คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ดวงตากลมโตแสนโศกใต้แพขนตางอนยาวชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตวัดมองเสี้ยวหน้าเคร่งขรึมของคนที่นั่งอยู่บนโซฟาหนังสีครีมภายในห้องพักฟื้นหลังคลอดของโรงพยาบาลหรูด้วยความรู้สึกสะท้อนใจ
ภูดิศ พิทักษ์บริรักษ์ไพศาล เจ้าของ ‘บริรักษ์ รอยอล’ โรงแรมหรูระดับหกดาวใจกลางเมืองเชียงใหม่และอีกหลายสิบแห่งทั่วประเทศไทย ชายหนุ่มผู้มีเรือนกายกำยำด้วยความสูงเกินมาตรฐานชายไทย เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาอันประกอบไปด้วยดวงตาเรียวคมราวนักล่า จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักลึกสีสดราวอิสตรี ทว่าดูคมเข้มด้วยกรามบึกบึนได้รูปแบบไทยแท้ ผู้ซึ่งเป็น ‘สามี’ ทางพฤตินัยของเธอ!
“หนึ่งปีเท่านั้น หนึ่งปีที่เธอมีสิทธิ์แตะต้องลูกของฉัน”
ถ้อยคำห้วนสั้นที่เปรียบเสมือนเสียงกัมปนาทจากฟากฟ้าฟาดลงมากลางอกของคนเป็นแม่อย่างเธอจนขาดวิ่น หยาดน้ำตาไหลลงอาบสองแก้มอย่างเกินกลั้นหากแต่ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง ไม่มีสิทธิ์โต้แย้งด้วยรู้ดีว่าการสู้กับคนตรงหน้าผลของมันจะออกมาเป็นเช่นไร
ทอฝัน ภักดี คุณแม่ป้ายแดงวัย 21 ปี เจ้าของเรือนร่างบางอย่างที่คนไม่รู้จักแทบจะดูไม่ออกว่าเจ้าหล่อนเพิ่งจะให้กำเนิดทายาทตัวน้อยช้อนสายตาพร่าหยาดน้ำขึ้นมองพ่อของลูกอีกหนก็หลุบตาลงจับจ้องดวงหน้าเล็กน่ารักน่าชังที่อยู่ในห่อผ้าสีขาวอ่อนนุ่ม
แก้มของลูกเป็นพวงยุ้ย ปากเล็กแดงจิ้มลิ้มที่อ้าเผยอน้อย ๆ ราวกับต้องการดื่มนมจากอกของเธอแม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างจะหลับพริ้มเรียกรอยยิ้มจางแต้มใบหน้าโศกของเธอได้อย่างไม่มีเหตุผล
เรียวแขนสั่นเทากระชับอ้อมกอดซึ่งกำลังโอบประคอง ‘สิ่งสำคัญ’ ที่สุดในชีวิตเอาไว้ด้วยความหวงแหนเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้ให้แน่น ถ่ายทอดความรักแข่งกับเวลาที่มีอันน้อยนิดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อว่าสัมผัสนี้จะหลงเหลือในความทรงจำของลูกบ้าง
“หนึ่งปี ฉันให้เธอได้แค่หนึ่งปี”
ชายหนุ่มเอ่ยย้ำแต่ทอฝันรู้ดีว่านั่นคือ ‘ประกาศิต’ จากเจ้าชีวิตที่สามารถชี้เป็นชี้ตายเธอได้ ดวงหน้าหล่อเหลาฉายแววเคร่งเครียดไม่ต่างจากดวงตาที่มองมาราวกับเธอเป็นอาชญากรร้าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนคมมีดกรีดชำแหละหัวใจอันเต็มไปด้วยบาดแผลของเธอให้เจ็บลึกลงไปอีกเท่าทวี
“พะ พี่ดิศคะ”
“ฉันไม่เคยมีน้องสาว...ทอฝัน” แม้จะเป็นถ้อยวาทีเรียบเฉยเฉกเช่นที่เคยได้ยินมาตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ทว่าเหตุใดกันเธอถึงไม่เคยรู้สึกชาชินกับมัน ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเจ็บมากขึ้นทุกที...ทุกที
“ฝันขอ...”
