ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    close my eyes สัมผัสรัก fic markbam

    ลำดับตอนที่ #6 : สัมผัสรัก 6

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 58


    เสียงหัวเราะที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำเอาคนตัวสูงที่เพิ่งเดินทางมาถึงที่บริษัทต้องขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ มาร์คจำได้ว่าเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วเพื่อนสนิทที่พ่วงด้วยหุ้นส่วนคนสำคัญโทรหาเค้าแล้วบอกว่าที่บริษัทมีประชุมด่วน เค้าคิดอยู่แล้วเชียวว่ามันแปลกๆทำใมแทคยอนไม่เป็นคนโทรหาเค้าเอง

     


    “อ้าววว หวัดดีเพื่อนมาร์คมึงมาแล้วหรอ มาไวจริงๆเพื่อนกู ฮ่าๆๆ”เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างของคนตรงหน้าที่เดินเชไปมา อย่างที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแก้วในมือกับขวดน้ำสีอำพันที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเค้านั่นคือน้ำอะไร มือหนากดวางโทรศัพท์เครื่องหรูที่มาร์คเองก็อยากรู้นักว่าปลายสายเป็นใคร แจ็คสันถึงได้หัวเราะเสียงดังขนาดนี้

     


    “แจ็คสัน”เอ่ย เรียกชื่อเพื่อนอย่างคนสะกดกลั้นอารมณ์

     


    “ไม่เอาน่า อย่าซีเรียสซิว่ะ ผ่อนคลายหน่อย”

     

    “ไหนมึงบอกว่ามีประชุมด่วน”มาร์คเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดผ่อนคลายของเพื่อนสนิท ก่อนเอ่ยถามเรื่องเร่งด่วนที่ทำให้ตนเร่งรีบมาที่นี่

     


    “นี่ไงเรื่องเร่งด่วนของกู  ไม่เอาน่าเชี่ยมาร์ค  เพื่อนมึงเหงานะโว๊ยมึงในฐานะที่เป็นเพื่อนต้องมาอยู่คลายเหงาเป็นเพื่อนกันดิว่ะ”มาร์คได้แต่ถอนหายใจให้แจ็คสัน อย่างที่อีกฝ่ายหัวเราะร่า

     


    “มึงหลบเลย แล้วถ้าจะกินก็ยกขวดเหล้าของมึงไปนั่งกินที่โชฝาเงียบซะกูจะทำงาน”ไหนๆก็กลับเข้ามาแล้ว ก็ขอสะสางงานที่คั่งค้างให้เสร็จเลยแล้วกันรอยองแจโทรมาแล้วค่อยออกไปรับอีกที มาร์คได้แต่ส่ายหัวอย่างอ่อนใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินคว้าขวดบรั่นดีชั้นเยี่ยมไปที่โชฝามุมห้องตามคำสั่ง  เอาน่าเวลาที่เค้าเมาก็ได้มันนี่เหละที่คอยดูแล คิดๆแล้วก็ปลงกับตัวเอง

     


    ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไรที่มาร์คก้มหน้าอ่านเอกสารทั้งหมดก่อนจะจรดปากกาเซ็นต์ลงไป ตรงหน้ามีแฟ้มเสนอทำเลอีกมากที่รอการอนุมัติ แต่มาร์คก็ยังไม่เห็นว่าจะมีที่ไหนที่เหมาะสำหรับการลงทุน โดยเฉพาะทำเลที่ถูกเสนอมากจากเนเวอร์อินเตอร์กรุ๊ป พื้นที่สาธารณะ......งั้นหรอ หากมาร์คความจำสั้น มาร์คก็คงลืมไปแล้วว่าเป็นที่เดียวกันกับที่เค้าเพิ่งไปมาวันนี้  จากรายงานในแฟ้มบอกว่าเป็นที่รกร้างของภาครัฐที่งั้นหรอ แต่สิ่งที่เค้าเห็นกลับไม่ใช่ซะนิด

