คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ผี...มันมีที่ไหน
หลังจากที่จำใจปริปากบอกสถานที่นัดพบกับพวกนั้นแล้วฉันก็รีบยัดข้าวใส่ปากอย่างรวดเร็วเพราะนี่มันก็ใกล้จะได้เวลานัดแล้ว
ฉันเดินเอาจานข้าวไปเก็บแต่ระหว่างทางก่อนจะถึงที่ทิ้งเศษอาหาร ยัยรุ่นพี่อ้วนลงพุงโต๊ะหน้าดันลุกขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเล่นเอาฉันโดนไขมันบนหน้าท้องของหล่อนเบียดเซถลาไปชนเข้ากับคนคนหนึ่ง
“ขอโทษนะค่ะเป็นอะไรมากรึเปล่า”
ฉันรีบก้มหน้างุดขอโทษคนตรงหน้าทันที ตายแน่ฉันเศษข้าวกระเด็นไปติดเสื้อนักศึกษาสีขาวของเขาเลอะหมดเลย
“ไม่เป็นไรน้องพี่ไม่ถือ”
คนตรงหน้าตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่แสนใจดี
ฉันเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
-[]-ว้าว...ขอบอกว่าหล่อจนมดลูกเบี้ยว หล่อม้ากกกกกก เขายิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตรก่อนจะยื่นจานข้าวที่ฉันทำหล่นให้ ผมทรงสกินเฮดสีดำสนิดนั่นช่างทำไห้พี่เขาดูคมเข้มมากเลยง่า
“-_-โอ้เอ้อะไรอยู่หวะไอ้ฟรีสไตล์ ยืนดักกินแมงหวี่รึไง”
ผ่าง!!!
ฉันและพี่เทพบุตรหันไปตามเสียงเรียก อย่าบอกนะว่าผู้ชายท่าทางโหดๆนั่นเป็นเพื่อนของพี่เทพบุตร
ไม่อยากเชื่อ
“-_-อ้าวแล้ว ยัยเอ๋อเหรอนี่ใครอย่าบอกนะว่าเด็กใหม่ในสังกัดแก เปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอหวะ”
โหดไม่พอปากยังเสียด้วยกะจะรวบสองเลยหรอแบบว่าสองอย่างในหนึ่งหรือทูอินวัน
“พูดมากน่าไอ้ต้มยำไปได้แล้ว”
แหมชื่อช่างเหมาะกับหน้าตาอย่างมากมาย ต้มยำสงสัยจะเป็นต้มยำมันกุ้งรสเผ็ดสะเด็ดใจ เพราะดูจากผมสีแดงเปลวเพลิงนั่นก็บ่งบอกถึงบุคลิกของเขาแล้วว่า ต้องเผ็ด ดุและโหด
“พี่ไปนะแล้วอย่าซุ่มซ่ามไปทำข้าวหกใส่ใครอีกละ บ้ายบาย^^”
ฉันมองตามหลังพี่เทพบุตรตาเยิ้มแต่ ก็ต้องหมดอารมณ์เมื่อหันไปเจอหน้าโหดๆของคนที่ชื่อต้มยำ
ขอสาบานชาตินี้จะไม่สวาปามต้มยำสองเดือน
