ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามีส้มหล่น

    ลำดับตอนที่ #12 : เรารักกันจริงๆ นะ (๑)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 459
      7
      9 ส.ค. 61


            “คุณหนู!

    ปลายเท้าที่มุ่งหน้าไปยังห้องพักบอดี้การ์ดในโซนด้านหลัง ถึงกับหยุดชะงักกึก ชาลิญากะพริบตาปริบๆ เธอต้องไปสร้างเรื่องราวให้กับเป้าหมายรับทราบเพียงลำพัง เพราะชาลินานั้นเกิดมีนัดปัจจุบันทันด่วนขึ้นมา นาทีนี้จึงได้หมุนกายมาเผชิญหน้ากับบอดี้การ์ดคนสนิท โดยไม่ลืมแอบซ่อนพิรุธภายใต้ใบหน้าบึ้งๆ

    ขณะบอดี้การ์ดหนุ่ม กราดมองคุณหนูที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างสำรวจตรวจตรา ไม่นานก็โพล่งขึ้น

            “คุณหนูใหญ่! ไปกินอะไรผิดสำแดงมาครับ ถึงได้ลุกขึ้นมาแต่งตัวแบบนี้” ยอร์ช เคสร้องทัก ชายหนุ่มเดินอ้อมดูคุณหนูผู้ห้าวหาญและทะมัดทะแมงราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง อยากรู้นักว่าคุณหนูนิ่ม ซึ่งมือหนักเท้าหนัก นึกยังไงถึงได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนชุดจากเสื้อกล้ามและกางเกงยีนสีเข้ม มาใส่กระโปรงผ้านิ่มอวดเรียวขาเนียนๆ จนการ์ดหลายนายเหล่ตามองแทบคอเคล็ดแบบนี้

            “นายยุ่งอะไรด้วย” ชาลิญาเริ่มหน้าตึง แทบจะควักลูกกะตากลมๆ ของคนสนิทเอามาเหยียบเล่น “แล้วเลิกมองฉันแบบนั้นสักที ทำเหมือนไม่เคยเห็นไปได้”

            “ก็ไม่เคยเห็นจริงๆ นี่ครับ” คนสนิทรีบแย้ง “ว่าแต่คุณหนูจะไปไหนครับ ผมขอตามประกบเช่นเคย”

            “บอกว่าอย่ายุ่งไง” เมื่อถูกเซ้าซี้จึงชักสีหน้าใส่

    “จะไปไหนก็ไปเลย...ชิ่ว!

    มือเล็กบางนั้นยกไล่กลายๆ ก่อนจะเดินปรี่ไปยังห้องพักคนงาน ทว่าก็เจอคนตัวโตมายืนกางแขนกางขาขวางกั้น หนำซ้ำยังทำหน้ายียวนกวนประสาทใส่อีก

            “ถ้าคุณหนูไม่บอก ผมก็จะไม่หลบ”

            “อยากตายหรือไงฮ้า!” ชาลิญาเริ่มเดือด ดวงตากลมๆ สีชานั้นเมียงมองหาอาวุธร้าย หวังจะฟาดหน้าการ์ดหนุ่มให้พังยับ แต่ไม่นานใบหน้านั้นก็มีรอยยิ้มจางๆ ระบายเกลื่อน ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หากติดแววเจ้าเล่ห์ “อยากรู้ว่าฉันจะทำอะไรก็เดินตามหลังมา ถ้าไม่อยากรู้ก็ไสหัวกลับไปทำงาน เข้าใจไหมฮ้า!

