ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Person second who is love ,, คือเธอ ll (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ ๑

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 52


    ข้อควรระวังในการอ่าน

    1. ฟิคเรื่องนี้ไม่ได้มีภาษาเขียนที่สวยหรู  หากแต่มีคำไม่สุภาพและออกแนวสถุนเล็กน้อย

     -.-

    2.  สามารถติชมนิยายได้  แต่ถ้าหากไม่ชอบใจคิดว่าเรื่องนี้ไม่สนุกเลย  รับไม่ได้ ฯลฯ ก็กรุณาปิดเรื่องนี้ไปได้  โดยที่ไม่ต้องโพสด่าไรเตอร์แต่ประการใด

    3. ชื่อตัวละคร  และเหตุการณ์อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนเรื่องจริง โปรดกรุณาทำความเข้าใจด้วยนะคะ

    4.  หากเกิดข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้

     

     

    .

    .

    .

     

                       วันแรกของการเปิดเรียน  = = สภาพผมก็ไม่ต่างจากวันสุดท้ายของการปิดเรียนสักเท่าไหร่  - -*  รู้สึกเหมือนไม่ได้ปิดเทอมยังไงยังงั้น    ห้องใหม่  แต่เพื่อนเก่า  อะไร ๆ ก็เก่า  เหอะ ๆ

     

                      พี่เต้ย ๆๆ  กรี๊ดด  หล่อจังเลยอะ  พี่เค้าหันมามองฉันด้วยอ๊า !!~ “  ผมหันไปตามเสียงแหลม ๆ  เล็ก ๆ  ก็เจอกับเด็กผู้หญิงม.ต้นสองคนยืนชี้โบ้ชี้เบ้มาทางผม  คนมันหล่อก็ต้องมีคนมองเป็นธรรมดา  ชินครับชิน ฮ่า ๆ  

     

                       อ้อ !  โรงเรียนผมไม่ใช่โรงเรียนสหนะครับ  แต่เป็นโรงเรียนหญิงล้วน  ฮั่นแน่  ! แปลกใจกันละสิ่ว่าทำไมเพศผู้อย่างผมถึงมาเดินสะเดิ่งร่อนไปร่อนมาอยู่ในโรงเรียนสตรีล้วน  แถมยังเรียนอยู่ที่นี่ด้วย ! 

     

                       ก็ปกติของโรงเรียนสตรีทั่วไปแหละครับ  ที่เขาจะรับเด็กผู้ชายเข้ามาตอนมอปลายเท่านั้น  บอกตรง ๆ นะโรงเรียนนี้ผู้หญิงสวย ๆ  ก็มีเยอะจนตาลาย  เคยคบมาแล้วก็เคย  แต่ที่ปัจจุบันผมยังโสด ก็เพราะความรู้สึกมันไม่ใช่

     

                       แฮ่ ๆ พล่ามไปเรื่อยเลย  = =   เอาละมาต่อกันที่ปัจจุบัน  ตอนนี้เท้าทั้งสองก็พาผมมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้อง  5.11

     

                       ผลัวะ   !!!!

     

                      ผมยาวนะเมิงง  !!    ไอ้เบียร์ตบหัวที่ไม่ค่อยจะเกรียนซักเท่าไหร่  ( เพราะผมไม่อยากเกรียนมาโรงเรียน  เลยไม่ยอมไปตัด ฮ่า ๆ )  ก่อนจะเดิมเข้าห้องไปพร้อมกัน

     

                      เสียงดังโล๊งเล๊งภายในห้องที่ผมได้ยินตั้งแต่ตอนที่อยู่ข้างนอกพอเข้ามาข้างในแล้ว  อืมม  = =  แมร่งโคตรจะดัง !   ผมหาทำเลเหมาะ ๆ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะริมหน้าต่างกลาง ๆ ห้อง   อันที่จริงตอน ม.4 ผมอยู่ห้อง 2 ครับ  เป็นสายวิทย์  แต่พอขึ้นม.5 ผมก็ทำเรื่องย้ายสายครับ  เพื่อความเป็นเลิศทางศิลปะ = =

     

