ตอนที่ 9 : [Fic Detroit Become Human AU] Aggressive Cat -2-
[Fic Detroit Become Human AU] Aggressive Cat -2-
*ฟิคนี้เป็นฟิคAUของเกมส์Detroit Become Human เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในฟิคนี้เป็นเพียงแค่จินตนาการของผู้เขียนเท่านั่น ดังนั่นคาร์แรคเตอร์ตัวละครอาจจะมีการผิดเพี้ยนไปบ้างตามแต่เนื้อเรื่องจะดำเนินไป*
คอนเนอร์เคยคิดว่า ตัวเขาเองก็สามารถเข้ากับสัตว์ต่างๆได้ดี เขามักชอบเข้าไปเล่นกับสุนัขจรจัดหรือแมวจรจัด หรือแม้แต่ให้อาหารนกพิราบ ไม่เคยเลยที่พวกสัตว์จะไม่ชอบเขา พวกมันชอบเข้ามาเล่นกับเขาจนคอนเนอร์เองก็นึกสงสัยว่าตัวเขาเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสัตว์ขนาดนั่นเลยหรอ
แต่บางที เขาเองก็ต้องคิดใหม่ซะแล้ว...
“แง้ว!!!” เล็บแหลมของเมนคูนร่างใหญ่สีเทาดอกเลาตะบปเข้าที่มือขาวอย่างจังเมื่อเจ้าของมือหมายจะเอื้อมมาลูบเส้นขนสีเทาอย่างถือวิสาสะ
เพราะไม่ว่าเขาจะทำยังไง แมวตรงหน้าก็ไม่คิดที่จะยอมให้เขาลูบขนเลยสักนิดน่ะสิ...
.
.
.
.
คอนเนอร์รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ราวกับว่าบนเตียงกว้างไม่ได้มีเพียงแค่เขาเท่านั่นที่นอนอยู่ เขาไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเพี้ยนกันแน่ เพราะตั้งแต่รับเมนคูนสีเทาดอกเลาตัวนี้มาเลี้ยงดูให้บ้าน(จริงๆต้องเรียกว่าให้มาอาศัยอยู่ต่างหาก...) ในทุกๆคืน คอนเนอร์จะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นประหลาดบางอย่างที่โอบกอดเขาให้หลับฝันดี
ทั้งๆที่ตัวเขาไม่เคยหลับฝันดีเลยแท้ๆ...
มีบางครั้งที่เหมือนฝันเห็นชายที่ดูแล้วน่าจะถึงวัยทำงานแล้วโอบกอดเขาบนเตียง เส้นผมสีดอกเลาทำให้นึกถึงเมนคูนตัวใหญ่ในบ้าน เขารู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเอง ในฝันเขายอมให้ชายคนนั่นกอดเขาบนเตียงอย่างง่ายดาย ทั้งๆที่อีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า
แต่กลิ่นไอที่ให้ความรู้สึกว่าปลอดภัยและอบอุ่นของชายคนนั่น คอนเนอร์จึงยอมที่จะนอนนิ่งในอ้อมแขนของชายคนนั่นอย่างไม่มีเงื่อนไข
หรือฝันนั่นจะเป็นเพราะเจ้าเมนคูนตัวนี้กันนะ
ดวงตาคู่สวยสีเฮเซลนัทจับจ้องไปยังร่างใหญ่อวบสีดอกเลาที่นอนผึ่งแดดอยู่ข้างหน้าต่างอย่างสบายใจจนน่าเข้าไปฟัด แต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด...
จนถึงตอนนี้ ผ่านมา5วันแล้วเขาก็ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้เจ้าแมวก้าวร้าวตัวนี้เลย ทุกครั้งที่เขาพยายามจะตั้งชื่อให้ มันก็แยกเขี้ยวขู่ไปเสียทุกครั้ง ไม่รู้เพราะมันมีชื่อของมันเองหรือเพราะมันไม่อยากรับชื่อจากเขากันแน่ คอนเนอร์เลยได้แต่เรียกว่า เจ้าเหมียว ไปแบบนั่น
อีกอย่าง...เขายังแตะตัวเจ้าแมวตัวนี้แบบอิสระไม่ได้เหมือนกัน ทั้งๆที่ตอนเช็ดตัวให้ก็ยอมแท้ๆเลยนะ...
“ผมไปเรียนก่อนนะครับ แล้วจะรีบกลับมา” มือเรียวหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย ได้ยินเสียงร้องเบาๆดังมาจากเจ้าเหมียวที่นอนผึ่งแดดอยู่ริมหน้าต่างแต่ไม่ยักจะเงยหน้าขึ้นมาส่งเขาเลยสักนิด
นี่รึเปล่านะที่เขาเรียกว่า แมวเมิน...
