ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    close my eyes สัมผัสรัก fic markbam

    ลำดับตอนที่ #2 : สัมผัสรัก 2

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 58





    “คุณมาร์ค่ะคุณมาร์ค รบกวนให้สัมภาษณ์กับทางเราด้วยค่ะ”เสียงของนักข่าวที่ดังแซ่แซ่งไปทั่วพร้อมกับเสียงลั่นซัตเตอร์ที่รัวมาจากทุกทิศเกิดขึ้นทันทีที่ปลายรองเท้าหนังขัดมันของร่างสูงเจ้าของสรรพนาม”คุณมาร์ค”ที่ใครๆต่างเรียกหา ใบหน้าหล่อเหลาราวกับปฎิมากรรมชั้นเลิศปราศจากรอยยิ้ม ริมฝีปากหนากดลงอย่างเบื่อหน่ายที่ต้องมาให้งานเลี้ยงฉลองการเซ็นต์สัญญากันของสองบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ ระหว่าง ต้วน อินเตอร์กรุ๊ป กับ เนเวอร์ คอปเปอร์เรชั่น   หึ งานเลี้ยงที่ไม่ต่างอะไรกับการใส่หน้ากากเข้าหากัน 

     


    “จริงหรือเปล่าค่ะ คุณมาร์ค  ที่คุณมาร์คกับคุณยองจีจะหมั้นกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ที่หมั้นกันนี่เพราะเรื่องธุรกิจรึเปล่าคะคุณมาร์ค”ในบางครั้งสังคมก็แสนน่าเบื่ออย่างนี้เสมอ

     


              อิม ยองจี คุณหนูแห่งตระกูลอิม คุณหนูแห่งเนเวอร์ คอปเปอร์เรชั่น  คนที่มาร์คไม่เคยแม้แต่เห็นหน้าซักนิดแต่กลับมีข่าวที่ชวนน่าขำออกมา  มาร์คหันหน้ามามองสบตากับบอดี้การ์ดคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างกาย เพียงแค่สบตาอ๊ค แทคยอน ก็รู้ได้ทันทีว่าคนเป็นเจ้านายต้องการอะไร 

     


    “ตอนนี้คุณมาร์คจะไม่ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้นหากใครต้องการข่าวอะไรทางเราจะจัดการแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่งนะครับตอนนี้ขอทางให้คุณมาร์คเข้าไปในงานด้วยครับ”สิ้นคำคนสนิทเหล่าบรรดาชายชุดดำที่คอยขนาบข้างชายหนุ่มคอยๆกั้นนักข่าวให้ถอยห่างเพื่อเปิดทางให้คนตัวสูงได้เดินเข้าไปในงาน

     


    “อ้าว ตามาร์ค มาพอดีเลย นี่มาทำความรู้จักกับคุณอาจองกุกเค้าหน่อยซิ”เสียงเรียกจากมารดาที่ยืนอยู่ในชุดราตรีสวยงามสง่าเหมาะสมสำหรับตำแหน่งนายหญิงตระกูลต้วนเอ่ยเรียกลูกชายเมื่อเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาในงาน  ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขึ้นไปกว่าเดิมเมื่อเห็นว่ามารดาไม่ได้ยืนอยู่เพียงลำพังอย่างเช่นที่เห็น เมื่อตอนนี้ข้างกายของแม่กลับมีหญิงสาวในชุดราตรีสีชมพูยาวกรอมเท้า มาร์คยอมรับว่าคนตรงหน้าเป็นคนสวย ยิ่งท่าทีเอียงอายแบบนั้นยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูมีเสนห์อย่างหญิงสาวผู้ไร้เดียงสา หากแต่ไม่ได้ทำให้หัวใจของทายาท ต้วน อินเตอร์กรุ๊ป หวั่นไหวแต่อย่างใด




    “อ่า คุณจองกุกค่ะนี่ตามาร์คคะลูกชายคนโตของดิฉันเอง ปกติจะบริหารงานอยู่ที่บริษัทในเครือในฝั่งของยุโรปนะค่ะ นี่พ่อเค้าเรียกตัวกลับมาให้มาช่วยงานที่บริษัทแม่ที่อยู่ที่โซลแทนถึงได้กลับมา ไม่อย่างนั้นไม่ยอมกลับง่ายๆหรอกค่ะ”เสียงหวานที่แสนคุ้นเคยของมารดาที่เอ่ยกับชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ในวงสนทนา ทำให้มาร์คก้มลงทำความเคารพคนอายุมากกว่าอย่างเสียไม่ได้  ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ค่อยได้มาที่เกาหลีบ่อยนักแต่วงการธุรกิจแล้ว ชื่อเสียงของ อิม จองกุก ก็ใช่จะมีโปรไฟล์ที่ดีนัก มาร์คไม่เข้าใจพ่อของตัวเองซักนิดว่าทำใมถึงต้องการที่จะเซ็นต์สัญญากับบริษัทนี้นัก บริษัทที่มีเบื้องหลังที่ไม่น่าพิสมัย

