คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สัมผัสรัก 3
เสียงของแมลงตัวเล็กที่ร้องระงมอยู่นอกบ้าน พร้อมกับอากาศที่เย็นลง บ่งบอกว่าตอนนี้ ด้านนอกอาจจะเกิดฝนตกในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่บริเวณริมหน้าต่างห้องนอนยกแขนขึ้นมาลูบแขนตัวเองเบาๆเมื่อลมฝนที่พัดผ่านหน้าต่างเข้ามาต้องผิวกาย ดวงตากลมโตที่มองเห็นเพียงแต่ความมืดมิดเหม่อมองไปทิศทางเบื้องหน้าอย่างคนใจลอย
“แบม ทำใมไปนั่งอยู่ตรงนั้นละ ยูคยอมไปไหน”เสียงอ่อนโยนที่แสนจะคุ้นเคยของพี่ชายคนที่สองของบ้านเรียกให้คนใจลอยกับมามีสติอีกครั้ง เสียงเดินแผ่วเบาเดินตรงมาหยุดข้างกาย ก่อนสัมผัสอบอุ่นจะถูกวางลงบนหัวทุยก่อนจะลูบไปมา
“เนียร์ ฝนกำลังจะตก”เสียงหวานเอ่ยบอกพี่ชายเบาๆพร้อมกับมือเล็กหันกลับมาโอบกอดเอวของ ปาร์ค จินยอง พี่ชายคนรองไว้แน่น แบมแบมไม่ชอบหน้าฝนคนทั้งบ้านรู้ดี เพราะคนตัวเล็กเกลียดและกลัวเสียฟ้าผ่าที่ดังสนั่น รวมถึงเกลียดเสียงของฝนที่มักจะทำให้การได้ยินของตัวเองลดน้อยลงไป
“งั้น แบมแบมก็ต้องไปนอนได้แล้วนะ ถ้าขืนยังนั่งอยู่ตรงนี้เดี๋ยวไม่สบายเอานะ ถูกบีจับไปหาหมอฉีดยาเนียร์ไม่รู้ด้วยนะ”จินยองบอกน้องชายตัวน้อย ก่อนอ้อมแขนแข็งแรงจะฉุดคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นยืนแล้วพาไปยังเตียงนอนของเจ้าตัว
“เนียร์ พรุ่งนี้วันเสาร์แบมให้ยูคยอมพาไปเล่นที่สวนสาธาระณะได้ใหมแบมอยากไปเล่นชิงช้า”เสียงหวานเอ่ยอ้อนพี่ชายที่กำลังห่มผ้าให้เค้าเหมือนทุกทีที่ส่งเข้านอน
“หืม ให้ยูคยอมพาไปดีใหมน่ะ”
“งื้อ เนียร์ไม่แกล้งแบมนะไม่งั้นแบมโกรธจริงๆด้วย”น้ำเสียงเง้างอนจากคนบนเตียงทำให้จูเนียร์อดไม่ได้ที่จะก้มลงไปฟัดแก้มป่องๆนั้น จนคนตัวเล็กโวยวายเสียงลั่น
“ไว้พรุ่งนี้เนียร์จะขอบีให้นะ แต่แบมรู้ใช่ใหม....”
