ตอนที่ 18 : Aggressive Cat -Special- [900(Connel) x Gavin] (FULL)
Aggressive Cat -Special- [900(Connel) x Gavin]
*ฟิคนี้เป็นฟิคAUของเกมส์Detroit Become Human เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในฟิคนี้เป็นเพียงแค่จินตนาการของผู้เขียนเท่านั่น ดังนั่นคาร์แรคเตอร์ตัวละครอาจจะมีการผิดเพี้ยนไปบ้างตามแต่เนื้อเรื่องจะดำเนินไป*
ใช้ชีวิตอยู่มา30ปี ยึดอาชีพเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนมา7ปี ในชีวิตของกาวิน รี้ดที่มีนิสัยดื้อด้าน ปากเสีย ไม่ฟังใคร มีแต่คนเกรงกลัว มีแต่คนเกรงใจ ไม่เคยเลยที่ชีวิตของเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้!!
.
.
.
.
“อึก...” ร่างสมส่วนบิดเกร็งสั่นเทา มือหยาบจิกลงกับเสาสเตนเลสด้วยความอัดอั้น ริมฝีปากสีสดเม้มแน่นก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงบีบบนบั้นท้ายเต็มไม้เต็มมือ ใบหน้าคมติดหวานซบลงบนเสาสเตนเลส ดวงตาสีเทาสวยเหลือบมองบุคคลที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังด้วยแววตาหงุดหงิดปนอ่อนล้า
ร่างแกร่งที่สูงกว่าเขายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาอ่อนเยาว์ดูแล้วน่าจะอายุไม่เกิน20ปีกำลังยกยิ้มที่มุมปากเมื่อสังเกตเห็นแววตาของอีกฝ่าย พลันแรงบีบขย้ำที่บั้นท้ายก็แรงขึ้นจนเสียงครางของคนตัวเล็กกว่าเล็ดลอดผ่านริมฝีปากที่เม้มแน่น
ดวงตาคมสีฟ้าใสจ้องตอบกลับด้วยแววตาท้าทาย
เขาไม่เข้าใจ...ว่าตัวเองตกมาอยู่ในสถานการณ์ถูกลวนลามบนรถไฟฟ้าได้ยังไง!?! ไม่สิ...ต้องถามตัวเองว่าเขายอมให้อีกฝ่ายลวนลามได้ยังไงต่างหาก!?!
“!!” ดวงตาสีเทาสวยเบิกกว้างเมื่อมือใหญ่ขยับเลื่อนจากบั้นท้ายมาด้านหน้า กาวินตะบปลงบนมือใหญ่พร้อมกับจิกลงบนมือที่เริ่มลามปามกับร่างกายของเขาจนคนกระทำขมวดคิ้วเล็กๆ
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเลื่อนลงมาพร้อมกับกระซิบเบาๆที่ข้างหูของคนที่แนบตัวเข้ากับเสาบนรถไฟฟ้าแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
“ห้ามทำไมล่ะครับ?”
ยังจะมีหน้ามาถามอีก!!
กาวินจิกสายตาส่งให้อีกฝ่ายอย่างหงุดหงิด
“ไม่ ไม่ให้มากกว่านี้แล้วโว้ย!” ตำรวจหนุ่มส่งเสียงกระซิบเสียงต่ำพร้อมกับจิกมือใหญ่ของอีกฝ่ายที่ทำท่าราวกับจะขย้ำลงบนบั้นท้ายของเขาอีกครั้งแรงๆ “พอ! ฉันให้แกเล่นสนุกมามากพอแล้วโว้ย”
คนตัวสูงกว่ากระตุกยิ้มมองท่าทีราวกับแมวที่ขู่ฟ่อขนพองตรงหน้า
เสียงประกาศถึงสถานีดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เลื่อนเปิดออก ร่างสมส่วนรีบผลักเด็กหนุ่มที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังออกอย่างแรงพร้อมกับพุ่งตัวออกจากขบวนรถไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว ประตูอัตโนมัติปิดลงขวางกั้นเขากับเจ้าโรคจิตลวนลามร่างกายเขาบนรถไฟฟ้า
“ลาขาด” กาวินเอ่ยช้าๆชัดๆแบบไร้เสียงพร้อมกับยกนิ้วกลางใส่คนที่จ้องเขาอยู่บนรถไฟฟ้าก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากชานชะลาไปทันที ปล่อยให้คนที่ยืนอยู่บนรถไฟฟ้าจ้องตามไปจนลับสายตา
ให้ตายเถอะ ชาตินี้อย่าได้มาเจอกันอีกเลยว่ะ ไอ้เวร!