ใบหน้าขาวนวลแสดงสีหน้าเศร้าใจนิดๆก่อนที่เดินออกจากบ้าน ท่ามกลางดวงตาดุสีฟ้าสดที่มองตามเด็กหนุ่มไปจนประตูหน้าบ้านปิดลง
พวงหางฟูสีดอกเลาสะบัดไปมาเบาๆอย่างงุ่นง่าน รู้สึกไม่ชอบใจใบหน้าเศร้าๆของคอนเนอร์ขึ้นมาตะหงิดๆยังไงก็ไม่รู้...
ร่างใหญ่ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนที่จะกระโดดลงจากตู้ข้างหน้าต่างที่นอนผึ่งแดดเมื่อครู่นี้ พลันร่างกายก็แปรเปลี่ยนเป็นร่างสูงใหญ่ของมนุษย์เพศชายวัยกลางผู้มีใบหูสามเหลี่ยมแบบเมนคูนและพวงหางฟูสีเดียวกับเส้นผมและเคราสีดอกเลาคนที่คอนเนอร์ ‘ฝัน’ เห็นทุกคืน
จนถึงตอนนี้ เจ้ามนุษย์นั่นก็ยังไม่รู้ตัวว่าคนที่กอดเจ้านั่นทุกคืนก็คือ แฮงก์
มือหนาจัดการเก็บข้าวของภายในบ้านโล่งๆของเด็กหนุ่มผู้อาศัยอยู่ตัวคนเดียว ทั้งล้างจาน เก็บเสื้อผ้าในตะกร้าไปซัก คอนเนอร์เป็นคนที่มีระเบียบพอสมควร แฮงก์จึงไม่ค่อยได้ทำอะไรมากนักนอกจากงานบ้านเล็กๆน้อยๆที่เจ้าตัวไม่สังเกตเห็นหรือลืมไปแล้วว่าตัวเองทำ
จนถึงตอนนี้แฮงก์ก็ไม่คิดที่จะเผยร่างนี้ให้คอนเนอร์เห็น
เรียกได้ว่าเผ่าพันธุ์ของแฮงก์ค่อนข้างที่จะไม่เป็นที่รับรู้ของสังคมเท่าไหร่นัก หากแต่ในตลาดมืด...เผ่าพันธุ์ของแฮงก์รู้จักกันในชื่อ ‘เวอร์บีสต์’ หรือเรียกกันติดปากว่า ‘พวกครึ่งสัตว์’ ที่มักถูกขายอย่างผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่มักจะถูกซื้อไว้เป็นทาสหรือเพื่อความสนุกสนานในกามรมณ์ของมนุษย์ชนชั้นสูงที่น่าขยะแขยง
ใช่ แฮงก์เองก็เป็นหนึ่งในสินค้าพวกนั่นเหมือนกันจนกระทั่งตัวเขาหนีออกมาจากนรกนั่น
โลกภายนอกไม่เคยรับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา แฮงก์เคยถูกขังในกรงรอวันถูกซื้อ ตั้งแต่เล็ก เขาถูกขายทอดสู่มือใครต่อใคร ผ่านเรื่องน่าขยะแขยงมาก็มาก ตัณหาของมนุษย์ไม่เคยพอและไม่เคยสนอะไรนอกจากความสวยงามและแปลกประหลาด
นั่นทำให้แฮงก์ไม่ไว้ใจมนุษย์หน้าไหนทั้งนั่น
แต่ทำไมกันเขาถึงยอมเข้าใกล้คอนเนอร์?
เรื่องนี้แฮงก์เองก็ยังบอกไม่ได้เหมือนกัน คงเพราะกลิ่นของเจ้าเด็กนั่นยังบริสุทธิ์อยู่ล่ะมั้ง
เมนคูนสีดอกเลาคิดไปก็ล้างชามไป
ใช่ ต้องเพราะว่าเจ้าเด็กนั่นยังเด็กอยู่แน่ๆ...
.
.
.
.
ร่างโปร่งนั่งเหม่ออยู่กับโต๊ะภายในห้องเรียน คิดไปถึงแมวที่บ้านว่ามันจะกินข้าวเที่ยงรึยัง แผลที่ท้องก็ยังไม่หายดี หรือว่ามันจะออกไปข้างนอกรึเปล่า...
