ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >>| [High School Lover] |<<

    ลำดับตอนที่ #3 : เราเป็นแค่เพื่อนซี้กัน

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 49


    ชิน talk

    ผม ชิน ฮ๊ะ ขอแนะนำตัวก่อนนะ
    ผมเป็นเพื่อนซ่า ตั้งแต่มอหนึ่งแล้วแหละ
    ที่รู้จักกะมันก็เพราะว่าตอนปฐมนิเทศผมอยู่กลุ่มเดียวกะมัน
    มันเป็นผู้หญิงที่ผมอยากจะบอกว่า "สุดยอด" จิงๆ
    ผู้ชายบางคนยังกลัวเลย

    ไม่อยากจะโม้หรอกนะ 55 วันแรกที่ผมย่างเข้ามาโรงเรียนนี้
    มีผู้หญิงทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่รุมตอมผมกันใหญ่
    แน่นอน เดินไปไหนก้อมีแต่คนมองผม
    ยิ่งบางคนนี่ ถึงกับเดินมาขอเบอร์โทรศัพท์เลยทีเดียว
    ผมไม่ชอบผู้หญิงที่ทำแบบนี้เลยให้ตายเห๊อะ

    หลังจากงานปฐมนิเทศวันนั้น ผมก็ติดต่อกะซ่ามาตลอด
    ถึงแม้ผมจะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับมันก้อตามเถอะ
    ผมสนิทกับซ่าจนกลายเป็นเพื่อนซี้กันสุดขั้ว
    ผมก็ชอบนะที่มันเป็นอย่างนี้
    แต่...
    ผมว่า ผมต้องการมากกว่านั้น

    ใช่.. ถูกแล้ว ผมชอบซ่า ชอบตั้งแต่วันแรกที่เจอแล้ว
    มันน่ารัก อื้ม.. น่ารักมากด้วย แต่มันไม่ใช่เหตุผลหลักหรอกนะ
    ชีวิตผมเจอผู้หญิงน่ารักไม่ต่ำกว่าร้อยคนแล้ว
    ผมชอบมัน เพราะมันไม่เหมือนผู้หญิงน่ารักคนอื่นๆที่ผมเคยเจอมาต่างหากละ

    ผมหล่อ 555 ใช่ผมหล่อ (มากด้วย)
    แต่ผมไม่เคยรู้สึกว่าซ่า มันจะคิดกับผมไปมากกว่าเพื่อนเลยซักนิด
    ก็แหงหละ ถ้าซ่าชอบผมเพราะว่าผมหล่อ
    ผมก้อคงไม่ตกหลุมรักมันเข้าให้

    แต่พอมอสอง วันเปิดเทอมวันแรก
    วันที่เหมือนกับวันนี้แหละ ... ผมคิดว่ามันเป็นวันที่ผมมีความสุขอีกครั้ง เพราะผมจะได้เจอหน้ายัยซ่าแล้ว หลังจากที่รอคอยมานานสามเดือนในช่วงปิดเทอม
    ถึงแม้ว่าเราจะติดต่อกันทางโทรศัพท์บางก้อตามเถอะแต่มันก็ยังไม่หนำใจซะทีนิ่
    ผมมานั่งรอซ่า ที่นี่ ตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูก ก็แน่หละสิคนที่ผมรัก กำลังจะมาหาผม ^_^
    5 นาทีผ่านไป มันก็มาจิงๆ  จากนั้นเราก็สั่งอาหาร และนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน
    แต่มันไม่ได้สนุกสนานๆอย่างที่คิดหรอกนะฮะ
    มันเป็นวันที่ผมได้รับทรมานอย่างสุดซึ้ง กับประโยค 1 ประโยคของมัน
    ประโยค ที่ทำให้ผมทรมาน ที่สุดในโลก

    "เห้ยย ชิน ฉันตกลงคบกะพี่เบียร์ หละ ^_^"

