ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : >
แม้ว่าในตอนนี้ทั้งแจจุงและจุนซูจะเดินออกมาอยู่ที่หน้าสนามบินแล้วก็ตามแต่ในใจของร่างบางกลับลอยตามร่างสูงสุดหล่อคนนั้นไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ....
และอาการเหม่อลอยบวกกับใบหน้าสวยหวานที่อยู่ๆก็แดงขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในสนามบินก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของจุนซูไปได้
“ แจจุง ..... ไม่สบายหรือเปล่า หน้าแดงมากเลย ” ร่างเล็กเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แต่ในใจเขากลับคิดไปอีกแบบ .... หน้าแดงแบบนี้คงไม่ใช่เพราะไม่สบายหรอก
“ อ่ะ !!! เปล่าฮะ .... ผมไม่ได้เป็นอะไร ”
“ แน่ใจนะ ???? ”
“ เอ่อ .... คือ .... คือว่า .... ” ร่างบางพยายามจะพูดแต่มันติดอยู่ที่ว่า .... มันเขินอ่ะ ^///^
“ นี่ .... เราจะคือๆเอ่อๆอีกนานไหมห่ะ !!!! ” จุนซูกลั้นขำกับท่าทางของแจจุง ...... อะไรจะเขินได้มากขนาดนี้นะ
“ ง่ะ .... พี่จุนซูอ่ะ ..... คือ ผมอยากถามว่า พี่พอจะรู้จักพวกนักเรียนการบินบ้างไหมฮะ ” พูดออกไปแล้วอ่ะ .... พี่จุนซูจะว่าอะไรเราไหมนะ ที่เราถามถึงผู้ชายแบบนี้อ่ะ (โอ้ววววว แจจ๋า อะไรจะเป็นกุลสตรีป่านนั้น)
“ นักเรียนการบินหรอ ??? พี่ไม่รู้จักหรอก นั้นมันเป็นเรื่องของพวกนักบินเขา ถามทำไมหรอ ? ”
“ อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกฮะ พอดีเมื่อกี้ผมเห็นพวกเขาเดินผ่านไปหน่ะฮะ เลยอยากรู้ว่าพี่รู้จักบ้างไหม ”
“ เอ่ะ ๆๆ หน้าแดงๆแบบนี้ไม่มีอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ บอกพี่มาดีๆนะว่าแอบไปชอบนักเรียนคนไหนห่ะ ” จุนซูที่สังเกตเห็นใบหน้าหวานๆเรื่อสีขึ้นจึงเอ่ยแซว ..... แล้วดูท่าจะเป็นอย่างที่พูจริงๆซะด้วยนะ ก็แจจุงอ่ะหน้ายิ่ง
แดงกว่าเดิมหลายเท่าเลย ^^
“ ปะ ..... เปล่านะฮะ ผมแค่ถามดูเฉยๆ ”
“ 55+ เอาเถอะแล้วพี่จะลองไปถามยูชอนให้นะ จะลองดูสิว่านักเรียนการบินคนไหน ทำให้น้องที่น่ารักของพี่คนนี้หลงรักได้มากขนาดนี้ ”
“ พี่จุนซูอ่ะ !!!! บอกว่าไม่ใช่ไงฮะ ยังจะมาล้ออีก งอนแล้วนะ ... ฮึ !!!! ” ร่างบางพองลมที่แก้มใสซะป่องจนจุนซูต้องเข้าไปหยิกด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ โอ๋ .... อย่างอนสิจ๊ะ .... พี่ขอโทษนะ ไม่ล้อแล้ว ”
การงอนง้อของพี่น้องคู่นี้ดูจะตกอยู่ในสายตาของนักท่องเที่ยวที่อยู่ ณ สนามบินแห่งบินแห่งนี้แทบจะทุกคู่เลยก็ว่าได้
บ้างก็มองว่าพี่น้องคู่นี้ดูจะรักกันดีจัง .... คนหนึ่งน่ารักอีกคนก็สวย อะไรจะเพอร์เฟคปานนั้น
บ้างก็มองในทางตรงกันข้าม ..... แอบคิดว่าสองคนนี้เป็นคนรักกัน แต่ก็นะ ไม่รู้มองกันยังไง ก็สองคนนี้หน่ะเป็นฝ่ายรุกไม่ได้หรอก ..... ( แต่ได้ข่าวว่ายุนโฮก็มีความคิดแบบนี้นะ -*- )
และดูเหมือนสองคนนี้จะไม่ค่อยแคร์สายตาประชาชีเท่าไหร่ เล่นกอดกันกลม งอนกันไปงอนกันมาอยู่หน้าทางเข้าสนามบินแบบนี้ แต่ฉากรักแบบน่ารักๆก็ต้องจบลงเมื่อมีแท็กซี่คันหนึ่งวิ่งเข้ามารับร่างบางออกจากสนามบิน
“ พี่จุนซู .... ไว้ผมสอบเสร็จแล้วจะโทรมาอีกทีนะฮะ ” ร่างบางที่เข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วกลับเปิดกระจกมาคุยกับจุนซูอีกครั้งเมื่อนึกเรื่องสำคัญอย่างนึงได้
“ อืม .... ตั้งใจสอบหล่ะ ส่วนเรื่องนักเรียนการบินไม่ต้องห่วงนะ พี่จะไปสืบมาให้ ” สุดท้ายก็ยังไม่เลิก แอบล้อร่างบางก่อนกลับบ้านไปหนึ่งที
“ พี่อ่ะ !!! ไม่คุยด้วยแล้ว กลับหล่ะนะฮะ ” แจจุงส่งยิ้มแล้วโบกมือกลับไปให้ร่างเล็กที่โบกมือมาให้
พอแท็กซี่คันนั้นห่างออกไปจากบริเวณหน้าสนามบิน จุนซูก็รีบเดินกลับไปที่ห้องทำงานทันที .....
แต่เรื่องราวของรุ่นน้องสุดรักก็ยังคงอยู่ในหัวของเขา ใจอยากจะไปหายูชอนซะตอนนี้ ก็มันติดอยู่ที่ว่าได้เวลาที่ร่างสูงต้องไปสอนแล้ว
ถ้าไปหาตอนนี้ก็เกรงว่าจะไปรบกวนเวลาสอน
‘ กลับไปที่หอแล้วค่อยถามหล่ะกัน ..... อยากรู้จัง ใครกันนะที่ทำให้แจจุงเขินอายได้แบบนั้น ’
<<< Paris Vacation >>>
จากการวิ่งมาราธอนของหนุ่มๆเมื่อไม่นานมานี้มันก็ส่งผลมาว่า ..... แม้พวกเขาจะวิ่งเร็วแบบไม่คิดชีวิตแต่มันก็ทำให้พวกเขามาเข้าห้องเรียนไม่ทันตามเวลา .... เลทไป 2 นาที เป็นเหตุให้พวกเขาตกอยู่สถานการณ์มาคุแบบนี้
“ ไหนพวกนายบอกมาสิ ว่าทำไมถึงมาสาย ” เสียงเข้ม มีอำนาจดังออกมาจากนักบินคนเก่งนามว่า ฮันกยอง
ใครๆก็รู้ว่าฮันกยองนั้นไม่ชอบคนมาสาย .... เพราะนั้นหมายถึงการไม่รับผิดชอบ
“ เอ่อ .... คือ มันเป็นความผิดของผมเองครับ พี่ฮันกยอง ”
“ นายหรอ ? ยุนโฮ ” ยูชอนเอ่ยแบบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน .... คนตรงเวลาอย่างยุนโฮเนี่ยนะ จะเป็นต้นเหตุให้เพื่อนๆทุกคนมาสาย
“ ครับ .... คือพอดีว่าตอนที่กำลังจะมาเรียนผมเกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยหน่ะครับ เลยทำให้เพื่อนๆมาสาย ” ยุนโฮเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหน้าเริ่มร้อนขึ้นมานิดหน่อยแล้ว ....
