คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Poster :: 07 100%
07
แกร็ก
โอยยยยย ห้ามหันนะเว้ย
นิ่งไว้เพื่อน พุทโธ
เกือบยี่สิบนาทีที่ผมนั่งรอพี่มาร์คอาบน้ำ
และตอนนี้วินาทีที่เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออก
ผมพยายามบอกตัวเองให้ตั้งสติห้ามหันหน้าไปมองพี่มาร์คเป็นอันขาด
สายตาจ้องเขม็งไปยังหน้าจอโทรศัพท์ เลื่อนอ่านหน้าฟีคข่าวในเฟสอย่างเดียว
“นายเป็นอะไรแบมแบม ทำไมจมูกนาย…” เสียงถามจากพี่มาร์คทำเอาผมแอบสะดุ้งไปเล็กน้อย
ก็เพราะไอ่เลือดกำเดาที่ไหลก่อนหน้านั้นแหละ ทำให้ผมต้องเอาทิชชู่มายัดรูจมูกข้างขวาไว้ไม่ให้เลือดมันไหลออกมา
“เอ่อ น้ำมูกมันไหลครับ”
น้ำมูกสีแดงด้วยจ้า
“นายไม่สบาย?”
“ก็นิดหน่อย”
ผมแอบใช้สายตาเหล่ไปมองแล้วเห็นเพียงแค่ส่วนขาพี่มาร์คเท่านั้น
และรู้ได้เลยว่าพี่เขากำลังเดินมานั่งลงข้างๆผมด้วย โฮกกกกกกกกก
“อ๋อ เดี๋ยวนะ” หางตาผมสามารถมองเห็นได้ว่า
นอกจากพี่มาร์คจะมานั่งเฉยๆ แล้วยังมีการยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก อย่า…ได้โปรด เดี๋ยวไหลมาอีกข้างกูจะทำไงล่ะ “มีเลือดตรงจมูกนายด้วยแบมแบม!!!”
ผมหันขวับไปทางพี่มาร์คที่มีสีหน้าตกใจนิดๆ
ก่อนจะใช้มือปิดจมูกตัวเองไว้อย่างรวดเร็ว ขยับตัวถอยห่างออกมาจากพี่เขาในระยะร้อยเมตร
เห็นได้ไงวะ เอาอุดขนาดนี้แล้วอ่ะ
“ไม่มี๊ แค่น้ำมูกเฉยๆ ผมจะอาบน้ำแล้ว!” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนจัดการหาเสื้อผ้าใส่นอน หยิบผ้าขนหนู
เดินเข้าห้องน้ำปิดประตูเสียงดังปัง
กูไม่นั่งอยู่ให้น่าสงสัยหรอก
22.45
ช่วงเวลาแห่งการนอนใกล้เข้ามาเต็มที เลือดกำเดาก็ไม่ไหลแล้วด้วย
ผมจัดที่นอนบนพื้นของตัวเองให้ดีๆ กำลังจะหันไปถามพี่มาร์คว่าจะให้ปิดไฟเลยไหม
แต่พี่เขาก็เป็นฝ่ายพูดซะก่อน
“นายว่ามันแปลกไหม”
“แปลก? อะไรแปลก?”
“เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ทำไมฉันถึงต้องมาโพล่ที่ห้องนายด้วย”
คำถามของพี่มาร์ค ทำให้สมองผมหยุดทำงานไปสักพัก
แต่มันก็แปลกจริงๆอย่างที่พี่เขาพูดนะเว้ย แปลกตั้งแต่วันที่พี่เขาออกมาจากแผ่นโปสเตอร์นั้นล่ะ
ละพอพี่เขาออกมารูปก็เปลี่ยนเป็นสีขาวอีก นี่ถ้าเปลี่ยนไปเป็นกระจกนี่นึกว่ากำลังแสดงทวิภพ
ขุนหลวงมาร์คขา
“แปลกสิครับ แปลกมากด้วย
โปสเตอร์ห้องผมก็มีตั้งหลายแผ่น ทำไมพี่มาร์คถึงออกมาจากแผ่นนั้น”
โปสเตอร์ประหลาดที่กูเก็บได้ระหว่างทางกลับบ้านหลังจากไปซื้อส้มตำนี่แหละ
แมร่งโคตรเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเลย ถ้าตอนนั้นกูไม่โลภเรื่องมันคงไม่เกิดขึ้น… แต่ยังไงต้องขอบคุณความโลภนั้นจริงๆ
ไม่งั้นกูคงไม่ได้เจอพี่มาร์คหรอกกก 5555555555555555
“นายพูดว่าอะไรนะแบมแบม ฉันโพล่มาจากอะไรนะ?”
อ้าว ไม่ใช่พี่เขารู้แล้ว… นี่กูยังไม่บอกหรอ??
“ก็โปสเตอร์แผ่นนั้นไงครับ” ผมชี้นิ้วไปตรงประตูที่ยังมีโปสเตอร์แผ่นขาวๆนั้นติดอยู่
“หะ!??” พี่มาร์คลุกจากเตียง
เดินเข้าไปมองตามที่นิ้วผมชี้ “ฉันโพล่มาจากกระดาษนี่อ่ะนะ”
หน้าพี่มาร์คเหวอสุดๆ เหมือนไม่ค่อยจะเชื่อว่าตัวเองโพล่ออกมาจาที่นั้นจริงๆ
มาถึงจุดๆนี้มันยังมีอะไรน่าไม่เชื่ออีกล่ะ โพล่มาข้ามประเทศขนาดนี้ละ
“คือตอนแรกมันเป็นรูปพี่ แต่พอหลังจากที่พี่มาร์คโพล่มาห้องผม
มันก็กลายเป็นสีขาวๆแบบนั้น ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
ผมอธิบายเรื่องราวเพิ่มเติมให้ฟัง
แต่พี่มาร์คก็เอาแต่มองกระดาษนั้นไม่วางตา ทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่กับตัวเอง
“ถ้าฉันโพล่มาจากเจ้านี่ ฉันก็ต้องกลับทางนี้ได้สิ”
ห๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เอ่อออออออออออออ แมร่งจริงเว้ย โพล่มาได้
ก็ต้องกลับทางเดิมได้ดิวะ ขนาดประตูยังมีทางเข้าออกทางเดียวได้เลย ในเมื่อไม่มีเงินส่งขึ้นเครื่องกลับ
ก็ยัดเข้ากระดาษแม่งงงง ไม่ต้องเสียเงินด้วย โอ้โห ทวิภพเข้าไปอีก
ละถ้ามันกลับได้จริงๆ กูสามารถทะลุไปหาพี่มาร์คที่เกาหลีได้ป่ะ
ถ้ามันทำได้จริงๆ นี่คือแบบ…..
ดีมากอ่ะมึงงงงงงงงงงงงง !!!!!!!!!!!!!!!!!
