ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : นัดสำคัญ(มั้ง)
“เดี๋ยวนี้แกญาติดีกับยัยพวกนั้นแล้วเหรอ เห็นคุยกันซะสนิทสนม”
กระดิ่งโผล่หัวเข้ามาถามฉัน
มันเอาอะไรคิดหวะ ง่ามก้นช้างแมมมอธรึไงถึงได้คิดว่าฉันจะไปญาติดี กับยัยผีเปรตสองตนนั้น
“เปล๊า...ฉันก็แค่คุยด้วยตามประสาเพื่อนร่วมโลก”
ฉันตอบแบบไม่หยีหระ
“โหย...แกนี่ใจบุญเนอะสู้ยังอุตส่านับ ยัยพวกนั้นเป็นเพื่อนร่วมโลก ขนาดฉันนะแค่คิดว่ายัยพวกนั้นเป็นมนุษย์เหมือนกัน ยังลำบากใจเลยหวะ”
ก๊ากๆๆๆๆสะจ้ายสะจาย นับเป็นคำพูดที่ฟังแล้วรื่นหูที่สุดในรอบปีไม่นึกเลยว่าบทกระดิ่งจะกวนโอ้ย ก็กวนซะจนคันง่ามเท้า(ขอใช้ภาษาสุภาพนะขร๊า)
แต่รู้สึกว่ายัยพวกนั้นจะได้ยิน
“เหอะ...ฉันก็ลำบากใจเหมือนกันแหละที่ต้อง ทนใช้ออกซิเจนแบบเดียวกับหล่อน”
งั้นหล่อนก็ฆ่าตัวตายแล้วไปเกิดใหม่เป็นปลากระโห้สิย่ะ จะได้หายใจทางเหงือก แต่ปลาก็ยังต้องใช้ออกจิเจนในการหายใจอยู่ดี
แต่...ถ้าหล่อนไปเกิดเป็นมนุษย์ดาวอังคารหรือดาวพุธมันก็ไม่แน่ เพราะฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่ามนุษย์ต่างดาวใช้อะไรหายใจ อาจเป็นคาร์บอนไดร์ออกไซร์หรือก๊าซมีเทนก็เป็นได้
“งั้นเธอก็กลั้นหายใจเอาสิ”
“บ้า...ทำแบบนั้นฉันก็ตายพอดี”
“ก็นับว่าเธอฉลาดใช้ได้ที่รู้ว่าถ้ากลั้นหายใจแล้วจะต้องตาย”
โอ้ว...วันนี้กระดิ่งมันไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าทำไมปากร้ายแบบนี้ ไม่แน่มันอาจไปกินไส้คางคก รกตุ๊กแก กระเพาะปลาอายุเก่าแก่ที่เก็บได้จากน่านน้ำอะเมซอน ตาปลาช่อน หรือระท้อนเน่า เออ...ฉันควรจะพอใช่ไหม
“ฉันคงต้องเปลี่ยนทัศนคติในการมองพวกเธอใหม่แล้วแหละ”
...
“จากที่ตอนแรกคิดว่าพวกเธอจะเป็นประเภทโง่เง่าเต่าล้านปี คงต้องเปลี่ยนเป็นแค่โง่เฉยๆก็พอ”
เออ...มันต่างกันมากไหมไอ้โง่เง่าเต่าล้านปีกับโง่เฉยๆเนี้ย แต่ฟังยังไงมันก็โง่อยู่ดีเปลี่ยนแค่คำต่อท้ายไม่ใช่รึไง
“กรี๊ดดดดดดดด แกฉันเกลียดแกอีนังทอมแอ๊บหญิง”
ยัยข้าวมันไก่กับยัยกูฟฟี้พากันลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าชักดิ้นชักงอเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อนสาด ขอบอกว่าภาพนี้เด็กและสตรีมีคัน(คันตามเนื้อตามตัว)ไม่ควรดูเพราะ...ทุเรศม่านตาม้ากกกก
“โอ๊ย...กรี้ด...กรี้ด คิดว่า กรี้ดเป็นคนเดียวรึไงห๊ะ ฉันก็เกลียดเสียงหล่อนเหมือนกันแหละยะ”
แยมโรลที่นั่งเงียบอยู่นานลุกขึ้นมาดีดดิ้นล้อเลียนยัยสองคนนั้น สงสัยมันคงรำคาญจนทนไม่ไหว
“แกพวกแกมันหมาหมู่ รุมฉันสองคน”
“หมามันก็ต้องไล่กัดตุ๊กแกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
กระดิ่งเถียงสุดชีวิต
เออ...เคยได้ยินแต่ว่าหมาไม่ถูกกับแมวเจอแมวทีไรเป็นต้องวิ่งเข้าไปฟัด แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าหมาก็ไม่ชอบตุ๊กแก แต่...พูดยังไงพวกฉันก็เป็นหมาอยู่ดีนี่หว่าไม่ต่างจากเดิม-,.-
“ทฤษฎีบ้าบออะไรของพวกแกเนี้ยห๊ะ”
