ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ออกเดินทาง ~ปารีส วันที่ 1~
////Part 2////
ผมหันไปมองกระเป๋าเป๋สีเหลืองใบใหญ่ด้วยความรุ้สึกตื่นเต้น
อีกไม่กี่นาทีรถบริษัทจะเข้ามารับ แล้วผมก็จะได้เริ่มต้นออกเดินทาง
ความคิดนั้นทำให้ผมเริ่มต้นเช็คทุกอย่างอีกครั้ง
เสื้อผ้า ของใช้ อืม..เอาอันนั้นไปด้วยดีมั้ยนะ เอ๊ะ..อันนี้เพิ่มด้วยน่าจะดี
เพราะอย่างนั้นเมื่อรถบริษัทมาถึง
กระเป๋าผมถึงขยายขนาดออกไปอีก
ผมถอนหายใจเฮือกเมือยกน้ำหนักมหาศาลขึ้นไหล่
เอาออกดีมั้ยนะ~ผมคิด
แต่เหมือนมันจะช้าไปเพราะทีมงานเร่งอีกครั้ง
ผมจึงต้องออกแรงแบกเป้ใบใหญ่เดินไปขึ้นรถบริษัีท
ผมยิ้มให้ทีมงาน ก่อนจะเดินไปหาทาคาคิ
"ว่าไง พร้อมมั้ย" ยูยะยิ้มกว้างให้ผมดวงตาเป็นประกาย
"อืม" ผมตอบรับ
ผู้กำกับเดินเข้ามาคุย ว่าจะเปิดตัวยูยะก่อน แล้วผมถึงเดินเข้าไป
เราซักซ้อมคิว กับรายละเอียดเล็กน้อย เพราะเขาต้องการความสดสมจริง
ต้องแข่งกับเวลาด้วยไม่งั้นเราก็จะตกเครื่อง
"5 - 4 - 3- 2- 1 แอคชั่น"
ผมมองยูยะที่ยิ้มขี้เล่นอยู่หน้ากล้อง
ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาเมื่อเห็นสัญญาณมือของผู้กำกับ
ผมแบกเป้ใบใหญ่เขาไปหาเขาที่ทำตาโต
"พอแบกกระเป๋าขึ้นมา จู่ๆก็รู้สึกไม่อยากไปขึ้นมาละ"
"หนักมาก" ผมพูด ยูยะหัวเราะขำ
"นี่ก็เป็นครั้งแรกเนอะ กับการไปปารีส ชั้นกับจิเน็น" ยูยะ
"แต่ว่าเราก็เคยไปเที่ยวกัน 2 คนนะ ตั้งแต่ก่อนเดบิวส์ ที่ชิบุย่า" ผมพูด
เราพยายามไม่คิดถึงกล้องที่กำลังถ่ายอยู่และพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ผมก็แอบขำในใจไม่ได้ นานแค่ไหนแล้วเนอะ
ที่ไม่ได้คุยกับทาคาคิแบบนี้
"คิดภาพไม่ออกเลยเนอะ ว่ามันจะเป็นการเดินทางแบบไหน"
ผมเงยหน้าไปสบตาคนตัวสูงกว่า
"นั่นสิเนอะ" ผมยิ้มรับ จริงๆแล้วเมื่อก่อนตอนที่เพิ่งออดิชั่นเข้ามาใหม่ๆ
ทาคาคิเป็นคนแรกๆเลยที่ผมคุยด้วย เขาให้ความรู้สึกเหมือน
ผู้ใหญ่ในร่างของเด็ก ฮา ฮ่า งงสินะ
ภายนอกทาคาคิ มักจะเป็นผู้ชายขี้เล่น แต่ในบางมุมที่ผมเคยรู้จัก
เขาเป็นพี่ชายที่่แสนดีเสมอสำหรับผม
เราห่างกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนอะ
คงจะตั้งแต่ที่ทาคาคิรู้จักกับใครคนนั้นละมั้ง?