“สิทธิ์ของเธอควรจะหมดไปตั้งแต่วันนี้ด้วยซ้ำทอฝัน” ร่างสูงใหญ่ใต้ชุดสูทเรียบหรูแพงระยับหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เท้าแข็งแรงก้าวเดินไปหยุดกึกหน้ากำแพงกรุกระจกใสจากชั้นสูงสุดของโรงพยาบาล “แต่ที่ฉันให้เวลาเธออีกหนึ่งปีก็เพราะเห็นแก่ลูก...ลูกของฉัน”
หยาดน้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะซ้ำรอยเดิมบนแก้มขาวซีดอีกหน คำพูดเน้นย้ำว่าสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอเป็นลูกของเขาแต่เพียงผู้เดียวนั้นทำให้หญิงสาวเจ็บร้าวไปจนถึงขั้วหัวใจ หากแม้นแสดงความรู้สึกออกมาเป็นการกระทำได้เธอคงตายแดดิ้นลงไปให้เขาได้เห็นแล้ว
“อย่าใจร้ายกับฝันเลย เมตตาฝันด้วย”
เสียงร้องวอนขอปริ่มจะขาดใจนี้คงจะบาดลึกเข้าไปในหัวใจของเขาได้ไม่ยากหากครั้งหนึ่งหญิงสาวไม่เผยธาตุแท้ออกมาให้ได้เห็น เสี้ยวหน้าหล่อเหลาตวัดกลับมามองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจขณะที่ริมฝีปากทรงเสน่ห์บิดขึ้นอย่างหยัน ๆ
“เธอวอนขอความเมตตาจากฉัน?”
“ให้ฝันได้ดูแลเขา”
“ผู้หญิงที่คิดฆ่าได้แม้กระทั่งเลือดในอกอย่างเธอสมควรได้รับโอกาสดูแลเขาอย่างนั้นหรือ!”
“ฮือ ๆ ฝันไม่ได้ทำ” ดวงหน้าซีดเซียวนองน้ำตาโคลงส่ายไปมาอย่างไม่อาจยอมรับคำกล่าวหาอันเลวร้ายที่เขามอบให้ได้ แม้แต่หมามันยังรักลูกมัน แล้วเธอล่ะ “ฝันรักลูก รัก...”
“เลิกเสแสร้งสักที” น้ำเสียงเย็นเยียบของเขาแช่แข็งหัวใจดวงน้อยซึ่งเต็มไปด้วยรอยแผลเหวอะหวะให้หยุดเคลื่อนไหว “ฉันกินข้าวไม่ได้กินหญ้า โปรดเข้าใจใหม่ ผู้ชายที่เคยหลงเชื่อผู้หญิงหน้าซื่อตาใสคนนั้นได้ตายไปแล้ว!”
“ฝันไม่ได้ทำ ฝันไม่เคยคิดฆ่าลูก...”
“แล้ววันนั้นมันคืออะไร คืออะไรทอฝัน!”
ภูดิศสติขาดผึงยามเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์แสนเลวร้ายในวันนั้น หญิงสาวที่เขาเคยเห็นเพียงมุมที่อ่อนหวาน คนที่เขาลองเปิดใจเรียนรู้จงใจฆ่าลูกที่อยู่ในท้อง
ลูกของเขา!
คงไม่เจ็บปวดขนาดนี้หากในชีวิตของเขาจะไม่พบเจอกับการถูกหักหลังและลอบกัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยเฉพาะคน ๆ นั้นคือคนใกล้ตัว คนในครอบครัวหรือแม้กระทั่งคนที่คิดจะสร้างครอบครัวอย่างผู้หญิงตรงหน้า!
