ตอนที่ 6 : บทที่4 เพื่อน...พี่ชาย...
บทที่4 เพื่อน...พี่ชาย...
หลังจากที่ชายหนุ่มคนนั้นบอกเธอว่า ‘แล้วพบกันอีก’ เธอก็ไม่พบเจอเขาอีกเลย ตอนนี้ก็ผ่านมา1อาทิยต์แล้ว มิริชเลิกล้มความคิดที่จะได้พบกับเออร์แลนด์ไปแล้ว ใครจะมาอยากเจอคนอย่างเธอกัน เป็นไปไม่ได้หรอก...
ชีวิตของเด็กสาวก็ยังคงวนเวียนซ้ำไปมาอยู่แบบนั้น ชีวิตประจำวันอันแสนซ้ำซากและน่าเบื่อเป็นสิ่งที่เธอชินมานานแล้วจนน่าเป็นกังวล แต่เธอก็ไม่เคยมีความคิดที่อยากจะหนีออกไปจากที่นี่สักที ทำไมกันนะ...
ร่างอันแสนจะบอบบางนั่งเท้าคางอยู่ริมหน้าต่างพร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่งในมือ หน้าปกไม่มีชื่อหนังสือเขียนบอกไว้ว่าเป็นเรื่องอะไร หากแต่เธอก็ไม่คิดจะแย้งเมื่อท่านลุงค้นหนังสือมาให้เธออ่านโดยไม่แยกประเภทเสียก่อนว่าเหมาะกับเธอมั้ย ดังนั้น...ในบรรดาหนังสือที่ใครต่อใครค้นมาให้จึงมีเรื่องหลายเรื่องผสมปนเปกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือสำหรับเด็กวัยแรกเกิด หนังสือแบบเรียนชั้นต่างๆ หนังสือนิยาย แม้กระทั้งหนังสืออย่างว่า...ก็มีเช่นกัน...
เด็กสาวไม่สนว่าเรื่องที่เธออ่านอยู่จะเป็นอย่างไร ขอแค่มีอะไรไว้แก้เบื่อได้ก็พอแล้ว แม้ว่าอารมณ์ของเธอจะไม่บ่งบอกทางสีหน้าเลยก็ตาม
ชีวิตที่เงียบเชียบของเธอดำเนินมาจนถึงยามค่ำคืน มิริชลุกขึ้นไปเก็บหนังสือเข้าที่ชั้นก็จะเดินไปนอนบนเตียงเพื่อรอให้สาวใช้ยกอาหารเย็นเข้ามาให้
เรือนผมสีดำยาวจนถึงกลางหลังแผ่กระจายไปทั่วหมอน ดวงตาสีแดงหม่นมองออกไปด้านนอกที่เริ่มจะมืดและเริ่มมีแสงจันทร์สาดส่องขึ้นมาจากยอดต้นไม้ ดวงตาสีแดงหม่นไร้ความรู้สึกจ้องมองสิ่งรอบตัวที่เธอไม่อาจออกไปสัมผัสได้ด้วยตัวเองในชีวิตนี้
เด็กสาวหลับตาลงเพื่อให้ตัวเองจมดิ่งสู่ห้วงนิทราช้าๆ...
กึก!
แต่แล้วเสียงของอะไรบางอย่างก็ทำให้เธอลืมตาขึ้น
เธอเบนสายตาไปทางต้นเสียง...เสียงดังมาจากนอกหน้าต่าง
มิริชลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความสงสัยพลางพาตัวเองเดินมาหยุดที่ริมหน้าต่าง
กึกๆ!
เสียงบางอย่างกระทบกับขอบหน้าต่างดังชัดขึ้นอีกครั้ง เด็กสาวชะโงกหน้าลงไปมองก็ต้องพบกับความแปลกใจ
ชายคนนั้น...ที่เคยบอกว่า แล้วพบกันอีก...ยืนอยู่ด้านล่างแล้วส่งยิ้มให้เธอ รอยยิ้มที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด...
“เฮ้ มิช เจอกันอีกแล้วนะ!” เออร์แลนด์ตะโกนขึ้นมาทักเธอ เด็กสาวขมวดคิ้วนิดๆ
เสียงดังเกินไปแล้ว.... พลันเสียงของเธอก็ดังก้องอยู่ในหัวของชายหนุ่ม ทำเอาเขาชะงักไปนิด
เห...สื่อสารผ่านจิตได้งั้นหรือ งั้นค่อยง่ายขึ้นหน่อย ชายคนนั้นตอบเธอผ่านจิตด้วยเช่นกัน ทำให้เธอสบายใจขึ้นเล็กน้อย นั่นหมายความว่าจะได้ไม่ต้องตะโกนคุยกันจนลุงหรือใครก็ตามจับได้
ข้าจะปีนขึ้นไปที่ห้องของเจ้านะ มิช เขาพูดผ่านจิตเป็นเชิงขออนุญาตเธอ มิริชแปลกใจนิดๆที่เขาขออนุญาตเธอ ทั้งๆที่นอกจากพวกคนใช้แล้ว จะไม่มีใครพูดเชิงขออนุญาตจากเธอเลยสักครั้ง...
