ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [ZoroxSanji] Kamabakka's Souvenir
หลังจากไม่เจอหน้ากันมา2ปี โจรสลัดกลุ่มหมวกฟางก็กลับมาเจอกันที่เกาะชาบอนดี้ เกาะสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะแยกจากันไป และต่อจากนี้เรือซันนี่ก็พร้อมจะออกจากเกาะแห่งนี้ เพื่อจะเดินทางไปยังเกาะเงือกซึ่งเป็นทางผ่านสู่ดินแดนที่เรียกว่า'โลกใหม่'แล้ว
ขณะที่ทุกๆคนกำลังชื่นชมความงามใต้ท้องทะเลกันอยู่ที่ดาดาฟ้าเรือ กัปตันของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางก็เหมือนว่าท้องจะร้องหาข้าวอีกแล้ว
"ซันจิ ฉันหิวแล้วอ่า หาอะไรให้กินหน่อนสิ" ลูฟี่ออกคำสั่งกับกุ๊กประจำเรือ
"ได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมข้าวเย็นให้นะ แล้วจะได้รู้ว่า2ปีที่ผ่านมาฝีมือฉันพัฒนาขึ้นแค่ไหน" ว่าจบกุ๊กหนุ่มก็เดินเข้าไปในตัวเรือ แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มปรุงอาหารได้เขาต้องไปหยิบส่วนผสมสำคัญเสียก่อน
ซันจิเดินเขามาให้ห้องนอนของพวกผู้ชาย เขาเดินไปค้นหาเครื่องเทศสูตรพิเศษที่เขาเพิ่งได้มาจากเกาะคามาบัคคะในกระเป๋าของเขา หาอยู่สักพักเขาก็พบขวดแก้ว2-3ขวด เขาก็หยิบมันขึ้นมา ก่อนจะพบว่าใต้เครื่องเทศนั่นมีของแปลกๆที่ไม่น่าจะใช่ของเขาอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาก็พบว่า มันคือ 'ชุดลูกไม้ฟูฟ่อง' สีชมพู เห็นแล้วซันจิถึงกับขนลุก นี่วิ่งหนีมันมาถึง2ปี มันยังตามมาโผล่อยู่ในกระเป๋าเขาอีกหรือนี่ ซันจินึกไปถึงสมัยที่เขาต้องฝึกวิชาอยูที่เกาะคามาบัคคะที่เต็มไปด้วยกระเทยที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา แค่คิดน้ำตาของกุ๊กหนุ่มก็แทบรื้อขึ้นมาแล้ว
เสียงตะโกนหาข้าวของกัปตันลูฟี่ดังขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ซันจิต้องยัดชุดลูกไม้บ้าๆนี่ลงไปในกระเป๋าของเขาก่อน แล้วไปเตรียมข้าวเย็นให้เหล่าเพื่อนพ้อง และคิดไว้ในใจว่าเขาจะต้องกลับมาเอาชุดบ้าๆนี่ไปเผาให้เร็วที่สุด
หลังจากมื้อเย็นจบลง ทุกคนฟาดอาหารเกลี้ยงจานอย่างเอร็ดอร่อย และซันจิก็เก็บจานไปล้างเรียบร้อย เขาก็เดินกลับเขามาในห้องนอนเพื่อรื้อหาชุดลูกไม้นั่นอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อชุดลูกไม้น่าขนลุกนั่นไม่อยู่ในกระเป๋าเขาเสียแล้ว หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นจะมีใคร จะมีแต่เจ้านักดาบหัวมาริโมะที่นอนกรนอยู่ที่เตียงของตัวเองเท่านั้นแหละ
"เฮ้ย ไอ้หัวสาหร่าย นายเห็นใครเข้ามาให้ห้องนี้บ้างมั้ย" ซันจิเอ่ยถาม จริงๆเขาไม่อยากจะเสวนากับโซโลสักเท่าไหร่ ไม่ใช่พราะเกลียดหรืออะไรหรอกนะ แต่คุยกับหมอนี่ทีไรเขาต้องแพ้คารมโซโลให้ได้ทุกครั้งสิน่า แล้วยิ่งไม่เจอกันตั้ง2ปีอีกแบบนี้..... แค่คิดหน้าก็ขึ้นสีแล้วเนี่ย
"งืม...ไม่มีหรอก" โซโลตอบทั้งๆที่ยังงัวเงีย ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจจะตอบคำถามของซันจิสักเท่าไหร่อีกต่างหาก นี่ไอ้บ้นักดาบนี่คิดจะนอนอย่างเดียวเลยรึไงนะ ซันจิคิดก็จะเลิกใส่ใจโซโล แล้วหันมาคิดเรื่องชุดลูกไม้ที่หายไปของเขาต่อ
