คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ ๒
ข้อควรระวังในการอ่าน
1. ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้มีภาษาเขียนที่สวยหรู หากแต่มีคำไม่สุภาพและออกแนวสะถุนเล็กน้อย
-.-
2. สามารถติชมนิยายได้ แต่ถ้าหากไม่ชอบใจคิดว่าเรื่องนี้ไม่สนุกเลย รับไม่ได้ ฯลฯ ก็กรุณาปิดเรื่องนี้ไปได้ โดยที่ไม่ต้องโพสด่าไรเตอร์แต่ประการใด
3. ชื่อตัวละคร และเหตุการณ์อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนเรื่องจริง โปรดกรุณาทำความเข้าใจด้วยนะคะ
4. หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
.
.
.
“ อ่าว ไงมึงสองตัวได้ฤกษ์มากันแล้วหรอ รู้ไหมว่าคนอื่นเขารอจนรากจะงอกอยู่แล้วเนี่ยะ “
“ มึงไปกินเม็ดถั่วเขียวมารึไงรากถึงจะงอกหน่ะ ฮะ ! “ ไอ้เบียร์ตะโกนตอบไอ้พวกนั้นด้วยความคะนองปาก และอยากมีรอยตีนประทับบนใบหน้า
ผลัวะ !
” มาถึงก็กวนตีนชาวบ้านเขาเลยนะสัดเบียร์ “ ไอ้หนุ่มมาด้วยมาดหล่อ ๆ และการตบเกรียนอย่างว่องไว ตามมาด้วยการจิกกัดเล็กน้อยให้พอแสบ ๆ คัน ๆ พวกเพื่อน ๆ ก็โห่ร้องกันอย่างถูกอกถูกใจ
“ เอา ๆๆ พอได้แล้วโว้ย มาซ้อมกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวไม่ได้อะไร นี่มันก็เย็นมากแล้ว เดี๋ยวจะมืดกว่านี้หรอก “ ไอ้นัดเพื่อนห้องผมเองครับ และผมเองก็สนิทกับมันพอสมควร ออกปากเตือนพวกเราให้ซ้อมกันเสียที
การซ้อมก็เป็นไปอย่างเรียบร้อยครับ ไม่มีปัญหาอะไร พวกเราสามารถเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อและเริ่มสนิทกันเกือบทุกคน ภายในห้องซ้อมจะมีเสียงหัวเราะมาเป็นระยะ ๆ ด้วยบทละครที่ชวนหัวเราะ และนักแสดงต่างพากันหยอดมุขคนละนิดละหน่อย มีเสียงแซวกันบ้างพอเป็นกระสัย ถึงจะดูวุ่นวายไปนิด แต่ภาพรวมแล้วก็ดีทีเดียวครับ
ผ่านไปได้ไม่นานท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสีพวกผมก็เร่งซ้อมกันใหญ่ไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย เป็นอันรู้คิวของแต่ละคนอย่างแน่นอน เหลือแต่ความแม่นยำในการแสดง ส่วนคนบรรยายผมยอมรับเลยครับว่าเติงพูดดีมาก ๆ ดูใส่อารมณ์ดี ยังมีน้องผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาร่วมบรรยายด้วย เป็นการอ่านบทประพันธ์ของสุนทรภู่ เสียงน้องเขาสุดยอดไปเลยครับ ผมงี้ขนลุก
หลังเสร็จภารกิจเก็บของกันเสร็จเรียบร้อย หลายคนก็ตรงดิ่งกลับบ้าน เช่นเดียวกับผมที่อยากกลับบ้าน กลัวแม่เป็นห่วงครับ แฮ่ ๆ ผมก้มเก็บของใส่กระเป๋าอย่างลวก ๆ เก็บเสร็จก็เห็นไอ้เบียร์เดินตรงมาหาผม