นี่ดูท่าเขาจะเป็นเอามากเหมือนกันนะ แค่นึกถึงหน้าสวยๆของคนๆนั้นเขาก็เขินแบบนี้ซะแล้ว แล้วถ้าเกิดเขาเจอร่างบางคนนั้นอีกเขาจะเป็นยังไงนะ .... สงสัยคงไม่ใช่แค่หน้าซะหล่ะมั้งที่แดง คงจะแดงไปทั้งตัวแน่ๆ
“ ยุนโฮ นายรู้ไหมว่า ถ้าเป็นในเวลางานจริงๆการเสียเวลาแค่ไม่กี่นาทีแบบนี้ มันจะส่งใหญ่ต่อสายการบินเรามากแค่ไหน ” ยุนโฮก้มหน้าสำนึกผิด ... ตอนนี้เขารู้สึกแย่อย่างมากที่สุด เขารู้สึกได้ว่า รุ่นพี่ฮันกยองไม่เพียงแค่ต่อว่าเขาเท่านั้น
แต่มันรวมไปถึงครูฝึกของเขาด้วย เขาเห็นสายตาของฮันกยองมองไปที่ยูชอนแบบตำนิว่าไม่เคยสั่งสอนลูกศิษย์หรือไงถึงได้เป็นแบบนี้ .... นี่เขาทำให้พี่ยูชอนเดือดร้อนด้วยใช่ไหมป็นครั้งสุดท้ายที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ เอาหน่า ..... ฮัน ยุนโฮเขาก็ยังเป็นนักเรียนฝึกหัด ยังต้องมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก กับไอ้แค่เรื่องมาสายนิดๆหน่อยๆนายก็ไม่น่าจะไปดุอะไรให้มากแบบนี้เลยนะ .... ฉันเชื่อว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ” ฮีชอลเอ่ยขัดเพื่อนรักที่ดูท่าจะโกรธมากจนเกินความจำเป็น
“ โอเค ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกนะ ฉันจะไม่เอาผิดอะไรทั้งนั้น แต่ถ้ามีครั้งสองเมื่อไหร่ คงไม่มีการให้อภัยแบบนี้อีก กฎก็ต้องเป็นกฎ .... แยกย้ายกันไปเรียนได้ ”
ตอนนี้ทั้งครูและนักเรียนต่างก็แยกย้ายกันไปตามห้องเรียน เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะช่วยทำให้สถารณการณ์ตึงเครียดค่อยๆหายไป
“ พี่ยูชอนฮะ ..... ผมขอโทษ ”
“ เฮ้ย !!! มาขอโทษพี่ทำไมหล่ะ ” แปลกใจ ...... คงเป็นคำเดียวที่บอกความรู้สึกของยูชอนได้ดีที่สุดในตอนนี้ ก็ลูกศิษย์ของเขาคนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาต้องมายกโทษให้ซะหน่อย
“ ก็ .... ผมทำให้พี่ต้องถูกตำหนิไปด้วย .... ทั้งๆที่พี่ก็คอยบอกผมมาตลอดว่าให้ตรงต่อเวลา ”
“ นึกว่าเรื่องอะไร นั้นหน่ะช่างมันเถอะ .... นี้มันเป็นครั้งแรก เท่าที่เห็นตลอดเวลาที่ผ่านมานายไม่เคยมาสาย แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เป็นอุบัติเหตุ ฮันกยองเขาก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ยึดกฎเป็นหลักเสมอ ”
“ หรอฮะ ”
“ อืม .... เอาหล่ะ มาเข้าเรื่องเรียนต่อดีกว่า ..... วันนี้เราจะได้ลองขับเครื่องบินจำลองแล้วนะ ”
“ จริงหรอครับ ” ยุนโฮเอ่ยอย่างดีใจ .... ในที่สุดเขาก็ได้ลองนั่งขับเครื่องบินแล้ว แม้มันจะเป็นแค่เครื่องบินจำลอง แต่มันก็เป็นความฝันของเขา
ยูชอนที่เห็นปฏิกิริยาของลูกศิษย์คนนี้แล้วก็อดแอบยิ้มไม่ได้ ..... ยุนโฮช่างเหมือนกับเขาในตอนที่มาฝึกเป็นนักบินทุกอย่างเลย
“ ช่าย .... แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปที่ห้องจำลองนั้น ..... เรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่าแผงควบคุมมันมีอะไรบ้าง ”
แล้วภาพของแผงควบคุมบนเครื่องบินก็ปรากฏขึ้นบนจอ ยูชอนก็ค่อยๆอธิบายไปทีละส่วน รวมถึงการใช้งานว่าปุ่มไหนควรใช้ในเวลาไหน
“ ส่วนเจ้านี้นะ มันคือ Head set เขาเอาไว้ใช้เวลาสื่อสารกันระหว่างนักบินกับหอกำกับการ เขาจะคอยรายงานเราถึงสภาพอากาศ หรือว่าจุดหมายปลายทางของเรานั้นอยู่ในเส้นทางที่เท่าไหร่ พิกัดไหน เพราะฉะนั้น ต้องไปจำพวกพิกัดต่างๆมาให้ดี ”
“ อ๋อ ... ครับ ”
“ มีอะไรจะถามไหมยุนโฮ ”
“ ไม่มีครับ ”
“ เอาหล่ะ .... ลองเข้าไปลองขับดูดีไหม ” ยุนโฮไม่ได้เอ่ยตอบเป็นคำพูด แต่แค่เห็นสีหน้าดีใจแบบนี้ ยูชอนก็รู้แล้วว่าลูกศิษย์คนเก่งคนนี้อยากเข้าไปใจจะขาดอยู่แล้ว
จากการลองขับเครื่องในวันแรกแบบนี้ มันทำให้ยุนโฮรู้ว่า การขับเครื่องบินนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากขนาดไหน ขนาดว่าเรื่องแผงควบคุมที่เขาท่องจำอยู่ทุกวันว่าอันไหนใช้ทำอะไร พอมาวันจริงแบบนี้เขากลับลืมได้ยังไงก็ไม่รู้
“ เอาหน่า .... วันนี้มันแค่วันแรกนะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยลองขับดูใหม่ก็ไม่เสียหายนี่ ”
นี่คือเสียปลอบใจจากครูฝึกมาดนิ่ง .... แล้วยุนโฮก็ให้สัญญาว่าวันพรุ่งนี้เขาจะตั้งใจในการฝึกให้มากกว่านี้
- บริเวณหน้าห้องเรียน -
“ เฮ้ย !!! ไอ้ซีวอน นี่แกจะเอาจริงหรอว่ะ ”
“ ก็จริงซิว่ะ .... ถามอะไรโง่ๆ แล้วก็นะ แกต้องช่วยฉันจีบพี่ฮีชอลด้วยเข้าใจไหม ”
“ โอ้ย !!! อะไรของนายเนี่ย ..... ทำไมฉันต้องช่วยนายด้วย เสียเวลาฉันจีบพี่ดงแฮหมด ” คิบอมโวยวายขึ้นทันที ก็แหม่ถ้าเขาต้องมาช่วยซีวอนเพื่อนรักตามจีบครูฝึกของเขาเนี่ย ..... เขาก็จะเสียเวลาในการทำคะแนนกับพี่ดงแฮหน่ะสิ
“ นี่ .... ไม่ต้องมาพูดอย่างนี้เลยนะ ตอนแกจีบพี่ดงแฮฉันยังช่วยเลย แล้วพอเป็นฉันแกจะไม่ช่วยฉันหน่อยหรอห่ะ !!! ” ประโยคเด็ด ..... เล่นเอาหน่มอินเตอร์ของเราเถียงไม่ออกเลยทีเดียว
“ เออ .... ก็ได้ ฉันจะช่วย แต่พี่ฮีชอลจะชอบแกหรือเปล่าเนี่ย ฉันไม่รู้นะโว้ย ”
“ เออ ... อันนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ..... เฮ้ยๆๆๆ ออกมาแล้วโว้ย ” ซีวอนที่เห็นนางฟ้าประจำใจของเขาออกจากห้องมาด้วยของที่ถือไว้เต็มมือไปหมด ก็รีบดันตัวคิบอมและตัวเองไปหาร่างบางทันที
“ อ้าว .... คิบอม เพื่อนๆยังไม่เลิกหรอ ” ร่างบางที่เห็นลูกศิษย์ยืนอยู่ที่หน้าห้องเหมือนกำลังรอใครอยู่
“ อ๋อ ครับ ..... ก็เหลือไอ้ยุนกับชางมินหน่ะฮะ ”
“ แหม่ .... สองคนนี้เนี่ยเขาเรียนหนักเหมือนกันนะ ..... พี่ว่าคาบหน้าพี่จะสอนเราเต็มเวลาแบบนี้บ้างดีกว่า ” ฮีชอลทำท่าคิดๆ .... แต่ไม่ได้จะทำจริงๆหรอก
“ อย่าเลยครับ ..... เอาแบบนี้แหล่ะดีแล้วครับ ต่อให้ผมเรียนเต็มเวลาผมก็คงไม่เก่งขึ้นหรอกครับ ” คิบอมส่ายหน้าทันที ขนาดปล่อยก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง เขายังจะมึนได้ขนาดนี้ ถ้าเขาเรียนเต็มเวลา สงสัยจะหลับคาห้อง ไม่ได้เรียนหรอก
“ อิอิ ..... เอ ว่าแต่คนนี้เพื่อนเราหรอคิบอม .... ”
“ อ๋อ .... ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อนกับคิบอมครับ ” หน่มอินเตอร์โดนแย่งซีนไปอย่างเห็นๆ ..... แหม่ทีอย่างเนี่ย เพื่อนไม่มีความแล้วใช่ไหม ฮึ !!!!
“ อืม .... ว่าแต่ทำไมพี่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเราเลยหล่ะ ..... เรียนที่นี้ด้วยหรอ ”
“ ครับ .... สงสัยผมคงจะไม่ได้หน้าตาดีถึงขนาดจะเป็นจุดสนใจของพี่ฮีชอลหล่ะมั้งครับ ” ร่างสูงทำเป็นเอ่ยด้วยเสียงที่บอกได้คำเดียวว่าน้อยใจมากนะ .....
