ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามีส้มหล่น

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ ๒/๒

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 441
      10
      31 ก.ค. 61

            ประมุขแห่งเรเอสโนออกปากแค่นั้น ท่านก็หมุนกายก้าวออกไป ปล่อยให้แก้วตาดวงใจทั้งสามคนต้องพ่นลมหายใจทิ้ง หันมามองหน้ากันและกันอย่างครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป เธอทั้งสามจะเฟ้นหาผู้ชายดีๆ มาเป็นคู่ชีวิตได้ที่ไหน แค่มองไปเบื้องหน้าก็เจอทางตันจนต้องแอบยกแขนปาดเหงื่อ

            “พี่นิ่มจะทำยังไงคะ” ชาลินาเอ่ยถาม พลางถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม “เราต้องช่วยพี่นิ่มก่อน เพราะพี่นิ่มมีเวลาน้อยที่สุด”

            “จะทำยังไงได้ล่ะ ก็คงต้องหาผู้ชายสักคนมาอุปโลกน์ เหมือนที่เราคิดกันตั้งแต่แรกนั่นแหละ”

            “ใครจะยอมเป็นคนๆ นั้นคะ” น้องนุชสุดท้องออกความเห็น “แล้วเราจะไว้ใจเขาได้สักแค่ไหน”

            “น้ำ...”

    พี่คนโตเอ่ยปากเรียก “นี่เราเริ่มรู้จักคิดรอบคอบแล้วนะ พี่ดีใจจัง ถึงแม้จะอยู่ในช่วงวิกฤติแบบนี้ แต่มันก็มีเรื่องดีๆ เข้ามา อย่างเช่นตอนนี้ไง น้ำรู้จักคัดค้านคุณพ่อ รู้จักมองโลกในอีกแง่มุม”

            คนถูกชมได้แต่คลี่ยิ้มจืดๆ ก่อนจะเดินไปโอบเอวพี่สาวคนโตไว้หลวมๆ อึดใจชาลินาก็เดินเข้ามากอดอีกคน เป็นอันว่าสามคนพี่น้อง หน้าตาสละสลวยต่างก็มอบความรักที่เข้มข้นตามประสาเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน ให้กำลังใจกันและกันด้วยความอบอุ่นซึ่งมันจะไม่มีทางถูกบั่นทอนลงเลย ไม่ว่าจะเผชิญปัญหาที่ยิ่งใหญ่สักเพียงใด

           

            “ค้นให้ทั่ว”

            เสียงห้าวตะเบ็งสั่งการอยู่บนเรือขนาดใหญ่ ลูกสมุนนับยี่สิบนายดำผุดดำว่ายอยู่กลางผืนทะเล โดยมีนักดำน้ำมืออาชีพเป็นหัวหน้าชุด นับสิบชั่วโมงเต็มแล้ว ที่ทุกคนดำดิ่งควานหาร่างของผู้เป็นเจ้านายซึ่งอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย

            “ไม่มีวี่แววจะเจอคุณฟาร์เชสอีกหรือไง!

    ราอูล ซิลบาสร้องถามลูกน้อง ใบหน้านั้นคร่ำเคร่งเป็นกังวล การที่ทายาทคนเดียวแห่งฟรานติการ์เซียสอยู่ท่ามกลางอันตรายแบบนี้ ล้วนสร้างความโกลาหล จนคนในองค์กรนับพันนั่งแทบไม่ติด ต้องระดมพลตามหาตามชายฝั่งรอบอ่าว

            “ผมว่า...บางที...” คนที่โผล่พรวดขึ้นมาจากผิวน้ำ ปาดป้ายคราบน้ำทะเลเค็มปร่าออกจากเสี้ยวหน้า “คุณฟาร์เชสอาจจะ...”

            “อาจจะทำไมหา!

            “อาจจะตายไปแล้วก็ได้นะครับ ร่างคงถูกไฟไหม้จนเป็นผุยผง”

            ดวงตาคมของราอูลเบิกกว้างด้วยไฟโกรธ ใบหน้าเหี้ยมเกรียมบึ้งตึง ก้าวอาดๆ ไปประชิดตัวคนปากเสียเมื่อครู่ ท่ามกลางการลอบกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกของลูกน้องนับห้านายที่พร้อมใจกันแหวกทาง อึดใจเดียวก็ได้เห็นอุ้งมือกำยำบีบคางสากของร่างเปียกปอนขึ้นมาเผชิญหน้า ออกแรงเสียจนอีกฝ่ายเริ่มหน้าเขียว

            “แกกล้าดียังไง พูดจาหมาๆ แบบนี้ฮ้า!

