วยมั้ย
ผมเม้มปากตัวเองแน่นพลางใช้ความคิด จนแล้วจนรอดเมื่อไม่มีทางเลือก ผมเลยต้องจำยอมไปกับเขาแต่โดยดี ร่างสูงยื่นหมวกกันน็อคราคาแพงอีกอันให้ผมโดยไม่ได้หันมามองหน้า ทันทีที่หมวกใบนั้นถูกส่งมาถึงผม มือเจ้ากรรมดันซนเกินหน้าที่ พลิกหมวกเปิดดูขอบด้านในที่เป็นหนังแท้สีดำ ที่ๆผมจำได้ดีว่ามีอะไรอยู่ตรงนี้
...ว่างเปล่า...
เกลียดตัวเองชะมัด นี่หวังอะไรอยู่ นานขนาดนั้นแล้วมันจะยังมีอยู่ได้ไงของแบบนั้น ผมถอนหายใจหนักๆก่อนจะยกหมวกขึ้นสวมแล้วก้าวขึ้นรถอย่างคล่องแคล่ว
รถคันใหญ่ออกแล่นบนถนนด้วยความเร็วที่ค่อนข้างต่ำ ผิดกับรูปลักษณ์ที่ควรจะวิ่งฉิวด้วยความเร็วสูงซะมากกว่า เหมือนกับผมที่ตอนนี้เหมือนโลกกำลังหยุดหมุน เพราะจุดโฟกัสเดียวในระดับสายตาตอนนี้ คือ แผ่นหลังกว้างของคนร่างสูง ที่ผมไม่มีสิทธิแม้กระทั่งจะมองด้วยซ้ำ
แมะ
แมะ
เสียงหยดน้ำจากดวงตาคมทั้งสองข้างไหลกระทบกระจกหมวกกันน็อคเป็นระยะ ผมเม้มปากกลั้นเสียงสะอื้นเพื่อกันไม่ให้เขาได้ยิน ตาคู่เดิมทำได้เพียงเพ่งพินิจเขาจากด้านหลัง มองให้สมใจอยากอย่างไม่กลัวเจ็บเลยสักนิด
เขายังเหมือนเดิม...
มองยังไงเขาก็เหมือนเดิม...
ผมก็ยังเหมือนเดิม
ยังรักเขาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน...
แต่ในความรักของผม บังเอิญว่ามันมีความเกลียดชังมากกว่า บังเอิญว่าสิ่งเลวๆที่เขาทำไว้ มันยังฝังแน่นในใจผมไม่มีวันลืม และบังเอิญว่าผมสาบานกับตัวเองไว้แล้ว ว่าไม่ว่าให้ตายยังไงผมก็จะไม่มีวันให้หัวใจกับเขาซ้ำรอบสองอีกเด็ดขาด
มือบางของตัวเองเปิดกระจกหมวกแล้วเช็ดน้ำตาแรงๆเตือนสติให้ตัวเองกลับมาอยู่กับความจริงสักที พอดีกับที่รถมอไซค์คันใหญ่เลี้ยวเข้าไปจอดในที่จอดของสนามแข่งพอดิบพอดี
“พี่กยู~ ทำไมไปนานจังเลยฮะ ผมห่วงแทบแย่ L” ยังไม่ทันที่รถจะได้จอดดี ผู้ชายหน้าตาน่ารักคนเดิมก็วิ่งโล่มากอดแขนพี่ซองกยูแน่น ก่อนจะถูไถลากกันหายไปทั้งคู่ ทิ้งไว้เพียงผมกับหมวกกันน็อคใบเดิม
ผมถอดหมวกที่ใส่อยู่แล้ววางไว้กับเบาะรถ ก่อนเตรียมจะหยิบโทรศัพท์โทรหาเป้าหมาย พลันสายตาดันไปสะดุดที่หมวกที่เขาใส่เมื่อกี้ ตรงจุดที่ผมหาในใบนั้นแล้วไม่เจอ เพราะจริงๆแล้วมันอยู่ที่ใบนี้ต่างหาก สิ่งที่ถูกสลักไว้ตรงนั้นเหมือนเมื่อสองปีที่แล้ว
Sunggyu.
หัวใจมยองซู.