เหมือนกับประตูมิติของโดเรม่อนที่กูอยากได้ตอนเด็กๆเลยอ่า
กรี๊ดดดดดดดดดดด
25%
“แต่มันจะทำได้จริงๆหรอครับ”
ผมมองหน้าพี่มาร์คเพราะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“อาจจะดูบ้า
แต่ลองดูหน่อยไหมล่ะ” แขนยาวค่อยๆเอื้อมไปสัมผัสแผ่นโปสเตอร์นั่นอย่างเบามือ
ผมได้แต่มองการกระทำนั้นตัวเกร็ง
หายใจไม่ทั่วท้อง ได้แต่ลุ้นว่าจะเกิดอะไรอย่างที่คิดไว้รึเปล่า ถ้าพี่มาร์คทะลุเข้าไปจริงนี่มีหลอนเลยนะครับมึง
…
อ…อ้าว
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มือที่แตะค้างอยู่ที่แผ่นโปสเตอร์
ลูบไปซ้ายทีขวาที พอไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง อิพี่มาร์คก็หันหน้ามามองผมตาปริบๆ
“ผมว่าเราควรไปนอน=_=”
สั้นและชัดเจน
ผมเดินมาล้มตัวนอนที่นอนบนพื้น
มองพี่มาร์คที่ยังคงอยู่หน้าแผ่นโปสเตอร์นั้นไม่ไปไหน แถมยังมองหน้าผมสลับกับโปสเตอร์แผ่นนั้นตาแป๋วอีก
จนในที่สุดพี่เขาคงยอมแพ้กับหนทางกลับเกาหลีโดยโพล่เข้าโปสเตอร์ไปมั้ง
เลยกลับมานอนบนเตียงซะดีๆ
ฮู่วววว ทำไมถึงรู้สึกดีแปลกๆนะ…
“ฉันก็ว่า…มันงมงายเกินไปจริงๆ”
พี่มาร์คทำเสียงเหมือนจะร้องไห้เป็นเด็กๆ
ดึงผ้าห่มปลายเตียงมาคลุมตั้งแต่หัวยันเท้ามิดชิดสุดๆ นี่มันประเทศไทยนะ
แล้วเดี๋ยวจะได้รู้โทษของการคลุมโปงนี่เมืองร้อนเช่นนี้
ข้าคนนี้เคยมีประสบการณ์มาแล้ว
“นายเปิดแอร์ยังแบมแบม
ทำไมมันร้อนจัง”
น่านนนนนนนนนนนไง ผ่านไปไม่เท่าไหร่
พี่มาร์คก็โพล่หน้ามาจากผ้าห่มที่คลุมโปงใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเล็กๆ
แถมยังเอาผ้าห่มนั้นไปวางไปตรงปลายเตียงอีก แสดงว่าร้อนจริงไรจริงนะเนี่ย
เสร็จแล้วพี่มาร์คก็นอนกอดอกหันหน้ามาทางผม แล้วมองด้วยสายตายิ้มๆ
ทำเอาไอ่คนที่ถูกมองจะเป็นบ้าละเว้ยยย
“ฝันดี”
ตึกตัก ตึกตัก
บอกฝันดีขนาดนี้ กูจะฝันดียันชาติหน้าเลยจ้า
เจ้าของประโยค ฝันดี นอนหลับตาพริ้ม
ส่วนผมยังคงนอนกอดหมอนข้างนิ่งเป็นหินเพียงเพราะประโยคฝันดีสั้นๆเพียงประโยคเดียว
ทำไมนะ….ทำไมถึงชอบทำให้หลงขนาดนี้
ฮือออ ตั้งแต่โพล่มาอยู่นี่ ทำเสน่ห์ใส่ผมไปกี่รอบแล้วล่ะ
แต่ไม่ต้องทำกูก็หลงหัวปักหัวปำแล้วป่ะ ตั้งแต่ถอดเสื้อโชว์กลางห้องยันเปิดประตูห้องน้ำแล้วท่อนบนเปลือยเปล่าอีก
จบงานนี้คงได้ไปวัดความดันกันละวะ แม่เจ้า T///T
เช้าวันนี้พวกเราพากันตื่นสายเกือบสิบเอ็ดโมง
แต่ที่ผมตื่นสายแบบนี้ก็ต้องโทษพี่มาร์คนู่นเว้ย!!! มาบอกฝันดงฝันดี
