ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร่ายรักเล่ห์มัจจุราช [Re-upload]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ย. 59



    บทนำ

     

     

    ทันทีที่รถกันกระสุนคันหรูแล่นเข้ามาในพื้นที่อาณาเขตบริเวณของตึกนันทนาการของรัฐบาล สิ่งแรกที่สะดุดตาก็คือบรรดาลูกโป่งสีสวยที่ถูกสูบลมจนโป่งพองซึ่งตั้งประดับประดาและเลื้อยเป็นเกลียวไปตามเสากลมของอาคารสไตล์โรมันบริเวณหน้างาน

    ดวงตาคมกล้าชำเลืองมองกลุ่ม เด็กมอมแมม ที่เป็นหัวใจของงานในครั้งนี้กำลังต่อแถวรับขนมตรงซุ้มอาหารหลากหลายอย่างที่หน้าตาและสีสันของมันล้วนแต่ดึงดูดใจให้เข้าหาก่อนจะรีบเบือนหน้าหนี กรามหนาขบเข้าหากันจนเกิดเสียง ภาพความทรงจำเลวร้ายแล่นเป็นริ้วเข้ามาในหัวราวกับสายน้ำที่ทะลักทลายผ่านกำแพงทำนบ

    “วันนี้เด็กๆ เยอะมากเลยนะครับนาย” เสียงทุ้มของแซม บอดี้การ์ดคนสนิทที่พ่วงตำแหน่งมือขวาเอ่ยออกมาทำลายความอึดอัดภายในรถ รู้ดีว่าผู้เป็นนายไม่ใคร่จะชื่นชอบงานแบบนี้และไม่ถูกจริตกับเด็กกำพร้าเอามากๆ เนื่องจากอดีตที่ฝังใจ ดังนั้นสิ่งที่ลูกน้องผู้ภักดีทำได้ก็คือพยายามกันไม่ให้เด็กๆ เหล่านั้นเข้าใกล้ผู้เป็นนายอย่างเต็มความสามารถ

    “เฮ้อ...ขยะสังคม” เสียงลมหายใจหนักๆ ถูกถอนออกมาพร้อมกับคำพูดเดิมๆ ที่ชายหนุ่มจำกัดเอาไว้เรียก เด็กกำพร้า จากมูลนิธิต่างๆ ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวอิงกายอยู่กับเบาะรถอย่างประวิงเวลาเดินเข้าสู่ลานประหารโดยมีมนุษย์เด็กเป็นเพชฌฆาต!

    การสร้างภาพ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเศรษฐี คนมีชื่อเสียงระดับประเทศที่พร้อมใจกันออกมาแสดงความร่ำรวยผ่านการบริจาค เศษเงิน เข้ากองทุนสาธารณกุศล รวมถึงการหารายได้เข้ามูลนิธิต่างๆ ซึ่งครั้งนี้คืองานที่เกี่ยวข้องกับเด็กกำพร้าด้อยโอกาสซึ่งมีรัฐบาลเป็นแม่งานใหญ่

    “เด็กๆ ผู้น่าสงสาร” คล้ายฟังเป็นคำถากถางแต่กลับเจือกระแสของความเจ็บปวดบางๆ ซุกซ่อนเอาไว้ใต้ใบหน้าขึงเครียดขณะที่วาดขาลงจากรถด้วยท่วงท่าสง่างาม พร้อมกันนั้นใบหน้าที่บึ้งตึงเมื่อครู่ก็ปรับโหมดมาสู่ความเฉยชาตามเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตน

    แชะ! แชะ! แชะ!

