ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Piece Fiction

    ลำดับตอนที่ #2 : [LawxLuffy] My Life is Yours

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 59


         ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นตัวเองคิดอะไรอยู่ที่ยอมพาลูกเรือและตัวเองเสี่ยงเข้าไปถึงมารีนฟอร์ดเพื่อช่วยใครบางคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองเลย จะบอกว่าเพราะความประทับใจแรกที่เด็กหนุ่มคนนั้นกล้าเงื้อหมัดชกเผ่ามังกรเข้าเต็มแรงมันก็คงเป็นแค่ส่วนหนึ่ง จะบอกว่าเพราะเป็น 'D' ก็อาจจะเป็นแค่ข้ออ้าง ลอว์รู้ตัวดีว่าที่เขาทำลงไปทั้งหมดเพราะเด็กหนุ่มสวมหมวกฟางคนนั้นมีพลังบางอย่างที่ดึงดูดให้เขาทำอะไรไม่สมกับเป็นตัวเองแบบนี้

    ...อยากช่วยให้รอด ยังไม่อยากให้ตาย...

    "ฝากตัวหมอนั่นไว้กันฉันสักพัก ฉันเป็นหมอ" ตะโกนออกไปอย่างไม่ลังเล 

    เมื่อร่างไร้สติของหมวกฟางถูกส่งมาถึงเรือ แทนที่ลอว์จะรีบหนี เขากลับใจเย็นยืนรออยู่บนดาดฟ้าเรือดำน้ำทั้งที่สถาณการณ์ไม่เป็นใจเท่าไหร่ พลเอกแห่งกองทัพเรือโจมตีมาที่เรือของดำน้ำไม่หยุด เป้าหมายคงจะเป็นชีวิตของคนที่ช็อคจนหมดสติไปแล้วนั่นแหละ 

    เขากำลังรอ... แล้วไม่นานตัวตลกจมูกแดงก็โยนสิ่งนั้นมาให้เขา หมอศัลยกรรมแห่งความตายรับมันไว้ได้อย่างแม่นยำก่อนจะออกคำสั่งไปยังลูกเรือทุกคนให้ขับเรือดำน้ำหนีให้เร็วที่สุด ลอว์กำหมวกฟางในมือแน่น

    ทันทีที่เข้ามาในเรือลอว์รีบมุ่งตรงไปยังห้องผ่าตัด ร่างของผู้ป่วยนอนรออยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นหมอใครๆก็ดูรู้ว่าชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดนั้นอาการสาหัสแค่ไหน เขาวางหมวกฟางที่แสนสำคัญไว้ใกล้ๆเตียง ก่อนจะเริ่มลงมีดให้สมกับความเป็นหมอ

    การผ่าตัดครั้งนั้นผ่านพ้นไปด้วยดี แต่ก็แค่อาการทางกายเท่านั้นที่ดีขึ้น บาดแผลทางใจที่แม้แต่เขาก็รักษาไม่ได้ทำให้คนไข้ของเขายังคงละเมอร้องไห้คร่ำครวญถึงใครบางคนอย่างทรมาน

    แล้ววันที่คนไข้ของเขาลืมตาตื่นก็มาถึง ลูฟี่ตื่นมาพร้อมกับอาลาวาดเสียยกใหญ่ ลอว์กลัวเหลือเกินว่าแผลที่ยังไม่สมานตัวดีจะฉีกออก จินเบตามลูฟี่ออกไปแล้ว ศัลยแพทย์แห่งความตายก็หวังเพียงว่าชายชาตรีแห่งท้องทะเลจะหยุดความบ้าคลั่งของลูฟี่ลงได้ 

