ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [W-024E]

    ลำดับตอนที่ #6 : บทนำ+บทที่1-4 [ปรับปุรงแก้ไขคำผิด]

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 57


    ปี 2030 <เก้าสิบสองปีที่แล้ว>

    วัตถุประหลาดรูปร่างคล้ายเรือเหาะร่อนลงจอดกลางรัฐไมอามี ปรากฏสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ ผิวขาวจนเทา แทบทุกตนมีตาสีโทนฟ้าครามและผ้าคลุมดำแถบทองคลุมตั้งแต่ไหล่ โลกได้ถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

    ปี 2042 <แปดสิบปีที่แล้ว>

    มนุษย์แล้วสิ่งที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ (เซมิฮิวว์) ได้มีภาษาสื่อสารกลาง มีการตกลงทำสัญญาปรองดอง ในช่วงปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อต่างๆมากมาย โลกเปลี่ยนเป็น W-024E ค่าเงินกลางคือจีอาร์ มีการจัดตั้งองค์กรสมาพันธ์แห่งห้วงอวกาศ (Confederation of Space: CS)

    ปี 2096 <สิบหกปีที่แล้ว>

    บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ได้เริ่มโครงการดัดแปลง Nerve Restrain หรือ Nerve Control เป็นการเครื่องเล่นเกมที่เล่นแบบฟูลไดร์ฟเป็นเครื่องท่องเที่ยวผ่านร่างอวตาร ซึ่งอาศัยเทคโนโลยีที่ศึกษารวมกับสมาชิกในองค์กรCS และได้เปิดจำหน่าย Nerve Control ซีรี่ย์ W ครั้งแรกโดยผู้ใช้สามารถไปเที่ยวที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้โดยตัวเครื่องจะตัดการทำงานของระบบร่างกายเพื่อเชื่อมสัญญาณไปยังร่างอวตาร ณ ขณะนั้น ร่างอวตารยังไม่มีการขาย จึงเป็นร่างสาธารณะ

    ปี 2105 <เจ็ดปีที่แล้ว>

    ร่างอวตารมีจำหน่ายแต่เป็นร่างแบบชั่วคราวสามารถใช้ได้แค่สามครั้ง มีการเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถท่องเที่ยวอวกาศได้แต่ราคาค่อนข้างสูง ทางนักเขียนโปรแกรมกำลังพยายามพัฒนาโปรแกรมท่องเที่ยวอวกาศผ่านร่างอวตาร

    ปี 2112 <ปัจจุบัน>

    เครื่องNerve Control ถูกแต่งเติมทดลองมาจนในที่สุดเปิดสั่งจองในวันที่ 4 สิงหา 2112 เครื่องที่นำมาขายคือ Nerve Control ซีรี่ย์ S รุ่น CT-04S ทั้งหมดสามแสนเครื่องถูกขายหมดภายในสิบวินาที

    เครื่อง Nerve Control ซีรี่ย์ N – สำหรับเกมออนไลน์

    เครื่อง Nerve Control ซีรี่ย์ F – สำหรับเกมออฟไลน์

    เครื่อง Nerve Control ซีรี่ย์ B – รุ่นพิเศษ CG-01B สามารถเล่นได้ทั้งเกมออนไลน์และออฟไลน์

    เครื่อง Nerve Control ซีรี่ย์ W – สำหรับการท่องเที่ยวผ่านอวตารบน W-024E และสามารถเล่นเกมออนไลน์ได้

    เครื่อง Nerve Control ซีรี่ย์ S – สำหรับการท่องเที่ยวผ่านอวตารบนอวกาศและสามารถเล่นเกมออนไลน์ได้

    แต่ซีรี่ย์ล่าสุดถึงแม้จะวางจำหน่ายแล้วก็ตามก็ยังคงมีปัญหาการรับส่งผิดมิติอยู่ แต่ทางบริษัทได้เตรียมปัญหาแก้ไขเตรียมการไว้ ซึ่งมีหมายเลขฉุกเฉินอยู่ที่ข้างกล่อง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    1

