ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ] Paris Vacation >>> เมื่อรักมาพักร้อน

    ลำดับตอนที่ #4 : >

    • อัปเดตล่าสุด 23 ส.ค. 51


    หา!!! อะไรนะฮะแจจุงเอ่ยถามอีกครั้งราวกับว่าประโยคเมื่อครู่เจ้าตัวได้ยินไม่ถนัดทั้งๆที่เขาได้ยินเต็ม 2 หูเลยหล่ะ แอบดีใจอ่ะ สุดหล่อก็ชอบเราเหมือนกัน

    พอเลยฮยอกแจ แกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นร่างสูงเอ่ยขัด เขาแอบเห็นร่างบางหน้าแดง จะให้คิดเข้าข้างตัวเองว่าร่างบางเขินเขาก็คงไม่ได้ เพราะแจจุงมีสีหน้านิ่งเฉยซะจนเขาเองยังหวั่นใจอยู่เลยว่า ร่างบางคงจะโกรธเขามากสินะที่มาพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าแฟนได้ยังไง

    เอ่อคุณครับ ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับที่เสียมารยาทกับคุณ คือจริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่เพื่อนผมมันพูดหรอกนะครับ

    ไอ้ยุน !!!!! ” ฮยอกแจที่พยายามช่วยเพื่อนอย่างสึดความสามารถเอ่ยอย่างเสียใจที่ยุนโฮปัดความช่วยของเขา

    ...... ส่วนแจจุงนั้นก็รู้สึกไม่ต่างจากฮยอกแจ ..... เขารู้สึกเสียใจที่ยุนโฮไม่ได้รู้สึกอย่างที่เขารู้สึก

    ยุนโฮไม่ได้แอบรักเขา .......

    คุณครับ !!!

    เอ่อ มะ ไม่เป็นไรครับ ร่างบางก้มหน้าส่ายหัวเพื่อซ่อนหยดน้ำตาเล็กๆที่เริ่มปริ่มขอบตา

    เอ่อ .... พี่จุนซู พี่ยูชอน ..... ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ แล้วร่างบางก็รีบวิ่งออกไปทันที เดือดร้อนสเตฟานี่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆรีบขอตัวตามเพื่อนรักไปทันที

    ส่วนยุนโฮที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่นั้นก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก

    เขาทำอะไรผิดหรือเปล่า ..... ถึงทำให้เธอคนนั้นเสียน้ำตา แต่ยุนโฮก็ไม่มีเวลามาคิดอะไรต่อได้อีก เขาจึงลาคุณครูของเขาเพื่อกลับหอพัก ..... ไปจัดการไอ้เพื่อนบ้าสองคนนี้ต่อ

      พี่ยูชอนครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ คยู ฮยอก เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยเพื่อน

     

     

     

    <<< Paris Vacation >>>

     

     

     

    หลังจากที่ทุกๆคนต่างก็แยกย้ายกันกลับไป คู่รักยูชอนและจุนซูก็ค่อยๆเดินกลับหอพักของตัวเองเช่นกัน

    แล้วอยู่ๆจุนซูที่เดินคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ก็เอ่ยความคิดของตัวเองให้คนรักฟัง

    ยูชอน ฉันว่าเรื่องเมื่อกี๊มันแปลกๆอยู่นะร่างเล็กเอ่ยเปิดประเด็น พลางเดินเลือกขนมไปตุนไว้ที่ห้อง

    เรื่องของยุนโฮหน่ะหรอ

    อือ ใช่ก็เรื่องที่เด็กนั้นบอกว่ายุนโฮชอบแจจุงอ่ะ

    ทำไมหรอ? ”

    ก็เมื่อไม่กี่วันก่อนหน่ะ ผมรู้มาจากแจจุงว่า แจจุงหน่ะแอบชอบนักเรียนการบินคนหนึ่งอยู่ ว่าจะถามยูชอนอยู่แต่ลืมอ่ะ

    อ๋อ คุณก็เลยคิดว่าคนๆนั้นคือยุนโฮใช่ไหมยูชอนเอ่ยดักความคิดของร่างเล็ก

    ใช่ ก็ได้ยินไหมที่บอกว่า คนที่เดินชนแจจุงวันนั้นก็คือยุนโฮ แจจุงก็ยังบอกเลยว่าใช่

    จุนซู คุณกำลังคิดอะไรอยู่ใช่ไหม ร่างสูงแอบลอบสังเกตุรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จากตัวของคนรัก

    อิอิ ดูเค้าออกด้วยหรอ จุนซูยิ้มเขินๆ ขนาดหลบซ่อนรอยยิ้มแล้วนะ ทำไมยูชอนถึงยังเห็นได้อีก

    โธ่ เราคบกันมากี่ปีแล้ว ทำไมผมจะไม่รู้ ว่าแต่บอกผมได้ไหมอ่ะ

    ผมก็จะทำให้สองคนนี้รักกันให้ได้ แล้วคุณก็ต้องช่วยผมด้วย

    แล้วมันจะได้ผลหรอยูชอนแอบหนักใจ ก็ลูกศิษย์คนเก่งของเขามันขี้อายอย่างกับอะไรดี จะไปยุให้จีบน้องแจจุงมันจะได้ผลไหมหล่ะ

