คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แฟรี่ภูตตัวน้อย -4- 100%
-4-
เช้าวันที่อากาศสดใส แต่มาร์คต้วนก็ยังสดใสกว่ายิ่งกว่าแสงอาทิตย์ใดๆ(เอิ่มมม=_=)
มาร์คเห็นว่าเด็กๆยังไม่ตื่นนอน เขาเลยมาเล่นบาสในสวนสาธารณะใกล้ๆคอนโด ปกติถ้าไม่ตื่นสายก็จะมาเล่นบาสแถวๆนี้ เพราะมันมีอยู่ที่เดียวที่ใกล้คอนโดไงละ
ในสวนสาธารณะมีผู้คนมาออกกำลังกายตอนเช้ามากมายทั้งหญิงและชาย บ้างก็วิ่งจ๊อกกิ้ง บ้างก็ปั่นจักรยาน
คนปกติถ้าเล่นบาสส่วนใหญ่จะเลือกเล่นกันตอนเย็น แต่มันไม่ใช่สไตล์ของมาร์ค ผู้ชายอย่างมาร์คต้วนต้องเล่นบาสตอนเช้า ส่วนเหตุผล…ก็ไม่รู้สิ
มาร์คเล่นบาสคนเดียวลงห่วงบางไม่ลงบางเกือบยี่สิบนาที เขาชู้ตลูกบาสลงห่วงลูกสุดท้าย ก่อนจะเดินมาดื่มน้ำที่วางอยู่บนเก้าอี้แถวๆนั้น หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซบเหงื่อที่ไหลออกมา
นี่ขนาดแค่ซับเหงื่อ ยังแบบว่า…เซ็กซี่ได้อีก ไม่มีคำบรรยายคะ>/////< เห็นแล้วแบบว่าอยากจะเข้าไปเช็ดให้ กรี๊สสสส
มาร์คนั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อนพร้อมกับดื่มน้ำแก้กระหาย กวาดสายตามองไปรอบๆมองดูนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ พอดื่มน้ำในขวดหมดเขาก็ยกนาฬิกาบนแขนซ้ายขึ้นมาดู
7:57 นาที
ใกล้แปดแล้ว มาร์คต้องรีบกลับไปดูเด็กๆว่าตื่นนอนกันรึยัง เขาลุกขึ้นยืนเอาผ้าเช็ดหน้าพาดบ่า เดินไปทิ้งขวดน้ำใส่ถังขยะแถวนั้น แล้วเดินไปหยิบลูกบาสที่วางอยู่กลางสนามขึ้นมา
ร่างสูงในชุดกีฬาเดินตามถนนมาเรื่อยๆ จนสายตาไปสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาทางนี้ เธอเดินก้มหน้ามองพื้น มาร์คหยุดเดินแล้วพยามเพ่งมองไปที่ใบหน้าของเธอ
แต่จะว่าไปแล้วหน้าทำไมคุ้นจังนะ…
จนผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมา เขาก็ถึง อ๋อ เลยสิครับ เธอสวมเสื้อยืดคอสามเหลี่ยมธรรมดากับกางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าผ้าใบ
“แบมโบล่า…งั้นหรอ?” เขาพูดชื่อที่อยู่ในความคิดตอนนี้ออกมา
เงียบ…
เกิดความเงียบปกคลุมชั่วขณะ แบมโบล่าไม่คิดว่าบรรยากาศจะออกมาเป็นแบบนี้ อย่างน้อยเธอก็ต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันแย่ลงไปกว่านี้
“เออ…ฉันดีใจนะที่นายจำฉันได้ แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าจะได้เจอกันแบบนี้”
“แล้วทำไมผมต้องจำคนที่ผมช่วยไม่ได้ด้วยละ”
นะจุดๆนี้แบมโบล่าอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าเธอ…ไม่ใช่คน นะจ๊ะ
“แล้วบ้านของ ‘เธอ’ อยู่แถวๆนี้หรอ?”