ผมสาวเท้าตามทาคาคิเข้าไปในสนามบิน
ในหัวก็อดคิดเรื่องของคนที่เดินนำอยู่ไม่ได้
เรานั่งลงตรงเก้าอี้ผู้โดยสาร
แล้วก็เริ่มเช็คสัมภาระ เป็นอีกครั้งที่ผมเริ่มอยากจะเอาบางอย่างออกจากกระเป๋า
เพราะถ้าต้องแบกน้ำหนักขนาดนี้ตลอดเวลา
ผมคงจะเตี้ยลงกว่านี้อีกแน่ๆ
"ทำไมกระเป๋าจิเน็นมันแน่นขนาดนั้นล่ะ" ยูยะเอ่ยปากถาม
"ก็นะ เอาของมาเยอะไปละมั้ง ในนี้มีเสื้ออยู่ประมาณ 10-15 ตัวอ่า"
"โห...ไม่คิดจะซักเสื้อผ้าหรอ?"
"ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลยแหะ"
ผมทำหน้าสยอง ลืมสนิทเลยแฮะ
แต่ว่าจะมีที่ซักหรือเปล่าก็ไม่รู้นี่นา่
"ชั้นเอามาแค่ 4-5ตัวเอง" ยูยะบอก
หน้าตาเขาตลกชมัดเหมือนคนที่คิดหนักว่าตัดสินใจผิดพลาดอะไรไปรึเปล่า
"กางเกงในละ ก็เอามาแค่ 5 ตัวหรอ" ผมถาม
"กางเกงในหรอ" เขาก้มหน้าลงไปเช็คก่อนจะหันมาทำหน้าสลดใส่ผม
"4ตัว"
"ห่ะ!" ผมตกใจ จะบ้าเหรอเนี๊ยไปตั้งเกือบอาทิตย์พกไป 4 ตัว
"ถ้าเป็นเสือยืดก็ให้ยืมได้อยู่นะ แต่กางเกงในไม่ได้หรอก"
ผมบอกเสียงดังอย่างหงุดหงิด
ยูยะนี่ตลอด ไม่เคยเตรียมพร้อมอะไรเลยจริงๆ
ผมมองใบหน้าหล่อๆที่หัวเราะขำ
มันตลกตรงไหนเนี๊ย ผมซีเรียสนะ!
ยูยะดึงกระเป๋าผมไปไกล้ตัว
ก่อนจะเอาของในกระเป๋าผมออกมาใส่ลงไปในกระเป๋า
ที่ยังเหลือที่ว่างของตัวเอง
"ทำอะไรน่ะ" ผมถามเขางงๆ
"จิเน็นตัวแค่นี้ แบกของขนาดนี้เดี๊ยวก็ไม่สูงขึ้นหรอก"
ผมมองใบหน้าของคนที่
ย้ายของผมอย่างตั้งอกตั้งใจ
ประโยคที่กำลังจะเถียงถูกกลืนลงคอ
"เสร็จแล้ว" เขายิ้มให้กับผลงานของตัวเอง
"ขอบคุณ" ผมบอกทาคาคิ ที่ยิ้มกว้างรับ
ทีมงานหยิบตั๋วรถไฟพร้อมกับแผนที่มาให้
"อ๋า...ตื่นเต้นชะมัด" ยูยะลุกขึ้นยืนสีหน้าเขาแช่มชื่นราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่
"จิเน็น"
"หืม" ผมเงยหน้ามองทาคาคิ เขายิ้มกว้าง มือหนายื่นออกมาตรงหน้าผม
"ไปเที่ยวกัน"
ผมยิ้มตาปิด ในอกได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัว
ผมคงจะตื่นเต้นตามคนตรงหน้าแน่ๆ
ผมวางมือเล็กลงไปในอุ้งมือใหญ่ที่บีบกระชับ
ความรู้อุ่นที่มือเหมือนมันจะลามขึ้นมา
ส่งผลให้หน้าร้อนแปลกๆ
แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ว่าอะไรสักนิดที่คนตัวโตยังจับมือผมอยู่
จนเราเดินขึ้นไปบนเครื่องบิน
บ๊ายบ๊าย~เจแปน!
