คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สัมผัสรัก 4
เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใส แดดอ่อนๆที่สาดเข้ามาชวนให้สบายตัว แบมแบมในชุดเสื้อยืดสีชมพูอ่อนใส่สบายพร้อมกับกางเกงขาสามส่วนสีขาวสะอาด ส่งผลให้ร่างเล็กที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวดูบอบบางลงไปถนัดตา กลิ่นอาหารที่ลอยมาทำเอาท้องเล็กๆประท้วงด้วยความหิว
“บีเสร็จหรือยังแบมหิวแล้วนะ”เสียงเล็กๆที่ส่งมาทำให้ชายหนุ่มในชุดทำงานเมื่อคืนที่มีออฟชั่นเสริมเป็นผ้ากันเปื้อนลายเจ้าหญิงเงือกน้อย หันกลับมายิ้มให้กับคนที่เป็นดั่งดวงใจทึ่ถึงแม้แบมแบมจะไม่เห็นว่าเค้ายิ้มแต่เค้าก็ยินดีที่จะยิ้มให้คนตัวเล็กเสมอ
“หืมมมม แบมแบมหิวแล้วหรอเนีย อ่าแย่จริงๆเจ้าหญิงของบีหิวแล้วทำไงดีนร้า ข้าวต้มก็ยังไม่เสร็จด้วยสิ”แกล้งเสียหน่อยคงไม่เป็นไร คิดในใจพร้อมตักข้าวต้มกุ้งร้อนใส่ชาม
“งืออออ แบมบอกแล้วไงว่าแบมเป็นเจ้าชายไม่ใช่เจ้าหญิงซักหน่อย แต่ยังไม่เสร็จอีกหรอแบมหิวจนจะกินบีได้ทั้งตัวแล้วนะ”คนตัวเล็กแก้คำพูดให้พี่ชายก่อนจะเบะปากพร้อมลูบท้องตัวเอง เจบีได้แต่ขำให้กับท่าทีเหล่านั้น ก่อนจะนั่งลงข้างๆพร้อมชามข้าวต้มกุ้งน่ากิน
“นี่แนะเจ้าเด็กตะกะ เสร็จแล้ว มาเดี๋ยวบีป้อน”แม้จะเหนื่อยจากการทำงานมาแค่ไหนเจบีไม่เคยเหนื่อยซักนิดที่ต้องมาดูแลแบมแบม แม้เจ้าตัวจะพยายามพร่ำบอกว่าอยากทำทุกอย่างเอง แต่สำหรับตัวเค้าเองแม้จะเป็นอะไรที่เล็กน้อยเค้าก็ไม่พร้อมให้แบมแบมเสี่ยง
“บี แบมบอกแล้วไงแบมกินเองได้”
“บีก็บอกแล้วไงว่าบีจะป้อน อย่าดื้อซิ มันร้อนนะถ้าหกรดมือตัวเองเข้าจะทำยังไง” เจบีพูดพร้อมกับยกช้อนข้าวต้มขึ้นเป่า แล้วจึงส่งเข้าปากคนตัวเล็กที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่
“อ่า ถ้ายังหน้ามุ่ยอยู่อย่างนี้ วันนี้คงต้องอยู่บ้านเป็นเพื่อนบีทั้งวันแน่ๆเลย สวนสาธาระณะก็คงไม่ได้ไปแล้วมั้งงงงงงง”น้ำเสียงอ่อนละมุนที่ทอดบอกคนตรงหน้าทำให้แบมแบมได้แต่เบิ่กตากว้าง ก่อนจะรีบบอกพี่ชาย
“ยิ้มแล้วแบมยิ้มแล้ว บีให้แบมไปน่ะให้ยูคยอมพาแบมไปนะ”บอกพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างๆให้กับอีกคน มือเล็กจับแขนพี่ชายพร้อมเขย่าไปมาเบาๆ
