คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ ๑
ข้อควรระวังในการอ่าน
1. ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้มีภาษาเขียนที่สวยหรู หากแต่มีคำไม่สุภาพและออกแนวสถุนเล็กน้อย
-.-
2. สามารถติชมนิยายได้ แต่ถ้าหากไม่ชอบใจคิดว่าเรื่องนี้ไม่สนุกเลย รับไม่ได้ ฯลฯ ก็กรุณาปิดเรื่องนี้ไปได้ โดยที่ไม่ต้องโพสด่าไรเตอร์แต่ประการใด
3. ชื่อตัวละคร และเหตุการณ์อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนเรื่องจริง โปรดกรุณาทำความเข้าใจด้วยนะคะ
4. หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้
.
.
.
วันแรกของการเปิดเรียน = = สภาพผมก็ไม่ต่างจากวันสุดท้ายของการปิดเรียนสักเท่าไหร่ - -* รู้สึกเหมือนไม่ได้ปิดเทอมยังไงยังงั้น ห้องใหม่ แต่เพื่อนเก่า อะไร ๆ ก็เก่า เหอะ ๆ
“ พี่เต้ย ๆๆ กรี๊ดด หล่อจังเลยอะ พี่เค้าหันมามองฉันด้วยอ๊า !!~ “ ผมหันไปตามเสียงแหลม ๆ เล็ก ๆ ก็เจอกับเด็กผู้หญิงม.ต้นสองคนยืนชี้โบ้ชี้เบ้มาทางผม คนมันหล่อก็ต้องมีคนมองเป็นธรรมดา ชินครับชิน ฮ่า ๆ
อ้อ ! โรงเรียนผมไม่ใช่โรงเรียนสหนะครับ แต่เป็นโรงเรียนหญิงล้วน ฮั่นแน่ ! แปลกใจกันละสิ่ว่าทำไมเพศผู้อย่างผมถึงมาเดินสะเดิ่งร่อนไปร่อนมาอยู่ในโรงเรียนสตรีล้วน แถมยังเรียนอยู่ที่นี่ด้วย !
ก็ปกติของโรงเรียนสตรีทั่วไปแหละครับ ที่เขาจะรับเด็กผู้ชายเข้ามาตอนมอปลายเท่านั้น บอกตรง ๆ นะโรงเรียนนี้ผู้หญิงสวย ๆ ก็มีเยอะจนตาลาย เคยคบมาแล้วก็เคย แต่ที่ปัจจุบันผมยังโสด ก็เพราะความรู้สึกมันไม่ใช่
แฮ่ ๆ พล่ามไปเรื่อยเลย = =’ เอาละมาต่อกันที่ปัจจุบัน ตอนนี้เท้าทั้งสองก็พาผมมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง 5.11
ผลัวะ !!!!