--------------------------------------------------------------------
เรามาถึงปารีสเกือบห้าโมงเย็น
ผมก้าวเท้าเข้าสู่สนามบิน ชารุรุ โดะ โกล ด้วยความตื่นเต้น
ปารีสๆ ถึงแล้วสินะ
"ฮัลโลลล" ยูยะยิ้มกว้างให้กล้อง
"ถึงปารีสแล้วครับ" ผมพูด
"เป็นครั้งแรกเลยเนอะ ที่ได้มาปารีส"
ยูยะหันมายิ้มให้ผม ซึ่งยิ้มตามทันที
นี่ผมกำลังคิดไปเองรึเปล่านะ ยูยะยิ้มให้ผมบ่อยกว่าตอนที่อยู่ในวงซะอีก
แล้วผมก็อดยิ้มตามรอยยิ้มกว้างๆของคนตัวโตไม่ได้ด้วย
"งั้นอย่างแรกเลยเราก็ต้อง แลกเงินก่อนสิเนอะ" ยูยะพูด
"อืม"
"ก่อนอื่นเลย ชั้นจะเป็นคนที่เข้าไปคุยกับคนอื่นนะ จิเน็นคงไม่ค่อย
ชอบที่ต้องเข้าไปคุยกับผู้คนสินะ"
"อื้อ มันไม่ค่อยถนัดนะ"
"ชั้นก็เหมือนกัน แต่ครั้งนี้ชั้นอายุมากกว่าจะเป็นคนรับหน้าที่นี้แทนละกัน"
ผมพยักหน้าขำๆ ไม่คิดสักนิดว่ายูยะจะมีมุมแบบนี้
"งั้นจิเน็น ช่วยรับหน้าที่ดูแลเงินนะ"
"จะดีหรอ" ผมถาม
"ชั้นไม่ค่อยถูกกับการถือเงิน กลัวทำหายเพราะฉะนั้นก็ฝากด้วยนะ"
"โอเครๆ" ผมรับกระเป๋าเงินจากทาคาคิคุง
เราพากันเดินหาศูนย์แลกเงิน ยูยะเป็นคนชี้ให้ผมเห็น
"บองชู" เสียงทักทายของเจ้าหน้าที่ทำเอาพวกเราประหม่า
แล้วยูยะก็ดันเงียบ ผมก็เลยต้องแก้สถานะการณ์
"เยน ... เชนค์...โอเคร?" ผมเอาเงินออกมาวางและก็เหมือนเจ้าหน้าที่จะเข้าใจ
จะรอดมั้ยเนี๊ย..!!
