ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Movies Fiction

    ลำดับตอนที่ #2 : [ErikxCharles] Our Future

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 57


    Fic : Our Future

    Fandom : X-MEN

    Paring : Erik x Chaarles

    Rate : PG

    Genre : Short Fic

    ******************************************

          "เป็นไงบ้าง ชาร์ล" เอริคทักขึ้นเมื่อสหายของเขาเดินออกมาจากห้องซีเรโปรที่เขาทั้งคู่เพิ่งช่วยกันสร้างมันขึ้นมา

           "แถวนี้มีพวกเราอยู่เยอะเลยล่ะ ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาจะอยู่ใกล้ๆเรามากมายขนาดนี้ ขอบคุณนะเอริคที่ทำให้ฉันหาพวกเขาได้ง่ายขึ้น" ชาร์ลตอบด้วยนำเสียงตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาลองใช้ซีเรโปร และภาพที่เขาได้เห็นจากมันช่างน่าอัศจรรย์เหลือเกิน

           "ไม่ต้องขอบคุณหรอก ยังไงซะมันก็เป็นจุดประสงค์ของเราทั้งคู่อยู่แล้วนี่  ฉันว่าตอนนี้เราออกไปหาพวกเขาดีกว่าไหม" เอริคเอ่ยตอบพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

           "อื้ม" ชาร์ลตอบรับพร้อมรอยยิ้ม ที่ทำเอาเอริคต้องชะงักเพราะความเดียงสาของรอยยิ้มนั้นจริงๆ




           สองหนุ่มต่างสัญชาติ แต่งตัวด้วยชุดกึ่งทางการเดินออกไปตามถนนในเมืองขึ้นรถแท็กซี่ที่คนขับเป็นมนุษย์กลายพันธุ์บ้างล่ะ เดินเข้าไปทักหนุ่มวัยรุ่ยที่หนีออกจากบ้านบ้างล่ะ ทักชายหนุ่มแปลกหน้าในร้านอาหารบ้างล่ะ ก็มีทั้งคนที่สนใจรับข้อเสนอของพวกเขา แต่คนที่ไม่แม้จะเอ่ยทักตอบก็มี เช่นผู้ชายคนนี้

           ชายหนุ่มไว้หนวดยาวที่ท่าทางไม่เป็นมิตรนั่งสูบซิกก้าอยู่ที่เคาท์เตอร์ร้านเหล้าร้านหนึ่ง ซึ่งชาร์ลมั่นใจมากว่าชายคนนี้ก็เป็นหนึ่งในมนุษย์กลายพันธุ์ที่เข้าเก็นในห้องซีเรโปรแน่ๆ

           "เอ่อ...ขอโทานะครับคุณ ไม่ทราบ...."

           "ไปตายซะ!" ยังไม่ทันที่ชาร์ลจะได้พูดจนจบประโยค ก็โดนขับไล่อย่างไม่ใยดี ทำเอาคนเพิ่งเป็นโปรเฟสเซอร์หมาดๆถึงกับเสียเซลฟ์ จนเพื่อนหนุ่มที่มาด้วยกันต้องตบบ่าเบา และพากันเดินออกมาจากร้าน





           "เฮ้อออ พลาดอีกแล้วสินะ" ชาร์ลบ่นอย่างเหนื่อยหน่าย เมื่อทั้งสองตัดสินใจมากนั่งพักที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ก่อนจะเริ่มตามหาเพื่อนพ้องกลายพันธุ์ใหม่ในช่วงค่ำ

           "เอาน่า ชาร์ล คนเรามันก็มีหลายประเภทนะ ต้องมีสักคนที่รับฟังเราสิ" เอริคพยายามหาวิธีให้กำลังใจเพื่อน

           "นั่นสินะ ใช่ว่าเราจะไม่ได้พวกเพิ่มเลยเสียหน่อย ถึงพวกเขาจะยังเป็นเด็ก แต่พวกเขาต้องเป็นกำลังสำคัญให้เราได้แน่ๆ" ชาร์ลพูดพร้อมกับยิ้มออกมา "ขอบใจนะเอริค ฉันเริ่มมีกำลังใจขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ" ยังไม่ทันที่เอริคจะได้ตอบรับอะไร กาแฟที่พวกเขาสั่งก็มาส่งถึงโต๊ะ ชาร์ลหยิบแก้วกาแฟของตนมาดื่มด้วยสีหน้าที่ร่าเริงไม่น้อย

            เห็นชาร์ลยิ้มออกมาได้ เอริคเองก็อดยิ้มออกมาไม่ได้จริงๆ ตอนแรกเขาก็แค่คิดว่าชาร์ลคือคนที่มาขัดขวางการฆ่าชอว์ของเขา แต่ไปๆมาๆชาร์ลกลับเป็นคนที่เหมือนจะเข้าใจและเป็นห่วงเขามากที่สุดซะงั้น ทำเอาเขาเองก็อดเป็นห่วงชายหนุ่มที่พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้มนุษย์ยอมรับมนุษย์กลายพันธุ์คนนี้ไม่ได้