“ ผมยาวนะเมิงง !! “ ไอ้เบียร์ตบหัวที่ไม่ค่อยจะเกรียนซักเท่าไหร่ ( เพราะผมไม่อยากเกรียนมาโรงเรียน เลยไม่ยอมไปตัด ฮ่า ๆ ) ก่อนจะเดิมเข้าห้องไปพร้อมกัน
เสียงดังโล๊งเล๊งภายในห้องที่ผมได้ยินตั้งแต่ตอนที่อยู่ข้างนอกพอเข้ามาข้างในแล้ว อืมม = = แมร่งโคตรจะดัง ! ผมหาทำเลเหมาะ ๆ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะริมหน้าต่างกลาง ๆ ห้อง อันที่จริงตอน ม.4 ผมอยู่ห้อง 2 ครับ เป็นสายวิทย์ แต่พอขึ้นม.5 ผมก็ทำเรื่องย้ายสายครับ เพื่อความเป็นเลิศทางศิลปะ = =’
“ วี๊ด วิ๊วว ~ ! ปีนี้ห้องเรามีหนุ่มฮอตมาอยู่โว้ยย สงสัยสาว ๆ คงได้แวะเวียนมาไม่ขาดสาย “ เสียงเห่าหอนของไอ้พวกตัวผู้ที่เกากีตาร์กันอยู่หลังห้องแหวกอากาศมาตามสาย
“ เออ ช่วยไม่ได้เสรือกไม่หล่ออย่างกูเอง “ จะว่าผมหลงตัวเองก็เชิญเถอะ แต่ผมรับประกันว่าเป็นความจริงแน่นอน หึหึ
‘ ขณะนี้ได้เวลาเคารพธงชาติ ขอให้นักเรียนลงมาเข้าแถวได้แล้วคะ ‘ เสียงประกาศของอาจารย์สาว(เหลือ)น้อย เชื้อเชิญ(เอ๊ะ ! หรือไล่ )พวกผมลงไปเข้าแถวหน้าเสาธงที่สุดจะร้อน ไอ่เบียร์เดินมาลากคอผมลงไปเข้าแถว ตามมาด้วยพวกในห้องทยอยกันลงมา
ตอนนี้ตามทางเดินจึงคลาคล่ำไปด้วยเด็กนักเรียนชายหญิง ที่กำลังเดินเบียดเสียดกันไปเข้าแถวหน้าเสาธง
แกร๊ก !! ตุ้บ !!
มีบางอย่างตกลงบนพื้น และ เอิ่มม อยู่ตรงเท้าของผมพอดี ผมก้มตัวลงไปเก็บกระเป๋าสตางค์หนังสีดำ เฮ้ย ย !! ของใครละวะเนี่ยะ ผมหันซ้ายหันขวามองหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์ปริศนาที่ดูท่าจะรักผมม๊ากมาก เลยมากองอยู่ที่เท้า (สารภาพครับ รองเท้าของผมใกล้เน่าเต็มที ไม่ซักมาเป็นปีแล้ว กระเป๋าสตางค์คงด่างพร้อยเพราะรองเท้าผม ) เอาวะ ลองถามคนไอ้นั่นดูดีกว่า มันยืนอยู่ใกล้ผมที่สุดแล้ว
“ เฮ้ ! นาย ของนายเปล่าวะ ? “ ผมสะกิดเรียกเป้าหมายทันที และเมื่อผมหันหน้ามันเต็ม ๆ ก็ต้องร้อง อ๋อ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะดังน้อยซะหน่อย มันชื่อเติงครับ ด้วยใบหน้าขาว ๆ ตาที่ออกจะตี๋ ๆ และยิ้มละลายใจ (ใจแกหรอ ? : คนแต่ง) วุ้ย ! ไม่ใช่ครับ สาว ๆ หนะสาว ๆ ผู้หญิงโรงเรียนนี้เลยปลื้มกันเสียยกใหญ่ แต่ยังไงผมก็หล่อกว่ามันอยู่ดี เอาละ เข้าเรื่องต่อ มันทำหน้างง ๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียนสีน้ำตาลของมันควานหาของที่ต้องการอยู่พักใหญ่ จึงยื่นมือมารับ
“ อ่า ขอบใจ ๆ เต้ยป้ะ ? “ ผมพยักหน้าหงึกหงัก แล้ววางกระเป๋าสตางค์บนมือมันที่ยื่นมาแบรอรับอยู่
“ เออ คราวหลังก็เก็บดี ๆ ละ อย่าให้มันร่วงอีก “ ผมเตือนมันเบา ๆ มันส่งรอยยิ้มพิฆาตใจสาว แน่นอนว่าไม่ใช่ใจผม เพราะผมเป็นผู้ชายย ก๊ากก (เอิ่มม ไอ่พระเอกของฉันท่าจะรั่ว - - : คนแต่ง) หลังจากนั้นก็ไม่ได้เสวนาอะไรกันอีกครับ ผมก็แยกตัวไปหาไอ้เบียร์ที่ยืนรอผมอยู่ ส่วนไอ้เติงก็เดินไปหาเพื่อนมัน
..