มือเรียวแกะห่อแซนวิชเนื้อที่ซื้อมาพร้อมกับหยิบมันเข้าปาก ทานมื้อเที่ยงคนเดียวในห้องเรียนตามปกติ
คอนเนอร์เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่...จริงๆแล้วต้องเรียนว่า ก็มีคนเข้าหาเขาเยอะ แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะนับคนพวกนั่นว่าเป็นเพื่อนหรอก คนที่เข้าหาส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกที่อยากลอกการบ้านเขาหรือพวกที่เห็นดีแต่ความสามารถของเขาเท่านั่นแหละ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคอนเนอร์ถึงมักจะนั่งทานมื้อเที่ยงคนเดียวบ่อยๆ
อยากกลับไปอยู่กับเจ้าเหมียวที่บ้าน...
เดี๋ยวนี้เขาอยากจะกลับบ้านเร็วขึ้นอย่างประหลาด บ้านที่โล่งเกินไปสำหรับเขามีสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยกัน สาเหตุที่เขาอยากจะกลับบ้าน
รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้าของคอนเนอร์
“คิดเรื่องอะไรอยู่หรอคอนเนอร์” เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างกระทันหัน ทำให้ร่างโปร่งที่กำลังเหม่อคิดไปถึงแมวก้าวร้าวที่บ้านสะดุ้งเฮือก ใบหน้าขาวเนียนเงยขึ้นอย่างตื่นๆเล็กๆ ทำให้คนทักหัวเราะในลำคอ
“มะ...มาร์คัส! ละ...แล้วก็คาร่าด้วย...” ร่างโปร่งกระแอ่มเล็กๆเรียกมาดของตัวเองกลับมา เงยหน้ามองเพื่อนทั้ง2คนที่ยิ้มขำเขาอย่างออกหน้าออกตา ดวงตาคู่สวยสีเฮเซลนัทมองค้อนเล็กน้อย นั่นยิ่งเรียกรอยยิ้มเอ็นดูของเพื่อนๆได้มากขึ้นเป็นกอง
“ดูสิ อะไรกันที่ทำให้คอนเนอร์ผู้หน้านิ่งตลอดกาลให้ทำสีหน้าเหลอหลาได้เนี่ย!” ไม่รอช้า ร่างสูงผิวสีแทนเอ่ยแซวอีกฝ่ายทันที และไม่รอช้า สาวผมสั้นสีบลอนด์ทองอ่อนๆเอ่ยช่วยผสมโรงทันที
“นั่นสินะคะ คิดถึงใครอยู่ล่ะเนี่ย”
“หยุดแซวผมเถอะน่า...มาร์คัส คาร่า...” ร่างโปร่งยกมือขึ้นราวกับยอมแพ้ “อีกอย่าง ผมไม่ได้นึกถึงใครสักหน่อย!”
นึกถึงแมวต่างหาก!!
“ยอมแพ้เร็วไปแล้วคอนเนอร์” มาร์คัสนั่งลงตรงเก้าอี้ของโต๊ะหน้าคอนเนอร์ ส่วนคาร่าทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเด็กหนุ่ม ร่างโปร่งมองสลับเพื่อนที่อยู่ต่างห้องทั้งสองคนพลางถอนหายใจเบาๆกับแววตาคาดคั้นบวกกับนึกสนุกของทั้งคู่
แม้แต่คาร่าผู้เรียบร้อยก็เอากับเขาด้วย หรือว่าติดนิสัยของมาร์คัสมา...
“ยิ้มแบบเมื่อกี้ มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นหรอคะคอนเนอร์” เด็กสาวร่างเล็กเอ่ยถามเสียงใส นึกถึงรอยยิ้มเมื่อครู่ของอีกฝ่ายแล้ว เธอคิดว่าต้องมีอะไรดีๆเกิดขึ้นแน่ๆเลย เพราะคนอย่างคอนเนอร์ยิ้มยากจะตายไป เขายิ้มน้อยมากตั้งแต่รู้จักกันมา
“นั่นสิๆ เล่าให้พวกเราฟังเลยนะคอนเนอร์!” มาร์คัสเองก็คะยั้นคะยอให้คนชอบอมพะนำเล่าออกมา
“เอ่อ...” คอนเนอร์มองทั้งคู่ที่มองตรงมาที่เขาอย่างใจจดใจจ่อเต็มที่ราวกับกำลังตั้งใจที่จะฟังเรื่องราวของเขา
ถ้าถามว่าคอนเนอร์รู้จักมาร์คัสกับคาร่าได้ยังไงในเมื่อทั้งคู่อยู่ต่างห้องกับเขา มาร์คัสกับคาร่าเป็นเด็กห้องกิจกรรมต่างจากเขาที่อยู่ห้องวิชาการ ไม่น่าจะมาเป็นเพื่อนกันได้เลยแม้แต่น้อย
แต่เพราะเหตุการณ์ในวันนั่น ทำให้ทั้งสามคนกลายมาเป็นเพื่อนที่สนิทกันพอที่คอนเนอร์จะเรียกได้ว่าเพื่อน
“ก็แค่...รับแมวมาเลี้ยงเท่านั่นเอง”
“ห๊ะ!?/หืม?” เสียงร้องเบาๆอย่างประหลาดใจของเพื่อนทั้งสองดังขึ้น มาร์คัสกับคาร่ามองหน้ากันก่อนที่จะหันไปมองคอนเนอร์ที่เผลอหลุดยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงแมวที่บ้าน แต่ว่า...อย่างคอนเนอร์เนี่ยนะเลี้ยงแมว!?