ทำเอากูนอนตาค้านอนยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว กว่าจะข่มตาหลับได้ตั้งตีสอง… แต่นอกจากนอนยิ้มผมยังได้ทำคุณประโยชน์อย่างอื่นอีกด้วย คึคึ
รูปถ่ายไอดอลชื่อดังนายมาร์คต้วนขณะนอนหลับ
ที่ไม่สามารถหาซื้อได้นอกจากส่งข้อความมาหาแบมแบมคนนี้ รับฟรี ไม่คิดว่าบริการ -////-
พูดแล้วก็เขิน เมื่อคืนถ่ายไปเกือบร้อยรูปแหนะ แถมยังมีรูปคู่กับพี่มาร์คตอนหลับด้วยแหละ งืออออออออ เขิน รูปคู่บนเตียงนี่ถ้าลงทวีตไปคงโดนถล่มน่าดู แต่เป็นคนดีไง ถ่ายเองก็เก็บไว้ฟินเอง จะหาเรื่องใส่ตัวเองทำไมเล่า
และการที่ตื่นสายวันนี้ทำให้ท้องส่งเสียงครวญครางอย่างสนุกสนาน
พอผมกับพี่มาร์คลงมาดูของกินในห้องครัวชั้นล่าง กลับมีเพียงหมูปิ้งห้าไม้เท่านั้น
ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความหิวของคนสองคนได้
“เดี๋ยวผมหาก่อนนะว่ามีไรให้กินอีกบ้าง”
เดินไปเปิดตู้เย็นก็มีกล่องซีเรียล
นมรสจืด สตอเบอรรี่ ช็อกโกแลต นมเปรี้ยว อะไรก็ว่าไป
พวกขนมกรุบกรอบที่ผมชอบซื้อมาตุ๋นไว้ตอนหิว และไข่….ที่เหลืออยู่ไม่กี่ฟอง
“แบมแบม
ฉันกินกล้วยได้ไหม” เสียงพี่มาร์คดังขึ้น ผมขานตอบแต่ไม่ได้หันไปมอง
“ได้ครับ ในตู้มันมีซีเรียล
นม ไข่ พี่มาร์คจะกินอันไหนอะ ซีเรียลไหม?”
หันไปถามพี่มาร์คซึ่งกำลังเอร็ดอร่อยกับการกินกล้วย
เจ้าตัวเดินมาหาผมที่ตู้เย็นหยุดอยู่ข้างๆ แล้วทำการสอดส่องของกินในตู้เย็นสักพักก่อนจะเงยหน้านิ่งขึ้นมองผม
ปากก็กัดกล้วยในมือเคี้ยวง่ำๆไปด้วย
“ฉัน
ฉันอยากกินไข่นาย”
“ห๊ะ!?”
นี่กูไม่ได้ฟังหรือแปลอะไรผิดใช่ป่ะ…?
ไข่ผม…ไม่นะ (.////.)
“ไข่…ที่นายทำวันนั้นอ่ะ”
“อ๋อออออออออ
แต่ถ้ากินอันนั้น ต้องกินกับข้าวอันนี้นะ ข้าวอันนี้ต้องกินด้วยมือ” ปิดตู้เย็นเดินไปหยิบถุงข้าวเหนียวข้างถุงหมูปิ้งบนโต๊ะชูให้พี่มาร์คดู
“ผมหุงข้าวให้ดีกว่าเนาะ?”
รูปหล่อพ่อรวยอย่างพี่มาร์คคงกินข้าวเหนียวไม่เป็นหรอก
หรือไม่พี่เขาอาจจะไม่ถนัดกินอะไรแบบนี้แน่นอนอ่ะ อีกอย่างวันนี้แม่ก็ไม่ได้หุงข้าวไว้ด้วย
เพราะเมื่อกี้ไปเปิดหม้อดูละ ไม่มีแม้แต่ข้าวเม็ดเดียว
“ไม่ต้อง แล้วถังขยะอยู่ไหนอ่ะแบมแบม”
โอ้วววววววว
ผมแอบอึ่งเบาๆเหมือนกันนะเนี่ย
นางสบายๆกับชีวิตมากอ่ะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพี่เขาพึ่งถามหาถังขยะ เลยชี้ถังขยะใบเล็กข้างตู้เย็นให้ดู
พี่มาร์คเห็นที่ชี้ก็เอาเปลือกกล้วยที่กินเสร็จแล้วทิ้งลงในถังนั้น
“ทำเลยไหม ฉันหิวแล้ว”
เมื่อพี่มาร์คขอมาแบมก็จัดให้!