    มันก็ต้องได้สิ .... ในเมื่อสองคนนี้ต่างก็แอบชอบกันอยู่ เพียงแต่อายไม่กล้าพูด เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นตัวทำให้สองคนนี้สารภาพรักกันให้ได้

    งานเข้าแล้วไหมหล่ะ ..... ยูชอนเอ๋ย

    แล้วเราจะเริ่มกันเมื่อไหร่หล่ะร่างสูงคิดว่าต่อให้เขาปฏิเสธไปในตอนแรก เขาก็ต้องถูกบังคับมห้ร่วมขบวนการนี้อยู่ดี ..... สู้รับตั้งแต่แรกเลยน่าจะดีกว่านะ (-*-)

    อืม ..... เอาหูมานี่สิ ยูชอน ...... ซุบซิบๆๆๆๆๆ

    ................

    เป็นไงยูชอน ..... อึ้งกับแผนการขนาดนั้นเลยหรอ

    อึ้งสิ ..... ใครจะคิดว่าหล่ะว่าคุณจะมีแผนการล้ำลึกขนาดนี้อ่ะ ..... แต่ก็ดีเหมือนกัน ผมว่าถ้าแจจุงจะชอบยุนโฮจริงๆ ผมว่าคนนี้ยังไงก็ผ่านอยู่แล้ว ยุนโฮหน่ะเขาเป็นคนดี แล้วที่สำคัญนะ เวลาเขาทำอะไรนี่เขาจะดูจริงจังกับมันมากเลย ผมเชื่อว่าเขาจะดูแลแจจุงได้แน่

    อืม .... ผมก็คิดเหมือนกัน แจจุงหน่ะชอบทำอะไรเป็นเด็กๆ เจอคนที่บุคลิกเป็นผู้ใหญ่หน่อยก็ดี จะได้ดัดนิสัยไปด้วยเลย ^^ ”

    เจ้าวางแผนจริงๆนะ ..... นี่จุนซู ผมว่านะเรากลับไปคิดแผนกันต่อดีกว่า ชักจะสนุกแล้วสิร่างสูงบีบจมูกเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว ..... พลางวางมือรอบเอวเล็กพร้อมกับดึงร่างของจุนซูให้เดินตามเขามาเพื่อไปจ่ายเงิน ทั้งๆที่จุนซูยังอยากจะซื้อของกินไปตุนไว้ที่ห้องอยู่เลย  (-*-)

     

     

     

    <<< Paris Vacation >>>

     

     

     

    ตัดมาที่บรรยากาศมาคุภายในห้องพักของนักเรียนการบิน เพื่อนๆที่แวะเวียนเข้ามาในห้องนี้ต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าช่างเหมือนตำรวจ (ยุนโฮ) กำลังสอบสวนผู้ต้องหา (ฮยอกแจกับคยูฮยอน) คดีสังหารหมู่ยังไงอย่างนั้นเลย

     

    เฮ้อ นายสองคนไม่น่าทำอย่างนี้เลย ยุนโฮเอ่ยอย่างเหนื่อยใจ

    ทำไมว่ะ ดูคนสวยของแกเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรซักหน่อย คยูฮยอนเอ่ยขึ้นมาทันที ก็มันจริงนี่หน่า ..... ในเมื่อสิ่งที่เขาเห็น คนสวยของไอ้ยุนก็ไม่ได้รังเกียจอะไรสักหน่อย แอบเห็นคนสวยเขินด้วย คนบ้าอะไรว่ะ เขินได้น่าจับกดจริงๆ (ออกแนวหื่นเกินไปแหล่ะ)

    ไม่ได้รังเกียจหรอ แกเห็นสีหน้าเขาไหม นิ่งซะขนาดนั้นเขาคงรักฉันมากอ่ะ

    โธ่ไอ้ยุน คนสวยเขาก็ต้องมีฟอร์มกันบ้างดิ จะให้กระดี้กระด๊าดีใจที่มีคนมาจีบได้ไงหล่ะ แล้วก็นะพวกฉันอุตส่าห์กรุยทางให้แล้วทำไมไม่สานต่อว่ะ ฮยอกแจที่เข้าใจผู้หญิง (?) อย่างดีเอ่ยแก้แทนร่างบาง แต่ก็ยังไม่วายแอบพูดเรื่องที่ค้างคาใจจี๊ดไปด้วย

    เออ! ฉันมันผิดเอง แล้วแกจะให้ฉันทำไงว่ะ ให้เข้าไปจีบ ขอเบอร์เนี่ยนะ ใครมันจะไปกล้า

    ก็มีแต่แกเนี่ยแหล่ะที่ไม่กล้า ลองดูอย่างไอ้คิบอมดิ มันกล้าที่จะจีบพี่ดงแฮ ถึงแม้พี่เขาจะไม่เล่นด้วยก็เหอะ แต่มันก็ยังพยายาม แล้วแกหล่ะไอ้ยุน ชอบเขาแต่ไม่กล้าจีบแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่จะได้รู้จักกัน เป็นไงหล่ะไอ้ยุน เจอประโยคเด็ดของฮยอกเข้าไป ...... อึ้งเลยสิ ^^

    แต่ ....

