คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1 ใต้ปีกซาตาน (2)
บทที่ 1
น้ำเสียงเหนื่อยหอบเจือความยินดีเมื่อเงินของเธอกลิ้งไปหยุดกึกเพราะชนเข้ากับรองเท้าหนังสีดำมันปลาบยี่ห้อดังราคาแพงลิบลิ่ว ริมฝีปากอิ่มขยับยิ้มกว้างพลางเงยหน้าหมายจะขอโทษเจ้าของรองเท้าที่เหรียญของเธอสร้างความรำคาญใจให้แก่เขา ทว่าเพียงแค่ประสานสายตากับเจ้าของร่างสูงดวงหน้าหวานก็พลันซีดเผือดทันที!
“ขะ ขอ...” คำพูดที่เตรียมไว้ถูกดูดกลืนหายเข้าไปในหลุมดำคู่คมที่หลุบมองอยู่ก่อนหน้าแล้ว ทอฝันรีบก้มหน้าหลบซ่อนความหวาดหวั่นตื่นกลัวเอาไว้ราวกับถูกตั้งโปรแกรมอัตโนมัติพลางขยับกายมอมแมมถอยห่างด้วยรู้ดีว่าอีกฝ่าย...รังเกียจ
“เกิดอะไรขึ้นคะดิศ!”
ทอฝันไม่รู้ว่าภูดิศกำลังแสดงสีหน้าอย่างไรเพราะเอาแต่ก้มหน้างุด ได้ยินเพียงเสียงแหลมเล็กเอ่ยถามพร้อมกับคำเรียกขานอย่างสนิทสนมเพียงแค่นี้ก็อยากจะมีเวทย์มนต์หายตัวไปเสียให้พ้นแล้ว
“ขอทานคนนี้มาขอเงินคุณเหรอคะ”
แพรชมพู เกียรติกำพล ทายาทนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดย่ำเท้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงห้วนจัดอย่างไม่พอใจพลางตวัดสายตามองอย่างดูแคลน
“เปล่าหรอกแพร” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกหากแต่แววตากลับเจือความพอใจเอาไว้อย่างไม่คิดซ่อนเร้น “เขาก็แค่ตามเก็บ ‘เศษเงิน’ ที่กลิ้งมาเท่านั้น”
น้ำเสียงที่เน้นคำว่าเศษเงินเป็นพิเศษราวกับเข็มนับร้อยนับพันตอกย้ำปักหมุดลงบนหัวใจดวงน้อยจนร้าวรานไปทั้งดวง ทอฝันรู้ว่าชายหนุ่มต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีอันน้อยนิดของเธอที่เขาคิดว่าต่ำอยู่แล้วให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินลงไปอีกซึ่งยอมรับว่าเขาทำมันสำเร็จ!
“ไว้ใจได้ที่ไหนคะคนสมัยนี้” ใบหน้าสวยเฉี่ยวช้อนมองเจ้าของดวงตาคู่คมที่ทำทีไม่แยแสในคำพูดของเธอ “ดูสิคะ แต่งตัวก็มอซอ กลิ่นเหงื่อกลิ่นสาปก็น่าขยะแขยง”
แพรชมพูทำทีขนลุกขนพองจนภูดิศต้องหลุบตามองตามลงไปและก็เห็นจริงอย่างที่เจ้าหล่อนพูดเพราะผู้หญิงที่นั่งจุ้มปุกอยู่กับพื้นนั้นสวมเสื้อเชิ้ตลายทางตัวเก่าเก็บที่แม้แต่ผ้าขี้ริ้วที่เรือนใหญ่ยังดีกว่า ผมเผ้าม้วนรัดลวก ๆ หลุดลุ่ยไม่เป็นทรง เสี้ยวหน้าที่เห็นเพียงครึ่งจากการก้มก็มีคราบโคลนดินเปื้อนอยู่อย่างที่เจ้าตัวอาจไม่ทันสังเกตเห็น