กรี๊ดดด มาร์คเรียกแทนตัวแบมโบล่าว่า เธอ นั้นทำให้แบมโบล่ารู้สึกแบบว่า…เป็นคนสนิทของเขา เพียงแค่เราพึ่งเจอกันเป็นครั้งที่สอง ได้ยินอย่างนี้แบมก็ฟินสิค่ะ >///<
“ออ เปล่าหรอก พอดีออกมาเดินเล่นสูดอากาศน่ะ”
จริงๆแล้ว เธอหนีแม่ออกมาเที่ยวต่างหากเล่าแต่จะว่าไปมันก็เหมือนเป็น…
~พรมลิขิตบัลดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล พรหมลิขิตดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ~
ฮิ้ววววววววว >///////<
“ผมว่า ผมต้องไปแล้วละ” มาร์คลุกขึ้นยืนพร้อมกับถือลูกบาสในมือ แบมโบล่าเห็นก็ลุกขึ้นตาม
“ด…เดี่ยวก่อนสิ!”เธอเอื้อมมือไปขว้าแขนของเขาไว้ มาร์คค่อยๆหันมามองตรงแขนที่มีมือของแบมโบล่าอยู่ ค่อยๆเลื่อนสายตาไปมองแบมโบล่าอย่างงงๆ ทำให้แบมโบล่าต้องรีบปล่อยมือออกจากแขนมาร์คทันที
“ทำไมหรอครับ”
“เออ…คือว่า ตอนนั้นฉันได้เขียนโน้ตทิ้งไว้ให้ แต่ไม่รู้ว่านายจะได้อ่านมันหรือเปล่า…”
“????”
“ฉันเขียนไว้ว่า ถ้าเราได้เจอกันอีก ฉันตอบแทนนายที่ช่วยฉัน มากกว่าแค่ไส้กรอกแล้วก็ไข่ดาวนั้น แล้วอีกอย่างก็ไม่รู้ว่ารสชาติมันจะ…”
“อร่อย มันอร่อยมากเลยละ^^”
“!!”
อร่อยงั้นหรอ แบมโบล่ารู้สึกดีใจกับคำนี้มากจริงๆ เพราะแค่ไส้กรอกและไข่ดาว สาบานเลยว่าเธอพึ่งทำมันครั้งแรก และเขาอาจจะเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้ชิมฝีมือของเธอ เขินแปรบ><
“ที่จริง ไม่จำเป็นต้องตอบแทนผมอะไรทั้งนั้นหรอก”
“อ่า แต่ฉันอยากตอบแทนนายนิ”เธอพูดออกมาอย่างน่าเสียดาย มาร์คเห็นจึงรู้สึกผิดที่ไม่ยอมรับคำขอของเธอ
“แล้วแบมโบล่าอยากตอบแทนผมด้วยอะไรละ”
แบมโบล่าตาวาวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่มาร์คพูด แต่เมื่อกี้…! แบมโบล่าไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เธอได้ยิน เขาเรียกเธอว่า แบมโบล่า ด้วยละ เขาจำชื่อเธอได้ด้วย
แบมอยากจะบินออกไปแตะขอบฟ้า >< แค่เขาจำชื่อได้ทำไมต้องดีใจขนาดนี้ด้วยเนี่ย พอคิดไปคิดมาเธอยังไม่รู้ชื่อเขาเลยนี่หน่า-..-
“เออ…ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แล้วนายอยากได้อะไรไหมละ”
“ถ้างั้น…แค่เดินไปส่งผมจนถึงคอนโดได้ไหมละครับ พอดีผมอยากได้คนเดินข้างๆเป็นเพื่อน”
อ่า…เรื่องแค่นี้แบมโบล่าผู้นี้ไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่มาร์คต้องการเมื่อกี้ทำให้เธอเกือบคิดไปไกลไหนต่อไหนแล้วละ>< แต่เธอก็ต้องหยุดมันไว้ก่อนที่มันจะไปไกลมากกว่านี้
ระหว่างทางเดินไปคอนโดของมาร์คซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก ทั้งสองก็คุยกันไปต่างๆนานา