    ไม่ต้องพูดเลย ฉันรู้ว่าแกจะพูดเรื่องอะไร ทั้งฉัน คยูแล้วก็แกยังไม่มีใครรู้ว่าคนสวยมีแฟนหรือยัง เพราะฉะนั้นนายก็ยังจีบเขาได้

    อีกอย่างนะโว้ยเพื่อน .... ถ้าขืนแกยังคิดอยู่แบบนี้ ระวังไว้เถอะคนสวยของแกจะโดนคนอื่นชิงไปก่อน

    ..... ก็ฉันนี่แหล่ะ ที่จะจีบคนสวย ถ้าแกยังช้าอยู่แบบนี้ ..... คยูฮยอนเก็นประโยคนี้ไว้ในใจ

    ก็แหม่ ..... คนสวยออกจะน่าจีบขนาดนี้ ผมเป็นผู้ชายก็อยากจีบบ้างนี่ครับ มันก็แค่อยากแหล่ะครับ ผมไม่หักหลังเพื่อนแบบนั้นหรอก ...... เชื่อใจผมได้ครับทุกๆคน ^^ (หรอ ????)

    เออ .... ฉันจะพยายามใจกล้าเข้าไปจีบเธอก็แล้วกัน แต่ฉันจะได้เจอเขาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้อ่ะตอนนี้ทั้งฮยอกแจและคยูฮยอนต่างก็ยิ้มให้กัน ...... ไอ้ยุนมันจะรุกคนสวยแล้วโว้ย !!!!!

    ไอ้เรื่องนั้นอ่ะนะไม่ต้องเป็นห่วงเลย ...... ในเมื่อคนสวยคนนั้นรู้จักกับพี่ยูชอน แถมอีกคนหนึ่งอ่ะ ที่ดูตัวเล็กๆ น่ารักๆหน่อยอ่ะ นั้นก็เป็นสจ๊วตของสายการบินโคเรียแอร์เลยนะโว้ย เพราะฉะนั้นฉันยังเชื่อว่าคนสวยจะต้องมาที่สนามบินนี้อีกแน่นอน

    เอาอย่างนี้ดีกว่าไอ้ยุน ..... ฉันว่านะ แกต้องเริ่มจากการฝึกความหน้าด้านและการจีบหญิงก่อนควมคิดแปลกๆแบบนี้ออกมาจากใครไม่ได้นอกจาก ...... ซีวอน นั้นเอง หลังจากนั่งเงียบฟังเพื่อนบ่นกันไปบ่นมา ก็เลยเกิดไปเดียพิลึกขึ้นมา ......

    ไอ้หน้าด้านนี้มันฝึกกันได้ด้วยหรอว่ะยุนโฮนึกขำกับคำพูดของเพื่อน .... มีอย่างที่ไหน ฝึกความหน้าด้าน

    มันก็ต้องได้ดิ .... ฉันยังฝึกให้ไอ้คิบอมมันหน้าด้านทำในสิ่งที่มันไม่อยากทำเพื่อพี่ดงแฮให้อยู่เลย

    ไอ้บ้า ..... อย่างนั้นเขาเรียนฝึกความหน้าด้านซะที่ไหนหล่ะร่างสูงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปกับความคิดพิลึกแบบนั้น

    เอาหน่า ..... เราต้องเริ่มจากให้แกไปจีบเพื่อนเราที่ยังไม่รู้แผนการ ..... เอาใครดีว่ะซีวอนพูดพลางมองบรรดาเพื่อนๆที่นั่งอยู่รอบๆ ..... ขาดแค่คิบอม กับ ชางมิน

    อ๊ะ !!!!!ไอ้ชางมินไงชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดของคยู เพราะชางมินกับคิบอมไม่ได้อยู่ในห้องนี้ แต่จะให้ไปจีบคิบอมก็กะไรอยู่ ..... รายนั้นหน่ะมีพี่ดงแฮอยู่แล้ว ก็เหลือแต่ชางมิน เหยื่อความคิดพิศดารของเพื่อนๆ

    เฮ้ย !!!! ชางมินเนี่ยนะอีก 3 เสียงที่เหลือช่วยกันประสานออกมาอย่างตกใจ

    เออ ไอ้นี้นี่แหล่ะ ถ้าแกสามารถทำให้ชางมินโอนอ่อนกับแกได้นะโว้ย คนสวยของแกก็ไปไหนไม่รอดหรอก

    ใครว่าฉันไม่รู้แผนการ

    อ้าว ..... มาตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะเนี่ยเจ้าตัวต้นความคิดหันหลังไปมองร่างสูงเพรียวของเพื่อนรัก