ถ้าคุณนามิหรือคุณโรบินเอาไป ก็ไม่น่าจะใช่ เธอ2คนไม่น่าจะเข้ามาในห้องนอนของผู้ชายอยู่แล้ว หรือถ้าอุซปไม่ก็บรูคหยิบออกไป เขาก็น่าจะโดนล้อแล้วนี่นา อีกอย่างเมื่อกี้โซโลก็บอกว่าไม่มีใครเข้ามาอีก ถ้าไม่มีอะไรที่น่าจะเป็นไปได้ ก็น่าจะเป็นว่าไอ้ชุดลูกไม้นั่นไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาน่าจะแค่หลอนไปเองเพราะ2ปีที่ผ่านมามันนรกมากสำหรับเขาจริงๆ พอโล่งใจเรื่องชุดลูกไม้ได้แล้วซันจิก็เดินออกจากห้องนอนไป โดยมีนักดาบประจำกลุ่มหมวกฟางมองตามเขาออกไปไม่วางตา
ซันจิเดินเข้ามาในห้องหนังสือของเรือซันนี่ เพื่อจะทบทวนสูตรอาหารที่เขาห่างหายไปนาน ตอนนี้ภายในห้องมีแต่เขากับหนังสือเป็นร้อยๆเล่มเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือน่ะหรอ ถ้าไม่ชมโลกใต้ทะเลอยู่ที่ดาดฟ้าก็คงเข้านอนกันหมดแล้วมั้ง ซันจินั่งอ่านตำราอาหารอยู่ได้พักใหญ่เขาก็พบว่าเขาเองก็ควรจะไปนอนได้แล้ว เอาจึงลุกเอาหนังสือทั้งหมดไปเก็บที่ชั้น
ขณะที่เขาปิดไฟ และกำลังเดินออกจากห้องอ่านหนังสือนั้นเอง ก็มีคนร้ายเดินเข้ามาประชิดข้างหลังเขาเอาผ้าที่ดำปิดตาและปากเอาไว้ พร้อมกับเอาเชือกมัดขาของของเขาเพื่อไม่ให้เขาขัดขืนได้ ส่วนมือก็โดนพันธนาการด้วยมือของคนร้ายไปเรียบร้อย ซันจิพยายามดิ้นอยู่พักใหญ่แต่คนร้ายก็กดตัวเขาลงกับพิ้น และไม่ว่าเขาจะถีบจะเตะคนร้ายยังไง คนร้ายก็หลบได้ตลอด จนซันจิอยากจะคืนฉายาขาดำนี่ให้กับรัฐบาลเลยทีเดียว
คนร้ายใช้มือข้างนึงค่อยๆปลดกระดุมเขาซันจิออกทีละเม็ดๆ จนเขาถอดเสื้อของซันจิได้สำเร็จ ซันจิพยายามขัดขืนอีกครั้ง แต่เขาก็สู้แรงคนร้ายบ้ากามนี่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าไอ้คนร้ายนี่มันเป็นซุปเปอร์แมนหรือยังไงถึงได้มีแรงช้าสารขนาดนี้ ซันจิเริ่มคิดว่าเขาคงโดนคนร้ายบ้ากามนี่ข่มขืนเอาซะแล้ว แต่ผิดคาดเมื่อคนร้ายกลับใส่เสื้อผ้าชุดอื่นให้กับเขาแทน แถมไอ้ชุดบ้านี่คงใส่ยากซะด้วย มีทั้งครอเซ็ทรัดเอว มีทั้งโครงเสริมหน้าอก แถมด้วยเชือกระโยงระยางอีกต่างหาก จนคนแต่งตัวให้ถึงกับสบถออกมาเลยทีเดียว
พอเหมือนคนร้ายจะแต่งองค์ให้ซันจิเสร็จ จะเหลือก็แต่ถอดกางเกงที่เขาใส่อยู่ คนร้ายก็ปลดเข็มขัดแล้วเลื่อนกางเกงลงมา แต่มันก็ถอดไม่ได้เพราะติดเชือกที่คนร้ายมัดเท้าเขาไว้นั่นแหละ คนร้ายจึงจำเป็นที่จะต้องงแก้เชือดที่ขาให้ซันจิ สบโอกาสของซันจิ เขาสะบัดมือที่โดนจับไว้แล้วตีลังกาหมุนตัวเตะโดนคนร้ายเต็มๆ จนคนร้ายกระเด็นไปชนตู้หนังสืออีกฟากเลย
ทันทีที่ซันจิทรงตัวได้ เขาก็แก้มัดผ้าที่หน้า แล้วสำรวจตัวเองอย่าละเอียด เมื่อกี้จังหวะที่เขาหมุนตัวฟาดขาไปที่คนร้าย กางเกงเขาก็หลุดกระเด็นไปด้วยเรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็แต่ชุดที่คนร้ายจับเขาใส่นั่นแหละ แล้วเขาก็พบว่าชุดที่เขาใส่อยู่ก็คือชุดโลลิต้าหวานแหววที่เขาจะเอาไปเผาทิ้งนั่นแหละ ซันจิถึงกับทำหน้าเหวอ นี่คนร้ายที่จับเขามัดคงไม่ใช่คนร้ายบ้ากามแล้วล่ะ น่าจะเป็นคนร้ายโรจจิตมากกว่าถึงได้จับเขาใส่ชุดแบบนี้ ซันจิพยายามจะดึงเชือกที่ด้านหลังเพื่อจะถอดชุดนี้ออกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาถึงกับทรุดลงอย่างอ่อนใจ
