คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : แฟรี่ภูตตัวน้อย -8- 100%
-8-
“คุณคะ มานั่งตรงนี้เลยคะ”
แบมโบล่าหันไปตามเสียง นางพยาบาลคนที่มาร์คเรียกก่อนหน้า ส่งยิ้มมาให้แล้วเดินมาทางเตียงที่ว่างของฝั่งตรงข้ามของมาร์ค พร้อมกับเข็นรถเข็นพยาบาลมาด้วย
เธอหันกลับมาแล้วทำหน้ามุ่ยใส่มาร์ค ทำเอาอีกฝ่ายถึงกับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ แล้วเธอก็หันหลังเดินที่นั่งบนเตียงฝั่งตรงข้ามอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่
“ขอดูแผลหน่อยนะคะ”
แบมโบล่ายื่นแขนข้างซ้ายที่ถลอกให้นางพยาบาลที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างว่าง่าย แต่สายตาของเธอยังคงมองจิกไปด้านหน้า มาร์ค คนหล่อที่กำลังเขี่ย และจิ้มเฝือกเล่นอยู่
จู่ๆเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าก็โลดแล่นเข้ามาในหัว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เธอไม่คิดด้วยซ้ำว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
ความฝันของเธอมันเกิดขึ้นแล้วอย่างงั้นหรอ…
ทำไม…มันเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
หรือว่าจะเหมือนที่ยูคยอมเคยพูดไว้
‘คุณก็ควรระวังไว้ก็ดีนะ เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่…’
งั้นก็หมายความว่า ตอนนี้การที่เธอมาช่วยเขานั้นสิ้นสุดลงแล้วสินะ ความตั้งใจของเธอในการช่วยเขาให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์นั้น เมื่อเขาปลอดภัยและทุกอย่างสิ้นสุดลง ถึงเวลาที่เธอจะต้องกลับไปโลกของเธอสักที…
และเธอไม่รู้ว่าเมื่อกลับไปแล้ว จะสามารถ กลับมา ที่โลกมนุษย์ได้อีกหรือไม่ ถ้าเธอกลับไปผู้เป็นแม่จะต้องไม่ยอมและยึดประตูมิติของเธอเก็บไว้แน่ๆ
แต่ถ้าเธอไม่กลับไป….แล้วเธอจะอยู่ที่นี่ เพื่ออะไร กันละ
ใบหน้าที่เหม่อลอย สายตาของเธอที่มองที่มาร์คไม่ได้เหมือนเดิม น้ำใสๆเริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตากลมโต จนในที่สุดมันก็ไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง จนเมื่อมาร์คเงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาคู่นั้นพอดี เขาจึงรีบลุกจากเตียงไปหาเธออย่างรวดเร็ว นางพยาบาลที่กำลังทำแผลจึงหยุดกะทันหัน เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นผู้ป่วยของเธอกำลัง ร้องไห้
เธอร้องไห้ทำไม…ความรู้สึกแบบนี้ คืออะไร?… คำถามเหล่านี้มันวนอยู่เต็มหัวเธอไปหมด
“เจ็บแผลหรอคะ ขอโทษนะคะ อดทนอีกนิดนะคะจะเสร็จแล้ว”นางพยาบาลรีบก้มหน้าทำแผลต่อไป
“แบมโบล่า เธอร้องไห้ทำไม เจ็บแผลหรอ?”มาร์คถามด้วยความตกใจกับน้ำตาของคนที่อยู่ตรงหน้า มันไหลออกมาไม่หยุดเลย ท่าทางคงจะ เจ็บ จริงๆ
“อือ (_ _)(- -)(_ _)”เธอพยักหน้าตอบ พร้อมกับเช็ดน้ำตาไปด้วย
“ไม่เป็นไหรอกหน่า นิดเดียวเอง หยุดร้องได้แล้ว^^”