    ก็มาตั้งแต่พวกแกคิดอะไรแผลงๆให้ไอ้ยุนมันทำนั้นแหล่ะ ..... ฉันว่านะโว้ย .... มันไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าแกฝึกกับเจ้าตัวโว้ย ..... เพราะทุกสิ่งที่แกทำ มันจะส่งไปถึงเธอคนนั้นจริงๆแล้วแกก็จะรู้สึกดีกับสิ่งที่ได้ลงไป เพราะมันเป็นการทำเพื่อคนที่แกรักจริงๆ ไม่ใช่เพื่อฝึกความหน้าด่านของตัวเอง

    โอ้โห .... ขอคำนับท่าปรมาจารย์ชิม ชางมิน

    พอเลยไอ้ซีวอน ยุนโฮ ฉันว่านะ นายลองเข้าหาคนสวยผ่านทางพี่ยูชอนดูดิ บางทีเขาอาจจะช่วยอะไรเราได้นะ

    จะดีหรอว่ะชางมิน

    มันก็ต้องดีสิ อีกอย่างนะฉันรู้มาว่า พี่ยูชอนมีคนรักแล้วชื่อพี่จุนซู ที่เป็นสจ๊วตหน่ะ ฉันไปเห็นหน้ามาแล้ว ไม่ใช่คนสวยของแกแน่นอนพันเปอร์เซ็นต์

    เอาแล้วเว้ยไอ้ยุน ..... ทีเนี่ย แกพร้อมจะเริ่มรุกคนสวยหรือยังซีวอนยิ้มดีใจที่อย่างน้อยในตอนนี้เพื่อนเขาก็ยังไม่มีคู่แข็งที่น่ากลัวอะไร

    ก็ พร้อมแล้ว ..... มั้งเพื่อนๆแอบทำหน้าเซ็งไปเล็กน้อย ..... โว้ย !!!! ไอ้ตอนแรกก็ดีอยู่นะ แต่ทำไมต้องมีคำว่ามั้งต่อท้ายด้วยว่ะ ไอ้ยุ๊นนนนนนนนนนนนน

    โว้ย !!! ไอ้เพื่อนบ้า ...... พร้อมแบบมั่นใจหน่อยดิฮยอกแจไซโคเข้าไปเต็มหูของยุนโฮ

    เอ่อ .... พร้อมโว้ย !!!! ”

     

     

     

    <<< Paris Vacation >>>

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นที่ห้องเรียน วันนี้การเรียนก็ยังคงไม่มีอะไรมาก นอกจากการฝึกบินกับเครื่องบินจำลอง

    ยุนโฮเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า การฝึกที่จะเป็นนักบินที่ดีได้นั้น มันยากขนาดไหน

    ต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตต่างๆมากมาย ผ่านการกระโดดหอ ที่ตอนนั้นเขาจำได้ว่า ฮยอกแจเป็นคนเดียวที่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร เพียงเพราะมันกลัวความสูง ..... แต่ใครจะไปรู้ว่าฮยอกแจกลับขจัดความกลัวนั้นได้ เพียงเวลาไม่นาน เพื่อนสุดฮาของกลุ่มก็กระโดดหอได้อย่างสวยงาม ไหนจะเป็นการฝึกพละกำลัง ฝึกหนักซะจนเขาและเพื่อนๆคิดว่าถ้าไม่ได้เป็นนักบิน ไปเรียนพวกทหารก็น่าจะดีนะ (-*-)

     

    เหลืออีกเพียงสองวันเขาและเพื่อนๆก็จะจบหลักสูตรการเป็นนักบินแล้ว

    แต่มันยังเหลืออีกเรื่องที่ทำให้หนุ่มๆต้องปวดหัว ..... นั้นก็คือการสอบบรรจุเป็นนักบิน

    ความฝันจะเป็นจริงได้หรือไม่ ..... ก็อยู่ที่การสอบครั้งนี้

     

    ยุนโฮ ..... เดี๋ยวตามพี่ไปที่ห้องพักครูด้วยนะ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย

    ครับ

     

    พี่ยูชอนมีอะไรหรอครับเมื่อเห็นว่ายูชอนเก็บเอกสารในการสอนเรียบร้อยแล้ว ยุนโฮก็เอ่ยถามทันที

    พี่จะถามเราเรื่องแจจุง

    แจจุง ????ร่างสูงมีสีหน้างงเล็กน้อย ..... ก็เขาไม่คุ้นชื่อของแจจุงเลย

    ไม่ต้องงงหรอกยุนโฮ ...... แจจุงก็คือคนที่เราเจอเมื่อวานนั้นแหละร่างเพรียวจัดการแก้ความไม่เข้าใจของยุนโฮทันที

    อ๋อ ...... มีอะไรหรอครับ

    พี่จะไม่อ้อมค้อมหล่ะนะ ....... พี่อยากรู้ว่าเราคิดยังไงกับแจจุง

    เอ่อ ...... คือเล่มเจอคำถามตรงๆแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน

    เรารักแจจุงหรือเปล่า ..... ตอบพี่มาคำเดียว รักหรือไม่รัก ยูชอนเริ่มรุกอีกครั้ง เมื่อยุนโฮไม่ยอมตอบอะไรสักที