“ถ้าแบมออกไปข้างนอก แบมต้องดูแลตัวเองดีๆ ห้ามห่างจากยูคยอมเด็ดขาด แล้วก็อะไรอีกนะ อ่อๆรู้ใช่ใหมว่าเนียร์ห่วงแบม โธ่เนียร์บอกแบมเป็นสิบๆรอบทุกครั้งที่แบมจะไปข้างนอกแบมจำได้น่า”ไม่ทันที่คนเป็นพี่จะพูดจบ เสียงเล็กๆจากคนที่นอนอยู่บนเตียงก็แทรกขี้นมาเสียก่อน จูเนียร์อมยิ้มกับท่าทีเหล่านั้น โดยไม่คิดจะโกรธเคืองซักนิดที่คนอีกคนพูดแทรกขึ้นมา ก่อนคนเป็นพี่จะก้มลงไปฝัดแก้มกลมๆนั้นอีกครั้งอย่างทนไม่ไว้ในความน่ารักของน้องชาย
“ในเมื่อรู้ว่าเนียร์เป็นห่วงแบมก็ต้องดูแลตัวเองเป็นสิบๆล้านๆเท่าเลยรู้ใหมมมม นี่แนะ”
ภาพสองคนที่เล่นกันอย่างสนุกสนานทำให้พี่ชายคนโตของบ้านที่กำลังจะออกไปทำงานได้แต่ยืนยิ้มให้กับภาพตรงหน้าอย่างมีความสุข
“อ้าวฮยอง จะไปแล้วหรอ อย่าลืมเอาร่มไปนะดูเหมือนวันนี้ฝนจะตกน่ะ”เสียงร้องทักจากน้องเล็กสุดของบ้านที่กำลังเดินขึ้นมา ทำให้แจบอมถอนสายตาออกจากภาพตรงหน้าแล้วหันมามองน้องชายแทน
“การเรียนเป็นยังไงบ้างยูคยอม”
“สบายบรึ่ยหายห่วงนะฮยอง ไม่เกินปีหน้าผมจะคว้าเกียรตินิยมมาให้ฮยองเชยชมแน่นอน”น้ำเสียงที่แสนจะมั่นใจจากน้องชายทำให้แจบอมได้แต่ส่ายหัวไปมา
“ปีที่แล้วก็เห็นแกพูดอย่างนี้เหละไอ้คยอม ฮยองยังไม่เห็นเกียรตินิยมจากแกซักวิชา”แจบอมบอกน้องชายก่อนจะปิดประตูห้องน้องชายอีกคนเบาๆ ก่อนจะหัวเราะให้กับความขี้อวดของยูคยอม
“โฮ้ๆๆๆๆๆ ฮยองของแบบนี้เราต้องมีหวังดิ เดี๋ยวซักวันมันก็เป็นจริงขึ้นมาเองละน่า”น้องเล็กที่ร่างกายไม่ได้เล็กตามบอกพี่ชายพร้อมกับเบี่ยงตัวให้อีกคนเดินลงบันไดไป
“ฮยองไม่ไปหาแบมแบมก่อนหรอ เดี๋ยวก็งอแงหรอก”เอ่ยถามพี่ชายเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังจะออกไปทำงานโดยไม่ได้ไปหาอีกคนก่อนออกไปทำงานเช่นเคย
“ไม่ละ พรุ่งนี้ก็เจอกัน”บอกพร้อมกับยกมือให้น้องชายคนสุดท้อง ก่อนจะเดินออกไป ยูคยอมพ่นลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะแย้มยิ้มให้กับความชิคของพี่ชาย ก่อนจะเดินตามลงไปเพื่อล็อคประตู นี่ก็อีกคน ทำใมถึงไม่ยอมดูแลตัวเองกันนะ บอกอยู่แท้ๆว่าฝนจะตกยังไม่เอาร่มออกไปอีก
ผับ GOT 23:00
แสงไฟสลัวๆพร้อมกับเสียงดนตรีที่ดังกระหึมเป็นจังหวะสนุกสนาน เรียกเหงือจากนักท่องราตรีที่ออกไปวาดรวดลายกลางฟลอร์ได้เป็นอย่างดี ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิทที่เจ้าตัวสวมใส่เป็นเครื่องแบบประจำของการทำงานมองภาพตรงหน้าอย่างเคยชิน การทำงานเป็นการ์ดให้กับสถานท่องเที่ยวยามค่ำคืนทำให้เขาเห็นโลกบิดเบี้ยวใบนี้ได้หลายๆด้าน