    เสียงรัวชัตเตอร์และแสงแฟลตจากบรรดาเหยี่ยวข่าวของสื่อทุกสำนักที่มาปักหลักรอทำข่าวเหล่า เศรษฐีใจบุญซึ่งจะมาปรากฏตัวในงานการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของอิตาลีหันมาสาดเข้าใส่ชายหนุ่มที่เป็นเป้าหมายหลักของงานในวันนี้

    ริคาร์โด้ อัลวาเรส เจ้าของร่างสูงกว่าหกฟุตสี่นิ้ว เรือนกายกำยำอย่างผู้มีเลือดผสมระหว่างเสปนและอิตาลี ทายาทคนโตของอัลวาเรสเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัทยักษ์ใหญ่เจ้าของห้างสรรพสินค้า อัลวาเรสมอลล์ ที่มีมากกว่าร้อยสาขาทั่วโลก ซึ่งเป็นบริษัทอันดับหนึ่งที่ให้การอุปถัมภ์มูลนิธิและโครงการการกุศลมากมายของโลกเดินหน้าเรียบเข้าไปในงานโดยไม่ปรายตามองนักข่าวที่กำลังอ้าปากตั้งคำถามเลยด้วยซ้ำ

    เทพบุตรมัจจุราช ฉายาที่แสนเหมาะสมกับใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพเจ้าปั้นแต่งที่มักเรียบนิ่ง ดวงตาสีเขียวราวมรกตเนื้อดีคมกริบใต้คิ้วเข้มรูปดาบบ่งบอกถึงความเด็ดขาดและไม่เคยสะท้อนความรู้สึกอื่นใดนอกจากความลึกลับเย็นชา จมูกโด่งเด่นเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักลึกที่มักกดโค้งลงอย่างอวดดีทว่ากลับเซ็กซี่อย่างร้ายกาจ!

    ซึ่งคุณสมบัติความลึกลับเหล่านั้นล้วนแต่เป็นสิ่งน่าค้นหาสำหรับสาวๆ ทั่วโลกที่ต่างก็อยากรู้ว่าภายใต้รูปหน้าที่ปราศจากรอยยิ้มนั้นเป็นเช่นไร เพราะเท่าที่ข่าววงในหลุดออกมานั่นคือลีลารักบนเตียงของชายหนุ่มนั้นเด็ดสะระตี่และร้อนทะลุร้อยองศาแตกต่างจากใบหน้าที่สวมใส่หน้ากากน้ำแข็งยิ่งนัก!

    ยิ่งตอนนี้ชายหนุ่มเดินทางกลับมารับตำแหน่งซีอีโอของบริษัทหลังจากใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศมาอย่างยาวนานจึงทำให้สื่อทุกหัวต่างก็ให้ความสนใจว่าเหตุใดชายหนุ่มถึงตัดสินใจกลับมารับช่วงต่อและบริหารกิจการที่มีมูลค่ามหาศาลที่บ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งจากข้อสงสัยนี้ก็ทำให้สื่อบางรายถึงขั้นลงทุนบินไปถึงอเมริกาเพื่อเจาะประวัติอันลึกลับซับซ้อนของหนุ่มหล่อราวเทพบุตรผู้นี้ ผู้ที่ไม่ว่าจะขยับเขยื้อนไปทางใดก็คล้ายดั่งทำให้ธุรกิจของโลกสั่นคลอน!

    “เชิญด้านในเลยค่ะ” เสียงหวานใสของสาวสวยซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาจากเวทีประกวดนางงามอะไรสักอย่างทำหน้าที่ต้อนรับแขกผู้มีอุปการคุณที่มีจิตเมตตาเสียสละเงินทองเพื่อการกุศลกล่าวพลางผายมือเชื้อเชิญด้วยกิริยางดงาม

    ดวงตาคมเหลือบมองเล็กน้อยแต่ก็ทันได้เห็นแววตาเปิดเปลือยความรู้สึกหรือการ ทอดสะพานจากสาวงามนางนั้น มุมปากได้รูปกดโค้งลงเล็กน้อยก่อนจะตวัดสายตากลับมาสนใจทางเดินข้างหน้าต่อ