มิริชนิ่งไปนิดๆก่อนจะพยักหน้าอนุญาตให้อีกฝ่ายปีนขึ้นมา
เออร์แลนด์ยิ้มกว้างก่อนจะปีนขึ้นมาตามกำแพงอย่างคล่องแคล่ว...ท่าทางจะทำบ่อย...
เด็กสาวมองอีกฝ่ายปีนขึ้นมาจนถึงห้องของเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งเหมือนเช่นเคย แต่อีกฝ่ายกลับคิดว่าเธอกำลังโกรธอยู่ซะงั้น
“อ่า...ขอโทษที่มาดึกๆน้า ข้าขอโทษจริงๆ!” เออร์แลนด์ยกมือประกบอยู่ที่หน้าอกก่อนจะยกขึ้นเหมือนกำลังจะขอร้องไม่ให้เธอโกรธด้วยท่าทีเล่นๆนั่น มิริชเอียงคอเล็กน้อย
“ข้าไม่ได้โกรธเสียหน่อย...” เธอเอ่ยเสียงเรียบ นั่นยิ่งทำให้อีกฝ่ายลนลานหนักกว่าเดิม
“มะ...ไม่โกรธแล้วทำไมหน้าตากับเสียงถึงเรียบๆนิ่งๆเหมือนกับโกรธกันงั้นอ่ะ!?” ชายหนุ่มโวยวายนิดๆ ร่างบางยกมือขึ้นแตะใบหน้าเธอเล็กน้อย
“ใบหน้ากับน้ำเสียงของข้าก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก...”
“เป็นอย่างนี้?? ตั้งแต่เกิดหรือ???” เขาถามด้วยวามสงสัยอย่างมาก เธอพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับ ดูเหมือนว่าเขาอยากจะพูดอะไรบ้างอย่าง แต่เธอก็ขัดซะก่อน
“แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม? มีธุระไม่ใช่หรือ?” มิริชเอ่ยถามเสียงเรียบนิ่งเช่นเคย ดูเหมือนเออร์แลนด์จะรู้สึกตัวแล้ว
“อ้อ ใช่ๆ ข้าเอาของไถ่โทษมาให้เจ้า!” ชายหนุ่มค้นของในกระเป๋าตัวเองทันทีโดยมีเด็กสาวยืนมองงงๆแต่ก็ยังคงใบหน้าเรียบเฉย ไม่นานเขาก็หยิบสมุดบันทึกสีดำเรียบๆธรรมดาออกมาแล้วยื่นให้เธอ “เอ้านี่ ขอไถ่โทษที่ข้าชนเจ้าจนล้ม” เออร์แลนด์ยิ้มกว้างให้เด็กสาว
มิริชรับสมุดบันทึกสีดำธรรมดามา ก่อนจะพบว่ารูปร่างของมันภายนอกช่างลวงตาเสียเหลือเกิน
จากสมุดบันทึกสีดำเรียบๆธรรมดา กลับกลายเป็นสมุดบันทึกที่มีความหนาเพียงกระดาษบางๆ3แผ่นเท่านั้น หากแต่ไม่ว่าเธอจะเปิดมันไปกี่หน้าก็ไม่มีวันสิ้นสุดหรือว่าพบกับหน้าสุดท้ายเลยแม้แต่น้อย วันที่ที่มุมบนขวามือเป็นตัวอักษรสีทองที่แสดงวันเวลาในขณะนี้และเคลื่อนไปเป็นนาทีค่อยบันทึกเรื่องราวที่เธอจะเขียนในหน้ากระดาษ ที่ปกมีชื่อของเธอปักอยู่ และดูเหมือนว่าถ้าไม่ใช่เธอเป็นคนอนุญาตให้อ่าน สมุดก็จะไม่แสดงข้อความที่อยู่ภายในให้ใครเห็นเปนอันขาด
เด็กสาวลูบหน้าปกสมุดอย่างพึงพอใจ
“เอ่อ...เจ้าชอบมั้ย...” ชายหนุ่มเอ่ยเบาๆเหมือนเป็นกังวลนิดหน่อย เพราะว่าเขาค่อยสังเกตสีหน้าของเธอว่าไม่พอใจรึไม่ แต่เธอเป็นคนที่ไม่แสดงความรู้สึกผ่านสีหน้าและน้ำเสียง ทำให้จับอารมณ์ได้ยาก
“ข้าชอบมัน...ขอบคุณนะ...” เด็กสาวเอ่ยเสียงเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยความพอใจ นั่นทำให้เออร์แลนด์ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“งั้น ถือว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ! ไม่สิ ข้าต้องเป็นพี่ชายเจ้าต่างหาก ก็ข้าดูจะอายุมากกว่าเจ้านี่นะ” ร่างสูงยิ้มกว้างแล้วสรุปเอาเองเลยโยที่ไม่ถามเด็กสาวสักนิด
“เพื่อน?? พี่ชาย??” มิริชเอ่ยถามด้วยความมึนงง มันคืออะไรกันหรือ??