“โอเคๆบียอมแล้วแต่แบมต้องกินโจ๊กที่บีป้อนให้หมดก่อนนะ ถึงจะไปได้”เจบีพูดก่อนจะส่งโจ๊กที่อุ่นพอดีเข้าปากลูกนกตัวน้อยอีกครั้ง เค้ารู้ว่าการที่ทำแบบนี้ไม่ต่างจากแม่นกที่คอยบินออกไปหาอาหารมาป้อนให้ถึงปาก เค้าไม่แคร์เพราะสำหรับเค้าแล้วทุกวินาทีของเค้าการที่ได้ทำอะไรให้แบมแบมเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอ แต่เจบีลืมไปรึเปล่าว่าหากวันใดแม่นกไม่ได้กลับมาแล้วลูกนกจะอยู่อย่างไร
“อ้าว ฮยองกลับมาแล้วหรอ เนียร์ฮยองบอกฮยองรึยังว่าวันนี้จะให้ผมพาแบมแบมไปเดินเล่นที่สวน”เสียงคนมาใหม่ทำให้พี่ชายที่กำลังป้อนโจ๊กอยู่เงยหน้าขึ้นมามอง =_= เจบีอยากจะเอาช้อนเขวี่ยงมันซะทีตื่นซะสายโด่งนี่ถ้าวันนี้เกิดเค้าต้องกลับเข้าบ้านช้าหน่อยแบมแบมไม่ต้องกินข้าวเช้าตอนสิบเอ็ดโมงหรือยังไง
“บอกแล้ว เนียร์บอกบีแล้วบีอนุญาตแล้วด้วย”เสียงใสที่ตอบแทนทำเอายูคยอมที่กำลังดืมนมแทบสำลัก ให้ตายเถอะเมื่อกี๊เค้าไม่ทันสังเกตุว่ามีแบมแบมนั่งอยู่อีกคน เค้านึกว่าแบมแบมยังไม่ตื่น
“แบมแบม ตื่นนานหรือยัง”ถามพร้อมกับถลาเข้าไปนั่งข้างอีกคน พร้อมกับยกมือเล็กขึ้นมาจับ
“วันนี้แบมตื่นเช้านร้า ยูคยอมตื่นไม่ทันแบมหรอกแบมตื่นเต้นน่ะ “บอกพร้อมกับหัวเราะให้กับตัวเองน้อยๆไม่ว่าเมื่อไร แบมแบมก็สดใสเสมอ
“แล้ว แบมแบมมาที่ห้องครัวได้ยังไง”
“ฉันเป็นคนพาลงมาเอง มีอะไร”เสียงเรียบจากพี่ชายที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามทำเอายูคยอมได้แต่ส่งรอยยิ้มแหยๆไปให้ โธ่ถ้าเมื่อคืนไอ้ยองแจไม่ชวนเค้าเล่นเกมเค้าก็คงไม่ต้องนอนดึกแล้วตื่นสายแบบนี้
ในปกติทุกวันเสาร์ อาทิตย์ คนดูแลแบมแบมจะเป็นหน้าที่เค้า เพราะในช่วงนี้เนียร์ฮยองจะต้องออกไปเปิดร้านเช้ากว่าทุกวันเพราะเป็นวันหยุด แตกต่างกับเจบีฮยองที่จะกลับบ้านสายเพราะต้องอยู่ดูแลบัญชีของร้านที่เจ้าตัวทำงานแถวอับกูจองให้เสร็จ เพราะวันศุกร์มักจะมีเที่ยวราตรีเข้ามาค่อนข้างเยอะพอสมควรเพราะอย่างนั้นยูคยอมจึงรับอาสาเป็นผู้ดูแลแบมแบมในทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เอง เพียงแต่วันี้อาจจะผิดแผนไปเสียหน่อยที่ตนเองตื่นสาย ปกติเค้าไม่ใช่คนแบบนี้นะ!!!!