‘ โอ้โห .... แสดงเก่งจริงว่ะ ไอ้เพื่อนรัก ..... อย่างนี้นะเลิกเป็นนักบินแล้วไปเป็นนักแสดงน่าจะดีกว่านะ ’
“ อุ่ย .... พูดอะไรอย่างนั้นหล่ะ ”
“ ผมพูดจริงๆนะครับ ..... ว่าแต่ของพวกนี้ผมช่วยถือให้นะครับ ” เมื่อเห็นโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่คนสวยนี้ได้มากขึ้น คุณชายซีวอนก็รีบคว้าไว้ทันที
“ เออ ขอบคุณนะ ”
ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินไปยังห้องพักของนักบิน ซีวอนก็ชวนนักบินคนสวยคุยเรื่องต่างๆทั้งเรื่องส่วนตัวและไม่ส่วนตัวจนกลายเป็นว่าเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่นาที สองคนนี้ก็ดูจะสนิทกันมากราวกับรู้จักกันมาแล้วเป็นปี
“ พี่ฮีชอลครับ ..... ”
“ มีอะไรหรอ ???? ”
“ คือ พี่จะว่าอะไรไหมฮะ ถ้าผมจะขอดูแลพี่แบบนี้ตลอดไป ” ซีวอนไม่พูดเปล่า เขาก็คว้ามือเล็กเข้ามากอบกุมไว้แน่น
“ นี่เรากำลังบอกรักพี่อยู่หรือเปล่าเนี่ย ” ฮีชอลเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม ..... เคยถูกหนุ่มหล่อขอเป็นแฟนมาก็หลายคนแล้ว แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงทำให้เขาเขินได้มากแบบนี้นะ
“ อ๊า !!! ก็ประมาณนั้นแหล่ะครับ ” ใช่ว่าจะมีแต่ฮีชอลที่เขินเป็น ..... คุณชายชเวที่ขอสาวๆเป็นแฟนมานับครั้งไม่ถ้วน ยังเขินได้เหมือนกัน
“ อิอิ .... เอาสิ จริงๆพี่ก็รู้สึกดีกับเรามากเลยนะ .... แต่พี่แปลกใจว่าหลายวันที่ผ่านมาทำไมพี่ไม่เคยเห็นเราเลยหล่ะ ทั้งๆที่ก็เป็นเพื่อนกับคิบอม ”
“ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ .... มันอาจจะเป็นอย่างที่ผมบอกตอนแรกก็ได้นะฮะ ” ใบหน้าหล่อออกสีหน้างอนนิดๆ
“ ไอ้ที่เราหน้าตาไม่ชวนมองหน่ะหรอ ”
“ ก็ไม่รู้สิครับ ..... ทั้งๆที่ผมเห็นพี่ตลอดเวลาที่ผมมาเรียน ผมรักพี่มากนะครับ .... แต่พี่กลับไม่เคยมองผมเลย แต่ผมไม่โกรธพี่หรอก ..... ในเมื่อตอนนี้ เรารักกันแล้ว จริงไหมฮะ ”
“ นี่ !!! อย่ามาติ๊ต่างเอาเองอย่างนี้สิ ”
“ 55+ พี่เขินแล้วน่ารักมากเลย รู้ตัวไหมฮะ ” ยิ่งซีวอนเอ่ยคำหวานกับร่างบางมากเท่าไหร่ ความเขินอายก็ยิ่งทวีมากขึ้นเท่านั้น
“ พอได้แล้ว ..... แล้วนี้เราไม่กลับหอหรอ ”
“ เดี๋ยวค่อยกลับครับ .... ขออยู่กับแฟนก่อน ”
“ ..... ^///^ ..... ”
“ เอ่อ .... พี่ฮีชอลครับ ..... นี่ก็เย็นแล้วเราไปหาอะไรทานกันดีไหมครับ ” เมื่อมองดูนาฬิกาในห้องพักนักบินก็พบว่านี่มันจะหกโมงเย็นอยู่แล้ว ...... ได้เวลาดินเนอร์แล้วสินะ
“ อืม ก็ดีนะ .... พี่เริ่มหิวแล้ว ”
“ โอเคครับ งั้นเราไปกันเลยแล้วกันนะฮะ .... มื้อนี้ผมเลี้ยงเองนะ ” ร่างสูงยืนขึ้นแล้วยื่นมือไปให้ร่างบางตรงหน้าได้จับ ดูเหมือนฮีชอลจะรู้ว่าคงอยากให้เราจับมือเขาหล่ะมั้ง เลยส่งมือนิ่มๆไปให้
“ แล้วแต่ละกัน .... แต่ขอบอกก่อนนะว่าพี่กินเยอะ ระวังกระเป๋าฉีกโดยไม่รู้ตัว ”
“ ถ้ามันจะฉีกเพราะพี่ .... ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ ”
<<< Paris Vacation >>>
“ เฮ้อ ..... สอบเสร็จสักที ทีนี้นะฉันจะไปลัลล้าให้เต็มที่เลย ”
“ แล้วเธอจะไปลัลล้าที่ไหนหล่ะสเตฟ ”
“ ไม่รู้สิ ยังคิดไม่ออกอ่ะ แล้วนายหล่ะแจจุง จะไปเที่ยวที่ไหนก่อนหรือเปล่า ” ทั้งสองออกมายืนคุยกันบริเวณหน้าตึกคณะพร้อมกับเพื่อนๆที่ต่างก็ทยอยบอกลากันกลับบ้านหรือบางกลุ่มก็ไปเลี้ยงฉลองกัน
“ พอดีฉันนัดกับพี่จุนซูไว้หน่ะ ว่าจะไปหาพี่เขาที่สนามบิน ”
“ ว้าววววว ฉันไปด้วยได้ป่ะอ่ะ ..... ฉันก็อยากเจอพี่จุนซูเหมือนกัน ไม่เจอกันนานแล้วไม่รู้เปลี่ยนตัวเองจากโลมาไปเป็นนกบินอยู่บนท้องฟ้าแล้วหรือยัง ” สาวสวยเอ่ยล้อเลียนรุ่นพี่ที่น่ารัก ....
เขายังจำได้ถึงพี่จุนซูสมัยที่เรียนมหาลัยได้อยู่เลยว่า พี่เขาตัวกลมขนาดไหน แถมยังมีความสามารถในการร้องเสียงโลมาอีกด้วย
เฮ้อ ..... พูดไปก็คิดถึงจังเลย
“ เอาสิสเตฟ ไปด้วยกันนี่แหล่ะ บางทีพี่จุนซูก็พูดถึงเธออยู่เหมือนกันนะว่าเป็นยังไงบ้าง ”
เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวพยักตกลงที่ร่วมเดินทางไปด้วย สองคนสวยของคณะอักษรฯก็รีบเดินออกจากคณะไปเรียนแท็กซี่ทันที ...... โดยที่ร่างบางก็ไม่ลืมที่จะโทรไปบอกรุ่นพี่ร่างเล็กล่วงหน้าว่าจะไปหาแล้วยังพ่วงสาวสวยสเตฟานี่ไปด้วยหนึ่งคน
...........................................
.................................
.....................
...........
....
..
“ โอ้โห .... สเตฟ เธอนี่เคยเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนเลยนะ ”
“ อิอิ พี่จะชมฉันว่ายังน่ารักเหมือนเดินใช่ไหมหล่ะ ” คนสวยทำท่าน่ารักๆประกอบคำพูดไปด้วย ....... ใครๆก็มักจะชมทั้งนั้นแหล่ะว่าเขาหน่ะน่ารัก อิอิ ภูมิใจค่ะ
“ เปล่า ใครบอกเธออย่างนั้น .... พี่จะบอกว่าเราหน่ะห้าวยังไงก็ยังห้าวอยู่อย่างนั้น พี่หล่ะแปลกใจว่าเราไปเป็นดาวคณะได้ไงเนี่ย ออกจะแมนแบบนี้ ” มันก็จริงนะ ตั้งแต่ที่เขารู้จักสเตฟานี่มาเนี่ย
เขายังไม่เคยเห็นความเป็นกุลสตรีของเธอเลย ..... ตรงกันข้ามกับแจจุง ที่เป็นผู้ชายยังดูเรียบร้อยกว่าหญิงสาวคนนี้ซะอีก
สงสัยว่าสองคนนี้คงจะสลับนิสัยกันหน่ะ
“ โห้ย .... ไม่ต้องพูดเลยพี่จุนซู .... ใครๆเขาก็มองว่าฉันสวย น่ารักกันทั้งนั้นแหล่ะ จริงไหมแจจุง ”
“ อิอิ .... ใช่ฮะพี่จุนซู .... จริงๆแล้วเวลาที่สเตฟเขาอยู่ที่มหาลัยนะ เขาดูสวย ใส เหมาะที่จะเป็นดาวมากเลยฮะ ”
“ แจจุง .... ถ้านายจะไม่หลุดหัวเราะตอนแรกนี่ฉันคงดีใจที่ได้ยินนายพูดแบบนี้นะ ” แอบแขวะเพื่อนไปเล็กน้อย
“ เอาเถอะ ก็ดีแล้ว ..... ต่อไปเธอก็ช่วยทำตัวให้เหมาะกับการที่น้องๆเพื่อนๆเขาเลือกเราให้เป็นดาวคณะก็แล้วกัน ”
“ จะพยายามนะพี่จุนซู ..... เออ ว่าแต่พี่ทำงานที่นี้เป็นไงบ้างอ่ะ สนุกป่ะ ”
“ สนุกสิ .... ได้เดินทางท่องเที่ยว แม้มันจะเหนื่อยบ้างอ่ะนะ แต่ก็คุ้มหล่ะ ” ทั้งสามคนยังคงนั่งคุยกันอยู่ที่แคนทีนของสนามบิน ..... คงเป็นเพราะทั้งสามไม่ได้คุยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้มานานแล้ว
“ เฮ้ย !!! เพื่อนคยู แกเห็นหนุ่มหน้าสวยโต๊ะนั้นป่ะ ” น้ำเสียงตื่นเต้นของหนุ่มหน้าเป็นนามเพราะ ว่า ฮยอกแจดังขึ้นข้างๆหูของเพื่อนที่ยังคงมีความสุขกับการกินอยู่ ...... แต่ก็ยังอุตส่าห์เลิกกินเพื่อมามองคนสวยของฮยอกแจ
“ อืม เห็น มีอะไรหรอเพื่อนฮยอก ”
“ แกว่า เขาหน้าคุ้นป่ะ ..... เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยอ่ะ ”
“ อืม .... คุ้นเหมือนกันนะ สวยๆแบบนี้ใช่ว่าเราจะเจอกันได้บ่อยๆ ” คยูฮยอนก็พยายามช่วยเพื่อนคิด แต่มันก็คิดไม่ออกอยู่ดี .......