                       วี๊ด วิ๊วว ~ ! ปีนี้ห้องเรามีหนุ่มฮอตมาอยู่โว้ยย  สงสัยสาว ๆ คงได้แวะเวียนมาไม่ขาดสาย    เสียงเห่าหอนของไอ้พวกตัวผู้ที่เกากีตาร์กันอยู่หลังห้องแหวกอากาศมาตามสาย

     

                          เออ  ช่วยไม่ได้เสรือกไม่หล่ออย่างกูเอง    จะว่าผมหลงตัวเองก็เชิญเถอะ  แต่ผมรับประกันว่าเป็นความจริงแน่นอน หึหึ

     

                        ขณะนี้ได้เวลาเคารพธงชาติ  ขอให้นักเรียนลงมาเข้าแถวได้แล้วคะ   เสียงประกาศของอาจารย์สาว(เหลือ)น้อย  เชื้อเชิญ(เอ๊ะ ! หรือไล่ )พวกผมลงไปเข้าแถวหน้าเสาธงที่สุดจะร้อน  ไอ่เบียร์เดินมาลากคอผมลงไปเข้าแถว  ตามมาด้วยพวกในห้องทยอยกันลงมา

     

                          ตอนนี้ตามทางเดินจึงคลาคล่ำไปด้วยเด็กนักเรียนชายหญิง  ที่กำลังเดินเบียดเสียดกันไปเข้าแถวหน้าเสาธง

     

                          แกร๊ก !!  ตุ้บ !!

     

                          มีบางอย่างตกลงบนพื้น  และ  เอิ่มม  อยู่ตรงเท้าของผมพอดี  ผมก้มตัวลงไปเก็บกระเป๋าสตางค์หนังสีดำ  เฮ้ย ย  !!  ของใครละวะเนี่ยะ  ผมหันซ้ายหันขวามองหาเจ้าของกระเป๋าสตางค์ปริศนาที่ดูท่าจะรักผมม๊ากมาก  เลยมากองอยู่ที่เท้า  (สารภาพครับ รองเท้าของผมใกล้เน่าเต็มที ไม่ซักมาเป็นปีแล้ว  กระเป๋าสตางค์คงด่างพร้อยเพราะรองเท้าผม  )  เอาวะ  ลองถามคนไอ้นั่นดูดีกว่า  มันยืนอยู่ใกล้ผมที่สุดแล้ว  

     

                         เฮ้ !  นาย  ของนายเปล่าวะ ? “  ผมสะกิดเรียกเป้าหมายทันที  และเมื่อผมหันหน้ามันเต็ม ๆ ก็ต้องร้อง อ๋อ  เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าผมคนนี้  ก็ไม่ใช่ว่าจะดังน้อยซะหน่อย มันชื่อเติงครับ  ด้วยใบหน้าขาว ๆ ตาที่ออกจะตี๋ ๆ  และยิ้มละลายใจ (ใจแกหรอ ? : คนแต่ง) วุ้ย ! ไม่ใช่ครับ  สาว ๆ หนะสาว ๆ  ผู้หญิงโรงเรียนนี้เลยปลื้มกันเสียยกใหญ่  แต่ยังไงผมก็หล่อกว่ามันอยู่ดี    เอาละ เข้าเรื่องต่อ  มันทำหน้างง ๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียนสีน้ำตาลของมันควานหาของที่ต้องการอยู่พักใหญ่  จึงยื่นมือมารับ

      

                            อ่า  ขอบใจ ๆ เต้ยป้ะ ? “  ผมพยักหน้าหงึกหงัก แล้ววางกระเป๋าสตางค์บนมือมันที่ยื่นมาแบรอรับอยู่

     

                           เออ คราวหลังก็เก็บดี ๆ ละ  อย่าให้มันร่วงอีก ผมเตือนมันเบา ๆ มันส่งรอยยิ้มพิฆาตใจสาว แน่นอนว่าไม่ใช่ใจผม  เพราะผมเป็นผู้ชายย  ก๊ากก  (เอิ่มม  ไอ่พระเอกของฉันท่าจะรั่ว - - : คนแต่ง)  หลังจากนั้นก็ไม่ได้เสวนาอะไรกันอีกครับ  ผมก็แยกตัวไปหาไอ้เบียร์ที่ยืนรอผมอยู่ ส่วนไอ้เติงก็เดินไปหาเพื่อนมัน

     

     

     

    …..