เราแลกเงินสำเร็จและเดินออกมา
ผมถือใบเสร็จและมองตัวเลข 865 ยูโร
ยูยะจับใบเสร็จพร้อมมือของผมเข้าไปดู
ความรู้สึกร้อนวูบพุ่งเข้าเล่นงานจนต้องรีบสะบัดมือให้หลุดออกมา
ผมมองใบหน้าของทาคาคิที่ก้มลงมองตัวเลขด้วยความรู้สึกแปลกๆ
"งั้นต่อไปนี้ จิเน็นต้องเป็นคนดูแลเงินนะ ถ้าชั้นใช้เยอะไปก็บอกตรงๆได้เลย"
"โอเคร" ผมยิ้มรับ ทั้งๆที่หน้ายังร้อนๆ
เราเดินออกจากสนามบินไปพบกับอากาศเย็นๆของปารีส
"ดีสุดๆเลย" ยูยะร้องลั่นเป็นเด็กๆ
"ดีโคตรๆ" ผมหัวเราะ
"ไหนๆก็ได้มาถึงปารีสแล้ว อยากไปประตูชัย หอไอเฟล" ยูยะเริ่มร้องงอแง
"แต่เราไม่มีเวลาที่จะไปมากพอหรอกนะ" ผมขัดฝันหวาน
"อุตสาห์มาถึงปารีสทั้งทีนะ" ยูยะมองผม นัยตาอ้อนวอน
"แล้วจะเอาไง" ผมใจอ่อน ถอนหายใจเฮือก
ก่อนจะหยิบแผนที่ออกมาหาประตูชัย
"ไป งั้นไปประตูชัยกัน" ผมบอกยูยะที่ยิ้มกว้าง
เฮ้อ...ผมแพ้รอยยิ้มนี้แล้วสินะ
เราเดินตามหาแผนที่ที่จะไปประตูชัย
แต่ทั้งหมดดันเขียนด้วยภาษาฝรั่งเศษ
ผมที่ดาวโหลดโปรแกรมแปลภาษามาเลยเริ่มต้นหาคำว่า ประตูชัย
พอภาษาฝรั่งเศษขึ้นมา เราก็เริ่มมองหาคำๆนี้ในแผนที่
รถไฟมีสองฝั่ง เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นอีกครั้งที่ต้องถามทางจากใครสักคน
คราวนี้ยูยะเป็นคนที่เดินเข้าไปหาก่อนเลย
แต่กลับเผลอเงียบให้ผมต้องพูดคำว่า "ประตูชัย" ออกไปเป็นภาษาฝรั่งเศษ
ยูยะก็เลยเริ่มพูดภาษาฝรั่งเศษโดยใช้แอพที่ผมดาวโหลดไว้นั่นแหละ
"เป็นครั้งแรกเนอะกับรถไฟในปารีส" เขายิ้ม
"อืม...ในที่สุดก็ได้ออกเดินทาง" ผมหันกล้องไปถ่ายยูยะที่ยกมือไชโยเป็นเด็กๆ
รถไฟพาเราเิดินทางจากสนามบินมาถีงตัวเมืองปารีส
เนื่องจากคนแน่นมาก ยูยะจึงจับมือผมพร้อมกับมองหาป้ายภาษาฝรั่งเศษที่เขียนว่าประตูชัย
เราเดินตามป้ายจนถึงบันไดเลื่อน ท่าทางยูยะตื่นเต้นจนออกนอกหน้า
"อ๊ะ..." ยูยะร้องก่อนจะเอาหนังสือท่องเที่ยวมาปิดสายตาผมกับเขาเอาไว้
เราอยู่ใกล้กันมากจนผมเห็นดวงตาที่วาววับของเขา และประตูชัยก็อยู่ตรงหน้า!
"ยูยะ" ผมเผลอเรียกชื่อเขา คนตัวโตกว่าหันมายิ้ม
ก่อนจะวิ่งเข้าไปไกล้ประตูชัย
"ใหญ่มากก สุดยอด" ผมขำท่าทางของเขา
"ถ่ายรูปกันนะ" ยูยะให้ผมไปยืนก่อนที่ตัวเองจะกดชัตเตอร์
พอถึงตาเขา ผมเลยบอกให้เขานั่งลงทำท่าถือประตูชัย
เราให้พี่ทีมงานช่วยถ่ายรูปคู่ให้ แล้วก็เดินทางต่อ
ยูยะดึงกระเป๋าผม เมื่อผ่านร้านขายของ
"ถ้าเราออกจากที่นี่ก็จะไม่ได้กลับมาปารีสแล้วใช่มั้ย" เขาถามสีหน้าออดอ้อน