“อื้ม นายก็ลองมาเป็นฉันดูสิ!”…ว่ามันรู้สึกยังไง ถึงได้ร้องออกมา…
“เธอแค่แผลถลอก ผมนี่สิถึงกับใส่เฝือก ไม่เห็นร้องเลย”
“นาย…!-*-”
“เสร็จแล้วคะ”
มาร์คและแบมโบล่าโค้งขอบคุณให้นางพยาบาล แล้วเธอก็เดินออกไปพร้อมกับรถเข็นพยาบาล แบมโบล่าลุกขึ้นยืน สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกมา
“ฉันทำแผลเสร็จแล้ว ฉันต้องกลับจริงๆแล้วละ”
“โอเค แบมโบล่ามีธุระต่อนี่หน่า ไปเถอะ”
เธอจ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาสีดำสนิทของคนตรงหน้า และเขาก็จ้องมาที่เธอเหมือนกัน
“ลาก่อนนะ…”
“อือ…อื้ม หวังว่าเราจะ บังเอิญ ได้เจอกันอีกนะ”
“อ๋อ^^”
‘…คงดีถ้าเรา บังเอิญ ได้เจอกันอีก…’ เธอพูดในใจแล้วสบตากับเขา ก่อนจะรีบเดินออกมาจากที่ตรงนั้น
มาร์คเหลียวมองตามแผ่นหลังที่เดินออกไป ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ประโยคที่เธอบอกลาเมื่อกี้ มันดูเศร้าเหมือนจะไม่ได้เจอกันอีก…
“ไม่หรอก เราต้องได้เจอกันอีก เชื่อสิ” เขายิ้มออกมาแล้วพูดต่อ “ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกัน แต่เรา บังเอิญ เจอกันมาตั้ง สี่ครั้ง แล้วนะ มันต้องมีเรื่องบังเอิญอีกสิ…”
จะว่าไปแล้ว…เรื่องที่เกิดขึ้นมัน บังเอิญ เกินไปรึเปล่า?
@คอนโด มาร์ค เวลา 20.03 น.
“โทรเรียกมาป่านนี้มีอะไรวะ แล้วเฮ้ย! แขนมึงเป็นไรวะ ทำไมต้องใส่เฝือก”
มาร์คเปิดประตูให้ ยองแจ เข้ามา เมื่อสิบนาทีก่อนเขาโทรหาเพื่อนคนนี้ด้วยเหตุผลเพียงแค่สองอย่าง คือ บ้านของยองแจอยู่ใกล้กับคอนโดของเขามากที่สุด ใช้เวลาขับรถไม่นาน อีกอย่างตอนนี้แขนข้างที่เขาถนัดกำลังใส่เฝือก จึงต้องการคนช่วยในการทำอะไรบางอย่างที่ตัวเขาไม่ถนัดในช่วงที่กำลังใส่เฝือก ด้วยเหตุผลนั้นเอง ยองแจจึงเป็นผู้ถูกเลือก
“หกล้มกับพื้นเฉยๆ”มาร์คปิดประตู ขณะที่ยองแจเดินเข้ามาในห้องแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา หันหน้าไปคุยกับมาร์ค
“โห หกล้มท่ายากเนอะถึงกับต้องใส่เฝือกเลยหรอวะ”
“อืม”มาร์คเดินมานั่งข้างๆยองแจ
“แล้วเรียกมาทำไมเนี่ย ให้ทำกับข้าวให้งี้หรอ? ถ้าอย่างนั้นมึงก็เรียกมาผิดคนแล้วละ-*-”
“เปล่า จะให้ช่วยอย่างอื่น”
“อะไรวะ?”
“ช่วยกูถอดเสื้อหน่อยดิ”
“O///O บ้า! พูดอะไรออกมาเนี๊ย”
“บ้าไร มึงดูชุดกูดิ แล้วมึงคิดไรอยู่หยุดเดี๋ยวนี้เลย -_-”
ยองแจใช้สายตามองมาร์คที่นั่งอยู่ข้างๆท่อนบนของเขาสวมใส่ฮู้ดสีเทา หน้าอกสกรีนเป็นรูปมิกกี้เมาส์ และท่อนล่างเป็นกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ
“โอเคๆ แล้วทำไมมึงไม่เลือกใส่ชุดอื่นละวะ”
“แล้วกูจะตรัสรู้ไหมว่าวันนี้กูจะใส่เฝือก- -^^”
“เออ กูผิด โทษครับพี่- -”
“มึงก็ผิดตลอดแหละ เร็วดิอยากอาบน้ำแล้วเนี่ย!”
“คร้าบๆ”
ทั้งสองคนลุกขึ้นยืนหันหน้าเข้าหากัน ยองแจขยับเข้าไปใกล้ๆเพื่อที่จะช่วยถอดเสื้อให้คนที่อยู่ตรงหน้า
และแล้วปฏิบัติช่วยเหลือมาร์คคึก็เริ่มขึ้น!