"เปล่าประโยชน์น่า ชุดนั้นถอดเองไม่ได้หรอก ขนาดมีคนใส่ให้ยังใส่ลำบากเลย" ตัวการที่ทำให้เขาต้องอยู่ในชุดลูกไม้นี่กล่าวขึ้น ซันจิเดินตรงไปหาเขาแล้วออกคำสั่งกับคนร้าย
"ไอ้บ้าโรคจิต นายต้องถอดชุดนี้ให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!" ซันจิสั่งเสียงแข็ง แต่คำตอบกลับมีแค่เสียงหัวเราะในลำคอของคนร้าย
"เมื่อกี้ก็ไอ้หัวสาหร่าย คราวนี้เป็นไอ้บ้าโรคจิตหรอ ไม่เจอกันตั้งนานนายไม่คิดจะพูดดีๆกับฉันบ้างเลยรึไงหะ ไอ้คิ้วม้วน" ว่าจบโซโลก็ลุกขึ้นยืน ทำเอาซันจิที่เพิ่งจะเห็นหน้าคนร้ายชัดๆถึงกับผงะ นี่มัน!!..ไอ้บ้านักดาบหัวสาหร่ายนี่นา
โซโลเดินไล่ต้อนซันจิไปจนถึงอีกมุมหนึ่งของห้อง ซันจิที่ถอยหลังมาจนหลังชนเข้ากับชั้นว่าหนังสือ ก็ล้มตัวลงนั่งผิงชั้นวางหนังสืออย่างจนมุม โซโลหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมาจากเสื้อนอก ซึ่งซันจิคิดว่าคงเป็นเชือกที่เอาไว้มัดเขาไม่ให้ขัดขืนอีกรอบอย่างแน่นอน เมื่อโซโลล้วงเอาสิ่งของนั้นออกมา ก็มีแสงสว่างจ้าขึ้นทำเอาซันจิต้องยกมือขึ้นมาป้องแสงที่แยงตา
สิ่งที่โซโลหยิบขึ้นมาก็คือ 'กล้องถ่ายรูป' นั่นเอง เขากดชัตเตอร์ใส่ซันจิที่กำลังอึ้งรัวๆๆ จนได้ภาพหนุ่มน้อยในชุดโลลิต้าสมใจอยาก ซันจิที่ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเก็บภาพในสภาพแบบนี้ก็โวยวายยกใหญ่ แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว โซโลเก็บกล้องถ่ายรูปกลับเข้าไปในเสื้อนอก และเดินหัวเราะร่าออกจากห้องไป ทิ้งซันจิไว้ในห้องหนังสือ ซันจิโกรธจนควันออกหู เขาตะโกนเรียนไอ้บ้าที่ทำให้ให้เขาอยู่ในสภาพนี้อยู่นาน จะออกก็ออกไปไม่ได้ ถ้าใครเห็นเขาได้อายจนต้องแทรกแผ่นดินหนีแหงๆ
เช้าวันรุ่งขึ้นซันจิ แบกสังขารตัวเองออกมาจากห้องหนังสือ ในมือมีชุดโลลิต้าสีชมพูที่พร้อมจะเอาไปเผาทิ้งได้ทุกเมื่ออยู่ กว่าเขาจะถอดมันออกได้ มันลำบากแค่ไหนรู้มั้ย ทำเอาเขาเหงื่อตกเลยทีเดียว นอนก็ไม่ได้นอนอีกต่างหาก พอออกมาก็พบกับนามิที่กำลังเดินสวนเข้ามาพอดี
"ซันจิ ชุดอะไรน่ะ ฉันขอได้มั้ย มันดูน่ารักจังเลย" ไม่ว่าธรรมดา หยิบชุดในมือเขาไปดูอีก
"เอ่อ..." ซันจิทำท่าจะปฏิเสธ แต่นามิทำสายตาเว้าวอน
"ถ้าคุณนามิอยากได้ก็เอาไปสิครับ จริงๆผมก็กะจะเอามาฝากคุณอยู่แล้ว" ซันจิพูดพลางยิ้มแหยๆ เขาไม่กล้าปฏิเสธเลดี้หรอก
"จริงหรอซันจิ! ขอบใจมากนะ" ว่าพลางก็กอดชุดในมือไปอย่างอารมณืดี แต่ซันจินี่สิถึงกับน้ำตาตกใจ เขาอยากเผามันทิ้งใจจะขาด
ซันจิเดินลงมาที่ดาดาฟ้าเรือ ก็เห็นโซโลนั่งดูรูปพร้อมยิ้มร่าอย่างสบายใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารูปพวกนั้นต้องเป็นรูปเขาเมื่อคืนแหงๆ ซันจิเดินควันออกหูเข้าไปหาโซโล
"ไอ้มาริโมะ เอารูปพวกนั้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!"