“คอนเนอร์ นายแน่ใจนะว่าจะเลี้ยงไว้นะ” ร่างสูงผิวสีแทนเอ่ยอย่างเป็นกังวลนิดๆจนคอนเนอร์เลิกคิ้วกับน้ำเสียงของอีกฝ่าย ไม่ต่างกัน คาร่าเองก็มองมาที่เขาอย่างเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด
“ทำไมล่ะ? นายเป็นคนที่ชอบบอกให้ผมหาแฟนหรืออะไรแบบนั่นไม่ใช่หรือไง?” ร่างโปร่งเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะอีกฝ่ายนั่นแหละที่ชอบบอกให้เขาหาแฟนหรือคนรู้จักมาอยู่ข้างๆ ตัวเขาไม่อยากได้อะไรแบบนั่น แต่คิดว่าถ้าเป็นเจ้าเหมียวนั่นก็คงจะเหมือนๆกับแฟน(?)นั่นแหละ
“นั่นก็ใช่...แต่นายก็รู้นี่ว่าพ่อนายเขาไม่ชอบ...”
“ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับคนคนนั่นนี่”
ยังไม่ทันที่มาร์คัสจะพูดจบประโยค คอนเนอร์ก็เอ่ยขัดด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที เล่นเอาร่างสูงกว่าปิดปากฉับทันที คาร่าเห็นแบบนั่นก็รีบพูดแก้บรรยากาศมาคุๆนี่ทันที
“ละ...แล้วเป็นแมวพันธุ์อะไรหรอคอนเนอร์!?!” ดวงตาคู่สวยสีเฮเซลนัทกระพริบเล็กน้อย พยายามปรับอารมณ์ที่พุ่งขึ้นเมื่อได้ยินคำว่า พ่อ ปากของมาร์คัสแล้วหันไปตอบคาร่าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“เมนคูนน่ะ สีเทาๆดอกเลา ดวงตาดุๆหน่อย แต่เป็นสีฟ้าสวยมากเลยล่ะ” และแล้ว คอนเนอร์ก็เล่าถึงเจ้าเหมียวที่บ้านให้เพื่อนฟัง ลืมความขุ่นมัวก่อนหน้านี้ เปลี่ยนเป็นความสุขที่ได้อยู่กับเจ้าเมนคูนที่บ้านแทน ซึ่งมาร์คัสกับคาร่าก็โล่งอกนิดๆที่เปลี่ยนเรื่องออกมาได้
คอนเนอร์ไม่ค่อยถูกกับคุณพ่อ พวกเขารู้ดี เคยเจอแค่ไม่กี่ครั้งก็รู้แล้วว่าพ่อลูกคู่นี้ไม่ถูกกัน
“แล้วนี่ ไม่ตั้งชื่อให้แมวตัวนั่นหรือไง” มาร์คัสขมวดคิ้วอย่างสงสัย เพราะได้ยินเพื่อนเรียกแมวที่บ้านว่า เจ้าเหมียวๆ อยู่นั่น ไม่เรียกชื่อสักที นั่นเรียกรอยยิ้มแห้งๆของคอนเนอร์ได้ทันที
“มันไม่อยากให้ตั้งชื่อน่ะ คิดจะตั้งชื่อทีไรขู่ฟ่อใส่ทุกที” คอนเนอร์ถอนหายใจเบาๆพลางนึกหาโอกาสที่ตัวเองจะได้อุ้ม ได้ฟัดร่างอวบๆของเจ้าเหมียวสีดอกเลาที่บ้าน ซึ่งเปอร์เซ็นความสำเร็จนั่นต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหลือเกิน
มาร์คัสซึ่งไม่รู้วิธีการเลี้ยงแมวเลย โดยเฉพาะจากที่ฟังแล้วดูเป็นแมวที่ค่อนข้างเกรี้ยดกราดมากกว่าแมวทั่วไปแบบนี้อีกจึงทำได้แต่ตบไหล่เพื่อนให้กำลังใจไป ส่วนคาร่าก็ได้แต่ยิ้มอ่อนเพราะไม่รู้จะช่วยยังไงเหมือนกัน
“ขอให้โชคดีนะคอนเนอร์ ฉันเชื่อว่า เดี๋ยวมันก็ยอมให้เธอลูบขนเองนั่นแหละ”
คอนเนอร์ยิ้มให้กับคำปลอบของคาร่า
“ผมก็หวังว่าแบบนั่นเหมือนกัน คาร่า...”
