คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : บทที่ 4 ทัณฑ์ซาตาน (2)
บทที่ 4
ทัณฑ์ซาตาน (2)
ปี้น...
เสียงบีบแตรยาวพร้อมกับรถกระบะคันโก้หักพวงมาลัยมาตัดหน้าทำให้หญิงสาวเบรกห้ามล้อตัวโก่งเสียจนจักรยานล้มลงไปข้างทาง
“โอ๊ย!”
“ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่”
“คุณดิศ...”
ริมฝีปากสั่นระริกเอ่ยเรียกชื่อ ‘ซาตานร้าย’ ตรงหน้าผะแผ่ว ใบหน้าถมึงทึงไร้จิตสำนึกที่ทำให้จักรยานของเธอล้มนั่นสร้างความหวาดกลัวแก่หญิงสาวเสียจนหายใจติดขัด แต่กระนั้นก็พยายามหยัดกายยืนแม้จะเจ็บแปลบที่หัวเข่าจากแรงกระแทกเข้ากับก้อนหินขึ้นมาเผชิญหน้าอีกฝ่าย
“ฉันถาม?”
“ฝัน...” คำพูดที่คิดเตรียมมาหลายวันถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเพียงแค่ดวงตาเย็นชาจับจ้องมองมาราวกับเธอเป็น ‘เชื้อโรค’ ที่เขาต้องกำจัดอย่างเร่งด่วน
“ออกไปจากไร่ของฉัน”
“ไม่...” ใบหน้าหวานส่ายไปมา ดวงตาแดงก่ำ ชอกช้ำกับความใจร้ายของเขา “ฝันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฝันจะอยู่กับลูก”
รวบรวมความเข้มแข็งที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดตอบกลับไปก่อนจะหมุนกายไปประคองจักรยานที่ล้มเค้เก้ขึ้นมาเพื่อไปทำหน้าที่ของตนโดยไม่ใส่ใจคนใจร้าย
“หน้าด้าน!” ร่างบางถูกกระชากให้หันมาเผชิญหน้า ส่วนมืออีกข้างของเขาผลักจักรยานคันเก่าของเธอล้มลงไปฟาดกับพื้นจนพัง อาหารกลางวันที่เตรียมใส่กล่องวางไว้ในตะกร้าหน้ารถหกกระจัดกระจายจนหมด
“คุณดิศ!”
“เธอมันคนสับปลับ เคยสัญญาดิบดีว่าจะอยู่ที่นี่เงียบ ๆ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับลูกของฉันแต่ก็กลืนน้ำลายเน่า ๆ ของตัวเอง!”
“ฝันไม่ปฏิเสธ” เมื่อถูกย้ำสิ่งที่เธอเคยสัญญาหญิงสาวก็ยืดอกรับอย่างหาญกล้า ยอมรับว่าเธอทำไม่ได้ที่จะตัดขาดกับลูกทั้ง ๆ ที่เขาอยู่ตรงหน้า เขาที่กำลังส่งยิ้มมาให้เธอ “ฝันแค่อยาก...กอดลูกบ้าง”
“ไม่มีสิทธิ์” เสียงลอดไรฟันเอ่ยตอกย้ำแผลขนาดใหญ่ในหัวใจของเธอ “เธอไม่มีสิทธิ์ใดในตัวของเขา ภูริภัทรเป็นลูกของฉัน ฉันคนเดียว!”
“คุณดิศ!” ไม่อาจกลั้นน้ำตาเมื่อถูกตอกย้ำรอยแผล แข้งขาอ่อนแรงจนไม่อาจประคองตัวต่อกรกับอีกฝ่ายได้ กายบางจึงทรุดกองลงไปกับพื้นอย่างคนหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง มีหลงเหลือก็แค่เพียงหัวใจเปราะบางที่กำลังอ่อนแรงและเสียงสะอื้นให้เขาสมน้ำหน้า “อย่าใจร้ายกับฝันเลย ใจฝันจะขาดอยู่แล้ว ฮือ ๆ”
“ฉันก็เคยผ่านจุดนั้น ใจของฉันมันขาด ย่อยยับจนไม่เหลือความเป็นคนแล้ว” ชายหนุ่มแสยะยิ้มหยันขณะปรายหางตามองคนร่ำไห้ “รู้ไหมว่าเพราะใคร จำได้ไหม...ทอฝัน”
“คุณดิศเมตตาฝันเถอะ ฝันขอร้อง...ขอร้อง”
หญิงสาวเอ่ยอ้อนวอนเสียงสั่นพร่าปนสะอื้น หากศักดิ์ศรีต้องแลกกับการ ‘จากเป็น’ กับลูกในอุทรแล้วล่ะก็เธอยอม ยอมให้เขาเหยียบย่ำ...จนกว่าจะพอใจ
“จะให้ฝันกราบก็ได้ ขอแค่เมตตาให้ฝันอยู่ที่นี่ต่อ นะคะ ฝันขอร้อง...เมตตาเถอะ”
ภูดิศเบี่ยงกายเบือนหน้าหนีภาพน่าสังเวชนั่น เสียงร้องไห้ปริ่มจะขาดใจของหล่อนสร้างความวูบโหวงในอกชนิดที่เขาชิงชังมันเป็นที่สุด ทั้งที่ควรจะชาชินได้แล้วแต่ทำไมถึงไม่ชินเสียที...ทำไม!