ผมหยิบถ้วยที่ควบไว้ออกมาพร้อมซ้อม
เปิดตู้เย็นหยิบไข่ไก่สองฟอง จัดการตอกๆไข่ให้แตกแล้วใส่ในถ้วย เติมด้วยรสดี ซีอิ๊วขาว
พริกไทยหน่อยๆ สูตรเฉพาะของแบมแบมเลยนะจะบอกให้ เอาไปทำได้ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์
แล้วก็เอาซ้อมตีๆไข่ในถ้วยให้แตก ส่วนผสมจะได้เข้ากัน
แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเตรียมพร้อมลงกระทะ
“ฉันอยากทำ ขอทำหน่อย”
ระหว่างที่ผมเตรียมกระทะ
กำลังจะเทน้ำมันลงไปนั้นเองพี่มาร์คก็เสนอจะทำไข่ทอดเอง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เทน้ำมันเสร็จก็หลีกทางส่งทัพพีให้พี่มาร์คกลายร่างเป็นเชฟแทน
“รอให้มันร้อนก่อนค่อยเทลงไปนะครับ”
สายตาพี่มาร์คจ้องเขม็งรอให้น้ำมันในกระทะร้อนแทบไม่ละสายตา
จนสักพักก็หันมาถามผมอีกรอบพร้อมกับชี้นิ้วไปที่กระทะให้ดู
“เทได้ยัง”
“อ่าๆ
เทให้เป็นแผ่นบานๆนะครับ” ชะเง้อดูในกระทะเมื่อเห็นว่าน้ำมันเริ่มร้อนแล้ว
ก็ส่งถ้วยใส่ไข่ที่ตอกไว้แล้วให้พี่มาร์คเทลงในกระทะ และอธิบายขั้นตอนให้ฟังด้วย
รู้สึกหล่อและฉลาดขึ้นแหะ
โอ้วววววววววว 5555555555555
พี่มาร์คทำตามที่ผมบอกอย่างดี
ก็ครูสอนดีไงเล่า หุหุ
ติ๊งต่อง
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้ผมแปลกใจว่าใครมา
แต่ขออย่างเดียวอย่าเป็นพี่ยองแจเลย ไม่งั้นความลับได้เปิดแน่ แต่คงไม่ใช่หรอก
ถ้าเป็นพี่ยองแจรายนั้นจะต้องแหกปากตะโกนเรียกอ่ะ ผมแอบซุ้มดูข้างนอกจากในบ้าน
พอดูๆไปแล้วเหมือนที่มากดกริ่งจะเป็นพี่แจ็คสันนะ ก่อนจะออกไปก็ไม่ลืมบอกวิธีทอดไข่ให้พี่มาร์คฟัง
ไม่งั้นได้กินไข่เกรียมด้านเดียวแน่ๆ
“รอให้อีกด้านสุกก็พลิกเลยนะครับ”
พี่มาร์คพยักหน้ารับ
พอเดินออกมาหน้าบ้านบุคคลที่กดกริ่งก็คือพี่แจ็คสันจริงๆด้วย
วันนี้พี่เขาแต่งตัวดูเซอๆ ทรงผมก็ดูเหมือนจะไม่ได้เซต เสื้อยืดคอวีสีดำ
กับกางเกงยีนส์ขาดๆ และรองเท้าแตะคีบ ซึ่งผิดจากตอนนั้นที่มาซะมาดหล่อเนียบ
“อ้าว พี่มีอะไรเปล่า”
ยกมือขวาขึ้นบังแสงแดดที่สาดเข้าตาเต็มๆ
"แบม
พี่ขอเฟสหน่อย เบอร์โทรด้วย"
หืมมมมมมมมมม จะจีบเค้าป่ะเนี่ย
"เอาไปทำไมอ่ะ"
"ก็จะได้ติดต่อกันได้ไง
นี่อ่ะ" พี่แจ็คสันยื่นโทรศัพท์ราคาแพงข้ามรั้วให้ผม ยื่นมือรับไว้อย่างดี
"อ่อ
ครับๆ"
"แล้วมีของยองแจป่ะ?"
