คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : แฟรี่ภูตตัวน้อย -9- 100%
-9-
คืนนั้นหลังจากที่แบมโบล่ากลับมายังโลกแฟรี่แล้วได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดบางอย่างขึ้น
ทั้งๆที่มันจบแล้ว ทำไมตอนนี้เธอยังคงเห็นมันอยู่…
ความฝันนั้น…มันกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่มันได้หายไป…
แปลก…แปลกมากจริงๆ
ช่วงที่เธออยู่กับมาร์ค ช่วงนั้นความฝันนั้นก็ไม่ปรากฏให้เธอเห็นอีกเลย จนเธอคิดว่าสิ่งที่เลือกทำนั้นถูกต้องแล้ว แต่หลังจากที่เธอกลับมายังโลกแฟรี่ กลางดึกนั้นเองเธอก็ฝันเห็นความฝันนั้นอีกครั้ง…
มันคืออะไรกันแน่…?
แบมโบล่าคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นและความฝันนั้นทั้งวัน จนในที่สุดเธอก็เข้าใจทุกอย่างทั้งหมด…
เธอคิดมาตลอดว่าทุกอย่างมันจบแล้ว…แต่แท้จริงแล้ว มัน ยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนที่เธอกลับมา จึงเห็นความฝันนั้นอีก…เธออยากกลับไปช่วยเขาอีกครั้ง…แต่มันคงเป็นไปไม่ได้…
ตั้งแต่กลับมาจากโลกมนุษย์ครั้งนี้แบมโบล่าเปลี่ยนไปมากจนองค์ราชินีแปลกใจ ชอบอยู่คนเดียวบ่อยๆ ไม่ค่อยออกไปเที่ยวเล่นเหมือนแต่ก่อน ใครพูดด้วยก็ตอบเพียงแค่ไม่กี่คำ ชอบนั่งเหม่อลอยเหมือนกำลังคิดเรื่องอะไรบางอย่าง
องค์ราชินีเฝ้ามองลูกสาวของตัวเองอยู่แบบห่างๆ…เธอมองออกว่าลูกตัวเองกำลังเป็นอะไรและต้องการอะไร
ไม่มีแม่ที่ไหนไม่อยากให้ลูกตัวเองมี ความสุข ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ อมนุษย์ หรือสัตว์ทั้งหลาย
‘แบมโบล่าลูกอยากไปโลกมนุษย์ใช่ไหม แม่จะไม่ว่าจะไม่ห้ามและจะไม่ขัดขวางอะไรลูกทั้งสิ้น เพราะแม่อนุญาตให้ลูกไปได้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป’
‘ทะ…ท่านแม่’
‘แม่พยายามฝืนมันมาตลอด แต่ตอนนี้แม่คงทำอะไรไม่ได้แล้วละ ต่อนี้ไปตัวลูกต้องกำหนดเอง เพราะชะตาของลูกกับผู้ชายคนนั้นถูกลิขิตขึ้นมาร่วมกัน’
‘…?’
‘ไม่ว่าลูกจะเห็นอนาคตเลวร้ายสักแค่ไหน แต่จำไว้ว่าก่อนจะมีอนาคตเราต้องมีปัจจุบัน เพราะปัจจุบันย่อมส่งผลต่ออนาคต ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ขึ้นอยู่กับปัจจุบันเป็นตัวลิขิตทั้งสิ้น
‘…’
‘เพราะฉะนั้นก็รีบไปช่วยเขาก่อนที่จะหมดโอกาส เพราะพระเจ้าได้มอบโอกาสที่ยิ่งใหญ่ให้กับลูกแล้ว…อีกไม่กี่วันก็จะพระจันทร์เต็มดวงแล้ว ถ้าลูกอยู่โลกมนุษย์ก็ระวังหน่อยละกัน’
คืนวันพระจันทร์เต็มดวง…
แบมโบล่าตัดสินใจมายังโลกมนุษย์อีกครั้ง เธอเข้ามาโดยวิธีเดิม กดกริ่งหน้าห้องแล้วบินเข้ามาอย่างชิวๆ เธอมาอยู่ที่นี้ได้เกือบห้าวันแล้ว หรืออาจจะเป็นคืนสุดท้ายที่เธอได้อยู่ที่นี้ เพราะเธอลืมไปว่าคืนนี้เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง และปีกของเธอก็จะเรืองแสง จนมนุษย์สามารถมองเห็นได้
และมนุษย์ผู้โชคดีคนนั้นได้ค้นพบสิ่งที่มหัศจรรย์เข้าแล้ว…
“มาร์ค!!!”แบมโบล่าตะโกนร้องออกมาอย่างตกใจ มาร์คยืนนิ่งเป็นรูปปั้นมองมาทางเธออย่างสับสัน
มาไม่กี่วันความก็แตกซะละ…
“วันนี้พระจันทร์เต็มดวงนี่ จริงด้วยๆ! อา ทำไงดีเนี่ยT^T”เธอใช้กำปั้นเขกหัวตัวเองสองสามที
“เธอ…เป็นใครกันแน่!”มาร์คพยายามใช้น้ำเสียงให้ดูปกติที่สุด ทั้งที่ในใจของเขากำลังเต้นรัวเพราะความตกใจ อย่างคาดไม่ถึง
“เออ…ฉัน…ก็ไม่ใช่มนุษย์อย่างที่นายเห็นนั้นแหละ(. .)”