“เฮ้ย เจบี เฮียเรียกน่ะ”เสียงเรียกจากเพื่อนร่วมงาน ทำให้เจ้าของชื่อที่ขึ้นมาสูดบุหรี่ที่บริเวณชั้นสองของร้านพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ ก่อนจะกดม้วนบุหรี่ลงกับที่ทิ้งแล้วเดินไปทางด้านหลังของบาร์ ผับGOT นับว่าเป็นผับที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่ของนักเที่ยวราตรีค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะกับเหล่าลูกคุณหนูทั้งหลาย เจบีคิดว่าเค้าโชคดีที่ได้รู้จักคนดีๆอย่างชานชองที่เจ้าของผับ คนที่คอยช่วยเหลือเค้าในหลายๆด้านมาตั้งแต่ต้น ร่างสูงหยุดอยู่หน้าห้องทำงานของเจ้านายก่อนที่มือหนาจะเคาะห้องเป็นสัญญาบอกคนด้านในว่าเค้ามาถึงแล้ว
“เข้ามา”สิ้นเสียงอนุญาต ชายหนุ่มก็เดินเปิดประตูด้านในก่อนจะพบกับเจ้าของผับที่นั่งอ่านบัญชีของผับอยู่ที่โต๊ะทำงาน หากใครที่คิดว่าชายหนุ่มนามว่าชานชองจะเปิดเจ้าของกิจการที่อ้วนลงพุงเหมือนตาแกตัณหากลับที่ทำงานเกี่ยวกับผับกับบาร์ เจบีบอกได้คำเดียวว่าใช้ไม่ได้กับคนตรงหน้าของเค้า เพราะชานชองเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าตรงข้ามกับที่พูดมาทั้งหมด
“เฮียให้คนไปตามผมมา มีอะไรให้ผมไปทำรึเปล่า”คำถามที่ส่งมาจากลูกน้องคนสนิท ทำให้ชานชองหัวเราะในลำคอ เจบีนับเป็นลูกน้องที่รู้ใจเค้าที่สุดในบรรดาการ์ดทั้งหมด ทั้งมันสมองที่เฉลียวฉลาด ทั้งฝีมือการต่อสู้ที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยม จนหลายครั้งที่ชานชองอดไม่ได้ที่จะทาบทามให้ครตรงหน้าไปดูแลสาขาสองที่อยู่ในย่านอับกูจองแทนเค้าอยู่เรื่อยๆ แต่เจ้าของผับก็ต้องพบกับความผิดหวังอยู่ร่ำไป เมื่อลูกน้องคนสนิทยืนยันว่าต้องการเพียงต่ำแหน่งการ์ดที่คอยดูแลความเรียบร้อยในผับเท่านั้นก็พอ แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากที่ ที่นี่ปิดแล้ว เจบีมักจะขับรถไปตรวจบัญชีที่อับกูจองให้เค้าอยู่เสมอๆ
“เมื่อไรแกจะไปดูแลสาขาที่อับกูจองให้เฮียเต็มตัวซะทีว่ะ เฮียเพิ่มเงินให้แกเป็นสามเท่าเลยนะเว้ย”ชานชองยื่นข้อเสนอเดิมๆให้กับเจบีอีกครั้ง จนอีกคนได้แต่ถอนหายใจออกมา