เห็นด้วยกับยัยกูฟฟี้อย่างแรง ทฤษฎีบ้าอะไรของแก๊กระดิ่งคิดได้ไงขอถาม
“ทฤษฎีสีชมพูมั้ง ก๊ากๆๆๆ”
เห๊อะ ทฤษฎีสีชมพู ตลกตายละมุกฟืดชะมัดยาก
“พลั่ก”
เฮือก
พวกเราทั้งหมดนิ่งเงียบกันหมดเมื่อจู่ๆแปรงลบกระดานสมัยพระเจาเหา ดั๊นมีปีกบินลอยผ่านหน้าพวกเราไปอย่างช้าๆก่อนที่ มันจะถลาลมไปค้างเติ้งอยู่บน หัวของยัยกูฟฟี้
อุ๊บ อยากระเบิดหัวเราะออกมาดังๆแต่ดูจากสถานการณ์แล้ว อั้นไว้น่าจะเป็นการดีที่สุด
“กรี้ด ใครใครเอาแปรงลบกระดานโสโครกนี่ปาหัวช้านนนน”
กูฟฟี้ปรี๊ดแตกจนพวกฉันต้องรีบเอานิ้วขึ้นมาอุดหู เสียงสิบแปดหลอดอย่างกูฟฟี้ถ้าไม่รีบอุดหูไว้มีหวังหูหนวกก่อนวัยอันควรแน่
ชิ้ง
ไม่มีเสียงตอบรับจากคำถามที่ท่านถาม สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้ว่าอยู่ในสภาวะขับขันไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ อึดอัดว้อยยยยย
“ฉันเอง”
แทมแท้มคุณคือจุดอ่อน
เย้ย...ไม่ใช่ ฉันและคนอื่นๆรีบหันไปดูต้นเสียงลึกลับนั่นทันทีแล้วก็ต้องตกใจเกือบผงะตีลังกาแปดสิบแปดตลบพร้อมลุกขึ้นเต้นท่าลิงกังแล้วร้องอุอุอุ(เวอร์) เมื่อรู้ว่าคนที่ลอบทำร้ายกูฟฟี้คือ
“อาจารย์ทองเปลว”
พวกเราประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน เหมือนกับว่ากำลังฝึกร้องเพลงโอเปร่าอยู่ในชมรมแต่เสียยอย่างคือที่โรงเรียนฉันมีแต่ชมรมสุนทรพจน์เท่านั้น
แสงแดดอ่อนๆยามเช้านี่ช่างทำให้ผิวอันบอบบางเหมือนก้นเด็กทารกที่นอนดีดดิ้นอยู่ในครรถ์มารดาของฉันสุกไหม้ดีแท้ คาดว่าอีกไม่เกินสิบนาทีผิวของฉันก็จะกลายเป็นสเต็กเนื้อชิ้นดีเลยละ
ช่าย...ฉันและเพื่อนๆร่วมชะตากรรม กระดิ่ง แยมโรลและ ยัยสองหน่อนั่น ถูกอาจารย์ทองเปลวถีบส่งมาที่นี้ ให้มายืนตากแดดยามเช้าอยู่หน้าสนามหญ้า ขอบอกว่าร้อนตับแลบ
“เพราะแกนังสนุกฉันสองคนเลยต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้”
...
ขอเงียบไม่เถียงละกันเพราะมันคือความจริง
“หยุดพูดได้ม๊ะเหม็นปาก”
บอกแล้วว่าขอเงียบเพราะถึงฉันไม่พูด กระดิ่งมันก็พูดแทนอยู่ดี ก๊าก
“แกมันจะมากไปแล้วนะ”
ข้าวมันไก่ยืนดีดดิ้นแล้วเอามืออีกข้างขึ้นชี้หน้ากระดิ่ง
“น้อยไปสิไม่ว่า...หุบปากซะก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
“ความอดทนของฉันก็มีขีดจำกัดเหมือนกันย่ะ”
พูดจบข้าวมันไก่ก็สะบัดบ๊อบใส่พวกฉันทันที แหวะ...รังแคจะกระเด็นมาติดหน้าฉันแล้วลุกลามกลายเป็นมะเร็งเส้นผมเปล่าเนี้ย แต่มันแค่มาเล็งนี่เนอะจะไปกลัวทำไมต้องมายิงสิถึงจะน่ากลัว
“อย่าลืมที่นัดไว้ละ ยัยสนุก”
“เก็บคำนี้ไว้ใช้กับตัวเองเถอะอย่าเปลี่ยนใจนึกกลัวฉันขึ้นมา แล้วเบี้ยวไม่ไปซะละ”
ฉันตอบเสียงเย็นกลับไปเล่นเอาข้าวมันไก่ถึงกับหน้าซีดรอบสองแต่ก็ยังไม่วายปากเก่งเหมือนเดิม
“คนอย่างฉันไม่เคยถอยไห้ใคร”
โรงอาหารที่แสนหรู(มั้ง)
“แกไปนัดอะไรกับยัยพวกนั้น”
กระดิ่งยังคงเซ้าซี้ถามฉันเรื่องที่นัดแนะไม่หยุดไม่น่าให้มันได้ยินเล้ยขี้เกียจตอบ
“เรื่องไร้สาระนะ”