    ผมอึ้ง.. แน่นอน ใครจะไปทนได้บ้างละ
    เห็นคนที่ตัวเองรักมาบอกว่าไปคบกับคนอื่นแบบนี้
    แต่เพื่อนมิตรภาพของความเป็นเพื่อน
    ผมต้องไม่แสดงอาการอะไรเด็ดขาด
    ใช่.. ผมต้องไม่..
    ผมควรแสดงความยินดีไม่ใช่เหรอ
    อื้มม ผมควรแสดงความยินดี

    วันนั้น ผมฝืนยิ้มแล้วพูดกับซ่าไปว่า
    "เฮ้ยย ยินดีด้วยเว้ยยย แล้วเอาแฟนแกมาอวดฉันบ้างละ แหมเพื่อนฉัน คบกับพี่เบียร์ซะด้วย ร้ายไม่เบานะแกนี่^_^"

    (พี่เบียร์เป็นรุ่นพี่มอห้าที่ขึ้นชื่อว่าสาวๆติดกันตรึมแทบทั้งโรงเรียนเลยทีเดียว ตอนนี้พี่เบียร์ขึ้นมหาลัยไปแล้ว อยู่ปี 1)

    หลังจากที่เจอกัน พอตกเย็นตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า
    ผมเดินกลับบ้านคนเดียว
    ให้ตายเถอะ มันเป็นความทรมานอย่างสุดซึ้งที่ผมเคยได้รับ
    ปกติ ผมจะต้องมีซ่าา เดินกลับบ้านด้วย
    แต่วันนั้น พี่เบียร์ ขับรถมารับมัน

    ผมค่อยๆเดินกลับบ้านช้าๆ หวังว่าสายลมเย็นๆมันจะช่วยให้ผมผ่อนคลายได้บ้าง
    แต่ไม่เลยย ... น้ำตาผมไหลตลอดทาง
    แล้วผมก็หยุดไม่ได้ด้วย
    ตั้งแต่เกิดมา ผมจำได้ว่า ผมแทบไม่เคยร้องไห้
    แต่ผมกลับต้องมาร้องไห้ เพราะยัยเพื่อนซี้ของผม

    คืนวันนั้นผมไม่ได้นอนทั้งคืน ผมร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลัง
    ทำไม.. ทำไมคนที่ผมรัก ต้องเป็นคนที่ผมซี้มากที่สุดด้วย
    ผมมีผู้หญิงให้เลือกมากมาย ทำไม.. ทำไมต้องเป็นซ่า
    ผมก้อไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
    ภาพซ่าขึ้นรถพี่เบียร์แล้วโบกมือ บ๊ายบาย
    มันทิ่มแทงใจของผมตลอดเวลา

    "แต่ไม่เป็นรัยหรอกนะซ่า..
    เพื่อมิตรภาพของความเป็นเพื่อนซี้
    ไม่ว่าฉันจะทรมานแค่ไหน ฉันก้อทนได้เว้ย เพื่อแก ฉันทนได้.."

    หลังจากวันนั้น ทุกคืน ผมร้องไห้ติดต่อกัน 1 อาทิตย์
    ผมถึงกับลงทุนหาซื้อครีมทุกชนิด เพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่าทำไมตาผมถึงบวม
    และก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่า ผมร้องไห้ 1 อาทิตย์เต็มๆ
    ผมไม่เคยบอกเรื่อง ซ่า กับเพื่อนของผมคนไหนเลยสักครั้ง
    แหงละ ถ้าเข้าหูซ่าขึ้นมา จะได้เป็นเรื่องเอาน่ะสิ

    ผมปลงกับเรื่อง ซ่า แล้ว ผมรู้.. มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
    เราซี้กันเกินกว่าที่จะเป็นแฟนกันได้
    ผมต้องยอมรับให้ได้ ซักวันผมจะเลิกชอบมัน
    ผมต้องทำให้ได้

    หลังจากนั้น 1 เดือน ซ่าก็เลิกกับพี่เบียร์ แล้วมีแฟนมีกิ๊กมากมาย
    แน่นอนผมรู้หมดทุกอย่างแหละว่ามันคบกับใครบ้าง
    ก็ผมสนิทกับมันนิ่ ทำไมผมจะไม่รู้ละ
    ผมทนกับความทุกข์ทรมานนี้มาสามปีเต็มๆ
    ตั้งแต่ม.1 - ม.3