“ไม่เอานะเฮีย ผมบอกแล้วไงต่อให้ห้าเท่าผมก็ไม่ไปหรอก แค่ผมไปดูบัญชีให้เฮียทุกวันก็พอแล้วที่นั่นเฮียให้ดงอุลดูแลไปน่ะดีแล้ว”เจบียอมรับว่าครั้งหนึ่งเค้าเคยหวั่นไหวกับข้อเสนอของคนตรงหน้า เพราะเงินที่เพิ่มมากขึ้นมันจะทำให้เค้ารักษาแบมแบมให้หายเป็นปกติได้ไวขึ้น แต่ก็อีกนั่นเหละเมื่อเค้าปรึกษาหมอที่คอยดูแลแบมแบมแล้วเรื่องการรักษาดวงตา กลับได้คำตอบที่ว่าต่อให้มีเงินมาแค่ไหนก็ไม่อาจรักษาดวงตาของแบมแบมให้หายเป็นปกติได้ดั่งเดิม เม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นกับความปลอดภัยของครอบครัว เค้าเลือกอย่างหลังดีกว่า อับกูจองสถานที่ที่บุคคลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนในครอบครัวอาศัยอยู่ก่อนที่จะพังทลายย่อยยับไปเพราะน้ำมือของคนที่เห็นแกตัวที่เลือกจะขายข้อมูลให้กับคนที่ทำลายพ่อแม่เค้าแบบนั้น ถ้าเลือกได้เค้าไม่อยากเฉียดเข้าไปใช้อากาศร่วมด้วยเลยซักนิด
“ย่าห์ แกนี่มันใจแข็งจริงๆให้ตายเถอะ”
“เฮียเรียกผมมาแค่นี้เหรอ”เอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายเอาแต่หัวเราะ ให้กับตนเอง
“เอ่อ จะไปไหนก็ไปๆเบื่อขี้หน้าแกชะมัด ดื้อด้านไม่มีเปลี่ยน”บอกพร้อมกับโบกมือเป็นสัญญาณให้อีกคนออกไปจากห้องทำงานของตนได้แล้ว เอาว่ะเต๊าะมันไปทุกวันเดี๊ยวมันก็คงใจอ่อนเองนั่นเหละ
“ไอ้มาร์คคคคค กลับมาถึงก็ดริ๊งค์เลยนะถึง”เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มเจ้าของชื่อ ที่นั่งยกแก้ววอคก้าตั้งแต่มาถึงให้หันกลับไป มาร์คส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทที่บินมาเกาหลีพร้อมกันแต่เจ้าตัวขอตัวกลับบ้านไปหาครอบครัวก่อน หวัง แจ็คสัน ทายาทบริษัทซอฟแวร์อันดับตนๆของประเทศ แต่เจ้าตัวกลับไม่สนใจธุรกิจของครอบครัวกลับเลือกที่จะมาเป็นหุ้นส่วนกับเค้าเสียมากกว่า ‘ทำงานกับมึงสนุกกว่า’เหตุผลง่ายที่เจ้าตัวใช้เป็นเหตุผลที่ตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัทเค้าที่อเมริกากว่า 50%
“มาทำใมกูแค่ชวนตามมารยาท”โธ่ไอ้หอยโข่ง กูละอยากรู้นักว่าหมาตัวไหนที่โทรไปเร่งกูหยิกๆให้รีบแต่งตัวแล้วออกมาท่องราตรีเป็นเพื่อน แทนที่กูจะได้นอนดูเทเลทับบี้อยู่ที่บ้าน ก็ต้องมาอดนอนให้ใต้ตาคล้ำเป็นเพื่อนมึง
“แล้วมึงนึกไงมาเที่ยวผับ ออนเดอะร็อค”ถามเพื่อนสนิทพร้อมกับหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเนอร์ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่ด้านหน้า
“เดี๋ยวกระเพาะก็พังหรอกมึง”มาร์คตอบอย่างไม่ได้สนใจในคำถามของเพื่อนซักนิด ก่อนจะยกแก้วของตัวเองจรดริมฝีปาก แต่ก็ถูกมือของเพื่อนสนิทยกห้ามไว้