    <Log in: Sora12>

    <Password: XXXXXXX>

    <Status: Online>

    <Mode: Avatar Space>

    <Type of avatar: Permanent>

    <Please do not move until this process will success>

    ผมค่อยๆลืมตาวัตถุกึ่งกลมกึ่งรีสีเหลืองลอยความอยู่นอกกระจก

       ‘นี่นะเหรอ ดวงจันทร์

    หลังจากที่รู้สึกว่าประสาทรับภาพคุ้นที่ดีแล้วก็ค่อยๆขยับร่างกายในส่วนต่างๆ รู้สึกว่าบางส่วนยังแข็งๆขยับติดๆขัดๆอยู่ เมื่อนั่งได้ไม่นานนักก็มีพนักงานในชุดบริการสูทขาวและแทบลวดลายสีทองเดินตรงเข้ามา

        “คุณโซระนะคะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการครั้งแรกค่ะ ร่างอวตารอาจจะขยับยากในช่วงแรกแต่สักพักคุณก็จะสามารถใช้งานร่างอวตารได้อย่างมีประสิทธิภาพคะ”เธอพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนผายมือไปทางขวา

       “ทางนั้นมีบริการยานพาหนะสาธารณะ ซึ่งจะพาคุณไปยังจุดหมายที่มีสถานีอยู่คะ แต่ถ้าหากคุณโซระอยากใช้ยานพาหนะส่วนที่เรียกว่าเกร์บริดตัวเชิญติดต่อที่เคาเตอร์ข้างๆเพื่อยืมหรือซื้อยานพาหนะส่วนตัวคะ”เธอค่อยๆย่างเท่าเดินไปที่เคาเตอร์ส่งผลให้ผลต้องเดินตามเธอ

       “เรามีบริการสอนควบคุมฟรีหากคุณซื้อคะแต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 350 GRหากคุณเช่าเธอหันมายิ้มให้

    ผมมองไปที่พนักงานประจำเคาเตอร์ ผมยาวสีเขียวในชุดบริการสูทขาวทองเช่นเดียวกับคนที่แนะนำผมในตอนแรก เธอส่งยิ้มอย่างมีมารยาทให้

       “ที่จริงแล้วการควบคุมไม่อยากหรอกคะ เพียงแค่คุณกำหนดสถานที่ลงไปในจอมอนิเตอร์แล้วใส่ความเร็วก็เสร็จแล้วคะ”เธอพูดจบพนักงานบริการคนแรกก็พูดขึ้นมา

       “งั้นฉันขอตัวนะคะ หากคุณตัดสินใจทางเลือกในการท่องเที่ยวได้ก็สามารถไปที่ทางออกทิศเหนือได้เลยคะ ขอให้มีความสุขนะคะ คุณโซระ”เธอก้มหัวลงเป็นการทักทายก่อนเดินออกไปต้อนรับคนอื่น มีกระดาษใบเล็กโผล่มาตรงหน้าผม พนักงานที่เคาเตอร์ยืนกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ให้

       “นี่คือรายละเอียดทั้งราคาการให้บริการการขนส่งทุกประเภทคะ คุณสามารถเลือกดูก่อนได้คะ”เธอผายมือไปทางโซฟาตัวยาวตรงข้ามเคาเตอร์ ผมเดินไปนั่งพร้อมหยิบกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ

    ผมแตะนิ้วลงไปกลางกระดาษ กระดาษจมลงไปบนโต๊ะใสก่อนที่จะมีรายละเอียดประกดขึ้นมาบนโต๊ะ ผมเลื่อนดูพลางคิดเกี่ยวกับผลประโยชน์ สุดท้ายผมตัวสินใจซื้อพาหนะส่วนตัวเพราะคิดว่ามันสะดวกดี บางดาวที่จดองค์กรกับสมาพันธ์แต่ไม่มีสถานีหยุดรถโดยสารเหมือนกับตัดสิทธิ์ผมไม่ให้ไปเที่ยว ตัวเลือกซื้อบัตรโดยสารจึงหมดไป

    เมื่อผมกดตัวเลือกซื้อ หน้าต่างข้อมูลก็หายไป กระดาษค่อยๆลอยขึ้นมาจากโต๊ะกลับไปเป็นกระดาษใบเล็กๆเช่นเดิม พนักงานคนเดิมเดินเข้ามาหาพร้อมมือที่ถือดิจิตอลแพด

       “ไม่ทราบว่าจะให้คิดค่าบริการรวมกับค่าซ่อมบำรุงเดือนนี้หรือขอใบเสร็จแยกคะ”