“ เต้ย ! จะกลับเลยป่าววะ “
“ เออ “
“ แม่งกรูโคตรหิวข้าววะ ไปแดกข้าวบ้านมึงได้ป่ะ ฝากท้องซักคน “ ผมหัวเราะกับความกะล่อนอยากแดกข้าวฟรีของไอ้เบียร์ ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธผมเลยพยักหน้าตอบรับไป
ผมสองคนเดินกอดคอกันออกจากห้อง แต่ก็ต้องแปลกใจที่ผู้บรรยายคนเก่งยืนอยู่หน้าประตูเหมือนรอคอยใครบางคน และเมื่อเห็นผมก็ยิ้มกว้าง
“ เอาแล้วไง ทีนี้กรูอดกินข้าวฟรีแหง ๆ “ ไอ้เบียร์พูดด้วยสีหน้าเสียดายซะเต็มประดา
“ เฮ้ย ! รู้ได้ไง อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ “ ผมตอบสวนไปทันที
“ เต้ย !! “
“ หืมม ? มีอะไรรึเปล่า อย่าบอกนะว่ายืนรอ “
“ อ่า อื้อ คือเรื่องตอบแทน เห้ย ! “ ไอ้เบียร์ทำหน้าหมางงอยู่ข้าง ๆ ผมเมื่อเติงเอ่ยคำว่าตอบแทนออกมา ด้วยความรำคาญกลัวว่าไอ้เบียร์จะเซาซี้เรื่องนี้อีกแน่ ๆ ก็เลยฉุดแขนคนข้างตัวให้เดินเลี่ยงออกมา
“ อ่า ต่อสิ่ “ ผมแสร้งทำหน้านิ่ง อีกคนยิ้มแฮะๆ ใส่ผมก่อนจะพูดว่า
“ ก็เรื่องที่เราจะเลี้ยงข้าวไง เลยรอเต้ยจะได้ไปพร้อมกัน “ ผมขมวดคิ้วมุ่น เอาไงดีเนี่ยะ อืมม เดี๋ยวค่อยโทรบอกแม่ก็ได้มั้ง
“ ได้ ๆ แล้วจะไปยังไง “
“ ก็เดี๋ยวไปรถเราอ้ะ “ มันยิ้มก่อนจะชูกุญแจรถให้ผมดู
“ อืม เอ้อ แล้วก็ไม่ต้องพูดสุภาพขนาดนั้นก็ได้ พูดเหมือนที่กรูพูดกับเบียร์นั่นแหละ “ มันพยักหน้ารัวๆ แล้วยิ้มแฮะ ๆ ใส่อีกครั้ง
“ สัดเบียร์ !!! “ ผมตะโกนเรียกไอ้เบียร์ที่ยังยืนทำหน้าหน้าหมางงอยู่ที่เดิม
“ อะไร !! “
“ มรึงอดกินข้าวฟรีแล้ว กลับบ้านไปเลย ฮ่า ๆๆ “ มันทำหน้ายู่ก่อนจะตะโกนกลับมา
“ โหยย เจอเด็กใหม่แล้วลืมกูเลยนะมึงงง !! “ ผมหน้าเหวอกับคำว่า ‘เด็กใหม่’ของไอ้เบียร์ หมาในปากมรึงนี่เนอะ !
“ สัด ! พูดมาก ไปได้แล้ว “
“ เออ ๆ ไล่กรูจริง “ ผมโบกมือลาแล้ววิ่งไปที่รถออกตัวไปทันที ผมหันไปมองเติงที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ข้าง ๆ
“ เต้ย มรึงนัดกับเพื่อนไม่ใช่หรอ แล้วมากับกรูเดี๋ยวเพื่อนมรึงก็โกรธหรอก “
“ ไม่หรอก ไอ้เบียร์มันแค่อยากกินข้าวฟรีที่บ้านกรูอะ “ เติงพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่รถของมัน
มันยื่นหมวกกันน็อคให้ผม โอ้โห นี่แสดงว่าเตรียมพร้อมมาอย่างดีละสิ่เนี่ยะ ถึงเอาหมวกมาสองใบ ผมกระโดดซ้อนทายมันอย่างรวดเร็ว มันขี่รถออกมาจากโรงเรียนและตรงไปทางที่ผมคุ้นเคย เฮ้ยย คับคล้ายคับคลาทางไปบ้านกู แต่ผมก็โล่งใจเพราะมันเลี้ยวไปอีกทาง
