[Jack Frost x Elsa Frozen] 0 ° C of Love

ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

หลังจากวันที่เอลซ่าเห็นชายหนุ่มผมขาวเหาะไปจากหน้าต่างห้องของเธอ เธอก็เฝ้ามองออกไปนอกหน้าต่างนั้นทุกวัน เพื่อจะเห็นเขาอีกสักครั้ง แต่เธอก็ไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นอีกเลย...

 

จนบางครั้งเอลซ่าก็นึกว่าชายหนุ่มคนนั้นอาจเป็นภาพจินตนาการที่เธอสร้างขึ้นมา เพื่อปัดเป่าความโดดเดี่ยวในใจของเธอหรือเปล่า แต่ทุกครั้งที่เธอเห็นเกล็ดหิมะเกาะที่หน้าต่าง เธอจะคิดเสมอว่าเขาอยู่ตรงนั้นคอยเฝ้ามองดูเธออยู่ 

 

10ปีผ่านไป เหตุการณ์น่าเศร้าที่สุดแห่งเอเรนเดลล์ก็เกิดขึ้น เมื่อพระราชาและพระราชินีแห่งเอเรนเดลล์สิ้นพระชนม์เพราะเรืออับปาง ประชาชนทุกคนต่างโศกเศร้า ไม่พ้นเจ้าหญิงทั้งสองที่ต้องสูญเสียพระบิดาและพระมารดาไป

 

กระทั่งงานศพของพระราชบิดาและพระราชมารดาของเธอ เอลซ่าก็ไม่อาจออกไปร่วมงานได้ เธอไม่สามารถควบคุมพลังอันแข็งแกร่งของตนเองได้ พลังของเธออาจไปทำร้ายใครเข้า เหมือนที่ทำร้ายแอนนาในวันนั้น เอลซ่าได้แต่นั่งร้องไห้อย่างเดียวดายในห้องของเธอ...

 

แจ็ค ฟรอสต์เห็นเจ้าหญิงก็อดที่จะอยากเข้าไปปลอบไม่ได้ ยามนี้ในห้องขององค์หญิงเอลซ่าเต็มไปด้วยน้ำแข็งเกาะตามผนังและเพดาน มันคงเกิดจากอารมณ์เศร้าเสียใจของเธอ ทำให้พลังของเธอแผ่ออกมารอบตัวโดยที่เธอเองก็คงควบคุมมันไม่ได้

 

แจ็ค ฟรอสต์ขยับไม้เท้าของเขาเบาๆ ก่อนน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามเพดานจะค่อยๆหลุดออกมาเป็นละอองหิมะเล็กๆประกายระยิบระยับโปรยปรายอยู่ในห้องขององค์หญิง

 

เอลซ่าที่ก้มหน้าร้องไห้ รู้สึกได้ถึงละอองหิมะที่โปรยปรายลงมา เธอเงยหน้าขึ้น เห็นละอองหิมะโปรยปรายอยู่ในห้องของเธอ เจ้าหญิงเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง เธอรีบหันกลับไปมองที่หน้าต่าง เธอก็พบว่าเด็กหนุ่มที่เธอเคยเห็นเมื่อยังเด็ก เขาอยู่ตรงนั้นและเขาไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อ10ปีก่อนเลย...

 

สายตาสีฟ้าอ่อนของทั้งคู่สบเข้าหากัน แจ็ค ฟรอสต์ส่งยิ้มอ่อนโยนให้เอลซ่า คิดว่าเธอคงจะเห็นรอยยิ้มของเขา

 

น้ำตาใสๆรื้อขึ้นมาบนดวงตาของหญิงสาว เอลซ่ามองหน้าแจ็ค ฟรอสต์ด้วยอารมณ์หลายหลาย ทั้งดีใจ เสียใจ ประหลาดใจ และสับสน แต่ที่แน่ๆ ชายหนุ่มแปลกประหลาดที่หน้าต่างนั่น ทำให้เธอรู้สึกได้ว่า เธอไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่เธอคิด

 

แจ็ค ฟรอสต์เอามือแตะที่หน้าต่าง มองดูองค์หญิงคนโตแห่งเอเรนเดลล์ร่ำไห้ ตอนนี้เขาอยากจะพุ่งเข้าไปโอบกอดเธอไว้เสียจริงๆ แต่หน้าต่างบานนี้กั้นเราท้งคู่เอาไว้ แจ็คทำได้เพียงเสกเกล็ดหิมะเล็กๆให้ตกอยู่ใกล้ๆกับตัวของหญิงสาว เพื่อจะบอกว่ายังมีเขาอยู่ข้างเธอเสมอ

 

เอลซ่าเก็บเกล็ดหิมะเล็กนั่นขึ้นมาวางไว้ในมือ ก่อนที่เธอจะเงยหน้ากลับไปมองที่หน้าต่างแล้วพบว่าเขาไม่อยู่เสียแล้ว.....

 

หลายวันผ่านไป เอลซ่าไม่พบชายหนุ่มปริศนาคนนั้นอีก จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิเริ่มเข้ามาเยือนเอเรนเดลล์ อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้หิมะที่เคยขาวโพลนมลายหายไป เมืองเต็มไปด้วยผู้คนและสีสันสดใสของดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผลิบานต้อนรับผู้คนที่จะมาเยือนเอเรนเดลล์ เนื่องในวันสำคัญวันหนึ่งของเมืองวันนี้

 

เอลซ่ามองเกล็ดหิมะอันน้อยๆในมือของเธอ มันเป็นเกล็ดหิมะที่ชายหนุ่มที่หน้าต่างเสกให้เธอ ก่อนที่เขาจะหายไป แม้จะเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่เกล็ดหิมะนั้นก็ไม่มีวี่แววจะละลาย เอลซ่ามองมันด้วยรอยยิ้ม ก่อนเธอจะเอาเกล็ดหิมะเหล่านั้นแซมลงไปบนเส้นผมสีอ่อนของเธอ ก่อนจะรวมมันขึ้นไปอย่างเรียบร้อย

 

เอลซ่ามองสิ่งที่เธอต้องถือในพระราชพิธีราชาภิเษก เธอก็อดหวาดกลัวไม่ได้ว่าจะมีคนล่วงรู้ถึงพลังของเธอ ก็แน่ล่ะ ตอนนี้เธอจับอะไรก็เป็นน้ำแข็งไปเสียหมด เพราะจิตใจเธอสั่นไหว เธอยังควบคุมพลังของตนเองไม่ได้ดีนัก ใช่แล้ว! ราชาภิเษก

 

วันนี้เธอจะไม่ได้เป็นแค่องค์หญิงเอลซ่าอีกต่อไป แต่เธอจะเป็นราชินีเอลซ่าแห่งเอเรนเดลล์.....