ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Missed Fortune {FIC TS9} อ้นเชอรีนดิวแบมบี้ตั้ม

    ลำดับตอนที่ #9 : Missed Fortune Number.9 : Realize it's Dejavu & Time to Face to Face

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 226
      0
      24 ต.ค. 56

    Missed Fortune  Number.9 : Realize it's Dejavu & Time to Face to Face


    " เอี๊ยด.. " เสียงรถของสิรินโสพิศเบรกเสียงดังสนั่นทำให้ผู้คนรอบนอกต้องหันมามองๆ แต่เมื่อสิรินโสพิศลดกระจกลงมองป้ายที่แปะไว้หน้าบริษัททำให้เธอถึงกับต้องกรีดร้องเสียงดัง
    " ไม่จริง!!!!?!!! " สิรินโสพิศรีบหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาทุกคนในบริษัท โดยเฉพาะ กรกฏ..
    " หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ.. " สิรินโสพิศกำมือถือในมือไว้แน่นก่อนจะขว้างไปที่เบาะหลัง
    " เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก.. ยัยเชอรีน! " สิรินโสพิศประกาศกร้าวก่อนที่จะรีบขับรถไปจอดหน้าบ้านหรเวชกุล เธอไม่รอช้ารีบเดินไปกดกริ่งหน้าบ้าน ไม่นานนักญาณินก็เดินมาด้วยความสงสัย
    " ไม่ทราบว่ามาหาใครค่ะ "
    " ฉันมาหาเชอรีนน่ะค่ะ " สิรินโสพิศพูดจบก็ยิ้มบางๆไป
    " คุณเป็นเพื่อนเชอรีนหรอค่ะ? ฉันไม่ยักกะเคยเห็นหน้า " ญาณินถามด้วยความไม่ไว้วางใจ เพราะก่อนที่น้องสาวเธอจะเดินทางไปเกาหลี เธอได้กำชับไว้นักหนา หากใครมาถามถึงเธอ ให้ตอบไปแค่ว่า เธอไปต่างจังหวัด
    " ค่ะ "
    " อ่อค่ะ.. เชอรีนบอกแค่ว่าจะไปอยู่ต่างจังหวัดซักพักน่ะค่ะ " ญาณินตอบก่อนจะดูเชิงของสิรินโสพิศที่แสดงออกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย
    " แล้วจังหวัดอะไรพี่พอจะรู้มั้ยค่ะ " สิรินโสพิศถามต่ออย่างไม่ท้อแท้
    " ไม่ทราบหรอกค่ะ ดิฉันรู้แค่นี้ ขอตัวน่ะค่ะ " ญาณินพูดจบก็เดินหนีสิรินโสพิศเข้าบ้าน แล้วรีบกดโทรศัพท์หาพี่ชายของเธอ.. นิชคุณ
    [ ตู๊ด.. ฮัลโหล ณินมีอะไร ]
    " เชอรีนอยู่กับพี่รึยังอ่ะ "
    [ อยู่ๆ แปปนึงน่ะ ] 
    " ค่ะ " ญาณินยืนรอเสียงปลายสายด้วยความกระวนกระวายใจเล็กน้อย ไม่นานนักเสียงใสของณัฐจารีก็ตอบกลับมา
    [ ฮัลโหล ]
    " เชอรีน! เมื่อกี้มีผู้หญิงคนนึงมาถามหาเชอรีนด้วย " ญาณินตอบด้วยเสียงรีบร้อน
    [ !! ] 
    " เชอรีน.. ?! ได้ยินพี่รึเปล่า "
    [ ได้ยินค่ะ.. พี่ณินบอกเขาว่าอะไร ]
    " พี่บอกว่าเชอรีนไปต่างจังหวัด " ญาณินตอบก่อนจะเหลือบมองไปนอกกระจก สิรินโสพิศยังคงยืนอยู่ที่เดิมและมองมาทางญาณินด้วยความสงสัย
    " เชอรีน แค่นี้น่ะ ผู้หญิงคนนั้นจ้องพี่ไม่ยอมไปไหนเลย " 
    [ ค่ะๆ พี่ณินช่วยส่งรูปผู้หญิงคนนั้นให้เชอรีนหน่อยล่ะกัน ]
    " โอเคๆ " ญาณินวางสายก่อนจะแอบถ่ายรูปสิรินโสพิศจากระยะไกลแล้วส่งให้น้องสาวที่รักของเธอ เธอรีบเดินไปล็อคประตูบ้านก่อนจะวิ่งขึ้นห้องของตัวเองด้วยความกลัวว่าสิรินโสพิศจะเข้ามาทำร้ายเธอเข้า!