กลางสนามหญ้าและท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ บรรดานักเรียนชั้นมอต้นจนถึงมอปลายต่างพากันบ่นกรปอดกระแปดกับความร้อนของไอแดด และอาจารย์ที่พูดยาวเหยียดหน้าเสาธง แถมบ่นอีกต่างหาก
ผมใช้หลังมือปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก ตอนนี้ใครเห็นสภาพผมคงคิดว่าเพิ่งอาบน้ำมาแน่ ๆ เสื้อนักเรียนสีขาวที่ตอนนี้เปียกเหงื่อลู่ไปตามเรือนร่าง ทำให้เด็กผู้หญิงสองสามคนหันมามองผม แล้วกรี๊ดในลำคออย่างอดกลั้น
ผมหันไปตามแรงสะกิดจากทางด้านหลัง ไอ้เบียร์เรียกให้ผมขยับเข้าไปใกล้ ๆ
“ มีอะไรวะ “ ผมเลิกคิ้วถาม
“ อาจารย์ศิรัตน์หมวดภาษาไทยให้ไปหาตอนเลิกแถววะ “
“ กูหรอ มึงด้วยป้ะ ? แล้วมีใครไปอีกไหมวะ “
“ เออ แล้วก็พวกผู้ชายห้องเรากับห้องอื่นอีกนิดหน่อย “ ผมพยักหน้ารับรู้ ไม่นานอาจารย์ที่ยืนบ่นอยู่หน้าเสาธง ก็ได้ฤกษ์ที่จะปล่อยนักเรียนเข้าชั้นเรียนเสียที ผมกับเบียร์และเพื่อนผู้ชายในห้องเดินไปที่ห้องพักครูภาษาไทยอาคารแปดตามคำสั่งของอาจารย์ศิรัตน์
ผมชอบมากก ในการเข้าห้องพักครู (ถ้าไม่ติดว่าจะโดนเรียกเพราะแหกกฎน่ะนะ) เนื่องจากว่าแอร์มันโคตรจะเย็น ดูเถอะครับอาจารย์เอาเปรียบนักเรียนขนาดไหน ขนาดห้องพักยังอยู่ในห้องแอร์ แต่ดูห้องเรียนมีแต่พัดลม
“ อ่าว มากันครบแล้วใช่ไหม ? “ อาจารย์ศิรัตน์ อาจารย์สาวใหญ่ท่าทางใจดียิ้มเอ็นดูพวกทโมนทั้งหลาย
“ ครับ “ เสียงตอบอย่างพร้อมเพรียง
“ ที่ครูเรียกพวกเธอมาเพราะมีเรื่องอยากจะให้ช่วย นี่ก็ใกล้จะถึงวันสุนทรภู่และมันก็มีการแสดงหน้าเสาธงเป็นประจำอยู่แล้ว ครูก็เลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากพวกเธอในการแสดงละครสุนทรภู่ เรื่องบทครูจะให้รายละเอียดคร่าว ๆ แล้วจะให้พวกเธอเสริมเติมแต่งกันตามสบาย แต่อย่าให้มันออกนอกลู่นอกทางเกินไปนะ “
“ ครับ “ เสียงขานรับกันอย่างพร้อมเพรียง
“ อ้อ นายณัฐภัทร มานี่ซิ “ ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ก็นายเติงนี่แหละ ผมมองมันที่ยืนอยูข้าง ๆ อาจารย์ มันหันมาเห็นผมก็ทำหน้าเหวอ ก่อนจะยิ้มให้ ผมเลยต้องยิ้มแกน ๆ ตอบไป
“ ครูจะให้นายณัฐภัทรเป็นคนบรรยาย ถ้ามีอะไรก็ให้มาถามเขานะ แล้วก็ถ้าซ้อมด้วยกันได้ก็ยิ่งดี จะได้รู้คิวกัน เอาละ ก็มีแค่นี้แหละ พวกเธอก็ตกลงกันเอาเองแล้วกันนะ ครูขอตัวไปสอนก่อน “
“ สวัสดีครับ “ พวกผมพนมมือไหว้อาจารย์ศิรัตน์ อาจารย์ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป พวกผมก็โล้งเล้ง ๆ ถามความคิดเห็นกัน และหาเรื่องอู้ไม่ไปเรียนคาบแรกโดยอ้างว่ามาเตรียมการแสดง เราตกลงคิวของแต่ละคนเสร็จสรรพ นัดกันมาซ้อมก็ช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้ พอออดดังพวกผมก็แยกย้ายกันกลับห้องของแต่ละคน
