ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♥ คาถารัก เเม่มดฝึกหัด ♥

    ลำดับตอนที่ #1 : ดีกว่ารองเท้าทับทิมอีก

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 53


       ฉันฝันอยากได้อะไรตั้งหลายอย่าในตลอดชีวิตสิบสี่ปีที่ผ่านมา...ทั้งอยากมีเเฟน อยากเป็นนักเต้น(ฉันเคยไปคัดตัวครั้งหนึ่งผ่านไปถึงรอบสุดท้ายเเต่กลับไม่ได้เพราะลอร่า เจงกินส์เต้นได้ดีกว่านิดหนึ่ง) สรุปคือไม่มีความฝันอันไหนเป็นจริงเลย
        จนกระทั่งตอนนี้...
        ฉันยืนอยู่ข้างตู้ล็อกเกอร์ กำลังรูดซิบเสื้อโค๊ตสีดำตัวพองอยู่ ตอนที่สังเกตุเห็นรองเท้าผ้าใบคู่นั้น
         มันเป็นรองเท้าหนังกลับสีเขียวของดีไซเนอร์ชื่อดัง คู่ที่ฉันไปยืนปลื้มอยู่ที่ห้างบลูมมีส์เมื่อสัปดาห์ก่อน เเม่บอกว่าฉันชื้อรองเท้าคู่นั้นไม่ได้เพราะมันเเพงกว่าทีวีบ้านเราเสียอีก
         แต่ตอนนี้มันมาอยู่ที่เท้าฉันเเล้ว
         "มาได้ไง"ฉันพึมพำ กระพริบตาอย่างงุนงง รองเท้าบูตสีดำคู่โทรมที่ฉันใส่ประจำไปไหนกัน
          นี่ฉันเผลอใส่รองเท้าสลับกลับใครหลังเลิกเรียนวิชาพละอย่านั้นหรือ ฉันเป็นโขมยรึปล่าว  เป็นไปไม่ได้หรอก ที่ผ่านมาฉันหยิบของที่ไม่ใช่ของตัวเองไปเเค่ครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือตอนที่เผลอหยิบเหล็กดัดฟันของจูลมาใส่น่าขยะเเขยงนะใช่  
    เเต่ถึงขั้นเป็นอาชญากรรมไหมน่ะ ไม่เลย
           หัวใจฉันเริ่มเต้นไม่เป็นส่ำ พิลึกจังแฮะ รองเท้าคู่นี้มาอยู่ที่เท้าฉันได้อย่างไรกันเนี่ย
           เดี๋ยวก่อนอย่างด่วนจี๋เลยนะ บางทีเเม่อาจชื้อมาให้ฉันประหลาดใจก็ได้ ใช่ว่าแม่จะทำอะไรเเบบนี้เป็นประจำหรอกนะ แต่พักหลังนี้ฉันทำตัวดีเยี่ยมและเเม่ชอบให้รางวัลตอบเเทนความดีด้วย
           เมื่อเช้า ฉันคงผูกเชือกสวมมันโดยไม่ทันสังเกตละมั้ง ฟังดูไม่เข้าท่าสินะ แต่เมื่อคืนฉันนอนดึกมากจริงๆ และมักใจรอยทุกครั้งที่เพลีย
           แต่นั่นก็ยังอธิบายไม่ได้อยู่ดีว่า ทำไมฉันถึงไม่รู้ตัวว่าสวมมันอยู่จนกระทั่งตอนนี้ ฉันเหลือบมอง รองเท้าคู่นี้มีสีเขียวเเวววาวจะเรียกว่าส่องประกายก็ยังได้ มันเเทบจะเตะตาฉันอยู่เเล้ว
           ยังไงก็ช่างเถอะ รองเท้าคู่ใหม่! เครื่องเเต่งตัวในฝันสำหรับเเผนการหลังเลิกเรียนที่เเสนวิเศษ ฉันยิ้มเหมือนคนที่เพิ่งได้ถอดเหล็กดัดฟันเลย
