ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงรักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ ๔ คนสำคัญ (๕)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 472
      2
      25 ส.ค. 59

    องชั่วโมงต่อมา ฟาบริช คาร์มิโอและคนสนิทก็มาเยือนลาสเวกัส ทั้งคู่ตรงดิ่งขึ้นรถที่คอยรับเพื่อไปยังโรงแรมฮาร์ดร็อกแอนด์กาสิโน ซึ่งเป็นสถานที่เป้าหมายในการนัดพบกับลูกค้าคนดัง โรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบตามไลฟ์สไตล์ของศิลปินร็อก มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดสามเอเคอร์ หรูหราและกว้างขวางมากทีเดียว จึงมีลูกค้ากระเป๋าหนักมากมายเข้ามาพัก

    ผู้เข้าพักสามารถเล่นไพ่แบล็กแจ็กขณะที่ว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึดดูดใจได้มากโข หนำซ้ำยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตเป็นประจำ และที่ไม่น่าพลาดก็คือความบันเทิงอย่างอื่น ได้แก่ สล็อตแมชีน โต๊ะไพ่ เลานจ์พร้อมการแสดงอะโกโก้ ตลอดจนหนังสือเกี่ยวกับการแข่งขันและกีฬาต่างๆ นอกจากความบันเทิงเหล่านี้แล้ว ทางโรงแรมยังมีห้องเก็บรวบรวมสิ่งของเกี่ยวกับดนตรีร็อกแอนด์โรลล์ ร้านอัญมณีหรูหราและห้องสักร่างกายบรรยากาศทันสมัยไว้คอยบริการลูกค้ากระเป๋าหนักอีกด้วย

    ชายหนุ่มและลูกน้องถูกเชื้อเชิญเข้าไปยังโซนชั้นในสุด ก่อนจะตรงดิ่งไปยังห้องพักของลูกค้าคนสำคัญบนชั้นวีไอพีที่ค่าบริการแพงหูฉี่ ในห้องนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พื้นที่ใช้สอยหกสิบห้าตารางเมตร มองผ่านกระจกโปร่งแสงก็จะพบกับวิวภูเขาอันงดงาม

    “เชิญที่มุมระเบียงครับ มาดามเซอร์วาร์ดรออยู่”

    เสียงลูกน้องเจ้าของห้องดังขึ้น พร้อมผายมือไปยังทิศทางที่บอกกล่าว ฟาบริชขยับเท้าก้าวตรงไปข้างหน้า ทว่าดอมกลับถูกขวางไว้

    “เห็นทีคุณผู้ชายคนนี้คงต้องอยู่ที่นี่”

    พอจบคำของอีกฝ่าย มาเฟียหนุ่มก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าเขาจะเข้าไปพบลูกค้าคนสำคัญเพียงคนเดียว

    เมื่อก้าวมาถึงมุมระเบียง ชายหนุ่มก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้ เธออยู่ในชุดเกาะอกสีแดงเพลิง ความยาวของชุดนั้นกรอมข้อเท้า สัดส่วนกลมกลึงดูงดงามคล้ายเจ้าหญิง ช่วงขาเรียวยาวที่เห็นจากรอยแยกของกระโปรงทำให้ฟาบริชละสายตาไม่ได้ทีเดียว ช่วงไหล่ด้านบนก็เนียนขาวยิ่งกว่าหิมะซะอีก เส้นผมสีน้ำตาลทองนั้นถูกม้วนขึ้นสูงแล้วปักด้วยปิ่นลายมังกร คล้ายคนที่ถูกจ้องมองจะรู้ตัว เมื่ออีกไม่ถึงห้าวินาทีถึงได้หมุนกายหันมาเผชิญหน้า

    ดวงตารีเล็กคล้ายคนจีนกรีดด้วยอายไลเนอร์ตวัดขึ้นสูง โครงรูปหน้ารับกับจมูกโด่ง ดูโฉบเฉียวน่ามอง เครื่องหน้าโทนชมพูอ่อนๆ ดูหวานแหววปนเซ็กซี่ มาเฟียหนุ่มยิ้มน้อยๆ ให้ เมื่ออีกฝ่ายมองกลับมาด้วยดวงตาแข็งกร้าว

    “สวัสดีค่ะ เมอซิเออร์ คาร์มิโอ” เจ้าของรูปร่างเย้ายวนเอ่ยทักทาย ในขณะที่ชายหนุ่มฉวยมือเล็กขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบาแล้วกวาดสายตามองรูปร่างของลูกค้าคนสำคัญตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

    จะจ้องอีกนานไหมคะฟาบี้

    อดไม่ได้ที่จะเอ่ยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายและค่อนข้างสนิทสนม เมื่ออีกฝ่ายยังคงใช้สายตาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะพบเจอกันกี่ครั้งกี่หนเธอก็จะได้รับสายตาแบบนี้เสมอ แต่นั่นก็ไม่ทำให้เกรซ เซอร์วาร์ดหวั่นเกรง