     


    พอคิดถึงเรื่องนี้ก็ชวนให้นึกถึงพี่ชายเพื่อนสนิทน้อง ไม่น่าเชื่อว่าดวงตากลมโตหวานขนาดนั่นจะไม่สามารถมองเห็นโลกใบกลมๆใบนี้  น้ำเสียงหวานที่แม้จะไม่ใสเหมือนหญิงสาวแต่กลับฟังแล้วรื้นหู รอยยิ้มที่ชวนมองนั่นอีกละ  คิดแล้วก็มีรอยยิ้มให้มาติดอยู่ที่มุมปาก  บ้าน่า มาร์ค  ต้วน  นายเพิ่งเจอเค้าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะสนใจ  ก็แค่รู้สึกคุ้นๆนิดหน่อยละมั้งเลยทำให้นึกถึง 



    “มาร์คที่มึงเคยบอกกับกูว่ามึงเคยเกิดอุบัติเหตุ จนความจำหายไปบางส่วนนี่เกิดอะไรขึ้นว่ะ”เสียงอ้อแอที่ดังมาจากคนที่เมาตั้งแต่หัววันทำให้มาร์คละสายตาจากเอกสารแล้วหันไปมอง

     


    เมาอย่างหมาเลยนะมึง ข้าวเขิ่นไม่แดรกมาเมาตั้งแต่หัววันหวังว่าตับมึงคนสบายดีนะ

     


    “เพิ่งนึกได้หรือไงว่าต้องถามกู”

     


    “อ้าว เชี่ยมาร์ค กวนตีนกูแล้วไง ห่ากูจะถามมึงนานแล้วแต่ก็ลืมทุกที”

     


    “หึหึ  รถชนน่ะ แม่กูเล่าให้ฟังว่ากูสลบไปเป็นอาทิตย์ พอพักได้ไม่นานกูก็ไปรักษาตัวต่อที่เมกาเลย แล้วก็เพิ่งได้กลับมานี่เหละ”มาร์คเล่าให้เพื่อนฟังถึงอุบัติเหตุที่เคยเกิดขึ้น แล้วดูเหมือนว่าความทรงจำบางส่วนของเค้าก็หายไปเหมือนกัน

     


    “งั้นก็ประมาณสองปีแล้วดิว่ะ มึงไม่คิดอยากจะตามหาความทรงจำของมึงที่หายไปช่วงนั้นหรอว่ะ”คำถามที่ทำให้มาร์คได้แต่เงียบไป ตามหาความทรงจำงั้นหรอ

     


    “ไม่ละ ถ้ากูอยากจำกูก็คงไม่ลืมหรอกมั้ง”บอกเพื่อนอย่างไม่ยี่ระ ก่อนจะก้มหน้าดูเอกสารต่อไป

     


    “เหมือนที่มึง ยังลืมคริสตัลไม่ได้นะหรอ”เสียงเพื่อนสนิทที่ลอยมาทำเอามาชะงักก่อนจะ เงยหน้ามองเพื่อนก่อนจะเห็นว่าคนต้นเรื่องหลับไปเสียแล้ว  ใบหน้าคมเข้มได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะเดินมาริมหน้าต่างเพื่อปล่อยให้ความคิดของตัวเองลอยออกไป

     


    คริสตัล  หญิงสาวที่เค้าเคยคบหาตอนที่อยู่เมกา เธอเป็นคนสวย เข้ากับคนได้ง่าย แต่มาร์คก็ดูออกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่กระหายในความสำเร็จในทุกๆด้านของชีวิต ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เลือกที่จะทิ้งเค้าไป  วันที่มาร์คตั้งใจจะขอเธอแต่งงานกลับเป็นวันที่เค้าเจ็บที่สุด เมื่อหนังสือพิมพ์ทุกฉบับกลับลงข่าวว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับเศษฐีน้ำมันรายใหญ่ ส่วนเค้าก็เป็นแค่ไอ้งั่งคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องซักนิดว่าทั้งสองคนแอบไปคบกันตอนไหน  เจ็บดีใช่ใหมละ หึ 