“น้องค่ะช่วยพี่ด้วย”
แว้ก ลืมไปเลยว่าฉันชนกับพี่อ้วนลงพุงดูซิไม่มีใครช่วยพยุงขึ้นเลย
“อ้อได้ค่ะพี่”
ฮึบ ฮึบ
“สนุกไปได้แล้วถึงเวลานัดแล้ว”
“เออไปแล้วๆ”
พลั่กตุ้บ ฉันที่กำลังพยุงร่างอันอวบอั้นของพี่อ้วนลงพุงขึ้นอย่างทุลักทุเล พอได้ยินเสียงเพื่อนเรียกเลยตกใจปล่อยมือ กลายเป็นว่าพี่อ้วนลงพุงกลับลงไปนอนจ้วบธรณีรอบสอง
“แฮะๆขอโทษค่าพี่”
“ช่างเหอะ พี่ว่าน้องรีบไปไกลๆพี่ดีกว่า”
เออ...ใครก็ได้ช่วยบอกทีเหอะ นี่คือการด่าทางอ้อมชิมิ-.,-
หลังตึกสี่
เสียงเศษใบไม้แห้งปลิวลอยกระทบพื้นปูนก่อให้เกิดเสียงแปลกๆที่ฟังแล้วชวยขนพองสยองเกล้า ซากโต๊ะเก้าอี้ที่ไม่ใช้แล้วกองระเกะกะเต็มลานกว้างหลังตึก ต้นโพธิ์ต้นใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างห้องน้ำหญิงที่ปิดการใช้งานไปนานแล้วแต่หากลองเหลือบมองเข้าไปกลับรู้สึกเหมือนว่ามีใครอยู่ในนั่นและเหมือนเขากำลังมองมาที่ฉันเช่นกัน
นี่มันหลังตึกรึป่าช้าวันดอนเนี้ย หลอนอย่างแรง
แล้ว ยัยพวกนั้นก็จริงๆเลยจะเลือกแอบที่อื่นก็ไม่ได้ทำไมต้องเลือกไปแอบในห้องน้ำหญิงสุดหลอนนั่นด้วยเวลามองเข้าไปทีไรเหมือนเห็นผีทุกที แม้จะเป็น ยัยพวกนั้นก็ตาม
“ยี้...ทำไมฉันต้องมาที่โสโครกแบบนี้ด้วยเนี้ย”
“น่ากู้ฟฟี้ทนๆเอาหน่อย อย่างน้อยเราก็จะได้จัดการ ยัยสนุก”
“ช่าย...คอยดูนะฉันจะเลาะเอาฟันหน้ามันมาทำไม้ตีแบต”
งั้นฉันก็คงได้เลาะฟันล่างเธอเอามาทำเสาเข็มบ้านสินะ
“เชอะ...มันอยากกวนเท้าเราดีนักโดนซะมั้งจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
“อะไรนะ...เธอจะสอนให้ฉันเปลี่ยนมาม่าเป็นไวไวเหรอ”
“ปากดีไม่เลิกนะแกเดี๋ยวบัดตบซะหรอก”
โด่...คิดว่ามาสองรุมหนึ่งแล้วฉันจะกลัวเหรอถึงฉันจะมีคนเดียว(ที่เหลืออีกห้าแอบอยู่ในห้องน้ำ)ฉันก็สู้นะเฟ้ย
“นี่แกอย่ามามองหน้าฉันแบบนี้นะคิดว่าฉันจะกลัวเหรอ”
ฉันไปมองหน้าเธอตอนไหนมิทราบหน้าตายังกะฝาชักโครกหักไม่น่ามองสักนิด
...