     
     
     
     
    # ทางด้านณัฐจารี
    ณัฐจารี กรกฏ นัทธพงษ์และวราวุธกำลังนั่งมองภาพที่ญาณินส่งมาให้ด้วยความตกตะลึง.. ถึงแม้ว่ารูปจะถ่ายในระยะไกลและไม่ค่อยชัด แต่ก็ยังพอดูออกว่าผู้หญิงคนนั้นคือสิรินโสพิศ
    " แล้วเชอรีนจะหลบถึงเมื่อไหร่หล่ะ " นิชคุณถามขึ้น แน่นอนว่าณัฐจารีได้เล่าเรื่องทุกอย่างที่เขาฟังแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะเข้าใจไม่ทั้งหมดก็เถอะ
    " ซักสองเดือนค่ะพี่คุณ.. " ณัฐจารีตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
    " เฮ้อ.. แล้วทำไมไม่แจ้งตำรวจหล่ะ " 
    " เพราะว่าพวกเราไม่มีหลักฐานมากพอที่จะรวบความผิดน่ะครับ " วราวุธตอบ นิชคุณได้แต่ถอนหายใจก่อนจะกุมขมับ มันเหมือนมีความรู้สึกแปลกๆแว๊บไป แว๊บมาในใจเขานับตั้งแต่น้องสาวของเขาไปทำงานที่บริษัทนี้แล้ว มันเหมือน.. เดจาวู
    " รู้มั้ย.. พี่รู้สึกเหมือนเหตุการณ์นี้มันเกิดซ้ำๆซากๆเลย " นิชคุณส่ายหน้าไล่ความคิดบ้าๆของเขาออกไป แต่คำพูดของเขากลับทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ลบเย็นพัดผ่านตัวเขาไปก่อนจะปรากฏร่างในเสื้อสีดำสองคนยืนอยู่
    " เห้ย! พวกนายเป็นใคร!? Wer bist du!? " 
    ' พี่ชายเธอหรอ? ' อิสริยะถามณัฐจารีก่อนที่เธอจะพยักหน้าเบาๆ
    " เห้ย..!! "
    ' โป้ะ! ' โสรญาดีดนิ้วทีนึงก่อนที่นิชคุณจะสลบไปที่โซฟา
    " พี่คุณจะไม่เป็นไรใช่มั้ย " ณัฐจารีมองไปที่พี่ชายตัวเองด้วยความเป็นห่วง
    ' อืม.. ส่วนพี่สาวเธอน่ะ.. สมายด์ส่งไอแกงไปเป็นผู้พิทักษ์ให้แล้ว ' อิสริยะกล่าวถึงธนทัต.. หนึ่งในผู้คุมโชคชะตา
    " ขอบคุณน่ะ "
    ' ด้วยความยินดี ' โสรญายิ้มด้วยความเป็นมิตรก่อนจะเดินไปคุยกับกรกฏ
    ' เธอหลบแบบนี้ตลอดไปก็ไม่ได้น่ะ ' อิสริยะพูดกับณัฐจารีด้วยใบหน้านิ่งๆ
    " ฉันรู้.. แต่ฉันขอตั้งหลักก่อนที่ฉันจะกลับไปเผชิญหน้ากับ.. "
    ' โอเค.. ฉันเข้าใจแล้ว.. '
    " ว่าแต่นายมาหาฉันถึงนี้มีอะไร "
    ' .. ฉันมาเตือนเธอ.. ว่าสิรินโสพิศจะดิ้นพล่านตามหาเธอจนเจอ.. ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม.. ' อิสริยะพูดก่อนจะค่อยๆจางหายไปพร้อมโสรญา นิชคุณค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง
    " ห๊าว.. เกิดอะไรขึ้นเนี่ยเชอรีน "
    " เปล่าค่ะ .. แค่พี่คุณเผลอหลับไปเท่านั้นเอง " ณัฐจารีตอบก่อนจะยิ้มบางๆให้พี่ชายเธอ ไม่นานนักนิชคุณก็ต้องขอตัวออกไปซ้อมเต้นกับเพื่อนๆในวง โดยกับชับนัทธพงษ์ กรกฏและวราวุธไว้อย่างดี ว่าต้องดูแลน้องสาวของเขาให้ดี