ดวงตาคมสีฟ้าใสจ้องมองฝ่ามือที่เพิ่งได้สัมผัสกับบั้นท้ายแน่นๆเมื่อครู่นี้นิ่ง มุมปากของคนตัวสูงกระตุกขึ้นยิ้มเล็กๆบนใบหน้าเรียบนิ่งเท่าที่คนยิ้มยากอย่างเขาจะยิ้มได้
‘ลาขาด’
ริมฝีปากสีสดของอีกฝ่ายขยับเอ่ยโดยไร้เสียง แต่ตัวเขาเองก็สามารถอ่านปากอีกฝ่ายออกได้
กริ๊งงง!
มือถือในกระเป๋ากางเกงสั่นจนเด็กหนุ่มต้องหยิบออกมากดรับพร้อมกับยกขึ้นแนบกับหู
“ครับคุณพ่อ” เขาเอ่ยตอบรับบุคคลที่โทรมากอย่างสุภาพและเคร่งขรึม ร่างสูงเอนพิงกับเสาสเตนเลสที่ใครบางคนพิงมาตลอดก่อหน้านี้ กลิ่นกาแฟอ่อนๆบนตัวอีกฝ่ายทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงใบหน้าและแววตาหงุดหงิด
[แกฟังฉันอยู่รึเปล่าคอนเนล] เสียงทุ้มมีอำนาจดังผ่านเข้าหาทางสัญญาณโทรศัพท์จนคอนเนลต้องดึงตัวเองกลับมาให้จดจ่ออยู่กับสายสำคัญจากคุณพ่อ
“ขอโทษครับคุณพ่อ ผมเหม่อไปหน่อยครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับไปพร้อมกับขอโทษที่เหม่อจนไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพ่อพูด คุณพ่อของเขาเป็นบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเคร่งครัดและเด็ดขาดมากที่สุดคนหนึ่ง ถ้าทำได้ คอนเนลก็ไม่อยากขัดใจคุณพ่อของเขามากนัก
[ช่างมันเถอะ กลับถึงบ้านรึยัง] อีกฝ่ายถาม ซึ่งคอนเนลก็ตอบกลับไปตามตรงว่ายังไม่ถึง
ในความเป็นจริง เขามักจะมีคนขับรถมารับ-ส่งเสมอ แต่ในวันนี้ ตัวเขาเองอยากที่จะลองทำอะไรใหม่ๆดูบ้าง ถึงจะขัดคำสั่งคุณพ่อไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ขัดใจอะไรท่านมากนัก อีกฝ่ายเพียงแค่บ่นเท่านั่น
คอนเนลรู้ดีว่าคุณพ่อของเขาเป็นห่วงลูกทุกคน แม้กระทั่งพี่ชายของเขา คอนเนอร์ ที่ตอนนี้ออกมาอาศัยอยู่คนเดียวที่บ้านเดี่ยวหลังเล็ก ไม่ได้อยู่กับครอบครัว...
[เออ เจอกันที่บ้าน แต่ถ้าถึงบ้านแล้วก็มาคุยกับฉันที่ห้องทำงานด้วย] ว่าจบ คนเป็นพ่อก็ตัดสายไป คอนเนลนิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกงพร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นในใจ
คุย...เรื่องอะไรกัน
.
.
.
.
“เฮ้ย!! กาวิน สารวัตรเรียกให้เข้าไปหาที่ห้องทำงาน!” เสียงหนึ่งเอ่ยเรียกให้เจ้าหน้าที่หนุ่มผละตัวออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดไฟล์คดีลักพาตัวคดีหนึ่งที่เพิ่งได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้
เรียกไปทำไมว่ะ
เขาก็ได้แต่คิด ร่างสมส่วนลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางเดินตรงไปยังห้องทำงานของอีกฝ่ายแล้วผลักประตูเข้าไป
“เรียกมา มีอะไร...” เสียงทุ้มต่ำที่กำลังจะเอ่ยถามพลันเงียบลงพร้อมกับดวงตาสีเทาสวยจะเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
นั่นมันไอ้เด็กโรคจิตที่ลวนลามเขาบนรถไฟฟ้านี่!!!