ผ่านไป 10 นาที
“ไอ่แจ!มึงเบาๆหน่อยดิ กูป่วยอยู่นะเว้ย!!”มาร์คตะโกนออกมาเสียงดัง
“ป่วยบ้าไร มึงแค่ใส่เฝือก ไม่ได้นอนซมบนเตียงสักหน่อย!”
“มันก็เหมือนกันแหละน่า แล้วเมื่อไหร่จะได้วะ”
“มึงชูแขนข้างนั้นไม่ได้นิ ป่านนิแมร่งเสร็จไปตั้งนานละ”
“ก็เวลาขยับมันจะเจ็บนี่หว่า-*-”มาร์คเบ้ปากใส่ยองแจ ตอนนี้
“กูว่า…เอากรรไกรมาตัดเลยดีกว่าวะ”มาร์คมองหน้ายองแจ
“กูยอมนะถ้าเสื้อนี่กูยืมมึงใส่- -^^”
“กูผิดT^T”
“=_=;”
แล้วทั้งสองก็ก้มหน้าก้มตาช่วยกันดึงแขนเสื้อที่ติดอยู่ตรงเฝือกกันต่อไป จนในที่สุดยองแจก็ดึงเสื้อออกมาได้สำเร็จ ท่อนบนของมาร์คที่เปลือยเปล่าเผยให้เห็นไหล่ แผงอกและกล้ามหน้าท้องที่แข็งแรงกับผิวขาวๆอันน่ากิน(?)ของเขา
“ออก แล้ว โวยย!!!”ยองแจกระโดดโลดเต้นไปทั่วห้อง โยนเสื้อฮู้ดที่ถอดได้ลงบนโซฟา
“เรียกมาแค่นี้แหละ มึงจะกลับเลยก็ได้นะ”มาร์คพูดเฉย เจ้าตัวเดินไปหยิบเสื้อที่ยองแจโยนลงบนโซฟาเมื่อกี้ขึ้นมา แล้วเดินเข้าห้องนอนไป
“หะ แค่เนี๊ยยยย!!”ยองแจหยุดชะงัก กับสิ่งที่เขาได้ยินเมื่อกี้ แล้วรีบตามมาร์คเข้าไปในห้องพอเข้าไปก็ยืนพิงพนังห้องกอดอกเท่ๆคุยกับมาร์คที่หันหลังให้ เพราะกำลังยุ่งอยู่กับการถอดเข็มขัดมือเดียว
“ที่มึงโทรเรียกกูมาในเวลานี้ ขับรถเปลืองน้ำมันเกือบสิบนาทีแค่ให้มาช่วยมึงถอดเสื้อตัวเดียวเนี๊ยนะ”ประโยคสุดท้ายเสียงสูงได้อีก
“เออแค่นี้แหละ”มาร์คถอดเข็มขัดไว้บนเตียง แล้วค่อยๆถอดกางเกงของเขาออกทีละข้าง
“โด่วววว เลี้ยงของกินกูไม่ได้หรอ”
“ไว้วันหลังละกัน”มาร์คถอดกางเกงแล้วโยนใส่ตะกร้า เหลือเพียงแค่บ๊อกเซอร์สีดำตัวเดียว เดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ผาดไว้บนราว เยื้องๆหน้าห้องน้ำ
“ก็ตอนนี้กูหิวอะ ตู้เย็นมึงไม่มีไรกินเลยหรอ”ยองแจทำหน้าสงสาร
“ก็มีแต่แตงกวา ไปหยิบมากินดิ”
“แตงกวา? เอิ่มมม งั้นกูไม่กินละ กลับละ แล้วอย่าลืมเลี้ยงกูด้วย บายยย”เมื่อได้ยินคำว่า แตงกวา ยองแจรู้สึกอยากกลับบ้านทันที แน่ละ! ก็เขาน่ะเกลียดแล้วก็ไม่ชอบแตงกวายิ่งกว่าอะไร เหตุผลที่ทำให้เขาไม่ชอบแตงกวาก็เพราะ ตอนเด็กยองแจเคยโดนเพื่อนผู้ชายตีหัวด้วยแตงกวาจนหัวแตก จนเย็บไปหลายเข็ม ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ชอบแตงกวาอีกเลย….