    " เชอรีนจะเอายังไงต่อ " วราวุธถรมขึ้นหลังจากที่นิชคุณออกไป
    " เชอรีน... ไม่รู้สิ " ณัฐจารีพูดจบก็ถอนหายใจ
    " พี่ว่าเราหลบได้อย่างมากก็ไม่เกินอาทิตย์ เพราะตระกูลปัจฉิมสวัสดิ์มีเส้นสายพอที่จะหาได้ว่าพวกเราเดินทางไปไหนอยู่แล้ว " นัทธพงษ์พูดขึ้น
    " ฉันว่าไม่เกิน 2 วัน " วราวุธพูดต่อก่อนที่ทั้งสามคนจะถอนหายใจ
    " เชอรีนขอโทษน่ะค่ะ.. ทุกคนต้องเดือดร้อนเพราะเชอรีนแท้ๆ " ณัฐจารีเงยหน้ามองทุกคนด้วยใบหน้าที่น้ำตาคลอเบ้า
    " ไม่เป็นไรหรอก เราทุกคนเต็มใจ " 
     
    #ทางด้านของสิรินโสพิศ
    เธอกำเอกสารในมือไว้แน่นพอกับที่จะสามารถฆ่าใครคนนึงได้ เวลากว่า 2 วันที่ใช้ในการตามหาณัฐจารีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็กลับไม่ใช่เรื่องยากสำหรับตระกูลปัจฉิมสวัสดิ์แต่อย่างใด สาวใช้เดินเอาน้ำผลไม้คั้นสดมาให้ผู้เป็นนายแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของเธอ
    " ออกไป!!!!! ฉันไม่ต้องการกินน้ำผลไม้นี้!!!! เอาออกไปไกลๆเลย!!!!!! " สิรินโสพิศตวาดลั่นก่อนจะเอาแก้วน้ำผลไม้ทิ้งลงพื้นอย่างไม่ปราณี สาวใช้วิ่งไปหน้าตื่นพร้อมด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าทั้งสอง โสรญาที่อยู่ในร่างโปร่งใสยืนมองสิรินโสพิศอย่างนิ่งๆ หน้าที่เธอคือ.. อย่าให้หล่อนแตะตัวคนในครอบครัวหรเวชกุลแม้แต่ปลายเล็บ
    ' เป็นไงบ้าง ' เสียงของธนทัตลอยมากลับสายลมพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกฟรีเซีย
    ' ไม่แย่เท่าไหร่.. แต่ก็คงไม่ดีถ้าหากยังให้เธอคนนั้นหนีปัญหาต่อไป ' ธนทัตเผยร่างของตนเองก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย ใช่ มันไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่เมื่อผู้เป็นนายสั่ง ก็ต้องทำ
    ' เราควรจะบอกพวกเขามั้ย '
    ' ไม่.. บางทีพวกเขาควรได้รับความเจ็บปวดที่พวกเขาก่อ ไม่ใช่แค่เดินหนีมัน ' ธนทัตพูดด้วยแววตาที่นิ่งราวกับสายน้ำ ไม่เคยมีใครเดาใจเขาออก ยกเว้นแค่เธอ... โสรญา 
    ' ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ.. ' เธอพึมพำก่อนจะหายตัวไปพร้อมกับสายลม
    " เชอรีน.. เธอไม่มีวันได้เขาไปจากฉันหรอก!!!! " สิรินโสพิศตะโกนขึ้นก่อนจะกดโทรศัพท์เพื่อจองตัวไปประเทศที่ขึ้นชื่อด้านความสวยความงาม ณ ปัจจุบัน.. สาธารณรัฐเกาหลี
    .