“ ............. ”
“ ............. ”
“ อ๊า !!! เพื่อนคยู ฉันนึกออกแล้วเว้ยมาเคยเจอคนสวยนั้นที่ไหน ” น้ำเสียงดีใจแบบนี้คงไม่ต้องบอกว่าฮยอกแจจะดีใจกับการค้นพบในครั้งนี้มากแค่ไหน
“ ............. ”
“ ฉันว่าต้องเป็นคนที่ไอ้ยุนมันเดินชนเมื่อหลายวันก่อนแน่เลย ”
“ เออ ..... จริงด้วยว่ะ ใช่ๆๆๆๆ ฉันก็จำได้แล้ว สวย น่ารัก น่าทะนุถนอมแบบนี้ใช่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ” คยูฮยอนที่พอจะจำหน้าของคนสวยคนนั้นได้เลาๆ ก็เห็นด้วยกับฮยอกแจที่ว่าน่าจะเป็นคนเดียววกัน
“ ไปบอกไอ้ยุนกัน ” ว่าแล้วสองหนุ่มก็รีบวิ่งกลับไปที่หอที่อยู่ไม่ไกลจากแคนทีนเท่าไหร่นัก ในใจก็ภาวนาว่าขอให้คนสวยคนนั้นยังไม่ลุกไปไหน ตอนที่เพื่อนสุดหล่อของเขามาถึง
หอพักนักเรียน
“ ปุ่มนี้สำหรับให้ล้อออกมาเวลาจะลงจอด ..... อันนี้สำหรับตอนที่เครื่องหยุดนิ่งที่กลางอากาศ ”
ยุนโฮที่กำลังท่องจำแผงบังคับของพวกนักบินอย่างตั้งใจอยู่นั้นก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูห้องนอน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ เข้ามาได้เลย ประตูไม่ได้ล็อก ”
“ เฮ้ย !!! ไอ้ยุน แกตามฉันมาอย่างด่วน ” คยูไม่พูดเปล่าแต่เข้ามาหมายจะฉุดร่างใหญ่ๆให้ลุกตามเขาออกไป
“ แกมีอะไร แล้วทำไมฉันต้องตามแกไปด้วย ฉันจะอ่านหนังสือ ” ยุนโฮที่ตอนนี้ยึดขอบเตียงที่เป็นไม่เนื้อแข็ง
ไว้แน่น
“ เอาเถอะหน่า ..... ฉันมีของสวยๆงามๆที่แกอยากเห็นมาให้ดู เร็วๆสิว่ะ เดี๋ยวก็ไม่ได้เห็นหรอก ”
“ อะไรของแกว่ะ ..... โอเคๆ แปปนะ ขอเก็บหนังสือก่อน ถ้ามันไม่มีอะไรที่สำคัญกับฉันนะ แกได้โดนยำเละแน่ ” แล้วร่างสูงก็ลุกไปเก็บหนังสือไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินตามคยูออกไป
เพียงแค่ยุนโฮออกมายืนอยู่หน้าห้อง ยังไม่ทันจะล็อกห้องเลย ก็ถูกเพื่อนตัวดีทั้งสองลากไปตามทางเดินทันที
จนยุนโฮได้แต่แอบคิดอยู่ใจ ..... มันจะลากเราไปดูอะไรว่ะเนี่ย ถึงต้องรีบขนาดนี้
และแล้วการลากทึ้งก็มาถึงจุดสิ้นสุด ..... ณ บริเวณ แคนทีนของสนามบิน
“ นี่ อย่าบอกนะว่าไอ้สิ่งสวยๆงามๆที่แกอยากให้ฉันดูเนี่ย คือบรรดาแอร์โฮสเตส ” ก็มันจริงนี่หน่า ..... ตอนนี้ตรงหน้าเขามีแต่แอร์ของสายการบินต่างๆมานั่งพักผ่อนก่อนที่จะเดินทางกลับในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“ ไม่ใช่ ..... แต่แกลองมองไปตรงๆนะ ..... แกจะเจอกับสิ่งสวยๆงามๆที่พวกฉันอยากให้ดู ”
“ มองไปตรงๆหรอ ??? ”
แล้วยุนโฮก็มองตรงๆไปอย่างที่เพื่อนๆบอก .... แล้วเขาก็พบกับ !!!!
“ นี่พวกแกให้ฉันมาดูขาอ่อนของผู้หญิงหรอ ” สิ่งที่ยุนโฮพบก็คือ หญิงสาวที่นุ่งกระโปรงสั้นมากกกกกแถมยังนั่งไขว่ห้าง โชว์เรียวขาขาวเล็กอีกต่างหาก
“ ไม่ใช่อีกนั้นแหล่ะ ..... แกมองโต๊ะทางด้านขวาของผู้หญิงกลุ่มนั้นนะ ติดกันเลย .... ทีเนี่ย ถ้านายไม่เห็นฉันจะพานายกลับหอ ” ฮยอกแจแอบคิดในใจว่า
‘ นี่เขาบอกเพื่อนไม่เคลียร์เองใช่ไหม หรือเพราะมันตาถั่วมองคนสวยของมันไม่เจอเองกันแน่ ’
“ โอเค ..... ติดๆกันเลยนะ ..... ใช่โต๊ะที่มีสามคนป่ะ ”
“ เอ่อ โต๊ะนั้นแหล่ะ ”
“ เอ่อ ..... ชายสองคน หญิงหนึ่งคน ...... โอ๊ะ !!!! ” ยุนโฮอุทานออกมาอย่างตกใจ
“ อะไรหรอยุนโฮ ” สองหนุ่มแกล้วถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเขามันเจออะไรถึงได้ร้องแบบนี้
“ ก็นั้นมัน ..... คนที่ฉันชนไปเมื่อหลายวันก่อนนี่ ” ใบหน้าหล่อได้รูปเริ่มระเรื่อสีขึ้นมานิดๆ
“ ช่ายเลยเพื่อน .... นี่ฉันสองคนอุตส่าห์วิ่งไปตามนายเพื่อให้มาเจอคนสวยโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย ”
“ แต่ ..... มันก็ไม่ได้มีอะไรนี่ ดูสิ เขาก็ยังอยู่กับแฟนเขาอยู่เลย ”
“ ยุนโฮ ..... แกแน่ใจหรอ ว่าหนึ่งในสองคนที่เหลือนั้นจะเป็นแฟนกับคนสวยหน่ะ ” ยุนโฮส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ เห็นมะ ขนาดนายยังไม่แน่ใจ ...... ก็แสดงว่าความจริงแล้วอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ เพราะฉะนั้นนะ พวกฉันขอแนะนำให้นายเข้าไปคุยกับคนสวยซะ ” ฮยอกแจทำท่าจะลากร่างของเพื่อนตัวสูงไปที่โต๊ะนั้น แต่ยุนโฮก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
“ เฮ้ย !!! ไม่เด็ดขาด ”
“ ทำไมหล่ะ ..... ก็ในเมื่อนายบอกพวกเราเองว่านายหน่ะชอบเขา แล้วทำไมนายไม่ไปคุยกับเขาหล่ะ ” ฮยอกแจชะงักไปนิดๆ ‘ หึ่ย ..... กำลังจะได้ไปคุยอยู่แล้ว ขัดทำไมเนี่ย ’
“ ใครมันจะไปกล้าทำแบบนั้นกันหล่ะ ..... อีกอย่างเรายังไม่ได้รู้จักกันเลย จะให้เดินเข้าไปคุยกับเขามันก็ยังไงๆอยู่นะ ”
“ แต่ฉันว่า ตอนนี้นายปฏิเสธไม่ได้แล้วหล่ะว่าคนในกลุ่มนั้นไม่มีใครที่นายไม่รู้จัก ” คยูที่หันไปเห็นร่างสูงคนหนึ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีโดยเฉพาะยุนโฮกำลังเดินไปยังโต๊ะตัวนั้น
“ อ้าว ..... นั้นมันพี่ยูชอนนี่หว่าไอ้ยุน ”
‘ เอาแล้วไงหล่ะ ..... ปฏิเสธไม่ได้อย่างที่ไอ้คยูมันบอกเลย ’
“ แจจุง สเตฟ ...... นี่ยูชอน คนรักของพี่เองจ๊ะ ” จุนซูเอ่ยแนะนำคนรักให้กับรุ่นน้องได้รู้จักอย่างเป็นทางการ แม้แจจุงจะมาหาจุนซูอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเจอร่างสูงคนนี้เลย ...... บอกได้คำเดียวว่า หล่อ มากอ่ะ ^^
“ สวัสดีครับ / ค่ะ พี่ยูชอน ”
“ ยูชอนนี่แจจุงกับสเตฟานี่ รุ่นน้องที่คณะหน่ะ ”
“ อืม .... นี่คนไหนหรอที่อยากมาทำงานที่สายการบินของเราหรือเปล่า ” เมื่อยูชอนสั่งอะไรมาทานเรียบร้อยแล้วก็หันมาคุยกับรุ่นน้องของคนรักอย่างเป็นกันเอง
“ ผมอยากทำฮะ พี่ยูชอน ...... แต่ของสเตฟ นี่เขาอยากทำเป็นพวกบริษัทมากกว่าหน่ะฮะ ”
“ อ๋อ คนนี้นั้นเองที่จุนซูเคยเล่าให้ฟัง ”
“ ใช่แล้วหล่ะยูชอน เอ่อ แจจุง เราอยากถามเรื่องนักเรียนการบินไม่ใช่หรอ ถามยูชอนได้เลยนะ เขาเป็นครูฝึกอยู่ น่าจะตอบคำถามของเราได้ ” แจจุงตกใจขึ้นมาทันทีที่อยู่ดีๆจุนซูก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ...... อยู่ๆมาทิ้งระเบิดให้น้องรักแบบนี้ได้ไงอ่ะพี่จุนซู
“ แจจุงมีอะไรจะถามพี่หรอ ??? ”
“ คือ เปล่าฮะพี่ยูชอน เรื่องนั้นผมไม่อยากรู้แล้วครับ ” ร่างบางส่ายหน้าเป็นพันละวัน ก็เขาไม่กล้าพูดนี่ ....