เวลานี้…เธอไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไรอีกต่อไป เพราะเขาเห็นทุกอย่างหมดแล้ว
“เธอไม่ใช่มนุษย์!?”คิ้วของเขาเริ่มขมวดกันเป็นปม
“อย่างที่นายเห็น สิ่งที่อยู่ข้างหลังฉัน” เธอหันปีกให้เขาดูและหันกลับมาพูดต่อ “ฉันมีปีก ฉันคือ แฟรี่ หรือนางฟ้า”
“แฟรี่?”คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันยิ่งกว่าเดิมจนแทบจะผูกเป็นโบว์อันสวยงาม
“ช่ายย คล้ายๆการ์ตูนที่เด็กผู้หญิงชอบดูกันหน่ะ”เหมือนเขาพึ่งคิดได้ว่า การ์ตูนที่แบมโบล่าหมายถึงนั้นคือ บาร์บี้ อะไรทำนองนั้นงั้นหรอ? ดูคุ้นๆเหมือนเขาเคยนั่งดูกับลอเรนคราวที่แล้วเลยนะ…
“ว่าไงนะ…เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่แค่นิทานหรือตำนานที่เล่าต่อๆกันมาหรอกหรอ?”
“แล้วสิ่งที่นายเห็นตอนนี้ นายยังคิดว่ามันเป็นแค่ตำนานอีกงั้นหรอมาร์ค^^”
“…” เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “ละ…แล้ว แบมโบล่าเข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง แล้วทำไมถึงมาที่นี้ ต้องการอะไร หรือว่าจะมาทำร้ายผม เพื่อไปบูชายัญอย่างนั้นหรอ!”เขารัวคำถามใส่เธอไม่หยุด แต่ประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยินนี่….แทบจะปรี๊ดแตก!
“เหอะ! นี่นายไปอ่านอะไรมา บูชายัญอะไรกัน พวกแฟรี่ไม่ได้มีวิธีป่าเถื่อนแบบนั้นสักหน่อย แล้วนี่ทำไมถึงมองฉันใจร้ายแบบนั้นละ ที่ผ่านมาฉันไปทำร้ายนายตอนไหนไม่ทราบย่ะ ชิ - -^”อารมณ์ของเธอตอนนี้กำลังดุเดือดและพลุ่งพล่านสุดๆ
นั้นสิ…ล่าสุดเธอพึ่งช่วยเขาจากอุบัติเหตุนี่หน่า
“แล้วถ้าไม่ใช่แบบนั้นก็ตอบคำถามทั้งหมดที่ผมไปเมื่อกี้สิ เฮ้ยย!!!O[]O”
มาร์คชี้มือไปที่ปีกของแบมโบล่า จู่ๆมันก็ค่อยเลือนหายไปที่ละนิดจนปีกสีรุ้งที่เขาเห็นเมื่อกี้ ได้หายไป เหลือเพียงแค่ตัวของแบมโบล่าที่ดูเหมือนมนุษย์ปกติทุกอย่าง!!