            ถึงแม้เขากับชาร์ลจะมีความคิดในการยกระดับชีวิตของมนุษย์กลายพันธุ์ให้ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไปเหมือนกัน แต่ก็ยังมีจุดที่ต่างกันอยู่ดี ชาร์ลอยากให้พวกมนุษย์ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น และอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเขากลับคิดว่ามนุษย์ไม่มีทางยอมรับพวกมนุษย์กลายพันธุ์ ทางที่ดีเราควรจะแสดงตัวตนของเราออกมา ให้มนุษย์ยกอยู่ใต้การปกครองของเราด้วยความกลัว แต่ถึงแม้จะมีความคิดที่ต่างกัน เราก็ไมด้รังเกียจความคิดของชาร์ลนักหรอก มันก็เป็นความคิดที่ดีแต่แค่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขาเท่านั้นเอง

            "เฮ้ เอริค กาแฟของนายจะหายร้อนแล้วนะ ถ้านายไม่รีบดื่มมันเข้าไปน่ะ" สติของเอริคกลับมาอีกครั้งด้วยเสียงเรียกจากหนุ่มตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา

            "เอริค นายคิดมัวแต่คิดอะไรอยู่ ถึงได้เหม่อขนาดนี้ล่ะเนี่ย สงสัยฉันต้องแอบอ่านความคิดของนายซะแล้ว" ชาร์ลพูดออกมาพร้อมตั้งท่าจะอ่านความคิดของคนตรงหน้า

            "หยุดเลยชาร์ล นายบอกว่านายจะไม่อ่านความคิดของฉัน" เอริคยกมือขึ้นห้ามชาร์ล

            "ฮ่าๆๆ ฉันล้อเล่นหรอกน่า แสดงว่านายต้องคิดอะไรไม่ดีอยู่แน่เลย ถึงได้กลัวฉันอ่านความคิดนายแบบนี้" ชาร์ลหัวเราะชอบใจ

            'ก็เพราะฉันคิดเรื่องนายเนี่ยแหละ ฉันถึงไม่อยากให้นายรู้' เอริคได้แต่คิดในใจ แต่เห็นชาร์ลหัวเราะออกมาขนาดนั้นก็อดไม่ได้ที่เขาจะยิ้มตาม

            "ฉันว่าวันนี้เราพอแค่นี้ดีกว่าไหม ต่อจากนี้เราไปเดินเล่นชมวิวกันหน่อยไหม" เอริคเอ่ยชวน

            "ก็ดีนะ ฉันเองก็เริ่มอยากคลายเครียดบ้างแล้ว ว่าแต่เราจะไปไหนล่ะ" ชาร์ลถาม

            "นายน่าจะรู้จักที่ดีๆมากกว่าฉันนะ" เอริคว่า เขาเป็นแค่หนุ่มเยอรมันที่มีเชื้อสายยิวจะไปรู้จักสถานที่ดีๆในวิชิงตันได้ยังไงล่ะ

            "โอเค งั้นเดี๋ยวฉันพานายไปนั่งชมวิวที่ดีๆแล้วกันนะ" ชาร์พูดก่อนทั้งสองจะลากกันออกไปจากร้านกาแฟ




            ชาร์ลและเอริคนั่งลงตรงบันได หน้าหอศิลป์แห่งชาติในเวลาบ่ายแก่ๆที่แสงแดดเริ่มฉาบท้องฟ้าให้เป็นสีส้ม ทั้งสองนั่งคุยกันถึงเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับมนุษย์กลายพันธุ์ ชีวิตในวัยเด็กที่ต่างคนต่างประสบกันมา เรื่องที่ชอบอละไม่ชอบ ร่วมทั้งเรื่องที่อยากจะทำในอนาคต

            "ฉันอยากจะแก้แค้นเซบาสเตียน ชอว์ นี่คือเรื่องที่ฉันจะทำในอนาคต" เอริคตอบด้วยเสียหนักแน่น

            "อันนั้นฉันรู้ แต่ฉันถามถึงเรื่องหลังจากนั้นต่างหาก ถ้าจัดการชอว์ได้แล้วนายจะทำอะไรหรอ?" ชาร์ลมองเอริคอย่างใคร่รู้

            "...อืมม... ฉันไม่ได้คิดเรื่องหลังจากนั้นเลย แต่ฉันอยากจะประกาศให้โลกรู้ถึงการมีตัวตนของมนุษย์กลายพันธุ์"