       “รวมครับ”หลังจากเสียงผมเธอก็ขอเช็คเนื้อเยื่อที่ร่างอวตาร ร่างอวตารทุกร่างสำหรับเที่ยวในอวกาศจะมีช่องใส่เนื้อเยื่อที่เอว เหมือนกับพาสปอร์ต เราสารถเช็คที่เนื้อเยื่อเพื่อดูว่าเป็นใคร ดังนั้น ร่างอวตารจึงสามารถเปลี่ยนโครงหน้าสีผมส่วนสูงได้ตามที่ต้องการ

    เธอเดินนำไปยังทางออก ระหว่างทางเป็นทางเดินเรียบๆ เมื่อถึงจุดหมายที่เป็นแท่งแก้วขนาดใหญ่เธอก็หันหน้ามาทางผม

       “จากการเช็คเนื้อเยื่อ คุณโซระ นันทปภากร อายุ 17ปี เลือดกรุ๊ป C เผ่าพันธุ์ W-024E เลขประจำตัว 97254346546XX ถูกตรวจสอบแล้ว ยานพาหนะคุณสามารถเปลี่ยนสีตามใจได้ที่เครื่องคอนโทรล คู่มือการใช้และเครื่องมือฉุกเฉินมีอยู่ภายในช่องเก็บของสี่มิติและจะมีกระต่ายสังเคราะห์คอยแนะนำการควบคุมคะ”

    ผมก้าวเท้าเข้าไปข้างในยานพาหนะรูปทรงคล้ายกับรถยนต์อีโคเพียงแต่ค่อนข้างเล็กกะทัดรัดไม่มีล้อและความสูงเพียงหนึ่งเมตร เมื่อเข้าไปนั่งบนเบาะร่างอวตารในชุดดำของผมก็สะท้อนกับจอมอนิเตอร์กระจกใสข้างหน้า

       “คุณต้องกลับมาในเวลาที่คุณกำหนดไว้นะคะ คุณห้ามลืมว่าคุณกำลังใช้ร่างอวตารอยู่ เพราะฉะนั้นร่างกายคุณจะไม่ได้รับอาหาร การที่คุณทานแคปซูลเพื่อดำรงชีพสามารถอยู่ได้สองหรือสามวันหรือคุณอาจใช้วิธีอื่น แต่กรุณากลับมาก่อนที่ร่างกายคุณขาดอาหารนะคะ ไม่งั้นเซลล์สมองคุณจะเกิดความผิดปกติและคลื่นไฟฟ้าจะเล่นงานประสาทคุณ”

       “ครับ”

       “และเมื่อคุณต้องการกลับไปยังW-024Eให้คุณกลับมาที่สถานีนี้ก่อนนะคะ ไม่งั้นระบบจะไม่เซ็ทข้อมูล คุณจะไม่สามารถถอดNerve Controlได้ ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ”

    เธอปิดประตูเมื่อพูดจบ เมื่อผมจัดการอะไรให้เข้าที่แล้วพูด’Start’จอมอนิเตอร์ก็ปรากฏข้อความขึ้นมา

    2

    <Username: Sora12>

    <Owner: Sora12>

    <Do you want to use ‘Synthetic Bunny’>

    <Yes / No>

    หลังจากที่ผมกดตัวเลือกใช่ไปก็มีก้อนกลมๆสีฟ้าเขียวโผล่ขึ้นมา ผมจ้องมันอยู่ตั้งนานจนประจักษ์ว่ามันคือกระต่ายก็ต่อเมื่อหูมันเด้งขึ้นมา

       “ยินดีต้อนรับเข้าสู่การท่องเที่ยวอวกาศผ่านการขับเคลื่อนโดย Gerbyd โมเดล PS-34Z ครับ กระผมเป็นกระต่ายสังเคราะห์ซึ่งมีระบบซอฟต์แวร์เชื่อมต่อกับโมเด็มสัญญาณอินเตอร์เน็ตบนเกร์บริดคันนี้ครับ”เมื่อสิ้นเสียงเจ้ากระต่ายตัวฟ้าก็ลงไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กประจำตำแหน่ง หน้าจอมอนิเตอร์ก็มีข้อความขึ้นมาพร้อมกับแผงควบคุมระบบสัมผัสใต้มอนิเตอร์เรืองแสงเป็นคีย์บอร์ด 

    <Name of SR: _ _ _ _ _>

    ผมลังเลเรื่องชื่ออยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจ

    <Name of SR: Ranso>

    หลังจากพิมพ์ชื่อเสร็จรันโซก็เงยหน้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง

       “นับจากนี้ไป กระผมรันโซจะเป็นคนอธิบายหลักการใช้ต่างๆและให้ความช่วยเหลือในทุกสถานการณ์ครับ ตัวผมใช้แบตเตอร์รี่ความจุ 3200mAh ซึ่งหากเปิดโหมด Full option ต้องนำไปชาร์ตที่แท่นเก็บพลังงานทุกๆห้าชั่วโมงครับ”รันโซชี้มือไปที่เก้าอี้ตัวเล็กตัวเดิม

       “สำหรับเวลาบนW-024Eจะมีอยู่ทางมุมซ้ายสุดของจอถัดมาเป็นเวลาของจุดหมายที่เราต้องการจะไป ตรงกลางจะเป็นข้อความสำคัญบอกส่วนมุมขวาคือขอบเขตของการคุมร่างอวตารของคุณครับ”ผมไล่ตามองไปตามตำแหน่งที่รันโซบอก

       “แล้วกำหนดจุดหมายยังไง”ผมดึงสมาธิกลับมาที่การท่องเที่ยวของผมต่อ

       “ก่อนอื่นต้องกำหนดจุดมุ่งหมายครับ โดยเลือกที่Destination

       “แล้วไงต่อ”

       “เมื่อสัมผัสไปที่Destinationแล้วจะมีระบบสุริยะจำลองให้เลือกจุดมุ่งหมายครับ”

    เมื่อสิ้นเสียงผมเอื้อมมือไปสัมผัสคำว่าDestination ทันใดนั้นจอมอนิเตอร์ก็ปรากฏอวกาศจำลองเล็กๆ มีแท็กติดพิกัดและข้อมูลของดาวแต่ละดวง ผมเลือกไปยังดาว GF 94573 k ดาวที่ผมได้ยินมาว่ามีท้องฟ้าเป็นสีส้ม น้ำเป็นสีเขียวและเซมิฮิวว์เผ่าพื้นเมืองผิวสีเหลือง

    <Speed class: Min / Med / Max>

       “การเลือกอันดับความเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางระหว่างดาวศุกร์ไปยังดวงอาทิตย์มีระยะทาง108.2ล้านกิโลเมตร ความเร็วต่ำสุดใช้เวลาประมาณ6ชั่วโมง ความเร็วกลางประมาณ4ชั่วโมง และความเร็วสูงสุด2ชั่วโมง แต่กระผมแนะนำความเร็วระดับลางเพื่อรักษาการคงสภาพของพลังงานสำหรับเกร์บริดครับ”

    ผมเลือกความเร็วระดับกลาง

       “คุณสามารถใช้เทอร์โบเพื่อการวาร์ปได้ทุกๆสองชั่วโมง หนึ่งครั้งที่กดปุ่มคือการมุ่งหน้าไปในรัศมี 100 ล้านกิโลเมตร หากคุณใช้การวาร์ปถี่เกินไปจะทำให้เกิดปัญหากับระบบหล่อพลังงานและอาจเป็นอันตรายได้ครับ”

    ผมหันไปหารันโซ “แล้ว ?”

       “รอประมาณ10วินาทีเพื่อรอการเชื่อมต่อให้สมบูรณ์ไปยังจุดหมายครับ 10… 9… 8… 7…”ผมมองตัวเลขมุมบนสุดของจอ เมื่อเลขศูนย์ปรากฏพื้นก็เรืองแสงเป็นสีฟ้าผมรู้สึกถึงเกร์บริดที่ลอยขึ้นไปยังแท่งแก้วกลางห้องเพื่อออกไปยังอวกาศ

    วูบหนึ่งผมรู้สึกเหมือนสมองถูกขยำด้วยแรงดันอากาศตอนออกมา

    ห้วงอวกาศสีดำสนิทและไม่มีจุดสิ้นสุดปรากฏอยู่ตรงหน้า ดาวนับล้านลอยค้างเติ่งทั้งๆที่ไม่มีอะไรลองรับ เกร์บริดเคลื่อนตัวผ่าเข้าไปยังเนบิวลากลุ่มหนึ่งซึ่งมีสีแดงสดเลือดหมูและเศษซากดาวประกายระยิบระยับ ผ่านกลุ่มหมอกควันหลากสี

