ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Person second who is love ,, คือเธอ ll (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๒

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 52


    ข้อควรระวังในการอ่าน

    1. ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้มีภาษาเขียนที่สวยหรู  หากแต่มีคำไม่สุภาพและออกแนวสะถุนเล็กน้อย

     -.-

    2.  สามารถติชมนิยายได้  แต่ถ้าหากไม่ชอบใจคิดว่าเรื่องนี้ไม่สนุกเลย  รับไม่ได้ ฯลฯ ก็กรุณาปิดเรื่องนี้ไปได้  โดยที่ไม่ต้องโพสด่าไรเตอร์แต่ประการใด

    3. ชื่อตัวละคร  และเหตุการณ์อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนเรื่องจริง โปรดกรุณาทำความเข้าใจด้วยนะคะ

    4.  หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้


    .

    .

    .

     

     

     

                  อ่าว  ไงมึงสองตัวได้ฤกษ์มากันแล้วหรอ  รู้ไหมว่าคนอื่นเขารอจนรากจะงอกอยู่แล้วเนี่ยะ  

     

                มึงไปกินเม็ดถั่วเขียวมารึไงรากถึงจะงอกหน่ะ  ฮะ !   ไอ้เบียร์ตะโกนตอบไอ้พวกนั้นด้วยความคะนองปาก  และอยากมีรอยตีนประทับบนใบหน้า

     

                ผลัวะ !

     

                มาถึงก็กวนตีนชาวบ้านเขาเลยนะสัดเบียร์ ไอ้หนุ่มมาด้วยมาดหล่อ ๆ และการตบเกรียนอย่างว่องไว  ตามมาด้วยการจิกกัดเล็กน้อยให้พอแสบ ๆ คัน ๆ  พวกเพื่อน ๆ ก็โห่ร้องกันอย่างถูกอกถูกใจ 

     

                  เอา ๆๆ  พอได้แล้วโว้ย  มาซ้อมกันก่อนดีกว่า  เดี๋ยวไม่ได้อะไร  นี่มันก็เย็นมากแล้ว  เดี๋ยวจะมืดกว่านี้หรอก   ไอ้นัดเพื่อนห้องผมเองครับ  และผมเองก็สนิทกับมันพอสมควร  ออกปากเตือนพวกเราให้ซ้อมกันเสียที

     

                การซ้อมก็เป็นไปอย่างเรียบร้อยครับ  ไม่มีปัญหาอะไร  พวกเราสามารถเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อและเริ่มสนิทกันเกือบทุกคน  ภายในห้องซ้อมจะมีเสียงหัวเราะมาเป็นระยะ ๆ  ด้วยบทละครที่ชวนหัวเราะ  และนักแสดงต่างพากันหยอดมุขคนละนิดละหน่อย  มีเสียงแซวกันบ้างพอเป็นกระสัย  ถึงจะดูวุ่นวายไปนิด  แต่ภาพรวมแล้วก็ดีทีเดียวครับ

     

                 ผ่านไปได้ไม่นานท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีพวกผมก็เร่งซ้อมกันใหญ่ไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย  เป็นอันรู้คิวของแต่ละคนอย่างแน่นอน  เหลือแต่ความแม่นยำในการแสดง  ส่วนคนบรรยายผมยอมรับเลยครับว่าเติงพูดดีมาก ๆ  ดูใส่อารมณ์ดี  ยังมีน้องผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาร่วมบรรยายด้วย  เป็นการอ่านบทประพันธ์ของสุนทรภู่  เสียงน้องเขาสุดยอดไปเลยครับ  ผมงี้ขนลุก

     

                หลังเสร็จภารกิจเก็บของกันเสร็จเรียบร้อย  หลายคนก็ตรงดิ่งกลับบ้าน  เช่นเดียวกับผมที่อยากกลับบ้าน  กลัวแม่เป็นห่วงครับ แฮ่ ๆ ผมก้มเก็บของใส่กระเป๋าอย่างลวก ๆ เก็บเสร็จก็เห็นไอ้เบียร์เดินตรงมาหาผม

     

                เต้ย !  จะกลับเลยป่าววะ  

     

                เออ  

     

                แม่งกรูโคตรหิวข้าววะ  ไปแดกข้าวบ้านมึงได้ป่ะ  ฝากท้องซักคน   ผมหัวเราะกับความกะล่อนอยากแดกข้าวฟรีของไอ้เบียร์  ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธผมเลยพยักหน้าตอบรับไป

     

                ผมสองคนเดินกอดคอกันออกจากห้อง  แต่ก็ต้องแปลกใจที่ผู้บรรยายคนเก่งยืนอยู่หน้าประตูเหมือนรอคอยใครบางคน  และเมื่อเห็นผมก็ยิ้มกว้าง

     

                  เอาแล้วไง ทีนี้กรูอดกินข้าวฟรีแหง ๆ   ไอ้เบียร์พูดด้วยสีหน้าเสียดายซะเต็มประดา

     

                เฮ้ย ! รู้ได้ไง อาจจะไม่มีอะไรก็ได้   ผมตอบสวนไปทันที

     

                เต้ย !! 