    อะ .... เอ่อ .... รักครับ รักมากด้วยยูชอนแทบจะเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ ดีใจที่ได้ยินคำนี้จากปากของยุนโฮเองไม่ใช่จากบรรดาเพื่อนๆผู้หวังดี และที่สำคัญคือ ดีใจที่กดอัดเสียงคำสารภาพรักของยุนโฮได้ทันพอดี

    เดี๋ยวกลับหอจะได้เอาไปให้จุนซู ...... ^^

    อืม .... ดีมากยุนโฮ เป็นลูกผู้ชาย ต้องกล้าพูดแบบนี้

    แหะๆ ความจริงผมก็ไม่ได้กล้าอะไรขนาดนั้นหรอกครับยุนโฮเอ่ยพลางเกาท้ายทอยแก้เขินไปด้วย

    แต่อย่างน้อยวันนี้เราก็กล้าที่จะพูดแล้วหล่ะ พี่ดีใจนะที่เราแอบชอบแจจุงร่างเพรียวเอ่ยอย่างดีใจ จนร่างสูงแอบแปลกใจไม่ได้

    ทำไมหล่ะครับ ปกติมีแต่คนเขาจะมองว่าผมแปลกหน่ะสิที่ชอบผู้ชาย

    มันไม่แปลกหรอก เพราะพี่ก็มีคนรักเป็นผู้ชาย แต่ที่พี่บอกว่าดีใจนั้นหน่ะ เป็นเพราะว่าอย่างน้อยพี่ก็พอจะรู้จักแจจุงอยู่บ้าง เขาก็ไม่ใช่คนที่นิสัยไม่ดี ออกจะน่ารักเสียด้วยซ้ำ มันย่อมดีกว่าเราไปได้ผู้หญิงที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมอ่ะนะ ยังไงพี่ก็จะเอาใจช่วยก็แล้วกัน นี่จะบอกอะไรอย่างนะ รีบๆทำคะแนนหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวจะโดนคนอื่นชิงจีบตัดหน้าไปก่อน

    ก็ ..... ได้ฮะ แล้วผมจะพยายามครับ หลังจากนั้นทั้งสองหนุ่มก็คุยกันต่ออีกสักพักในเรื่องของการสอบที่กำลังจะมีขึ้นนั้น ยุนโฮก็ขอตัวกลับหอทันที เพราะตอนนี้เขามีเรื่องให้ต้องคิดเพิ่มมาอีกหนึ่งเรื่องแล้ว ......

    เรื่องของแจจุงนั้นเอง

    ถึงแม้ตอนนี้เขาจะพูดได้เต็มปากเต็มคำกับพี่ยูชอนแล้วก็ตามว่าเขารักร่างบางมากแค่ไหน

    แต่ตัวของแจจุงเองหล่ะ จะรักเขาหรือเปล่า

    แม้จะมีแต่คนบอกว่าแจจุงนั้นยังไม่มีใคร ...... แต่เขาก็กลัวว่าถ้าเขาทุ่มเทความรักที่มีทั้งหมดให้แจจุงไป แน่นอนว่าเขาย่อมมีความสุข สุขที่ได้ทำเพื่อคนที่รัก

    แต่แจจุงหล่ะ ..... ในใจแจจุงอาจจะมีใครคนอื่นอยู่แล้วก็ได้

    เขากลัวที่จะต้องเจ็บกับความรัก ..... ความรักที่มันพังตั้งแต่ที่เขายังไม่ได้เริ่มอะไรเลยด้วยซ้ำ

     

    มันเป็นเรื่องราวเมื่อตอนที่เขาเพิ่งขึ้นไฮสคูล เขาแอบรักผู้หญิงคนหนึ่งที่ทั้งเก่ง และ น่ารัก

    แน่นอนว่าเธอคนนั้นย่อมที่จะมีผู้ชายมารุมล้อม และตามจีบเธออยู่มากมาย

    แต่เขาก็ดันปอด ..... ไม่กล้าที่เข้าไปสารภาพรัก ทั้งๆที่เธอกับเขาก็สนิทกันมาก มากซะจนใครหลายๆคนคิดว่า ชอง ยุนโฮ คนนี้จีบดาวเด่นของโรงเรียนได้สำเร็จ

     

    จนกระทั้งถึงวันวาเลนไทน์ในปีเดียวกัน เขาพยายามรวบรวมความกล้าที่ไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่

    เดินไปหาเธอเพิ่งบอกความใจ

    จะว่าไปวันนั้นก็เป็นวันที่ชอง ยุนโฮ ดูมีความสุขที่สุด เขารีบตื่นแต่เช้าไปร้านดอกไม้เพื่อซื้อดอกกุหลาบสีแดงช่อขนาดพอเหมาะไปให้เธอผู้เป็นที่รัก

     

    แต่ในขณะที่เขากำลังจะเดินไปที่ห้องเพื่อเอาดอกไม้ไปให้ เขาก็เจอหญิงสาวยืนคุยอยู่กับหนุ่มหล่อคนหนึ่งที่เขาจำได้ว่าเป็นรุ่นพี่ ซ้ำยังเป็นประธานนักเรียนอีก