“นี่เจ้าไม่รู้จักคำว่า ‘เพื่อน’ หรือว่า ‘พี่ชาย’ หรือ?” เด็กสาวพยักหน้าแทนคำตอบ ชายหนุ่มตบหน้าผากเสียงดัง “นี่ท่านลุงเลอร์เวสได้สอนเจ้าเกี่ยวกับครอบครัวรึเปล่าเนี่ย ไม่สิ ก่อนหน้านี้ข้าก็ไม่เคยเห็นเจ้าในคฤหาสน์เช่นกัน เจ้าเป็นใครกันแน่!?”
เด็กสาวนิ่งไปสักพัก...เพราะจริงๆแล้ว...เธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าเธอเป็น’ใคร’กันแน่...
“ท่านลุงบอกว่า...ข้าเป็นตุ๊กตาของท่านลุง...” เด็กสาวเอ่ยเสียงเรียบทันทีที่นึกคำออกมาได้
“ห๊ะ!!? ตุ๊กตาอย่างนั้นหรือ!?” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหัวเสียมากแล้วบ่นพำพึมอะไรอยู่คนเดียวเชิงประมาณว่านี่มันเรื่องอะไร ท่านลุงทำอย่างนี้ได้อย่างไร แล้วก็อีกสารพัด... “แล้วเจ้าไม่รู้หรือว่าพ่อแม่ของเจ้าเป็นใคร” มิริชส่ายหน้าแทนคำพูดอีกครั้ง เออร์แลนด์ถอนหายใจเบาๆ “แล้วเจ้าไม่อยากรู้หรือว่าพ่อแม่ของเจ้าเป็นใคร อยู่ที่ไหนน่ะ”
“ท่านลุงบอกว่า...ข้าไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้...” มิริชเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งเช่นเคยแต่แววตามีความเศร้าอยู่ลึกๆ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้สึกได้
“ไม่เป็นไร!” อยู่ๆอีกฝ่ายก็ดึกมิริชเข้าไปกอดแน่นโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว “ข้าจะเป็นคนทำให้เจ้ารู้เรื่องทั้งหมดเอง!” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่เด็กสาวก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่รับรู้เรื่องใด “ก่อนอื่น ตอนนี้ข้าเป็นเพื่อนและพี่ชายของเจ้าแล้วนะ มิช” เขายิ้มสดใสให้เธอ...นั่นทำให้เธอเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง...
“อืม...แลนด์...”
การเปลี่ยนแปลงกำลังจะเริ่มขึ้น
หากแต่ไม่ใช่เออร์แลนด์คนเดียวที่จะช่วยเธอได้...
ในอนาคต...ที่อยู่ข้างหน้า...
ใกล้เข้ามาแล้ว...
TALK with Writer
เย้! กลับมาอัพแล้วค่าาาา เสร็จแล้วเราก็จะดองต่อ อิอิ
มีแพลนจะแต่ง AU ficค่ะ แต่ยังไม่รู้จะแต่งแนวไหนดี
เอาเป็นว่าถ้าได้เรื่องแล้วจะเอาตัวอย่างมาให้อ่านก่อนนะคะ <3
วันนี้ก็ขอลาไปก่อนนะคะ บายจ้าาาา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

17 ความคิดเห็น
-
#17 florst-tan (จากตอนที่ 6)วันที่ 23 มกราคม 2559 / 16:21ท่านแลนด์เหมือนพระรองแปลกๆ-----#170
-
#16 มิสเตอร์เฌอมิเกล. (จากตอนที่ 6)วันที่ 23 มกราคม 2559 / 12:52แลนด์มาแล้ววว#160