“เออ…คือว่า ขอโทษนะถ้าฉันจะถามคำถามนี้กับนาย”เธอก้มหน้าพูดแล้วเดินไปด้วย มาร์คได้ยินก็เอียงคอมามองเธอด้วยสายตางุนงง
“คือว่านายรู้ชื่อฉันแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ว่าฉันยังไม่รู้จักชื่อนายเลย…” เสียงพูดของเธอค่อยๆเบาลง
“ผมก็นึกว่าเรื่องอะไร ผมชื่อ มาร์ค ต้วนอี้เอิน เรียกผมว่า มาร์ค เฉยๆก็ได้”
“มาร์ค” เธอพูดชื่อของเขาออกมาเสียงเบา ริมฝีปากอมยิ้มเล็กๆออกมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นปกติ
“ว่าแต่ชื่อ แบมโบล่า มันมีความหมายยังไงหรือเปล่าครับ ผมไม่ค่อยได้ยินชื่อนี้เลย”
“จริงๆแล้วชื่อนี้เป็นภาษาอิตาลีน่ะ มันมีความหมายว่า ตุ๊กตา ทั้งๆที่หน้าตาของฉันก็ไม่ได้คล้ายกับตุ๊กตา แต่ก็ไม่รู้ทำไงแม่ถึงตั้งชื่อนี้ให้”
“ผมว่า แบมโบล่าชื่อนี้ก็เหมาะดีนะ” มาร์คมองหน้าเธอ “น่ารักเหมือนตุ๊กตาไงJ”
โดนชมแบบนี้ ต้องเขินใช่ป่ะ -//////- แล้วหน้าของแบมโบล่าค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ตั้งแต่เกิดมาร้อยกว่าปีไม่มีใครเคยชมว่าเธอ น่ารัก ส่วนมากจะชมว่าเธอ สวย ซะมากกว่า(เงิบแปบ-_-) เขาเป็นมนุษย์คนแรกที่ชมว่าเธอ น่ารัก เลยนะเนี่ย
เธอไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ก้มหน้าเดินไปเรื่อยๆด้วยความเขินอาย มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเขิน เป็นใครก็เขินก็ทั้งนั้นแหละน่า-///-
ไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงคอนโดของมาร์ค แต่แล้วเขาก็หยุดชะงัก เมื่อเห็นซูจียืนกอดอกอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าคอนโด
“มาร์ค” ซูจีเรียกชื่อของเขาออกมา สายตามองสลับระหว่างแฟนตัวเองและแบมโบล่าที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างสังสัย
“มาหาฉันแต่เช้า มีอะไรหรือเปล่า” เขาพูดเสียงเรียบ
“ฉันก็มานายไง^^”ซูจีเดินไปคล้องแขนมาร์คเหมือนตั้งใจจะเห็นว่ามาร์คเป็นผู้ชายของเธอ แล้วส่งสายตาเย้ยหยันแบบนางร้ายในละครให้แบมโบล่า
แบมโบล่ามองสายตาที่ซูจีมองเธออย่างน่ารำคาญ เธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นแฟนของมาร์ค แค่เจ้าตัวเดินไปคล้องแขนก็บ่งบอกชัดแล้วละ เชอะ! หมั่นไส้
“งั้นฉันไปละนะ” เธอหันไปบอกลามาร์ค ก่อนจะหันไปพูดกับซูจี “แล้วก็อย่าเข้าใจผิดฉันละกัน ฉันไม่ใช่มือที่สามหรอกจะบอกให้”
แบมโบล่าจิกตาใส่ซูจี ก่อนจะสะบัดผมอันสวยงามจนคอแทบหลุดเดินออกจากตรงนั้นไป เมื่อเดินออกไปสักพักเธอหยุดแล้วมองดูรอบตัวแบบ360องศา เมื่อเห็นว่าแถวนี้ไม่ค่อยมีผู้คน ก็รีบแปลงกายเป็นภูตตัวจิ๋วบินกลับไปที่เมื่อกี้ทันที