            "งั้นก็เหมือนกับฉันเลยสิ ฉันอยากจะตั้งโรงเรียนผู้มีพรสวรรค์ สำหรับมนุษย์กลายพันธุ์ ฉันจะสอนให้เด็กได้รู้จักการใช้ชีวิตในบนโลกนี้อย่างรู้จักคุณค่าของตัวเอง ใช้พลังของตัวเองช่วยเหลือคนอื่น และสักวันเขาต้องได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆแน่ ฉันเชื่อมั่นอย่างนั้น" ชาร์ลพูดพร้อมกับทอดมองออกไปยังท้องฟ้ากว้างไกล

            "ฟังดูยุ่งยากจังเลย ทำไมเราต้องไปสนใจพวกมนุษย์อย่างนั้นด้วยล่ะ เราเป็นเผ่าพันธุ์ที่สุดยอดนะ เป็นเผ่าพันธุ์ที่ถูกเลือกจากพระเจ้า พวกมนุษย์ควรจะเกรงกลัวเราสิ เราจะทำอะไรลำบากเพื่อให้มนุษย์ยอมรับทำไมกัน เราแข็งเกร่งกว่าเห็นๆ" เอริคแย้ง

            "จริงยู่ที่ว่าเราพิเศษกว่าคนอื่น แต่เราก็เป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งในคนมากมายนะเอริค ฉันว่าการได้รับการยอมรับจากพวกเขาน่าจะดีกว่าการที่เราต้องอยู่ร่วมกันเพราะความกลัวนะ ถ้าพวกเขากลัวพวกเรา พวกเขาจะยิ่งต่อต้านเรานะ" ชาร์ลอธิบาย

            "ไม่ว่าเราจะทำยังไง ยังไงมนุษย์ก็กลัวและต่อต้านเราอยู่ดีนั่นแหละ" เอริคยังตงยึดมั่นคำเดิม

            "เราต้องมีความหวังสิเอริค" ชาร์ลพูดพร้อมกับจับมือของเอริคไว้ เพื่อจะบอกให้เอริคเชื่อมั่นในตัวของเขาด้วย

            "ถ้านายยังไม่รู้ว่าหลังจากจัดการชอว์เสร็จ แล้วนายจะไปทำอะไร นายจะลองมาเป็นอาจารย์ในโรงเรียนของฉันไหม ฉันยกวิชาภาษาเยอรมันให้นายเลย" ชาร์ลพูดยิ้มๆกับเอริค

            "นายนี่บ้าชะมัด ฉันจะลองเชื่อแบบนายดูบ้างก็ได้ แล้วก็อย่าลืมจ่ายเงินเดือนค่าสอนให้ฉันด้วยล่ะ ศาตราจารย์ใหญ่" เอริคพูดอย่างล้อเลียน

            "ค่าจ้างเอาเป็นบ้านพร้อมอาหาร3มื้อได้ไหมล่ะ" ชาร์ลตอบ

            "นายจะให้ฉันไปเป็นครอบครัวเดียวกันนายด้วยรึไง" เอริคตอบ

            "แล้วไม่ดีหรอ" ชอร์ลมองเข้าไปในตาของเอริค

            "......ก็ไม่เลวนี่" เอริคมองตอบก่อนที่เขาจะหันหน้าหนีพร้อมกับความเขินอาย นี่เขาคงไม่ได้โดยสะกดจิตด้วยตาสีอ่อนนั่นหรอกใช่ไหม เขาไม่น่าหลงไปมองดวงตาสีบริสุทธิ์นั่นเลยจริงๆให้ตายสิ

            "เอาล่ะกลับกันได้แล้วมั้ง ป่านนี้น้องสาวนายคงเรียกหานายแล้วมั้ง" เอริคลุกขึ้นก่อนจะฉุดให้ชาร์ลลุกตาม

            "นั่นสินะ กลับกันเถอะ" คนตัวเล็กเดินไปกอดคอคนตัวใหญ่ก่อนทั้งสองจะเดินกลับไปยังฐานที่มั่นของพวกเขา



            ไม่ว่าอนาคตข้างหน้าของพวกเขาทั้งสองคนจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่สำหรับตอนนี้มันช่างเป็นช่วงเวลาที่พิเศษจริงๆที่เขาทั้งคู่ได้พบกัน และได้ร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ แม้ตอนนี้จะมีความคิดที่ต่างกันอยู่บ้าง แต่เอริคก็เชื่อว่าสักวันชาร์ลคงทำให้เขาเปลี่ยนใจได้โดยไม่ต้องพึ่งพลังจิตอะไรนั่นเลยด้วย แล้วเมื่อวันนั้นมาถึงเขากับชาร์ลก็คงได้อยู่ด้วยกันบนโลกที่มนุษย์ยอมรับมนุษย์กลายพันธุ์อย่างแท้จริง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×