ไม่นานรถก็จอดอยู่แถวสถานีรถไฟผมลงจากรถและเดินตามมันไปอย่าง งงๆ (ไม่กล้าถามกลัวเสียฟอร์ม แฮ่ ๆ ) เติงพาผมเดินไปร้านเย็นตาโฟที่คับคั่งไปด้วยลูกค้า โต๊ะที่มีอยู่เริ่มไม่พอเมื่อเห็นผมสองคนเดินมาคุณลุงก็กางโต๊ะแล้วเชื้อเชิญผมสองคนให้นั่ง
“ ลุงครับ เอาเย็นตาโฟพิเศษสองที่ “
“ เฮ้ย ไม่ต้องพิเศษหรอก ธรรมดาก็พอ “
“ ธรรมดา 25 พิเศษ 20 นะพ่อหนุ่ม “ ลุงเจ้าของร้านพูดออกมา ผมอ้าปากค้างนึกทวนคำลุง เฮ้ย !! ทำไมธรรมดามันแพงกว่าวะ
“ พิเศษสองนั่นแหละครับลุง ฮ่า ๆ “ เติงเห็นผมหน้าเหวอก็หัวเราะอย่างถูกอกถูกใจ ก่อนที่ลุงแกจะเฉลยให้ผมหายสงสัย
“ ท่าจะมาครั้งแรกละสิ่เนี่ยะ ลุงว่าเดี๋ยวเนี่ยะ เศรษฐกิจมันก็ไม่ค่อยดี ของขายก็เลยลดจำนวนลง ลุงอยากให้ทุกคนทานอาหารที่อร่อยกันอิ่มๆไง ก็เลยขายแบบนี้แหละ ฮ่า ๆ เย็นตาโฟลุงอร่อยนะ แล้วพ่อหนุ่มจะติดใจ “ คุณลุงเจ้าของร้านอารมณ์ดีอวดฝีมือทำเย็นตาโฟของตนทิ้งท้ายไว้ แล้วเดินไปง่วนกับการทำเย็นตาโฟต่อ
เวลาผ่านไปได้ไม่นาน เย็นตาโฟร้อน ๆ หอมน่าทานสองชามก็วางลงตรงหน้าผมและเติง ลุงแกขยิบตาให้ผมนิดนึง แล้วเดินไปเสริฟโต๊ะต่อไป ผมหยิบตะเกียบแล้วคีบเส้นใหญ่เข้าปาก
“ อร่อย “ รสชาติของเย็นตาโฟทำให้ผมอดที่จะเอ่ยปากไม่ได้ เติงหัวเราะเล็กน้อยกับอาการตอบรับหลังจากที่เคี้ยวได้ไม่นาน
“ ใช่ป่ะหล่ะ เนี่ยะร้านโปรดกรูเลย “ ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วยแล้วหันไปสนใจชามเย็นตาโฟตรงหน้า
ผมจัดการอาหารอย่างรวดเร็วก่อนจะต่ออีกชามอย่างไม่รีรอ ไม่นานเย็นตาโฟร้อนๆ หนึ่งชามก็วางตรงหน้า เติงหน้าเหวอผมหัวเราะ
“ เลี้ยงกรูชามแรกก็พอ อีกชามกรูจ่ายเอง “ มันถอนหายใจอย่างโลกอก
“ กรูนึกว่าจะกระเป๋าแฟ่บเพราะมรึงซะแล้ว ฮ่า ๆ “ ในที่สุดผมก็กระซวกเย็นตาโฟชามสุดท้ายลงกระเพาะหมดเสียที
เติงเรียกคุณลุงมาเก็บเงิน ลุงกระเซ้าผมว่าแหมต่อสองชามเลยนะพ่อหนุ่ม ผมก็ได้แต่ยิ้มตอบแกไป ก่อนจะควักเงินให้เติงกับเย็นตาโฟชามสองที่ผมสั่ง
ผมกับเติงลุกจากโต๊ะและเดินตรงไปที่รถ เติงขี่รถมาส่งผมที่บ้านอย่างปลอดภัย
“ ขอบใจที่พากรูไปกินอาหารอร่อย ๆ “ ผมขอบคุณมันก่อนจะส่งยิ้มให้
“ อืม ไม่เป็นไร ถือว่าเจ๊ากัน ฮ่า ๆ “ มันส่งยิ้มกว้างกลับมา
“ ฮ่า ๆ เออ ๆ ขับรถกลับดีๆนะมรึง” ล่ำลากันได้สักพักมันก็คว้ารถออกตัวไป เพราะกลัวว่าจะดึกเกิน
ผมหันหลังเดินไปเปิดประตูด้วยพวงกุญแจที่ห้อยตัวการ์ตูนโดเรมอนโต่งเต่ง ๆ วันนี้ถือว่าโชคดีได้กินของอร่อยละวะ หึหึ
_______________________________________________________________________________
ความคิดเห็น