    ป่านนี้คุณยังหลงใหลรูปร่างของฉันอยู่เลยนะ คิดจะกลับมาเป็นแฟนกันอีกสักครั้งหรือเปล่า

    ชายหนุ่มยกยิ้มก่อนจะโพล่งออกไป

    ก็ดีนะ

    ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากให้คนอื่นมองด้วยสายตาสมเพช อีกอย่างฉันไม่อยากใช้ของร่วมกับใคร

    ปากคุณยังเสียเหมือนเดิมเลยนะเกรซ

    และคุณก็ยังทำตัวเป็นคาสโนวาที่น่าตบไม่เปลี่ยนค่ะ

    “เอาละ” ชายหนุ่มยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ ก่อนจะเอ่ยถามถึงคู่ชีวิตของหญิงสาว “แล้วสามีคุณไปไหน ทำไมถึงปล่อยให้คุณมาพบผมเพียงลำพังได้” เจ้าของเรือนร่างในชุดเซ็กซี่ยิ้มกว้าง

    “อยู่ที่กาสิโนค่ะ”

    บอกออกไปแล้วก็ตีสีหน้าหลงอยู่ในภวังค์แห่งรัก

    “เซอร์วาร์ดเขาไม่กลัวคุณแย่งฉันกลับไปหรอก เพราะเขามั่นใจว่าฉันไม่มีทางหลงคารมคุณอีก และอีกอย่างฉันรู้ว่าเขาคิดถูก”

    เกรซ เซอร์วาร์ดนึกถึงผู้ชายคนหนึ่ง สูงราวๆ ร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร ผมสีน้ำตาลนุ่มมือ ดวงตาสีฟ้าสดใส ครั้งใดที่เธอสบตากับเขา ราวกับโลกใบนี้มีเพียงสองคน ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของกาสิโนชื่อดังในลาสเวกัส ร่ำรวยด้วยเงินทองและทรัพย์สมบัติมากมาย และที่ทำให้เธอหลงเขาจนแทบคลั่ง ก็เพราะตั้งแต่มีเธอ เขาเลิกเจ้าชู้ไปโดยปริยาย ยกเว้นผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า แฟนเก่าที่คบกันมานับสองปีเต็ม

    ตลอดสองปีที่อยู่ในสถานะแฟนกันมีทั้งน้ำตาและความสุข หากมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอรับไม่ได้เลยก็คือเขาไม่เคยหยุด ไม่เคยพอ ผลัดเปลี่ยนผู้หญิงขึ้นโรงแรมเป็นว่าเล่น เธอแทบจำหน้าผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้ แต่ทุกคนจำเธอได้แม่นยำ ซึ่งหลายครั้งเธอเห็นแววตาแห่งความเวทนาจากพวกหล่อน นั่นทำให้เกรซทนไม่ได้ จนต้องขอโบกมือลามาเฟียหนุ่ม และคงสถานะไว้เป็นแค่เพื่อนที่เคยสนิท

    “ให้ตายสิ! ผมล่ะเบื่อพวกคุณสองคนจริงๆ”

    เสียงทุ้มบอกอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเจอเข้ากับประโยคจิกกัดของอดีตคนรัก หากแต่เกรซ เซอร์วาร์ดกลับยักไหล่อย่างไม่แคร์

    “แล้วตอนนี้ตำแหน่งหวานใจมีใครครอบครองหรือเปล่าคะ เกรซจะได้ส่งการ์ดไปอวยพร”

    “ผมไม่มีทางรักใครหรอกน่าเกรซ คุณอย่าห่วงเลย”

    “อ้อ! เป็นเรื่องที่โชคดีของผู้หญิงทั้งโลก พวกเธอควรทำบุญครั้งใหญ่นะคะ”

    เกรซเอ่ยด้วยน้ำเสียงยิ้มๆ ฟาบริช คาร์มิโอถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้ วางเรื่องราวส่วนตัวก่อนจะเอ่ยชวนให้คุยเรื่องธุรกิจ และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีอย่างที่คาดไว้ตามเป้าหมาย การลงนามสัญญาซื้อขายเรียบร้อยภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ข้อตกลงและรายละเอียดต่างๆ สร้างความพึงพอใจให้ทั้งสองฝ่าย เมื่องานเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เอ่ยปากขอตัวกับหญิงสาว

    “ผมคงต้องกลับแล้วนะ”

    เกรซ เซอร์วาร์ดมองหน้าชายหนุ่มราวกับจับพิรุธ ก่อนจะเอ่ยเย้าแหย่เช่นเคย

    “หวังว่าคงไม่มีนัดที่ไหนนะคะ ปกติคุณน่าจะไปที่เลานจ์ดูสาวๆ เต้นอะโกโก้ หรือไม่ก็เล่นสล็อตแมชีนให้หนำใจ”

    “ไม่ล่ะ ผมมีธุระ”

    “มีนัดเหรอคะ ผู้หญิงคนนั้นโชคร้ายจัง”