สารวัตรผิวสีวัยกลางคนหันกลับไปมองคนที่เบิกตากว้างอยู่หน้าประตูพลางเลิกคิ้วเชิงสงสัย
“เป็นอะไรรี้ด”
เจ้าหน้าที่หนุ่มนิ่งไปก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นสงสัย ดวงตาสีเทาสวยเลื่อนไปมองเด็กหนุ่มร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเซ็ทเรียบร้อยดูดีที่ยืนไพล่มือไปด้านหลังจ้องมองเขาด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกจนเขานึกหงุดหงิดใจ
“นี่คอนเนล เด็กที่เบื้องบนฝากมาดูงาน” ฟาวเลอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบพร้อมกับผายมือไปที่เด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ในห้อง กาวินเลิกคิ้วเล็กน้อยมองเด็กหนุ่มที่ดูท่าจะยังไม่พ้นช่วงมัธยมปลายด้วยซ้ำก่อนที่จะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินคำพูดต่อไป “ฝากนายสอนงานเจ้าเด็กนี่ด้วยแล้วกันรี้ด”
“เฮ้ย!! เดี๋ยวสิสารวัตร!!” แน่นอนว่ากาวินเอ่ยคัดค้านทันที! มือหยาบชี้นิ้วไปที่เด็กหนุ่มที่ยืนหน้านิ่งอยู่ข้างๆสารวัตรด้วยแววตาที่แสดงออกว่าหงุดหงิดมากๆ “ให้ผมสอนงานเจ้าเด็กนี่เนี่ยนะ!? ที่นี่กรมตำรวจนะครับไม่ใช่สนามเด็กเล่น!!”
ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ทำงานร่วมกับเจ้าโรคจิตนี่หรอก!!
“อีกอย่าง ไอ้เด็กนี่ยังไม่จบHigh Schoolเลยมั้ง...”
“เจ้าหน้าที่รี้ด” เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้น ทำให้คนอายุมากกว่าหุบปากลงก่อนที่จะมองคอนเนลที่ส่งเสียงขัด “จริงอยู่ที่ว่าผมยังไม่จบHigh School แต่ผมได้จบหลักสูตรพิเศษการสืบสวนขั้นต้นและการสอบปากคำพยานขั้นต้นจากกองทัพทหารมาครับ ซึ่งอดีตนายพลยศสูงเป็นผู้ฝึกผมเองกับมือครับ”
จบหลักสูตรขั้นต้นด้วยอายุเท่านี้น่ะนะ!?!
ร่างสมส่วนคิดด้วยความตกใจ ใครที่ไหนจะส่งเด็กอายุเท่านี้ไปฝึกกัน แต่ถ้าเป็นจริง เจ้าเด็กนี้ถือเป็นคนที่มีพรสวรรค์สุดๆสำหรับคนที่จะเดินมาสู่สายอาชีพนี้
แต่ถึงแบบนั่น...
“เหอะ! แล้วไง ยังไงผมก็ไม่ยอมเป็นพี่เลี้ยงเจ้าเด็กนี้เด็ดขาด!” คนตัวเล็กกว่ากอดอกราวกับไม่ว่าใครจะว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมทำหน้าที่นี้เด็ดขาด!
“กาวิน รี้ด!!” เสียงเอ่ยตะคอกเสียงดังของสารวัตรทำให้กาวินชะงัก “ต่อให้แกไม่ยอมทำ แกก็ขัดคำสั่งที่เบื้องบนส่งมาไม่ได้หรอกโว้ย!! หมดธุระแล้ว ออกไปได้แล้ว แล้วพาคอนเนลไปด้วย!!” ชายวัยกลางคนเอ่ยตัดจบพร้อมกับโบกมือไล่คนที่ทำหน้าเหวอให้ออกไป
“ดะ...เดี๋ยวสิ!”
หมับ
“ครับ งั้นผมกับเจ้าหน้าที่รี้ดขอตัวก่อนนะครับ” คอนเนลคว้าแขนของคนตัวเล็กกว่าพร้อมกับใช้แรงที่มากกว่าดึงร่างสมส่วนให้เดินตามเขาออกจากห้องของสารวัตรไปโดยที่ไม่สนใจเสียงโวยวายพร้อมกับอาการดิ้นให้หลุดจากมือแกร่งของกาวินแม้แต่น้อย
ยังไงเขาก็ไม่ยอมรับไอ้เด็กนี้เด็ดขาดโว้ย!!