    ในมือของหนุ่มรุ่นพี่ ถือช่อดอกกุหลาบสีแดงเหมือนของเขา

    ทันทีที่ชายหนุ่มสารภาพรัก สาวสวยก็ตอบตกลงทันที ...... มันอาจจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สาวคนเก่งจะได้ยืนอยู่เคียงข้างชายหนุ่มที่พร้อมไปซะทุกอย่าง ...... แต่สำหรับยุนโฮแล้ว

    มันคงเป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีเลย ...... ดอกกุหลาบช่อเล็กที่เขาซื้อมาก็ถูกทิ้งอย่างไม่ใยดีลงในถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ

    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขามักจะเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจแบบนี้เป็นประจำ

    กลัวว่าถ้าเกิดเขารักใครขึ้นมาจริงๆ ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยแบบเดิมไหม

     

    แจจุง .... ผมรักคุณนะ แต่ผมกลัวเหลือเกิน กลัวว่าเรื่องแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นอีก ผมไม่สามารถมั่นใจอะไรได้อีกแล้ว ถ้ามันจะเกิดขึ้นอีก ผมคงได้กลายเป็นคนไร้หัวใจเข้าสักวัน

     

     

     

    <<< Paris Vacation >>>

     

     

     

    นี่ยูชอน ..... เป็นไงบ้างได้เรื่องไหมจุนซูที่วันนี้ไม่มีบินที่ไหน ได้แต่นั่งรอคนรักไปปฏิบัติภารกิจเชื่อมความรักให้ยุนฮกับแจจุง ก็รีบเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นที่เห็นร่างเพรียวเกลับมาแล้ว

    ได้สิ ..... ยุนโฮยอมรับมาแล้วว่ารักแจจุง นี่ๆผมอัดเสียงมาด้วยนะยูชอนเอ่ยอย่างมีความสุข ตลอดการเดินกลับมาที่หอ เขารู้สึกได้เลยว่าตัวเองหุบยิ้มไม่ได้เลย

    อ๊ายยยย เยี่ยมมากเลยยูชอน ขอฟังหน่อยสิ

    นี่ .... ก่อนฟังผมขอรางวัลหน่อยสิร่างงเพรียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ และดูท่าร่างเล็กจะจับได้ซะด้วย

    จะขออะไรหล่ะ

    ก็ขอจุ๊บๆ แล้วกันนะ

    ฮึ่ย .... ลามกไม่เลิกเลยนะถึงปากจะด่า แต่ตัวของร่างเล็กนั้นก็เดินเข้าไปใกล้ยูชอนมากขึ้นเรื่อยๆ

    ยูชอนไม่รอช้ารีบคว้าเอวบางเข้าประชิดร่างของตัวเองทันที พร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่ค่อยๆโน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานของร่างเล็กที่เงยขึ้นรอรับสัมผัสหวานอยู่แล้ว

    ปากหยักของร่างสูงค่อยๆละเลียดริมฝีปากบางของจุนซูอย่างช้าๆ กดเน้นย้ำในทุกการสัมผัสเพื่อบอกว่าเขารักร่างเล็กนี่มากแค่ไหน เรียวลิ้นของยูชอนค่อยๆแทรกผ่านริมฝีปากบางเพื่อเข้าไปค้นหาความหวานในโพรงปากเล็ก

    ลิ้นเล็กของจุนซูก็ทำหน้าที่ได้ไม่น้อยหน้าร่างสูง ลิ้นของทั้งสองเกี่ยวกะหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร

    ช่างเป็นจูบที่หวานล้ำในตอนแรก ..... และแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนในท้าย

    แต่สุดท้ายแล้วคนที่ทนไม่ไหวก่อนก็เป็นจุนซูเอง กำปั้นเล็กๆทุบบริเวณอกแกร่งอย่างรุนแรง เขาใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว ถ้ายูชอนไม่หยุดจูบเขา

    แฮก ..... แฮก ..... แฮก พอริมฝีปากเล็กได้เป็นอิสระจุนซูก็ยืนหอบหน้าแดง เอาอากาศเข้าสู่ปอดให้ได้มากที่สุด

    อะไรกันครับจุนซู แค่นี้ก็เหนื่อยแล้วหรอครับยูชอนเอ่นแซวคนรักที่ตอนนี้ไม่ใช่แค่ริมฝีปากเท่านั้นที่แดงจากการจูบ แต่รวมถึงใบหน้าน่ารักๆนี่ด้วย

    บ้า !!!! ใครมันจะไปจูบมาราธอนได้อย่างคุณกันเล่า ...... ได้รางวัลไปแล้วทีเนี่ยจะให้ผมฟังได้หรือยัง

    โอเคครับ ..... งั้นมาฟังกันเลยว่าแล้วร่างสูงก็เดินไปหยิบลำโพงขนาดเล็กที่ใช้กับคอมฯเอามาต่อเข้ากับเครื่องไอพอด

    เอาหล่ะฟังดีๆนะครับจุนซู เมื่อเห็นร่างเล็กพยักหน้า ยูชอนก็กดหาไฟล์ที่เป็นอัดเสียงแล้วกดเพลย์ทันที

     

    พี่จะถามเราเรื่องแจจุง

    แจจุง ????