“อา สงสัยเลยเที่ยงคืนมาแล้วแน่เลย ไม่ต้องตกใจหรอก ตอนนี้ฉันดูเหมือนมนุษย์แล้วนะ-*-”แบมโบล่ายกมือขึ้นมากอดอก
“แต่ผมก็ยังตกใจอยู่นะ แล้วมันหายไปไหนอะ - -“ ”สิ่งที่มาร์คเห็นเมื่อกี้ทำให้เขาเหงื่อตกกันเลยทีเดียว เกิดมาพึ่งเจออะไรแบบนี้ แม่เจ้า!!
“ก็วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง ปีกของแฟรี่ก็เรืองแสงวิ้งๆเหมือนที่นายเห็น มนุษย์จะมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อหลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงเที่ยงคืน พอเลยหลังเที่ยงคืนไปปุ๊บก็เหมือนกับขึ้นวันใหม่ มนุษย์ก็จะไม่สามารถมองเห็นปีกอันสวยงามพวกนี้ได้ เพราะเราซ่อนมันไว้จากสายตาของมนุษย์ ยกเว้นซะแต่ว่า…”เธอหยุดพูดไปแล้วทำอะไรบางอย่าง
ปีกที่อยู่ข้างหลังของแบมโบล่าค่อยๆปรากฏให้คนตรงหน้าเห็นอีกครั้ง มันไม่ได้เรืองแสงวิบวับมันก่อนหน้านี้ แต่ถึงอย่างนั้นปีกสีรุ้งนี้ก็สวยมากอยู่ดี
“O_O!!!!!!!!”
“ตั้งใจที่จะให้เห็นแบบนี้^O^”เธอหัวเราะคิกคักกับการแกล้งเขาเล่นๆ เป็นนิสัยของแฟรี่ที่มักจะชอบแกล้งเล่นและซุกซนไปทั่ว
“ผมไม่ได้อยากเห็นซะหน่อย ซ่อนมันไว้เหมือนเดิมเถอะT^T”เขาอยากเป็นลมลงตรงนี้ซะจริงๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้ขาเขาอ่อนระโทยไปหมด
“ก็ได้ ถ้าฉันไม่ทำอย่างนั้นนายคงไม่ยอมเข้าใกล้ฉันแน่ๆ”พูดจบปีกของเธอก็ค่อยๆเลือนหายไปในอากาศ ทำให้เขารู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย
“แล้วแบมโบล่าจะเล่าให้ผมฟังได้หรือยัง?”
“นายมานั่งตรงนี้ได้ไหม พอดีฉันไม่อยากพูดเสียงดัง-*-”เธอชี้ไปที่โซฟาข้างๆเธอ
มาร์คนั่งอยู่บนโซฟาซึ่งเขานั่งอยู่ห่างจากแบมโบล่าพอสมควร เพราะเขายังกลัวอยู่นิดๆ(?) เรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้เขาไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่พอเจอจริงๆมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน…
“ฉันมาเพื่อช่วยนาย”
“ช่วยผม?”
“นายอาจจะไม่เชื่อนะ แต่นายต้องเชื่อ คือฉัน (#$^*)+*&!$#$^&*&^#!)_”
แบมโบล่าเล่าเรื่องทุกอย่างให้มาร์คฟังอย่างหมดเปลือง แต่เธอไม่ได้บอกว่าเขากำลังจะเจอกับอะไร เพียงแค่บอกว่าเขาจะเจอกับเรื่องร้ายแรงบางอย่าง และดูเหมือนมาร์คจะเป็นผู้ฟังที่ดี เขาแทบไม่พูดหรือถามคำถามอะไรขึ้นมาระหว่างที่เธอพูดเลย จนไม่นานเธอก็เล่าทุกอย่างจบ! เนื้อเรื่องอาจมีการดัดแปลงบ้างนิดหน่อยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่า -..-
สิ่งที่มาร์คสงสัยได้ถูกคลี่คลาย เขาคิดว่าคงเจอกับอะไรเข้าให้แล้ว ที่ไหนได้กลับเป็นแบมโบล่าที่กดกริ่งหน้าห้องแล้วแอบเข้ามาในร่างภูตจิ๋ว เขาเลยไม่เห็นว่าเป็นเธอและนึกไม่ถึงด้วย
“ตอนนี้นายรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว นายคงกลัวฉันมากแน่ๆ และนายก็คงไม่สบายใจแน่ๆถ้าฉันอยู่ที่นี้ต่อ เพื่อความสบายใจของนายฉันจะไปก็ได้ พอนายตื่นมาก็คิดซะว่า…มันคือฝันร้าย แค่ฝันร้ายของคืนนี้เท่านั้น…”
แบมโบล่าทำท่าจะลุกขึ้นจะเดินออกจากห้องนี้ไป แต่! ถึงเธอจะออกไปแล้วเธอก็จะกลับมาใหม่ในร่างภูตจิ๋ว เธอไม่มีทางปล่อยให้ความฝันร้ายๆนั้นเป็นจริงหรอก เชอะๆ ฉลาดจริงๆนะเราแถมสวยอีกด้วย>.,<
“ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยนะว่ารู้สึกยังไง”มาร์คพูดขึ้นมา นั้นทำให้อีกฝ่ายถึงกับชะงักไป
“หะ อะไรนะ เออ…นายก็ต้องกลัว แล้วก็ไม่สบายใจอยู่แล้วนี่ นายก็รู้ว่าฉันเป็นใคร”แบมโบล่าพูดตะกุกตะกัก เธอก็แค่เดาความรู้สึกไปในความน่าจะเป็นเท่านั้นเอง
“ไหนบอกว่ามาเพื่อช่วยผมไม่ใช่หรอ”
“…?”