    ริคาร์โด้โปรดปรานกิจกรรมเร่าร้อนบนเตียงตามนิสัยผู้ชาย หากแต่ไม่เคยมีหญิงใดกะเทาะหัวใจที่ถูกห่อด้วยเกราะน้ำแข็งของเขาได้ ชายหนุ่มซื้อหาพวกหล่อนเหล่านั้นมาด้วยเงินและสิ่งมีค่า ต้องการเพียงการตอบสนองอันเร่าร้อนบนเตียง ไม่ได้มีความสำคัญในเรื่องอื่นใดเลยสักนิด โดยเฉพาะหัวใจและความรักซึ่งเขาไม่เคยมีความศรัทธาในสองสิ่งนี้แม้แต่น้อย!

    งานการกุศลเริ่มต้นด้วยการแสดงความสามารถของเด็กๆ ในมูลนิธิ หลากหลายชุดจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือชื่นชมของผู้ให้การสนับสนุนและแขกที่มาร่วมงาน

    ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่งเฉยชา ดวงตาคมกล้าจ้องมองไปบนเวทีแบบไม่กระพริบราวกับว่าตั้งอกตั้งใจชมการแสดงของเด็กๆ เหล่านั้นนักหนา ทั้งที่ในใจกำลังรู้สึก รำคาญการแสดงที่ไร้รสนิยมและหาความน่ารื่นรมย์ไม่ได้แม้แต่น้อยจากเด็กๆ จอมปัญหาเหล่านั้น

    พวกเด็กกำพร้าที่เป็นดั่งเหลือบไรของสังคม ไม่ได้สลักสำคัญอะไรที่ทำให้คนอย่างเขาต้องเสียเวลาเป็นวันเพื่อมานั่งดู หากแต่ที่ต้องทำก็เพื่อการกล่าวขวัญถึงของสังคมจอมปลอมและคำเยินยอว่าเป็น...พ่อพระ!

    ลำดับต่อมาคือการประมูลภาพวาดของจิตรกร เครื่องประดับของดารา เสื้อผ้าของนักกีฬา ผลงานสิ่งประดิษฐ์และงานฝีมือจากเด็กๆ ในมูลนิธิ

    สิ่งของหลากหลายชิ้นถูกประมูลกันอย่างครึกโครม เมื่อมีการสู้และปั่นราคากันราวกับมันเป็นสิ่งล้ำค่าก็ยิ่งทำให้ใจของคนที่ต้องปั้นหน้าเป็นเทพบุตรเดือดพล่าน ดวงตาเฉยชาฉายแววกระด้างขึ้นเล็กน้อยอย่างขัดใจที่เห็นใครต่อใครพากันโอบกอด หอมแก้มเด็กๆ แสนมอมแมมในมูลนิธิที่เป็นผู้เชิญสิ่งของเหล่านั้นให้แก่ผู้ชนะการประมูล

    “ขยะแขยง” เสียงเปรยแม้จะเบาแต่ก็ดังมากพอที่ทำให้บอดี้การ์ดคนสนิทได้ยิน

    “ต้องเลือกสักชิ้นแล้วครับ” แซมกระซิบเตือนเบาๆ มันคล้ายกับธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกครั้งต้องมีการเลือกประมูลสิ่งของสักชิ้นเพื่อให้นักข่าวได้เก็บภาพ ตามมาด้วยการบริจาคเงินเพิ่มเติมให้สิ่งของที่ไม่ได้มีค่าอะไร แล้วพรุ่งนี้เช้าก็จะมีรูปของเขาซึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นตัวแทนบางคนที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เข้าร่วมในงานการกุศลนั้นเด่นหราอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์

    “อืม” ริคาร์โด้ตอบรับตัดความรำคาญ

    “ชิ้นนี้ดีไหมครับ เผื่อได้ใช้งาน” แซมเอ่ยแนะนำเมื่อผู้ดำเนินรายการกำลังเสนองานฝีมือชิ้นหนึ่งซึ่งเป็นผ้าพันคอสีน้ำตาลขาวและสาธยายสรรพคุณเพื่อโน้มน้าวใจของผู้ร่วมประมูลว่าเป็นงานที่เกิดจากการถักมือ และอีกหลากหลายคำพูดสวยหรูแล้วแต่สมองจะคิดออก