           "ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหม" ฉันถามแทมมีที่กำลังค้นกระเป๋า อย่างน้อยฉันน่าจะโทรไปขอบคุณเเม่เพื่อคราวต่อไปแม่อาจซื้อโทรศัพท์ให้ฉัน
           "รองเท้าเปรี้ยวดีนิ" เเทมมีมอง "ไปเปลี่ยนมาเมื่อไหรน่ะ"
           "ฉันปล่าว ฉัน เอ่อใส่มันมาทั้งวันเเล้ว" ใช่ไหมนะ ฉันไม่มันใจเอาเลยอีกเเล้วสิ
            แทมมี่ชูนิ้วโป้งให้ฉันด้วยมือขวา เเล้วส่งโทรศัพท์ใหด้วยมือซ้าย เดี๋ยวนี้เธอใชสัญญาณมือในการสื่อความคิด เธอไปหัดดำน้ำลึกมากลับครอบครัวที่เกาะอาบูราเมื่อปีก่อน เเละทุกวันมักสื่อสารด้วยสัญญาณมือที่ใช้กันใต้น้ำ การชูนิ้วโปงหมายความว่า"ขึ้นจากน้ำกันเถอะ" ซึ่งแปลว่าเธออยากจะรีบออกไปจากที่นี่เเล้ว
            เเม่ของฉันรับโทรศัพท์ทันทีที่กริ่งเเรกดัง
            "แม่คะ ขอบคุณสำหรับรองเท้าผ้าใบนะคะ มันเจ๋งไปเลยค่ะ! ขอโทษที่เมื่อเช้าหนูไม่ทันสังเกต"
             เงียบกริบ ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงซ่าๆอู้อี้
             "แม่ยังอยู่รึเปล่าวค่ะ" ฉันถามพลางเคาะส้นรองเท้าไปด้วย ใครจะไปรู้ว่าหนังกลับสีเขียวจะสวยเลิศขนาดนี้ "หนูไม่ได้ยินเเม่เลย"
             "ลูกต้องกลับบ้านเดี๋ยวนี้จ๊ะ"แม่บอกฉัน
             "อะไรนะค่ะ ทำไมล่ะ?" ฉันถาม หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
             "แม่มีเรื่องต้องคุยกับลูกจ๊ะ สำคัญมาก"เเม่ตอบเสียงเเม่ฟังดูสั่นๆ
             "เเต่หนูมีนัดสำคัญมากหลังเลิกเรียนนะคะ!"นัดที่ร้านพิซซ่าสตรอมโบลีของพวกเอลิสต์หรือนักเต้นที่กำหนดชะตาชีวิตของฉัน! นี่มันหายนะชัดๆ 
             "แถมตอนหนูโทรไปขอเเม่เมื่อชั่วโมงก่อนเเม่งยังบอกว่าไปได้เลยนี่น่า"
              "เรื่องมันเปลี่ยนเเล้วจ๊ะ เรเชลลูกต้องกลับบ้าน" เเม่สั่งฉัน ทำให้ฉันจำใจพูดรับไป
              "ก็ได้ค่ะ"เเล้วฉันก็วางสายทันทีก่อนทีเเม่จะทันได้บอกลา
              "ฉันไปไม่ได้เเล้วละเเทมมี ฉันต้องกลับบ้าน" ฉันบอกเเทมมีพร้อมคืนโทรศัพท์ให้
              "อ้าว งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ"เเทมมีบอกลาฉัน   ก่อนจะเดินไปหาเเอรอนคนที่เธอกำลังคบด้วยเพื่อไปร้านสตรอมโบลี ฉันจำใจเดินกลับบ้านด้วยความเสียดายก่อนคิดในใจ หวังว่าเเม่น่าจะมีเหตุผลดีพอที่มาขัดการเป็นนักเต้นของฉันนะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×