     

    าร์คไม่รู้ว่าตัวเองยืนเหม่ออยู่ริมหน้าต่างนานขนาดไหน จนกระทั้งได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเอง

     


    “พี่มาร์ค แจทำรายงานเสร็จแล้วเมื่อไรจะมารับ”เพียงแค่รับสาย เสียงตะโกนก้องจากน้องชายก็ดังขี้นมา

     


    “บอกที่อยู่บ้านเพื่อนแกมาซิพี่จะได้ไปรับแกถูก”ทันทีที่บอกจบ มาร์คก็ได้ยินเสียงน้องชายตัวเองตะโกนถามเพื่อนสนิททันทีว่าเค้าจะขับรถไปยังไง  แต่คำตอบที่กลับมาทำเอามาร์คได้แต่ขมวดคิ้ว

     


    บอกพี่มึงให้ไปรับที่เดิมเลยเชี้ยแจ เดี๋ยวกูไปรอเป็นเพื่อน

     


    “เพื่อนแกนี่ทำตัวลึกลับชะมัด”บอกน้องชายตัวเองก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะตอบกลับมา

     


    555 มันเป็นนักสืบพี่ไม่รู้หรอ ตามนั้นเหละพี่เดี๋ยวแจไปรอที่เราเจอไอ้ยูคเมื่อเช้านี้ก็ได้”มาร์คได้แต่รับคำน้องชายก่อนจะวางสายไป  พลันสายตาก็หันไปเห็นเพื่อนสนิทที่นอนหลับสนิทที่โชฝา

     


    “ปล่อยให้แม่งนอนตายอยู่ที่นี่แล้วกัน ตื่นเมื่อไรเดี๋ยวมันก็คงกลับบ้านเอง”รักเพื่อนมากใหม ถามใจมาร์คดู

     


    “ยองแจจะมาเที่ยวที่บ้านแบมอีกใหม”น้ำเสียงใสที่ถามหลังจากที่วางโทรศัพท์จากพี่ชาย  อันที่จริงบ้านของยูคยอมไม่ได้หน้ากลัวอย่างที่คิดซักนิด  ในตอนแรกยองแจแสนจะกลัวพี่ชายคนโตของเพื่อนสนิทเสียจนไม่กล้าที่จะพูดอะไร แต่พออยู่ไปซักพักกลับพบ เจบีฮยอง พี่ชายเพื่อนคนนี้เป็นคนที่ใจดีเสียด้วยซ้ำ แต่คงเป็นเพราะท่าทางห่ามๆนั่นละมั้งที่ทำให้ ผู้ชายคนนี้ดูหน้ากลัว แล้วยังจูเนียร์ฮยองอีกละที่ให้เจบีฮยองขนขนมกลับมาเสียเยอะต้องเป็นคนที่ใจดีมากแน่ๆเลย

     


     

    “ถ้าไอ้มี่มันพาแจมาแจมาแน่นอน”บอกพร้อมกับส่งยิ้มจริงใจไปให้แม้รู้ว่าคนตรงหน้าจะมองไม่เห็นก็ตาม นี่ถ้าข้างๆแบมแบมไม่มีพี่ชายหน้านิ่งอย่างเจบีนั่งอยู่ ยองแจจะกระโดดไปกอดให้ชื่นใจ แต่ตอนนี้กลัวกระโดดเข้าไปแล้วเจอบาทาสวนกลับมาแทน  เรื่องนี้แจจะไม่เสี่ยงบอกเลย

     



    “จะมาก็มากันซิแต่อย่าทำเสียงดังก็พอ และก็ห้ามกินเหล้ากันในบ้านหลังนี้ก็พอ”น้ำเสียงเรียบๆที่ดังมาจากพี่ชายทำเอายูคยอมขมวดคิ้ว   ไม่ใช่ว่าเจบีฮยองไม่อนุญาตให้พาใครมาไม่ใช่หรอ