“มีๆ” ปากตอบแต่มือยังคงยุ่งกับการเมมเบอร์และหาเฟสตัวเองให้พี่เขาอยู่
“ใส่ของยองแจมาด้วยนะ”
“ผมจำได้แค่ชื่อเฟสอ่ะพี่
เบอร์ลองถามพี่ยองแจเองละกัน” ส่งโทรศัพท์คืนให้พี่แจ็คสันหลังจากใส่เบอร์และเฟสอะไรให้เรียบร้อยแล้ว
“โอเค เรื่องร้านไว้พี่จะทักมาบอกนะ”
“ครับพี่”
พี่แจ็คสันยิ้มให้ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าบ้านตัวเอง
ส่วนผมก็เดินเข้าบ้านเห็นแผ่นหลังกว้างพี่มาร์คก้มหน้าก้มตาทำอะไรอยู่หน้าอ่างล้างจาน
แล้วพอเดินเข้าไปดูใกล้ปรากฏว่าคนหล่อกำลังล้างกระทะกับทัพพีให้อยู่จ้า
พ่อของลูกมากเลยอ่ะ งื้อออ ล้างกระทะให้ด้วย
ทั้งที่ผมไม่ได้ขอให้ล้างเลย โอยยยย คนอย่างพี่มาร์คนี่หาได้จากที่ไหนอีกไหมเนี่ย -////-
ผมเดินไปอยู่ข้างๆ
กำลังจะอ้าปากบอกพี่มาร์คว่าไม่ต้องล้างแล้ว แต่พี่เขาก็ดันพูดขึ้นซะก่อน
“ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นใครน่ะ”
อะไรเนี่ย
เมื่อกี้แอบไปดูผมคุยมาหยออออออออ
“ก็คนบ้านตรงข้ามนี่ไงครับ
คนที่จะให้เราทำงานอ่ะ พี่เขาชื่อแจ็คสัน”
ได้คำตอบแล้วพี่มาร์คก็ไม่พูดอะไรต่อ
เก็บกระทะทัพพีที่ล้างเสร็จแล้วส่งให้ผมเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย แขนยาวเอื้อมไปหยิบจานไข่ทอดให้ผมช่วยดูฝีมือ
“ใช้ได้ไหม”
เอาตรงๆนะ
ตอนผมทอดไข่ครั้งแรกนี่เกือบไหม้ ไข่ที่เป็นสีเหลืองกลายเป็นสีดำอย่างน่าอัศจรรย์
แต่พี่มาร์คนี่คือเหมือนทำไข่ทอดมาแล้วทั้งชีวิตอ่ะ
ทั้งทีพึ่งทำครั้งแรกมันก็ดีกว่าผมเยอะเลย
“ดีมากเลยครับ”
“จริงอ่ะ?” พี่มาร์คยิ้มร่าทันทีหลังจากได้ยินคำชม แต่เจ้าตัวก็ยังถามผมอีกรอบ
เลยพยักหน้ายิ้มๆให้
“ตอนนี้เราก็ไม่ต้องหลบในห้องแล้วล่ะ
สบายๆเลย” เดินไปหยิบถุงหมูปิ้งกับข้ามเหนียวไปกินบนโต๊ะทานข้าว
ก่อนจะถามพี่มาร์คที่นั่งตรงหน้าผม
“แล้วยังจำคำที่ผมสอนได้อยู่ไหม”
“สาหวัดดีคับ
คบคุณคับ อ่า…” สายตาอ้าปากมองบน เพราะนางลืม “โผมซื่อมัคคึ ผมรักคุณ”
แหม ประโยคสุดท้ายนี่ชัดจังนะ แอบเขินจุง
-///-
“อย่าลืมนะว่าพี่ต้องเป็นเพื่อนผม”
ส่งไม้หมูปิ้งให้พี่มาร์ค “เอาไหมครับ?” คนตรงหน้ารับไม้หมูปิ้งไปแล้วมองดูอย่างงงๆ
“คืออะไร”
“คือหมู…”
หมูไรวะ คิดเป็นภาษาเกาหลีไม่ออก อังกฤษก็ตัน
หมูปิ้งในภาษาเกาหลีเขาเรียกว่าไงอะ เรียกหมูปิ้งตามบ้านเราหรอ? ไม่ดิๆ โอยยย
อย่างนี่ต้องพึ่งพี่กูเกิลทรานสเลท…!!!
หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา
เข้ากูเกิลแปลภาษาคำว่าหมูปิ้งจากไทยเป็นอังกฤษ แล้วหันหน้าจอให้พี่มาร์คอ่าน
“Grilled pork?”
สำเนียงอินเตอร์แท้และถูกต้องตามฉบับ ออกจากปากพี่มาร์ค
เอ่อ ใช่ไม่ใช่ก็ไม่รู้ละ
ไอ่พอกๆนั้นอ่ะ ตรงภาษาไทยมันแปลว่าหมูย่างอะ ดูไฮคลาสขึ้นมาหน่อย
แต่ถ้าจะไทยแท้ต้องเป็นหมูปิ้งนะโวยยย
“นั้นแหละครับ อร่อยนะ”
ผมนี่เชิญชวนให้พี่มาร์คกินเต็มที่เลยครับ
“ภาษาไทยเรียกว่าไง”
“หมูปิ้ง” ให้เสียงภาษาไทยโดยแบมแบม กันพิมุกต์
“หูพิ้ง”
ใครจะเอาหูไปปิ้ง -__- ผมเลยออกเสียงให้พี่มาร์คฟังอีกรอบ
“หมูปิ้ง”
“หมูปิ้ง!”
โอเค ออกเสียงชัดอลังการงานสร้างมาก
เดี๋ยวหมูปิ้งลุงอินทร์คงได้ดังไปถึงเกาหลีแน่ๆ
แกทำอร่อยนะ ผมชอบให้แม่ซื้อหมูปิ้งลุงอินทร์ตลอดตอนไปตลาด
แต่บางทีแม่ก็คงเห็นผมชอบมากเกินไป เคยซื้อหมูปิ้งมาให้กินห้าวันติดก็มี… กินจนเอียน
จะอ้วนเป็นหมูละตอนนั้นอ่ะ
“ข้าวมันจะเหนียวๆหน่อยนะครับ
เอามือหยิบเลย”
ผมสาธิตและอธิบายวิธีกินข้าวเหนียวให้คนหล่อฟัง
หน้าพี่มาร์คได้ยินแล้วมันดูซึนๆมึนๆนิดหน่อย ไหวรึเปล่าก็ไม่รู้นะกับการกินข้าวเหนียวเนี๊ย
รู้งี้หุงข้าวให้แต่แรกก็จบปิ้ง
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง กับไข่ทอด โอ้โห
มื้อนี้พี่มาร์คโคตรซึบซับความเป็นไทยเลยว่ะ อีกหน่อยตำแหน่งเขยไทยคงตกเป็นของพี่มาร์คอ่ะนะ
เรื่องอะไรแบบนี้ไว้ใจแบมได้เลย 555555555555555
Happy New Year ทุกคนนนนนน!!!!!!!!! ยุหู้วววววว ปีใหม่แล้ว มีความสุขกันมากๆนะค่ะ
คิดอะไรขอให้สมหวัง คิดอยากได้พี่มัคก็ให้ได้สมใจนะ 555555555555
#พี่มาร์คออกมาจากโปสเตอร์
แกบอกขอหล่อสักตอน....ตอนนี้ตอนเดียวนะ ตอนอื่นก็....
ความคิดเห็น