    ผมร้องไห้บ่อยมาก บางทีนั่งอยู่เฉยๆน้ำตามันก้อไหลได้
    ผมคิดว่า ผมไม่ไหวแล้ว ผมไม่ขอสู้กับความทรมานอย่างนี้อีก
    จนกระทั่งปิดเทอมที่ผ่านมาก่อนจะขึ้นมอ 4 ผมตัดสินใจ
    ไปบวชเณร อยู่ที่วัด เป็นเวลา 1 เดือน
    เพื่อลืมความทุกข์ทรมานที่สั่งสมมา 3 ปี
    ผมมีความสุขมาก พระอาจารย์ท่านสอนอะไรผมหลายอย่าง
    ผมคิดไม่ผิดจิงๆที่ไปบวช
    ไม่แน่ โตขึ้น ถ้าผมไม่มีอะไรทำ
    ผมอาจจะมาบวชตลอดชีวิตไปเลยก็ได้ 555
    น่าเสียดายผู้ชายหล่อๆอย่างผมหละสิ 5555

    ...และวันนี้...
    ที่ร้านคอฟฟี่ช้อป ผมมานั่งรอซ่าก่อนแล้วแหละ
    แล้วซ่า ก็เดินเข้ามา.....
    ผมไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
    ผมรู้แค่ว่า คนที่อยู่ตรงหน้าผม
    เป็น"เพื่อนซี้"ที่สุดในโลก ของผม

    "ไอ้ซ่า หวัดดีเว้ยย แกสูงขึ้นนะ 555"  ผมทักทายมัน ที่ผมบอกมันสูงขึ้นน่ะ ไม่จิงหรอก 555 ผมแซวมัน จิงๆมันก้อไม่ได้เป็นผู้หญิงเตี้ยหรอก แต่มันเตี้ยมากเมื่อยืนกับผม 555

    "ฮ๊ะ จิงเหรอ จริงเหรอว้ะชินๆๆๆ"

    "ปล่าว ฉันโกหก 555" ผมรู้มานานแระ ความหวังสูงสุดของมันคือ มันอยากจะสูงเหมือนเจเจกับลิซ แต่ผมว่า เป็นไปไม่ได้หรอกชาตินี้ 555

    "เอ้ออ จำไว้ เชอะๆๆ"

    "โอ๋ๆๆๆ ล้อเล่นน่า ยัยเตี้ย เอ้ยย ยัยไม่สูง สั่งไรกินสิ วันนี้ฉันเลี้ยง อย่างอนน่าๆๆ"

    "โอเค หายงอนแล้ว แต่ต้องเลี้ยงนะเว้ยย"

    "เอ้ออ ยัยตืดด เรื่องของฟรีไม่เคยเกี่ยงเลยนะแกนี่"

    "^.,^หุหุ งั้นฉันสั่งละนะ ... เอ้อ พี่คะ ขอสเต๊กจานนึง สปาเกตีไก่ ซุปหัวหอม ไก่ทอดสามชิ้นแล้วก็น้ำมะเขือเทศปั่นคะ"

    "o_o โห อีแร้งลงหรือไง เห็นของฟรี คราบขอทานเข้าสิงเหรอว้ะ"

    "555 แกบอกจะเลี้ยงฉันแล้วนะ.. แกสั่งดิชิน"

    "เอ้ออ... ผมขอพาสต้า จานนึง ส่วนน้ำขอเป็นน้ำเปล่าล้ะกันครับ"

    "..ต้องการอะไรเพิ่มอีกมั้ยคะ" พนักงานถามพวกเรา

    "อ่อ แค่นี้หละครับ นอกเสียจากว่า ยัยหมูแร้งที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมมันอยากจะสั่งอีก"

    "หนอยยย แก อ้ายยยชิน" ปั๊ก อั๊ก อั๊กๆๆๆ

    "เฮ้ยยยย ไอ้ซ่า หยุดว้อยยย หลังฉานนจาพังแล้ววว"