     

                หืมม ? มีอะไรรึเปล่า  อย่าบอกนะว่ายืนรอ  

     

                อ่า  อื้อ  คือเรื่องตอบแทน เห้ย ! “  ไอ้เบียร์ทำหน้าหมางงอยู่ข้าง ๆ ผมเมื่อเติงเอ่ยคำว่าตอบแทนออกมา  ด้วยความรำคาญกลัวว่าไอ้เบียร์จะเซาซี้เรื่องนี้อีกแน่ ๆ ก็เลยฉุดแขนคนข้างตัวให้เดินเลี่ยงออกมา

     

                อ่า  ต่อสิ่   ผมแสร้งทำหน้านิ่ง  อีกคนยิ้มแฮะๆ ใส่ผมก่อนจะพูดว่า

     

                ก็เรื่องที่เราจะเลี้ยงข้าวไง  เลยรอเต้ยจะได้ไปพร้อมกัน   ผมขมวดคิ้วมุ่น  เอาไงดีเนี่ยะ  อืมม  เดี๋ยวค่อยโทรบอกแม่ก็ได้มั้ง 

     

                ได้ ๆ  แล้วจะไปยังไง  

     

                ก็เดี๋ยวไปรถเราอ้ะ   มันยิ้มก่อนจะชูกุญแจรถให้ผมดู

     

                อืม เอ้อ แล้วก็ไม่ต้องพูดสุภาพขนาดนั้นก็ได้  พูดเหมือนที่กรูพูดกับเบียร์นั่นแหละ มันพยักหน้ารัวๆ แล้วยิ้มแฮะ ๆ ใส่อีกครั้ง

     

                สัดเบียร์ !!! “  ผมตะโกนเรียกไอ้เบียร์ที่ยังยืนทำหน้าหน้าหมางงอยู่ที่เดิม 

     

                  อะไร !! “

     

                มรึงอดกินข้าวฟรีแล้ว  กลับบ้านไปเลย ฮ่า ๆๆ   มันทำหน้ายู่ก่อนจะตะโกนกลับมา

     

                  โหยย  เจอเด็กใหม่แล้วลืมกูเลยนะมึงงง !!    ผมหน้าเหวอกับคำว่า เด็กใหม่ของไอ้เบียร์   หมาในปากมรึงนี่เนอะ !

     

                สัด ! พูดมาก ไปได้แล้ว  

     

                เออ ๆ ไล่กรูจริง     ผมโบกมือลาแล้ววิ่งไปที่รถออกตัวไปทันที  ผมหันไปมองเติงที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ข้าง ๆ

     

                เต้ย มรึงนัดกับเพื่อนไม่ใช่หรอ  แล้วมากับกรูเดี๋ยวเพื่อนมรึงก็โกรธหรอก

               

                ไม่หรอก  ไอ้เบียร์มันแค่อยากกินข้าวฟรีที่บ้านกรูอะ    เติงพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ  ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่รถของมัน

     

                มันยื่นหมวกกันน็อคให้ผม  โอ้โห นี่แสดงว่าเตรียมพร้อมมาอย่างดีละสิ่เนี่ยะ  ถึงเอาหมวกมาสองใบ  ผมกระโดดซ้อนทายมันอย่างรวดเร็ว  มันขี่รถออกมาจากโรงเรียนและตรงไปทางที่ผมคุ้นเคย  เฮ้ยย คับคล้ายคับคลาทางไปบ้านกู แต่ผมก็โล่งใจเพราะมันเลี้ยวไปอีกทาง

     

                 ไม่นานรถก็จอดอยู่แถวสถานีรถไฟผมลงจากรถและเดินตามมันไปอย่าง งงๆ  (ไม่กล้าถามกลัวเสียฟอร์ม แฮ่ ๆ )  เติงพาผมเดินไปร้านเย็นตาโฟที่คับคั่งไปด้วยลูกค้า โต๊ะที่มีอยู่เริ่มไม่พอเมื่อเห็นผมสองคนเดินมาคุณลุงก็กางโต๊ะแล้วเชื้อเชิญผมสองคนให้นั่ง