ทำไมน่ะหรอ…เพราะเธอกลัวว่าจะเป็นต้นเหตุทำให้ทั้งสองคนนั้นเลิกกัน ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริงๆ แบมโบล่าคงรู้สึกผิดต่อมาร์คไม่น้อย ฉะนั้นเธอจึงเลือกที่จะสอดแนมอยู่บนอากาศอย่างเงียบๆ
ซูจีปล่อยมือจากแขนมาร์คแล้วหันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ เธอไล่สายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วถามคำถามฉบับแฟนขี้หึงออกไป
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใคร”
“คนรู้จักเฉยๆ”
“แน่ใจนะ นายคงไม่แอบควงใครหรอกใช่ไหม”
“แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นคนยังไงละ ฉันไม่ใช่คน ‘ใจร้าย’ แบบนั้นหรอก”เขาพูดเน้นคำว่า ใจร้าย อย่างเย็นชา น้ำเสียงต่างจากเมื่อกี้อย่างชัดเจน จนอีกฝ่ายรู้สึกหวั่นๆกับคำๆนั้น
“มาร์ค…” เธอเรียกชื่อเขาเสียงแผ่วเบา
“แล้วมีอะไรถึงมาหาฉันละ”
มาร์คพูดอยู่กับซูจีก็จริง แต่สายตาของเขากลับไม่มองหน้าเธอเลย
“นาย…เปลี่ยนไปนะมาร์ค เราแทบไม่ได้เจอแล้วก็ไม่ได้คุยกันเลย พอฉันมาเจอนายฉันก็รู้สึกว่านายเปลี่ยนไป ฉันทำอะไรผิดงั้นหรอ…หรือว่านายไม่รักฉันแล้ว”
มาร์คยืนนิ่ง ไม่ได้ตอบอะไร นั้นทำให้ซูจีคิดว่าทุกอย่างที่เธอคิด และพูดออกไปนั้น มันคงเป็นความจริง
“ฉันไม่ได้เปลี่ยนไป ฉันคือมาร์คคนเดิม แต่เธอต่างหากละที่เปลี่ยน ซูจี…” มาร์คจ้องลึกลงไปนัยน์ตาแฟนสาว และเธอก็จ้องสายตาของเขาเหมือนกัน มาร์คค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ตัวอีกฝ่าย แล้วลงกระซิบข้างหู
“เธอลองคิดดูดีๆสิ” เขาเว้นวรรคสักพักก่อนจะพูดต่อ “ว่าใครกันแน่ที่เปลี่ยนไป…”
“…!”
มาร์คคือผู้ชายที่เมื่อหล่อและน่ารัก เขาจะทำให้โลกใบนี้ดูสดใสได้…
แต่เมื่อไรที่เขาร้ายและโกรธขึ้นมาก็ทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวได้เหมือนกัน…
แบมโบล่ามองดูภาพการกระทำของมาร์คอย่างน่าตกใจ เธอกำลังคิดว่าทั้งสองคนนั้นกำลังทะเลาะใหญ่โตมโหฬารแน่ๆ หลังจากที่มาร์คเดินเข้าไปหาซูจีแล้วพูดอะไรบางอย่าง เขาก็เดินเข้าไปในคอนโด ทิ้งให้ซูจูยืนนิ่งเป็นหินอยู่ที่เดิม
“ทำไมมนุษย์ผู้หญิงมันงี่เง่าอย่างนี้นะ จะทะเลาะกันทั้งทีทำไมต้องมีฉันเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเนี่ย! แต่เดี่ยวนะ…เขาคงไม่คิดทำอะไรแปลกๆหรอกใช่ไหม?” แบมโบล่าพึมพำออกมาอย่างหัวเสีย “ห้ามนะ ห้ามเลย เรื่องพวกนี้ห้ามเกิดขึ้นเด็ดขาด!”