    "เชอะ เห็นว่าเลี้ยงนะเนี่ย ไม่งั้นเอาให้ตาย ชิชะ"

    "5555555"

    "หุบปากไปเลย ขำไร"

    "ค๊าบบบ เจ้าแม่"

    ผมกับซ่านั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ไอ้ซ่านี่ก็เห็นของฟรีเป็นไม่ได้ ผมแยกไม่ออกเลยว่ามันกิน หรือ กระซวก กันแน่
    ผมกะมันนั่งคุยเรื่องปิดเทอมที่ผ่านมาอย่างสนุกสนาน ผมชอบความรู้สึกแบบนี้มากๆเลยหละ ความรู้สึกแบบที่ เราเปน "เพื่อนซี้" กัน ^_^

    "เอ้อ แกกะวู้ด เป็นยังไงกันบ้างว้ะ คบกันไปถึงไหนแล้ว"  ผมถามซ่าขึ้นเพราะตอนนี้มันกำลังคบกับเพื่อนในระดับคนนึงที่ชื่อ วู้ด ที่ใครๆก็มักเรียกกันว่า หนุ่มน่ารัก

    "แฮะๆ ชิน.. ฉันเริ่มจะเบื่อแล้วหละ ก็มันน่าเบื่อเกินไป"

    "ฮ๊ะ.. แกเคยคบใครเกิน 2 เดือนมั้ย??"

    "ไม่เค๊ย ไม่เคยคะ หุหุ รักในวัยเรียน เหมือนจุดเทียนกลางสายฝน ^_^"

    "(-_-") เฮ้ออ"

    "เออ ฉันกะไว้ว่าจะบอกเลิกแล้วหละ แต่เสาร์นี้จะชวนมันไปเดินเอ็มโพก่อน เพื่อนๆฉันมันอยากได้ของ ฉันเองก็อยากได้เหมือนกัน แกอยากได้อะไรมั้ยชิน"

    "เหอะๆ ไม่หละๆ ว่าแต่ทำไมแกต้องหลอกแดกมันด้วยว้ะเนี่ย มันก็ออกจะรักแกไม่ใช่เหรอ สงสานมันน่าา"

    "ม่ายรุม่ายชี้ ก็เห็นมันชอบโม้นักโม้หนาว่าบ้านมันรวยนิ่ ของแค่นี้ เศษเงินมันน่า แกไม่รู้อะไร.. ชั้นเหนมันพกเงินมาเป็นๆหมื่นๆเลยนะตอนไปเที่ยวกันอ้ะ แถมยังมีบัตร ATM แล้วก็บัตรเครดิตอีกแน่ะ หุหุ ทีนี้ ก็เสร็จฉันละ โฮ๊ะๆๆ"

    "เออออ เรื่องของแกเถอะ"

    เฮ้อ เพื่อนผมมันก็เป็นแบบนี้แหละน้าา ... ผมกับซ่านั่งกันอยู่ในร้านนั้นสักพัก คุยกันต่ออีกหน่อย พอฟ้าเริ่มมืดพวกเราจึงเดินกลับบ้านกัน ผมเดินไปส่งซ่าที่บ้าน เพราะยังไงก็คงไม่ปลอดภัยแน่ๆถ้าให้มันเดินกลับบ้านคนเดียวถึงมันจะเป็นผู้หญิงที่อึก ถึกและเถื่อนก็ตามเถอะ ... ผมกับซ่าเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าประตูบ้าน  บ้านมันใหญ่มากๆ และถ้ามาเทียบกับบ้านของผม มันคงเป็นอะไรที่มองไม่เหนไปเลยแน่ๆ  สักพักมีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 40 แต่หน้าตาเธอไม่ได้ดูแก่เหมือนอายุเลย แถมยังดูสวยและสง่า หุ่นดีราวกับนางแบบ ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่ง ตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ จมูกโด่งเป็นสัน  พร้อมด้วยริมฝีปากเรียวงามที่ดูได้รูป ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเอกลักษณ์ที่ยัยซ่าได้มาเป็นแม่พิมพ์เป๊ะๆ และแน่นอน เธอคือ แม่ของซ่า