“แล้วทำไมถึงจะไปดื้อๆแบบนี้ละ จะไม่อยู่ช่วยผมต่อแล้วหรอ”
“…”
“ผมยินดีแล้วก็สบายใจนะถ้าแบมโบล่าจะอยู่ช่วยผมต่อ ที่ผมเมาอยู่คลับแบมโบล่าก็ช่วยพาผมกลับมา แถมตอนจะถูกรถชนอีก เพราะฉะนั้นอยู่ ช่วย ผมต่อนะ แบมโบล่าก็ต้องการอย่างนั้นไม่ใช่หรอ?”
“O_O///”
ถึงมาร์คจะพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจของเธอถึงเต้นแรงแบบนี้…
แบมโบล่าไม่ได้หูฝาดไปเองกับสิ่งที่มาร์คพูดออกมา เขาไม่ได้กลัวและไล่เธอออกไปอย่างที่คิด กลับกันเขายังให้เธออยู่ต่อเพื่อช่วยเขาอีกด้วย นี่มันน่าดีใจซะยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่ซะอีก!!
เธอนั่งดีใจอยู่บนโซฟาอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายรอบตัวมีเพียงแค่แสงไฟสลัวๆ พอมาร์คพูดจบจู่ๆเขาก็เดินกลับเข้าห้องไป ทิ้งให้เธอต้องนั่งรีเซตคำพูดของเขาหลายรอบ พอจะเดินเข้าไปถามในห้องก็ไม่กล้า-..-
ตำนานแฟรี่
ไม่นานบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ปรากฏข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับแฟรี่ขึ้นมา มาร์คใช้นิ้วกดเข้าไปในเว็บแรก แล้วค่อยๆไล่สายตาอ่านข้อความในหน้าจอ
‘แฟรี่มีลักษณะรูปร่างที่คล้ายมนุษย์ มีปีกเหมือนผีเสื้อ มีสัดส่วนและรูปร่างหน้าตางดงามกว่ามนุษย์ สามารถแปลงกายให้มีขนาดเท่ากับมนุษย์หรือเล็กจิ๋วก็ได้ มีนิสัยที่ซุกซน ร่าเริงและเป็นมิตร แต่บางตำนานนั้นบอกว่าแฟรี่โหดเหี้ยม ผู้ที่ปกครองและเป็นหัวหน้าใหญ่ของเหล่าแฟรี่ คือ ราชาหรือราชินีแฟรี่ มีรูปร่างงดงามกว่าแฟรี่ทั่วไปมาก คอยดูแลดินแดนของตนเองไม่ให้ถูกมนุษย์ลุกล้ำและมีอำนาจมากในการปกครอง แฟรี่มีเวทมนต์และพลังเหนือธรรมชาติ สามารถอวยพรหรือมอบความโชคร้ายให้ได้หากใครมาดูถูกพวกเขา แต่เวทมนต์ที่สำคัญหากแฟรี่ออกมาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์นั้นก็คือ การกำบังปีกของตัวเองจากสายตาของมนุษย์…’
พออ่านมาถึงบรรทัดสุดท้ายเขาก็ถึงกับชะงักไป ภาพปีกสีรุ้งของแบมโบล่าลอยเข้ามาในหัว เขาส่ายหน้าสลัดภาพนั้นให้ออกไป แล้วกลับไปสนใจข้อมูลบนหน้าจอโทรศัพท์ต่อ