“เงียบทำไม”
“แล้วมันธุระอะไรของเธอมิทราบที่ต้องสอดทุกเรื่อง”
ฉันตอบกลับยัยนั่นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“นี่แกอยากลองดีเหรอ”
“ข้าวมันไก่”
กูฟฟี้ที่นิ่งฟังฉันสองคนเถียงกันอยู่นานจู่ๆก็เรียกยัยข้าวมันไก่เสียงสั่น สายตามองไปรอบข้างอย่างหวาดระแวง
“อะไรย่ะ”
“ข้าวมันไก่กูฟฟี้ว่าเรากลับกันเถอะ”
“ได้ไงฉันยังไม่ได้เลาะเอาฟันมันออกมาเลย”
อ่าว...นี่ฉันต้องสูญเสียฟันหน้าให้กับหล่อนก่อนใช่ไหมหล่อนถึงจะยอมไป
“เหอะน่าไปเหอะกูฟฟี้ว่าแถวนี้มัน บรึ๋ย”
บรึ๋ย อะไร ระ หรือว่าแถวนี้จะมีสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์อยู่
“แล้วก็นะกูฟฟี้รู้สึกเหมือนมีคนอยู่ในห้องน้ำนั่น”
ยัยกูฟฟี้พูดก่อนจะชี้มือไปที่ห้องน้ำ บ้าน่าอย่าบอกนะว่ายัยนั่นรู้ว่าพวกฉันแอบอยู่ในนั่น ฉันว่าพวกนั้นแอบดีแล้วนะ
“บ้าน่าห้องน้ำนั่นจะไปมีคนอยู่ได้ไงในเมื่อมันถูกปิดตายมาหลายปีแล้ว”
เหอ เหอ แต่ตอนนี้มันมียัยห้าตัวนั่นแอบอยู่
“งั้นดวงตาสีแดงก่ำที่จ้องมองฉันล่ะเป็นของใครถ้าห้องน้ำนั่นไม่มีคนอยู่”
ดวงตาสีแดงก่ำ ดวงต่ำสีแดงกา (จะผวนเพื่อ) ชักแม้งๆแล้วจำได้ว่ายัยพวกนั้นไม่มีใครมีตาสีแดงนี่น่าจะว่าใส่บิ๊กอายก็ไม่ใช่เพราะวันนี้ไม่มีใครใส่มาสักคนระ หรือว่า...ไม่ม้าง
“เธออย่าพูดให้ฉันกลัวได้ไหมกูฟฟี้”
ยัยข้าวมันไก่คนเดิมที่ยืนอวดเก่งด่าฉันป่าวๆได้หายไปกับกระแสลมแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ยัยข้าวมันไก่คนใหม่ที่ยืนเกาะแขนยัยกูฟฟี้ด้วยความกลัวอยู่
“หรือว่าในนั่นจะมีผอ อี”
เสียงฉันเองแหละก๊ากขอแกล้งสักหน่อยเหอะผีเผออะไรก้านยัยพวกนั้นชัดๆ
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด”
“ไม่เอาแล้ว”
ยัยสองคนนั้นกรี้ดแตกแล้ววิ่งหนีหางหดไปเลยก๊ากสะใจชะมัดยาก
...
...
ฟิ้ว
ฟิ้ว
...
...
ทำไมมันเงียบจังหว่า
บรู๊ววววววววว
สะ เสียงหมาหอนมันจะมาดังอะไรตอนนี้เนี้ยหมาจ๋าหมาอย่าเพิ่งหอนได้ไหมเค้ากลัว
บรู๊ววววววววว
บอกว่าอย่าหอนไม่ใช่ให้หอนรอบสองจะว่าไปแล้วบรรยากาศแถวนี้มัน บรึ๋ย จริงๆ
...
ฉันหันซ้ายแลขวากะว่าจะหาเพื่อนร่วมชะตากรรมสักคนแต่ แม้แต่แมงหวี่ยังไม่ยอมบินผ่านเล้ยยยยยยเอาไงดี
ลองเข้าไปหายัยพวกนั้นดีกว่า คิดได้ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องน้ำแต่พอลองแอบมองเข้าไปดูฉันกลับเห็นดวงตากลมโตสีแดงก่ำ มีจริงอย่างที่ยัยกูฟฟี้บอกน่ากลัวชะมัดแถมดวงตาคู่นั่นยังจ้องมาที่ฉันแบบไม่กระพริบอีกต่างหาก
“ฮืออออออ ฮืออออออ ช่วยยยยยย ด้วยยยยยย”
ว้ากกกกกกกกกกกกกก
ไม่อยู่แล้ว
วิ่งต้องวิ่งเท่านั่นไม่วิ่งได้เจอผีหลอกหัวโกร๋นแน่
(แยมโรล)ห้องน้ำร้างหลังตึกสี่
“แกแน่ใจเหรอว่ะว่าจะมาดักซุ่มดูยัยพวกนั้นอยู่ที่นี่”
ฉันหันไปถามทุกคนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
(-*-) (-.,-) (-_-) (-..-*)
“ทำไมพวกแกต้องทำหน้าแบบนี้ด้วยเล่าน่ากลัวววว”
“-_-แกจะกลัวอะไรว่ะแยมโรลทำปอดแหกไปได้”
กลัวหน้าแกง่ะหลอนสุดยอด
“งะ งั้น ระ เราก็เข้าไปกันเล้ย”
“แกอย่าทำเสียงสั่นดิฉันกลัว”
ขอบฟ้าวิ่งเข้ามาเกาะแขนฉัน ไม่ได้อยากทำสักหน่อยมันสั่นเองต่างหาก
“เดี๋ยว!!!”