“แหะๆ ป่าวจร้า ฮยอง แบมยูคขอโทษนะที่ตื่นสายถ้าฮยองไม่กลับมาแบมต้องรอยูคจนใส้กิ่วแน่เลย”ยูคยอมจับมือคนที่เกิดก่อนไม่นานนักมาแนบเค้าที่ใบหน้า การกระทำที่เจบีได้แต่เบ้ปากอย่างหมั่นใส้ให้กับอีกคน ปกติยูคยอมไม่ได้เป็นแบบนี้เค้ารู้ดี สงสัยเมื่อคืนคงจะนอนดึกจริงๆ
“แบมไม่โกรธยูคยอมซักหน่อย ยูคจะขอโทษแบมทำใม”บอกอีกคนพร้อมกับลูบใบหน้านั้นไปมา แบมจำได้ว่ายูคยอมมีใบหน้าที่เรียกได้ว่าหล่อเหลาเอาการ
“แบมอยากจะเห็นหน้าของทุกๆคนอีกครั้งจัง”เสียงหวานเอ่ยขึ้นลอยอย่างคนลืมตัว สร้างความเงียบให้กับบุคคลอีกสองคนที่อยู่ในห้องครัว
“แบมขอโทษ”คนตัวเล็กเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนพูดอะไรออกไป เจบีวางช้อนลงกับชาม ก่อนจะยกมือเล็กอีกข้างขึ้นมาจับเข้าที่ใบหน้าเค้าเบาๆ
“ขอโทษทำใมครับ เจ้าหญิงของบี แบมรู้ใหมแบมจะเห็นบี เห็นเนียร์ เห็นยูคยอมเสมอนะครับ เพราะว่าบีหล่อขนาดนี้แบมไม่ทางลืมบีได้หรอก”คำพูดที่เรียกเสียงหัวเราะได้ดีจากคนตัวเล็ก ก่อนที่คนเป็นพี่จะให้น้องชายป้อนข้าวต้มแบมแบมให้หมด ก่อนที่เจ้าตัวจะขอขึ้นไปอาบน้ำก่อนแล้วจะลงมาดูว่าคนตัวเล็กกินข้าวเช้าหมดรึเปล่า
เมื่อขึ้นมาถึงห้องของตัวเอง พี่ชายคนโตที่แข็งแกร่งที่สุดของบ้านกลับทรุดตัวลงไปกลับบานประตู เจบีพร้อมจะเข้มแข็งเสมอไม่ว่าจะเรื่องไหน แต่ถ้าถามว่าเรื่องไหนที่ทำให้เค้าอ่อนแอได้ถึงที่สุดคงไม่พ้นเรื่องของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านล่าง เจบีกลืนก้อนสะอื้นที่แล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่คอลงไปพร้อมกับมือหนาที่เอื้อมมาปาดน้ำตาที่ร่วงลงมาทันทีที่เค้าปิดประตูห้องนอนของตัวเอง ถ้าแลกได้เค้าอยากจะแลกดวงตาของแบมแบมกับดวงตาของเค้าเสียจริงๆ เพราะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แบมแบมปฎิเสธการแลกเปลี่ยนดวงตา ไม่ว่าเค้าพยายามเกลี่ยกล่อมขนาดไหนคนตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีจะยอม จนหมอที่ดูแลได้แต่บอกให้เค้ารอเวลาที่เจ้าตัวพร้อมจริงๆไม่อย่างนั้นอาจเกิดปัญหาตามมา สภาพจิตใจที่ไม่ยอมรับของผู้ป่วยมีโอกาสสูงที่จะเกิดการต่อต้านของเซลล์ประสาท ทำให้เกิดการเข้ากันไม่ได้ของของเซลล์ ถึงได้บอกกไงละมีเงินแค่ไหนก็ไม่สามารถรักษาแบมแบมได้หากเจ้าตัวไม่ยินยอม
อากาศยามสายของวัน ภายใต้สายลมอ่อนๆที่พัดมาต้องผิวกายที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาทำให้แบมแบมยิ้มกว้างกับธรรมชาติที่ได้รับ แม้มองไม่เห็นแต่แบมแบมก็สัมผัสได้ถึงความสงบและความร่มเย็นของสวนสาธารณะแห่งนี้