"ได้ไงเล่า รูปพวกนี้ฉันลำบากนะกว่าจะได้มา กว่าจะขอให้แฟรงกี้สร้างกล้องถ่ายรูปให้ กว่าจะจับนายแต่งตัวได้อีก ให้นายง่ายก็โง่สิฟร่ะ"
"แล้วนายจะเก็บรูปบ้าๆนี่ไว้ทำไมเล่า เอามานี่ซะดีๆ" ซันจิพยายามยื้อแย่งรูปจากมือของพ่อนักดาบประจำเรือ
"รูปบ้าๆที่ไหน นี่แหละของแรร์เลย ถ้านายอยากได้จริงๆ นายต้องจูบฉันก่อนแล้วฉันถึงจะให้นาย เอามั้ยล่ะ?" ไม่พูดเปล่ายื่นมือข้างหนึ่งไปเชยคางซันจิอีกต่างหาก
กุ๊กคนเก่งฉายาขาดำถึงกับหน้าแดงเมื่อคิดสภาพที่ตัวเองต้องเป็นฝ่ายจูบไอ้บ้านักดาบคนนี้ แต่จะไม่ให้เขาทำก็คงไม่ได้สินะ เอาวะ เพื่อเอารูปอัปยศของตัวเองคืน ยังไงก็ต้องทำ!! ซันจิโน้มตัวไปหาโซโลช้า เขาเอาริมฝีปากของเขาเตะกับปากของโซโลเบาๆเพียงไม่กี่วินาที แล้วก็เงยหน้ากลับขึ้นมาในทันที
"ฉันจูบนายแล้ว เอารูปนั้นมาให้ฉันซะ!!" เขาสั่งหน้าแดง
"จริงๆนั่นไม่เรียกว่าจูบด้วยซ้ำ แต่เอาเถอะถือว่านายเป็นคนเริ่มก่อนฉันจะคืนให้" ว่าพลางก็ยื่นรูปในมือให้ซันจิ กุ๊กหนุ่มรีบคว้ามาพร้อมกับจุดไฟแช็คเผาในทันที
"อ๊ะ! นายทำบ้าอะไรเนี่ย น่าเสียดายจะตาย" โซโลมองรูปค่อยถูกเผาไปช้า อย่างเสียดาย ทำเอาซันจิยิ้มเยาะออกมาเลยทีเดียว
"แต่ไม่เป็นไร ฉันยังมีอีกเยอะเลย" ว่าจบเขาก็ล้วงเขาไปในเสื้อนอก แล้วหยิบภาพซันจิในชุดลูกไม้สีชมพูอกมาอีกปึ้กใหญ่ คงมีสักร้อยกว่ารูปได้มั้ง แถมยังไม่ซ้ำกันเลยอีกต่างหาก
"!!!!" ซันจิเบิกตากว้างเขาพยายามจะยื้อแย่งรูปภาพมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้โซโลกับเอามือขึ้นมาจุ๊บปาก เป็นสัญญาณว่าอย่าแม้แต่จะคิด
"อ๊ะๆๆ อย่านะ ถ้าอยากได้ 1รูปเท่ากับ1จูบ"
ซันจิหน้าแดงขึ้นมาด้วยความเขินอีกครั้ง นี่ถ้าชาตินี้เขาอยากจะทำลายรูปภาพพวกนี้จนหมด นี่เขาต้องยอมจูบกับไอ้บ้านักดาบนี่เป็นร้อยครั้งเลยหรอเนี่ย ม่ายยยยน้าาาาาา!!!