            ว่าจบเจ้าของปากกรรไกรบาดคม ก็เดินลิ่วๆ หนีห่าง ปล่อยให้ยอร์ช ต้องขยับมือตบท้ายทอยอย่างงงๆ สุดท้ายบอดี้การ์ดผู้เคารพและเป็นห่วงเจ้านายสาวก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปทันที ยิ่งเข้าใกล้จุดมุ่งหมาย คิ้วเข้มๆ ของยอร์ชก็พุ่งเข้าชนกันด้วยความสงสัย ก่อนจะตกใจเป็นเท่าทวีเมื่อเจ้านายสาวหายเข้าไปในห้องพักที่เขาคุ้นเคย เพราะเคยแอบมานั่งดื่มเหล้ากับสองหนุ่มเจ้าของห้อง

            “คุณหนูใหญ่มาทำอะไรที่นี่” ครางถามตัวเองในใจ แล้วรีบแทรกกายตามติด ก่อนจะยืนตัวแข็งเป็นหิน เมื่อสายตาปะทะกับร่างกำยำที่เพิ่งจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ถูกปั้นแต่งให้หล่อเหลาราวกับเทพบุตร หุ่นก็บึกบึน แผงอกกว้างดูกำยำจนยอร์ชแอบอิจฉา

            ชาลิญากำลังกัดปากอิ่มของตัวเองแน่น ดวงตากลมๆ เหลือบมองหน้าบอดี้การ์ดสองหนุ่มที่นั่งนิ่งๆ อยู่บนโต๊ะปลายเตียง โดยไม่ลืมหันมามองคนสนิทของตัวเองที่ก้าวเข้ามายืนเคียงข้าง ยอร์ชกำลังส่งสายตาเป็นเชิงถาม ว่าคนบนเตียงนี้คือใคร เธอจึงรีบคลี่ยิ้มกว้างๆ

            “เดวิดคะ”

    ชื่อเรียกขานที่คิดขึ้นปัจจุบันทันด่วน หลุดผ่านกลีบปากอิ่มเต้นระริก ร่างอ้อนแอ้นหย่อนสะโพกนั่งข้างๆ คนเจ็บ มือเล็กบางวางทาบกับท่อนแขนกำยำพร้อมลูบปลายนิ้วเบาๆ “เดวิดอาการเป็นยังไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ถามพร้อมกับขยับฝ่ามือลูบไล้ไปตามร่องรอยของบาดแผล ที่กระจายไปตามเรือนร่างกำยำ คนถูกแตะต้องตัวถึงกับย่นคิ้วเข้าประสานกัน

            เธอคิดจะทำอะไร” ฟาร์เชส ฟรานติการ์เซียสมองหญิงสาวด้วยความระแวดระวัง อดขยาดกับชื่ออภิมหาเชยที่เธอเรียกไม่ได้ เดวิด ทั้งโลกคงมีนับหมื่นคนกระมัง ขณะเดียวกันที่ได้รับสัมผัสนุ่มๆ ไปตามเนื้อตัว หัวใจแกร่งพลันแอบเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะกลิ่นเย้ายวนรวยรินต้องจมูกจนลำคอแห้งผาก จากที่เห็นใส่ชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงแนบเนื้อ เขายังอยากจะกลืนกินเธอ ตอนนี้มาแต่งตัวหวานๆ แต่แอบเซ็กซี่ คนที่ใช้ผู้หญิงเปลืองจึงลักลอบสำรวจเรือนร่างกลมกลึงซึ่งน่าลูบไล้ทั้งเนื้อทั้งตัว จนอยากจะจับเธอกลับไปรับทัณฑ์สวาทของตัวเองที่มาดริดขึ้นมาซะดื้อๆ

            “เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ นิ่มขอโทษนะคะ” ดวงตากลมๆ สีชาฉาวแววหมองหม่นให้เห็น

    “ก็นิ่มโกรธ เพราะคุณฟื้นขึ้นมา แล้วคุณก็จำนิ่มไม่ได้ ทั้งๆ ที่เราสองคนจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นิ่มเสียใจจริงๆ นะคะ กลัวว่าคุณจะทิ้งนิ่มไปมีคนอื่น จะไม่รักนิ่มแล้ว ปวดใจค่ะ นิ่มปวดใจ!” เธอเอ่ยยาวเหยียดพลางบีบน้ำตาให้ไหลอาบแก้มนุ่ม ไม่ลืมคว้ามือใหญ่ข้างซ้ายมาลูบแก้มนวลตัวเองแผ่วๆ ขณะที่คุณหนูใหญ่ของบ้านกล่าวออกไปแต่ละคำ เล่นเอาบอดี้การ์ดสามหนุ่มต้องหันมามองหน้ากันจนตาแทบถลนออกนอกเบ้า ใบหน้าแต่ละคนเขียนคำว่างวยงงเต็มไปหมด