.
.
.
.
กริ๊งๆ!!
เสียงโทรศัพท์บ้านที่ดังขึ้น ทำให้ร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมสีเข้มหันมอง เสียงโทรศัทพ์ก็ยังดังต่อไปไม่มีท่าทีว่าจะหยุด แฮงก์เองก็ไม่รู้จะทำยังไงนอกจากปล่อยให้มันดังต่อไปแบบนั่นจนในที่สุดสัญญาณก็ตัดไปเข้าสู่การฝากข้อความ
[คอนเนอร์ นี่พ่อของแกนะ] ประโยคที่ดังมาจากโทรศัพท์บ้าน ทำให้คิ้วหนาขมวดนิดๆ ดวงตาคมสีฟ้าสดเลื่อนไปจับจ้องที่โทรศัพท์บ้านอย่างจริงจังพอๆกับใบหูบนศีรษะที่ตั้งชันรับฟังอย่างตั้งใจอย่างเผลอตัว อยู่มา5วันเพิ่งเคยได้ยินการติดต่อจากครอบครัวของเจ้าเด็กนี่เป็นครั้งแรก [แกจะดื้อยังไงก็ได้ แต่ต้องกลับบ้านมารายงานตัวบ้างว่ายังอยู่ดี ส่วนเรื่องเงิน ฉันโอนเข้าบัญชีให้แล้ว อย่าก่อปัญหาก็พอ วันเสาร์หน้ามาหาที่บ้านใหญ่ด้วย แค่นี้แหละ]
ติ๊ด...
แล้วข้อความก็จบลง แฮงก์ขมวดคิ้วตลอดการฟังข้อความที่อยู่ในเครื่องฝากข้อความ ใบหูสามเหลี่ยมสีดอกเลารับรู้ได้ถึงน้ำเสียงของความห่างเหินและเข้มงวดของผู้ปกครองของคอนเนอร์ พ่อบ้านไหนกันที่จะพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงห่างเหินขนาดนี้
ดวงตาคมสีฟ้าสดเหลือบขึ้นมองนาฬิกาบนฝาบ้าน ใกล้เวลาที่เด็กนั่นจะกลับมาแล้ว มือหนาถอดเสื้อคลุมออก พับไว้อย่างเรียบร้อยบนโซฟาไม่ให้ผิดสังเกตก่อนที่ร่างกายจะค่อยๆหดลงกลับกลายเป็นแมวร่างอวบใหญ่สีเทาดอกเลาเหมือนอย่างเคย
และเก็บงำความสงสัยก่อนหน้านี้ไว้เงียบๆ
แกร๊ก...
“กลับมาแล้วครับ” เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงนุ่มติดจะแหบที่ดังตามมา ร่างโปร่งของเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มดันประตูเข้ามาภายในบ้านพร้อมกับข้าวของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ดวงตาคู่สวยสีเฮเซลนัทมองหาเมนคูนตัวใหญ่ก่อนในทันทีที่เปิดประตูเข้ามาก่อนที่จะส่งยิ้มบางๆไปให้ร่างอวบใหญ่ที่นอนมองมาจากโซฟา
เจ้าเด็กนี่มันใช้รอยยิ้มเปลืองจริงๆ...
“วันนี้ผมซื้อปลาทูน่ามาฝากด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มว่าพร้อมกับวางของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะทานข้าว ร่างบนโซฟากระโดดลงมาก่อนที่จะเดินไปกระโดขึ้นบนโต๊ะทานข้าว ปลายจมูกก้มลงดมฟุดฟิดเพื่อสำรวจของภายในถุง
คอนเนอร์เห็นแบบนั่นก็ยกยิ้มเอ็นดูพร้อมกับยกมือขึ้นเอื้อมออกไปหมายจะแตะลงบนเส้นขนสีเทาดอกเลานั่น
“แง้ว!!!”