“ อะไรกันแจจุง ..... ไม่ต้องอายหรอก เอางี้แล้วกันเดี๋ยวพี่ถามให้ ” เมื่อจุนซูทำท่าจะบอกยูชอนเองขึ้นมาอย่างที่พูด ร่างบางก็รีบโบกมือปฏิเสธทันที ..... ปฏิกิริยาแบบนี้ทำให้ทั้งจุนซูและสเตฟานี่ยิ้มออกมากับอาการเขินอายของร่างบาง
ขนาดว่าสเตฟานี่ที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้ด้วยก็พอจะเข้าใจเลาๆว่า แจจุงคงจะไปแอบปิ๊งนักเรียนการบินคนไหนเข้าแน่ๆเลย
แต่ก่อนที่จุนซูจะได้ถามยูชอน กลับมีใครที่ร่างเล็กไม่คุ้นหน้าเลย เดินเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยตั้งสามคนแหน่ะ
“ เอ่อ .... พี่ยูชอนฮะ ยุนโฮมีเรื่องจะคุยด้วยหน่ะฮะ ”
“ เฮ้ย !!! ไปบอกแบบนั้นทำไม ฉันไม่มีเรื่องจะคุยกับพี่เขาซะหน่อย ” ยุนโฮกระซิบที่ข้างหูของเพื่อนที่ทำอะไรไม่ยอมปรึกษากันก่อน
“ เอาหน่า .... โอกาสมาถึงแล้วนะโว้ย แกจะไม่คว้าซะหน่อยหรอ ” ฮยอกแจหันไปทำหน้าดุๆใส่เพื่อนรักหน้าหมี .... นี่เขาช่วยจนสุดๆแล้วนะ ..... ที่เหลือก็ฝีมือนายล้วนๆหล่ะนะ
“ ว่าไงยุนโฮ ..... นายมีเรื่องอะไรหรอ ” ยูชอนที่นั่งรออยู่สักพักก็เอ่ยถามขึ้นเมื่อยุนโฮไม่ยอกถามอะไรเขาสักคำ เอาแต่กระซิบกระซาบกับเพื่อนตัวเองอย่างเดียว
“ เอ่อ ..... คือ .... ”
“ ไอ้ยุนมันอยากรู้จักคนสวยนี้หน่ะครับ พี่ยูชอน ” ฮยอกแจที่ทนไม่ไหว ในเมื่อมันไม่ยอมพูดงั้นเขาพูดแทนให้เองหล่ะกัน !!!!!
“ หา !!! อะไรนะ ” 4 ชีวิตที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ เอ่ยขึ้นพร้อมกัน เล่นเอาคนรอบข้างหันมามองทันที ..... แต่ก็ได้ยูชอนที่คอยบอกไปว่าไม่มีอะไร .....
“ ไอ้ฮยอกแจ !!! .... คือ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ อย่าไปฟังเพื่อนผมนะครับ ”
“ จริงๆครับพี่ยูชอน .... คุณจำเพื่อนผมได้ไหมครับ ที่ชนคุณวันนั้นหน่ะ ” ฮยอกแจเบนเป้าหมายไปที่คนสวยที่ยังดูงงๆกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ก็ยังพอมีสติตอบคำถามของฮยอกแจอยู่
“ เอ่อ .... จำได้ครับ ”
“ ดีครับ .... ผมจะบอกให้นะว่ายุนโฮหน่ะมันชอบคุณมากเลย .... แต่มันไม่รู้ว่าคุณมีคนรักแล้วหรือยัง ”
“ !!!!! ”
TBC >>> Next Part 3rd Trip
::: TALK :::
สวัสดีค่ะ ..... ทุกๆคน ^^
ปริศนาจากตอนที่แล้ว ..... ถูกเปิดแล้วนะค่ะ
เอ ..... มีใครจำได้ป่าวอ่ะ เราทิ้งท้ายไว้ว่าตอนต่อไปจะมีคู่รักเกิดขึ้นหนึ่งคู่
นั้นก็คือ ...... ซีวอนก่ะเจ๊ฮีชอลนั้นเองค่ะ
แต่ !!!! มันจะไม่ราบรื่นแบบนี้ตลอดหรอค่ะ .... มันต้องมีตัวร้ายมาบั่นทอนคู่รักคู่นี้
เขาคนนั้นเป็นใคร ???? ..... ลองทายกันดูนะค่ะ
ช่วงนี้เนื้อเรื่องอาจจะน่าเบื่อไปหน่อยนะค่ะ ..... มันยังคงเป็นเกริ่นนำอยู่อ่ะค่ะ
แต่อีกไม่นานค่ะ ..... เราจะบินไปท่องเที่ยวกันที่ปารีสค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเมนท์มากๆนะค่ะ ^^
และอาการเหม่อลอยบวกกับใบหน้าสวยหวานที่อยู่ๆก็แดงขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในสนามบินก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของจุนซูไปได้
“ แจจุง ..... ไม่สบายหรือเปล่า หน้าแดงมากเลย ” ร่างเล็กเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แต่ในใจเขากลับคิดไปอีกแบบ .... หน้าแดงแบบนี้คงไม่ใช่เพราะไม่สบายหรอก
“ อ่ะ !!! เปล่าฮะ .... ผมไม่ได้เป็นอะไร ”
“ แน่ใจนะ ???? ”
“ เอ่อ .... คือ .... คือว่า .... ” ร่างบางพยายามจะพูดแต่มันติดอยู่ที่ว่า .... มันเขินอ่ะ ^///^
“ นี่ .... เราจะคือๆเอ่อๆอีกนานไหมห่ะ !!!! ” จุนซูกลั้นขำกับท่าทางของแจจุง ...... อะไรจะเขินได้มากขนาดนี้นะ
“ ง่ะ .... พี่จุนซูอ่ะ ..... คือ ผมอยากถามว่า พี่พอจะรู้จักพวกนักเรียนการบินบ้างไหมฮะ ” พูดออกไปแล้วอ่ะ .... พี่จุนซูจะว่าอะไรเราไหมนะ ที่เราถามถึงผู้ชายแบบนี้อ่ะ (โอ้ววววว แจจ๋า อะไรจะเป็นกุลสตรีป่านนั้น)
“ นักเรียนการบินหรอ ??? พี่ไม่รู้จักหรอก นั้นมันเป็นเรื่องของพวกนักบินเขา ถามทำไมหรอ ? ”
“ อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกฮะ พอดีเมื่อกี้ผมเห็นพวกเขาเดินผ่านไปหน่ะฮะ เลยอยากรู้ว่าพี่รู้จักบ้างไหม ”
“ เอ่ะ ๆๆ หน้าแดงๆแบบนี้ไม่มีอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ บอกพี่มาดีๆนะว่าแอบไปชอบนักเรียนคนไหนห่ะ ” จุนซูที่สังเกตเห็นใบหน้าหวานๆเรื่อสีขึ้นจึงเอ่ยแซว ..... แล้วดูท่าจะเป็นอย่างที่พูจริงๆซะด้วยนะ ก็แจจุงอ่ะหน้ายิ่ง
แดงกว่าเดิมหลายเท่าเลย ^^
“ ปะ ..... เปล่านะฮะ ผมแค่ถามดูเฉยๆ ”
“ 55+ เอาเถอะแล้วพี่จะลองไปถามยูชอนให้นะ จะลองดูสิว่านักเรียนการบินคนไหน ทำให้น้องที่น่ารักของพี่คนนี้หลงรักได้มากขนาดนี้ ”
“ พี่จุนซูอ่ะ !!!! บอกว่าไม่ใช่ไงฮะ ยังจะมาล้ออีก งอนแล้วนะ ... ฮึ !!!! ” ร่างบางพองลมที่แก้มใสซะป่องจนจุนซูต้องเข้าไปหยิกด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ โอ๋ .... อย่างอนสิจ๊ะ .... พี่ขอโทษนะ ไม่ล้อแล้ว ”
การงอนง้อของพี่น้องคู่นี้ดูจะตกอยู่ในสายตาของนักท่องเที่ยวที่อยู่ ณ สนามบินแห่งบินแห่งนี้แทบจะทุกคู่เลยก็ว่าได้
บ้างก็มองว่าพี่น้องคู่นี้ดูจะรักกันดีจัง .... คนหนึ่งน่ารักอีกคนก็สวย อะไรจะเพอร์เฟคปานนั้น
บ้างก็มองในทางตรงกันข้าม ..... แอบคิดว่าสองคนนี้เป็นคนรักกัน แต่ก็นะ ไม่รู้มองกันยังไง ก็สองคนนี้หน่ะเป็นฝ่ายรุกไม่ได้หรอก ..... ( แต่ได้ข่าวว่ายุนโฮก็มีความคิดแบบนี้นะ -*- )
และดูเหมือนสองคนนี้จะไม่ค่อยแคร์สายตาประชาชีเท่าไหร่ เล่นกอดกันกลม งอนกันไปงอนกันมาอยู่หน้าทางเข้าสนามบินแบบนี้ แต่ฉากรักแบบน่ารักๆก็ต้องจบลงเมื่อมีแท็กซี่คันหนึ่งวิ่งเข้ามารับร่างบางออกจากสนามบิน
“ พี่จุนซู .... ไว้ผมสอบเสร็จแล้วจะโทรมาอีกทีนะฮะ ” ร่างบางที่เข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้วกลับเปิดกระจกมาคุยกับจุนซูอีกครั้งเมื่อนึกเรื่องสำคัญอย่างนึงได้
“ อืม .... ตั้งใจสอบหล่ะ ส่วนเรื่องนักเรียนการบินไม่ต้องห่วงนะ พี่จะไปสืบมาให้ ” สุดท้ายก็ยังไม่เลิก แอบล้อร่างบางก่อนกลับบ้านไปหนึ่งที
“ พี่อ่ะ !!! ไม่คุยด้วยแล้ว กลับหล่ะนะฮะ ” แจจุงส่งยิ้มแล้วโบกมือกลับไปให้ร่างเล็กที่โบกมือมาให้
พอแท็กซี่คันนั้นห่างออกไปจากบริเวณหน้าสนามบิน จุนซูก็รีบเดินกลับไปที่ห้องทำงานทันที .....