            “เดวิดจำนิ่มได้หรือยังคะ นิ่มคือคนรักของคุณนะ”

            คนรัก

    มาเฟียหนุ่มแห่งสเปนครวญอยู่ในอก อยากรู้เหลือเกินว่าตัวเองไปเป็นคนรักของเธอตั้งแต่เมื่อไร จำได้ว่าตั้งแต่เกิดมาคำว่ารัก เขายังไม่เคยเอ่ยปากกับผู้หญิงคนไหนเลยสักครั้ง ไม่ว่าเธอจะสวยหยาดฟ้ามาดิน หรือมอบความบริสุทธิ์ผุดผ่องให้เขาเป็นคนแรก ทุกคนที่ผ่านมาก็ได้ชื่อแค่ว่าเคยร่วมเตียง เป็นได้เพียงนางบำเรอที่มีไว้ฟาดฟันสวาทก็เท่านั้น แล้วนี่...คืออะไร

            “เดวิดคะ คุณอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ หรือว่าคุณจำนิ่มไม่ได้จริงๆ” นางเอกละครดังทำตาปริบๆ “อีกไม่ถึงสามเดือนงานแต่งของเราก็จะมีขึ้นแล้ว แต่ดูคุณสิ ใจร้ายกับนิ่ม...”

            “คุณหนู!

    ก่อนที่ชาลิญาจะกล่าวจบ การ์ดคนสนิททนไม่ไหว จึงขอล่วงเกินด้วนการคว้าแขนเล็ก รั้งร่างอ้อนแอ้นของคุณหนูใหญ่แห่งเรเอสโนมายืนใกล้ๆ แล้วถามด้วยเสียงกระซิบกระซาบ “คุณหนูคิดจะทำอะไรครับ”

            “อยู่เฉยๆ เถอะน่า”

    ตอบด้วยเสียงรอดไรฟัน “ถ้านายไม่ฟังคำสั่ง ฉันจะจับนายไปถ่วงทะเล”

    ข่มขู่ด้วยนัยน์ตาขุ่นคลั่ก ก่อนจะรีบไปทรุดนั่งข้างๆ เหยื่อรูปงามที่ตกเป็นเป้าหมายของตัวเองทันที แววตาหวานเยิ้มมองร่างกำยำด้วยความเสน่หา พร้อมซบใบหน้าเข้ากับไหล่แข็งแรง ปานแมวเหมียวตัวน้อยกำลังออดอ้อนผู้เป็นเจ้าของ

            ชายหนุ่ม ในตำแหน่งทายาทอำนาจมืดแห่งสเปน วัยสามสิบห้าปี กำลังทำหน้าฉงนสนเท่ห์อย่างหนัก หางตาเหลือบมองเจ้าของผมนุ่มสลวยด้วยความไม่เข้าใจ อยากจะบอกไปเหลือเกินว่าตัวเองจำทุกอย่างได้ แต่...ถ้าทำแบบนั้นไม่รู้ว่าเขาจะได้ผลตอบแทนเช่นไร เพราะก่อนหน้านี้โดนกำปั้นกระแทกใส่หน้า มันก็เจ็บเอาเรื่องทีเดียว และดูท่าทางที่นี่คงไม่ใช่บ้านของคนธรรมดาทั่วไปซะแล้ว

            การแต่งกาย การเรียกขาน มารยาททุกอย่างฟังดูก็รู้ว่าผู้หญิงที่ซบไหล่ของเขาอยู่นี้ เธอดูยิ่งใหญ่ไม่หยอกทีเดียว นาทีนี้ฟาร์เชส ฟรานติการ์เซียส จึงได้แต่นั่งนิ่งเป็นหุ่น หัวคิ้วปื้นใหญ่นั้นแอบย่นเข้าหากันแล้วคลายออก