ไม้ม๊อบตะโกนเสียงดังลั่นเอาซะทุกคนตกใจหัวใจเกือบวาย
“พวกแกแน่ใจเหรอว่าถ้าเข้าไปแล้วเราจะไม่เจอ...”
“อะไร”
“ก็เจออะไรล่ะที่มีสระอีง่ะ”
อะไรที่มีสระอี มันก็มีแค่อย่างเดียวนี่หว่า ผอ อี ผี ว้ากกกก แกจะพูดทำม้ายฮ๊ะไม้ม๊อบ
“กร๊าก กร๊ากฉันก็นึกว่าแกจะกลัวอะไรที่แท้ก็กลัวเข้าไปในห้องน้ำแล้วเจอขี้นี่เอง”
ขี้ ผี อะไรที่มีสระอี ขี้ เหอๆคิดได้ไงเนี้ยเพื่อนฉัน
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่าห้องน้ำหลังตึกสี่นี่ถูกปิดตายมานานแล้วคงไม่มีใครคิดจิตอกุศลมาแอบขี้ทิ้งไว้หรอกน่า
(-..-) (-..-) (-..-) (=.,=)
“เลิกพูดแล้วรีบๆเข้าไปข้างในกันเถอะ”
ฝันหวานพูดก่อนจะเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในห้องน้ำ ฉันถอนหายใจแล้วกลั้นใจเดินตามทุกคนเข้าไปไม่ใช่กลัวเจอขี้น่ะกลัวเจอผีต่างหาก
“กรี้ดดดดด”
“มีอะไร แกเป็นอะไรฝันหวาน”
ฉันรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีเมื่อได้ยินเสียงกรีดของฝันหวาน อย่าบอกน่ะว่าแกเจอ...
“ห้องน้ำสะอาดสะอ้านผิดกับที่จินตนาการไว้มากเลยอ่าประทับใจสุดๆ”
ขอเตะจักบาดจิ ม่างกะอีแค่ห้องน้ำมันสะอาดผิดกว่าที่คิดไว้แกจะกรีดให้นายกขี่เครื่องบินมาเลยเหรอ
…
“แอร๊ยยย ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกหน่อยน้า”
ว่าแล้วฝันหวานก็หยิบไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาถ่ายรูป ห้องน้ำ มันบ้าป่าวว่ะ
“ระวังมีแขกไม่ได้รับเชิญติดกล้องไปด้วยน้า”
กระดิ่งพูดขึ้นทำเอาฝันหวานรีบเก็บไอโฟนยัดเข้ากระเป๋าตามเดิมแล้วเดินมานั่งเบียดฉัน
“ยัยสองคนนั่นมาแล้ว”
จริงด้วยยัยข้าวมันไก่กับยัยกูฟฟี้มาแล้ว ทุกคนต่างหาที่แอบกันวุ่นวายแล้วฉันจะไปแอบไหนดีเนี้ยเดี๋ยวบั๊ดแปลงร่างเป็นแมงสามง่ามแล้วมุดโถ่ส้วมแอบซะหรอก
บรู๊วววววว
บรู้วววววว
ติ๊ด
“โหลเออว่าไงตอนนี้ฉันไม่ว่างว่ะดูเพื่อนอยู่”
“อยู่ในห้องน้ำ เปล่าไม่ได้นั่งดูเพื่อนขี้ฉันไม่ใช่โรคจิตน่ะย่ะหล่อนเออๆแค่นี้แหละหวัดดี”