แต่เรื่องราวของรุ่นน้องสุดรักก็ยังคงอยู่ในหัวของเขา ใจอยากจะไปหายูชอนซะตอนนี้ ก็มันติดอยู่ที่ว่าได้เวลาที่ร่างสูงต้องไปสอนแล้ว
ถ้าไปหาตอนนี้ก็เกรงว่าจะไปรบกวนเวลาสอน
‘ กลับไปที่หอแล้วค่อยถามหล่ะกัน ..... อยากรู้จัง ใครกันนะที่ทำให้แจจุงเขินอายได้แบบนั้น ’
<<< Paris Vacation >>>
จากการวิ่งมาราธอนของหนุ่มๆเมื่อไม่นานมานี้มันก็ส่งผลมาว่า ..... แม้พวกเขาจะวิ่งเร็วแบบไม่คิดชีวิตแต่มันก็ทำให้พวกเขามาเข้าห้องเรียนไม่ทันตามเวลา .... เลทไป 2 นาที เป็นเหตุให้พวกเขาตกอยู่สถานการณ์มาคุแบบนี้
“ ไหนพวกนายบอกมาสิ ว่าทำไมถึงมาสาย ” เสียงเข้ม มีอำนาจดังออกมาจากนักบินคนเก่งนามว่า ฮันกยอง
ใครๆก็รู้ว่าฮันกยองนั้นไม่ชอบคนมาสาย .... เพราะนั้นหมายถึงการไม่รับผิดชอบ
“ เอ่อ .... คือ มันเป็นความผิดของผมเองครับ พี่ฮันกยอง ”
“ นายหรอ ? ยุนโฮ ” ยูชอนเอ่ยแบบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน .... คนตรงเวลาอย่างยุนโฮเนี่ยนะ จะเป็นต้นเหตุให้เพื่อนๆทุกคนมาสาย
“ ครับ .... คือพอดีว่าตอนที่กำลังจะมาเรียนผมเกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยหน่ะครับ เลยทำให้เพื่อนๆมาสาย ” ยุนโฮเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหน้าเริ่มร้อนขึ้นมานิดหน่อยแล้ว ....
นี่ดูท่าเขาจะเป็นเอามากเหมือนกันนะ แค่นึกถึงหน้าสวยๆของคนๆนั้นเขาก็เขินแบบนี้ซะแล้ว แล้วถ้าเกิดเขาเจอร่างบางคนนั้นอีกเขาจะเป็นยังไงนะ .... สงสัยคงไม่ใช่แค่หน้าซะหล่ะมั้งที่แดง คงจะแดงไปทั้งตัวแน่ๆ
“ ยุนโฮ นายรู้ไหมว่า ถ้าเป็นในเวลางานจริงๆการเสียเวลาแค่ไม่กี่นาทีแบบนี้ มันจะส่งใหญ่ต่อสายการบินเรามากแค่ไหน ” ยุนโฮก้มหน้าสำนึกผิด ... ตอนนี้เขารู้สึกแย่อย่างมากที่สุด เขารู้สึกได้ว่า รุ่นพี่ฮันกยองไม่เพียงแค่ต่อว่าเขาเท่านั้น
แต่มันรวมไปถึงครูฝึกของเขาด้วย เขาเห็นสายตาของฮันกยองมองไปที่ยูชอนแบบตำนิว่าไม่เคยสั่งสอนลูกศิษย์หรือไงถึงได้เป็นแบบนี้ .... นี่เขาทำให้พี่ยูชอนเดือดร้อนด้วยใช่ไหมป็นครั้งสุดท้ายที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ เอาหน่า ..... ฮัน ยุนโฮเขาก็ยังเป็นนักเรียนฝึกหัด ยังต้องมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก กับไอ้แค่เรื่องมาสายนิดๆหน่อยๆนายก็ไม่น่าจะไปดุอะไรให้มากแบบนี้เลยนะ .... ฉันเชื่อว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ” ฮีชอลเอ่ยขัดเพื่อนรักที่ดูท่าจะโกรธมากจนเกินความจำเป็น
“ โอเค ถือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกนะ ฉันจะไม่เอาผิดอะไรทั้งนั้น แต่ถ้ามีครั้งสองเมื่อไหร่ คงไม่มีการให้อภัยแบบนี้อีก กฎก็ต้องเป็นกฎ .... แยกย้ายกันไปเรียนได้ ”
ตอนนี้ทั้งครูและนักเรียนต่างก็แยกย้ายกันไปตามห้องเรียน เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะช่วยทำให้สถารณการณ์ตึงเครียดค่อยๆหายไป
“ พี่ยูชอนฮะ ..... ผมขอโทษ ”
“ เฮ้ย !!! มาขอโทษพี่ทำไมหล่ะ ” แปลกใจ ...... คงเป็นคำเดียวที่บอกความรู้สึกของยูชอนได้ดีที่สุดในตอนนี้ ก็ลูกศิษย์ของเขาคนนี้ยังไม่ได้ทำอะไรให้เขาต้องมายกโทษให้ซะหน่อย
“ ก็ .... ผมทำให้พี่ต้องถูกตำหนิไปด้วย .... ทั้งๆที่พี่ก็คอยบอกผมมาตลอดว่าให้ตรงต่อเวลา ”
“ นึกว่าเรื่องอะไร นั้นหน่ะช่างมันเถอะ .... นี้มันเป็นครั้งแรก เท่าที่เห็นตลอดเวลาที่ผ่านมานายไม่เคยมาสาย แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็เป็นอุบัติเหตุ ฮันกยองเขาก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ยึดกฎเป็นหลักเสมอ ”
“ หรอฮะ ”
“ อืม .... เอาหล่ะ มาเข้าเรื่องเรียนต่อดีกว่า ..... วันนี้เราจะได้ลองขับเครื่องบินจำลองแล้วนะ ”
“ จริงหรอครับ ” ยุนโฮเอ่ยอย่างดีใจ .... ในที่สุดเขาก็ได้ลองนั่งขับเครื่องบินแล้ว แม้มันจะเป็นแค่เครื่องบินจำลอง แต่มันก็เป็นความฝันของเขา
ยูชอนที่เห็นปฏิกิริยาของลูกศิษย์คนนี้แล้วก็อดแอบยิ้มไม่ได้ ..... ยุนโฮช่างเหมือนกับเขาในตอนที่มาฝึกเป็นนักบินทุกอย่างเลย
“ ช่าย .... แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปที่ห้องจำลองนั้น ..... เรามาดูกันก่อนดีกว่า ว่าแผงควบคุมมันมีอะไรบ้าง ”
แล้วภาพของแผงควบคุมบนเครื่องบินก็ปรากฏขึ้นบนจอ ยูชอนก็ค่อยๆอธิบายไปทีละส่วน รวมถึงการใช้งานว่าปุ่มไหนควรใช้ในเวลาไหน
“ ส่วนเจ้านี้นะ มันคือ Head set เขาเอาไว้ใช้เวลาสื่อสารกันระหว่างนักบินกับหอกำกับการ เขาจะคอยรายงานเราถึงสภาพอากาศ หรือว่าจุดหมายปลายทางของเรานั้นอยู่ในเส้นทางที่เท่าไหร่ พิกัดไหน เพราะฉะนั้น ต้องไปจำพวกพิกัดต่างๆมาให้ดี ”
“ อ๋อ ... ครับ ”
“ มีอะไรจะถามไหมยุนโฮ ”
“ ไม่มีครับ ”
“ เอาหล่ะ .... ลองเข้าไปลองขับดูดีไหม ” ยุนโฮไม่ได้เอ่ยตอบเป็นคำพูด แต่แค่เห็นสีหน้าดีใจแบบนี้ ยูชอนก็รู้แล้วว่าลูกศิษย์คนเก่งคนนี้อยากเข้าไปใจจะขาดอยู่แล้ว
จากการลองขับเครื่องในวันแรกแบบนี้ มันทำให้ยุนโฮรู้ว่า การขับเครื่องบินนั้นมันเป็นเรื่องที่ยากขนาดไหน ขนาดว่าเรื่องแผงควบคุมที่เขาท่องจำอยู่ทุกวันว่าอันไหนใช้ทำอะไร พอมาวันจริงแบบนี้เขากลับลืมได้ยังไงก็ไม่รู้
“ เอาหน่า .... วันนี้มันแค่วันแรกนะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยลองขับดูใหม่ก็ไม่เสียหายนี่ ”
นี่คือเสียปลอบใจจากครูฝึกมาดนิ่ง .... แล้วยุนโฮก็ให้สัญญาว่าวันพรุ่งนี้เขาจะตั้งใจในการฝึกให้มากกว่านี้
- บริเวณหน้าห้องเรียน -
“ เฮ้ย !!! ไอ้ซีวอน นี่แกจะเอาจริงหรอว่ะ ”
“ ก็จริงซิว่ะ .... ถามอะไรโง่ๆ แล้วก็นะ แกต้องช่วยฉันจีบพี่ฮีชอลด้วยเข้าใจไหม ”
“ โอ้ย !!! อะไรของนายเนี่ย ..... ทำไมฉันต้องช่วยนายด้วย เสียเวลาฉันจีบพี่ดงแฮหมด ” คิบอมโวยวายขึ้นทันที ก็แหม่ถ้าเขาต้องมาช่วยซีวอนเพื่อนรักตามจีบครูฝึกของเขาเนี่ย ..... เขาก็จะเสียเวลาในการทำคะแนนกับพี่ดงแฮหน่ะสิ
“ นี่ .... ไม่ต้องมาพูดอย่างนี้เลยนะ ตอนแกจีบพี่ดงแฮฉันยังช่วยเลย แล้วพอเป็นฉันแกจะไม่ช่วยฉันหน่อยหรอห่ะ !!! ” ประโยคเด็ด ..... เล่นเอาหน่มอินเตอร์ของเราเถียงไม่ออกเลยทีเดียว
“ เออ .... ก็ได้ ฉันจะช่วย แต่พี่ฮีชอลจะชอบแกหรือเปล่าเนี่ย ฉันไม่รู้นะโว้ย ”
“ เออ ... อันนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ..... เฮ้ยๆๆๆ ออกมาแล้วโว้ย ” ซีวอนที่เห็นนางฟ้าประจำใจของเขาออกจากห้องมาด้วยของที่ถือไว้เต็มมือไปหมด ก็รีบดันตัวคิบอมและตัวเองไปหาร่างบางทันที
“ อ้าว .... คิบอม เพื่อนๆยังไม่เลิกหรอ ” ร่างบางที่เห็นลูกศิษย์ยืนอยู่ที่หน้าห้องเหมือนกำลังรอใครอยู่
“ อ๋อ ครับ ..... ก็เหลือไอ้ยุนกับชางมินหน่ะฮะ ”
“ แหม่ .... สองคนนี้เนี่ยเขาเรียนหนักเหมือนกันนะ ..... พี่ว่าคาบหน้าพี่จะสอนเราเต็มเวลาแบบนี้บ้างดีกว่า ” ฮีชอลทำท่าคิดๆ .... แต่ไม่ได้จะทำจริงๆหรอก
“ อย่าเลยครับ ..... เอาแบบนี้แหล่ะดีแล้วครับ ต่อให้ผมเรียนเต็มเวลาผมก็คงไม่เก่งขึ้นหรอกครับ ” คิบอมส่ายหน้าทันที ขนาดปล่อยก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง เขายังจะมึนได้ขนาดนี้ ถ้าเขาเรียนเต็มเวลา สงสัยจะหลับคาห้อง ไม่ได้เรียนหรอก
“ อิอิ ..... เอ ว่าแต่คนนี้เพื่อนเราหรอคิบอม .... ”
“ อ๋อ .... ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อนกับคิบอมครับ ” หน่มอินเตอร์โดนแย่งซีนไปอย่างเห็นๆ ..... แหม่ทีอย่างเนี่ย เพื่อนไม่มีความแล้วใช่ไหม ฮึ !!!!