ขณะที่ทุกๆคนกำลังชื่นชมความงามใต้ท้องทะเลกันอยู่ที่ดาดาฟ้าเรือ กัปตันของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางก็เหมือนว่าท้องจะร้องหาข้าวอีกแล้ว
"ซันจิ ฉันหิวแล้วอ่า หาอะไรให้กินหน่อนสิ" ลูฟี่ออกคำสั่งกับกุ๊กประจำเรือ
"ได้เลย เดี๋ยวฉันจะไปเตรียมข้าวเย็นให้นะ แล้วจะได้รู้ว่า2ปีที่ผ่านมาฝีมือฉันพัฒนาขึ้นแค่ไหน" ว่าจบกุ๊กหนุ่มก็เดินเข้าไปในตัวเรือ แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มปรุงอาหารได้เขาต้องไปหยิบส่วนผสมสำคัญเสียก่อน
ซันจิเดินเขามาให้ห้องนอนของพวกผู้ชาย เขาเดินไปค้นหาเครื่องเทศสูตรพิเศษที่เขาเพิ่งได้มาจากเกาะคามาบัคคะในกระเป๋าของเขา หาอยู่สักพักเขาก็พบขวดแก้ว2-3ขวด เขาก็หยิบมันขึ้นมา ก่อนจะพบว่าใต้เครื่องเทศนั่นมีของแปลกๆที่ไม่น่าจะใช่ของเขาอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาก็พบว่า มันคือ 'ชุดลูกไม้ฟูฟ่อง' สีชมพู เห็นแล้วซันจิถึงกับขนลุก นี่วิ่งหนีมันมาถึง2ปี มันยังตามมาโผล่อยู่ในกระเป๋าเขาอีกหรือนี่ ซันจินึกไปถึงสมัยที่เขาต้องฝึกวิชาอยูที่เกาะคามาบัคคะที่เต็มไปด้วยกระเทยที่เขาเกลียดนักเกลียดหนา แค่คิดน้ำตาของกุ๊กหนุ่มก็แทบรื้อขึ้นมาแล้ว
เสียงตะโกนหาข้าวของกัปตันลูฟี่ดังขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ซันจิต้องยัดชุดลูกไม้บ้าๆนี่ลงไปในกระเป๋าของเขาก่อน แล้วไปเตรียมข้าวเย็นให้เหล่าเพื่อนพ้อง และคิดไว้ในใจว่าเขาจะต้องกลับมาเอาชุดบ้าๆนี่ไปเผาให้เร็วที่สุด
หลังจากมื้อเย็นจบลง ทุกคนฟาดอาหารเกลี้ยงจานอย่างเอร็ดอร่อย และซันจิก็เก็บจานไปล้างเรียบร้อย เขาก็เดินกลับเขามาในห้องนอนเพื่อรื้อหาชุดลูกไม้นั่นอีกครั้ง แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อชุดลูกไม้น่าขนลุกนั่นไม่อยู่ในกระเป๋าเขาเสียแล้ว หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นจะมีใคร จะมีแต่เจ้านักดาบหัวมาริโมะที่นอนกรนอยู่ที่เตียงของตัวเองเท่านั้นแหละ
"เฮ้ย ไอ้หัวสาหร่าย นายเห็นใครเข้ามาให้ห้องนี้บ้างมั้ย" ซันจิเอ่ยถาม จริงๆเขาไม่อยากจะเสวนากับโซโลสักเท่าไหร่ ไม่ใช่พราะเกลียดหรืออะไรหรอกนะ แต่คุยกับหมอนี่ทีไรเขาต้องแพ้คารมโซโลให้ได้ทุกครั้งสิน่า แล้วยิ่งไม่เจอกันตั้ง2ปีอีกแบบนี้..... แค่คิดหน้าก็ขึ้นสีแล้วเนี่ย
"งืม...ไม่มีหรอก" โซโลตอบทั้งๆที่ยังงัวเงีย ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจจะตอบคำถามของซันจิสักเท่าไหร่อีกต่างหาก นี่ไอ้บ้นักดาบนี่คิดจะนอนอย่างเดียวเลยรึไงนะ ซันจิคิดก็จะเลิกใส่ใจโซโล แล้วหันมาคิดเรื่องชุดลูกไม้ที่หายไปของเขาต่อ