    ลอว์มองหมวกฟางที่อยู่ในมือพลางคิด ดีใจเหลือเกินที่เจ้าของหมวกใบนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ลอว์ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงดีใจได้ขนาดนั้น ขณะกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ลูกเรือของเขาก็ตะโกนโวยวายว่าเจ้าทะเลโดนบางสิ่งบางอย่างโจมตี ลอว์เงยหน้าขึ้นมาก็พบผู้มาเยือน ชายชราที่ได้ฉายาว่า ราชานรก เดินขึ้นเกาะมาตรงบริเวณที่พวกเขานั่งอยู่พร้อมบ่นเรื่องสังขารอันโรยราของตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้นว่า

    "อา ใช่ๆ ฉันเดาว่าลูฟี่คุงน่าจะอยู่ที่เกาะนี้" เรลี่พูดพร้อมกับชำเลืองมองหมวกฟางในมือของเขา

    ลอว์ทำหน้าเข้มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เอากำหมวกฟางในมือแน่นขึ้น 

    ...ที่อยู่ของหมวกฟางยะถูกคนอื่นเดาออก หมอนั่นไม่ปลอดภัย...

    "ไม่ต้องทำหน้าเครียดแบบนั้นก็ได้ ฉันไม่ได้มาร้ายหรอกนะ" เรลี่หัวเราะพร้อมกับอธิบายทั้งเหตุผลที่ทำไมชายชราถึงเดาถูกว่าเป็นที่นี่ และสิ่งที่เขากำลังคิด ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นการช่วยเหลือลูฟี่ทั้งสิ้น ลอว์จึงตัดสินใจฝากหมวกฟางใบสำคัญนั้นไว้กับเรลี่และเดินทางออกจากเกาะสตรี

    แล้วลอว์ก็ยิ้มได้อีกครั้ง เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าวการกระทำอันแปลกประหลาดของลูฟี่ที่มารีนฟอร์ด เขาโล่งใจที่หมวกฟางยะอาการดีขึ้นแล้วทั้งร่างกายและจิตใจ เพียงเท่านี้เขาก็หมดห่วงแล้วออกเดินทางได้อย่างสบายใจ

    ...ห่วง? เขาเนี่ยนะจะห่วงคนอื่นเป็น บ้าไปแล้ว...

    แล้วเวลาก็ล่วงเลยไปถึง 2 ปี ลอว์ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้เจอกับหมวกฟางอีกครั้ง

    "นั่นโทราโอะนี่ เมื่อตอนนั้นขอบใจมากนะที่ช่วยฉัน นายนี่เป็นคนดีจริงๆ" คำทักทายที่ถูกส่งมาพร้อมรอยยิ้มใสซื่อ ทำเอาใจเขาเต้นผิดจังหวะ

    คนดีหรอ? คนที่ได้ฉายาหมอศัลยกรรมแห่งความตายมาเพราะความโหดเหี้ยมแบบเขาเนี่ยนะเป็นคนดี แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่คนตรงหน้ายังจำเขาได้ แถมยังจำเขาไปในทางที่ดี 

    แล้วความคิดนึงก็ผุดขึ้นมา เขาเอ่ยถามออกไป "หมวกฟางยะ นายมาเป็นพันธมิตรกันฉันมั้ย" ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะเอ่ยออกไปแบบนั้น เพราะเป้าหมายเดียวที่มีในตอนนี้คือแก้แค้นในคุณโคร่า ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองอาจจะต้องตายเพื่อปลดปล่อยความแค้นนี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป 

    ลูฟี่ตอบตกลงแทบจะในทันที ทำเอาคนเป็นหมอหวั่นไหวไปวูบนึง

    แม้พวกพ้องของหมวกฟางจะเตือนเขาแล้วว่า คำว่าพันธมิตรของเขากับหมวกฟางนั้นต่างกัน และถ้าหวังจะให้กัปตันหมวกฟางนั้นทำตามแผนการของเขานั้นคงเป็นไปได้ยาก ตอนนั้นลอว์ไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งหมวกฟางทำอะไรเหนือแผนการของเขาบ่อยครั้งแม้ผลจะออกมาดีก็ตาม แต่ลอว์ก็ลอบถอนหายใจไปหลายครั้งเช่นเดียวกัน ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยนึกเสียใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับหมวกฟาง

    ตอนนี้เรือเธาด์ซันซันนี่กำลังมุ่งหน้าไปยังเดรสโรซ่า เพื่อดำเนินการตามแผนการที่เขาเฝ้าวางแผนมาเป็นสิบปี 'จัดการโดฟลามิงโก้ เพื่อคุณโคร่า" ลอว์ไม่หวังเลยว่าเขาจะรอดจากเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสั่งให้ลูกเรือไปรอที่เกาะโซ และการที่เขาขอให้กลุ่มหมวกฟางร่วมมือก็เพื่ออย่างน้อยถ้าเขาตายที่นี่จริงๆ กลุ่มหมวกฟางจะช่วยเป็นคนส่งข่าวนี้ไปยังลูกเรือของเขา และการได้พบลูฟี่ก่อนตายอาจจะเป็นเรื่องดีเรื่องสุดท้ายในชีวิตเขา

    แล้วความวุ่นวายที่เดรสโรซ่าก็เริ่มขึ้น ขณะที่การต่อสู้ยิ่งทวีความรุนแรง ลอว์กำลังจะเสียท่าให้โดฟลามิงโก้ เขากำลังจะถูกเท้าของอดีตเผ่ามังกรฟ้ากระทืบสมองให้แหลก แต่ก็มีเท้าเล็กๆของเด็กหนุ่มผู้สวมหมวกฟางมาขวางไว้เสียก่อน แววตาของลูฟี่ที่จ้องโดฟลามิงโก้ไม่ได้ต่างจากตอนที่ลูฟี่โมโหคนที่ทำร้ายพวกพ้องของเจ้าตัวเลย ใครความเจ็บใจก็มีความดีใจลึกๆซ่อนอยู่ อย่างน้อยหมวกฟางก็เห็นเขาเป็นคนสำคัญ

    แต่หลังจากถูกพาออกมาจากสถาณการณ์นั้นได้ไม่นาน ศัลยแพทย์แห่งความตายก็ต้องมานั่งนึกเสียใจเมื่อหมวกฟางเริ่มเข้าปะทะกับโดฟลามิงโก้แล้ว ขนาดเขายังเกือบเอาตัวแทบไม่รอด แล้วหมวกฟางยะจะเป็นยังไง ถึงจะรู้ดีว่าเด็กหนุ่มหมวกฟางนั้นแข็งแกร่ง แต่ก็อดกลัวไม่ได้ว่าเขาจะต้องจบชีวิตที่นี่ ถ้าเป็นเช่นนั้นลอว์คงเสียใจยิ่งกว่าตัวเองตาย เพราะคนที่ทำให้หมวกฟางยะต้องมาเผชิญเรื่องแบบนี้ก็คือเขา เขาเองที่ลากลูฟีเข้ามาพัวพันกับความวุ่นวายนี้

    "ปล่อยฉันไว้ที่นี่ ฉันอยู่มา13ปีเพื่อจัดการโดฟลามิงโก้ ...ฉันทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว ที่เหลือฝากไว้กับหมวกฟางยะเท่านั้น ถ้าหมอนั่นชนะ ฉันก็อยากดูจนจบอยู่ตรงนี้ ...แต่ถ้าแพ้ ฉันเองก็ควรตายที่นี่เหมือนกัน!!" ใช่แล้ว ฉันเป็นคนลากนายเข้ามาพัวพันในภารกิจที่ฉันเดิมพันด้วยชีวิต ถ้านายตายฉันก็สมควรจะตายด้วย...