‘แฟรี่มักอาศัยอยู่ในป่าลึก บางครั้งราชาหรือราชินีแฟรี่จะสร้างมิติขึ้นมาเอง ซึ่งจะอยู่แทรกมิติของโลกมนุษย์ แฟรี่นั้นจะไม่มีวัยชราและมีอายุยาวนานกว่ามนุษย์ แท้จริงแล้วแฟรี่คือเทพหรืออาจมีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้า และแฟรี่เป็นดวงวิญญาณที่กำเนิดแต่ธรรมชาติ จนกลายเป็นเผ่าพันธุ์เหนือธรรมชาติเผ่าพันธุ์หนึ่ง’
“นี่มันอะไรกันแน่? เรื่องจริงงั้นหรอ?”เมื่อมาร์คอ่านจบ เขาก็ล้มตัวนอนหงายลงบนเตียง แล้วตั้งคำถามกับตัวเองกับเรื่องทั้งหมด พลางนึกไปถึงคำที่เขาพูดออกไปก่อนหน้านี้
“ผมยินดีแล้วก็สบายใจนะถ้าแบมโบล่าจะอยู่ช่วยผมต่อ ที่ผมเมาอยู่คลับแบมโบล่าก็ช่วยพา ผมกลับมา แถมตอนจะถูกรถชนอีก เพราะฉะนั้นอยู่ ช่วย ผมต่อนะ แบมโบล่าก็ต้องการอย่าง นั้นไม่ใช่หรอ?”
เขาไม่ได้ฝันไปหรือกำลังละเมออยู่…สิ่งที่เขาพูดออกไป เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดออกไปแบบนั้น…แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังสับสนกับตัวเองเหมือนกัน…
“แฟรี่…แบมโบล่า…”เขามองไปยังประตูห้องที่ปิดสนิท เขาอยากเปิดมันออกไปเห็นอีกครั้ง ว่าเรื่องเมื่อกี้มันคือความฝันจริงๆหรือเปล่า แล้วถ้ามันไม่ใช่ความฝันละ…จะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่านะที่เขาได้เห็นสิ่งที่มหัศจรรย์แบบนี้…
8.45 น.
แบมโบล่าค่อยๆแง้มประตูห้องนอนที่ปิดสนิทออกแล้วค่อยๆย่องเข้ามา เจ้าของห้องยังคงนอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้นต่จากนี้… เธอมองไปรอบๆห้องเมื่อสายตาเห็นสิ่งที่ต้องการแล้วก็ค่อยๆย่องเท้าเข้าไปยังโต๊ะที่อยู่หัวเตียง ซึ่งมี โทรศัพท์ และกระเป๋าตังค์ของเขาวางอยู่ เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าตังค์สีดำขึ้นมา ค่อยเปิดมันออก หยิบแบงค์ที่อยู่ในกระเป๋านั้นออกมาสองสามใบ ก่อนจะวางมันลงที่เดิม ไม่ลืมที่จะเปะกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กๆที่เธอนั่งเขียนมาก่อนหน้านี้ลงไป จนทุกอย่างเรียบร้อยเธอย่องออกจากห้องนี้ไปอย่างเงียบๆ
9.20 น.
มาร์คเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากห้อง ถึงแม้ว่าจะล้างหน้าล้างตาแล้วแต่มันไม่ทำให้ความง่วงของเขาหายไปเลย
‘กลิ่นอะไรหน่ะ’
กลิ่นหอมชวนน่ากินทำให้เขาต้องเงยหน้าให้มา แล้วความง่วงของเขาก็หายไปทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“…!!!” มาร์ครีบถอยกลู่ไปด้านหลังสองสามก้าว “แบมโบล่า!!”
ทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน…ทุกอย่างคือเรื่องจริง…เพราะเธอกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขาเอง…
“โอ๊ะ! นายตื่นแล้วหรอ รอแปบหนึ่งนะ นั่งก่อนสิ”เธอเหลียวมามองเขาครู่จึงกลับไปสนใจอาหารที่อยู่ในกระทะต่อ เขาจึงค่อยๆเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว
“แตนแต๊น~ ข้าวห่อไข่เป็นไงน่ากินไหม^O^”แบมโบล่าวางจานใบใหญ่ลงตรงหน้าเขา
“ถึงหน้าตาจะธรรมดาแต่ก็โอเคอยู่นะ ไม่รู้เลยแหะว่าแฟรี่ก็ทำอาหารแบบนี้เป็นด้วย”
“ก็แค่อาหารง่ายๆน่ะ แล้วก็นี่มีอีกอย่างหนึ่ง” เธอหันไปหยิบอาหารอีกจานมาวางบนโต๊ะ พร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา“นี่ไง เฟรนโทสสสส^O^”
“ได้ข่าวอาหารสองอย่างนี่มันทำง่ายมากเลยนะ”มาร์คพูดแซะ(?)แบมโบล่า
“ก็เพราะมันทำง่ายไง ฉันเลยทำ-*-”
“แต่แฟรี่อย่างแบมโบล่านี่ก็พกเงินแบบมนุษย์งั้นหรอ เจ๋งดีนะ^^”
“ก็…ฉันใช้เงินของ…” เธอหยุดพูดแล้วมองหน้ามาร์ค ก่อนจะคิดได้ว่าเธอแอบไปเอาเงินเขามานี่หว่า ที่เขาถามแบบนี้แสดงว่ายังไม่เห็นงั้นหรอ…?
“???”มาร์คทำหน้าสงสัย
“เออ….ก็นายยังไม่เห็นแผ่นนั้นหรอ?”
“แผ่นอะไร?”เขางุงงงกว่าเดิม
“เออ…แหะๆ คือ ฉันเอาเงินไปซื้อของพวกนี้เองแหละ ก็….ก็ ฉันเห็นในตู้เย็นนายมีแต่อาหารสำเร็จรูป แล้วแขนนายก็เจ็บอีก ฉันก็เลยคิดทำอาหารเพื่อสุขภาพให้นายเท่านั้นเอง ฉันแค่หวังดีกับนายนะ ไม่ได้คิดยักยอกเงินนายสักหน่อย…อย่าเงียบสิ ฉันกลัวนะ T^T” ฉแบมโบล่าอธิบายแบบแร็ปเปอร์ โย่วๆ ให้มาร์คฟังอย่างลนลาน พอเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งมองหน้าเธอแล้วเงียบไป เสียงเธอก็เริ่มแผ่วลง ในใจตอนนี้คิดเพียงแค่ว่า…
เขาจะโกรธไหม เขาจะด่าไหม เขาจะไล่กลับไปไหม…เขาจะเกลียดไหมที่ทำแบบนี้…
“แบมโบล่าแอบเข้ามาเอาตอนที่ผมหลับใช่ไหม”เขาถามเสียงเข้มด้วยสีหน้าเรียบเฉย นั้นทำให้หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงขึ้นเพราะความกลัว…หนูทำผิดไรT^T
“อื่อ ใช่ T^T”พอแบมโบล่าตอบ เขาเก็งียบไปอีกครั้ง
ผู้ชายคนนี้เวลาทำหน้านิ่งแล้วอยู่เงียบๆแล้วน่ากลัวจริงๆ TOT แต่เพราะหล่อ ให้อภัยนิดหนึ่งละกัน TTOTT
“นายกำลังโกรธใช่ไหม ฉันขอโทษที่ใช้เงินนาย”เธอก้มหน้าพูด ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นสบตาของเขาเลยจริงๆT^T
“เธอกล้าดีนะแบมโบล่า”
“นายจะชมหรือด่าฉันแน่เนี๊ยTTOTT”
“ชมสิ เธอกล้ามากนะที่เอาเงินผมไปน่ะ”
“หืออ????”เธอเงยหน้าขึ้นมา แต่นั้นทำให้เธอแทบอยากจะกระโดดถีบคนตรงหน้าสักสี่ห้าตลบซะจริง เขานั้งเท้าคางหัวเราะแถมยังฉีกยิ้มมาให้อีก!