‘น่าสมเพช’
แววตาของชายหนุ่มสะท้อนคำนี้ออกมาในเสี้ยววินาทีที่ทอฝันเหลือบตาขึ้นมองและประสานเข้ากับดวงตาคมกล้าพอดี ซึ่งเธอไม่นึกโกรธด้วยรู้ว่าสภาพของตนนั้นไม่ต่างจากคำหยามเหยียดผ่านแววตาของเขานักหากแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้เพราะต่อให้ยากลำบากเพียงใดเธอก็ไม่นึกงอมืองอเท้าขอทานใครเขากินอย่างที่ ‘คนรัก’ ของเขากล่าวหา
“แต่แพรว่าดูๆ ไปก็น่าเวทนาเหมือนกันนะคะดิศ ไม่รู้สติดีหรือเปล่า” เพียงแค่เสี้ยววินาทีหญิงสาวก็กลับคำพูดเมื่อนึกได้ว่าเผลอแสดงกิริยาไม่น่ารักออกไป “อะ ฉันให้ เอาไปซื้อข้าวหรือเสื้อผ้าใหม่นะ”
สตรีสาวสวยในชุดเดรสสีแดงสั้นเลยสะโพกเพียงไม่กี่คืบยอบตัวลงนั่ง มือขาวนุ่มล้วงเข้าไปในกระเป๋าคลัทใบเก๋เพียงครู่ก็ยื่นธนบัตรสีเทาสองใบให้คน ‘จรจัด’ ตรงหน้าอย่างมีเมตตา
“รับไปสิ”
น้ำเสียงหวานหากแต่มุมปากสวยกลับยกยิ้มเหยียด แม้ภูดิศจะทำนิ่งเฉยคล้ายไม่รู้จักหากแต่หล่อนจำผู้หญิงคนนี้ได้ดีเพราะมี ‘สายสืบ’ อยู่ในไร่แห่งนั้น ผู้หญิงที่ทุกคนปิดปากไม่เอ่ยถึง ผู้หญิงที่เป็นถึงแม่ของลูกชายของเขา!
“ผมว่าเราไปทานอาหารกันได้แล้วนะครับ” มือหนาเอื้อมลงมากุมหัวไหล่มนพลางฉุดร่างระหงขึ้นเมื่อเห็นแพรชมพูยัดเงินใส่มือผู้หญิงตรงหน้าแล้วเจ้าหล่อนทำเฉยปล่อยให้เงินร่วงหล่นพื้นอย่างไม่ไยดี
“ดิศอยากทานที่ไหนคะ” แพรชมพูเลิกสนใจหญิงมอซอตรงหน้าแม้จะนึกขัดใจอยู่นิด ๆ ที่ยังไม่ทันได้เหยียบย่ำหล่อนให้จมมิดให้สาสมกับความเย่อหยิ่งในดวงตาแห้งผากคู่นั้นก็ถูกชายหนุ่มขัดเสียก่อน
“ก็ที่เราชอบไปด้วยกันบ่อย ๆ ยังไงละครับ”
“ดิศ...” เสียงหวานครางยาวด้วยน้ำเสียงเต็มตื้น ความยินดีวิ่งกระแทกอกที่เขาใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอ “ขอบคุณนะคะที่จำทุกอย่างที่เกี่ยวกับแพรได้”
ดวงตาคู่หวานมองประสานเปิดเผยความรู้สึกอย่างไม่คิดปิดบังเอาไว้ นี่ก็นานนับเดือนแล้วที่เธอไม่ได้ไปทานข้าวกับภูดิศ ซึ่งข้าวปลาอาหารอะไรนั่นเธอไม่สนใจมันหรอก เธอสนใจ ‘ของหวาน’ รสจัดหลังมื้อค่ำต่างหาก!