    ไม่ต้องงงหรอกยุนโฮ ...... แจจุงก็คือคนที่เราเจอเมื่อวานนั้นแหละ

    อ๋อ ...... มีอะไรหรอครับ

    พี่จะไม่อ้อมค้อมหล่ะนะ ....... พี่อยากรู้ว่าเราคิดยังไงกับแจจุง

    เอ่อ ...... คือ

    เรารักแจจุงหรือเปล่า ..... ตอบพี่มาคำเดียว รักหรือไม่รัก

    อะ .... เอ่อ .... รักครับ รักมากด้วย

     

    ว้าว ..... เยี่ยมไปเลยยูชอน ..... ผมขอเอาไปเปิดให้แจจุงได้ไหมฮะแม้มันจะไม่ใช่คำบอกรักที่หวานซึ้งอะไร แต่จุนซูก็ดีใจที่ยุนโฮเอ่ยคำว่ารักออกมาแล้ว เขาอยากให้แจจุงได้ยินคำๆนี้จัง

    อืม ..... ตอนแรกผมก็คิดอย่างคุณนะ แต่พอมาคิดอีกที ผมอยากให้แจจุงได้ยินคำว่ารักจากปากของยุนโฮเอง ไม่ใช่จากเครื่องอัดเสียงแบบนี้

    โอเคฮะ ...... ทีเนี่ยแผนแรกสำเร็จแล้ว ..... งั้นวันพรุ่งนี้เราเริ่มแผนสองเลยดีไหมฮะจุนซูเอ่ยอย่างคึกคัก

    ดีๆ งั้นคุณลองไปคุยกับแจจุงดูนะ ส่วนผมจะลองถามยุนโฮดู

    ได้เลยฮะ ......

     

     

     

    <<< Paris Vacation >>>

     

     

     

    เอ่อคุณครับ ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับที่เสียมารยาทกับคุณ คือจริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่เพื่อนผมมันพูดหรอกนะครับ

    เฮ้อ .....เสียงถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ถูกเอ่ยออกมาจากปากของร่างบาง ที่ตอนนี้กำลังทำงานพาร์ทไทมอยู่ที่ร้อานอาหารจีนแห่งหนึ่งแถวที่พักของตัวเอง

    เป็นไรไปหน่ะพี่แจจุง ...... ผมเห็นพี่ถอนหายใจแบบนี้มาร้อยครั้งได้แล้วมั้งฮะซองมิน หนุ่มน้อยน่ารัก

    ทั้งเขาและซองมินจะสนิทกันมากเพราะเข้ามาเป็นเด็กเสริฟในเวลาที่ใกล้เคียงกัน และคงเป็นเพราะความน่ารัก ใสๆ ของซองมิน ทำให้ทั้งคู่ดูเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ ต่างคอยห่วงใยกันและกันตลอด รวมถึงตอนนี้ด้วย

    ไม่มีอะไรหรอกซองมิน

    พวกผมไม่เชื่อหรอก .... พี่แจจุงต้องมีอะไรอยู่ในใจแน่ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ใจลอยอย่างนี้หรอกรยออุคเอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อ เขาสังเกตได้ตั้งแต่ที่พี่แจจุงเข้ามาทำงานแล้ว วันนี้พี่แจจุงดูไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน

    ใช่ๆ แจจุงมีเรื่องอะไรไม่สบายใจบอกพวกเราได้นะ อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนกันเยซองเอ่ย แม้เขาจะรู้สึกไม่ค่อยดีกับคำว่าเพื่อนสักเท่าไหร่

    ขอบคุณนะเยซอง รยออุคด้วย แต่มันไม่มีอะไรจริงๆ กลับไปทำงานเถอะ เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาได้ร่างบางทำตัวให้ดูสดชื่นขึ้น ...... นี่เขามัวแต่มานั่งคิดเรื่องยุนโฮอยู่ทำไมก็ไม่รู้

    แต่ไม่ว่าแจจุงจะพยายามทำตัวให้ยุ่งเท่าไหร่ เรื่องของยุนโฮก็ยังเข้ามาวนเวียนในสมองของเขาอยู่ตลอด

    ทั้งคำพูดและท่าทางที่รู้สึกผิดกับคำพูดของเพื่อนตัวเองที่ดูเหมือนจะไม่อยากให้เขาคิดอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ กลับยิ่งทำให้เขาคิดมากมากกว่าเดิม ..... ยิ่งคิดถึง ยิ่งอยากให้ยุนโฮรักเขา เหมือนที่เขารัก แต่มันคงเป็นไปไม่ได้

     

    ยุนโฮไม่ได้รักเรา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพียงแค่เรื่องที่เราคิดเอง เออเองเท่านั้นใช่ไหม

    เพียงแค่คิดน้ำตาที่ปริ่มอยู่แล้วก็ไหลอาบแก้มใสทันที

     