“อะไรของมึงเนี่ย ชเว ยองแจ มึงนึกครึ้มอะไรจะมาทำรายงานที่บ้านกูเนีย วันนี้กูไม่ว่าง เชี้ยยองแจมึงอย่างี่เง่าขอร้องอาจารย์ไม่ได้รีบกูรู้เดี๋ยววันจันทร์ค่อยไปทำที่โรงเรียน”เสียงยูคยอมที่ดังอยู่ไม่ไกลจากตรงจุดที่คนตัวเล็กนั่งอยู่นักทำให้แบมแบมรู้ว่า ยูคยอมคงจะกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนที่โรงเรียน
“ก็กูบอกไม่ได้ไง มึงอย่างี่เง่าดีว่ะ”น้ำเสียงที่เริ่มหงุดหงิดของน้องชายคนเล็กของบ้านทำเอาแบมแบมได้แต่หันหน้ามาตามเสียง บางทียูคยอมอาจจะกำลังยุ่ง แบมแบมว่าแบมแบมน่าจะกลับบ้านได้แล้ว
“ยูคยอม”เสียงใสที่เรียกชื่อเค้าทำให้ คนที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทของตัวเองหันมาตามเสียง
“แปปนะ ว่าไงแบมจะเอาอะไรรึเปล่าครับเดี๋ยวยูคไปซื้อให้”ต้นประโยคบอกกับคนอยู่ในโทรศัพท์เสียงห้วน แต่ตอนท้ายกลับพูดกับคนตัวเล็กด้วยน้ำเสียงที่ต่างมาตรฐานกันออกไป
“แบมจะกลับแล้ว พาแบมกลับบ้านนะยูคจะได้ไปทำรายงานกับเพื่อนด้วย”ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าแบมแบมได้ยินในสิ่งที่เค้าคุยกับเพื่อนสนิททั้งหมด ยูคยอมมีเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวนั้น คือ ชเว ยองแจ ที่เค้าทั้งสองคนเป็นเพือนกันได้ถึงขนาดนี้เพราะทั้งคู่ต่างไม่เคยยุ่งในเรื่องของใคร ถึงได้คบกันมานานขนาดนี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่ยองแจจะมาที่บ้าน
“เชี้ยยยยมี่ มึงซุกเมียไว้บ้านก็บอกเพื่อนทำมาเป็นท่านั้นท่านี้ไม่ให้กูไปบ้าน ที่ไหนได้ซุกเมีย มี่แม่มอ่อนว่ะ”เสียงที่ดังมาจากปลายสายที่ยูคยอมยังคงถือโทรศัพท์แนบหูอยู่นั้นทำเอา น้องชายคนเล็กของบ้านอยากจะเอาหัวใครซักคนไปโขกกับต้นไม้เพื่อเป็นการระบาย
“เมียหน้ามึงเถอะยองแจ พี่ชายกู”บอกเพื่อนพร้อมกับถอนหาย เมื่อได้ยินฝ่ายนั้นพูดเพียงคำว่าหรอก่อนจะหัวเราะเสียงใส
“ก็กูไม่รู้นี่หว่า ไม่รู้เหละยูคยอมกูจะให้พี่พาไปบ้านมึง มึงส่งแผนที่มาทางไลน์ให้กูเลย”น้ำเสียงเอาแต่ใจของยองแจทำให้ยูคยอมถอนหายใจออกมา เค้าไม่เคยพาใครมาที่บ้านเพราะนั่นหมายถึงความปลอดภัยทั้งหมดของคนในครอบครัว เจบีฮยองเคยบอกไว้ว่ายิ่งคนรู้จักที่อยู่เราน้อยเท่าไรเราทั้งหมดจะยิ่งปลอดภัยจากคนที่เห็นแก่ตัวพวกนั้น แม้กระทั่งยองแจก็ไม่มีข้อยกเว้น และเค้าก็ไม่ต้องการทิ้งพี่ชายตัวเล็กของเค้าเพื่อไปทำรายงานที่บ้านของยองแจเด็ดขาด
“ยองแจ เดี๋ยวกูจะไปเอารายงานมาทำที่สวนสาธาระณะxx ถ้ามึงอยากจะทำรายงานขนาดนั้นมึงก็ให้พี่มึงขับรถมาที่นี่แทนแล้วกัน เชี้ยนี่วุ่ยวายกับกูตลอด”บอกสถานที่แก่เพื่อนเรียบร้อยก่อนจะให้พรกับคนที่หัวเราะร่วนอยู่ปลายสายนั้นสองสามคำก่อนจะกดวางสายแล้วกลับมามองคนที่นั่งอยู่กับเค้าตาแป๋ว
“แบมแบม นั่งรอยูคอยู่นี่แปปนึงได้ใหม ยูคจะไปเอาของที่บ้านแล้วจะรีบกลับมาหาหรือแบมแบมจะกลับไปที่บ้านกับยูคก่อนแล้วค่อยกลับมาใหม่”แม้จะเป็นสวนสาธาระณะที่อยู่ไม่ไกลจากที่อยู่อาศัยของเค้ามากนัก แต่เค้าก็ไม่เคยปล่อยให้แบมแบมอยู่คนเดียว