ยองแจรีบเผ่นออกจากห้องไป มาร์คเลยยืนยิ้มอย่างขำๆแล้วเดินไปห้องน้ำพร้อมกับผ้าขนหนูที่ผาดเอว ไม่นานเขาก็เดินออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยสวมเสื้อกล้ามสีขาวทับด้วยเสื้อไหมพรมใส่แขนเพียงข้างที่ไม่ได้ใส่เฝือก และกางเกงนอนขายาวสีขาวลายจุด
มาร์คหยิบโทรศัพท์มานั่งเล่นบนโซฟาหน้าทีวี เมื่อปลดล็อคหน้าจอก็มีการแจ้งเตือนว่ามีสายที่ไม่ได้รับหนึ่งสาย เขาจึงโทรกลับสายนั้นไป
รออยู่สักพัก ไม่นานปลายสายก็รับสาย
“ฮัลโหลครับ อ่อครับว่างครับ ได้ครับไม่มีปัญหา ครับ”
มาร์คคุยโทรศัพท์จนเสร็จเรียบร้อยเขาก็นั่งท่องโลกอินเทอร์เน็ตต่ออีก สักพักก็ลุกขึ้นปิดไฟเตรียมตัวเข้านอน แต่เพียงแค่เขาล้มตัวลงบางสิ่งก็ลอยเข้ามาในหัว เขาลืมตาขึ้นมองเพดานถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ภาพแบมโบล่าลอยเข้ามาเต็มหัวเขาไปหมด….
‘ลาก่อนนะ’
แค่คำบอกลาของเธอเมื่อเช้า ไม่รู้ทำไมมันถึงยังคอยวนเวียนอยู่ในสมองของเขาจนถึงตอนนี้
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน…แปลกมากจริงๆ
เขากำลังเป็นอะไร?
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
“นอนได้แล้วมาร์ค นอนๆ”
มาร์คพยายามข่มตาหลับแต่คำพูดของแบมโบล่า ก็ยังโลดแล่นอยู่ในหัวเขาไม่หยุด เหมือนฟังเทปบันทึกเสียงที่เล่นซ้ำๆไปมา…
1 ชั่วโมงผ่านไป
“หลับๆๆ”
2 ชั่วโมงผ่านไป
“หลับดิโวยมาร์ค!!!”
3 ชั่วโมงผ่านไป
“อ๊ากกก ทำไมไม่หลับวะ โอเคสงบนิ่ง แล้วหลับสักที”มาร์คเริ่มหัวเสียกับตัวเอง
และหลายชั่วโมงผ่านไป
“อืมม หลับสิ โว้ยยยย!!”
ถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังพร่ำบอกตัวเองอยู่อย่างนั้นว่า…
“หลับสักทีสิๆ เฮ้ออ”ถอนหายใจออกมาเสียงดัง
ดูเหมือนหนทางในค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล…
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
“อื้อ”
มาร์คงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกริ่งหน้าห้อง เขาลุกขึ้นจากเตียงเดินไปเปิดประตูในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น เพราะเมื่อคืนแท้ๆที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ กว่าจะข่มตาหลับได้ก็ปาไปเกือบตีสอง พอมาตื่นเช้าแบบนี้ทำให้เขาง่วงสุดๆ
“สวัสดีครับ ขอโทษที่เปิดช้านะครับ”มาร์คโค้งให้น้าของเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้าในชุดทำงานสุภาพ ข้างๆมีเจ้าตัวเล็กลอเรน ถัดไปคือเด็กโข่งเซฮุน
เขาเกือบลืมไปเลยว่าเมื่อคืนน้าบอกว่าจะฝากเด็กๆไว้ เพราะเธอคิดประชุมทั้งวัน
“ไม่เป็นจ๊ะ แล้วนี่แขนไปโดนอะไรมาน่ะเรา”น้าของมาร์คชี้มาแขนข้างที่เขาใส่เฝือก
“พอดีสะดุดล้มน่ะครับ”
“ตายจริง! แล้วทำไมไม่บอกน้าก่อน เซฮุนกับลอเรนคงเป็นภาระให้มาร์คแย่”
“ไม่หรอกครับ เซฮุนก็โตแล้ว ลอเรนก็ไม่ได้ดื้ออะไรออกจะเชื่อฟังดีด้วยซ้ำ ไม่เป็นไรหรอกครับ^^”