ตอนนั้นเองก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเปิดประตูเข้าไปในพอดี แบมโบล่าจึงบินตามผู้ชายคนนั้นไปก่อนที่ประตูจะปิด
ฟิ้วววววว
“ทำไมจู่ๆขนลุกวะ เหมือนมีลมผ่านเลย” ผู้ชายคนที่เธอบินตามเข้ามาพึมพำเบาๆพร้อมกับลูบแขนไปมา
ด้วยสกิลการบินด้วยความเร็วแสงทำให้เแบมโบล่าเข้ามาได้อย่างง่ายได้ เมื่อเข้ามาแล้วเธอมองไปรอบๆเห็นมาร์คยืนรอลิฟต์อยู่ตรงอีกฟากหนึ่ง จึงบินเข้าไปอยู่ใกล้ๆ
ติ๊ง!
เมื่อลิฟต์ที่มาร์คยืนรอมาถึง เขาก็เดินเข้าลิฟต์ไปทันที แบมโบล่าจะรอช้าอยู่ใย เธอรีบบินตามเข้าไปในลิฟต์ทันที แล้วประตูลิฟต์ก็ปิดลงมาร์คจึงเอื้อมมือไปกดชั้นเลขชั้นทางขวามือ
แบมโบล่ามองดูมาร์คจากข้างหลังอย่างเงียบๆ ภายในลิฟต์บรรยากาศช่างเงียบสงบ ไม่มีใครนอกจากพวกเขาทั้งสอง ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ทั้งสองก็ออกมาจากลิฟต์ เมื่อเดินตรงมาก็มาถึงหน้าห้องของมาร์ค เขาจัดการกดรหัสเพื่อปลดล็อกประตู จนประตูเปิดออก
ฟิ้ววววววววว
แขกผู้ไม่ได้รับเชิญรีบบินเข้ามาในห้องทันที ในขณะที่เจ้าของห้องกำลังเข้ามาถอดรองเท้าวางไว้แถวๆนั้น ก่อนจะโยนลูกบาสลงในตะกร้าทรงกลม
“ตื่นแล้วหรอจ๊ะลอเรน หนูเปิดทีวีเองหรอ” เขาเดินมานั่งข้างๆเด็กน้อยแล้วลูบหัวเบาๆ
“ป่าวค่ะ พี่เซฮุนเปิดให้”สายตายังคงจ้องตัวการ์ตูนในทีวี
O_O
แบมโบล่ามองสลับเด็กน้อยคนนั้นกับมาร์ค ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อกับภาพตรงหน้า
“เขามีล…ลูก แล้วงั้นหรอ” เธอพึมพำเบาๆกับตัวเอง อย่างไม่น่าเชื่อ
“กับผู้หญิงคนเมื่อกี้ ลูกสะ…สอง คน นี่ฉันจะทำให้ครอบครัวๆหนึ่งแตกแยกกันเลยหรอ นี่มันเรื่องใหญ่หลวงของแบมผู้นี้เลยนะเว้ยยย เอาแล้วไงๆTTOTT”เธอเขกหัวตัวเองไปมาอย่างหัวเสีย แค่คิดว่ามาร์คและผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกัน แต่นี่…มีลูกแล้วสอง
“พี่มาร์ค เมื่อกี้หนูได้ยินเสียงอะไรก็ไม่รู้”
เด็กน้อยลอเรนหันหน้าไปถามมาร์ค เขาหันหน้าซ้ายขวามองไปทั่วๆห้อง ก็ไม่พบอะไร จึงหันหน้ากลับมา
แบมโบล่าได้ยินที่เด็กคนนั้นพูดก็รีบปิดปากให้สนิทกันที
“อุ๊บ OxO”
“สังสัยเป็นเสียงเซฮุนมั้ง แล้วพี่เซฮุนตื่นแล้วหรอลอเรน”
“พี่เซฮุนตื่นแล้ว กำลังอาบน้ำอยู่” เด็กน้อยพูดกับมาร์คก่อนจะหันไปสนใจการ์ตูนต่อ มาร์คพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เดี่ยวนะ…? เมื่อกี้เด็กคนนั้นเรียกเขาว่า พี่ งั้นก็แสดงว่า เขาไม่ใช่ พ่อ ของเด็กคนนั้นงั้นสิ!!!! โหยยยย เป็นพี่น้องกันนี่เอง คนสวยตกใจหมด ฮู่ววว โล่งไปที