“ความจริงยูคพาแบมกลับบ้านเลยก็ได้นะ ยูคจะได้ทำงานกับเพื่อนไง”เสียงใสที่ตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่สว่างไสวราวกับดอกไม้ที่เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ รอยยิ้มที่ไม่ว่าใครได้พบเจอก็ไม่สามารถละสายตาจากไปได้แต่หน้าเสียดายที่น้อยคนนักจะได้พบเจอ
“บ๊อกๆๆๆๆ”เสียงเห่าเล็กๆของลูกหมาตัวน้อย ที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนแต่ดูจากปลอกคอที่เจ้าตัวน้อยสวมอยู่แล้วเจ้าลูกหมาตัวนี้ไม่ใช่หมาจรจัดแน่นอน
“ยูคยอม หมาน้อย”แบมแบมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปด้านล่างตามเสียงเห่าที่ได้ยิน มือบางปัดปายไปอย่างสเปะสปะราวกับจะหาต้นตอของเสียง ยูคยอมมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มก่อนจะก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวน้อยขนฟูส่งให้พี่ชาย
“ตัวนิ่มจัง”บอกเสียงหวานไม่แพ้รอยยิ้มที่หวานหยด
“เชี่ยยยยยยยยยูคเห็นหมากูมั้ยมันวิ่งมาทางนี้เหละ น่ารัก”น้ำเสียงคุ้นเคยที่ร้องมาจากทางด้านหลังก่อนที่จะหันไปเจอกับ ชเว ยองแจ เพื่อนสนิทที่ไม่คิดว่ามันจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ชเว ยองแจบอกกูมาตอนที่มึงโทรหากูมึงอยู่หน้าสวนสาธารณะแล้วใช่ใหม T^T
“ยองแจบอกกุมาว่าทำใมมึงมาถึงเร็ว”
“หลบไปเชี้ยยูคกูว่ากูเจอนางฟ้าของกูละ”ไม่ทันได้ฟังคำถามของเพื่อน ร่างอวบที่แว่นตาหนาเตอะสวมอยู่บนหน้าก็ผลักเพื่อนตัวสูงไปให้พ้นทางก่อนจะก้าวไปหานางฟ้า(?)ของตัวเองที่มีลูกหมาตัวน้อยขนฟูอยู่ในอ้อมแขน อุ่ยนางฟ้าขโมยหมา ยองแจจำได้เหอะว่านั่นน่ะไอ้ตัวป่วนประจำบ้านที่เมื่อกี๊วิ่งรถจากรถมาก่อนที่รถจะจอดสนิทซะอีก =_=”
“เอ่ย นั่นเจสันหมาผมเองครับ”เก็กเสียงหล่อเพื่อจะได้ใจ ดันแว่นขึ้นอีกนิดเพื่อนางฟ้าคนสวยเงยหน้าขึ้นมาจะได้เจอกับรักแรกพบ ไม่หล่อ และรวยมากอย่างคุณหนูชเวทำไม่ได้นะบอกเลย
“อ๊า น้องหมาของคุณหรอครับผมคืนให้”เสียงหวานบอกพร้อมกับยื่นเจ้าตัวนิ่มขนฟูในอ้อมกอดคืนให้เจ้าของ เอ๊!!!! ยองแจว่ายองแจยืนอยู่ด้านข้างนะทำใมนางฟ้าตัวน้อยถึงได้ยื่นเจสันไปข้างหน้าละ หรือนางฟ้าจะสายตาสั้นเอาแว่นยองแจไปใส่ได้นะยองแจไม่หวง ><
เมื่อเห็นแบบนั้น ยูคยอมจึงเดินเข้าไปคว้าหมาตัวน้อยมาส่งให้เพื่อนแทนพี่ชายของตน
“อะไรของมึงเนี่ย เชี่ยมี่”ถามเพื่อนพร้อมกับเอื่อมมือไปรับหมาน้อยมาไว้ในอ้อมแขน ไม่ให้ถามได้ไงในเมื่อมันคืนเจสันให้เกือบกระแทกแว่น ถ้ามึงจะขนาดนี้ก็โยนใส่หน้ากูซะเถอะ =_=”
“เลิกมองพี่ชายกูได้แล้ว ยองแจบอกกูมาทำใมมึงถึงได้มาถึงไวขนาดนี้”ยูคยอมเอ่ยถามเพื่อนสนิทอีกครั้งพร้อมกับพยายามอย่างมากที่จะกั้นพี่ชายตัวเล็กของตัวเองให้พ้นจากสายตาเพื่อนเพื่อให้มาตอบคำถามของตัวเองเสียก่อน ยองแจได้แต่ถอนหายใจ เชี่ยมี่แม่งขัดฟิน