     



    “ถ้าเป็นเพื่อนของน้องชายฉัน ฉันก็คิดว่ายูคยอมคงเลือกเพื่อนไม่ผิด จะมาก็มาแต่ฉันไม่อนุญาตให้พาคนอื่นเข้ามาโดยไม่บอกล่วงหน้าน่ะ”เหมือนจะรู้ว่าน้องชายสงสัยจึงอธิบายออกไปแต่ก็ไม่วายสั่งเพิ่ม  ไม่ว่ายังไงคนรู้จักพวกเราน้อยเท่าไรยิ่งดี

     



    “ขอบคุณฮยอง”ยองแจได้แต่มองสองพี่น้องไปมา  ตกลงบ้านนี้นี่เค้าทำงานเป็นนักสืบจริงๆใช่ใหม  แต่ช่างเถอะเค้าไม่แคร์หรอกว่าบ้านยูคยอมทำงานอะไร  ก็เพื่อนกันนี่เนาะต่อให้มันเป็นยังไงก็เป็นเพื่อนที่ ชเว  ยองแจไม่คิดว่าจะหาเจอ 

     



    เพื่อนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด.................

     



    “ยองแจจะไม่รอเจอเนียร์จริงๆหรอ”น้ำเสียงหวานใสเจือไปด้วยเสียงออดอ้อน  ทำเอายองแจอยากจะบอกว่านอนที่นี่เลยก็ได้นะแจว่าง เดี๋ยวโทรไปบอกไอ้พี่มาร์คเลยว่าไม่ต้องมา

     



    “ไม่งอแงนะคะ แบมแบม กว่าเนียร์จะกลับมาก็เย็นๆนู่นแนะ ที่บ้านยองแจเค้าจะเป็นห่วงเอา”น้ำเสียงอ่อนโยนที่ยองแจสามารถฟันธงได้เลยว่าคงไม่มีใครได้รับจากแจบอมนอกจากแบมแบมแน่ บอกกับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่  ดวงตาที่เคยสดใสกลับหม่นลงอยากเห็นได้ชัด....

     



    ก็อุตสาห์ได้เจอเพื่อนใหม่ที่คุยถูกใจซักทีนี่นา แบมแบมก็อยากให้อยู่นานๆ

     



    “อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้ซิเจ้าหญิงของบี  เอาเป็นว่าวันเสาร์หน้าบีให้ยูคยอมพายองแจมาเที่ยวบ้านเราใหม่เอาใหม คราวนี้เดี๋ยวให้เนียร์กลับบ้านมาไวๆด้วยเนียร์จะได้เจอกับยองแจใง”ใบหน้าหวานที่แย้มยิ้มขึ้นมาทำเอาผู้ชายอีกสามคนในห้องถึงกลับยิ้มตาม  ยองแจรู้แล้วว่าทำใมทั้งเจบีและก็ยูคยอมถึงไม่อยากให้คนตัวเล็กนี้เศร้านัก  เพราะแบมแบมเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน่ะสิ

     



    “ยองแจจะมาใช่ใหม”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังทำให้ยองแจ พยักหน้าแรงก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าแบมแบมมองไม่เห็น

     



    “แน่นอน มาได้อยู่แล้ว”สาบานเลยว่าไม่ว่าวันนั้นจะติดธุระอะไรยองแจจะยกเลิกให้หมด

     



    เสียงโทรศัพท์ที่ดังขัดขึ้นทำเอายองแจถึงกับสะดุ้งก่อนจะเห็นว่าบุคคลที่โทรมาคือพี่ชายของตัวเอง  จึงได้แต่เอ่ยลาทุกคนในบ้านก่อนจะเดินตามยูคยอมที่เดินนำออกไปก่อนแล้ว  เชี่ยมี่มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้ขายาวเหมือนมึงยังจะเดินเร็วอีก

     