“โอ้ย...”
มือขาวชักกลับไปเมื่อถูกกรงเล็บแหลมข่วนบนหลังมือจนเลือดซิบหน่อยๆ ดวงตาดุสีฟ้าสดจ้องมองมาราวกับที่ข่วนเมื่อกี้ถือเป็นการลงโทษที่ถือวิสาสะจะลูบขนของเจ้าตัว คอนเนอร์เผลอมุ่ยหน้านิดหน่อย
“เมื่อไหร่จะยอมให้ผมลูบขนสักทีล่ะครับ...”
“แง้ว!!!”
คล้ายกับได้ยินว่าไม่มีทางซะหรอกเลย...
ติ๊ด...
เสียงเครื่องฝากข้อความดังขึ้น เรียกความสนใจของเด็กหนุ่มเจ้าของบ้านไป เจ้าแมวสังเกตเห็นคิ้วเรียวที่ขมวดเล็กน้อยก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไปกดเปิดข้อความเสียงที่ปลายสายฝากไว้
ข้อความเดิมกับที่แฮงก์ได้ยินดังขึ้นกับคอนเนอร์ที่นิ่งไป ดวงตาคู่สวยสีเฮเซลนัทไม่สอดแววอารมณ์ใดใดในขณะที่ฟังข้อความจากผู้เป็นพ่อ ใบหน้าขาวเนียนเรียบนิ่งไม่ปรากฏอารมณ์ หากแต่แฮงก์สังเกตเห็น...มือเรียวขาวกำแน่น
จนกระทั่งข้อความนั่นจบลง
ดวงตาคู่สวยสะท้อนอารมณ์หม่นหมองจนเมนคูนตัวใหญ่ใจหาย แต่เพียงไม่นานนัก ร่องรอยอารมณ์หม่นหมองนั่นก็หายไป อีกฝ่ายกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มจืดชืด
“เดี๋ยวผมแกะปลาให้กินนะครับ” ว่าจบ ร่างโปร่งก็ผละไปที่ครัว ทิ้งให้ร่างใหญ่มองตามไปด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
มือเรียวถือมือถือไว้ในมือ ดวงตาคู่สวยสีเฮเซลนัทจ้องมองหน้าจอที่มีรูปของบุคคล4คน มีชายวัยกลางคนดูภูมิฐานที่ยืนอยู่ข้างๆหญิงสาวหน้าตาสะสวยกับเด็กชาย2คนที่คนหนึ่งยิ้มบางๆ อีกคนมีสีหน้าเรียบนิ่งที่แทบจะได้มาจากชายวัยกลางคนคนนั่น
รูปครอบครัว...ที่คอนเนอร์ไม่อยากที่จะใส่กรอบตั้งไว้ในบ้าน
แววตาของร่างโปร่งฉายแววหม่นหมองอีกครั้ง มือเรียวละจากมือถือแล้วยกขึ้นกุมใบหน้าของตัวเอง ปิดบังความไม่สบายใจและความกังวลของตัวเองจากโลกภายนอกหมดทุกทาง
ร่างใหญ่ของเมนคูนจ้องมองเด็กหนุ่มที่ซุกใบหน้าลงกับฝ่ามือ แฮงก์นิ่งมองอยู่มาพักใหญ่แล้ว เป็นอีกครั้งในวันเดียวกันที่มองเห็นแววตาหม่นหมองของเด็กหนุ่ม แววตาที่แฮงก์เห็นแล้วอดไม่ได้ที่จะไม่สบอารมณ์ใครก็ตามที่ทำเด็กคนนี้มีแววตาแบบนี้จนอดไม่ได้ที่จะแปลกใจตัวเองที่โกรธแทนคอนเนอร์
ตุบ
เสียงหนักๆของแมวร่างใหญ่ที่กระโดดขึ้นมาบนเตียง มือเรียวละจากใบหน้าแล้วหันมองสบกับดวงตาดุสีฟ้าสดของเมนคูนสีดอกเลา ไม่รู้ทำไม...คอนเนอร์ถึงรับรู้ได้ถึงความห่วงใยจากเจ้าแมวที่มักจะก้าวร้าวใส่เขาทุกๆวัน หนึ่งคนหนึ่งแมวสบตากันนิ่ง
รอยยิ้มฝืนๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม
“ผมไม่เป็นอะไรหรอก”
ร่างอวบใหญ่มองรอยยิ้มบนใบหน้าขาวของเด็กหนุ่มก่อนที่จะขยับตัวทำสิ่งที่คอนเนอร์ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น!