"อืม" ผมรับคำระแวง
"งั้นเรามาซื้อของที่ระลึกกันนะ"
"เราไม่มีเวลาแล้วนะ" ผมบ่น
"ช่างเหอะ อุตสาห์มาถึงนี่แล้ว นะๆๆ" คนตัวโตกว่าเดินนำเขาไปในร้าน
"แค่ดูเฉยๆ" ยูยะบอกแต่สายตาเป็นประประกายที่บอกได้เลยว่าไม่มีทาง
"ซื้ออะไรที่เป็นคู่เหมือนกันมั้ย? ถูกๆ" เขาบอกเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของผม
มือสวยหยิบผ้าผันคอผืนนึงออกมา ยุยะคล้องมันเข้ากับคอของผม
ก่อนจะยิ้มอย่างพออกพอใจ
"จิเน็นเหมาะกับสีฟ้านะ... เลือกให้ฉันบ้างสิ" เขายิ้ม
ผมยกมือขึ้นจับผ้าผันคอ ก้อนเนื้อในอกเต้นตุบๆ
สายตาก็มองหาผ้าผันคอแบบเดียวกันแต่คนละสีให้คนตัวโต
ตาคู่สวยสะดุดกับผ้าผันคอแบบเดียวกันกับที่คนตัวโตคล้องให้
ยูยะในชุด Magic power ลอยมา สีนั้นเหมาะกับเขาดีออก ผมคิด
มือก็เลยหยิบผ้าผันคอสีม่วงออกมายื่นให้กับตัวโต
ยุยะหยุดชะงักสายตาที่กำลังมองโมเดลปารีส
เขามองคนตัวเล็กที่แก้มแดงๆ กำลังยื่นผ้าผันคอแบบเดียวกับที่เขาคล้องให้
แต่เป็นสีม่วงสวย เลยอดจะยกยิ้มกว้างไม่ได้
"คล้องให้ด้วยสิ" ผมย่อตัวให้ยูริ ที่ยกมือสั่นๆขึ้นคล้องผ้าผันคอให้ผม
"เสร็จแล้ว" ยูริก้มหน้างุด
"ขอบคุณนะ" ผมยกมือขึ้นโยกหัวยูริเบาๆ เจ้าตัวตีหน้าเข้มปัดมือผมออก
ก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์
ผมเดินออกจากร้านยิ้มให้กล้อง
"จิเน็นซื้อให้ผมละ" ยูริส่งสายตาเขินๆก่อนจะยิ้มกลบเกลือน
และทั้งๆที่ไม่มีเวลาแล้ว ยูริก็ยังตามใจผมด้วยการเดินไปหอไอเฟล
ผมถ่ายรูปให้เจ้าตัวเล็กที่ยืนเก๊กท่าเลียบแบบหอไอเฟล ขำๆ
ยูริก็แกล้งผมด้วยการเปลี่ยนหอไอเฟลให้กลายเป็นอะไรแหลมๆ งอกออกมาจากหัวผม
เราให้พี่ทีมงานถ่ายรูปให้หลายต่อหลายรูป ยูริช่างเป็นคนสรรหาท่าทางต่างๆได้เก่งจริงๆ
แต่มันก็ทำให้ผมสนุกจนหุบยิ้มไม่เป็นเลยละ
จนท้องฟ้าใกล้จะมืดยูริก็เริ่มยื่นคำขาด
ให้ผมเร่งเดินทางต่อ
เราเดินไปที่สถานีรถไฟ Saint-Lazare จุดสตาร์ทของการเดินทางล่องรถไฟเหนือจรดใต้ปารีส
รถไฟที่จอดเรียงรายทำเอารู้สึกว่าผมกลายเป็นเด็กหลงทางไปเลย
แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องพยายามต่อ ผมบอกยูริให้เดินไปที่ประชาสัมพันธ์ด้วยกัน
ที่นั่นเราก็ต้องพบกับความไม่เข้าใจภาษาของเรากับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
แต่ขอบคุณยูริ ที่มีแอพดีๆ ทำให้สารถสื่อสารกับเขาได้
ผมโยกหัวยูริ ที่นั่งยองๆอย่างหมดแรง
"ไปหาที่พักกันเถอะ"
"เรามาได้แค่นี้เอง" ยูริทำหน้าเศร้า