“มึงนิ ตอนที่กูโทรหามึงอ่ะ พอดีว่ากูกับพี่ชายกูอยู่แถวนี้พอดีพอมึงบอกปุ๊บกูเลยมาถึงปั๊บไง หลบไปดิ”บอกเสร็จก็พลักเพื่อนตัวสูงไปอีกทางแล้วยันเจสันให้มัน ก่อนจะถลาไปหาพี่ชายเพื่อนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม
“พี่เป็นพี่ชายเชี่ย เอ้ย ยูคยอมหรอครับ ผมเป็นเพื่อนยูคยอมที่โรงเรียนเองครับ ชื่อ ชเว ยองแจครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”เอ่ยแนะนำตัวพร้อมกับยื่นมือออกไปตรงหน้า ก่อนจะเลิกสายตาขึ้นมองพี่ชายตัวเล็กของเพื่อนที่ไม่ยอมเอื้อมมือมาสัมผัสทำความรู้จักกันแบบสากล เอ่....หรือต้องทำความเคารพแบบเกาหลีแท้ ต้องโค้งให้อะไรอย่างงี้
“เอ่อ...เอ่อ สวัสดี เราชื่อแบมแบมไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้เราอายุมากกว่ายูคยอมแค่ปีเดียวเอง”บอกเสียงเบา พร้อมกับแย้มรอยยิ้มให้อีกคน อึดอัดแบมแบมกำลังอึดอัด ยูคยอมจะอายใหมที่มีพี่ชายมองไม่เห็นแบบแบมแบม คิดแล้วก็พาให้แววตาหม่นลงโดยไม่รู้ตัว
“แบมแบม นี่เพื่อนยูคเองชื่อยองแจ”บอกพร้อมกับจับมือนิ่มให้มาสัมผัสมือเพื่อนที่ยกค้างอยู่ ยองแจได้แต่หันไปสบตาเพื่อน ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ ว่าทำใมอีกคนถึงไม่ยกมือมาสัมผัสมือเค้าหรือแม้กระทั้งส่งเจสันให้เค้าไม่ถูกทาง
“ยินดีที่ได้รู้จักแบมแบม”บอกเสียงใสพร้อมกับแกว่งมือเล็กไปมา จนคนตัวเล็กได้แต่ส่งยิ้มหวานให้ รอยยิ้มที่ทำเอาเด็กแว่นอย่างยองแจได้แต่มองแล้วนิ่งค้าง รอยยิ้มที่เรียกได้ว่าหวานเสียจนสามารถสะกดใครต่อใครได้อย่างไม่ยาก เพราะน่ารักขนาดนี้นี่เอง ไอ้ยูคถึงไม่ได้บอกใครว่าตัวเองมีพี่ชาย เชี่ยมี่แม่งงก ชิร์
แต่ใครจะรู้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ยองแจกับยูคยอมเท่านั้นที่ได้เห็นรอยยิ้มแสนหวานจากคนตรงหน้า แต่กลับมีอีกคนที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่งเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของอีกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าน้องชายของตน ราวกับพบเจอดอกไม้บอบบางแสนสวยที่อยู่กลางป่าลึก ทั้งงดงาม ทั้งหอมหวาน ชวนอยากจะเด็ดใส่โหลแก้วแล้วคอยเฝ้าดูแล ทนุถนอมอยู่เพียงคนเดียว มาร์ค ต้วน กลืนน้ำลายลงคอ พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกจังหวะการเต้นของหัวใจให้กลับเป็นปกติ ก่อนขายาวจะก้าวเข้าไปหาบุคคลทั้งหมด
“แฮ่ม เอ่อ ยองแจเจอเจสันใหม”มองอยู่ไกลๆว่าน่ารักแล้ว แต่พอได้มองใกล้ๆ มาร์คบอกได้คำเดียวว่าคำว่านักรักยังน้อยไป