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าสถานการณ์ของกาวินกับคอนเนลอยู่ในขั้นวิกฤต ทั้งตัวกาวินที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งคอนเนลเสมอ ไม่ว่าจะใช้ไปชงกาแฟแล้วบอกให้ไปชงมาใหม่เพราะรสชาติห่วย(ถึงเจ้าตัวจะยอมรับในใจว่าอร่อยก็ตาม...) ใช้ให้เอาขยะไปทิ้ง ใช้ให้ไปซื้อของกินให้ สารพัดจะจิกหัวใช้เด็กหนุ่ม
แรกๆคอนเนลก็ยอมก้มหน้าทำไปโดยที่ไม่ได้บ่นอะไร แต่หลังๆมาเจ้าตัวเองก็มีการแก้เผ็ดเจ้าหน้าที่หนุ่มกลับบ้าง อย่างการคว่ำแก้วกาแฟลงบนศีรษะของกาวิน หยิบขนมป้อน(ยัด)เข้าปากคนอายุมากกว่า
เรียกได้ว่า...ได้ยินเสียงโวยวายของคู่นี้แทบจะทั้งวัน...เล่นเอาสารวัตรใหม่กุมขมับไปหลายวัน
“วันนี้ต้องลงภาคปฏิบัติด้วยกันครั้งแรก อย่าฆ่ากันตายล่ะ” ฟาวเลอร์นวดขมับตัวเองในขณะที่มองบุคคลต้องหน้าทั้งสองคนที่มีคนหนึ่งที่แยกเขี้ยวใส่ ส่วนอีกคนหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดใด
มันจะพากันรอดหรือลงเหวว่ะ...
“รับทราบครับ” เด็กหนุ่มรับคำด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ผิดกับอีกคน
“เออ ถ้าไอ้เด็กเวรนี่ไม่เข้ามาขัดขาผมนะ” กาวินตอบด้วยน้ำเสียงแดกดันคนข้างตัวพร้อมกับหันหลังเดินออกจากห้องไปเป็นคนแรก ในขณะที่คอนเนลกำลังจะก้าวเดินตามอีกคนไป ฟาวเลอร์ก็รั้งไว้ซะก่อน
“ดูแลเจ้ารี้ดด้วย” ว่าจบก็โบกมือไล่เขาให้เดินตามคนตัวเล็กกว่าออกจากห้องทำงานไป
หมายความว่ายังไง?
แต่ไม่นานนัก คอนเนลก็รู้คำตอบ
ปัง!!
“คุณรี้ด!!” ร่างสูงพุ่งออกจากกำบังตรงไปยังร่างสมส่วนที่ทรุดตัวลงกุมช่วงท้องที่ถูกยิง มือแกร่งประคองร่างของกาวินที่หลับตาแน่น สีหน้าของอีกฝ่ายแสดงถึงความเจ็บปวดจนเด็กหนุ่มเป็นกังวล เลือดสีสดไหลอาบจากรอยกระสุนที่ยิงโดยผู้ต้องสงสัยที่จนมุม
ในขณะที่เจ้าหน้าที่มากมายตรงเข้าคุมตัวของคนร้าย คอนเนลกลับไม่รับรู้อะไรนอกจากคนบาดเจ็บที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา เด็กหนุ่มถอดเสื้อตัวนอกออกพร้อมกับใช้มันอุดบาดแผลไว้แน่นเพื่อห้ามเลือดจนเสื้อนอกของเขาชุมไปด้วยของเหลวสีแดงสดที่ยังไม่หยุดไหล
“คุณต้องไม่เป็นอะไรครับ คุณต้องไม่เป็นอะไร...” ดวงตาคมสวยสีฟ้าใสแสดงออกถึงความกลัว
คอนเนลกลัวที่จะสูญเสียกาวิน รี้ดไป...
มือแกร่งกระชับร่างสมส่วนขึ้นอุ้มแนบอกแล้วรีบพาตัวคนเจ็บไปให้ถึงมือแพทย์ แน่นอนว่าต้องเป็นแพทย์ฝีมือดีที่สุดเท่าที่เขาจะหาให้ได้!!