ป้าบ
“โอ้ยแกตบกะโหลกฉันทำไมเนี้ย”
ไม้ม๊อบเอามือลูบหัวป้อยๆแล้วหันไปค้อนให้กระดิ่ง
“โทษฐานแกทำฉันตกใจ”
“ตกใจ อะไรว่ะ”
“ก็เสียงมือถือแกไงใครสั่งใครสอนให้เอาเสียงหมาหอนมาตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า”
“ไมอ่ะเพราะดีออก”
“เพราะบ้านป้าแกสิบรรยากาศยิ่งวังเวงอยู่ดั๊นมีเสียงหมาหอนอีกแกจะไม่ให้ฉันตกใจได้ไง”
“แหะๆโทษทีไม่นึกว่าจะมีคนโทรมาตอนนี้นี่หว่า”
“นี่มันก็นานแล้วน่ะโว้ยทำไมสนุกมันไม่จัดการสักทีว่ะ”
ฉันพูดขึ้นลอยๆอย่างร้อนใจ
เสียวก็เสียวกลัวยัยสองคนนั้นจะรู้ว่ามีคนแอบอยู่ในนี้เห็นชอบมองมาทางห้องน้ำบ่อยๆ
“เฮ้ยว้ากกกกกกผีปอบ”
“หน้ายผีปอบอยู่หนาย”
“นะนั่นอ่า”
ฉันชี้มือออกไปผีใช่ต้องเป็นผีแน่ๆตาแดงก่ำซะขานดนั่น ไม่น้าอย่ากินตับฉันน่ะฉันกลัว
“แกว่าฉันเป็นผีเหรอห๊า”
“อ่าวแกเองเหรอขอบฟ้า”
“ก็เออน่ะสิ”
“ว่าแต่ทำไมตาแกถึงได้แดงอย่างนี้อ่าน่ากลัวขั้นเทพ”
“อ๋อพอดีเมื่อคืนคุยกับพี่สเตฟานดึกไปหน่อย”
“กิ๊กใหม่แกเหรอแล้วพี่ม่อนล่ะ”
“โอ้ยเลิกไปนานแล้ว”
เปลี้ยผู้ชายเหมือนเปลี่ยนเครื่องในเลยน่ะแก
10นาทีผ่านไป
“มันจะคุยอะไรกันนักหนาว่ะนานโคตร”
“ว่างั้นแหละ”
กระดิ่งกับขอบฟ้าพากันบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยมันเงียบแล้วน่ากลัวง่า
“อ่าวยัยสองคนนั่นมันวิ่งหนีไรว่ะทำยังกับเจอผี แถมมองมาทางเราด้วย”
“เออจริงว่ะมันวิ่งหนีไรว่ะ”
งง จู่ๆยัยสองคนนั่นก็วิ่งออกไปทำเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง
“ช่วยยยยยย ด้วยยยยยยย”
สะ เสียงอ้าร้ายยยยย ทำไมมันหลอนอน่างเน้
“มะ เมื่อกี้แกได้เป็นคนพูดว่าช่วยด้วยป่าว”
ฉันหันไปถามกระดิ่ง
“เปล่าโว้ยคนซีเรียสอยู่”
กระดิ่งไม่ได้พูด แล้วเสียงสุดหลอนนั่นมันเป็นของใคร อย่าบอกน่ะว่า...
“เสียงฉันเอง ช่วยด้วยตระคริวกินขา”
ตบหัวเพื่อนสลบตกนรกกี่ขุมว่ะ แกน่ะแกไม้ม๊อบชอบทำให้ฉันตกใจอยู่เรื่อย
ความคิดเห็น