    "อ้าววว แม่!!!!!!!!!!!! กลับมาจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ยยย คิดถึงแม่จังเลยยยค่าาา" ซ่าวิ่งไปกอดแม่ในทันทีที่เห็น ดูน่ารักจังเลย หากแม่ผมยังคงอยู่บนโลกใบนี้ก็คงจะดี ผมมองสองแม่ลูกคู่นี้ด้วยความอิจฉา

    "กลับมาตั้งแต่บ่ายแล้วหละ เป็นไงมั่งเนี่ย ยัยซ่าจอมแสบของแม่ ไปทำอะไรแสบๆอะไรอีกมั้ยตอนแม่ไม่อยู่บ้านน่ะ"

    "ไม่เลยค่าา ซ่าเป็นเด็กดีตลอดเลย ^.,^"   ผมแอบเห็นมันเอานิ้วไขว้กันไว้ด้านหลัง ฮ่าๆๆ ก็แหงล้ะสิ ถ้าคนอย่างซ่าอยู่อย่างสงบได้ การที่ปลาวาฬเดินกินไอศรีมตามถนน ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร

    "อ้อ แล้วนี่ ตาชินใช่มั้ย" แม่ของซ่าพูดขึ้น "ว้าว โตเป็นหนุ่มขึ้นเยอะเลยนะเรา หล่อขึ้นด้วย ^.,^"

    "โห ก็..ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับคุณน้า"  แฮะๆ เล่นชมกันอย่างนี้ ผมก็เขินตายสิ

    "แม่ ไอ้ชินมันเหลิงใหญ่แล้ว  เห้ยยย ชินลงมาได้แล้วอย่าเพิ่งลอย แม่ชั้นล้อเล่นโว้ยยยยย ฮ่าๆๆๆ"

    "ใครว่าล้ะ ซ่า แม่พูดจิงๆต่างหาก หุหุ"

    "โห่ แม่อะ >.<"

    "ก็คนมันหล่อ ทำไงมันก็หล่ออะนะซ่าเอ้ยยย ฮ่าๆๆๆๆ"

    "ชั้นว่า ชั้นต้องพาแกไปศรีธัญญาแล้วแหละชิน"

    "นี่แกหาว่าฉันบ้าเหรอ ยัยซ่า วันนี้แกตายยย"

    "กรี๊ดดดดดด อ๊ากกกกกกกก"     ผมวิ่งไล่เขกกบาลไอ้ซ่า ผู้หญิงอะไร วิ่งเร็วเป็นชะมัด ฮ่าๆๆ เราทั้งคู่วิ่งไล่อย่างกะเด็กอนุบาล  เห๊อะๆ อย่าให้จับได้ล้ะก๊านนน

    "นี่ๆ เด็กๆ พอได้แล้ว โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้วยังมาวิ่งไล่กันอีก เข้าบ้านได้แล้วว ชินเข้ามานั่งเล่นด้วยกันก่อนสิ"

    "คร๊าบบบ/ค่าาาแม่ ... แห่กๆๆๆ" ผมวิ่งไล่ยัยซ่าจนเหนื่อยหอบจนกระทั้งแม่ของซ่าไล่พวกเราเข้าไปในบ้าน  ที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่หลังจากที่ผมมาครั้งล่าสุดประมาณ 3 เดือนที่แล้วก่อนปิดเทอม  น้ำพุหลากสีสันที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน ยังคงดูสวยและน่าจับตามองเหมือนเดิม  พวกเราเดินเข้าไปในบ้านที่ถูกจัดตกแต่งสไตล์โรมันอย่างสวยงาม ผมหละฝันอยากได้บ้านแบบนี้จิงๆเลย คุณแม่ของซ่าเชิญให้ผมนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น  ซักพัก คนรับใช้ในบ้านก็นำน้ำมาเสริฟ

    "แม่ แล้วพ่อล้ะ พ่อไม่กลับมาด้วยเหรอ" ซ่าถามขึ้น

    "อ่อ พ่อแวะไปที่ญี่ปุ่นก่อน ไปหาพี่ชายลูกน่ะ เห็นว่าอีกประมาณเดือนนึงจะกลับมาพร้อมกันเลย"