     

                ลุงครับ  เอาเย็นตาโฟพิเศษสองที่  

     

                เฮ้ย  ไม่ต้องพิเศษหรอก  ธรรมดาก็พอ  

     

                ธรรมดา 25 พิเศษ 20 นะพ่อหนุ่ม ลุงเจ้าของร้านพูดออกมา  ผมอ้าปากค้างนึกทวนคำลุง เฮ้ย !! ทำไมธรรมดามันแพงกว่าวะ

     

                พิเศษสองนั่นแหละครับลุง ฮ่า ๆ   เติงเห็นผมหน้าเหวอก็หัวเราะอย่างถูกอกถูกใจ  ก่อนที่ลุงแกจะเฉลยให้ผมหายสงสัย

     

                  ท่าจะมาครั้งแรกละสิ่เนี่ยะ  ลุงว่าเดี๋ยวเนี่ยะ เศรษฐกิจมันก็ไม่ค่อยดี  ของขายก็เลยลดจำนวนลง  ลุงอยากให้ทุกคนทานอาหารที่อร่อยกันอิ่มๆไง ก็เลยขายแบบนี้แหละ ฮ่า ๆ  เย็นตาโฟลุงอร่อยนะ  แล้วพ่อหนุ่มจะติดใจ   คุณลุงเจ้าของร้านอารมณ์ดีอวดฝีมือทำเย็นตาโฟของตนทิ้งท้ายไว้  แล้วเดินไปง่วนกับการทำเย็นตาโฟต่อ 

     

                เวลาผ่านไปได้ไม่นาน  เย็นตาโฟร้อน ๆ หอมน่าทานสองชามก็วางลงตรงหน้าผมและเติง  ลุงแกขยิบตาให้ผมนิดนึง  แล้วเดินไปเสริฟโต๊ะต่อไป   ผมหยิบตะเกียบแล้วคีบเส้นใหญ่เข้าปาก

     

                อร่อย   รสชาติของเย็นตาโฟทำให้ผมอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้  เติงหัวเราะเล็กน้อยกับอาการตอบรับหลังจากที่เคี้ยวได้ไม่นาน

     

                ใช่ป่ะหล่ะ  เนี่ยะร้านโปรดกรูเลย   ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วยแล้วหันไปสนใจชามเย็นตาโฟตรงหน้า 

               

                ผมจัดการอาหารอย่างรวดเร็วก่อนจะต่ออีกชามอย่างไม่รีรอ ไม่นานเย็นตาโฟร้อนๆ หนึ่งชามก็วางตรงหน้า  เติงหน้าเหวอผมหัวเราะ

     

                เลี้ยงกรูชามแรกก็พอ  อีกชามกรูจ่ายเอง มันถอนหายใจอย่างโลกอก

     

                กรูนึกว่าจะกระเป๋าแฟ่บเพราะมรึงซะแล้ว ฮ่า ๆ ในที่สุดผมก็กระซวกเย็นตาโฟชามสุดท้ายลงกระเพาะหมดเสียที

     

                เติงเรียกคุณลุงมาเก็บเงิน  ลุงกระเซ้าผมว่าแหมต่อสองชามเลยนะพ่อหนุ่ม  ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบแกไป  ก่อนจะควักเงินให้เติงกับเย็นตาโฟชามสองที่ผมสั่ง

     

                ผมกับเติงลุกจากโต๊ะและเดินตรงไปที่รถ  เติงขี่รถมาส่งผมที่บ้านอย่างปลอดภัย

     

                ขอบใจที่พากรูไปกินอาหารอร่อย ๆ   ผมขอบคุณมันก่อนจะส่งยิ้มให้

     

                อืม ไม่เป็นไร  ถือว่าเจ๊ากัน ฮ่า ๆ     มันส่งยิ้มกว้างกลับมา

     

                ฮ่า ๆ เออ ๆ  ขับรถกลับดีๆนะมรึง  ล่ำลากันได้สักพักมันก็คว้ารถออกตัวไป  เพราะกลัวว่าจะดึกเกิน 

     

                ผมหันหลังเดินไปเปิดประตูด้วยพวงกุญแจที่ห้อยตัวการ์ตูนโดเรมอนโต่งเต่ง ๆ วันนี้ถือว่าโชคดีได้กินของอร่อยละวะ  หึหึ

     

     

     

     

               

     

     

     

     

     

     

     

     

    _______________________________________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×