       “เงียบไปไหมครับ”รันโซพูดขึ้นมา ผมหันไปมองหน้า

       “กระผมร้องเพลงให้ฟังได้นะ หรือจะเป็นเล่าเรื่องตลกดี”รันโซทำทาคิดหนัก

       “ไม่ต้องหรอก ฉันจะดูรอบๆ”ผมตอบไปก่อนเอนเบาะเงยหน้ามองไปยังเศษดาวเคราะห์สีส้มแดงด้านบน

       “เศษซากของดาวYO 209854 p ครับ เกิดเมื่อตอนดาวหางNelsonพุ่งเข้าชนอย่างแรง”ผมถอนหายใจ จะไม่ให้ถอนได้ไงหละ เจ้ากระต่ายรันโซนี่เสียงแหลมยิ่งกว่าเข็มซะอีก

    เกร์บริดเคลื่อนผ่านดาวสีฟ้าดวงหนึ่ง

       “ดาวแห่งน้ำครับ ดาวWM 987495 n สามจุดห้าในสี่เป็นน้ำหมดเลยครับ ความเค็มน้ำเท่ากับทะเลเดดซี...”

    ผมจ้องไปที่รันโซ

       “กระต่ายพูดเก่งแบบนี้ทุกตัวเลยหรือเปล่า”

    เจ้ารันโซหันมาจ้องตาผมปริบๆ

       “กระผมก็แค่อธิบายลึกๆเท่านั้น เผื่อคุณโง่ไม่เข้าใจขึ้นมาก็เสียชื่อผมสิครับ”

    ความอยากของผมตอนนี้มีแค่อย่างเดียว ผมแค่อยากขว้างเจ้ารันโซไปนอกเกร์บริดนี่แค่นั้นแหละครับ

      

     

     

     

    3

    เวลา 15:50 <W-024E Time zone +00>

    ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมงที่ผมเงยหน้าจ้องมองไปยังอวกาศที่กว้างใหญ่ เจ้ารันโซก็พูดแนะนำไปเรื่อยยังไม่ยอมหยุด ในขณะที่ผมตาปรือๆ ความรู้สึกกระตุกวูบก็เกิดขึ้นมา ผมสะดุ้งลุกขึ้นมาหลังแข็ง เจ้ารันโซโผเอามาเกาะขา

       “มะ เมื่อกี้มันอะไร”

       “...”

       “รันโซ! เมื่อกี้มันอะไร?”

    รันโซกระโดดออกไปยืนเท้าเอวเชิดหน้าพูด

       “อะ อ๋อ อาจจะเป็นแค่การกระตุกของเครื่องล่ะมั้งครับ แหม่ๆ คุณโซระนี่หละก็ขี้กลัวจริงๆเลย”

       “เหรอ”ผมชายตามอง

       “คะ ครับ เอาหละครับกระผมจะอธิบายถึงการกระตุกของเครื่องนะครับ เนื่องจากเป็นการเปิดบริการครั้ง... หวะ หวา ช่วยผมด้วยคร้าบบบบบ”

    เจ้ารันโซยังไม่ทันพล่ามจบก็กระเด็นมาเกาะขาผมอีกรอบ เกร์บริด กระตุกวูบลงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูแตกต่าง

    ภาพวิวนอกเกร์บริดวูบด้วยความเร็วที่ผิดปกติ เครื่องยนต์สั่นเป็นจังหวะเดียวกับเจ้ารันโซที่ท่องคำว่าพระบิดา พระบุตรและพระจิต ทันใดนั้นเสียงที่ผมไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น

    กึก กึก เคร้งงงงงงงงง

    ทันใดนั้นเกร์บริดก็หมุนคว้าง ข้าวของภายในกระเด็นกระดอน ที่น่าลำบากใจกว่านั้นข้าวของสำรองที่อยู่ที่ที่เก็บของสี่มิตินี่สิเพิ่มพื้นที่ที่เล็กอยู่แล้วก็ถูกอัดแน่นไปด้วยข้าวของอีกจนผมถูกอัดไปติดที่กระจกด้านขวาซึ่งกำลังแล่นเฉียดกับดวงจันทร์ของดาวดวงหนึ่ง

    ผมใจหล่นวูบ

    ผมรับรู้แล้วว่าตอนนี้เครื่องนี้คอนโทรลไม่ได้แล้ว ดูจากการแล่นที่เฉียดฉิวพื้นผิวเมื่อกี้ ผมพยายามตั้งสติแล้วก็พยายามเอ่ยปากถามรันโซว่าควรทำไง