แบมโบล่าถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก กับความคิดบ้าๆก่อนหน้านี่ แล้วเธอก็บินไปนั่งตรงขอบโต๊ะแถวนั้น เพราะเกิดอาการเมื่อยกะทันหัน
“พี่มาร์ค เมื่อกี้พ่อกับแม่ผมโทรมาบอกว่าเดี๋ยวจะมารับแล้ว” ตอนนั้นเองเซฮุนก็เดินออกมาจากห้องนอน ตะโกนบอกมาร์คที่นั่งอยู่กับลอเรน
“อ้าว ไม่ใช่ว่างานจะเสร็จวันพรุ่งนี้ไม่ใช่หรอ” เขาหันหน้าไปคุยกับเซฮุน ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องนอน
“แม่บอกว่างานมันเสร็จเร็วก่อนกำหนด”
“อ่า งั้นก็เก็บของซะสิ แต่เดี๋ยวนะ…แต่งตัวแบบนี้จะไปไหนเนี่ย”
มาร์คไล่มองเซฮุนตั้งแต่หัวจรดเท้า กับการแต่งตัวที่แบบว่า มึงจะแต่งหล่อไปไหน ทรงผมที่จัดทรงแบบเรียบมาอย่างดี เสื้อผ้าที่ใส่แล้วหล่อได้อีก มันหล่อ…มากครับ
การที่คนเราจะแต่งตัวหล่อๆแบบนี้ก็มีเพียงแค่…..
“นัดกับใครไว้แต่เช้าหรือเปล่าเนี่ยเรา”เขาแซวเซฮุนเล่นๆตามประสา ทีตอนนั้นเซฮุนยังแซวมาร์คเลย
“ป๊าวววว นัดอะไรที่ไหนเล่า ปกติผมก็แต่งแบบนี้อยู่แล้วต่างหาก.////.”
“แน่ใจน๊า”เขาทำเสียงสูงแล้วเล่นหน้าเล่นตาไปด้วย
“แน่ดิพี่ หยุดเลย ไปเก็บของดีกว่า”ว่าแล้วเซฮุนก็รีบกลับเข้าไปในห้องทันที มาร์คหัวเราะขำๆออกมากับการกระทำของเซฮุน เช่นเดียวกับแบมโบล่า
“จะว่าไป…เด็กนี่ก็หล่อแหะ” เธอพูดขึ้นมาลอยๆ “หล่อก็จริง แต่แนวนี้มันไม่ใช่เท่าไหร่อะนะ”
แบมโบล่าคิดว่าจะอยู่ดูสถานการณ์ของเขาอีกสักพัก ถ้าไม่มีอะไรที่ร้ายแรงอย่างที่เธอคิดก็จะกลับ ก่อนที่แม่ของเธอจะจับได้ว่าเธอแอบหนีออกมาเที่ยว…อีกแล้ว><
“เดินทางดีๆนะครับ^^”
มาร์คโค้งเก้าสิบองศาบอกลาน้ากับสามีของเธอ ก่อนจะปิดประตูห้องลง ตอนนี้เด็กๆไม่ได้อยู่ที่นี้แล้ว เมื่อเขามองไปรอบๆห้องจึงรู้สึกโล่งๆแปลกๆ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วถอดเสื้อผ้าออก แล้วโยนใส่ในตะกร้าเสื้อผ้า หยิบผ้าขนหนูบนชั้นมาพาดเอว ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ฟิ้วววววว
มาร์คหันมองรอบตัวเพราะเขารู้สึกเหมือนมีลมพัด ขณะที่กำลังเปิดประตูรถฝั่งคนขับออก
“สงสัยเป็นลมพัดมั้ง”
เขาพูดออกไปอย่างไม่ใส่ใจ แต่ตอนนี้ตัวกำเนิดลมนั้นได้เข้ามาอยู่ในรถกับเขาเรียบร้อยแล้ว(แลดูหลอน555) ก่อนที่เขาจะนั่งลงฝั่งคนขับ ปิดประตูแล้วขับรถออกไป
ความคิดเห็น