            “ผม...ผมชื่ออะไรนะครับ”

    เจ้าของปากได้รูปเอ่ยถามชิดกระหม่อมบาง ขยับฝ่ามือมาลูบไล้ต้นแขนเล็กเนียนอย่างฉวยโอกาส ปากหยักนั้นลอบยิ้มด้วยความพึงใจกับความเนียนนุ่มที่ตัวเองได้สัมผัส

            ชาลิญากำลังกัดฟันกรอด เพราะอุ้งมือใหญ่ที่ขยับแผ่วๆ อยู่บนต้นแขนเนียนๆ นี้ ทำให้หัวใจเล็กๆ ภายในอกของเธอเต้นโครมครามขึ้นเรื่อยๆ ร้อนจนต้องรีบผละห่างจากบ่าบึกบึน ปัดป้ายมือใหญ่ทิ้ง พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่รุนแรง ทั้งๆ ที่ใจจริงเธออยากจะบิดแขนเขาแล้วหักเป็นสองสามท่อน

            คิ้วเข้มยังคงเลิกขึ้นรอคำตอบ ตีสีหน้าและแววตาให้ใสซื่อ ประหนึ่งว่าตัวเองกำลังความจำเสื่อมจริงๆ พลางนึกอยากจะปรบมือดังๆ ให้กับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น

            “คุณชื่อเดวิดค่ะ ส่วนฉันคือคือชาลิญา เรเอสโน หรือนิ่ม ผู้หญิงที่เป็นเจ้าของหัวใจคุณ” เจ้าของปากอิ่มกล่าวด้วยเสียงฉะฉาน วางมือเล็กทาบทับหน้าอกแกร่งด้านซ้าย ชี้บอกเขา ว่าเธอเป็นคนที่เขารักเพียงคนเดียว

            ชาลิญา เรเอสโน

    พระเจ้า! ชายหนุ่มถึงกับร้องลั่นอยู่ในอก ผู้หญิงคนนี้คงเป็นหนึ่งในสาม ของลูกสาวสุดรักสุดหวง ของมาเฟียเฒ่าแห่งดูไบ ผู้ชายมากกว่าค่อนโลกต่างอยากรู้จักชิดเชื้อ หนำซ้ำยังอยากครอบครองหัวใจของพวกเธอ เพราะว่ารูปโฉมที่งดงามบวกกับสมบัติมากมาย ไหนจะอำนาจมืดของมาเฟียเฒ่าที่เป็นของล่อใจชิ้นดี และตัวเขาเองยอมรับว่าตลอดเวลาที่ก้าวขาเข้ามาในวงการมืดนี้ เขาก็อยากจะเห็นดวงหน้างามๆ อยากเป็นหนึ่งของผู้ชายหลายร้อยพัน

            ฟาร์เชสกำลังไตร่ตรองสองจิตสองใจ เขาจะลงเล่นเกมเป็นคนรักจอมปลอมกับผู้หญิงตรงหน้า หรือว่าจะหาทางกลับสู่ดินแดนของตัวเอง หากคิดจะหนีไปตอนนี้ ต่อให้ที่นี่เป็นกรงขังชั้นยอด เขาก็ไม่คิดจะหวาดหวั่น แต่หากเขาไปก็จะพลาดโอกาสในการใกล้ชิดเธอ ผู้หญิงที่ชายค่อนโลกหมายปอง เอาเถอะ! ในเมื่อเธออยากเล่นเกมนี้ เขาก็จะเสียเวลาเล่นเป็นเพื่อนชั่วคราว

            “เรารักกันหรือ”

    ชายหนุ่มแสร้งถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ “ผมรักคุณจริงๆ อย่างนั้นหรือ...”