---------------------------The philophobia-------------------------------
-สองปีที่แล้ว-
-14.07-
“เกิดอะไรขึ้น! ทำไมเนื้อตัวมีแต่แผลแบบนี้” ร่างสูงเปิดประตูรับคนตัวเล็กกว่าก่อนจะเปิดปากเอ็ดตะโรใส่ โทษฐานไม่ดูแลตัวเอง เพราะสภาพที่เห็นตอนนี้ คือทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่รอยฟกช้ำ แล้วไหนจะแผลที่หางคิ้วที่มีเลือดซึมๆนั่นอีก เลยเป็นสาเหตุให้เขาเลือดขึ้นหน้าอยู่ตอนนี้
“รถล้ม”คนตัวเล็กตอบเสียงอ่อย พลางหลบตาลงต่ำด้วยใบหน้าหงอยๆ พาลให้อีกคนใจอ่อนทุกที
“ก็บอกแล้วว่าให้พี่ไปส่งๆ เพื่อนเรายังขับรถไม่แข็ง มยองก็รู้”
“...”
“แล้วคิ้วแตกมาเนี่ย ไม่ได้ใส่หมวกกันน็อคใช่มั้ย?”
“เพื่อนเค้ามีหมวกใบเดียว”
“หมวกที่พี่ซื้อให้ล่ะ?”
“เค้าไม่ชอบ”
“ไม่ชอบ? เหตุผลแค่นี้เองหรอ? ฟังไม่ขึ้นว่ะ!” พูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าห้องปึงปังด้วยอารมณ์ที่กำลังเดือดสุดๆ คนตัวเล็กเห็นท่าไม่ดี เลยค่อยๆเดินกะเผลกๆตามเข้าไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น
“เค้าขอโทษ”
“เรื่อง?”
“ทุกเรื่องอะ”
“แค่นี้ยังตอบไม่ได้เลย”
“ก็...ทุกเรื่องอะ ขอโทษที่เค้าไม่ให้พี่กยูไปส่ง ขอโทษที่เค้าไม่ยอมใส่หมวกจนทำให้ตัวเองเจ็บตัว ขอโทษ...ที่ไม่เชื่อฟัง”
“แค่ดูแลตัวเองแค่นี้มันยากตรงไหนอะ ทีหลังไม่ชอบก็บอกดิ จะได้ซื้อให้ใหม่ ก็รู้อยู่ว่าพี่ให้เราได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
“ไม่ได้ไม่ชอบเพราะมันไม่สวย พี่กยูรู้ใจเค้าดีกว่าใคร ซื้ออะไรมาเค้าก็กว่าสวยหมดอะ แต่ที่บอกว่าไม่ชอบ คือเค้าไม่ชอบจริงๆ ไม่ชอบทั้งหมวกทั้งรถนั่นแหละ L”
“ทำไมถึงไม่ชอบขนาดนั้น”ซองกยูปรับเสียงต่ำลง บังคับตัวเองให้ใจเย็นลง เพราะเขาไม่เคยไม่ใจอ่อนเลยสักครั้งกับคนๆนี้
“เค้าแค่ไม่อยากให้พี่กยูขับบิ๊กไบค์”
“ฮะ?”ซองกยูถามซ้ำอีกครั้ง เพราะยังไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะบอก
“มันอันตราย”คนตัวเล็กก้มหน้าลงต่ำ น้ำตาคลอรื้นอยู่ที่ขอบตากลมโตแล้วเบะปากเบาๆเหมือนเด็กน้อยขี้แย เสียงที่เบาอยู่แล้วยิ่งลดระดับลงไปใหญ่เมื่อเริ่มสะอึกสะอื้นอย่างกลั้นไม่อยู่
“...”
“เค้ากลัว...พี่กยูเป็นอะไรไป”
“...”ซองกยูเขยิบเข้ามานั่งข้างๆทันทีที่เห็นมยองซูเริ่มปล่อยโฮ พอพูดเรื่องนี้ทีไรเป็นต้องขี้แยแบบนี้ทุกที ซองกยูอ้อมแขนโอบไหล่ แล้วดันหัวมยองซูเบาๆให้เอนมาซบไหล่แกร่งของเขา
“พี่กยูชอบขับรถเร็ว ชอบใจร้อน”
“...”
“เค้านั่งห่วงพี่กยูทุกวันเลยนะว่าเมื่อไรจะกลับ จะปลอดภัยมั้ย ฮึก จะเกิดอุบัติเหตุอะไรมั้ย พี่กยูจะเป็นอะไรหรือเปล่า สารพัดอย่างที่เค้าจะนึกได้อ่ะ” เด็กน้อยยังคงพูดไปสะอึกสะอื้นไปในอ้อมแขนของซองกยู มยองซูจะกลายเป็นคนที่อ่อนไหวมาก ถ้าเป็นเรื่องของซองกยู และแน่นอนว่าซองกยูรู้ดีกว่าใครๆ ว่ามยองซูรักเขาแค่ไหน เพราะเขาเองก็รักมยองซูมากไม่แพ้กัน “แล้วดูดิยังจะซื้อหมวกมาให้เค้าอีก ฮึก รู้ทั้งรู้ว่าเค้ากลัวความเร็ว เค้าไม่ชอบบิ๊กไบค์อ่ะ”
“ที่ซื้อมา เพราะอยากให้แฟนซ้อนไง”ซองกยูตอบเสียงนุ่มและเบาลง ช่วยให้อีกฝ่ายใจเย็นลงได้
“...”