อย่าเป็นอะไรไปนะครับ กาวิน...
.
.
.
.
“อือ...” ร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงส่งเสียงครางในลำคอเบาๆพร้อมๆกับดวงตาสีเทาสวยจะค่อยๆปรือเปิดขึ้นมาช้าๆ
โรงพยาบาล??
“อึก...เวรเอย...” กาวินสถบเบาๆเมื่อความเจ็บแปล๊บที่ช่วงท้องพุ่งจี๊ดเข้ามาในประสาทการรับรู้ความเจ็บปวดจนเขาต้องล้มตัวลงนอนที่เดิม คนบนเตียงเลยทำได้เพียงมองสำรวจสิ่งรอบตัวนิ่งก่อนที่จะแปลกใจกับความหรูหราและเป็นส่วนตัวของห้องพักผู้ป่วย
ใครมันส่งเขาเข้าห้องแพงๆว่ะ!? ฉันไม่มีเงินจะจ่ายนะเว้ย!!!
ในขณะที่กำลังคิดสาปส่งคนที่ริอาจทำให้เขาต้องเสียค่ารักษาแพงๆ ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของเด็กหนุ่มคู่กัดที่เขาแสนจะเหม็นขี้หน้าจะเดินเข้ามา ดวงตาคมสีฟ้าใสสบกับดวงตาสีเทาสวย ถ้าหากกาวินมองไม่ผิดไป แววตาของเจ้าเด็กนี้...
กำลังดีใจหรอว่ะ?
แต่มันก็เพียงแวบเดียวเท่านั้นแหละ เพราะวินาทีต่อมาที่เขากระพริบตามันก็กลับกลายเป็นแววตาเรียบนิ่งเหมือนเคยจนน่าหงุดหงิด...
ไม่รู้หงุดหงิดอะไร แต่เห็นหน้าไอ้เด็กนี่ทีไรก็หงุดหงิดไปซะทุกที!!!
“ตื่นแล้วหรอครับ...”
“ก็เห็นอยู่ยังจะถามอีก! มาทางไหนกลับไปทางนั่นเลยไป๊!!” ริมฝีปากสีซีดเอ่ยปากไล่เด็กหนุ่มด้วยความหงุดหงิดจนคอนเนลชะงักไป แวบหนึ่ง...คล้ายกับเห็นแววตาของความน้อยใจในดวงตาคมสีฟ้าใส จนกาวินเม้มปากแน่น
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขาทั้งสองคน น่าแปลกที่คอนเนลไม่ได้เอ่ยวาจาตอบโต้แต่อย่างใด
“เดี๋ยวผมจะเรียกคุณหมอมาดูอาการของคุณ คุณสลบไป2วันได้” ในที่สุดร่างสูงก็เอ่ยชี้แจ้งขึ้นก่อนที่วางตระกร้าผลไม้ลงบนโต๊ะข้างๆโซฟาที่มีกองผ้าห่มยับยู่ยี่กองอยู่บนนั่นแล้วเจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นมองเขาเต็มความสูง
“คุณรี้ด...เมื่อไหร่คุณจะเลิกอคติกับผมสักทีครับ...” เด็กหนุ่มนิ่งไปก่อนจะค่อยๆถอยหลังออกจากห้อง “ช่างเถอะครับ ขอให้คุณหายเร็วๆ” แล้วก็เดินออกจากห้องไป
โดยมีสายตาของกาวินมองตามหลังจนลับสายตา
หลังจากวันนั่น คอนเนลก็แทบจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกเลย ได้ยินมาจากเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในกรมแล้ว กาวินก็รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นต้องกลับไปเรียนเลยต้องหยุดเรียนรู้งานในกรมไปพักใหญ่ แต่เขาก็ได้ยินว่าเวลามีเคสดีๆ สารวัตรก็มักจะเรียกคอนเนลเข้ามาช่วยด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ตัวกาวินนั่นไม่ค่อยได้เห็นหน้าร่างสูงเลย ทุกครั้งที่เห็นก็เห็นเพียงแค่หลังไวๆของเด็กหนุ่ม ไม่ก็เดินสวนทางกัน แต่คอนเนลก็ไม่คิดจะเอ่ยทักเขาแต่อย่างใด
หงุดหงิด...เจ้าเด็กนั่นมันเมินฉัน?
ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมา เจ้าหน้าที่หนุ่มไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาหงุดหงิดทั้งๆที่ดื่มกาแฟไปแล้ว เขารู้สึกเหงาอย่างประหลาดโดยไม่ทราบสาเหตุและรู้สึกเหมือนขาดอะไรในชีวิตไป
‘แกไล่เจ้าเด็กนั่นไป แกรู้รึเปล่าว่าใครเป็นคนพาแกมาโรงพยาบาล คอนเนลมันให้หมอที่ดีที่สุดในโรงพยาบาลมารักษาแผลแกเลยนะเว้ย แถมยังนอนฝากแกตลอดอีกต่างหาก โว้ย! ฉันไม่รู้จะด่าแกยังไงดีว่ะไอรี้ด’
คำต่อว่าของสารวัตรฟาวเลอร์ ทำให้กาวินนิ่งไป หัวใจของเขาบีบรัดแน่นจนชวนอึดอัดด้วยความรู้สึกผิดที่ออกไปไล่คอนเนลไป
ทั้งๆที่เขาควรจะดีใจที่ไม่ต้องเห็นหน้าเจ้าเด็กนั่นอีก แต่ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายกันว่ะ!!
กาวินยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่หน้าโรงเรียนเอกชนชื่อดังไซเบอร์ไลฟ์ นักเรียนหนุ่มสาวมากมายเดินออกมาจากภายในโรงเรียนเนื่องจากในเวลานี้เป็นเวลาเลิกเรียน ดวงตาสีเทาสวยกวาดมองไปรอบๆเพื่อมองหาใครบางคนก่อนที่จะหลับตาลง
ให้ตายสิ! ฉันมายืนทำอะไรตรงนี้ว่ะเนี่ย!?!
มือหยาบยกขึ้นนวดขมับเบาๆ เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยทำไมต้องมายืนรอเพื่อเจอไอ้เด็กนั่นที่เขาพยายามไล่ออกไปจากชีวิตตั้งนานทำไม
ฉันทำบ้าอะไรอยู่ว่ะ
“คุณรี้ด คุณมาทำอะไรที่นี่” เสียงทุ้มมีเสน่ห์ที่คุ้นเคยดังขึ้น ทำให้กาวินเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายทันที ตอนนั่นเองกาวินก็พบว่าเมื่อเขาสบกับดวงตาคมสีฟ้าใสของคอนเนล เขารู้สึกคิดถึงดวงตาของอีกฝ่ายยามที่จ้องมองมาที่ตัวเขา
นั่นทำให้ความมั่นใจที่พกมาก่อนหน้านี้พลันหายไปหมด เวรเอ่ย...
“ฉัน...” ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น เป็นครั้งแรกที่คนโผงผางอย่างเขาลังเลที่จะพูด คิ้วเรียวขมวดแน่นอย่างคิดไม่ตกว่าจะพูดดีมั้ย ยิ่งเห็นดวงตาคมสีฟ้าใสที่มองมาก็ยิ่งกดดัน นั่นทำให้ปากเสียๆของเขาเริ่มทำงาน... “ฉัน...ได้ข่าวว่าแกไปช่วยเขาทำคดีบ่อยๆ ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาฉันที่ต้องดูแลแกได้ไงว่ะไอ้เด็กเวร”
แทบอยากจะตบปากตัวเอง
คอนเนลนิ่งไปก่อนที่จะจ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตานิ่งเรียบเย็นชาจนน่ากลัว
“ผมจะขอย้ายไปอยู่กรมตำรวจที่อื่นแทน คุณจะได้ไม่ต้องลำบากใจ” น้ำเสียงเรียบนิ่งติดเย็นชาทำให้ร่างสมส่วนเม้มปากแน่นพลางก้มหน้าลง เด็กหนุ่มมองชายวัยทำงานตรงหน้านิ่ง ในใจของร่างสูงปวดไปหมด
“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัว” คอนเนลโค้งศีรษะให้อีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวเดินผ่านอีกฝ่ายไป
หมับ
“เดี๋ยว...คือฉัน...” มือเรียวหยาบคว้าหมับเข้าที่แขนของเด็กหนุ่ม กาวินก้มหน้าไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองเด็กหนุ่มที่เขารั้งไว้เลยแม้แต่น้อย “ฉัน...คือ..ให้ตายสิว่ะ...” คนตัวเล็กกว่าพึมพำสถบกับตัวเองแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยแขนของคนตัวสูงกว่าแม้แต่น้อย
คอนเนลกำลังจะแกะมือของคนอายุมากกว่าออก
“ขอบคุณ...ที่พาส่งโรงพยาบาล ที่นอนเฝ้า ที่ออกค่ารักษาให้...” เสียงแผ่วเบาดังเข้าในโสตการได้ยินของคอนเนลจนเด็กหนุ่มเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ แรงที่บีบแขนของเขาอยู่ทำให้เด็กหนุ่มรับรู้ได้ถึงความเขินอายของอีกฝ่าย ยิ่งเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่ค่อยๆขึ้นสีระเรื่อยิ่งยืนยันว่ากาวินกำลังอาย
มุมปากของคนที่ตัวสูงกว่ากระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่นานจะเห็นทีของคอนเนล
น่ารัก...