     


    “สวัสดีๆตามาร์ค ไม่ได้เจอกันนานนี่กลายเป็นหนุ่มหล่อเหลาเอาการเชียวนะ”น้ำเสียงอารมณ์ดีของจองกุกที่ส่งมาทักทาย ทำให้มาร์คยิ้มรับกลับคำชมเหล่านั้นตามมารยาท 

     


    “เออ!!!! นี่ ยองจีลูกสาวลุงเพิ่งจะเรียนจบมาหมาดๆน่ะ นี่อยากจะเข้าไปช่วยลุงทำงานจะแย่อยู่แล้วแต่ลุงเองนั่นเหละอยากให้เค้าพักผ่อนซะก่อน คนรุ่นใหม่ไฟแรงก็ยังงี้เหละ 555”คำบอกเล่าที่เอ่ยขึ้นพร้อมกับดึงหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างแม่ของเค้าให้ออกมายืนตรงหน้า

     


    “สวัสดีค่ะพี่มาร์ค”น้ำเสียงหวานเล็กส่งคำทักทายมาให้ ทำให้มาร์คได้แต่พยักหน้ารับทราบ  นี่นะหรอยองจีที่นักข่าวด้านนอกบอกว่าจะเป็นคู่หมั้นของเค้า

     


    “ผมต้องการคำอธิบาย  รบกวนแม่ช่วยไปคุยกับผมด้านนอกหน่อย”มาร์คเลือกที่จะทำเพียงพยักหน้าให้กลับคนที่แนะนำตัวเองไปเมื่อครู่ ก่อนจะหันกลับไปคุยกับมารดาของตนเองแทน

     

            

              คนเป็นแม่ทำได้แต่เพียงยิ้มรับก่อนจะขอตัวจากแขกของตนทั้งคู่ ก่อนจะเดินนำลูกชายออกมายังระเบียงด้านข้างที่ค่อนข้างจะปลอดผู้คนแทน

     


    “มีอะไรหรือป่าวตามาร์ค”ใบหน้าหวานที่แม้จะวัยจะล่วงเลยเข้าสู่เลขห้าแต่กลับคงไว้ซึ่งความงามและความอ่อนวัยไม่มีเปลี่ยน  เอ่ยถามลูกชายคนโตด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

     


    “ทำใมถึงได้มีข่าวว่าผมกำลังจะหมั้นกับคุณหนูแห่ง เนเวอร์  คอปเปเรชั่นละครับ”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจ  พร้อมปากบางนั่นเบะออกอย่างเอาแต่ใจ   หากนักข่าวได้มาเห็นภาพนี้คนจะตกใจกันน่าดู  ทายาทแห่ง ต้วน  อินเตอร์กรุ๊ป  ชายหนุ่มที่ต่างถูกขนานนามว่าเจ้าชายน้ำแข็งแห่งวงการธุรกิจ เพราะไม่เพียงแต่การตัดสินใจที่เฉียบขาด และเยือกเย็น จนเป็นที่น่ากลัวที่ว่าเด็กอายุเพียงยี่สิบปลายๆจะมีความสามารถถึงเพียงนี้  แต่เวลานี้เจ้าน้ำแข็งกลับเป็นเพียงเด็กน้อยตัวโตที่แสนจะเอาแต่ใจเมื่ออยู่ต่อหน้ามารดาของตน   มาดามต้วนได้แต่ยิ้มให้กับลูกชายจนเจ้าตัวได้แต่ยู่หน้าลงไปอีก

     


    “ไม่เอาน่า  อี้เอิ้นลูกเองปีนี้ก็ยี่สิบเจ็ดแล้วนะอีกสามปีก็จะสามสิบแล้ว  แม่ว่ามันก็ถึงเวลาแล้วนะที่ลูกชายของแม่จะมีคนเข้ามาดูแลซักที”เสียงหวานเอ่ยตอบลูกชายพร้อมกับมืออิ่มยกขึ้นลูบหน้าลูกชายตัวเองเบาๆ

     


    “ไม่เอานะแม่อย่างแกล้งผมแบบนี้สิครับ  เพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเองครับยังเหลือเวลาอีกเยอะนะครับแม่ตอนนี้ผมยังสนุกกับงานกับชีวิตโสดอยู่เลย”มาร์คเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ จนผู้เป็นแม่ลดมือที่ลูบใบหน้าหล่อเหลาไปฝาดเบาๆที่ต้นแขนของลูกชาย