    ไม่ถึงสิบห้านาที ก็ถึงสวนสาธาระณะที่ยองแจนัดพบกับพี่ชายตัวเอง  คนตัวสูงยืนพิงรถคู่ใจพร้อมในมือที่มีสารนิโคตินคีบไว้อยู่  ก่อนจะทิ้งลงแล้วใช้ปลายรองเท้าขยี้ให้ดับเมื่อเห็นหน้าตาบูดบึงของน้องชายมาแต่ไกล

     



     

    “พี่มาร์คเมื่อไรจะเลิกแจบอกแล้วไงแจไม่ชอบให้สูบ”มาร์คได้แต่อมยิ้มก่อนจะมองเลยน้องชายไปเจอคนตัวสูงอีกคนที่เดินตามมา 



     

    ยูคยอมโค้งตัวลงเป็นการทำความเคารพคนอายุเยอะกว่าอีกครั้ง ซึ่งมาร์คก็ได้แต่พยักหน้าเบาๆ

     



    “ไง รายงานเสร็จใหม ยองแจไปวุ่นวายอะไรบ้านนายรึเปล่า”

     



    “เสร็จครับ ยองแจไม่ได้วุ่นวายอะไรครับ”ตอบพี่ชายเพื่อนก่อนที่เสียงแจ่วๆของยองแจจะดังสวนมา

     



    “อะไรของเฮียเนีย แจไม่ใช่เด็กๆซักหน่อยที่จะไปสร้างความวุ่นวายให้ใคร” หรอ  ชเว  ยองแจ กูอยากจะถามคำนี้ ยูคยอมได้แต่คิดในใจ  ก่อนจะหันไปมองพี่ชายเพื่อนที่ยืนยิ้มให้กลับคนที่โวยวายอยู่  แปลก ยูคยอมมีความรู้สึกเหมือนคุ้นเคยพี่ชายเพื่อนเหมือนเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน  แต่กลับนึกไม่ออกว่าเมื่อไร

     



    “เชี่ยมี่กูกลับแล้วนะ ขอบคุณมึงกับพี่มึงมาก ขนมเค้กโคตรอร่อยอ่ะ แล้วเดี๋ยวเจอกันวันเสาร์หน้า”

     



    “เอ่อ  เออ”เพราะมัวแต่เหม่อจึงไม่ทันได้รู้สึกตัวว่าเพื่อนตัวเล็กเข้าไปนั่งใจรถก่อนจะลดกระจกลงมาเผื่อพูดกับเค้าแทน 

     



    มาร์คได้แต่มองหน้าเพื่อนน้องชายเมื่อเห็นได้ชัดว่าเมื่อกี๊ที่เด็กนี่เหม่อ เพราะมองหน้าเค้าอยู่

     



    “มีอะไรรึเปล่า”ถามเมื่อเห็นว่า ยองแจเลือนกระจกปิดเหมือนเดิมแล้ว

     



    “ป่าวครับ  ผมแค่มีความรู้สึกเหมือนกับคุ้นๆหน้าพี่เฉยๆนะครับ เหมือนกับว่าเราเคยเจอกันที่ไหนซักที่มาก่อน”ให้ตายเถอะเด็กนี่เป็นแฟนคลับเค้าหรือไงถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมา

     



    555 ไม่รู้สิอาจจะใช่  กลับบ้านได้แล้ว ขอบคุณมากที่วันนี้ดูแลยองแจให้ฝากขอบคุณพี่ๆนายด้วยนะ”บอกพร้อมกับเดินออกมาเพื่อไปขึ้นรถตัวเองก่อนจะขับออกไป

     



    “อะไรของมึงเนี่ยเชี่ยมี่พูดยังงั้นเดี๋ยวเค้าก็หาว่ามึงชอบเค้าหรอก ห่านเอ๋ย”ส่ายหัวให้กับตัวเองก่อนจะเดินกลับไปยังทางเก่า พร้อมกับสลัดความคิดคุ้นหน้าเหล่านั้นออกจากหัวไป