    "ฮ๊ะ จิงเหรอแม่!!! พี่เซนส์จะกลับมาด้วยเหรออ ว้าววว เย้ๆๆๆๆๆ"

    พี่เซนส์เป็นพี่ชายของซ่า อันที่จิง สมัยมอหนึ่งผมสนิทกับพี่เซนส์มากเลยทีเดียว พอขึ้นมอสองพี่เซนส์ก็ไปญี่ปุ่น
    พี่เซนส์เป็นผู้ชายที่หล่อเอาการ ผมเป็นผู้ชายเองผมยังว่าพี่เซนส์หล่อเลย แถมพี่ชายคนนี้ก็หวงน้องสาวมากๆด้วย
    ผมเป็นผู้ชายที่เป็นเพื่อนซ่าคนเดียวที่สามารถเข้าออกบ้านหลังนี้ได้ เชื่อม่ะ?? ขนาดแฟนไอ้ซ่าทั้งหลายยังไม่กล้ามาเหยียบบ้านนี้เลย
    ใครๆก็กลัวพี่เซนส์ทั้งนั้นแหละ พี่เซนส์น่ากลัวจะตายไป

    พี่เซนส์เป็นคนที่แปลกนะผมว่า อันที่จิง ผมควรจะโดนพี่เซนส์เกลียดด้วยซ้ำ  ก็ตอนมอหนึ่งนั่นแหละผมดันไปมีเรื่องกับพี่เซนส์ ตอนนั้นพี่เซนส์ก็อยู่มอหกที่โรงเรียนเดียวกัน สาเหตุที่มีเรื่องก็เพราะพี่เซนส์เกิดจับได้ว่าผมสนิทกับซ่า พี่เซนส์เลยท้าต่อยกับผม ผมก็รับปาก ปัญญาอ่อนเนอะ มอหนึ่งกับมอหกแน่ะ พี่เซ้นส์แทบไม่เป็นอะไรเลย แต่ผมนี่สิ แทบตายเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นผมและพี่เซนส์กลับกลายเป็นว่าสนิทกันไปเฉยเลย พี่เซนส์บอกว่าผมเจ๋งดีที่กล้ามีเรื่องกะพี่มอหก  เรื่องที่ผมสนิทกับพี่เซนส์เพราะต่อยกันเป็นข่าวดังไปทั่วโรงเรียนในตอนนั้น หลายคนหาว่าผมบ้าไปแล้ว ไปมีเรื่องกับรุ่นพี่จนตัวเองน่วม แต่มันก็คุ้มดีนะกับผลที่ได้ ฮ่าๆ แน่นอน ยัยซ่าก็รู้เรื่อง จำได้ว่าตอนนั้นมันไม่ยอมคุยกับพี่เซนส์ไปเป็นอาทิตย์เลย ผมต้องนั่งเกลี้ยกล่อมให้มันหายโกรธพี่เซนส์ กว่ามันจะยอมคุยก็เล่นเอาเหนื่อย เหตุนี้ด้วยละมั้ง พี่เซนส์จึงชอบผมมากขึ้นไปอีก ^_^

    "เอ้อ แล้วนี่ ชินกะซ่าทานอะไรมาหรือยังเนี่ย"

    "ทานกันแล้วครับ"

    "อ่อ ดีแล้ว งั้นแม่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะจ้ะ อยากกินอะไรก็หยิบได้ตามใจชอบเลยนะชิน"

    "ครับ"

    ผมนั่งเล่นๆ คุยกันไปเรื่อยเปื่อย ซ่ามันเพิ่งเล่าให้ผมฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคาบเคมีของอาจารย์พัสนาวันนี้ โชคดีนะเนี่ย ผมเรียนสาย ศิลป์-คำนวณ
    เลยไม่ต้องมาเจออาจารย์ดุมหาประลัยอย่างเจ๊พัสนา ซ่ามันก็เด็ดจิงๆเลย ถึงกล้ากับอาจารย์ขนาดนี้ แต่ผมไม่แปลกใจหรอกนิสัยอย่างมันน่ะ...
    ผมและซ่านินทาอาจารย์กันอย่างสนุกสนาน (เด็กดีไม่ควรเลียนแบบนะฮะ)