    .
    .
    .
    " ติ๊ดๆ " เสียงโทรศัพท์ของณัฐจารีเตือนขึ้น ณัฐจารีสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงเล็กๆนั่น สองวันที่ผ่านมาเธอยังคงไม่สามารถลดความกังวลนั่นลงได้ รวมถึงหลังจากที่เธอได้ยินเสียงเตือนนั้น เหมือนกำลังเป็นสัญญาณเตือนภัยอะไรซักอย่าง
    " ใครส่งอะไรมาหรอเชอรีน " นัทธพงษ์ที่เพิ่งตื่นนอนได้ไม่นานเดินขยี้ตามานั่งข้างๆเธอ รวมทั้งกรกฏและวราวุธที่ตามมาอย่างติดๆ แต่ทั้งสี่คนกลับมีความเห็นตรงกันว่า ข่าวที่จะได้ยิน.. ไม่ใช่ข่าวดี
    " เชอรีนก็ไม่รู้ค่ะ " เธอพูดด้วยเสียงเบาหวิวก่อนจะกดเปิดข้อความดู
    ' คุณสิรินโสพิศกำลังเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีเที่ยวบินไฟล์ท 18.00 ตามเวลาท้องถิ่นค่ะ : พิมพ์ชนก ' คุณพิมพ์ชนกคือทนายความที่บ้านหรเวชกุลยังคงไว้ใจมาตลอด ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่.. ใช่ นิชคุณไม่เคยปล่อยให้น้องเขาต้องต่อสู้เพียงลำพังกับเพื่อนๆ เขาติดต่อทนายทันทีหลังจากที่รู้เรื่องของน้องสาว ซึ่งก็ไม่ยากนักกับการที่จะใช้เส้นสายเล็กๆน้อยๆเพื่อหาข้อมูลเหล่านี้
    " พี่ว่าที่นี้ไม่ปลอดภัย.. " กรกฏพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาเอื้อมมือมากุมมือเธอไว้เบาๆ ระหว่างเขาะเธอ ไม่เคยมีใครสารภาพรักกัยแบบจริงๆจังๆาก่อน.. ก็แค่รูัสึกว่ารักและผูกพันธ์..
    " ... " ณับจารีกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆอย่างครุ่นคิด
    " เราจะไปเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนั้นกันค่ะ " เธอตอบออกไปในที่สุด ทุกๆอย่างเหมือนหยุดนิ่งลงเมื่อเธอพูดคำนี้
    " แต่เชอรีน.. เชอรีนจะตายน่ะ " นัทธพงษ์เอ่ยด้วยสีหน้าวิตกกังวล
    " ถ้างั้นตอนนี้เชอรีนก็พร้อมจะตาย.. ถ้ามันต้องเป็นอย่างนั้น "
    " ไม่.. มันจะต้องไม่มีใครตาย แต่เราจะอยู่ไปด้วยกัน หากมีคนต้องตาย ก็ควรจะเป็นแบมบี้ ไม่ก้พี่ ไม่ใช่เชอรีน ไอตั้ม หรือไอดิว " กรกฏเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉยๆ ณัฐจารียังคงเดาความคิดเขาไม่ออกเลยได้แต่บีบมือเขาเบาๆ
    " เชอรีนจะให้ทนายจัดการรั้งตัวเขาไว้.. แล้วเรา จะไปเจอเขาด้วยกัน " กรกฏพยักหน้าก่อนที่ทุกคนจะเริ่มแยกย้ายไปเก็บข้าวของ ณัฐจารีต่อสายไปยังประเทศไทยอย่างเร็วที่สุด