            “จริงสิคะ” ชาลิญารีบพยักหน้าหงึกหงัก ทำหน้าตาให้ดูจริงใจที่สุด เมื่อเห็นคิ้วเข้มยังคงขมวดมุ่นอยู่ระหว่างความเชื่อและไม่เชื่อ พริบตาเดียวปลายจมูกเชิดรั้นก็จมลงไปกับแก้มสากระคาย ท่ามกลางความตกตะลึงของสามหนุ่มบอดี้การ์ด

    ด้านคนที่ถูกหอมแก้มโดยไม่ทันตั้งตัว ตกอยู่ในอาการตาเบิกกว้าง ร่างกำยำนั่งแข็งทื่อเป็นหิน ไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าหาญทำอะไรขนาดนี้ หากเพียงเสี้ยวลมหายใจ ปากหยักก็ยกยิ้มน้อยๆ ด้วยความเจ้าเล่ห์ แล้วถือโอกาสโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เจ้าของจมูกเชิดรั้น มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าเล็ก สบดวงตากลมโตตาไม่กะพริบ ก่อนจะแนบปากร้อนๆ เข้ากับริมฝีปากบางสวยของ      ชาลิญาแผ่วเบา แต่แสนเนิ่นนาน

    ดวงตากลมๆ สีชาของหญิงสาวจึงเบิกกว้างแทบถลนออกนอกเบ้า เธอรีบยกมือเล็กบางดันแผงอกกว้างให้ออกห่าง อยากจะฟาดกำปั้นใส่ปากหยักนั้นแรงๆ ยิ่งนัก แต่ก็ทำได้เพียงกัดฟันกรอดๆ แล้วถลึงตาสีขุ่นใส่ ก่อนจะหมุนกายแล้ววิ่งเร็วๆ ออกจากห้อง โดยมีคนสนิทอย่างยอร์ช เคสวิ่งโร่ตามติดไม่ลดละ ปล่อยให้สองหนุ่มบอดี้การ์ดจ้องมองหน้าหล่อๆ ของฟาร์เชสนัยน์ตาขวางขุ่น

                   

            “คุณหนู! นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”

            อุ้งมือใหญ่ของยอร์ช คว้าหมับเข้าที่มือนุ่มของชาลิญาทันที คิ้วเข้มๆ เลิกขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ ตกตะลึง และคาดไม่ถึง

    “ทำไมคุณหนูถึงได้พูดเรื่องพรรค์นั้นออกไปครับ”

            “นี่ยอร์ช ฉันเจ็บนะ!

    เจ้าของมือร้องใส่หน้า ก่อนจะสะบัดแรงๆ ให้พ้นการกอบกุม “นายอยากรู้ใช่ไหม ได้สิ ฉันจะเล่าให้ฟัง”

    เอ่ยพลางสูดหายใจเข้าเต็มปอด “คุณพ่อจะให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ท่านเลือกให้ แต่ฉันไม่ยอม ฉันจึงต้องหาใครสักคนมาอุปโลกน์ว่าเป็นแฟน ทีนี้นายเข้าใจหรือยังฮ้า!” หญิงสาวตะเบ็งใส่ด้วยความหงุดหงิด แล้ววางมือทาบทับที่แขนกำยำของคนสนิท “เพราะฉะนั้น นายต้องช่วยฉัน ทำยังไงก็ได้ให้ผู้ชายคนนั้น จดจำได้ว่าฉันคือแฟน คือคนรักของเขา เข้าใจไหม!

    “ทำไมต้องเป็นเขาล่ะครับ”

    ยอร์ชถามเสียงเข้ม “ทำไมไม่เป็น...” ผม คำๆ นี้ก้องอยู่ในหัว แต่ก็อ้อมแอ้มบอกไปตรงกันข้าม “เป็นคนอื่น นักธุรกิจ ดารา นายแบบ ใครก็ได้ แต่หมอนั่นเป็นใครคุณหนูรู้จักหรือครับ”

    “ฉันไม่รู้หรอก ฉันช่วยเขามาจากการจมน้ำในท้องทะเล เขาความจำเสื่อม มันก็ง่ายไม่ใช่เหรอ ที่จะสร้างเรื่องราวใหม่ ในเมื่อเขาจำอะไรเดิมๆ ไม่ได้ ฉันว่าเขานั่นแหละเหมาะที่สุดแล้ว”

    “คงจริงมั้งครับ หน้าตาเขาก็หล่อทีเดียว”

    ยอร์ชบอกด้วยใบหน้ายิ้มปนเศร้า “ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว ผมจะช่วยคุณหนูเอง”

    “ดีที่สุด ฉันคิดไว้แล้วว่านายต้องช่วยฉันได้ ก็นายออกจะรักและซื่อสัตย์กับฉันนี่จริงไหมฮึ!