“อ๊ะ...” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างเมื่อร่างอวบใหญ่ปีนขึ้นมานั่งบนตักของเขา เมนคูนตัวใหญ่เงยหน้าขึ้นมองสีหน้าอึ้งๆของเด็กหนุ่ม แววตาคล้ายกับเหนื่อยหน่ายนิดๆแต่ก็ไม่ได้ขยับลงจากตักของคอนเนอร์แต่อย่างใด นั่นทำให้ร่างโปร่งทำอะไรไม่ถูก
“นาย...” คอนเนอร์กระพริบตารัวๆเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา ดวงตาคู่สวยสีเฮเซลนัทมองแมวร่างใหญ่บนตัก “ปลอบใจผมหรอ...”
“แง้ว!” เสียงที่ดังขึ้นตืดจะไม่สบอารมณ์หน่อยๆที่ถูกถามแต่ก็อ่อนลงมากกว่าวันที่ผ่านๆมา
มือเรียวลองแตะลงบนเส้นขนสีดอกเลาเบาๆเพื่อลองเชิงและสังเกตท่าทีของแมวบนตัก เขายังจดจำรสชาติของการถูกแมวข่วนได้อยู่นะ
แต่เมื่อไม่เห็นท่าทีต่อต้านสัมผัสจากเขา แถมเจ้าแมวบนตักยังหลับตาพริ้มยอมให้ลูบขนแต่โดยดีอีก มือที่แค่แตะๆก็ลงแรงลูบเส้นขนสีดอกเลาอย่างเต็มมือ สัมผัสขนนุ่มทำให้คอนเนอร์ผ่อนคลายลง นิ้วมือสางเส้นขนยาวๆของเมนคูน คอนเนอร์ได้ยินเสียงครางเบาๆอย่างสบายอารมณ์ของเจ้าเหมียว พลันรอยยิ้มจางๆก็ปรากฏบนใบหน้า
“ขอบคุณนะ”
แฮงก์ลอบมองใบหน้าของเด็กหนุ่ม พอเห็นสีหน้าที่ผ่อนคลายของคอนเนอร์ เขาก็รู้สึกดีขึ้น และยอมรับกับตัวเองอย่างเงียบๆว่า มือและนิ้วของคอนเนอร์ที่ลูบเส้นขนบนตัวของเขาทำให้รู้สึกดีไม่น้อย ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีใครลูบขนของแฮงก์แล้วทำให้รู้สึกดีขนาดนี้มาก่อน
และเมื่อยิ่งเห็นสีหน้าและรอยยิ้มของเด็กนี่แล้ว...แฮงก์จะยอมให้อีกฝ่ายลูบขนของเขาแบบนี้ก็ได้
ยังไง การใช้รอยยิ้มสิ้นเปลืองของเจ้าเด็กก็ยังดีกว่าแววตาหม่นหมองของเจ้าตัวล่ะนะ!!
.
.
.
.
วันนี้คอนเนอร์รู้สึกว่าตัวเองจะฝันดีกว่าคืนที่ผ่านมา เจ้าเหมียวยอมให้เขาลูบขนแล้ว!
ใบหน้าขาวอมยิ้มกับตัวเองพลางซุกใบหน้าลงกับหมอน เขายังนอนไม่หลับ เพราะกำลังมีความสุขเมื่อนึกถึงสัมผัสนุ่มๆของขนแมวเมนคูนสีดอกเลาที่เพิ่งได้สัมผัสเมื่อช่วงดึก ถึงหลังจากนั่นไม่นาน เจ้าเหมียวจะกระโดดลงจากตักแล้วเดินสะบัดหางไปนอนที่โซฟาก็ตาม
แต่แค่ได้แตะก็มีความสุขแล้ว!!
ตอนนั่นเอง...คอนเนอร์ที่กำลังรู้สึกตัวว่าต้องนอนไม่หลับแน่ๆคืนนี้ สัมผัสได้ถึงแรงกดบริเวณข้างเตียงพร้อมกับแรงดึงรั้งไปด้านหลังคุ้นเคยและความอบอุ่นในความฝันที่โอบล้อมตัวเขา ลมหายใจของร่างโปร่งสะดุด ตอนนี้เขาไม่ได้ฝันอยู่!!
มือหนาแตะลงบนศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มนุ่ม อีกมือหนึ่งของบุคคลปริศนาโอบเอวเขาให้ซุกลงบนอกของอีกฝ่าย คอนเนอร์นอนตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ก่อนที่จะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างฟูๆคล้ายกับขนแมวที่พาดลงบนขา นั่นทำให้ดวงตาคู่สวยเลื่อนลงมอง
พวงหางแมวสีดอกเลาคุ้นตาพาดลงบนขาของเขา!
การประมวลผลในสมองวิ่งเร็วจี๋ ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดเท่าไหร่ แต่มีแต่ต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตาเท่านั่น!
ร่างโปร่งนับเลขในใจก่อนที่จะรวบรวมความกล้า ยกแขนดันตัวเองออกจากอกแกร่งพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเจ้าของร่างที่เขาสบนอนทุกคืนที่ผ่านมา
“เวรเอย...” เสียงสถบดังมาจากร่างตรงหน้า แต่ประสาทการรับเสียงของคอนเนอร์มันดับไปแล้วเมื่อมองคนตรงหน้าเต็มตา
“เจ้า...เหมียว...?”
ใบหน้าคมคายครึมเคราที่มีเส้นผมสีดอกเลาตกละบนใบหน้าแสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์หน่อยๆจ้องมองกลับมาด้วยดวงตาคู่คมออกจะดุๆหน่อยสีฟ้าสดแสนคุ้นตา
“เออสิ คิดว่าใครล่ะ!?!”
ใบหูสามเหลี่ยมสีดอกเลาลู่ลงคล้ายกับกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดีแบบสุดๆ
คอนเนอร์กลืนน้ำลายตัวเองเล็กน้อย
แมวที่เก็บมาเลี้ยงกลายเป็นคนไม่ได้มีแค่ในนิยายเพ้อฝันหรอ!?!
.
.
.
.
TO BE CONTINUED
-Talk with Writer-
สวัสดีค่าาาาาา พบกันอีกแล้วนะคะ ลงเร็วหน่อยเพราะจะหายไปสัก3วัน ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ฝึกงานนนนน ช่วงพุธ-พฤหัสบดีคือวันหยุดของไรท์คค่ะ ทางที่ฝึกงานเขาไม่ค่อยชอบให้หยุดวันเสาร์อาทิตย์ ก็เลยเป็นเช่นนี้แหละค่ะ
วันนี้ก็มาต่อกับAggressive Cat แมวเกรี้ยดกราดกะน้องคอนเนอร์ดื้อเงียบ ตอนแรกเราไม่คิดว่าจะแต่งตอนยาวขนาดนี้!!! กลายเป็นว่าน้องมีปมเฉย แมวลุงก็เช่นกัน เราประมาณไว้ว่าจะยาวสัก4-5ตอน ไม่อยากยาวกว่านี้ คิดพล๊อตอื่นออกแล้วเฉยเลย รอให้เรื่องนี้จบก่อนค่อยขึ้น 555555 น้องได้ลูบตัวลุงแมวแล้ว ไรท์ก็อยากลูบบ้างนะ...//โดนแมวข่วน
ยังไงก็ตาม ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเม้นทุกๆคอมเม้นนะคะ จะพยายามมาลงตอนใหม่ให้เร็วที่สุดค่ะ ถ้าอ่านแล้วติดขัดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ มือมันลื่นไปหน่อย ภาษาเลยจะงงๆตามไป แฮะๆ คืนนี้ขอตัวก่อน เจอกันเมื่อตอนใหม่มาลงนะคะ บะบายยยย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แฮงค์น่ารักมากกกกกกกกกก
คอนเนอร์นี่เป็นทาสแมวเต็มตัวไปแล้วใช่มั๊ยคะ55555 แล้วตอนจบ อมก ความจริงเปิดเผยแล้วววววว
มาต่อเร็วๆสิท่านข้ารอไม่ไหวแช้ว!!!!!!!!
อยากมือลื่นแล้วภาษาดีแบบนี้จังค่ะ.... โอ้ยยยยย ลูงงงงงงงงงง ทำมาซึนแต่จริงๆแล้วอยากกอดดม(?)น้องทุกคืนใช่มะล่าาาาาา เป็นไงล่ะ ซึนแล้วต้องมาแอบแต๊ะอั๋งเขาจนโป๊ะแตก ????// สู้ๆกับที่ทำงานนะคะ เป็นกำลังใจให้ จะรอติดตามพลอตอื่นๆนะคะะะะะ
ซึนจังเลยน้าาาา. อิอิ
ส่วนเรื่องที่บ้านน้องมีอะไรนั้น รอติดตามอ่านอยู่นะคะ //////