เพราะเสียงที่ไม่คุ้นเคย แทรกขึ้นมาทำให้แบมแบมได้แต่ดึงมือตัวเองออกจากมือของยองแจก่อนจะไปกุมทับกันไว้ที่หน้าตักเหมือนเดิม ใบหน้าหวานก้มลงอย่างคนทำอะไรไม่ถูก ไม่เคยต้องเจอคนเยอะขนาดนี้ เพราะไม่ได้ออกข้างนอกซะเท่าไรการพบเจอผู้คนจึงไม่ใช่สิ่งที่คุ้นเคยสำหรับแบมแบม
เสียงพี่ชายที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ยองแจลุกขึ้นแล้วหันไปส่งยิ้มกับพี่ชายสุดหล่อที่คงจะไปหาที่จอดรถก่อนจะเดินตามมา พร้อมกันกับยูคยอมที่หันกลับมาพร้อมกันเพื่อทำความรู้จักกับพี่ชายเพื่อน
“พี่ชาย นี่เพื่อนแจเอง ชื่อยูคยอม มี่นี่พี่กูชื่อมาร์ค”แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน ก่อนที่ฝ่ายคนอายุน้อยจะโค้งให้เพื่อนทำความเคารพ เสี้ยววินาทีที่ได้เห็นหน้ายูคยอมกลับมีความรู้สึกคุ้นเคยกับคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่คนตัวสูงจะปัดความคิดนั้นออกไป บ้าไปแล้วไอ้ยูคมึงจะไปคุ้นพี่ไอ้ยองแจได้ไงหน้าก็เพิ่งได้เจอกันวันนี้เอง
“อ่า!!! แล้วนี่ก็แบมแบม พี่ชายเชี่ยมี่เพื่อนแจเอง”บอกพร้อมยิ้มแฉ่งให้พี่
“สวัสดี แบมแบม”เสียงนุ่มทุ้มที่ได้ยินทำให้แบมแบมยินบีบกระชับมือบางของตนเองให้แน่นเข้าไปอีก น้ำเสียงที่คุ้นเคยอยากแปลกประหลาด ราวกับเคยได้ยินมานานแสนนาน
“เอ่อ...สวัสดีครับ”น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นที่ตอบกลับมาด้วยความประหม่า มาร์คไม่รู้ว่าจ้องมองคนตรงหน้าอยู่นานเท่าไร กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนที่น้องชายตัวเองมากระซิบบางอย่างข้างหู
“แบมแบมมองไม่เห็นนะ”มาร์คได้แต่พยักหน้าให้กับน้องชายว่ารับรู้ก่อนสายตาคมจะมองไปที่อีกฝ่ายอย่างต้องมนต์อีกครั้ง เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ถอนสายตาออกมาไม่ได้ จนกระทั่งน้องชายตัวสูงของอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ในภาพการมองเห็นแทน มาร์คถึงได้รู้ตัวว่าจ้องคนตรงหน้ามากเกินไป ร่างสูงได้แต่กระแอมในลำคอก่อนจะหันไปหาน้องชายตัวเอง ราวกับว่าชั่ววินาทีที่เผลอจ้องมองอีกคนเค้าเหมือนกับว่าจะลืมทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเอง
“ไหนเจสันละ”ทันทีที่ดึงตัวเองให้กลับมาอยู่ในปัจจุบัน ก็ถามหาเจ้าตัวแสบของบ้านที่วิ่งหนีมาตอนที่ยองแจเปิดประตูรถ
“นั่นไง ไอ้มี่มันถืออยู่”บอกพร้อมกับชี้ไปที่หมาน้อยที่ทำตัวนิ่งสนิทในมือเพื่อนให้พี่ชายตัวเองดู
“แล้วไม่ทำรายงานแล้วหรอ”ถามน้องเมื่อเห็นว่าเจ้าหมาตัวแสบอยู่กับใคร
“อ่า จริงด้วย เชี่ยมี่มึงไปเอารายงานที่ต้องทำมารึยัง”ประโยคหลังถามเพื่อนอีกคนจนยูคยอมแทบจะเขวี้ยงหมาในมือคืนให้มัน เพื่อนเลวกูวางสายปั๊บมึงก็มาปุ๊บมึงจะให้กูวาร์ปไปเอารายงานที่บ้านหรอคร้าฟฟฟฟฟ
“มึงจะให้กูวาร์ปไปรึไง”แล้วมันยังไม่สำนึก ยังมีหน้ามาหัวเราะกูอีก
“รออยู่นี่เหละ เดี๋ยวกูกลับไปเอามา”บอกเพื่อนตัวเองพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือเล็กของพี่ชายเพื่อจะพากลับบ้าน