ถ้าคุณนามิหรือคุณโรบินเอาไป ก็ไม่น่าจะใช่ เธอ2คนไม่น่าจะเข้ามาในห้องนอนของผู้ชายอยู่แล้ว หรือถ้าอุซปไม่ก็บรูคหยิบออกไป เขาก็น่าจะโดนล้อแล้วนี่นา อีกอย่างเมื่อกี้โซโลก็บอกว่าไม่มีใครเข้ามาอีก ถ้าไม่มีอะไรที่น่าจะเป็นไปได้ ก็น่าจะเป็นว่าไอ้ชุดลูกไม้นั่นไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เขาน่าจะแค่หลอนไปเองเพราะ2ปีที่ผ่านมามันนรกมากสำหรับเขาจริงๆ พอโล่งใจเรื่องชุดลูกไม้ได้แล้วซันจิก็เดินออกจากห้องนอนไป โดยมีนักดาบประจำกลุ่มหมวกฟางมองตามเขาออกไปไม่วางตา
ซันจิเดินเข้ามาในห้องหนังสือของเรือซันนี่ เพื่อจะทบทวนสูตรอาหารที่เขาห่างหายไปนาน ตอนนี้ภายในห้องมีแต่เขากับหนังสือเป็นร้อยๆเล่มเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือน่ะหรอ ถ้าไม่ชมโลกใต้ทะเลอยู่ที่ดาดฟ้าก็คงเข้านอนกันหมดแล้วมั้ง ซันจินั่งอ่านตำราอาหารอยู่ได้พักใหญ่เขาก็พบว่าเขาเองก็ควรจะไปนอนได้แล้ว เอาจึงลุกเอาหนังสือทั้งหมดไปเก็บที่ชั้น
ขณะที่เขาปิดไฟ และกำลังเดินออกจากห้องอ่านหนังสือนั้นเอง ก็มีคนร้ายเดินเข้ามาประชิดข้างหลังเขาเอาผ้าที่ดำปิดตาและปากเอาไว้ พร้อมกับเอาเชือกมัดขาของของเขาเพื่อไม่ให้เขาขัดขืนได้ ส่วนมือก็โดนพันธนาการด้วยมือของคนร้ายไปเรียบร้อย ซันจิพยายามดิ้นอยู่พักใหญ่แต่คนร้ายก็กดตัวเขาลงกับพิ้น และไม่ว่าเขาจะถีบจะเตะคนร้ายยังไง คนร้ายก็หลบได้ตลอด จนซันจิอยากจะคืนฉายาขาดำนี่ให้กับรัฐบาลเลยทีเดียว
คนร้ายใช้มือข้างนึงค่อยๆปลดกระดุมเขาซันจิออกทีละเม็ดๆ จนเขาถอดเสื้อของซันจิได้สำเร็จ ซันจิพยายามขัดขืนอีกครั้ง แต่เขาก็สู้แรงคนร้ายบ้ากามนี่ไม่ได้ ไม่รู้ว่าไอ้คนร้ายนี่มันเป็นซุปเปอร์แมนหรือยังไงถึงได้มีแรงช้าสารขนาดนี้ ซันจิเริ่มคิดว่าเขาคงโดนคนร้ายบ้ากามนี่ข่มขืนเอาซะแล้ว แต่ผิดคาดเมื่อคนร้ายกลับใส่เสื้อผ้าชุดอื่นให้กับเขาแทน แถมไอ้ชุดบ้านี่คงใส่ยากซะด้วย มีทั้งครอเซ็ทรัดเอว มีทั้งโครงเสริมหน้าอก แถมด้วยเชือกระโยงระยางอีกต่างหาก จนคนแต่งตัวให้ถึงกับสบถออกมาเลยทีเดียว
พอเหมือนคนร้ายจะแต่งองค์ให้ซันจิเสร็จ จะเหลือก็แต่ถอดกางเกงที่เขาใส่อยู่ คนร้ายก็ปลดเข็มขัดแล้วเลื่อนกางเกงลงมา แต่มันก็ถอดไม่ได้เพราะติดเชือกที่คนร้ายมัดเท้าเขาไว้นั่นแหละ คนร้ายจึงจำเป็นที่จะต้องงแก้เชือดที่ขาให้ซันจิ สบโอกาสของซันจิ เขาสะบัดมือที่โดนจับไว้แล้วตีลังกาหมุนตัวเตะโดนคนร้ายเต็มๆ จนคนร้ายกระเด็นไปชนตู้หนังสืออีกฟากเลย
ทันทีที่ซันจิทรงตัวได้ เขาก็แก้มัดผ้าที่หน้า แล้วสำรวจตัวเองอย่าละเอียด เมื่อกี้จังหวะที่เขาหมุนตัวฟาดขาไปที่คนร้าย กางเกงเขาก็หลุดกระเด็นไปด้วยเรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็แต่ชุดที่คนร้ายจับเขาใส่นั่นแหละ แล้วเขาก็พบว่าชุดที่เขาใส่อยู่ก็คือชุดโลลิต้าหวานแหววที่เขาจะเอาไปเผาทิ้งนั่นแหละ ซันจิถึงกับทำหน้าเหวอ นี่คนร้ายที่จับเขามัดคงไม่ใช่คนร้ายบ้ากามแล้วล่ะ น่าจะเป็นคนร้ายโรจจิตมากกว่าถึงได้จับเขาใส่ชุดแบบนี้ ซันจิพยายามจะดึงเชือกที่ด้านหลังเพื่อจะถอดชุดนี้ออกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาถึงกับทรุดลงอย่างอ่อนใจ
