ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Piece Fiction

    ลำดับตอนที่ #7 : [SaboxAce ; ASL] In My Flame

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 59


    วันนั้นเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของผม...วันที่ผมเห็นข่าวการตายของโจรสลัดคนหนึ่งในหน้าหนังสือพิมพ์

    โปรโตกัส ดี เอส

    ทั้งๆที่คิดว่าไม่รู้จัก ทั้งๆที่คิดแค่ว่าก็โจรสลัดทั่วไป 

    แต่พอเห็นรูปเขาในหนังสือพิมพ์ ราวกับสิ่งที่ถูกปิดผนึกมานานระเบิดออก ความทรงจำในวัยเด็กที่ลืมเลือนไปตั้งแต่เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ย้อนกลับมาราวกับน้ำหลาก ภาพของผมกับเอสและลูฟี่...

    หยาดน้ำตาเอ่อล้นออกมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว แล้วสติผมก็ดับวูบไป

    แล้วภาพที่ผมเห็นอีกครั้ง คือภาพของเอสกับลูฟี่เมื่อสมัยเด็ก พวกเขาเล่นกัน ทะเลาะกัน ออกไปวิวาทในเกรย์เทอมินอลด้วยกัน โดยที่ผมร้องเรียกเท่าไหร่พวกเขาก็ไม่หันมา แล้วภาพตรงหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เอสกับลูฟี่โตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงฉากที่เอสกำลังมุ่งหน้าไปยังสงครามโดยมีลูฟี่วิ่งตามอยู่ห่างๆ

    "เอสส!! หยุดอย่าไป ขอร้องล่ะ" เสียงตะโกนของผมผสมปนไปกับเสียงตะโกนของลูฟี่ที่ตะโกนออกมาไม่ได้ต่างกับผม ผมอยากจะวิ่งตามพวกเขาไป แต่ก็เหมือนมีบางอย่างกั้นระหว่าผมกับพวกเขา

    "เอส ขอร้องล่ะ กลับมา ได้โปรด เอส!!" ผมยังคงตะโกนต่อไป แต่เหมือนว่าครั้งนี้เขาจะได้ยิน เพราะเขาหยุดและหันมามองลูฟี่ ก่อนจะมองมาที่ผม ผมเห็นปากเขาขยับเหมือนพูดอะไรสักอย่างกับผม

    แล้วเอสก็ยิ้มให้ผม

    ก่อนที่ตัวของเขาจะลุกไหม้เป็นเปลวไฟแล้วปลิวหายไป ในวินาทีที่ลูฟี่กำลังจะได้สัมผัสตัวเขา

    "เอสสสสสส!!!" เป็นเสียงลูฟี่ที่ตะโกนออกมาทั้งน้ำตา น้องชายคนเล็กของผมทรุดลงตรงนั้น แล้วร้องไห้อย่างขาดสติ ผมอยากเข้าไปกอดเขา แต่กำแพงที่มองไม่เห็นก็ยังคงขวางเราไว้

    ผม...ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เอสและลูฟี่ต่อสู้ในสงครามแต่ผมกลับนิ่งเฉย ถ้าเพียงผมนึกออกได้เร็วกว่านี้ว่าเขาคือพี่น้อง ถ้าเพียงผมไม่ลืมพวกเขา ถ้าเพียงผมได้เข้าร่วมสงครามนั้นด้วย...เอสก็คงไม่ตาย

    ผมตื่นมาหลังจากนั้นอีกหลายวัน เพราะไข้ขึ้นสูงจากอาการช็อค รู้สึกได้ว่าตาตัวเองยังบวมๆอยู่เลย คิดว่าผมคงร้องไห้มากไป