            โอ๊ย....คุณราอูล...ผม...เจ็บ...” เจ้าของคางสากกล่าวกระท่อนกระท่อน

            “เจ็บเหรอ ปากเสียแบบนี้ มันน่าจะจับไปโยนให้ฉลามกินยิ่งนัก” ว่าพลางเหวี่ยงร่างของลูกน้องปากดีทิ้ง จนล้มเค้เก้ลงกับพื้นเรือที่เปียกชื้น พร้อมข้อหาหมั่นไส้จนทำให้ปลายเท้าหนักๆ ยันไปโครมใหญ่ ก่อนจะหันไปตวาดจนคนอื่นๆ ให้หัวหดไปตามๆ กัน

    “พวกนายหาคุณฟาร์เชสให้เจอ ไม่อย่างนั้นอย่าได้โผล่ขึ้นมาบนเรือเชียว พ่อจะยิงทิ้งให้หมด”

            สิ้นคำสั่งนั้น คนที่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ ถึงกับรีบดำดิ่งลงไปควานหาเจ้านายหนุ่มเสียแทบไม่ทัน ผ่านพ้นไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ทีมดำน้ำที่ผลัดเปลี่ยนกันลงไปเริ่มระโหยโรยแรงจนแทบคลานขึ้นเรือนั่นแหละ คนสั่งการถึงได้ยอมให้พักเหนื่อย แต่การค้นหายังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันก็ตาม

            “คุณราอูลครับ” ชายหนุ่มบึกบึนวัยสามสิบแปดปีเรียกขึ้น

    “มีอะไรอีก เจอคุณฟาร์เชสแล้วหรือ”

            “เปล่าครับ” อีกฝ่ายส่ายหน้าดิก แล้วหยิบยื่นวิทยุสื่อสารมาให้ “จากท่านคาร์ฟครับ”

            ราอูลพยายามทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด แม้กระดูกสันหลังจะเสียววาบๆ ก็ตาม

    “ครับท่าน”

            “พบตัวหลานชายของฉันหรือยังราอูล” คำถามจากต้นสัญญาณเต็มไปด้วยความร้อนรน

            “ยังครับท่าน แต่ผมจะพยายามให้สุดความสามารถ”

            “จำไว้นะ ถ้าหลานฉันเป็นอะไรไป นายต้องชดใช้ราอูล”

    คาร์ฟ ฟรานติการ์เซียส ชายชราวัยเจ็ดสิบเก้าปีกล่าวด้วยเสียงแหบเครือ ตั้งแต่ท่านทราบข่าวว่าหลานชายเกิดเรื่อง บัดนี้ยังข่มตานอนไม่หลับ อาหารแทบไม่ตกถึงท้อง ส่งผลให้ผู้คนทั้งคฤหาสน์ฟรานติการ์เซียสซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองมาดริด อลหม่านไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

            อาการหมองเศร้าเคลื่อนเข้าครอบคลุมดวงหน้าของหนุ่มใหญ่ในทันที อยากรู้เหลือเกินว่าความจริงแล้ว ฟาร์เชส ฟรานติการ์เซียสนั้นเป็นหรือตายกันแน่ แต่ด้วยสภาพเหตุการณ์ที่เห็นด้วยตาตัวเอง ความกลัวลึกๆ มันก็เริ่มกัดกินชีวิตของราอูลไปทีละนิดๆ แสงไฟลุกโชติหลังจากถูกอาร์พีจีถล่มลงกลางลำเรือ จนเผาไหม้วอดวายและเหลือเพียงเศษเล็กที่หล่นลงสู่ก้นบึ้งทะเล มันเป็นไปได้อย่างยากยิ่งที่คนเป็นนายจะมีชีวิตรอด ยกเว้นก็เพียงมีปาฏิหาริย์เท่านั้น


    ฝากฟาร์เชสด้วยนะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×