    การต่อสู้ดำเนินไปเรื่อย ทั้งเดอฟี่และลูฟี่ต่างใกล้ถึงขีดจำกัด แต่สุดท้ายลูฟี่ก็เอาชนะอสูรสวรรค์ลงได้ เดรสโรซ่าได้รับการช่วยเหลือ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือลอว์ก็ได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน 

    ทั้งๆที่คิดว่าจะยอมตายที่นี่เพื่อจำกัดโดฟลามิงโก้ ทั้งๆที่ตั้งใจจะสละชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือจากคุณโคร่าเพื่อปราบอรูสสวรรค์คนนั้น แต่กลับมีคนช่วยทำหน้าที่นั้นให้สำเร็จแทนเขา โดยที่เขาไม่ต้องจบชีวิตของตัวเองลงที่นี่ จะให้ขอบคุณอย่างไรก็ไม่เพียงพอ ไม่คิดว่าการพบกับหมวกฟางโดยบังเอิญจะนำพาให้โชคชะตาของเขายังคงเดินต่อไป ชีวิตที่ไม่คิดว่าจะเหลือกลับไปหาพวกพ้องด้วยซ้ำ ตอนนี้คิดว่าคงยังเหลือไปอีกยาวเลยแหละ  

    งั้นชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดนี้ ขอมอบให้ 'มังกี้ ดี ลูฟี่' คนนี้แล้วกัน

    'ไม่ว่านายต้องการอะไร ฉันจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อให้นายสมหวัง ไม่ว่านายจะบาดเจ็บอีกสักกี่ครั้งฉันก็จะเป็นคนที่ช่วยรักษาให้นาย และเมื่อนายตกอยู่ในอันตรายฉันก็พร้อมจะเป็นโล่เพื่อปกป้องนาย เพราะชีวิตของฉันเป็นของนายแล้ว หมวกฟางยะ...'

    ***************************************************************************

    Talk with Tsuji Nami

    ตั้งแต่ลอว์เริ่มกลายเป็นตัวหลักของเรื่อง(?) เราก็เริ่มชิบคู่ลอว์ลูอย่างบ้าคลั่ง ผนวกกับมุกิวาระสโตร์พยายามออกGoodsวันพีซที่เป็นลอว์ลูมาอวยแฟนเกิร์ลความคลั่งก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่หยุดยั้ง จริงๆอยากแต่งฟิคลอว์ลูอีกหลายเรื่องเลยค่ะ แต่ติดที่เวลาอันไม่เคยเอื้ออำนวย (เราติดฝึกสหกิจศึกษาอยู่ค่ะ) แต่หลังจากฟีคมากจนทนไม่ไหวก็เลยขอสักเรื่องแล้วกัน

    เรื่องนี้ได้พล็อตมาจาก เล่มล่าสุดที่ออกไป ที่ฟี่ถามลอว์ว่า "นายไม่มีวิธีติดต่อพวกฟ้องที่อยู่ที่โซเลยหรอ" แล้วคุณหมอตอบกลับไปว่า "ไม่มีหรอก ฉันไม่คิดจะเจอพวกนั้นอีกด้วยซ้ำ" มันทำให้เราตีความได้ว่า จริงๆแล้วลอว์อาจจะคิดไว้แล้วว่าตัวเองคงไม่รอดจากเดรสโรซ่าแน่ๆ แต่ฟี่ช่วยจัดการมิงโก้ให้ ลอว์เลยยังมีชีวิตอยู่ แต่เพราะคิดจะทิ้งชีวิตไปแล้วครั้งนึง พอได้กลับคืนมา เลยคิดจะยกให้ผู้มีพระคุณอย่างฟี่ อะไรทำนองนั้น //จริงๆก็มโนนั่นแหละ 5555 

    ระหว่างที่แต่งนี่ก็ได้แต่คิดว่า คุณหมอนี่รักฟี่ข้างเดียวชัดๆเลยนี่หว่า รู้สึกเห็นใจคุณหมอเลยเนี่ย เอาเป็นว่าเรื่องหน้าสัญญาว่าจะให้คุณหมอสมหวังในรักบ้างนะคะ (ถ้าว่างมาแต่งนะ) วันนี้กราบสวัสดีทุกคนที่อ่านจนจบ แล้วเจอกันตอนต่อไปนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×