    'ฝากลูฟี่ด้วยนะ' ประโยคที่เอสพูดกับผมในความฝันยังคงดังก้องอยู่ในสมอง

    "ความทรงจำกลับมาแล้วหรอ แล้วจะไปจากที่นี่ไหม" โคอาล่าถามผมทั้งน้ำตา

    "ไม่ล่ะ... คุณดราก้อนอยู่มั้ย ฉันอยากคุยกับเขา" พอโคอาล่าพยักหน้า ผมจึงตรงไปยังห้องทำงานของคุณดราก้อน พร้อมกับเล่าเรื่องสมัยเด็กของผมให้เขาฟัง ทั้งเรื่องที่ผลเป็นใคร แล้วผม เอส ลูฟี่มีความเกี่ยวข้องกันยังไง ซึ่งคุณดราก้อนไม่ได้มีท่าทีตกใจแต่อย่างใด จะมีเลิกคิ้วนิดหน่อยก็แค่ตอนที่ผมเอ่ยชื่อลูกชายของเขาออกมาเท่านั้น

    "คุณดราก้อนครับ ผมขอออกไปตามหาผลเมระเมะรได้ไหม" ผมเอ่ยถามออกไป ผมอยากจะสืบทอดเจตนารมณ์ของเอส อยากมีชีวิตเผื่อในส่วนเขาด้วย

    "ตามใจ แค่อย่าให้เสียแผนก็พอ" คุณดราก้อนตอบทั้งๆที่ไม่ละจากเอกสารมามองหน้าผมด้วยซ้ำ

    แล้วผมก็เริ่มออกตระเวนไปตามอาณาจักรต่างๆเพื่อทำภารกิจ และเพื่อตามหาผลปีศาจสีส้ม "ผมเมระเมระ" 

    -----------------------------------------------------------------------------

    เวลาผ่านไป 2 ปี ไม่มีวี่แววว่าผมจะเจอผมเมระเมระเลย จนกระทั่ง...

    คุณดราก้อนให้ผมไปทำภารกิจที่เดรสโรซ่า เพราะที่นั่นมีการใช้แรงงานทาสในการทำโรงงานผลิตอาวุธ

    คงเป็นวันที่โชคดีของผม เพราะที่นั่นกำลังมีงานประลองชิงผลเมระเมระ และหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันก็คือ น้องชายตัวเล็กของผม 'มังกี้ ดี ลูฟี่'

    ผมเดินเข้าไปหาเขาด้วยประโยคหาเรื่องไม่น้อยว่า "ผลเมระเมระต้องเป็นของฉันต่างหาก หมวกฟางลูฟี่"

    แล้วน้องชายตัวแสบก็สวนกลับมาไม่ยั้งเลย ทั้งเรื่องที่ว่าผลเมระเมระเป็นของดูต่างหน้าเอสเอย เรื่องที่เจ้าตัวไม่ใช่ลูฟี่คนนั้นเอย

    "ถึงจะปลอมตัวอยู่ แต่ฉันก็ไม่มีทางจำน้องชายตัวเองผิดหรอก"

    "ก็บอกว่าไม่ใช่ไง แล้วคนที่เรียกฉันว่าน้องชายน่ะ ก็มีแค่เอสที่ตายไปแล้วกับคนที่ตายไปก่อนหน้านั้น..." 

    เหมือนว่าลูฟี่จะนึกได้แล้วว่าผมเป็นใคร ดูจากหน้าแล้วเจ้าตัวคงจะตกใจมากทีเดียว ลูฟี่โผเข้ามากอดผมทั้งน้ำตา เขาพูดว่านึกว่าผมตายไปแล้ว เขาพูดถึงเรื่องที่ต้องมาเห็นเอสตายต่อหน้าต่อตา และอีกหลายๆเรื่องเลย

    "ผมเมระเมระน่ะ ขอฉันได้มั้ย" ผมถามลูฟี่ คราวนี้เจ้าน้องชายพยักหน้าแรงๆจนผมกลัวเขาจะคอเคล็ดเหมือนกัน

    แล้วผมก็ได้ลงสนามประลองแทนเขาในฐานะลูซี่ ดูเหมือนว่าการประลองนี้ถูกจัดฉากไว้เพื่อล่อให้ลูฟี่มาติดกับอยู่แล้ว เพราะผลเมระเมระที่ว่าติดอยู่ที่หลังปลานักสู้ พวกคนที่กินผลปีศาจไปแล้วคงชิงมายากหน่อยเพราะพอปลาว่ายกลับลงไปในน้ำ พวกผู้มีพลังก็สิ้นฤทธิ์ แต่ไม่ใช่กับผม!!