“มะ...เมื่อกี้ที่ขอบคุณก็เพราะว่า...เฮ้ย!!! จะพาฉันไปไหนว่ะ!?!” ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กกว่าจะโวยวายจบประโยค คอนเนลก็ดึงข้อมือของเขาให้เดินตามไปด้วยแรงที่มากกว่า กาวิน รี้ด เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานมากว่า10ปีไม่สามารถที่จะแกะหรือหยุดไม่ให้อีกฝ่ายลากเขาไปได้เลย
จนกระทั่งร่างสมส่วนของกาวินถูกดันติดกับกำแพงในตรอกลับตาคนโดยที่มีร่างสูงของคอนเนลทาบทับคร่อมร่างของเขาไว้ ปิดทางหนีของกาวินหมดทุกทาง
“กะ...แกจะทำอะไร...”
“ผมทนไม่ไหวแล้วครับ” เสียงทุ้มกระซิบเสียงแผ่ว ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเลื่อนเข้ามาใกล้จนกาวินรับรู้ได้ถึงลมหายใจเด็กหนุ่มอุ่นกระทบลงบนผิวของเขาจนชวนสะดุ้ง
“ทะ...!!!”
ยังไม่ทันจบประโยคดี ริมฝีปากหยักร้อนจัดก็จัดการทาบลงบนริมฝีปากสีสดของคนอายุมากกว่า สัมผัสจาบจ้วง เร่งเร้าให้เขาเปิดริมฝีปากรับลิ้นร้อนให้ลุกไล่เข้ากับลิ้นของเขาจนตามไม่ทัน สูบเอาพลังงานจากเขาไปจนร่างสมส่วนแทบจะหมดแรงลงกองกับพื้นหากไม่มีวงแขนแกร่งช้อนเอว รวบร่างของเขาแนบชิดกับร่างกำยำใต้ร่มผ้าจนแทบจะไม่มีช่องว่างให้อากาศลอดผ่าน
“อื้อ!!” เสียงอู้อี้ร้องประท้วงเมื่อสัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่สอดเข้ามาใต้สาบเสื้อฮู้ดตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
มือใหญ่ที่บีบขย้ำลงบนผิวสีน้ำผึ้งใต้ร่มผ้าทำให้นึกถึงสัมผัสเมื่อครั้งที่ถูกอีกฝ่ายลวนลามบนรถไฟฟ้าไม่มีผิด!
“อึก...พะ...อืม...พอแล้ว!!” มือเรียวหยาบผลักอกแน่นของอีกฝ่ายให้ผละออกห่าง ใบหน้าของกาวินขึ้นสีแดงก่ำลามไปจนถึงใบหู ริมฝีปากสีสดยิ่งสดขึ้นหลังจากผ่านการถูกบดจูบอย่างเร้าร้อน มันทำให้คอนเนลเลียริมฝีปากของเขาเองอย่างกระหาย อยากกระชากตัวของอีกฝ่ายเข้ามาจูบอีกครั้ง
แต่ถ้าขืนทำอีกครั้ง คงโดนข่วน...