‘พิทักษ์บริรักษ์ไพศาล’ คือนามสกุลฝั่งมารดาทั้งที่บุตรชายอย่างเขาควรจะได้ใช้นามสกุลบิดาเฉกเช่นคนนิยมกัน หากแต่เป็นเพราะความขัดแย้งของพี่น้องร่วมสายเลือดทำให้บิดาของเขาเลือกที่จะหันหลังให้ครอบครัว
ภูดิศเคยเห็นพ่อร้องไห้ในวันที่ปู่เสียหากแต่ท่านไม่มีโอกาสได้กลับไปร่วมงานศพ ความพยายามที่จะปกป้องลูกกันเขาและน้องให้ห่างจากความอำมหิตของคนในตระกูลเริ่มตั้งแต่ไม่ยอมให้ใช้นามสกุลเพื่อจะได้ไม่มีสิทธิ์ในสมบัติเลือดที่มีฝูงแร้งซึ่งเป็นสายเลือดเดียวกันจ้องรุมทึ้งอยู่ ซึ่งนั่นทำให้ปู่โกรธจัดจนถึงขั้นตัดพ่อตัดลูกกับบิดาของตน
ครั้งต่อมานั่นก็คือเมื่อตอนที่บิดาเสียชีวิต หากมองแค่ผิวเผินอาจจะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ใครจะรู้ว่าพอสืบค้นไปจริง ๆ มันจะเป็นแผนฆาตรกรรมที่จงใจพยายามทำให้เหมือนอุบัติเหตุที่สุด ซึ่งคนที่ทำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ผู้ชายใจหยาบผู้เป็นลุงเขยของตนนั่นเอง
“เธอเป็นคนทำลายความเชื่อใจของฉันเอง ทำลายมันลงด้วยมือของเธอ!”
“ฝันไม่...”
“หนึ่งปีทอฝัน”
อกแกร่งกระเพื่อมขึ้นลงหนักหน่วงอย่างคนที่พยายามระงับอารมณ์โกรธเกรี้ยวที่ผสานความเจ็บปวดให้อยู่ในระดับปกติก่อนจะสาวเท้าเดินหน้ามาหยุดประชิดเตียงผู้ป่วยที่หญิงสาวในชุดสีเขียวอ่อนนั่งอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวน หวาดกลัวที่จะสูญเสียลูกน้อยไป
“รู้ไหมว่าทำไมต้องหนึ่งปีทอฝัน” น้ำเสียงเย็นยะเยือกดังเหนือศีรษะกำลังกัดกร่อนหัวใจที่เหลือพื้นที่ดี ๆ ของทอฝันจนพังยับเยิน “เพราะฉันไม่อยากให้ลูกของฉันจดจำเธอได้ ไม่อยากให้ลูกเจ็บช้ำเพราะมีแม่อำมหิตอย่างเธอ!”
ภูดิศยื่นมือไปคว้าลูกน้อยออกจากอ้อมอกของทอฝันแล้วหันหนีขณะที่หญิงสาวกำลังร่ำไห้อย่างเจ็บปวดจึงไม่ทันระวัง แต่เมื่อเห็นอย่างนั้นร่างบอบบางโรยแรงก็รีบถลาตัวลงจากเตียงผู้ป่วยด้วยความหวาดหวั่นสุดชีวิต เกรงว่าภูดิศจะพรากลูกไปจากอกนับตั้งแต่วินาทีนี้
“คุณดิศอย่าเอาลูกไป...” ร่างของคุณแม่ที่เพิ่งฟื้นจากการคลอดบุตรได้ไม่ถึงหกชั่วโมงทรุดลงกองกับพื้นด้วยความอ่อนเพลีย แต่กลับไม่ได้รับแม้เศษเสี้ยวความเห็นใจจากซาตานร้ายที่ฉกฉวยเอาหัวใจดวงน้อยของเธอไปไว้ในอ้อมแขน “อย่าพรากลูกไปจากฝัน...”
“เธอควรจะดีใจถึงจะถูกที่ไม่ต้องเลี้ยงเด็กคนนี้ คนที่เธอคิดจะทำลายเขาตั้งแต่ต้น” ภูดิศยิ้มเยาะทั้งปากและตา เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นช่างเปรียบเสมือนขนมหวานชั้นเลิศในการสังเวยความรู้สึกที่สูญเสียไปของเขายิ่งนัก
“อย่าใจร้ายกับฝันเลย ฮึก อย่าพรากลูกไปจากฝัน...” มือบางสั่นระริกยกขึ้นกระพุ่มเป็นดอกบัวและกราบลงแทบเท้าแกร่งตรงหน้าหากแต่ชายหนุ่มกลับไม่ปรายแม้แต่หางตามองให้เป็นเสนียด!