    เหมือนเป็นโชคชะตาเลยแฮะ ที่ผมยังไม่เคยกินผลปีศาจเลย ทั้งๆที่คณะปฏิวัติก็ได้ผลไม้ปีศาจพวกนั้นมาก็หลายครั้ง เหมือนชะตาลิขิตให้ผมจะได้เป็นผู้ครอบครองพลังของผลเมระเมระ พลังของเอส...

    ทันทีที่ผลได้ผลเมระเมระมาอยู่ในมือ ผมก็กินมันเข้าไปทั้งผล อืมม... รสชาติแย่ชะมัด... แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้เรื่องจัดการศัตรูตรงหน้าดูจะสำคัญกว่า ไม่งั้นพวกนี้ก็คงตามออกไปทำร้ายลูฟี่ ผมยอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้หรอก ผมต้องปกป้องน้องชายของผม!

    แล้วเปลวเพลิงแรกของผมก็ประทุขึ้น

    'ลูฟี่'

    หืม? เหมือนได้ยินเสียงใคร หรือจะเป็นเสียงความคิดของผม

    'ปกป้องลูฟี่'

    !!!

    มีเสียงออกมาจากเปลวไฟ

    เปลวไฟหายไป เสียงนั้นก็หายไปแล้ว ผมเดินออกมาจากลานประลอง ลองจุดไฟขึ้นอีกครั้ง

    ....

    ไม่มีเสียงอะไรออกมา ผมคงคิดไปเอง

    ขณะกำลังตกอยู่ในภวังค์นั้นเอง เบอเจสก็เดินเข้ามาหาเรื่องผม เขาเล่าให้ผมฟังตอนที่พวกเขาจับเอสไปให้กับกองทัพเรือ

    "นายรู้มั้ยว่า ตอนนั้นเจ้านั่นพูดว่าอะไร 'อย่าบอกเรื่องนี้กับลูฟี่นะ' ฮ่าๆๆๆๆๆ จะตายอยู่แล้วยังจะห่วงคนอื่น พวกนายพี่น้องนี่บ้าจริงๆ"

    'แก!!'

    อยู่ๆเปลวเพลิงที่แขนขวาก็ประทุขึ้นมาเอง ผมชกเบอเจสกระเด็นไปด้วยหมัดเพลิง หมัดของเอส

    "นั่นนายหรอ? ...เอส" ผมพูดลอยๆกับเปลวเพลิงที่แขนขวาที่ยังคงลุกโหม

    'หืม? แล้วนายล่ะเป็นใคร'

    เสียงที่ผมได้ยินตอบกลับมา ตอนนั้นเองที่ผมเหมือนจะเห็นว่าในเปลวเพลิงนั้นมีปรากฎภาพของใครคนนึง เขาค่อยๆหันหน้ามาทางผมช้าๆ

    ผมเบิกตากว้างอย่างตกใจ ปากที่อยากจะเอ่ยคำพูดกลับสั่นจนพูดไม่ออก น้ำตาเอ่อออกมาตอนไหนก็ไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้มันนองเต็มหน้าผมไม่หมดแล้ว

    "เอส!!!" ผมโผเข้าหาเปลวไฟของตัวเอง ที่ตอนนี้กลายเป็นเขา พี่น้องอีกคนของผม

    'ซะ...ซาโบ้?!!!' เอสทำหน้าตกใจเมื่อเห็นใบหน้าของผมชัดๆ

    "ไม่เคยคิดเลยว่า ฮึก.. จะได้พบนายอีก ฉัน...ขอโทษ ขอโทษ ฮึก และก็...ขอบคุณ ...ขอบคุณที่ทำให้ความทรงจำของฉันกลับมา" ผมพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา

    'ซาโบ้!! นาย...ยังมีชีวิตอยู่จริงๆด้วยสินะ ฉันไม่เห็นนายที่ภพนั้น... ดีจริงๆที่ลูฟี่ยังไม่ได้เหลือตัวคนเดียว' เอสยิ้มให้กับผม

    "ฉันขอโทษนะเอส ขอโทษ..."