“ผมเลือกจำเฉพาะเรื่องที่อยากจำครับ” ชายหนุ่มกระซิบผะแผ่วที่ใบหูเล็กขาวสะอาดอย่างจงใจให้ ‘คนอื่น’ เห็น
“ดิศก็...” แพรชมพูอายม้วน บิดตัวเป็นเกลียวก่อนจะโผยืดตัวขึ้นหอมที่แก้มสากอย่างไม่อายสายตาใครขัดกับท่าทีที่แสดงออกมาเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง “แพรรักดิศนะคะ”
ไม่รู้ว่าคนที่ถูกบอกรักตอบกลับว่าอย่างไรเพราะนาทีนี้หัวสมองของทอฝันอื้ออึงไปหมดจนไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงร้องไห้ของหัวใจที่ดังก้องอยู่ในอก
ร่างมอซอค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นโดยที่ก้มหน้าเอาไว้ตลอดเวลาเพราะไม่อาจทนมองภาพความหวานบาดตาที่ ‘อดีตสามี’ แสดงออกต่อหญิงสาวที่เขารักได้ ใจคิดอยากจะผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปให้ไกลจากตรงนี้เสียหากแต่มีเรี่ยวแรงเพียงแค่ค่อย ๆ สาวเท้าถอยหลังช้า ๆ ก็เท่านั้น
“คืนนี้อยู่กับแพรนะคะ”
ทอฝันรวบรวมแรงพลังสุดท้ายหมุนตัวแล้วหันหลังจากไปอย่างรวดเร็วด้วยกลัวว่าหากช้าอีกเพียงเสี้ยววินาทีน้ำตาที่พยายามสกัดกั้นไว้จะไหลออกมาประจานความอ่อนแอให้เขาได้เห็น และรู้อยู่เต็มอกว่านอกจากจะไม่ได้รับความเมตตาแล้วคงมีเพียงความสะใจเท่านั้นที่คนอย่างภูดิศจะมอบให้เธอ
“นะคะดิศ” หญิงสาวออดอ้อนฉอเลาะต่อเมื่อชายหนุ่มนิ่งเงียบหนำซ้ำดวงตาเรียวคมยังเอาแต่มองตามแผ่นหลังบางงองุ้มที่ถูกห่อหุ้มด้วยเศษผ้าขี้ริ้วไปจนลับสายตา “ให้แพรดูแลดิศนะคะ...”
แพรชมพูยอมรับว่าเธอถูกใจบทรักของชายหนุ่มจนเรียกว่าคลั่งใคล้เลยก็ว่าได้ ภายนอกที่ดูเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งขั้วโลกของเขาซ่อนความร้อนแรงยากจะหาใครเสมอเหมือนโดยเฉพาะยามที่เปลือยเปล่าอยู่บนเตียงร่วมกัน ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นความแข็งกร้าวเข้าหาอย่างดุเดือดทำเอาเธอสุขจนแทบขาดใจ ภูดิศเร่าร้อนถึงใจในแบบที่เธอไม่เคยได้รับจากชายใดมาก่อน ซึ่งแพรชมพูหมายมั่นเอาไว้ในใจแล้วว่าเขาจะต้องเป็นของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น!
“แพรจะช่วยคลายเครียดให้คุณ....” ดวงหน้างามแหงนสบตาคู่คมที่ถูกมือบางของเธอประคองใบหน้าบังคับให้ชายหนุ่มมองตอบกลับมา “จะทำให้คุณลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากลืม ทำให้ค่ำคืนนี้มีเพียงแค่เรา...และความสุขสม”
น้ำเสียงสั่นพร่าเต็มไปด้วยความปรารถนา ดวงตายั่วยวนสื่อความหมายชัดเจนทำให้ภูดิศต้องดึงสติที่กำลังตีกันให้วุ่นหลังจากได้พบผู้หญิงคนนั้นกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้ง ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้หญิงสาวตรงหน้าฉีกยิ้มกว้างด้วยความยินดี
“ครับ คืนนี้เราจะมี ‘ความสุข’ ด้วยกัน”
@@@@@@@@@
อิดิศมันร้ายยยยย ใครรับไม่ได้ก็ต้องรับ อ้าว...
ก็นี่พระเอกของเราไง ฮ่า ๆ
หากใครอยากรู้ว่าพระเอกร้าย ๆ แบบนี้ตอนหงอยจะเป็นยังไง
โหลดอีบุ๊กได้ที่เมพนะคะ ตามลิงค์ด้านล่างเลย
...นาฬิกาเวลา...
|
|
|
ความคิดเห็น