“แต่ฉันก็ไม่ใจร้ายเหมือนเธอหรอกนะทอฝัน” วงแขนแกร่งโอบประคองเทวดาตัวน้อยเอาไว้อย่างหวงแหน ก่อนจะหลุบสายตามองผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งกำลังร้องขอสิทธิ์ที่หล่อนคิดทำลายไปตั้งแต่ต้นด้วยความสมเพช “หนึ่งปีหากเธอยอมรับได้เธอก็จะได้ดูแลเขา หากคำตอบคือไม่ เธอก็จะไม่ได้เห็นหน้าลูกตั้งแต่วินาทีนี้!”
“คุณดิศ...” เสียงสะอื้นไห้ราวจะขาดใจดังออกมาจากกลีบปากแห้งกรังอย่างคนหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง ทอฝันช้อนใบหน้าเจิ่งหยาดน้ำตามองเจ้าชีวิตของตนอย่างยอมจำนนแล้วทุกสิ่ง “ฝันยอมแล้ว ยอม...”
หัวอกของคนเป็นแม่แทบแหลกสลายเมื่อคิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีก นาทีนี้ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรทอฝันก็ยอม ยอมแลกแม้กระทั่งชีวิตขอเพียงแค่ได้มีโอกาสโอบกอดลูกอีกสักครั้ง...
“ดี”
ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มพอใจ ชายหนุ่มต้องการให้เธอเจ็บปวดอย่างที่เขารู้สึก อยากให้หล่อนรักลูกของเขาให้มาก ๆ เพราะวินาทีที่เขารอคอยในอีกหนึ่งปีข้างหน้าหล่อนจะได้รับรู้ว่าความเจ็บปวดที่สุดเช่นเดียวกับที่เขาเห็นเลือดไหลลงอาบเรียวขาของเจ้าหล่อนนั้นเป็นเช่นไร และเมื่อถึงวันนั้นภูดิศสัญญาว่าจะหัวเราะให้เต็มเสียงขณะที่มองหน้าคนหัวใจแหลกสลาย!
“ขอบคุณค่ะคุณดิศ ขอบคุณ” น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยออกมาอย่างยินดี หากแต่มันก็ยังมีความเจ็บปวดซ่อนอยู่เมื่อระยะเวลาหนึ่งปีสำหรับคนเป็นแม่นั้นช่างแสนสั้นเหลือเกิน
“อ้อ ฉันลืมบอกอะไรเธออีกอย่าง”
แววตาคมกล้าฉายความพึงพอใจอย่างเล่ห์ร้ายเปิดเผย แม้จะทำให้หญิงสาวนึกหวั่นหากเธอไม่คิดจะถอยหลังสักก้าว ดวงหน้าซีดเซียวแหงนมองเขาอย่างลุ้นระทึกในใจ ก่อนวาจาแสนโหดร้ายจะหลุดออกมากรีดเฉือนหัวใจของเธอให้แหลกละเอียดเป็นจุณ
“เธอไม่มีสิทธิ์แทนตัวเองว่า ‘แม่’ กับลูกของฉัน” ภูดิศหลุบมองใบหน้าซีดเผือดราวกับคนจะตายด้วยความสะใจ “เพราะผู้หญิงอย่างเธอไม่คู่ควรที่จะเป็นแม่ของใคร ผู้หญิงอำมหิตอย่างเธอต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น!”
@@@@@@@@@
ขออนุญาตรีอัปคุณดิศ หนูฝันเพื่อโปรโมทอีบุ๊กและเผื่อมีนักอ่านหน้าใหม่พัดผ่าน หลงเข้ามา หุหุ
เนื้อหา โครงหลักเหมือนเดิมทุกประการ แต่จะมีการเกลาสำนวนเป็นแบบต้นฉบับตีพิมพ์
ท่านใดที่เคยอ่านแล้วไม่ต้องอ่านซ้ำและขออภัยหากมีการแจ้งเตือนเข้าไปสร้างความรำคาญใจ
แต่หากใครอยากหน่วง ฟิน จะอ่านซ้ำคนเขียนก็จักยิ้มกว้างด้วยความดีใจและขอบคุณค่ะ
...นาฬิกาเวลา...
ส่วนใครที่ไม่อยากรอ โหลดคุณดิศได้ที่ Meb เลยค่ะ
|
|
|
ความคิดเห็น