ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สามีส้มหล่น

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ ๑/๑ ฤาจะเป็นโชคชะตา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 900
      15
      3 ก.ค. 61




            ปัง!

            เสียงปืนดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ สถานที่นี้จัดไว้สำหรับเป็นสนามฝึกปรือฝีมือของสมาชิก ในองค์กรมาเฟียแห่งดูไบ ซึ่งคนๆ นี้ยังเป็นเจ้าของธุรกิจค้าทางทะเล การทำประมงและฟาร์มไข่มุก หนำซ้ำยังอยู่เบื้องหลังการโรงแรมและการท่องเที่ยว รวมทั้งควบคุมอิทธิพลมืด ทุกอย่างในรัฐนี้ตกอยู่ใต้อำนาจของ เฮอแมน เรเอสโน ชายเฒ่าวัยหกสิบเอ็ดปี เจ้าของร่างอวบอ้วนผู้มีทรัพย์สมบัติมากมายติดหนึ่งในร้อยของโลก

            นาทีนี้ ผู้ชายมากกว่าครึ่งล้านคน กำลังพุ่งเป้าความสำคัญมายังเฮอแมนคนนี้ ไม่ใช่เพราะอำนาจที่อีกฝ่ายมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หมายรวมถึงต้องการจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรเอสโน ด้วยการแต่งงานกับลูกสาวทั้งสามคน ซึ่งคนที่ได้เห็นดวงหน้าของคุณหนูแห่งเรเอสโน ล้วนพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า พวกเธอนั้นงดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ หากได้ครอบครองยอดดวงใจของชายเฒ่าแล้วล่ะก็ คงกลายเป็นหนูที่ตกถังข้าวสารตัวเป้งไปโดยปริยาย

            “ยอร์ช! ฉันบอกให้นายยืนนิ่งๆ ไง”

            หนูนิ่ม ชาลิญา เรเอสโน หรือใครๆ ในองค์กรเรียกว่าคุณหนูใหญ่ อายุวัยยี่สิบเจ็ดปี เจ้าของส่วนสัดกลมกลึง เรือนร่างขาวผ่องนวลเนียนราวเทพธิดา ผู้มีเลือดผสมไทย-อาหรับเอมิเลตส์ เพราะมีมารดาเป็นชาวไทย ตวาดใส่หน้าบอดี้การ์ดประจำกายของตัวเองลั่น มือบางกระชับอาวุธปืนสีเงินวาวที่หน่วยรบอิสรเอวใช้ในการสู้ ดวงตากลมๆ เล็งเป้าไปยังลูกแตงโมผลใหญ่ที่วางอยู่บนศีรษะทุยสีน้ำตาลยุ่งของหนุ่มหน้าเข้ม ซึ่งบัดนี้เหงื่อกาฬเริ่มไหลอาบไปทั่วกรอบหน้า

            ด้านคนที่ต้องน้อมรับคำสั่ง ยืนขาสั่นงันงก ฉี่แทบราดรดเปื้อนกางเกงเป็นทางยาว ถึงแม้จะมั่นใจในฝีมือของเจ้านายสาว ที่เก่งกาจด้านศิลปะป้องกันตัวเองเกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันดาบ ชกต่อย รวมทั้งด้านแม่นปืนก็ไม่เคยตกเป็นสองรองใคร แต่ว่าเป้าหมายที่กระสุนจะเจาะผ่านมาตั้งอยู่บนหัวแบบนี้ ยอร์ช เคสก็เกิดสั่นกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

            ดวงหน้าเล็กสวย ปากอิ่มรูปกระจับเม้มแน่นเป็นแถบตรงอย่างขัดใจ นัยน์ตาสีชานั้นเริ่มขุ่นคลั่ก ช่วงขาเพรียวเล็กจึงเดินจ้ำอ้าวไปประชิดตัวลูกน้องหนุ่ม พร้อมจับลูกแตงโมที่เกือบหล่นแตกให้ตั้งอยู่นิ่งๆ

            “เลิกขาสั่นได้ไหมยอร์ช”

    สั่งการพร้อมทำตาขวางใส่ “นายไม่มั่นใจในฝีมือของฉันหรือยังไงฮ้า!