    "แกว่ามั้ย ไอ้ชิน เจ๊แกหน้าเหมือนลิงบาบูนเลยหวะ ฮ่าๆๆๆๆๆ"

    "เฮ้ยยย คิดได้ไงว้ะ โคดเหมือนจิงๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ"

    "โห ชินเอ้ยย แค่ท่ายืนพี่แก ก้อป้าลูซี่แล้วว แกว่าเหมือนมั้ยล้ะ"

    "เออ จิงๆ ฮ่าๆ"

    "ปีใหม่นี้ เราซื้อกระเช้าหวีกล้วยให้เป็นของขวัญกันดีมั้ย ท่าทางอาจารย์แกคงถูกใจน่าดู"

    "ฮ่าๆๆ ว่าแต่ ลิงบาบูนมันจะมีตูดแดงๆไม่ใช่เหรอว้ะ แกว่าตูดอาจารย์จะแดงมั้ยไอ้ซ่า"

    "ก๊ากกกก แกก็ลองไปเปิดดูดิชิน อย่าลืมใส่หน้ากากออกซิเจนด้วยหละ เดี๋ยวไม่มีอากาศหายใจ"

    "ยัยบ้า ฮ่าๆๆๆ เออ ฉันได้ยินมาว่าอาจารย์แกเค้าชอบพวกของแบรนเนม"  รุ่นพี่ที่อยู่สายวิทย์คนนึงเล่าให้ผมฟังว่าเค้าซื้อของแบรนเนมไปให้อาจารย์ แล้วอาจารย์ก็ให้คะแนนจิตพิสัยเต็ม เฮ้ออ ยังมีอาจารย์แบบนี้อีกหรอเนี่ย

    "ของแบรนเนมเหรอ...เจ๊แกชอบ kipling แหงเลย ฮ่าๆๆ"

    "-_-?? ทำไมว้ะซ่า เกี่ยวอะไรกะ kipling"

    "ก็สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของ kipling ก็คือลิงไงเล่า ไอ้เบ๊อะ... อ.คงดีใจราวกับได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบรรพบุรุษตนเอง หุหุ"

    "ฮ่าๆๆ"

    "เห้ยย ชินเอ้ยย สองทุ่มแล้ว กลับดอยไปได้แล้วโว้ยยย"

    "นี่แกกล้าไล่เพื่อนตัวเองได้ลงคอเหรอ เฮ๊อะ.. ไปก็ได้ แต่รู้ไว้ซะ บ้านฉันไม่ใช่ดอยโว้ยยยยยย"

    "งอนเหรอ ไอ้เด็กดอยยยย" มันหันมาพูดแล้วแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม ถ้าผมมีกรรไกรผมจะเอามาเฉือนลิ้นมันตอนนี้เลยละ

    "นี่แกว่าใครเด็กดอย เด๋วปั๊ดดดด จับปล้ำตรงนี้ซะเลย"  ///

    "แม่จ๋าาาาาาาาาาาาาาา ไอ้ชินมันจะปล้ำหนู"   เฮ้ยๆๆๆ ไอ้ซ่า อย่าตะโกน ฉันล้อเล่นน่า

    "เอาเลยชินนน แม่ยกให้!!!" -_-" นี่คือเสียงที่ตระโกนกลับมา เออ พอกันเลยยย

    ">.< ทำไมแม่ทำกับหนูอย่างงี้ ฮึ๋ยๆ ฝากไว้ก่อนเถอะชิน กลับบ้านไป๊"

    "เออ ไม่ต้องไล่ก็ไปแล้วโว้ยยย บ๊ายบาย"

    "เออ บ๊ายบาย"

    ผมเดินออกมาจากบ้านใหญ่โตหลังนั้น เสียงยัยซ่าตะโกนร้องเพลงเด็กดอยใจดียังดังตามมาไม่เลิก ฮึ๋ยยย ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวแสบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×