    “ก็คุณหนู คือคนที่ผมต้องดูแลด้วยชีวิตนี่ครับ”

    ดวงตาคนพูดสื่อถึงความรู้สึกที่ซ่อนลึกในหัวใจมานับสิบปีเต็ม ปากหยักคลี่ยิ้มน้อยๆ หากสุดท้ายได้แต่ก้มมองแค่ปลายเท้าตัวเองเท่านั้น ถึงแม้ยอร์ช จะพยายามหักใจ ไม่คิดเกินเลยกับคุณหนูใหญ่แห่งเรเอสโน แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่ง เพราะไม่ว่าใครก็ตาม ที่ได้ใกล้ชิดเธอ ก็ต้องหลงเสน่ห์ความน่ารักจนยากจะถอนตัว

    ดอกฟ้า

    ไกลเกินเอื้อมมือ แต่ขอให้ได้เห็นเธออยู่ในสายตา เห็นเธอยิ้ม เห็นเธอมีความสุขในแต่ละวัน แค่นี้ก็เขาก็พอใจมากแล้ว ไม่ว่าจะถูกสั่งให้ไปตายเขาก็ไม่คิดจะขยับปากคัดค้าน แต่...การที่จะเห็นคนที่ตัวเองแอบรัก สนิทสนมกับชายอื่น ยอร์ชเริ่มเจ็บหนึบไปทั้งหัวใจเหลือเกิน

    “ขอบใจนะที่นายอยู่ข้างฉัน”

    คนพูดบีบแขนกำยำเบาๆ แล้วฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยมือแล้วเอียงคอขบคิด “เรามาคิดกันดีกว่าว่าจะทำยังไง ให้แฟนจอมปลอมของฉันเชื่อมั่นว่าฉันเป็นคนรักของเขา และเราจะทำยังไงให้คนอื่นเชื่อไปด้วย”

    “ก็คงทำทุกอย่างให้สมจริงที่สุด เริ่มต้นด้วย ย้ายที่อยู่ของเขา”

    “ย้ายที่อยู่หรือ...” คิ้วเล็กนั้นเลิกขึ้น “แล้วฉันจะให้เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ”

    “ตึกรับรองครับ” ยอร์ชกล่าวเสียงแผ่ว

    “ตึกรับรอง!

    ชาลิญาร้องลั่น สถานที่ที่ถูกกล่าวถึงคือด้านในสุดของบ้าน จัดเตรียมไว้สำหรับแขกที่มาเยี่ยมเยือน ถ้าจะให้เขาเข้าไปพักที่นั่น เธอต้องแนะนำผู้ชายคนนี้ให้กับทุกคนทั้งบ้านได้รู้จักอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดโปงว่าเขาคือคนรัก ซึ่งอีกไม่นานเธอจะแต่งงานกับเขาในไม่ช้านี้

    “มีที่อยู่ แล้วก็ต้องปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้เหมาะสม” คนสนิทเอ่ยอีกครั้ง ไม่ลืมพ่วงคำชมปนประชดในประโยคต่อมา “แต่หมอนั่นใส่อะไร ก็คงจะดูดีไปหมด”

    “เรื่องแต่งกายน่ะง่ายมาก นายก็ไปกว้านซื้อชุดที่เหมาะกับเขามาก็แล้วกัน”

    คนถูกสั่งได้แต่พยักหน้าน้อยๆ “ไว้ผมจะจัดการให้ครับ”

    “แต่ฉันจะทำยังไง ให้หมอนั่นเชื่อว่าตัวเองคือเดวิดและเป็นคนรักของฉันจริงๆ”

    “เท่าที่เห็นเมื่อครู่ มันก็ไม่น่าจะยากอะไร”