“หรือจะให้เอาคนอื่นมาซ้อนล่ะ หือ?”มยองซูทำหน้ามู่ทู่ใส่ทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นนั่งปั้นปึงกอดอกเหมือนเด็กๆ ซองกยูหัวเราะในลำคออย่างชอบใจท่าทางของคนน่ารักข้างๆ แล้วขยับตัวเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อยที่เพิ่งหยุดร้องไห้แต่ไม่ยอมเช็ดน้ำตาสักที “อีกอย่าง ที่ให้ใส่ ก็เพื่อตัวเราเองนะ เกิดเป็นอะไรหนักกว่าวันนี้ พี่จะทำไง?”
“._.”
“คิดว่ากลัวอยู่คนเดียวหรือไง?”
“._.”
“พี่ก็กลัวเหมือนกันนะเว้ย”
“พี่กยู”มยองซูกอดแขนแล้วเอาหัวซบที่ไหล่กว้างของอีกคนเบาๆพลางเอาแก้มกลมถูไถออดอ้อนไม่ให้ซองกยูทำหน้าเศร้ากว่านี้ ซองกยูเห็นแบบนั้นเลยใจอ่อน ถอนหายใจหนักๆก่อนจะจับสองมือของมยองซูขึ้นมากำไว้ระดับอกแล้วจ้องไปที่ตากลมของอีกคน
“ฟังพี่นะ”
“อื้อ”
“พี่สัญญาว่าไม่ว่าเมื่อไรก็ตามที่มีมยองซูอยู่ด้วย พี่จะไม่ขับเร็วและจะไม่มีวันปล่อยให้มยองซูเป็นอะไรเด็ดขาด”
“L”
“เพราะงั้นเราก็ไว้ใจพี่ได้แล้ว มันไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด”
“สัญญาแล้วนะ”
“ครับผม”
“ฮึก”
“ทีนี้ยอมให้พี่ไปส่งแล้วใช่มั้ย”
“ฮับ”เด็กน้อยตอบรับเสียงอู้อี้อย่างน่ารักน่าเอ็นดูทำเอาซองกยูหน้าขึ้นสี เกือบไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“พอแล้ว ไม่เอาไม่ร้อง”ซองกยูลูบหัวคนขี้แยเบาๆ ปลอบโยนด้วยเสียงนุ่มๆแบบที่เขาชอบทำเวลามยองซูร้องไห้แบบตอนนี้
“ฮึก”แล้วมันก็ได้ผลทุกที
“ไปล้างเนื้อล้างตัวไป เดี๋ยวพี่ทำแผลให้”มยองซูค่อยๆลุกขึ้นอย่างว่าง่ายแต่ด้วยความที่ข้อเท้าพลิก มยองซูเลยเดินแบบทุลักทุเล ซองกยูเห็นแบบนั้นเลยเข้าไปช่วยพยุง พาไปล้างแผล แล้วพากลับมานั่งทำแผลที่เดิม
ซองกยูใส่ยาและแปะพลาสเตอร์ที่หางคิ้วเป็นที่สุดท้าย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้ บรรจงจุมพิตที่หน้าผากอย่างเบาแรงที่สุดเพราะกลัวอีกคนจะเจ็บแผล
“เจ็บมั้ย?”
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคิมซองกยูทะนุถนอมมยองซูแค่ไหน...
“นิดหน่อยฮะ”
“ชอบดื้อดีนัก เจ็บตัวเลยเห็นมั้ย ไม่ชอบก็ทนใส่ไปหน่อยไม่ได้เลยหรือไง ถ้าเป็นหนักกว่านี้มันไม่คุ้มนะ”
“บ่นอีกแล้ว”
“ไม่บ่นได้ไง พี่ก็กลัวเหมือนที่มยองซูกลัวนั่นแหละ ถ้าเราเป็นไรไป พี่ก็อยู่ไม่ได้เหมือนกันนะ!”
“รู้เล่า”
“ดื้อเอ้ย!”