     

     

                กลางสนามหญ้าและท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ  บรรดานักเรียนชั้นมอต้นจนถึงมอปลายต่างพากันบ่นกรปอดกระแปดกับความร้อนของไอแดด  และอาจารย์ที่พูดยาวเหยียดหน้าเสาธง  แถมบ่นอีกต่างหาก

               

                ผมใช้หลังมือปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก  ตอนนี้ใครเห็นสภาพผมคงคิดว่าเพิ่งอาบน้ำมาแน่ ๆ  เสื้อนักเรียนสีขาวที่ตอนนี้เปียกเหงื่อลู่ไปตามเรือนร่าง  ทำให้เด็กผู้หญิงสองสามคนหันมามองผม  แล้วกรี๊ดในลำคออย่างอดกลั้น  

     

                ผมหันไปตามแรงสะกิดจากทางด้านหลัง   ไอ้เบียร์เรียกให้ผมขยับเข้าไปใกล้ ๆ

     

                มีอะไรวะ ผมเลิกคิ้วถาม

     

                อาจารย์ศิรัตน์หมวดภาษาไทยให้ไปหาตอนเลิกแถววะ    

     

                กูหรอ มึงด้วยป้ะ ? แล้วมีใครไปอีกไหมวะ   

     

                เออ    แล้วก็พวกผู้ชายห้องเรากับห้องอื่นอีกนิดหน่อย   ผมพยักหน้ารับรู้  ไม่นานอาจารย์ที่ยืนบ่นอยู่หน้าเสาธง  ก็ได้ฤกษ์ที่จะปล่อยนักเรียนเข้าชั้นเรียนเสียที  ผมกับเบียร์และเพื่อนผู้ชายในห้องเดินไปที่ห้องพักครูภาษาไทยอาคารแปดตามคำสั่งของอาจารย์ศิรัตน์ 

     

                ผมชอบมากก  ในการเข้าห้องพักครู (ถ้าไม่ติดว่าจะโดนเรียกเพราะแหกกฎน่ะนะ) เนื่องจากว่าแอร์มันโคตรจะเย็น ดูเถอะครับอาจารย์เอาเปรียบนักเรียนขนาดไหน  ขนาดห้องพักยังอยู่ในห้องแอร์ แต่ดูห้องเรียนมีแต่พัดลม   

     

                  อ่าว  มากันครบแล้วใช่ไหม ? “  อาจารย์ศิรัตน์  อาจารย์สาวใหญ่ท่าทางใจดียิ้มเอ็นดูพวกทโมนทั้งหลาย

     

                ครับ   เสียงตอบอย่างพร้อมเพรียง

     

                  ที่ครูเรียกพวกเธอมาเพราะมีเรื่องอยากจะให้ช่วย  นี่ก็ใกล้จะถึงวันสุนทรภู่และมันก็มีการแสดงหน้าเสาธงเป็นประจำอยู่แล้ว  ครูก็เลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากพวกเธอในการแสดงละครสุนทรภู่  เรื่องบทครูจะให้รายละเอียดคร่าว ๆ แล้วจะให้พวกเธอเสริมเติมแต่งกันตามสบาย  แต่อย่าให้มันออกนอกลู่นอกทางเกินไปนะ

     

                ครับ   เสียงขานรับกันอย่างพร้อมเพรียง

     

                อ้อ  นายณัฐภัทร  มานี่ซิ   ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ  ก็นายเติงนี่แหละ  ผมมองมันที่ยืนอยูข้าง ๆ  อาจารย์  มันหันมาเห็นผมก็ทำหน้าเหวอ  ก่อนจะยิ้มให้  ผมเลยต้องยิ้มแกน ๆ ตอบไป

     

                       ครูจะให้นายณัฐภัทรเป็นคนบรรยาย ถ้ามีอะไรก็ให้มาถามเขานะ  แล้วก็ถ้าซ้อมด้วยกันได้ก็ยิ่งดี  จะได้รู้คิวกัน   เอาละ  ก็มีแค่นี้แหละ  พวกเธอก็ตกลงกันเอาเองแล้วกันนะ  ครูขอตัวไปสอนก่อน   

     