     



    อ่า....เย็นนี้จูเนียร์ฮยองจะทำอะไรให้เค้ากินกันนร้า แค่คิดก็หิวแล้วสิ

     



    “เจสัน!!!!”ทันทีที่รถของพี่ชายจอดสนิท ยองแจก็เสียงตะโกนลั่นเมื่อเห็นลูกหมาตัวน้อยของตัวเองวิ่งเล่นอยู่ในสวนที่บ้าน

     



    “นี่พี่พามันกลับบ้านก่อนหรอ”หันกลับไปถามพี่ชายที่เดินตามเข้ามาติดๆ

     



    “อืม ก่อนเข้าบริษัทน่ะ”บอกพร้อมกับยีหัวน้องชายตัวน้อยที่อุ้มลูกหมาขึ้นมาฟัดอยู่

     



    “กลับมาแล้วหรอสองหนุ่ม  พอดีเลยแม่ทำกับข้าวเสร็จพอดีจะได้กินข้าวกัน”เสียงหวานของผู้เป็นมารดาเรียกให้ทั้งสองหันกลับไปก่อนจะพบผู้หญิงที่สวยที่สุดของบ้านเดินตรงมาที่เค้า

     



    “โห้แม่ ไม่เอาอ่ะวันนี้แจขอบายน่ะ เค้กที่อยู่ในท้องยังไม่ย่อยเลย”

     



    “อะไรเนีย นี่แอบไปกินเค้กกันมาไม่ชวนแม่หรอ ฮ่ะตามาร์ค”หันกลับไปเอาเรื่องลูกชายคนโตที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆแทน

     



    “ใครบอกพี่มาร์คพาแจไปเลี้ยงกันละแม่ แจไปบ้านเพื่อนมาต่างหาก พี่ชายเพื่อนก็เลยเอาเค้กมาให้กินเยอะแยะเลย”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขของยองแจทำเอายุนนาหันกลับไปมองลูกชายคนโตอีกครั้งก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ยองแจไปบ้านเพื่อน ไม่น่าเชื่อซักนิด เพราะตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่เธอยังไม่เห็นลูกพาเพื่อนมาที่บ้านซักคน แล้วก็ยองแจน่ะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นยากจะตาย

     



    “ไหนๆเหล่าให้แม่ฟังซิว่าอะไรยังไง”บอกพร้อมกับโอบลูกชายที่สูงกว่าเธอทั้งสองคนไว้คนละข้างก่อนจะเดินเข้าบ้านไป  เสียงใสๆของยองแจดังก้องไปตลอดทาง  เล่าเรื่องให้ผู้เป็นแม่ได้รู้

     



    เรื่องเล่าที่ยุนนารู้สึกว่า มันช่างคุ้นเคยเหลือเกินกับชื่อทั้งหมดที่ลูกชายคนเล็กของเธอได้เปล่งออกมา

     


    เจบีฮยอง

    จูเนียร์ฮยอง

    แบมแบม

    ยูคยอม........

     



    ไม่ใช่หรอกมั้ง มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้น  ที่มันช่างคล้ายกับชื่อของเหล่าลูกๆเพื่อนสนิทของเธอเหลือเกิน............ อิม  โชรง ถ้าเธออยู่บนฟ้านั่นช่วยให้ฉันได้เจอกับเด็กๆซักครั้งเถอะ  ให้ฉันได้ขอโทษพวกเค้าซักครั้งเถอะนะ

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    กลับมาแล้วนร้าาาาาคร้าบบบโผ้มมมมม  เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยนร้าาาา  ปัญหาทุกอย่างมันใกล้แล้วละที่จะคลายปมออกมา


    คิดถึงทุกคนนะคร้าบบบบบบบบบบ>< อย่าลืมเป็นกำลังใจให้เค้านร้าาาาาา


    รักกัซรักลีดนะครับโผ้มมมมมมมมมมมม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×