    พี่แจจุง !!!!! พี่ร้องไห้ทำไม รยออุคที่เห็นว่ารุ่นพี่คนสวยอยู่ๆก็เงียบไป ตั้งใจจะหันไปชวนคุย กลับเห็นพี่แจจุงน้ำตาไหลอาบหน้าแทน

    ปะ .... เปล่า ไม่มีอะไรหรอก แจจุงยังคงเอ่ยปฏิเสธทั้งๆที่หลักฐานมันฟ้องออกมาซะขนาดนั้น ก็ไอ้เรื่องที่ทำให้เขาต้องมาเสียน้ำตาแบบนี้มันน่าป่าวประกาศไหมหล่ะ

    ยังจะบอกว่าไม่มีอะไรอีกหรอแจจุง ร้องไห้ซะขนาดนี้

    ขอโทษนะเยซอง ฉันแค่ไม่อยากให้ใครต้องมากังวลเรื่องของฉันหน่ะ

    แต่ฉันเป็นห่วงนายนะแจจุง เห็นนายเป็นแบบนี้ฉันยิ่งกังวล มีใครทำอะไรนายหรือเปล่า บอกฉันมาสิ ฉันจะไปจัดการมันเองน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเป็นห่วงเกินกว่าเพื่อนร่วมงานแบบนี้ทำให้ร่างบางรู้สึกเสียใจ

    เสียใจที่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานคนนี้คิดยังไงกับเขา แต่เขาก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกนั้นได้

    ฉันขอโทษนะเยซอง คำขอโทษถูกเอ่ยออกมาจากปากของร่างบางอีกครั้ง แต่มันกลับทำให้อารมณ์ของเยซองเดือดขึ้นมาอีก จนเขาต้องตรงเข้าไปดึงข้อมือของแจจุงให้ออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง แม้จะมีเสียงร้องห้ามเท่าไหร่ แต่เยซองก็ติดที่จะฟัง .....

    เขาเดินนำแจจุงออกมายังบริเวณลานจอดรถของร้านอาหารที่ทั้งคู่ทำงานด้วยกัน

    แจจุง ...... ฉันอยากให้นายเปลี่ยนจากคำขอโทษมาเป็นการตอบรับความรู้สึกของฉันจะได้ไหม จากอาการฮึดฮัดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นการอ้อนวอนแทน

    เยอซอง ....

    ทำไมหรอแจจุง ทั้งๆที่ฉันก็ทำเพื่อนายมาตลอด แต่ทำไมฉันถึงยังไม่ได้รับความรักจากนายสักที

    เยซอง ฉันคิดกับนายมากกว่าเพื่อนไม่ได้จริงๆ ฉัน .... มีคนรักอยู่แล้วแจจุงจำเป็นต้องโกหกเพื่อนร่างสูงไป เพื่อที่จะได้ตัดใจจากเขาสักที

    มีคนรักอยู่แล้วหรอ? ”

    เยซอง .... ทำไมนายไม่ลองมองดูคนใกล้ๆตัวหล่ะ .... บางทีนายอาจจะเจอคนที่เขารักนายได้มากกว่าฉันนะร่างบางเอ่ยเป็นปริศนาให้เพื่อนไปหาคำตอบเอาเอง แล้วเดินออกจากลานจอดรถเข้าไปทำงานต่อ

    รยออุค ..... พี่จะพยายามช่วยนายให้ได้นะ ^^ ’

     

    ส่วนทางด้านเยซอง แม้ร่างของแจจุงจะกลับเข้าไปทำงานอีกครั้งแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม พลางคิดถึงเรื่องที่แจจุงบอก

    แจจุง ..... ต่อให้นายยัดเยียดใครเข้ามา ฉันก็ไม่สนหรอก เพราะฉันรักนายคนเดียว ฉันจะทำให้นายรักฉันให้ได้

     

    TBC

    TALK ::: สวัสดีค่ะ .... เราชื่อ จาร์ นะค่ะ อายุ 19 ปีแล้วค่ะ จะเรียกพี่ เรียกน้อง หรือจะเรียกชื่อเฉยๆก็ได้ค่ะ ตามสบายเลย
    แอบจำไม่ได้ว่าเคยแนะนำตัวเองไปแล้วหรือยัง ..... ถ้ายังก็ถือโอกาสนี้แนะนำตัวเลยแล้วกันนะค่ะ ^^
    จริงๆตอน 3rd Trip นี้แต่งเสร็จนานแล้วอ่ะค่ะ แต่ที่เพิ่งเอามาลงช้าก็เพราะกำลังนั่งคิดพล็อตของตอนต่อไปอยู่
    แอบมึนเล็กน้อยแล้วอ่ะค่ะ มันมีเนื้อเรื่องอยู่ในหัวแล้งนะค่ะ แต่มันไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง ให้มันสละสลวยอ่ะค่ะ
    บวกกับงานที่คณะก็มีให้ทำอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน ถ้าตอนหน้าจะมาต่อช้าก็คงไม่ว่ากันนะค่ะ
    จะพยายามมาต่อให้เร็วที่สุดค่ะ

    สุดท้ายนี้ก็คงต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะค่ะ ขอบคุณจริงๆค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×