"เปล่าประโยชน์น่า ชุดนั้นถอดเองไม่ได้หรอก ขนาดมีคนใส่ให้ยังใส่ลำบากเลย" ตัวการที่ทำให้เขาต้องอยู่ในชุดลูกไม้นี่กล่าวขึ้น ซันจิเดินตรงไปหาเขาแล้วออกคำสั่งกับคนร้าย
"ไอ้บ้าโรคจิต นายต้องถอดชุดนี้ให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!" ซันจิสั่งเสียงแข็ง แต่คำตอบกลับมีแค่เสียงหัวเราะในลำคอของคนร้าย
"เมื่อกี้ก็ไอ้หัวสาหร่าย คราวนี้เป็นไอ้บ้าโรคจิตหรอ ไม่เจอกันตั้งนานนายไม่คิดจะพูดดีๆกับฉันบ้างเลยรึไงหะ ไอ้คิ้วม้วน" ว่าจบโซโลก็ลุกขึ้นยืน ทำเอาซันจิที่เพิ่งจะเห็นหน้าคนร้ายชัดๆถึงกับผงะ นี่มัน!!..ไอ้บ้านักดาบหัวสาหร่ายนี่นา
โซโลเดินไล่ต้อนซันจิไปจนถึงอีกมุมหนึ่งของห้อง ซันจิที่ถอยหลังมาจนหลังชนเข้ากับชั้นว่าหนังสือ ก็ล้มตัวลงนั่งผิงชั้นวางหนังสืออย่างจนมุม โซโลหยิบบางสิ่งบางอย่างออกมาจากเสื้อนอก ซึ่งซันจิคิดว่าคงเป็นเชือกที่เอาไว้มัดเขาไม่ให้ขัดขืนอีกรอบอย่างแน่นอน เมื่อโซโลล้วงเอาสิ่งของนั้นออกมา ก็มีแสงสว่างจ้าขึ้นทำเอาซันจิต้องยกมือขึ้นมาป้องแสงที่แยงตา
สิ่งที่โซโลหยิบขึ้นมาก็คือ 'กล้องถ่ายรูป' นั่นเอง เขากดชัตเตอร์ใส่ซันจิที่กำลังอึ้งรัวๆๆ จนได้ภาพหนุ่มน้อยในชุดโลลิต้าสมใจอยาก ซันจิที่ไม่คิดว่าตัวเองจะถูกเก็บภาพในสภาพแบบนี้ก็โวยวายยกใหญ่ แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว โซโลเก็บกล้องถ่ายรูปกลับเข้าไปในเสื้อนอก และเดินหัวเราะร่าออกจากห้องไป ทิ้งซันจิไว้ในห้องหนังสือ ซันจิโกรธจนควันออกหู เขาตะโกนเรียนไอ้บ้าที่ทำให้ให้เขาอยู่ในสภาพนี้อยู่นาน จะออกก็ออกไปไม่ได้ ถ้าใครเห็นเขาได้อายจนต้องแทรกแผ่นดินหนีแหงๆ
เช้าวันรุ่งขึ้นซันจิ แบกสังขารตัวเองออกมาจากห้องหนังสือ ในมือมีชุดโลลิต้าสีชมพูที่พร้อมจะเอาไปเผาทิ้งได้ทุกเมื่ออยู่ กว่าเขาจะถอดมันออกได้ มันลำบากแค่ไหนรู้มั้ย ทำเอาเขาเหงื่อตกเลยทีเดียว นอนก็ไม่ได้นอนอีกต่างหาก พอออกมาก็พบกับนามิที่กำลังเดินสวนเข้ามาพอดี
"ซันจิ ชุดอะไรน่ะ ฉันขอได้มั้ย มันดูน่ารักจังเลย" ไม่ว่าธรรมดา หยิบชุดในมือเขาไปดูอีก
"เอ่อ..." ซันจิทำท่าจะปฏิเสธ แต่นามิทำสายตาเว้าวอน
"ถ้าคุณนามิอยากได้ก็เอาไปสิครับ จริงๆผมก็กะจะเอามาฝากคุณอยู่แล้ว" ซันจิพูดพลางยิ้มแหยๆ เขาไม่กล้าปฏิเสธเลดี้หรอก
"จริงหรอซันจิ! ขอบใจมากนะ" ว่าพลางก็กอดชุดในมือไปอย่างอารมณืดี แต่ซันจินี่สิถึงกับน้ำตาตกใจ เขาอยากเผามันทิ้งใจจะขาด
ซันจิเดินลงมาที่ดาดาฟ้าเรือ ก็เห็นโซโลนั่งดูรูปพร้อมยิ้มร่าอย่างสบายใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารูปพวกนั้นต้องเป็นรูปเขาเมื่อคืนแหงๆ ซันจิเดินควันออกหูเข้าไปหาโซโล
"ไอ้มาริโมะ เอารูปพวกนั้นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้นะ!!"