    'พอๆ ไม่ต้องขอโทษแล้ว นายไม่ได้ผิดสักหน่อย แล้วนี่นายกินผลเมระเมระเข้าไปสินะ มันเจ๋งใช่มั้ยล่า แม้ตอนกินรสชาติจะห่วยแตกก็ตาม ฮ่าๆๆๆ' เอสเริ่มชวนผมคุย เข้าเล่าถึงวิธีการใช้พลังจากผลเมระเมระ เล่าถึงวีรกรรมของตัวเองทีผ่านมา เล่าถึงเพื่อนๆบนเรือของหนวดขาว ซึ่งมันทำให้ผมยิ้มได้อีกครั้ง ภาพสมัยเด็กๆที่ผมกับเขาสนิทกันมากๆผุดขึ้นมา ไม่นึกเลยว่าเราจะได้มีช่วงเวลาแบบนี้ด้วยกันอีก

    "ว่าแต่...ทำไมนายถึงเป็นไฟล่ะ อย่างนี้ถ้าคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันกิน นายจะออกมาได้อย่างนี้รึเปล่า" ผมถามอย่างสงสัย

    'อืมม... ฉันคิดว่าไม่นะ ที่ฉันออกมาได้ อาจจะเป็นเพราะนายกับฉันสื่อถึงกันละมั้ง เจตจำนงของฉันก่อนตายคือ 'ปกป้องลูฟี่' แล้วเมื่อกี้นายก็ใช้มันเพราะจะปกป้องลูฟี่เหมือนกันสินะ เพราะเราสองคนอยากปกป้องคนๆเดียวกัน ฉันถึงได้ออกมา... ฉันคิดว่าเป็นอย่างนั้น ยังไงก็แล้วแต่ฉันดีใจนะที่คนที่กินมันต่อจากฉันคือนาย'

    คำพูดของเอสทำให้ในอกของผมรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด มันทำให้ผมเข้าใจว่าสายสัมพันธ์ของเรา 3 พี่น้องมันลึกซึ้งแค่ไหน ต่อให้เวลาผ่านไปนานยังไง ความสัมพันธ์นี้จะไม่มีวันสั่นคลอน

    "ฉันก็ดีใจที่ได้เจอกับนายอีกครั้ง ดีจริงๆที่ตัดสินใจออกตามหาผลเมระเมระ" ผมพูดออกไปจากใจจริง

    ตอนนี้ผมอยากจะขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ผมได้เห็นรอยยิ้มของเอสอีกครั้ง ขอบคุณปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนี้ 

    ขอบคุณที่ทำให้ในไฟของผมมี 'เขา' อยู่ด้วย


    **********************************************************

    [[Talk]]

    สวัสดีค่าาา 

    เป็นครั้งแรกที่แต่งคู่พี่ชาย จริงๆจิ้นคู่นี้อยู่แล้วแหละ แต่แต่งไม่ถูก ไม่รู้จะให้เขามาเจอกันได้ยังไง
    จนคิดขึ้นมาได้ว่า 'ในไฟของพี่โบ้ต้องมีเอสอยู่แน่ๆ' ก็เลยออกมาเป็นฟิคเรื่องนี้ 5555

    ตอนที่พี่โบ้ออกครั้งแรก ยิ่งรู้สึกแย่ที่เอสตายเข้าไปใหญ่เลยค่ะ รู้สึกเหมือน ASL ควรได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งอ่ะ
    แต่พี่เอสก็ดันตายไปแล้วจริงๆ เขาจะได้เจอกันอีกครั้งก็แค่ตอนเราแต่งฟิคเท่านั้นนี่แหละ 
    เลยลงมือทำให้ตัวเองสมปรารถนาซะเลย ฮืออออออออ

    ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้า ถ้าคิดพล็อตได้อีกก็จะเข้ามาอัพ มาแต่งเรื่อยๆนะคะ
    สามารถรีเควสได้นะว่าอยากอ่านคู่ไหน ถ้าไม่เกินจินตนาการก็จะหาพล็อตมาแต่งให้

    ป.ล.ที่คิดไว้คือพี่โบ้มองเห็น+ได้ยินเสียงพี่เอสได้คนเดียวนะคะ เพราะเป็นเจ้าของพลัง

    Tsuji Nami
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×