ไม่ใช่ฉันปกปิดอะไรนะ แต่ฉันคิดว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ฉันสามารถจัดการเองได้ไม่อยากขอความช่วยเหลือจาก ยัยพวกนี้
“ถ้ามันไร้สาระจริงแกก็บอกฉันมาสิ”
“แกไม่อยากรู้หรอกน้า”
“สนุก แกก็รู้ว่าไม่มีเรื่องไหนที่ฉันไม่อยากรู้ยิ่งถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวของชาวบ้าน”
เออเนอะ...ฉันก็ลืมไปว่าคุณสมบัติพิเศษของยัยนี่คือศึกษาข้อมูลส่วนตัวของชาวบ้านไม่น้าเลย ไม่น่าจริงๆฉันจะรอดไหมเนี้ย
“ฉันแน่ใจว่าแกต้องไม่อยากรู้เรื่องนี้แน่”
“บอกฉันหน่อยนะเพื่อนเลิฟฉันอยากรู้มากมาย”
อะ ไอ้สายตาวิ้งๆกับน้ำเสียงออดอ้อนแบบนี้ถ้าไม่เห็นเองกับตาฉันก็ไม่อยากเชื่อนะเนี้ยว่ามันมาจาก กระดิ่งบุคคลที่เราทั้งหกต่างก็รู้กันว่ามันเป็น ทอม
“แกก็บอกๆมันไปเหอะ รู้อยู่ว่าถ้ามันอยากรู้หรือต้องการสืบเรื่องอะไรไม่มีใครปิดมันได้”
ฉันยอมรับว่าความสามารในด้านนี้ของกระดิ่งเป็นประโยชน์ต่อแก๊งเราอย่างมากเพราะเวลามีเรื่องอะไรที่ทางรุ่นพี่ส่งมาไห้ทางเราสืบค้นก็จะได้ ยัยนี่เนี้ยแหละเป็นหน่วยซักไซ้เอาความจริง แต่ขอตำหนิหน่อยเหอะต่อมอยากรู้ของแกจะมาแตกพล่านอะไรเอาต้อนเน้
“เออๆๆบอกก็ได้ฉันนัด ยัยสองตัวนั้นที่หลังตึกสี่”
“นัดทำไมอย่าบอกนะว่า”
พวกที่เหลือหันไปมองหน้ากันอย่ารู้ทันฉัน
“ใช่...แกว่าฉันจะจัดให้ ยัยพวกนั้นแบบไหนดี”
“หมดสวยกับเป็นง่อยแกเลือกเอา”
แยมโรลเสนอความเห็น อืม หมดสวยกับเป็นง่อยเหรอความคิดดีนี่แต่มันจะดีกว่านั้นแน่ถ้าฉันจัดให้ ยัยพวกนั้นทั้งสองอย่าง
“เด็กประถมไปเปล่า...อย่างพวกราต้องดักกระทืบปางตายพร้อมถ่ายวีดีโอไว้แล้วเอาไปลงยูตูบประจานในเน็ตสิมันถึงจะเวิร์ก”
ไม้ม็อบบุคลซึ่งไม่ค่อยพูดเท่าไหรออกความเห็นบ้าง แต่...ก็ไม่แล้วนะความคิดนี้
เรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือชกต่อยตบตีอะไรพวกนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพวกฉันไปเสียแล้ว เพราะตั้งแต่พวกฉันคิดที่จะมาสมัครเข้าก็อซซิล่า ชานมเย็นก็ต้องทำใจรับให้ได้กับการมีคนคิดปองร้ายหรือการมีเรื่องตบตี ก็อย่างว่าแหละมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเลือกไม่ได้
“ฉันขอตบปาก ยัยกูฟฟี่ละกันหมั่นไส้มานานแล้วหวะ ยกให้ฉันนะสนุก”
แยมโรลเอ่ยปากขอจัดการกูฟฟี่ แต่ขอโทษนะเพื่อนฉันกะว่าเรื่องนี้ฉันจะลุยเดี่ยวหวะ
“แกไม่ต้องยุ่งเลยคนอื่นด้วยเรื่องนี้ฉันจัดการเอง”
กะอีแค่แมงเม่ามองตัว สะบัดมือทีเดียวมันก็ร่วงลงมาแล้ว
“แต่ยังไงพวกฉันก็ต้องไปเฝ้าระวังอยู่ดี ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลฉันจะได้จัดการ”
“กฎยังไงก็ต้องเป็นกฎแหกไม่ได้ ถ้าแกคิดจะแหกกฎแกก็เตรียมตัวกระเด็นออกจากแก๊งเราไปได้เลย”
ขอบฟ้าคาสโนวี้ตัวแม่ แต่เจ้าระเบียบและรักการอยู่ในกฎเกณฑ์ที่สุดพูดขึ้น
“ก็ได้แต่...ถ้าฉันยังไม่ขอไห้พวกแกช่วยห้ามยุ่งดูเฉยๆก็พอ”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น