“แน่นะ ถ้ามันไม่โอเคก็บอกน้าได้นะ”น้าของเขาถามย้ำอีกครั้งอย่างกังวล
“ครับ รีบไปเถอะครับเดี๋ยวจะเข้าประชุมไม่ทัน”
“งั้นเดี๋ยวตอนเที่ยงน้าจะแวะซื้อของกินมาให้ละกัน น้าไปละนะ นี่กระเป๋าลอเรนจ๊ะ”น้ายื่นกระเป๋าสีชมพูลายคิดตี้มาให้ และเขาก็รับมันไวเอย่างดี
“ลอเรนตอนนี้พี่มาร์คเจ็บแขนอยู่หนูอย่าดื้อกับพี่เขานะ เซฮุนก็ดูน้องด้วยเข้าใจไหม”น้าของมาร์คกำชับลูกของเธอสองคนอย่างดี
“คร้าบ/ค่า”เซฮุนและลอเรนตอบพร้อมกัน แม่ของเซฮุนและลอเรนยิ้มหวานให้แล้วเดินหันหลังกลับไปยังลิฟต์
“เข้ามาร็ว”มาร์คบอกแล้วเซฮุนและลอเรนก็เดินเข้า เขาจึงปิดประตูลงวางกระเป๋าของลอเรนไว้ข้างๆโซฟา แล้วเดินเข้าห้องนอนไป
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
เซฮุนที่กำลังแชทไลน์อยู่บนโซฟาหัวเราะคิกคักกับข้อความและสติกเกอร์ที่เพื่อนๆส่งมา วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆแล้วเดินไปเปิดประตู
“โอ้เซฮุนนิ ว่าไงไม่ได้เจอกันนาน”เซฮุนถูกแจ็คสันดึงเข้าไปกอดเต็มแรง จนเจ้าตัวแอบตกใจเล็กน้อย
“ก็ดีฮะ ไม่ได้เจอพวกพี่นานเหมือนกัน”เซฮุนผละแจ็คสันออก แล้วหันไปยิ้มทักทายเพื่อนๆของมาร์คทุกคน
“แล้วลอเรนละ มาไหม*O*”แจ็คสันถามหาลอเรนตาวาว
“นั่งอยู่ในห้องน่ะพี่”
“ลอเรนนนนนนน พี่หวังมาแล้ววววว><”เมื่อได้ยินว่าลอเรนอยู่ในห้อง แจ็คสันก็รีบเข้ามาแล้วตรงดิ่งไปหาลอเรนที่นั่งเล่นเกมแท็ปแล็ตโดยที่เด็กน้อยยังคงไม่รู้เรื่อง
เซฮุนปิดประตูลงในขณะที่เพื่อนๆของมาร์คเข้ามากกันในห้องหมดแล้ว เขาจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแชทต่อ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้อ่านข้อความเจบีก็เรียกไว้ซะก่อน
“นี่เซฮุน”
“ฮะ?”
“มาร์คมันไปไหนอะ?”เจบีถามแล้วมองดูรอบๆห้อง
“สงสัยอยู่ในห้องมั้ง”
“แล้วมาร์คมันใส่เฝือกจริงดิเซฮุน?”แจ็คสันที่กำลังนั่งเล่นกับลอเรนพูดขึ้นมา
“จริงสิฮะ อ้าว พวกพี่ยังไม่รู้กันหรอ?”เซฮุนทำหน้าสงสัย
“งั้นที่ไอ่ยองแจมันบอกก็เรื่องจริงละวะ- -^^”แจ็คสันหันไปมองหน้าเจบี
“เออ นั้นดิ ทำไมมันไม่บอกพวกเราวะ”เจบีมองหน้าเพื่อนๆของเขา
“ก็บอกแล้วไม่เชื่อ กูไม่ผิดเห็นมะ=_=”ยองแจแทรกขึ้นมา
“เออ คราวนี้มึงไม่ผิดพวกกูผิด- -^^^”พูดเสร็จแจ็คสันก็หันเล่นกับลอเรนต่อเหมือนโลกนี้มีแค่เราสองคน…
มาร์คที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเดินออก แล้วเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อตรงโซฟาของเขามีแขกนั่งกันเต็ม แค่ยืนมองแค่นี้ก็รู้ว่าแขกที่มาเพิ่มคือใคร
“พวกมึงมาทำไรกัยเนี่ย”มาร์คพูดออกไป ทำให้ทุกคนในห้องหันมายกเว้นเซฮุนและลอเรน แล้วเขาก็เดินไปเบียดข้างๆจูเนียร์
“ขยับไปหน่อยดิ”
“เต็มแล้วเนี่ย นั่งตักกูนี่”จูเนียร์ดึงตัวมาร์คนั่งลงตักของเขา
“ทำไมใส่เฝือกแล้วไม่บอกพวกกูวะ”เจบีถาม
“เวลากูใส่จะต้องบอกพวกมึงด้วยหรอ แล้วรู้มากจากไอ่แจใช่ไหม(-_-++)”มาร์คมองไปยองแจอย่างรู้ทัน
ชิ้ง!