“มึงกี่แก้วแล้วเนี่ย เดี๋ยวก็เมาหรอก ห่านเมาที่ไรลำบากกูทุกที”แจ็คสันบ่นพร้อมกับดึงแก้วในมือเพื่อนออก เห็นมันหน้าแดงๆตั้งแต่เดินเข้ามาเหละ แต่พอเข้ามานั่งใกล้ๆเท่านั้นเหละ หือ นี่มึงเอาน้ำแดงราดตัวเองหรือไง เพราะวันนี้มาร์คใส่มาเพียงเสื้อกล้ามสีขาวตัวบางพร้อมกับคาดิแกนสีน้ำเงินเข้มคลุมทับไว้เท่านั้น ทำให้แจ็คสันสังเกตได้ง่ายๆว่าตอนนี้เพื่อนของเค้าคนนี้เมาเสียแล้ว กูละหน่ายยยยเมาที่ไรลำบากกูคอยเก็บศพทุกที
“เชี่ยมาร์คมึงเดินดีๆดิ”แจ็คสันบอกเพื่อนที่ตอนนี้เป็นเค้าที่ต้องรับผิดชอบพามันที่เดินยังไม่ตรงทางไปส่งที่คอนโดของมันเอง เป็นไปตามคาด เมาอย่างหมาเพื่อนกู มีใครเคยบอกมึงใหมถึงหล่อให้ตายสภาพตอนเมามึงก็ไม่ได้หล่อตามน่ะครับ โดยเฉพาะตอนที่มึงเพ้ออยู่แบบนี้
“คริสตัล ทำใมคุณต้องทิ้งผมไป กลับมาเถอะนะกลับมาซิ”เสียงคนเมา ที่พร่ำเพ้ออย่างไม่รู้ตัวทำให้แจ็คสันได้แต่หน่าย คริสตัล หญิงสาวที่มาร์คเคยคบหาอย่างจริงจังในช่วงที่พวกเค้าอยู่ที่อเมริกา คนที่มาร์คพร้อมที่จะจริงจังถึงขั้นแต่งงาน ผู้หญิงที่ทิ้งเพื่อนเค้าไปแต่งงานกับเศษฐีน้ำมันอย่างไม่ใยดี มาร์คเสียหลักไปพักใหญ่จนเค้าต้องเข้ามาจัดการธุรกิจให้ จนกระทั่งมันเริ่มกลับเข้ามาทำงานนั่นเหละ ในตอนนั้นแจ็คสันรู้สึกดีใจที่เห็นเพื่อนรักกลับมายืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่แบบนั้นหลังจากมาร์คกลับเข้ามาทำงานเพื่อนเค้าคนนี้กลับใช้เวลาทั้งหมดไปงานเท่านั้น ไม่อย่างนั้น ต้วน อินเตอร์กรุ๊ป คงไม่ทำรายได้อย่างถล่มทลายถึงเพียงนี้ ยอดกำไรที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 10% ภายในเวลาสามเดือนก็เป็นเครื่องการันตีได้อย่างดีว่าเพื่อนเค้าตรงนี้มีความสามารถเพียงใด แต่มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพมากนักเพราะมันเอาแต่ทำงานไม่หยุด
ว่างปุ๊ปมันก็ลากเค้าเข้าหาสุราทันที ถามร่างกายมึงบ้างใหมว่าไหวป่ะ เบ้เบ้ หวังละเพลีย
“เดี๊ยวมึงขับรถมันกลับไปที่บ้านใหญ่ก่อนละกัน ส่วนตัวมันเดี๋ยวคืนนี้ให้ไปนอนกับกูก่อนแล้วกัน ขี้เกียจไปเช็ดอ้วกให้ที่คอนโดมัน”แจ็คสัน สั่งแทคยอนที่ยืนคอยเจ้านายอยู่ที่รถ พร้อมกับยื่นกุญแจให้อีกฝ่ายขับออกไป ก่อนจะหันกลับไปมองคนเมาที่นอกหลับอยู่เบาะหลัง
“ถ้ามึงอ้วกใส่รถกูนะเชี้ยมาร์คกูจะให้มึงซื้อรถคันใหม่ให้กู”บอกพร้อมกับส่ายหน้าให้เพื่อนสนิทของตัวเองก่อนจะขึ้นไปประจำด้านคนขับแล้วมุ่งหน้าสู่คอนโดตัวเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาอีกตอนหนึ่งแล้ว อย่าลืมติชมกันได้นะครับผมมมมมม ><
รักกัซรักลีดนร้าาาาม้วฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ความคิดเห็น