คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ ๑/๑ ฤาจะเป็นโชคชะตา
ปัง!
เสียงปืนดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
สถานที่นี้จัดไว้สำหรับเป็นสนามฝึกปรือฝีมือของสมาชิก ในองค์กรมาเฟียแห่งดูไบ ซึ่งคนๆ
นี้ยังเป็นเจ้าของธุรกิจค้าทางทะเล การทำประมงและฟาร์มไข่มุก หนำซ้ำยังอยู่เบื้องหลังการโรงแรมและการท่องเที่ยว
รวมทั้งควบคุมอิทธิพลมืด ทุกอย่างในรัฐนี้ตกอยู่ใต้อำนาจของ เฮอแมน เรเอสโน
ชายเฒ่าวัยหกสิบเอ็ดปี เจ้าของร่างอวบอ้วนผู้มีทรัพย์สมบัติมากมายติดหนึ่งในร้อยของโลก
นาทีนี้ ผู้ชายมากกว่าครึ่งล้านคน
กำลังพุ่งเป้าความสำคัญมายังเฮอแมนคนนี้ ไม่ใช่เพราะอำนาจที่อีกฝ่ายมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่หมายรวมถึงต้องการจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเรเอสโน
ด้วยการแต่งงานกับลูกสาวทั้งสามคน ซึ่งคนที่ได้เห็นดวงหน้าของคุณหนูแห่งเรเอสโน
ล้วนพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า พวกเธอนั้นงดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์
หากได้ครอบครองยอดดวงใจของชายเฒ่าแล้วล่ะก็
คงกลายเป็นหนูที่ตกถังข้าวสารตัวเป้งไปโดยปริยาย
“ยอร์ช! ฉันบอกให้นายยืนนิ่งๆ ไง”
หนูนิ่ม ชาลิญา เรเอสโน หรือใครๆ
ในองค์กรเรียกว่าคุณหนูใหญ่ อายุวัยยี่สิบเจ็ดปี เจ้าของส่วนสัดกลมกลึง
เรือนร่างขาวผ่องนวลเนียนราวเทพธิดา ผู้มีเลือดผสมไทย-อาหรับเอมิเลตส์ เพราะมีมารดาเป็นชาวไทย ตวาดใส่หน้าบอดี้การ์ดประจำกายของตัวเองลั่น
มือบางกระชับอาวุธปืนสีเงินวาวที่หน่วยรบอิสรเอวใช้ในการสู้ ดวงตากลมๆ เล็งเป้าไปยังลูกแตงโมผลใหญ่ที่วางอยู่บนศีรษะทุยสีน้ำตาลยุ่งของหนุ่มหน้าเข้ม
ซึ่งบัดนี้เหงื่อกาฬเริ่มไหลอาบไปทั่วกรอบหน้า
ด้านคนที่ต้องน้อมรับคำสั่ง
ยืนขาสั่นงันงก ฉี่แทบราดรดเปื้อนกางเกงเป็นทางยาว ถึงแม้จะมั่นใจในฝีมือของเจ้านายสาว
ที่เก่งกาจด้านศิลปะป้องกันตัวเองเกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฟันดาบ ชกต่อย รวมทั้งด้านแม่นปืนก็ไม่เคยตกเป็นสองรองใคร
แต่ว่าเป้าหมายที่กระสุนจะเจาะผ่านมาตั้งอยู่บนหัวแบบนี้ ยอร์ช เคสก็เกิดสั่นกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
ดวงหน้าเล็กสวย
ปากอิ่มรูปกระจับเม้มแน่นเป็นแถบตรงอย่างขัดใจ นัยน์ตาสีชานั้นเริ่มขุ่นคลั่ก
ช่วงขาเพรียวเล็กจึงเดินจ้ำอ้าวไปประชิดตัวลูกน้องหนุ่ม
พร้อมจับลูกแตงโมที่เกือบหล่นแตกให้ตั้งอยู่นิ่งๆ
“เลิกขาสั่นได้ไหมยอร์ช”
สั่งการพร้อมทำตาขวางใส่ “นายไม่มั่นใจในฝีมือของฉันหรือยังไงฮ้า!”