    “คุณเชื่อผมไหมเกรซ ถ้าผมเจอเพชรเม็ดงาม ผมจะหยุดอยู่ที่เธอ” บอกแค่นั้นก็หมุนกายก้าวลิ่วๆ ไม่หันกลับไปมองเกรซ เซอร์วาร์ดที่ยังคงยืนอึ้งอยู่กับที่ เมื่อรู้ตัวก็ยิ้มกว้างจนตาหยี ทอดมองทิวทัศน์เบื้องหน้าด้วยสายตาทอประกายลึกซึ้ง

    “ผู้หญิงคนนั้นคงโชคดีมากๆ นะคะฟาบี้”

    บอกผ่านสายลมเสร็จ นิ้วเรียวก็ลูบไล้แหวนเพชรขนาดห้ากะรัตที่ประดับบนนิ้วนางข้างซ้าย

    “เหมือนกับฉัน...ที่ได้พบคุณค่ะเซอร์วาร์ด”

    เอ่ยกับตัวเองด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม เชื่อว่าอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้าเจ้าของแหวนวงนี้ก็คงเดินทางมารับเธอเพื่อกลับไปดื่มด่ำความสุขในคฤหาสน์อย่างเช่นทุกคืนวันที่ผ่านมา

     

     

    องหนุ่มเจ้านายและลูกน้องเดินทางกลับถึงปารีสในช่วงสี่ทุ่มของค่ำคืนแล้วแยกย้ายกันกลับที่พัก ฟาบริช คาร์มิโอเลือกที่จะเข้าพักในทาวน์เฮาส์แถวชานเมืองแทนที่จะเหยียบคันเร่งตรงสู่คฤหาสน์อันกว้างใหญ่ เพราะไปที่นั่นชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวด เงียบเหงา และว้าเหว่ ดังนั้นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกสบายใจก็คือทาวน์เฮาส์ส่วนตัว

    รถคันหรูเคลื่อนไปตามถนนสายเล็กที่ค่อนข้างเปลี่ยว รอบด้านมีตึกชั้นเตี้ยๆ เริ่มตั้งห่างกัน แสงไฟค่อยๆ ลดน้อยลงจนกลายเป็นไม่มีเลย มีแค่ไฟหน้าของรถที่ส่องนำทางเท่านั้น เหยียบคันเร่งออกจากเมืองปารีสไปเพียงครึ่งชั่วโมง ชายหนุ่มก็หักเลี้ยวพวงมาลัยเข้าสู่ถนนเปลี่ยว มุ่งหน้าไปยังตึกขนาดสามชั้นซึ่งเป็นอาณาจักรเล็กๆ ของตัวเอง

    “ยินดีต้อนรับครับบอส”

    เมื่อรถจอดสนิทพร้อมผลักประตูก้าวลงมา บอดี้การ์ดที่ประจำการอยู่ก็ร้องทักทายมาพร้อมก้มศีรษะทำความเคารพ

    “พวกนายไปพักเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก”

    บอกออกไปก่อนที่จะผลักประตูแทรกกายเข้าสู่ด้านใน ทั้งสามหนุ่มพยักหน้าให้ แต่พอคล้อยหลังคนเป็นนาย ก็ไม่มีใครสักคนขยับตัวออกจากบริเวณนั้น ทำหน้าที่เป็นองครักษ์ที่ดีตามคำสั่งท่านประธานใหญ่อย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ

    มาเฟียหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องได้ ก็ตรงดิ่งไปยังบาร์เครื่องดื่ม ฉวยวอดก้าขวดใหญ่และแก้วเปล่ามาหนึ่งใบ ก้าวอาดๆ ไปหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาหลุยส์กำมะหยี่สีดำ รินวอดก้าที่ถือมาใส่แก้วจนครึ่ง ก่อนจะยกดื่ม ในขณะที่กรอกเหล้าลงคอก็หวนคิดถึงใครบางคนไม่ได้

    ใบหน้าของ เกรซ ผู้หญิงที่เขาเคยหลงใหลและเสียเธอไปเพราะการกระทำของตัวเองปรากฏขึ้นในความทรงจำ ตลอดเวลาสองปีที่ดูใจกัน เธอคงเจ็บปวดไม่น้อยที่เห็นเขาควงผู้หญิงคนอื่นแทบไม่ซ้ำหน้ากันในสัปดาห์เดียว ถึงแม้อยากจะกลับไปแก้ไขเพียงใด แต่ทว่าโอกาสของเขาก็หมดลงแล้ว เมื่อเกรซพบกับผู้ชายที่พร้อมจะหยุดทุกอย่างไว้เพื่อเธอ

    ชายหนุ่มยิ้มเยาะหยันตัวเอง ในขณะที่ยกวอดก้าขึ้นดื่มจนหมด มือหนาวางแก้วเปล่าที่ไร้แอลกอฮอล์ลงบนโต๊ะกระจก ก่อนจะหมุนกายกลับเข้าห้องนอนทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ก่อนจะหลับสนิท มุมปากได้รูปยังอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มน้อยๆ เมื่อภาพของแมวเหมียวแคทเทอรีนวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดแทบตลอดเวลา




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×