วงแขนแกร่งกระชับร่างของกาวินในอ้อมกอดของเขา
“เลิกกอดได้แล้วโว้ย!” ดวงตาสีเทาสวยตวัดมองคนเนียนกอดอย่างก้าวร้าว แต่กลับไม่ได้พยายามขืนตัวออกสักนิดจนคอนเนลยิ้มอีกครั้งทั้งๆที่เป็นตัวเขาเองเป็นคนยิ้มยากแท้ๆ
แต่กับกาวิน...เขาอยากจะยิ้มให้อีกฝ่ายเห็น
“ผมชอบคุณนะครับ กาวิน” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นให้อีกฝ่ายได้รับรู้ คนตัวเล็กกว่าถอนหายใจเบาๆ
กาวินทิ้งตัวพิงอกของคอนเนลจนร่างสูงยิ้มกว้าง
“ไอ้เด็กเวร...” ดวงตาคมสีฟ้าใสจ้องมองใบหน้าที่ขึ้นสีแดงก่ำด้วยความพึงพอใจ “อย่ามาพูดอะไรแบบนี้ในตรอกเวรๆนี่นะโว้ยคอนเนล!!”
ริมฝีปากหยักสวยยกยิ้มพร้อมกับกดจูบลงบนเส้นผมสีน้ำตาลเข้มยุ่งๆของอีกฝ่ายเบาๆ อ้อมแขนแกร่งกอดคนในอ้อมแขนแล้วก้มลงกระซิบข้างใบหูที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก
น่ากิน...
“งั้นกลับไปให้ผมบอกรักที่บ้านคุณได้มั้ยครับ กาวิน”
.
.
.
.
END
-Talk with Writer-
สวัสดีค่าาาาา เราจะทำตามสัญญา ลงตอนเต็มๆให้แล้วค่าาาาา อิอิ เมื่อกี้...เด็กดีตายไป หัวร้อนนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ขออภัยที่ให้รอ เราเผลอหลับไปหลายรอบตอนที่แต่ง 5555555 ง่วงมากกกกกก แต่ก็ไหวอยู่ค่ะ แต่งไปก็หวีดไปอยู่คนเดียว กวิ้นนนน เจ้ามันคนซึนแห่งชาติจริงๆด้วย!!
วันนี้ขอไม่พูดอะไรมากค่ะ ง่วงแล้ว เอาเป็นว่าขอให้อ่านให้สนุกและขอบคุณสำหรับคอมเม้นมากมาย รักคนอ่านทุกๆคน ตอนต่อไปเป็นตอนพิเศษของแฮงค์คอน ซึ่งจะเป็นตอนสุดท้ายของAggressive Catจริงๆแล้วล่ะคะ ใจหายนิดๆที่ต้องจบซีรี่ย์นี้แล้ว แต่เรามีพล็อตต่อไปมารอต่ออยู่แล้วล่ะคะ พล็อตผุดเยอะมาก แต่ความสามารถระหว่างการแต่งคือเต่าคลาน---//ซับน้ำตาแปป
เจอกันตอนหน้านะคะ บะบายยยยย
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

บอกได้คำเดียวว่าฟินนน น่ารักมากค่ะ ทั้งคอนเนลทั้งกวิ้นเลยยย กวิ้นก้คนซึน 2018 จริงๆ เเต่พอหายซึนเเล้วน่ารักคูณสิบบ >///<
โอ้ยยย รักคู่นี้ แต่งได้ น่าจ้บกัดหมอนมาก เขินนนน ซึนๆ
ทางเราได้ตายยยยอย่างงสงบจมหายไปกับกำแพงแล้วค่ะไรต์ //บ้าาาาหยุดยิ้มมะด๊ายยยยยยยยย
ไอ่บว๊าาาาาาาาาาาาา เด็กมันร้ายยยยยย คอนเนลแกร้ายมาก ไม่คิดว่าจะเป็นคนแบบนี้!! แซ่บจริงๆ ขยี้พี่เขาให้สมใจไปเรยลูกก
ลูกกวิ้นยิ่งซึนๆอยู่555555
ทำไมน้องเนลดูมีความเป็นผู้ใหญ่กว่า....
แต่บับ เข้าใจลูกอยู่นิดนึง เอ็งลวนลามก่อนนะเฮ้ย ตามหลักการแล้วก็ไม่แปลกที่จะไม่ค่อยชอบหน้า!!//อวยลูกเต็มที่
ค....ใครลวนลามใครคะ @_@!!!!! //ลงแดงงงงง ฟกดกหฟฟกดกฟด