“มึงจะย้อนไปย้อนมาทำใมว่ะ ก็ไปทำที่บ้านมึงก็จบแล้ว”ทันทีที่เพื่อนตัวเล็กพูดจบ สีหน้าลำบากใจจากเพื่อนก็ไม่พ้นสายตา
“ทำใม!!! หรือคราวนี้มึงซุกเมียไว้ที่บ้านจริงๆ ถึงไม่อยากให้กูไปบ้านมึงนัก นี่กูเป็นเพื่อนมึงจริงๆหรือป่าว”น้ำเสียงตัดพ้อที่ยูคยอมบอกได้เลยว่า มันตอแหล เป็นเพื่อนกันไม่รู้นิสัยมันก็ควายแล้วครับ ยูคยอมก็อยากตะโกนออกไปเหลือเกินกูก็ไม่เคยไปบ้านมึงคร้าฟฟฟเพื่อนนนนน
“ยูคยอมให้ยองแจไปทำรายงานที่บ้านก็ได้ บีไม่ว่าหรอกเดี๋ยวแบมคุยกับบีให้”แบมแบมบอกน้องชายตัวเองเบาๆ แบมแบมไม่เคยถามเหตุผลที่เจบีไม่อยากให้ใครมาที่บ้านคิดเพียงแค่ว่าบางทีเจบีอาจไม่ชอบความวุ่นวายก็ได้ แต่ไม่เป็นไรหรอกก็ครั้งนี้ยูคยอมจำเป็นจริงๆนี่นา แบมแบมไม่รู้หรอกว่ารายงานของมหาวิทยาลับยากง่ายขนาดไหน เพราะตั้งแต่มองไม่เห็นแบมแบมก็ได้แค่เจบีกับจูเนียร์ เท่านั้นที่คอยสอนวิชาความรู้ให้ แม้จะไม่ได้วุฒิการศึกษาแต่ก็รู้พอที่จะไม่ให้ใครหลอกได้
ยูคยอมได้แต่ถอนหายใจ จะไล่มันกลับไปก็เกรงใจพี่ชายมันที่หลบไปคุยโทรศัพท์อีกทาง ก็คงจะต้องเลยตามเลยซินะ
“ก็ได้ แต่ไม่เกินห้าโมงเย็นนะ แล้วมึงจะให้พี่ชายมึงกลับไปก่อนหรือจะไปรอที่บ้านกูเลย”
“ยองแจ ฉันต้องกลับก่อนนะพอดีมีประชุมด่วน นายจะอยู่ทำรายงานกับเพื่อนใช่ใหม เสร็จแล้วโทรไปแล้วกันเดี๋ยวให้คนมารับ”ไม่ทันยูคยอมจะได้รับคำตอบจากเพื่อน คนที่ไปคุยโทรศัพท์ก็กลับเข้ามาเสียก่อน ยองแจได้แต่พยักหน้าเป็นอันรับทราบก่อนที่อีกคนจะขอตัว สายตาคมจ้องมองไปที่คนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่อีกครั้งก่อนจะหันกลับไปรับเจสันจากยูคยอมแล้วเดินออกมา หากมีโอกาสเค้าก็หวังจะได้เจอกับใบหน้าหวานแล้วรอยยิ้มหวานๆนั้นอีกซักครั้งหนึ่ง........
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ครบแล้วนร้าาาาา แต่ก่อนอื่นเลย เค้าต้องขอขอบคุณคอมเม้นส์จากลีดเดอร์ทั้งสองคนมากเลย
รู้อะไรใหมเพราะคุณทั้งสองคนทำให้เรามีกำลังในที่จะแต่งเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆขอบคุณมากนะครับผม >< รักอ่ะ
ตอนแรกเค้าคิดอยู่นานเลยว่าจะเอาเรื่องนี้มาลงเลยดีใหมหรือจะรอให้ น้องแบมกับพี่มาร์คจบก่อน แต่ด้วยความใจร้อนของ
อิไรท์ก็เลยลงเลย 5555 แก่แล้วไม่เจียมก็งี่แหละเนาะ 55555 แต่พอได้มาเห็นเม้นส์ที่ให้กำลังใจเค้าแล้วบอกเลยว่า
"สู้ตายค่ะ!!!!!!!!!!!!!!!" ขอบคุณมากนร้าาาาา ซารางเฮ ม้วฟฟฟฟฟฟ
ทุกคนๆอย่าลืมเม้นส์เป็นกำลังใจให้เค้านร้าาาา ^0^
แต่งเองสงสารเอง ชีวิต ดี๊ดี๊ 55555 พระเอกกำลังจะมานะบอกเลย ><
สวดมนต์อ้อนวอน เม้นส์จงมาาาาาา เพี้ยงงงงงงงง 55555
รักลีดนร้าาาาา ปิ๊งๆๆๆ ม้วฟๆ
รักกัซรักลีดนะคร้าฟโผ้มมมมมมมมมม
ความคิดเห็น