สายตาวาวหยาดน้ำช้อนตัดพ้อพ่อของลูกที่หันหลังให้ แผ่นหลังกร้าวแกร่งที่เคยเป็นที่พักพิงให้เธอซบร้องไห้มีเพียงความกระด้างของหัวใจหากแต่ทอฝันก็ยังอยากวอนขอ มือบางยกขึ้นพนมและโน้มตัวลง
“ฝัน!” เสียงหวานเต็มไปด้วยความตระหนกของปานเดือนดังขึ้น ร่างอรชรปรี่เข้ามาช้อนมือสั่นระริกของน้องเอาไว้ได้ทันพร้อมกับที่คนเบือนหน้าหลับตาหนีเปิดเปลือกตาขึ้นพลางหันกลับมามอง
“เดือน”
“ทำไมถึงได้ใจร้ายกับน้องของเดือนขนาดนี้คะ”
แม้หวาดกลัวกับความผิดที่เป็นต้นคิดเรื่องเมื่อคืนนี้แต่ก็ไม่อาจห้ามใจที่คิดจะปกป้องน้องได้ เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด ภูดิศไม่มีทางปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉย ๆ แน่ ดีที่เธอตั้งใจมาอธิบายเรื่องที่หายไปเมื่อคืนให้น้องฟังไม่อย่างนั้น...
“เดือน”
“ถ้าจะมีใครสักคนที่ผิด คนนั้นคือเดือนเองค่ะ เดือนเป็นคนพาภูริไปเอง”
“พี่เดือน...” ทอฝันครางเรียกพี่สาวเสียงแผ่ว ซาบซึ้งใจเหลือเกินที่ปานเดือนดีกับเธอเสมอมา แม้ท้ายที่สุดเธอจะทำให้เดือดร้อนหญิงสาวก็ยังออกหน้ารับแทน “พี่เดือนไม่ได้ทำ ฝันหลอกพี่เดือนมาเองค่ะ”
แต่ครั้งนี้เธอจะยอมให้ภูดิศเข้าใจ ‘พี่สาวที่แสนดี’ ผิดไม่ได้ ให้เขาโกรธเกลียดเธอคนเดียวพอแล้ว อย่าให้มีใครต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องของเธออีกเลย
“เห็นสิ่งที่เธอทำหรือยัง” แววตาเย็นชาชำเลืองมองไปยังร่างผอมบางใต้เสื้อผ้าเก่าโทรมอย่างตำหนิ “ว่าคำหลอกลวงของเธอทำให้ใครเดือดร้อนบ้าง นั่นพี่สาวของเธอนะ”
“อย่าว่าน้องของเดือน” ปานเดือนเอ่ยขอร้องพลางกระชับร่างสั่นเทาเข้ามากอด
“ลุกขึ้นมาเดือน” ปานเดือนคงถูก ‘ผู้หญิงจอมมารยา’ อาศัยความใสซื่อหลอกลวงจนหลงเชื่อให้ทำอะไรผิด ๆ ซึ่งคนจิตใจดีอย่างเธอไม่มีวันตามทันและเขาก็...โกรธไม่ลง
“ไม่” ใบหน้าคมส่ายไปมา “เดือนไม่ยอมให้คุณไล่น้องของเดือนออกจากที่นี่ ไม่ยอม”
“มันคนละเรื่องกันนะ” ภูดิศเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายที่เจ้าหล่อนแพ้ทางน้ำตาของทอฝันอีกจนได้ “ผู้หญิงคนนี้ไม่สมควรเป็นน้องของเดือนด้วยซ้ำ...มารยา”
“หากทอฝันผิดที่แอบไปพบภูริ เดือนก็จะขอรับความผิดนั้นด้วย” ร่างอรชรค่อย ๆ ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับเจ้าของไร่ด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว “หากฝันออกจากไร่ เดือนก็จะไปด้วย!”
“พี่เดือน!”
ทอฝันครางเสียงตื่นขณะที่ภูดิศถอนหายใจหนักหน่วง นึกชื่นชมหัวใจอันเด็ดเดี่ยวของคนตรงหน้า แน่นอนว่าเขาเห็นปานเดือนคอยปกป้องทอฝันมาตลอด หญิงสาวเป็นคนจิตใจดีแม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันกับผู้หญิงที่นั่งหน้าตื่นอาบน้ำตาเสแสร้งนั่นก็ตามแต่นาทีนี้ภูดิศตัดสินใจได้แล้ว
“ผมยอมแล้ว” มือหนารั้งร่างอรชรที่ยืนน้ำตาไหลพรากคงเป็นเพราะสงสารน้องเข้ามาใกล้ “ผมยอมให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่ก็ได้ หยุดร้องไห้นะ”
ปลายนิ้วแข็งแรงกรีดปาดหยาดน้ำตาออกจากดวงหน้างามอย่างถนอม การกระทำแสนอ่อนโยนของเขาส่งผลให้หัวใจของทอฝันวูบโหวง เจ็บหนึบและอดนึกถึงวันวานของ ‘กันและกัน’ ไม่ได้
“แต่คนทำผิดก็ต้องว่าไปตามผิด” รอยยิ้มละไมผุดขึ้นแต้มใบหน้าหล่อเหลาให้ดูอ่อนโยนขึ้น “แล้วที่ผมยอมรู้ไหมว่าเพราะอะไร”
ปานเดือนส่ายหน้าไปมา
แก้มอิ่มร้อนผะผ่าวกับแววตาคู่คมที่จับจ้องมองมาอย่างสื่อความหมาย ต่างจากทอฝันที่ราวกับหัวใจกำลังจะขาดลง...
“เพราะคุณสำคัญกับผม” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น “...คุณคือ ‘แสงสว่าง’ ในชีวิตของผม...กับลูก”
@@@@@@@@@
ภูดิศมันร้าย!!! จะทำร้ายหนูฝันไปถึงไหน
อยากรู้กดโหลดอีบุ๊กได้ที่เมพค่ะ
...นาฬิกาเวลา...
|
|
|
ความคิดเห็น