            “มั่นใจครับ แต่...” อีกฝ่ายพยายามแย้ง เพราะกลัวลูกตะกั่วจะยัดเข้ากลางกบาล

            “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถ้านายยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าแบบนี้ล่ะก็ ฉันจะยิงเป้ากางเกงของนายให้เป็นรูพรุน” ขู่เสร็จก็หลิ่วตาให้นิดๆ ก้าวกลับไปยืนประจำตำแหน่ง ปล่อยให้ยอร์ชทำหน้าคล้ายกลืนยาขม

    บอดี้การ์ดหนุ่มต้องสูดหายใจเข้าปอดลึก นับหนึ่งถึงสิบให้ใจชุ่มเย็น ภาวนาให้ตัวเองรอดจากอาการครึ่งผีครึ่งคน และทันทีที่ได้ยินเสียงดังของอาวุธร้ายดังก้องหู หนุ่มร่างบึกบึนก็ล้มตึง นำพาร่างใหญ่สูงหกฟุตหล่นไปกองอยู่กับพื้นหญ้าทันที ข้างๆ กันนั้นมีแตงโมหล่นแตกกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

            ชาลิญาทำหน้าคล้ายเด็กถูกขัดใจ แล้วเดินเร็วๆ มาดูอาการของคนสนิท ปลายเท้าเล็กเตะเบาๆ ที่หน้าแข้งของอีกฝ่าย ทำหน้ามู่ทู่ ย่นคิ้วใส่ด้วยความหมั่นไส้ แกมไม่พอใจ

            “นี่นายยอร์ช ไม่ต้องมาทำเหมือนตายแบบนี้เลยนะ”

            เปลือกตาของอีกฝ่ายค่อยๆ เบิกกว้างแล้วรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง มือหนาขยับตบท้ายทอยแกร่งแก้เก้อ “คุณหนูใหญ่ยิงถูกแตงโมใช่ไหมครับ ผมนึกว่าชีวิตจะหาไม่ซะแล้ว”

            “ก็อยากจะยิงหัวนายอยู่หรอก แต่กลัวนายจะตายไปจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้นนะ ฉันก็ไม่มีเพื่อนเล่นน่ะสิ” ปากอิ่มบ่นเปรยๆ “คนอื่น เขาไม่ค่อยอยากเข้าใกล้ฉันสักเท่าไร ไม่รู้จะกลัวอะไรกันนักกันหนา”

            ก็กลัวมือกลัวเท้าของคุณหนูยังไงล่ะครับ คนอะไรชื่อหนูนิ่ม แต่มือเท้าเนี่ย หนักสุดๆ ฝึกปรือฝีมือแต่ละครั้ง เล่นเอาบอดี้การ์ดคู่ซ้อมต้องหยอดน้ำข้าวต้มไปนับสัปดาห์ ยอร์ชคิดในใจแล้วยิ้มแหยๆ

            “ยิ้มอะไร” คนถามชะโงกหน้ามาใกล้ ปลายนิ้วเรียวจิ้มเบาๆ ที่จมูกโด่งคม “อย่าให้รู้นะ ว่าด่าทอฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะอัดนายให้เละเชียว” ออกปากข่มขู่ด้วยประกายตาเอาเรื่อง ก่อนจะไหวไหล่น้อยๆ แล้วโยนเจ้าอาวุธสีเงินวาว ให้คนเป็นลูกน้อง อีกฝ่ายรีบคว้าหมับก่อนที่ลูกกระสุนจะเกิดลั่นเปรี้ยงปร้าง

            จากนั้นทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง ชาลิญานำพาเรือนร่างระเหิดระหง ภายใต้กางเกงยีนสีเข้มกับเสื้อกล้ามอวดเรียวแขนกลมกลึงที่ตอนนี้หมาดชื้นด้วยเหงื่อและหุ่นอันฟิตเปี๊ยะดังคนที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างชอกโชน ปรี่ไปยังรถสปอร์ตสีแดงรุ่นใหม่ล่าสุดของแดนรองเท้าบูดสีสันแสบตา แล้วมุ่งหน้าเหยียบคันเร่งกลับคฤหาสน์กระจกหลังโอ่อ่า ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากลานฝึกซ้อมไปราวๆ สิบกิโลเมตร ด้วยความเร็วระดับพายุ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×