“มั่นใจครับ แต่...” อีกฝ่ายพยายามแย้ง
เพราะกลัวลูกตะกั่วจะยัดเข้ากลางกบาล
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น
ถ้านายยืนสั่นเป็นเจ้าเข้าแบบนี้ล่ะก็ ฉันจะยิงเป้ากางเกงของนายให้เป็นรูพรุน”
ขู่เสร็จก็หลิ่วตาให้นิดๆ ก้าวกลับไปยืนประจำตำแหน่ง
ปล่อยให้ยอร์ชทำหน้าคล้ายกลืนยาขม
บอดี้การ์ดหนุ่มต้องสูดหายใจเข้าปอดลึก
นับหนึ่งถึงสิบให้ใจชุ่มเย็น ภาวนาให้ตัวเองรอดจากอาการครึ่งผีครึ่งคน และทันทีที่ได้ยินเสียงดังของอาวุธร้ายดังก้องหู
หนุ่มร่างบึกบึนก็ล้มตึง นำพาร่างใหญ่สูงหกฟุตหล่นไปกองอยู่กับพื้นหญ้าทันที ข้างๆ
กันนั้นมีแตงโมหล่นแตกกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ชาลิญาทำหน้าคล้ายเด็กถูกขัดใจ
แล้วเดินเร็วๆ มาดูอาการของคนสนิท ปลายเท้าเล็กเตะเบาๆ ที่หน้าแข้งของอีกฝ่าย
ทำหน้ามู่ทู่ ย่นคิ้วใส่ด้วยความหมั่นไส้ แกมไม่พอใจ
“นี่นายยอร์ช
ไม่ต้องมาทำเหมือนตายแบบนี้เลยนะ”
เปลือกตาของอีกฝ่ายค่อยๆ
เบิกกว้างแล้วรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง มือหนาขยับตบท้ายทอยแกร่งแก้เก้อ “คุณหนูใหญ่ยิงถูกแตงโมใช่ไหมครับ
ผมนึกว่าชีวิตจะหาไม่ซะแล้ว”
“ก็อยากจะยิงหัวนายอยู่หรอก
แต่กลัวนายจะตายไปจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้นนะ ฉันก็ไม่มีเพื่อนเล่นน่ะสิ”
ปากอิ่มบ่นเปรยๆ “คนอื่น เขาไม่ค่อยอยากเข้าใกล้ฉันสักเท่าไร
ไม่รู้จะกลัวอะไรกันนักกันหนา”
‘ก็กลัวมือกลัวเท้าของคุณหนูยังไงล่ะครับ
คนอะไรชื่อหนูนิ่ม แต่มือเท้าเนี่ย หนักสุดๆ ฝึกปรือฝีมือแต่ละครั้ง
เล่นเอาบอดี้การ์ดคู่ซ้อมต้องหยอดน้ำข้าวต้มไปนับสัปดาห์’
ยอร์ชคิดในใจแล้วยิ้มแหยๆ
“ยิ้มอะไร” คนถามชะโงกหน้ามาใกล้ ปลายนิ้วเรียวจิ้มเบาๆ
ที่จมูกโด่งคม “อย่าให้รู้นะ ว่าด่าทอฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะอัดนายให้เละเชียว”
ออกปากข่มขู่ด้วยประกายตาเอาเรื่อง ก่อนจะไหวไหล่น้อยๆ แล้วโยนเจ้าอาวุธสีเงินวาว
ให้คนเป็นลูกน้อง อีกฝ่ายรีบคว้าหมับก่อนที่ลูกกระสุนจะเกิดลั่นเปรี้ยงปร้าง
จากนั้นทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง
ชาลิญานำพาเรือนร่างระเหิดระหง ภายใต้กางเกงยีนสีเข้มกับเสื้อกล้ามอวดเรียวแขนกลมกลึงที่ตอนนี้หมาดชื้นด้วยเหงื่อและหุ่นอันฟิตเปี๊ยะดังคนที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างชอกโชน
ปรี่ไปยังรถสปอร์ตสีแดงรุ่นใหม่ล่าสุดของแดนรองเท้าบูดสีสันแสบตา แล้วมุ่งหน้าเหยียบคันเร่งกลับคฤหาสน์กระจกหลังโอ่อ่า
ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากลานฝึกซ้อมไปราวๆ สิบกิโลเมตร ด้วยความเร็วระดับพายุ
ความคิดเห็น