“ อืม .... ว่าแต่ทำไมพี่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเราเลยหล่ะ ..... เรียนที่นี้ด้วยหรอ ”
“ ครับ .... สงสัยผมคงจะไม่ได้หน้าตาดีถึงขนาดจะเป็นจุดสนใจของพี่ฮีชอลหล่ะมั้งครับ ” ร่างสูงทำเป็นเอ่ยด้วยเสียงที่บอกได้คำเดียวว่าน้อยใจมากนะ .....
‘ โอ้โห .... แสดงเก่งจริงว่ะ ไอ้เพื่อนรัก ..... อย่างนี้นะเลิกเป็นนักบินแล้วไปเป็นนักแสดงน่าจะดีกว่านะ ’
“ อุ่ย .... พูดอะไรอย่างนั้นหล่ะ ”
“ ผมพูดจริงๆนะครับ ..... ว่าแต่ของพวกนี้ผมช่วยถือให้นะครับ ” เมื่อเห็นโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่คนสวยนี้ได้มากขึ้น คุณชายซีวอนก็รีบคว้าไว้ทันที
“ เออ ขอบคุณนะ ”
ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินไปยังห้องพักของนักบิน ซีวอนก็ชวนนักบินคนสวยคุยเรื่องต่างๆทั้งเรื่องส่วนตัวและไม่ส่วนตัวจนกลายเป็นว่าเวลาผ่านไปแค่ไม่กี่นาที สองคนนี้ก็ดูจะสนิทกันมากราวกับรู้จักกันมาแล้วเป็นปี
“ พี่ฮีชอลครับ ..... ”
“ มีอะไรหรอ ???? ”
“ คือ พี่จะว่าอะไรไหมฮะ ถ้าผมจะขอดูแลพี่แบบนี้ตลอดไป ” ซีวอนไม่พูดเปล่า เขาก็คว้ามือเล็กเข้ามากอบกุมไว้แน่น
“ นี่เรากำลังบอกรักพี่อยู่หรือเปล่าเนี่ย ” ฮีชอลเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม ..... เคยถูกหนุ่มหล่อขอเป็นแฟนมาก็หลายคนแล้ว แต่ทำไมครั้งนี้มันถึงทำให้เขาเขินได้มากแบบนี้นะ
“ อ๊า !!! ก็ประมาณนั้นแหล่ะครับ ” ใช่ว่าจะมีแต่ฮีชอลที่เขินเป็น ..... คุณชายชเวที่ขอสาวๆเป็นแฟนมานับครั้งไม่ถ้วน ยังเขินได้เหมือนกัน
“ อิอิ .... เอาสิ จริงๆพี่ก็รู้สึกดีกับเรามากเลยนะ .... แต่พี่แปลกใจว่าหลายวันที่ผ่านมาทำไมพี่ไม่เคยเห็นเราเลยหล่ะ ทั้งๆที่ก็เป็นเพื่อนกับคิบอม ”
“ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ .... มันอาจจะเป็นอย่างที่ผมบอกตอนแรกก็ได้นะฮะ ” ใบหน้าหล่อออกสีหน้างอนนิดๆ
“ ไอ้ที่เราหน้าตาไม่ชวนมองหน่ะหรอ ”
“ ก็ไม่รู้สิครับ ..... ทั้งๆที่ผมเห็นพี่ตลอดเวลาที่ผมมาเรียน ผมรักพี่มากนะครับ .... แต่พี่กลับไม่เคยมองผมเลย แต่ผมไม่โกรธพี่หรอก ..... ในเมื่อตอนนี้ เรารักกันแล้ว จริงไหมฮะ ”
“ นี่ !!! อย่ามาติ๊ต่างเอาเองอย่างนี้สิ ”
“ 55+ พี่เขินแล้วน่ารักมากเลย รู้ตัวไหมฮะ ” ยิ่งซีวอนเอ่ยคำหวานกับร่างบางมากเท่าไหร่ ความเขินอายก็ยิ่งทวีมากขึ้นเท่านั้น
“ พอได้แล้ว ..... แล้วนี้เราไม่กลับหอหรอ ”
“ เดี๋ยวค่อยกลับครับ .... ขออยู่กับแฟนก่อน ”
“ ..... ^///^ ..... ”
“ เอ่อ .... พี่ฮีชอลครับ ..... นี่ก็เย็นแล้วเราไปหาอะไรทานกันดีไหมครับ ” เมื่อมองดูนาฬิกาในห้องพักนักบินก็พบว่านี่มันจะหกโมงเย็นอยู่แล้ว ...... ได้เวลาดินเนอร์แล้วสินะ
“ อืม ก็ดีนะ .... พี่เริ่มหิวแล้ว ”
“ โอเคครับ งั้นเราไปกันเลยแล้วกันนะฮะ .... มื้อนี้ผมเลี้ยงเองนะ ” ร่างสูงยืนขึ้นแล้วยื่นมือไปให้ร่างบางตรงหน้าได้จับ ดูเหมือนฮีชอลจะรู้ว่าคงอยากให้เราจับมือเขาหล่ะมั้ง เลยส่งมือนิ่มๆไปให้
“ แล้วแต่ละกัน .... แต่ขอบอกก่อนนะว่าพี่กินเยอะ ระวังกระเป๋าฉีกโดยไม่รู้ตัว ”
“ ถ้ามันจะฉีกเพราะพี่ .... ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ ”
<<< Paris Vacation >>>
“ เฮ้อ ..... สอบเสร็จสักที ทีนี้นะฉันจะไปลัลล้าให้เต็มที่เลย ”
“ แล้วเธอจะไปลัลล้าที่ไหนหล่ะสเตฟ ”
“ ไม่รู้สิ ยังคิดไม่ออกอ่ะ แล้วนายหล่ะแจจุง จะไปเที่ยวที่ไหนก่อนหรือเปล่า ” ทั้งสองออกมายืนคุยกันบริเวณหน้าตึกคณะพร้อมกับเพื่อนๆที่ต่างก็ทยอยบอกลากันกลับบ้านหรือบางกลุ่มก็ไปเลี้ยงฉลองกัน
“ พอดีฉันนัดกับพี่จุนซูไว้หน่ะ ว่าจะไปหาพี่เขาที่สนามบิน ”
“ ว้าววววว ฉันไปด้วยได้ป่ะอ่ะ ..... ฉันก็อยากเจอพี่จุนซูเหมือนกัน ไม่เจอกันนานแล้วไม่รู้เปลี่ยนตัวเองจากโลมาไปเป็นนกบินอยู่บนท้องฟ้าแล้วหรือยัง ” สาวสวยเอ่ยล้อเลียนรุ่นพี่ที่น่ารัก ....
เขายังจำได้ถึงพี่จุนซูสมัยที่เรียนมหาลัยได้อยู่เลยว่า พี่เขาตัวกลมขนาดไหน แถมยังมีความสามารถในการร้องเสียงโลมาอีกด้วย
เฮ้อ ..... พูดไปก็คิดถึงจังเลย
“ เอาสิสเตฟ ไปด้วยกันนี่แหล่ะ บางทีพี่จุนซูก็พูดถึงเธออยู่เหมือนกันนะว่าเป็นยังไงบ้าง ”
เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวพยักตกลงที่ร่วมเดินทางไปด้วย สองคนสวยของคณะอักษรฯก็รีบเดินออกจากคณะไปเรียนแท็กซี่ทันที ...... โดยที่ร่างบางก็ไม่ลืมที่จะโทรไปบอกรุ่นพี่ร่างเล็กล่วงหน้าว่าจะไปหาแล้วยังพ่วงสาวสวยสเตฟานี่ไปด้วยหนึ่งคน
...........................................