ผมกับไอ้เบียร์ขอตัวแยกออกมาก่อน เพราะไอ้เบียร์มันดันปวดฉิ๊งฉ่อง เลยลากผมมาเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนมัน
ระหว่างรอไอ้เบียร์เข้าห้องน้ำ ผมก็ยืนชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องสะดุดตากับร่างขาว ๆ ของไอ้เติงที่เดินกลับมาจากอาคารแปด แล้วเดินตรงมาทางที่ผมกำลังยืนอยู่ ร่างสูงโปร่งเดินอย่างทะมัดทะแมง แต่เวรกรรมตั้งแต่ชาติปางไหนของมันก็ไม่อาจทราบได้ทำให้มันสะดุดก้อนหินก้อนกระบือ ๆ ด้วยความสัตย์จริงของกฎนิวตันที่ว่าด้วยเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก จึงทำให้หน้ามันโน้มลงไปใกล้พื้นดิน
ผมซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่นานก็คว้าแขนขาว ๆ ของเติงอย่างรวดเร็ว
“ เฮ้ย ๆๆ จะจูบกับดินรึไง ! พิศวาสมันจังเนอะ ระวังหน่อยดิ “ ผมพยุงตัวคนซุ่มซ่ามให้ยืนตรง ๆ กับเขาหน่อย มันยิ้มแหยๆ ให้ผม
“ ขอบใจเต้ยมากนะ วันนี้เต้ยช่วยเรามาตั้งสองหนแล้ว เอาไว้เราจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนแล้วกัน “
“ เฮ้ย ! ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้อง ๆ “ ผมโบกม้ายโบกมือเป็นการปฏิเสธ แต่อีกคนท่าจะไม่ยอมยึดแขนผมไว้ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ ไม่เอาน่าถือว่าเป็นการตอบแทนเล็กน้อย ๆ ก็แล้วกัน “ มันทำหน้าอ้อนวอน โหยย นี่เมิงอยากจะเสียตังจนตัวสั่นเลยรึไงเนี่ยะ ผมถอนหายใจอย่างปลง ๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบมันไป
มันยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยปากลาเดินไปตึกเรียนของมัน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้เบียร์เดินออกมาจากห้องน้ำ
“ สุดไหมละครับคุณเอี้ยเบียร์ เป็นชาตินะกว่าจะออกมาเนี่ยะ “
“ โหย แค่กรูทำธุระนาน เห็นมีเพื่อนคุยด้วยไม่ใช่หรอ จะบ่นหาพระแสงของ้าวไปทำไมเนี่ยะ เอ้อ ว่าแต่ มึงไปสนิทกับไอ้เติงได้ไงวะ “
“ สนิทห่ะไรเล่า กูแค่ช่วยมันตอนจะล้มหัวทิ่มแค่นั้นเอง ก็เลยคุยกันนิดหน่อย “
“ ฮั่นแน่ ! มีอะไรไม่บอกกูนะ “
“ พอ ๆ ไปไกลละมึง ขึ้นห้อง ๆ เดี๋ยวจะได้ตายหมู่ “
“ ทำไมต้องหมู่วะ จ่าไม่ได้หรอ “
“ กวนตีนละสัด ไป ๆๆ “ ผมลากคอไอ้เบียร์ขึ้นห้องก่อนที่จะกินเวลาคาบสองนานกว่านี้
_______________________________________________________________________________
ความคิดเห็น