     


    “โอ๊ย   แม่ครับผมเจ็บ”คนตัวสูงร้องออกมาพร้อมกับมือหนาที่ลูบแขนตัวเองราวกับเจ็บหนักหนา ทำให้ผู้เป็นมารดาหัวเราะเบาๆ ดูซิร้องราวกับเจ็บหนักหนาแต่หน้าตาเนี่ยตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

     


    “ตกลงเรื่องหมั้นนั่นคืออะไรครับแม่”มาร์คถามมารดาตัวเองอีกครั้ง 

     


    “ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ  นักข่าวก็เขียนข่าวกันไปเรื่อยนะ สงสัยเพราะสองบริษัทตกลงเซ็นต์สัญญากัน ก็เลยเอาเรื่องของลูกๆมาเชื่อมโยงกัน”อธิบายเสียงอ่อนให้ลูกชายได้ฟัง  คิ้วเข้มของมาร์คขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจนัก

     


    “ไม่เอาน่าอย่าทำหน้าอย่างนั้นซิ  ฝ่ายนั้นเค้าเป็นผู้หญิงเค้าเป็นฝ่ายเสียหายแม่ยังไม่เห็นเค้าเดือนร้อนกับเรื่องนี้เลย เห็นแต่ปล่อยให้นักข่าวเค้านั่งเทียนเขียนกันต่อไป”แม้น้ำเสียงจะอ่อนหวานไม่เปลี่ยนแต่มาร์คก็รู้ได้ด้วยตนเองว่า แม่ไม่ได้ปลื้มใจนักกับข่าวแบบนี้

     


    “พ่อกับน้องละครับ”มาร์คเอ่ยถามหาคนอีกสองคนที่ตั้งแต่เค้ากลับมาจากอเมริกาก็ยังไม่เห็นบุคคลอันเป็นที่รักของเค้าอีกสองคน

     


    “ฮื้อ  อย่าให้แม่พูดเลยสองคนนั้นน่ะพอพ่อเซ็นต์สัญญาเสร็จก็หายตัวออกจากงานไปทันทีนี่ก็ให้แม่รับหน้าอยู่คนเดียว” นาอึน ได้แต่เอ่ยฟ้องลูกชายคนโตของตัวเองทันทีเมื่อพูดถึงอีกสองคนที่ปล่อยให้เธอรับหน้าแขกในงานอยู่เพียงคนเดียว  ส่วนทั้งสามีและก็ลูกชายคนเล็กของเธอนะหรอสงสัยคงจะอยู่ห้องใดห้องหนึ่งของโรงแรมแล้วคงกำลังเล่นเกมกันอยู่นั่นเหละ 

     


    “ทำเหมือนกับไม่เต็มใจทำสัญญา”ชายหนุ่มบอกขึ้นมาลอยๆพร้อมกับมือหนาล้วงโทรศัพท์เพื่อโทรหาน้องชายที่ตนเองทันที่ 

     

              คำพูดที่ลอยๆที่ออกมาจากปากของลูกชายคนโต  ทำให้นาอึนได้แต่ลอบถอนหายใจ  บางทีเหตุผลบางอย่างอาจยังไม่ถึงเวลาที่สมควรบอก  ดวงตาหวานได้แต่เหม่อลอยออกไปยังท้องฟ้าสีใสเบื้องบน วันนั้นท้องฟ้าก็ใสแบบนี้  สว่างสดใสจนเธอไม่ทันได้เตรียมใจว่าจะสูญเสียเพื่อนสนิทที่รักมากที่สุดไป   นาอึนได้แต่หลับตาแล้วปล่อยให้ภาพความทรงจำไหลผ่านไปราวกับสายน้ำ  บางที่บางคำถามอาจไม่ใช่เธอที่เป็นคนตอบแต่อาจจะเป็นกาลเวลาก็ได้ที่จะให้คำตอบในคำถามนั้นเอง

     

     

    “ย่าห์ ชเว  ยองแจ  นายกับพ่ออยู่ที่ไหนกันกลับเข้าในงานเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นฉันจะกลับละ”เสียงนุ่มทุ้มของลูกชายคล้ายจะดึงสติของเธอให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ก่อนจะแย้มยิ้มให้กับภาพตรงหน้า  น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเธอมีลูกชายสองคน..........


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    คิดซักว่ามันเป็น intro ทั้งของมัคคึๆกับทั้งของแบมแบมเลยนร้าาาาาาาาา


    รักกัซรักลีดนะคร้าบบบโผ้มมมมมมมมม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×