    คำตอบของคนสนิท ทำให้แก้มนวลร้อนผ่าวขึ้นมาซะดื้อๆ ปลายนิ้วเล็กเผลอไผลจนถึงขั้นขยับมาลูบแผ่วๆ บนกลีบปากเต้นระริกซึ่งถูกชายแปลกหน้าที่เธออุปโลกน์ว่าเป็นคนรักครอบครอง เมื่อช้อนสายตาขึ้นแล้วเห็นการ์ดหนุ่มจ้องอยู่ หญิงสาวจึงผลักความรู้สึกนั้นทิ้งออกไป

    “เอาเป็นว่า นายไปจัดการเรื่องส่วนประกอบอื่นๆ ให้เรียบร้อย ส่วนฉันจะทำให้เขาเชื่อว่าฉันคือคนรักของเขาก็แล้วกัน”

    “ได้ครับ”

    คนตอบรับค้อมศีรษะให้เล็กน้อย ก่อนจะขอตัวไปจัดการตามคำสั่งนั้นอย่างรวดเร็ว

    คล้อยหลังบอดี้การ์ดหนุ่ม ชาลิญาก็ทำหน้าหงิกงอ พลางไหวไหล่ ก่อนปลายเท้าเล็กจะเดินเร็วๆ กลับเข้าสู่ตัวบ้าน ตลอดเส้นทางนั้นสร้างความแปลกตาและแปลกใจจนการ์ดหลายนายมองตามจนคอแทบเคล็ด คุณหนูใหญ่จึงแยกเขี้ยวใส่ เมื่อทนไม่ไหว ปลายเท้าเล็กๆ ก็จ้ำอ้าวเข้าไปใกล้ ใช้ไหวพริบเหนือกว่าคว้าเอาปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลังการ์ดหนึ่งนายมาชี้กราดใส่ทุกๆ คนที่มอง

    “พวกนายกล้ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้ อยากตายหรือไงฮ้า!

    “พวกเราขอโทษครับคุณหนู” การ์ดนับห้านายพร้อมใจกันเอ่ยตะกุกตะกัก “พวกผมแค่ไม่มั่นใจว่าเป็นคุณหนูใหญ่หรือคุณหนูรอง”

    “ทำไม” คนถามทำตาดุ

    “ก็คุณหนูสวยแปลกตานี่ครับ” ผู้ใจกล้ารีบก้มหน้างุดๆ เอียงตัวหลบวิถีกระสุน

    “ถึงฉันจะสวยหรือไม่สวย พวกนายก็ห้ามมอง ใครกล้าหลุกหลิกมองฉันแบบนี้อีกละก็ ฉันจะควักลูกกะตาของพวกนายมากระทืบเล่น เข้าใจไหมฮ้า!” ว่าจบปืนในมือก็ถูกขว้างคืนผู้เป็นเจ้าของ แล้วเดินปั้นปึ่งกลับเข้าสู่ตัวบ้าน

    “เฮ้อ...นึกว่าจะตายซะแล้ว”

    คล้อยหลังเจ้านายสาว การ์ดหนึ่งหนุ่มก็ครวญแผ่วๆ

    “อืม...ถึงการแต่งกายจะแปลกตา แต่นิสัยเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน คุณหนูใหญ่จะเหี้ยมโหดไปไหน” อีกคนสำทับขึ้นลอยๆ

    “สวย ดุ บรื๋อๆ” การ์ดห้านายในละแวกเดียวกันได้แต่แค่นยิ้มแหยๆ ไม่ว่าชาลิญาจะแต่งกายสวยสดงดงามเพียงใด แต่ความสามารถและทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นเธอ ก็สามารถทำให้ทุกคนในเรเอสโนหวาดกลัวได้เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน ดังนั้นทุกคนจึงรีบดึงสติไม่วอกแวกออกนอกลู่นอกทางอีก ไม่เช่นนั้น คงได้กลายเป็นเหยื่อของฉลามกลางท้องทะเลอย่างไม่ต้องสงสัย

           


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×