    ( ตู๊ดด.. ค่ะ สำนักงานรักษาความปลอดภัยคีรีวัลย์ค่ะ )
    " เรียนสายคุณพิมพ์ชนกให้ด่วนเลยค่ะ บอกว่าจากณัฐจารี "
    ( ได้ค่ะคุณเชอรีน ) พนักงานต่อสายให้ผุ้เป็นทนายใหญ่ของบริษัทอย่างไม่รีรอ ขึ้นชื่อว่าหรเวชกุล หากไม่มีอะไรด่วนจริงๆคงไม่มารบกวนคุณทนายใหญ่จากต่างประเทศหรอก
    ( ค่ะ คุณเชอรีน พิมพ์ชนกค่ะ )
    " คุณพิมค่ะ เชอรีนอยสกให้คุณช่วยอะไรบางอย่างหน่อยน่ะค่ะ "
    ( ได้เลยค่ะ ไม่มีปัญหา หรเวชกุลมีบุญคุณต่อคีรีวัลย์อย่างมาก ทดแทนเท่าไหร่ก็คงไม่มีวันหมด หากมีอะไรที่ช่วยได้ ดิฉันก็ยินดีค่ะ ) ณัฐจารียิ้มให้กับปลายสายบางๆ
    " ติดต่อคุณสิรินโสพิศให้ฉันหน่อยน่ะค่ะ.. บอกว่าฉัน.. จะเป็นคนไปหาเขาเอง "
    ( แต่นั้นคงไม่ปลอดภัยต่อตัวคุณน่ะค่ะ )
    " เชอรีนทราบดีค่ะ.. แต่ถ้าเรามัวแต่หนีปัญหา คงไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกใช่มั้ยค่ะ คุณทนายคนเก่ง.. ผู้ควบคุมโชคชะตาทั้งหมดของหรเวชกุลและคนใกล้ตัว " ณัฐจารีรุ้ดีว่าตอนนี้ปลายสายคงยิ้มให้เธอแน่ๆในเวลานี้
    ( คุณพูดเรื่องอะไรค่ะ ) พิมพืชนกยังคงพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
    " คุณดูไม่แปลกใจกับคำขอโง่ๆของฉัน "
    ( เพราะฉันรู้ว่าคุณจะไม่โกหก )
    " แต่คุณเป็นคนที่ฉันเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟังโดยที่ผู้คุมโชคชะตาของฉันไม่เข้ามาขัดขวาง.. ถ้าคุณตั้งใจจะช่วยฉันแต่แรก ทำไมไม่เผยตัวตนล่ะค่ะ " ณัฐจารียิ้มในใจ สองวันมานี่ถึงแม้ความกังวลใจจะมีอยุ่มาก แต่เธอก็ไม่พลาดสำหรับคำพูดแปลกประหลาดของพิมพ์ชนกในวันที่เธอเล่าเรื่องให้เธอฟัง
    ( ก็ได้ค่ะ ดิฉันยอมรับ ถึงแม้คนที่คุมจริงๆจะไม่ใช่ดิฉันโดยตรง แต่ก็เก่งน่ะค่ะ ที่คุณสามารถดูฉันออกได้ง่ายเหลือเกิน ) พิมพ์ชนกถอนหายใจเสียงเรียบ
    ( และตกลงค่ะ.. ฉันจะติดต่อคุณสิรินโสพิศให้คุณ.. )
    " ขอบคุณค่ะ คุณพิม "
    ( ด้วยความเต็มใจค่ะ ขอให้โชคดีกับโชคชะตาครั้งสุดท้ายน่ะค่ะ )
    " ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ หวังว่าเราจะเจอกันในตอนที่ฉันยังมีชีวิตน่ะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ " ณัฐจารีวางสายก่อนจะมอบไปทางน้องหน้าต่างที่มีเมฆสีดำคลึ้ม
    " ได้เวลาสู้กันซึ่งๆหน้าแล้วซิน่ะ "
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×