“(‘ ‘)”ยองแจรับรู้ถึงสายตามาร์ค แต่ต้องตีหน้าตายไว้ก่อน
“แล้วมากันทำไม ปกติไม่เห็นโผล่มา”มาร์คถามเพื่อนของเขา
“ก็มาดูไงว่าไอ่แจมันพูดจริงรึเปล่า”เจบีตอบ
“แล้วจะกลับเมื่อไหร่ ดูเสร็จแล้วนิ”
“ไม่ต้องมาไล่เลยมึง กูไม่กลับหรอกจะอยู่เล่นกับลอเรน เนอะลอเรนเนอะ><”
“เออ กูก็จะอยู่เล่นกับลอเรนเหมือนกัน”ยองแจพูดขึ้น
“กูด้วย - -^^”เจบีและจูเนียร์ประสานเสียงกันพูดขึ้นมา
เวลา 11.40 น.
“เซฮุน ลอเรน แม่ถามว่าอยากกินอะไร”มาร์คหันหน้ามาถามเซฮุนที่ดูทีวีอยู่
“จัมปง บอกให้แม่ซื้อขนมมาด้วย”
“แล้วลอเรนละ จะกินอะไรน่ะเรา”เขาหันไปถามลอเรน เด็กสาวที่ตอนนี้ถูกลุมล้อมด้วยบรรดาหนุ่มๆทั้งหลาย
เสน่ห์แรงใช่เล่นนะเด็กน้อย…
“หนูเอาอะไรก็ได้”ลอเรนเงยหน้าขึ้นมาบอกแล้วหันไปเล่นกับบรรดาตุ๊กตาที่ตัวเองเตรียมมากับหนุ่มๆทั้งหลาย
“ของเซฮุนเอา…”ตอนนั้นเองที่โทรศัพท์ของมาร์คก็ถูกแย่งไปโดยฝีมือแจ็คสันโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว พอได้ไปแล้วยังเปิดลำโพงอีกด้วย
“คุณน้า สวัสดีครับ ผมแจ็คสันนะครับ”
“ออสวัสดีจ๊ะ”น้าของมาร์คทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส
“สวัสดีคร้าบบ ยองแจครับ จูเนียร์ครับ เจบีครับ”พูดแนะนำตัวกันไปเป็นสเต็ป
“พอดีวันนี้ผมกับเพื่อนๆแวะมาหามาร์คน่ะครับ”
“อ่า…หรอจ๊ะ แล้วกินอะไรกันมารึยัง จะเอาอะไรไหมเดี๋ยวน้าซื้อไปให้”
“จริงหรอครับ! พวกผมก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน ขอเป็น…เนื้อวัวได้ไหมครับ”
“(- -)”<<สีหน้ามาร์คตอนนี้
“อ่อ ได้สิจ๊ะ ตอนนี้อยู่กันกี่คนเนี่ย”
“ทั้งหมดก็เจ็ดคนครับ><”
“แค่เซฮุนคนเดียวก็เสร็จไปเยอะ เดี๋ยวน้าจะซื้อไปให้เยอะๆละกันนะ แต่ขอคุยกับมาร์คแปบหนึ่งนะจ๊ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”ทั้งแจ็คสันและคนอื่นประสานเสียงกันอย่างไพเราะเพราะพริ้ง ก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ
“เซฮุนเอาอะไรน่ะมาร์ค”
“เซฮุนเอาจัมปง แล้วก็บอกให้น้าซื้อขนมมาด้วย ส่วนลอเรน#_#%&*!$%”แล้วเขาก็ไล่รายการอาหารไปตั้งแต่ต้นจนจบ
พวกนี้นี่…-_-^^^
สองวันต่อมา
อีกแล้ว…เป็นแบบนี้อีกแล้ว
เมื่อกี้มาร์คได้ยินเสียงกริ่งเขาจึงลุกขึ้นไปเปิดประตู แต่ก็ไม่มีใครอยู่หน้าห้องเหมือนกับครั้งก่อน เขาจึงตัดสินใจไปเช็คดูที่ห้องระบบรักษาความปลอดภัย เขาก็ต้องประหลาดใจกับสิ่งที่เขาเห็น
ไม่มีใครยืนอยู่หน้าห้อง
แล้วเขาได้ยินเสียงกดกริ่ง…ถึงตั้งสองครั้ง
ไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้น…หน้าห้องของเขา
หรือว่า…เขาหูฟาด
มันจะเป็นไปได้งั้นหรอ?