"ได้ไงเล่า รูปพวกนี้ฉันลำบากนะกว่าจะได้มา กว่าจะขอให้แฟรงกี้สร้างกล้องถ่ายรูปให้ กว่าจะจับนายแต่งตัวได้อีก ให้นายง่ายก็โง่สิฟร่ะ"
"แล้วนายจะเก็บรูปบ้าๆนี่ไว้ทำไมเล่า เอามานี่ซะดีๆ" ซันจิพยายามยื้อแย่งรูปจากมือของพ่อนักดาบประจำเรือ
"รูปบ้าๆที่ไหน นี่แหละของแรร์เลย ถ้านายอยากได้จริงๆ นายต้องจูบฉันก่อนแล้วฉันถึงจะให้นาย เอามั้ยล่ะ?" ไม่พูดเปล่ายื่นมือข้างหนึ่งไปเชยคางซันจิอีกต่างหาก
กุ๊กคนเก่งฉายาขาดำถึงกับหน้าแดงเมื่อคิดสภาพที่ตัวเองต้องเป็นฝ่ายจูบไอ้บ้านักดาบคนนี้ แต่จะไม่ให้เขาทำก็คงไม่ได้สินะ เอาวะ เพื่อเอารูปอัปยศของตัวเองคืน ยังไงก็ต้องทำ!! ซันจิโน้มตัวไปหาโซโลช้า เขาเอาริมฝีปากของเขาเตะกับปากของโซโลเบาๆเพียงไม่กี่วินาที แล้วก็เงยหน้ากลับขึ้นมาในทันที
"ฉันจูบนายแล้ว เอารูปนั้นมาให้ฉันซะ!!" เขาสั่งหน้าแดง
"จริงๆนั่นไม่เรียกว่าจูบด้วยซ้ำ แต่เอาเถอะถือว่านายเป็นคนเริ่มก่อนฉันจะคืนให้" ว่าพลางก็ยื่นรูปในมือให้ซันจิ กุ๊กหนุ่มรีบคว้ามาพร้อมกับจุดไฟแช็คเผาในทันที
"อ๊ะ! นายทำบ้าอะไรเนี่ย น่าเสียดายจะตาย" โซโลมองรูปค่อยถูกเผาไปช้า อย่างเสียดาย ทำเอาซันจิยิ้มเยาะออกมาเลยทีเดียว
"แต่ไม่เป็นไร ฉันยังมีอีกเยอะเลย" ว่าจบเขาก็ล้วงเขาไปในเสื้อนอก แล้วหยิบภาพซันจิในชุดลูกไม้สีชมพูอกมาอีกปึ้กใหญ่ คงมีสักร้อยกว่ารูปได้มั้ง แถมยังไม่ซ้ำกันเลยอีกต่างหาก
"!!!!" ซันจิเบิกตากว้างเขาพยายามจะยื้อแย่งรูปภาพมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้โซโลกับเอามือขึ้นมาจุ๊บปาก เป็นสัญญาณว่าอย่าแม้แต่จะคิด
"อ๊ะๆๆ อย่านะ ถ้าอยากได้ 1รูปเท่ากับ1จูบ"
ซันจิหน้าแดงขึ้นมาด้วยความเขินอีกครั้ง นี่ถ้าชาตินี้เขาอยากจะทำลายรูปภาพพวกนี้จนหมด นี่เขาต้องยอมจูบกับไอ้บ้านักดาบนี่เป็นร้อยครั้งเลยหรอเนี่ย ม่ายยยยน้าาาาาา!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น