นี่แกล้งกันงั้นหรอ!!!!!!!!!!!!!! เหอะ! ประโยคนั้นแน่ใจนะว่าชม ดูเหมือนจะด่าทางอ้อมเบาๆนะ -_-^^^
“^o^”
“นายทำฉันกลัวแทบตายนะมาร์คนึกว่าจะโกรธจริงๆซะอีก เล่นละครเก่งจริงๆ =_=*”
“ฮ่าๆ ผมไม่โกรธหรอก แบมโบล่าเอาเงินผมไปซื้อของกินพวกนี้มาให้ผมนี่หน่า ไม่ได้เอาไปทำอะไรเสียหายสักหน่อย”
“ถ้าฉันเอาไปทำอย่างอื่นโดยที่ไม่ใช่ของกิน นายก็จะโกรธว่างั้น”
“ไม่รู้สิ ดูสถานการณ์ก่อน พอดีผมรวย^^”
“จ๊ะ ทานได้แล้ว เดี๋ยวเย็นหมด”แล้วเธอก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินตรงไปที่ตู้เย็น
“อ้าว แล้วแบมโบล่าละ ไม่กินหรอ ไม่เห็นมีจานเลย”เขามองบนโต๊ะมีเพียงจานของเขา และเฟรนโทส อย่างละจาน แต่ไม่มีจานของเธอ
“ฉันไม่กล้ากินอาหารที่ตัวเองทำอะ นายกินเถอะ”เธอพูดในขณะที่หาของในตู้เย็นอยู่
“ได้ไง อย่างนี้ถ้ามันมียาพิษอยู่ผมก็ตายคนเดียวสิ แอบวางยาผมหรอ- -?”
“บ้าหรอ ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก”เธอเดินกลับมาพร้อมกับกล่องน้ำส้มกล่องใหญ่
“งั้นก็กินด้วยกันสิ ถ้าตายจะได้ตายด้วยกัน”
เหอะ กลับไปอ่านประโยคนั้นใหม่ แล้วบอกที มันเขินได้ป่ะ -////-
“ถ้ากินแล้วมันจะตายก็ไม่กินหรอก ไปกินข้างนอกเถอะ- -^^”
“ล้อเล่นเอง อร่อยดีนะ ไข่ดาวตอนนั้นก็อร่อย”
“นายกินเถอะ ฉันซื้อมาทำให้นายคนเดียว ของหมดแล้วเนี๊ย-*-”มาร์คไม่ฟังอะไรเขาเดินไปหยิบจานช้อนส้มมาวางที่โต๊ะ ก่อนจะค่อยๆแบ่งครึ่งข้าวห่อไข่อีกครึ่งหนึ่งใส่บนจาน
“นี่ไง แบ่งของผมไปสิ ไม่เห็นยากเลย” เขาเลื่อนจานไปไว้อีกฝั่ง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ “แล้วถ้าแบมโบล่าไม่กิน ก็ออกจากห้องผมไปตอนนี้เลย ผมจะไม่ให้อยู่ต่อ”
แบมโบล่าได้ยินแล้ว น้ำส้มที่เธอดื่มอยู่แทบพุ่งเป็นน้ำตกออกมา แต่ดีที่เธอปิดมันไว้ทัน เธอไม่มีทางเลือก เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกินตามที่เขาสั่ง ว่าแล้วก็เดินไปนั่งมือทั้งสองข้างจับช้อนและซ้อมขึ้น อย่างละข้าง
“ฉันกินละนะ-_-”
“^^”
‘ข้อต่อรองนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันแหะ ได้ผลเกินขาด~’ ความคิดของมาร์คช่างร้ายกาจยิ่งนัก
*******************
เม้นท์กันเยอะๆน้า เป็นกำลังใจ แล้วไรท์จะมาอัพต่อให้เรื่อยๆ ><
------------------------
เขินมาร์คคคคค>< ทำเป็นหน้านิ่งนะเราที่จริงก็แอบเขินอะดิ>///<
ตอนนี้ทำเป็นนิ่งนานๆไปเดี๋ยวแกจะเริ่มออกมุ้งมิ่งใส่แบมละ 5555
เม้นท์แล้วโหวตกันะ ติดแท็กด้วยก็ได้ไม่ว่า ฮาๆๆ
ข้อมูลแฟรี่ไรท์ก็หามาหลายที่อยู่นะ เอามาบนๆก็ เรียบเรียงใหม่นิดหน่อย
มีบางอย่างที่ไรท์มโนไปเองบางอย่างก็อิงมาจากเน็ต
ขอบคุณคนที่โพสให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากจริง กราบงามๆ
ความคิดเห็น