                สวัสดีครับ    พวกผมพนมมือไหว้อาจารย์ศิรัตน์  อาจารย์ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป  พวกผมก็โล้งเล้ง ๆ ถามความคิดเห็นกัน และหาเรื่องอู้ไม่ไปเรียนคาบแรกโดยอ้างว่ามาเตรียมการแสดง   เราตกลงคิวของแต่ละคนเสร็จสรรพ  นัดกันมาซ้อมก็ช่วงเย็นของวันพรุ่งนี้    พอออดดังพวกผมก็แยกย้ายกันกลับห้องของแต่ละคน  

     

                ผมกับไอ้เบียร์ขอตัวแยกออกมาก่อน  เพราะไอ้เบียร์มันดันปวดฉิ๊งฉ่อง  เลยลากผมมาเข้าห้องน้ำเป็นเพื่อนมัน

     

                ระหว่างรอไอ้เบียร์เข้าห้องน้ำ  ผมก็ยืนชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ  แต่ก็ต้องสะดุดตากับร่างขาว ๆ  ของไอ้เติงที่เดินกลับมาจากอาคารแปด แล้วเดินตรงมาทางที่ผมกำลังยืนอยู่   ร่างสูงโปร่งเดินอย่างทะมัดทะแมง  แต่เวรกรรมตั้งแต่ชาติปางไหนของมันก็ไม่อาจทราบได้ทำให้มันสะดุดก้อนหินก้อนกระบือ ๆ  ด้วยความสัตย์จริงของกฎนิวตันที่ว่าด้วยเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก  จึงทำให้หน้ามันโน้มลงไปใกล้พื้นดิน 

     

                ผมซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่นานก็คว้าแขนขาว ๆ ของเติงอย่างรวดเร็ว 

     

                  เฮ้ย ๆๆ จะจูบกับดินรึไง  ! พิศวาสมันจังเนอะ  ระวังหน่อยดิ    ผมพยุงตัวคนซุ่มซ่ามให้ยืนตรง ๆ กับเขาหน่อย  มันยิ้มแหยๆ ให้ผม

     

                  ขอบใจเต้ยมากนะ  วันนี้เต้ยช่วยเรามาตั้งสองหนแล้ว  เอาไว้เราจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทนแล้วกัน   

     

                เฮ้ย ! ไม่เป็นไรหรอก  ไม่ต้อง ๆ    ผมโบกม้ายโบกมือเป็นการปฏิเสธ  แต่อีกคนท่าจะไม่ยอมยึดแขนผมไว้  ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม

     

                ไม่เอาน่าถือว่าเป็นการตอบแทนเล็กน้อย ๆ ก็แล้วกัน   มันทำหน้าอ้อนวอน  โหยย นี่เมิงอยากจะเสียตังจนตัวสั่นเลยรึไงเนี่ยะ  ผมถอนหายใจอย่างปลง ๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบมันไป

     

                มันยิ้มกว้างก่อนจะเอ่ยปากลาเดินไปตึกเรียนของมัน  เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอ้เบียร์เดินออกมาจากห้องน้ำ 

     

                สุดไหมละครับคุณเอี้ยเบียร์  เป็นชาตินะกว่าจะออกมาเนี่ยะ

     

                โหย   แค่กรูทำธุระนาน  เห็นมีเพื่อนคุยด้วยไม่ใช่หรอ จะบ่นหาพระแสงของ้าวไปทำไมเนี่ยะ เอ้อ ว่าแต่  มึงไปสนิทกับไอ้เติงได้ไงวะ

     

                 สนิทห่ะไรเล่า  กูแค่ช่วยมันตอนจะล้มหัวทิ่มแค่นั้นเอง  ก็เลยคุยกันนิดหน่อย

     

                ฮั่นแน่ ! มีอะไรไม่บอกกูนะ   

     

                พอ    ไปไกลละมึง ขึ้นห้อง ๆ  เดี๋ยวจะได้ตายหมู่

     

                ทำไมต้องหมู่วะ จ่าไม่ได้หรอ

     

                กวนตีนละสัด  ไป ๆๆ    ผมลากคอไอ้เบียร์ขึ้นห้องก่อนที่จะกินเวลาคาบสองนานกว่านี้

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    _______________________________________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×