"เอาน่า" ผมลากคนตัวเล็กเดินต่อ สาเหตุนะหรอ เพราะว่าวันนี้ไม่มีรถไฟ
รถไฟจะมาวันพรุ่งนี้ เท่ากับว่าวันนี้เราก็ไม่สามารถเดินทางต่อได้
แล้วการเข้าพักในตัวเมืองก็แพงแน่ๆ
ผมยิ้มเมื่อเห็นป้ายโรงแรม มือก็สะกิดคนตัวเล็ก
หลังจากเจอโรงแรม 3 ดาวที่แพงมากๆ
ผมก็อดทนเดินต่อ พร้อมกับคอยให้กำลังใจอีกคน
ตอนนี้เราเลยได้นอนกลิ้งนอนเกลือกอยู่ในโรงแรมธรรมดาที่ราคาพอรับได้
"จิเน็น จะนอนไหน" คนตัวเล็กกอดอกมองเตียงเล็กกับเตียงใหญ่สลับกัน
"เป่ายิ้งชุบก็ได้" ผมเอ่ย และยูริก็ถลาเข้ามาใกล้
รอบแรกเสมอกันผมออกกระดาษ
ยูริก็ออกกระดาษ แล้วเราก็ออกกรรไกรกันทั้งคุ่ ผมหัวเราะ ยูริก็ขำตาม
คราวนี้ผมออกค้อน ยูริออกกรรไกร ยูริวิ่งไปล้มตัวลงบนเตียงที่เล็กกว่า
หน้าหวานยิ้มกว้างกับเสียงโห่ร้องในชัยชนะของผม
ยริหยิบไดอารี่แลกเปลี่ยนที่เราต้องเขียนขึ้นมา
"เริ่มจากยูยะละกันนะ"
"เขียนอะไรดีละ เรื่องราวในวันนี้ที่มีต่อจิเน็นสินะ"
"ยังไงก็ได้" ยูริบอก เขาวางกล้องไว้หัวเตียงก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยๆ
ผมปิดไฟหัวเตียงให้เจ้าตัวเล็ก ก่อนจะเปิดสมุดไดอารี่
~วันที่ 1 ปารีส
เอ่อ-คือ
เขียนไดอารี่ประจำวันกับเมมเบอร์เนี๊ย มันรู้สึกเขินยังไงก็ไม่รู้เนอะ (หัวเราะ)
เที่ยวกันสองคนคิดว่าไง?
ตอนแรกที่ชั้นได้ยินเรื่องนี้
แล้วได้ยินว่าจะต้องไปด้วยกันกับจิเน็นน่ะ ชั้นรุ้สึกตกใจมากเลยล่ะ!!
ก็แบบไม่ว่าจะเป็นชั้นหรือนาย พวกเราก็เป็นพวกรักอิสระกันทั้งนั้นนี่นา!
ทั้งๆที่ชั้นเองก็เป็นคนมอบหมายให้จิเน็นเป็นคนที่มีหน้าที่คอยดูแลในเรื่องของเงินแล้วแท้ๆ
จิเน็นเองก็ค่อนข้างที่จะกำชับชั้นในเรื่องนี้เหมือนกันนะ ช่วยได้เยอะเลยล่ะ
หลังจากพรุ่งนี้ไปก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ
ยูริ (หัวเราะ)
ยูยะ~
ผมยิ้มเขินๆกับไดอารี่ มองคนที่หลับไปแล้วอย่างเอ็นดู
ดีใจที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งนะ ยูริ~
///////////////////////////////////////////
จบแล้ว ทั้งชีวิตไม่เคยอัพฟิคยาวขนาดนี้มาก่อนจิงๆ
แต่ยูยะกับยูรินี่น่ารัีกฟุดๆ ใครเคยดูทาคาคิกับจิเน็น อินปารีส คงจะอินกับความมโนที่บวกเพิ่มไปนะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดึกแล้วไรเตอร์ไปนอนละ รักเค้าชอบเค้าก็บอกเค้าด้วยนะ จุฟๆ
/////////////////////////////////////////////
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น