    “หนึ่งล้าน” สิ้นเสียงทุ้มกังวานก็ตามมาด้วยเสียงอื้ออึงราวกับผึ้งแตกรัง สีหน้าแววตาตื่นตกใจในราคาที่สูงขนาดนั้นก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นชื่นชมในความมีเมตตาและเห็นคุณค่าของเด็กกำพร้าของเขาจากแขกเหรื่อที่เข้ามาร่วมงาน บางรายถึงขั้นลุกขึ้นยืนปรบมือให้ราวกับการกระทำของชายหนุ่มนั้นน่าสรรเสริญเสียเต็มประดา

     

    ตุ้บ!

    เสียงกล่องของขวัญซึ่งข้างในนั้นคือผ้าพันคอที่ชายหนุ่มเพิ่งประมูลได้มาถูกเหวี่ยงลงไปบนเบาะรถอย่างไร้ค่าทันทีที่ชายหนุ่มก้าวเดินออกมาจากงานถึงตัวรถที่เปิดประตูรออยู่แล้ว

    “ขอบใจ” ริคาร์โด้เอ่ยขอบคุณในความรู้งานของเลโอ บอดี้การ์ดมือซ้ายที่ส่งผ้าเช็ดหน้าแบบเปียกซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งแบททีเรียมาให้เขา

    หากการประมูลสิ่งของสักชิ้นในงานการกุศลเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เขาต้องทำ การใช้ผ้ากำจัดหรือยับยั้งแบททีเรียพวกนี้ก็เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มปฏิบัติอย่างเคร่งครัดไม่ต่างกัน!

    ริคาร์โด้เกลียดเด็ก เกลียดส่วนเกินของสังคม!

    ชายหนุ่มบรรจงใช้ผ้าเช็ดตามนิ้วมือหนาอย่างพิถีพิถันหลังจากที่ต้องใช้มันโอบกอดและยีศีรษะเล็กๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่แม้จะอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่น่าจะดีที่สุดสำหรับชีวิตของเจ้าตัวแต่มันก็ยังสกปรกอยู่ดีในความรู้สึกของเขา

    “เอาไปทิ้งด้วยนะไอ้ผ้าพันคอบ้านั่น” เสียงเย็นติดจะห้วนดังขึ้นขณะที่ทิ้งตัวอิงเบาะโดยเว้นระยะห่างระหว่างตัวเขาและกล่องของขวัญนั่นราวกับมันเป็นเชื้อโรคที่ติดต่อได้ทางการสัมผัสและระยะความใกล้

    “ผมว่ามันก็สวยดีนะครับ จับดูก็รู้ถึงความละเอียดของฝีมือที่เกิดจากความตั้งใจของคนทำ” แซมเอ่ยชมผ้าพันคอที่อาจจะแพงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ด้วยความรู้สึกจากใจจริง

    “มันอาจจะสวย” ริมฝีปากหยักทรงเสน่ห์กดโค้งลงอย่างดูแคลน “หากไม่ใช่ผลงานจากเด็กสกปรกพวกนั้น!


    @@@@@@@@@
    เป็นการรีอัพเพื่อโปรโมตอีบุ๊กเพื่อให้นักอ่านที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้
    ได้พิจารณาตัดสินใจติดตามหรืออุดหนุนฉบับอีบุ๊กที่พร้อมโหลดที่เมพแล้วค่ะ
    ส่วนนักอ่านที่เคยติดตามเรื่องนี้ไปแล้วไม่ต้องเข้ามาอ่านก็ได้ค่ะ
    ไม่มีเนื้อหาเพิ่มเติมจากแบบรูปเล่มและอีบุ๊กที่วางไปแล้วค่ะ

    รัก...นาฬิกาเวลา





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×