“จะไปไหน”คนตัวเล็กกว่าถามคำถามไม่หยุดพลางเดินตามหลังต้อยๆ อย่างกับลูกเป็ด ทั้งคู่มาหยุดที่มอไซค์สีดำด้านคู่ใจซองกยูที่จอดนิ่งอยู่หน้าบ้าน
“โรง’บาล”
“ไปทำไม เค้าไม่เป็นไรหรอก”มยองซูลากเสียงยาวอย่างคนขี้เกียจ ทำหน้าบึ้งเพราะกลัวการนั่งมอไซค์คันใหญ่แบบเจ้าบิ๊กไบค์นี่ที่สุด ถึงแม้จะรับปากซองกยูว่าจะยอมซ้อนแล้วก็เถอะ
“ไม่เป็นไรกับผีดิ รถล้มมานะ”
“งือ”
“อย่างอแง”ซองกยูดุปรามเด็กที่วอแวไม่เลิกเบาๆ พลางเดินไปหยิบหมวกกันน็อคสีดำด้านแบบเดียวกันสองใบมายื่นให้มยองซู แล้วพลิกด้านในให้มยองซูเห็นสิ่งที่เขาแอบไปทำมา ป้ายหนังแท้ที่มีคำยาวๆสลักอยู่ทั้งคู่ ทั้งสองใบเขียนไว้คล้ายกัน มีชื่อเจ้าของหมวกเป็นภาษาอังกฤษ ชื่อใครชื่อมัน ความหมายก็เหมือนกัน จะต่างกันก็ตรงแค่...
ของมยองซูเป็นหัวใจซองกยู
Myungsoo.
หัวใจซองกยู.
และของซองกยูเป็นหัวใจมยองซู
Sunggyu.
หัวใจมยองซู.
“ทีนี้จะได้อยากใส่สักที” ซองกยูยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่วนมยองซู พอเจอมุขนี้เข้าไปถึงจะพูดท่านู้นท่านี้แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมใส่แต่โดยดี
“ติ๊งต๊องอ่ะ คิก”
“ของเราเป็นหัวใจพี่เลยนะ จะไม่ใส่ลงหรอ?”ซองกยูยิ้มกรุ้มกริ่มเรียกเสียงหัวเราะจากอีกคนได้ดี มยองซูหลุดขำหัวเราะคิกคักกับมุขเสี่ยวที่ไม่รู้ว่าไปคิดอะไรเลี่ยนๆแบบนี้ได้ไง เลยทำให้ซองกยูต้องยกมือขึ้นขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆอย่างเอ็นดูสุดๆ
ของเราเป็นหัวใจพี่เลยนะ
หัวใจพี่เลยนะ
หัวใจพี่...
“แล้วตอนนี้หัวใจพี่ไปอยู่ที่ไหนแล้วหรอ?”
“พอจะมีสักเศษเสี้ยวนึงที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ผมบ้างมั้ยพี่กยู?”
"แต่ว่า..."
"หัวใจมยองซู ยังเหมือนเดิมนะฮะ"
---------------------------The philophobia-------------------------------
.
.
.
.
.
.
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

92 ความคิดเห็น
-
#18 2kimnana (จากตอนที่ 4)วันที่ 6 ตุลาคม 2559 / 00:05อะไรคือก็แค่แฟนเก่า อ๊ากกกอยากตบปากซองกยู ทำไมต้องพูดจาทำร้ายจิตใจมยองซูด้วย สงสารมยองซูยังรักเค้ามากสินะ แต่ดูที่ซองกยูทำสิ พอเจอแฟนตัวเองก็หายไปด้วยกันเลยระ ไม่สนใจใยดีมยองซูเลย *ก็นั่นแฟนเค้ามั้ยหละ* ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้เหตุผลที่เลิกกัน ทั้งที่เมื่อก่อนก็รักกันมาก#180
-
#11 paanpanisa (จากตอนที่ 4)วันที่ 28 กันยายน 2559 / 20:14โอ้นนนนคนเราาาาาา พี่ซองกยูนะพี่ซองกยูอย่าทำแบบนี้ แฟนเก่ทก็แฟนเก่าเดดด อย่ามาทำให้เปลี่ยนทีมได้ไหม55555#110
-
#9 Flourishing (จากตอนที่ 4)วันที่ 8 กันยายน 2559 / 19:36สงสารอ่ะ สงสารมยอง TT คือก็ยังรักยังรู้สึกดี ที่ว่าเป็นโรคกลัวความรักนี่ยกเว้นพี่กยูใช่มั้ย แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เลิกกันนนน ทั้งๆที่แต่ก่อนนั้นก็รักกันดี ทำไมมม แต่ยิ่งกว่านั้น สงสารคุณโฮวอนด้วยค่ะ คือถ้ารู้ว่ามยองไม่ได้รักจริงๆนี่โคตรเจ็บปวดเลยนะ โหยยยย#90
-
#8 Phu (จากตอนที่ 4)วันที่ 4 กันยายน 2559 / 12:40พูดง่ายมากก็แค่แฟนเก่าจะกลัวอะไร ชอบคำพูดนี้อ่ะแค่แฟนเก่าเอง5555รออยู่นะสู้#80