หลายวันต่อมา
“นอนได้แล้วมาร์ค หลับสักที”
ถึงจะผ่านมาหลายวันแล้วแต่ช่วงนี้เขาก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี มาร์คลืมตาขึ้นมามองดูนาฬิกาที่วางอยู่หัวเตียง
23.55
เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนอนออกไปหาอะไรรองท้อง ขณะที่เขากำลังจะกดสวิทซ์เปิดไฟสายตาของเขาก็ไปเห็นอะไรบางอย่างเรืองแสงอยู่ตรงโซฟาเข้า
แสงอะไรน่ะ แสงสะท้อนงั้นหรอ?
ทำไมเหมือนมันเคลื่อนไหวได้?
ความอยากรู้ทั้งหมดทำให้เขาตัดสินใจกดเปิดสวิทซ์ไฟ…
O_O!!!
สิ่งที่เขาเห็นนั้นให้เขาเบิกตากว้าง เหมือนมีใครบางคนกำลังนอนงีบอยู่บนโซฟาตัวนั้น ลักษณะผมยาวคล้ายผู้หญิง แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ…ปีก!!!
ใช่! มันกระพือไปมา ที่เขากำลังเห็นตอนนี้คือตัวอะไร!!!!!!!!!!!!
O_O!!!!!!!!!!!!!!!!
“อะไรน่ะ@_@”
จู่ๆตัวประหลาดที่เขาเห็นก็เงยหน้าขึ้นมา ทำให้เขาตกใจกลัวยิ่งกลัวเดิมเป็นสิบเท่า! แต่แค่นั้นก็ยังไม่พอเมื่อความตกใจ กลัว และประหลาดใจ ของเขามันมารวมกันเมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือ คนที่เขารู้จัก!
“บะ…แบม…โบล่าO_O!!!”
เธอเป็นใคร ทำไมถึงมีปีกได้!!!!
เธอไม่ใช่มนุษย์หรอกหรอ!?
บอกทีว่าตอนนี้เขากำลังเจอกับอะไรกันแน่!!!
ทำไมมันดราม่าอย่างนี้ ก็ไม่ได้กะให้มันเศร้าอะ แต่มันเป็นไปแล้วววววววววววว
รู้สึกวันนี้ขยันอัพจัง5555555555555
เม้นท์เยอะๆนะ จะได้ขยันอัพแบบนี้ ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้อารมณ์ไม่คงที่อีกละ5555555 หุ่นมาร์คจะแซ่บขนาดไหนขึ้นอยู่กับการมโนของรีด ตอนนี้เปล่ากาม มือและสมองมันสั่ง5555
แล้วรู้ยังทำไมแจถึงเกลียดแตงกวา ฮาาาาาา อดีตของนางช่างน่าสงสาร หรือจะฮาดี โดนตีด้วยแตงกวา555555555555555555
ถ้าอยากรุ้ก็รอติดตามตอนต่อไปเน้อ นั่งปั่นทั้งวัน อาจมึนๆงงๆ แต่งเสร็จปุ๊บลงเลย ไม่ได้ดูคำผิดด้วยก็....ไว้จะมาแก้ทีหลังละกัน
มึนตรงไหนก็บอกนะจ๊ะ
ความคิดเห็น