       “รันโซ มีสัญญาณขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไหม”

       “หะ หา คุณโซระว่าอะไรนะครับ”รันโซร้องไห้ไปพูดไป

       “เจ้ากระต่ายบ้า ฉันถามว่าเราทำอะไรได้บ้าง”ทันทีที่สิ้นเสียงผม เครื่องเกร์บริดก็กระแทกบางสิ่งอย่างรุนแรง

       “ขอผมชะ เช็คกับระบบก่อนนะครับ”รันโซหลับตาที่มีน้ำคลออยู่ กระต่ายสังเคราะห์นี่ร้องไห้ได้ด้วยเหรอ

    ผ่านไปแค่ไม่กี่วิ เครื่องเกร์บริดเริ่มแสดงอาการเลวร้ายยิ่งขึ้นจากอาการวูบที่เกิดขึ้นกับร่างกาย เครื่องเกร์บริดเครื่องนี้กำลังดิ่งลงอย่างควบคุมไม่ได้

       “การติดต่อถูกตัดคะ ครับ แว๊กกกกกกกกกก พ่อจ๋า”รันโซเข้ามากอดผมต่อพอๆกับกล่องพลาสติกใบใหญ่พุ่งเข้ามาทับผม

       ‘ช่างโชคดีเหลือเกิน ผมนี่ช่างดวงดีเหลือเกิน

    ผมมองไปยังกระจกเพื่อชมบรรยากาศภายนอก น้ำตาผมไหลมาด้วยความปลื้มปิติ เจ้ารันโซเอาหัวโขกไหล่ผม

       “บ้าไปแล้วรึไง คุณโซระ หาวิธีแก้สิ หาสิ!

    ผมส่งสายตาอาฆาตไปให้รันโซ

       “เจ้ากระต่ายไร้ประโยชน์ นายต้องเป็นคนแนะนำไม่ใช้เหรอ”

       “อย่ามาว่ากระผมนะ เจ้าโง่คุณโซระ แง้ๆ”รันโซเอาหัวมาซุกไหล่ผม ผมตันไปหมด ถ้าผมไม่ได้กลับไปที่สถานีการเชื่อมต่อทางประสาทผมอาจถูกตัด ผมอาจจะตายได้ไม่ก็หากสติกลับไปได้ผมก็อาจจะเป็นอัมพาตทั้งตัว

    การดิ่งของเครื่องเกร์บริด ความจริงไม่สามารถบอกได้ว่างเครื่องนี้ดิ่งอยู่ แต่ที่ผมรู้สึกว่าดิ่งเพราะร่างกายผมแล้วของถูกอัดติดเครื่องเกร์บริดด้านขวาในระนาบแนวนอน ระดับความเร็วที่ผมรู้สึกว่ามันน่ากลัวเพราะวิวข้างนอกเป็นขีดตรง เจ้ารันโซยังคงกอดคอผมแน่น

    ตื้ดดดดดดดดดด

       “นะ นั่นคือเสียงสัญญาณเตือนวัตถุภายนอกครับ”

       “หา อะไรนะ สัญญาณอะไรนะ”

       “สัญญาณเตือนวัตถุใกล้เซนเซอร์เกร์บริดครับ ตรวจจับวัตถุในระยะใกล้กว่า4ล้านกิโลเมตรครับ”

       “แล้วทำไมตอนที่ชิดดวงจันทร์ไม่มีสัญญาณเตือนหละ”

       “สัญญาณคงพังแหละคะ... คร้าบบบบบบบบบบบบบบ”ความเร็วเกร์บริดเพิ่มขึ้นอีกจากแรงอัดที่ผมรู้สึก ดาวสีฟ้าอยู่ตรงหน้า

    คว้าง

    ทันทีที่เห็นดาวสีฟ้าเครื่องเกร์บริดก็ลดความเร็วจนลอยคว้าง ผมคิดว่าถ้าลองยืนมองข้างนอกคงจะเป็นภาพที่สวยทีเดียว ดาวสีฟ้าสดใสที่มองจากอวกาศกับเครื่องยนต์ประหลาดที่กำลังค่อยๆถูกแรงดึงดูดดูดลงไปยังดาวนั้น

    อย่างน้อยผมก็มีโอกาสรอด 20%

    บางทีนะ

    บางทีอาจจะ 10%

    ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×