.................................
.....................
...........
....
..
“ โอ้โห .... สเตฟ เธอนี่เคยเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่เปลี่ยนเลยนะ ”
“ อิอิ พี่จะชมฉันว่ายังน่ารักเหมือนเดินใช่ไหมหล่ะ ” คนสวยทำท่าน่ารักๆประกอบคำพูดไปด้วย ....... ใครๆก็มักจะชมทั้งนั้นแหล่ะว่าเขาหน่ะน่ารัก อิอิ ภูมิใจค่ะ
“ เปล่า ใครบอกเธออย่างนั้น .... พี่จะบอกว่าเราหน่ะห้าวยังไงก็ยังห้าวอยู่อย่างนั้น พี่หล่ะแปลกใจว่าเราไปเป็นดาวคณะได้ไงเนี่ย ออกจะแมนแบบนี้ ” มันก็จริงนะ ตั้งแต่ที่เขารู้จักสเตฟานี่มาเนี่ย
เขายังไม่เคยเห็นความเป็นกุลสตรีของเธอเลย ..... ตรงกันข้ามกับแจจุง ที่เป็นผู้ชายยังดูเรียบร้อยกว่าหญิงสาวคนนี้ซะอีก
สงสัยว่าสองคนนี้คงจะสลับนิสัยกันหน่ะ
“ โห้ย .... ไม่ต้องพูดเลยพี่จุนซู .... ใครๆเขาก็มองว่าฉันสวย น่ารักกันทั้งนั้นแหล่ะ จริงไหมแจจุง ”
“ อิอิ .... ใช่ฮะพี่จุนซู .... จริงๆแล้วเวลาที่สเตฟเขาอยู่ที่มหาลัยนะ เขาดูสวย ใส เหมาะที่จะเป็นดาวมากเลยฮะ ”
“ แจจุง .... ถ้านายจะไม่หลุดหัวเราะตอนแรกนี่ฉันคงดีใจที่ได้ยินนายพูดแบบนี้นะ ” แอบแขวะเพื่อนไปเล็กน้อย
“ เอาเถอะ ก็ดีแล้ว ..... ต่อไปเธอก็ช่วยทำตัวให้เหมาะกับการที่น้องๆเพื่อนๆเขาเลือกเราให้เป็นดาวคณะก็แล้วกัน ”
“ จะพยายามนะพี่จุนซู ..... เออ ว่าแต่พี่ทำงานที่นี้เป็นไงบ้างอ่ะ สนุกป่ะ ”
“ สนุกสิ .... ได้เดินทางท่องเที่ยว แม้มันจะเหนื่อยบ้างอ่ะนะ แต่ก็คุ้มหล่ะ ” ทั้งสามคนยังคงนั่งคุยกันอยู่ที่แคนทีนของสนามบิน ..... คงเป็นเพราะทั้งสามไม่ได้คุยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้มานานแล้ว
“ เฮ้ย !!! เพื่อนคยู แกเห็นหนุ่มหน้าสวยโต๊ะนั้นป่ะ ” น้ำเสียงตื่นเต้นของหนุ่มหน้าเป็นนามเพราะ ว่า ฮยอกแจดังขึ้นข้างๆหูของเพื่อนที่ยังคงมีความสุขกับการกินอยู่ ...... แต่ก็ยังอุตส่าห์เลิกกินเพื่อมามองคนสวยของฮยอกแจ
“ อืม เห็น มีอะไรหรอเพื่อนฮยอก ”
“ แกว่า เขาหน้าคุ้นป่ะ ..... เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลยอ่ะ ”
“ อืม .... คุ้นเหมือนกันนะ สวยๆแบบนี้ใช่ว่าเราจะเจอกันได้บ่อยๆ ” คยูฮยอนก็พยายามช่วยเพื่อนคิด แต่มันก็คิดไม่ออกอยู่ดี .......
“ ............. ”
“ ............. ”
“ อ๊า !!! เพื่อนคยู ฉันนึกออกแล้วเว้ยมาเคยเจอคนสวยนั้นที่ไหน ” น้ำเสียงดีใจแบบนี้คงไม่ต้องบอกว่าฮยอกแจจะดีใจกับการค้นพบในครั้งนี้มากแค่ไหน
“ ............. ”
“ ฉันว่าต้องเป็นคนที่ไอ้ยุนมันเดินชนเมื่อหลายวันก่อนแน่เลย ”
“ เออ ..... จริงด้วยว่ะ ใช่ๆๆๆๆ ฉันก็จำได้แล้ว สวย น่ารัก น่าทะนุถนอมแบบนี้ใช่แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ” คยูฮยอนที่พอจะจำหน้าของคนสวยคนนั้นได้เลาๆ ก็เห็นด้วยกับฮยอกแจที่ว่าน่าจะเป็นคนเดียววกัน
“ ไปบอกไอ้ยุนกัน ” ว่าแล้วสองหนุ่มก็รีบวิ่งกลับไปที่หอที่อยู่ไม่ไกลจากแคนทีนเท่าไหร่นัก ในใจก็ภาวนาว่าขอให้คนสวยคนนั้นยังไม่ลุกไปไหน ตอนที่เพื่อนสุดหล่อของเขามาถึง
หอพักนักเรียน
“ ปุ่มนี้สำหรับให้ล้อออกมาเวลาจะลงจอด ..... อันนี้สำหรับตอนที่เครื่องหยุดนิ่งที่กลางอากาศ ”
ยุนโฮที่กำลังท่องจำแผงบังคับของพวกนักบินอย่างตั้งใจอยู่นั้นก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูห้องนอน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ เข้ามาได้เลย ประตูไม่ได้ล็อก ”
“ เฮ้ย !!! ไอ้ยุน แกตามฉันมาอย่างด่วน ” คยูไม่พูดเปล่าแต่เข้ามาหมายจะฉุดร่างใหญ่ๆให้ลุกตามเขาออกไป
“ แกมีอะไร แล้วทำไมฉันต้องตามแกไปด้วย ฉันจะอ่านหนังสือ ” ยุนโฮที่ตอนนี้ยึดขอบเตียงที่เป็นไม่เนื้อแข็ง
ไว้แน่น
“ เอาเถอะหน่า ..... ฉันมีของสวยๆงามๆที่แกอยากเห็นมาให้ดู เร็วๆสิว่ะ เดี๋ยวก็ไม่ได้เห็นหรอก ”
“ อะไรของแกว่ะ ..... โอเคๆ แปปนะ ขอเก็บหนังสือก่อน ถ้ามันไม่มีอะไรที่สำคัญกับฉันนะ แกได้โดนยำเละแน่ ” แล้วร่างสูงก็ลุกไปเก็บหนังสือไว้ที่โต๊ะ แล้วเดินตามคยูออกไป
เพียงแค่ยุนโฮออกมายืนอยู่หน้าห้อง ยังไม่ทันจะล็อกห้องเลย ก็ถูกเพื่อนตัวดีทั้งสองลากไปตามทางเดินทันที
จนยุนโฮได้แต่แอบคิดอยู่ใจ ..... มันจะลากเราไปดูอะไรว่ะเนี่ย ถึงต้องรีบขนาดนี้
และแล้วการลากทึ้งก็มาถึงจุดสิ้นสุด ..... ณ บริเวณ แคนทีนของสนามบิน
“ นี่ อย่าบอกนะว่าไอ้สิ่งสวยๆงามๆที่แกอยากให้ฉันดูเนี่ย คือบรรดาแอร์โฮสเตส ” ก็มันจริงนี่หน่า ..... ตอนนี้ตรงหน้าเขามีแต่แอร์ของสายการบินต่างๆมานั่งพักผ่อนก่อนที่จะเดินทางกลับในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“ ไม่ใช่ ..... แต่แกลองมองไปตรงๆนะ ..... แกจะเจอกับสิ่งสวยๆงามๆที่พวกฉันอยากให้ดู ”
“ มองไปตรงๆหรอ ??? ”
แล้วยุนโฮก็มองตรงๆไปอย่างที่เพื่อนๆบอก .... แล้วเขาก็พบกับ !!!!
“ นี่พวกแกให้ฉันมาดูขาอ่อนของผู้หญิงหรอ ” สิ่งที่ยุนโฮพบก็คือ หญิงสาวที่นุ่งกระโปรงสั้นมากกกกกแถมยังนั่งไขว่ห้าง โชว์เรียวขาขาวเล็กอีกต่างหาก
“ ไม่ใช่อีกนั้นแหล่ะ ..... แกมองโต๊ะทางด้านขวาของผู้หญิงกลุ่มนั้นนะ ติดกันเลย .... ทีเนี่ย ถ้านายไม่เห็นฉันจะพานายกลับหอ ” ฮยอกแจแอบคิดในใจว่า
‘ นี่เขาบอกเพื่อนไม่เคลียร์เองใช่ไหม หรือเพราะมันตาถั่วมองคนสวยของมันไม่เจอเองกันแน่ ’
“ โอเค ..... ติดๆกันเลยนะ ..... ใช่โต๊ะที่มีสามคนป่ะ ”
“ เอ่อ โต๊ะนั้นแหล่ะ ”
“ เอ่อ ..... ชายสองคน หญิงหนึ่งคน ...... โอ๊ะ !!!! ” ยุนโฮอุทานออกมาอย่างตกใจ
“ อะไรหรอยุนโฮ ” สองหนุ่มแกล้วถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเขามันเจออะไรถึงได้ร้องแบบนี้
“ ก็นั้นมัน ..... คนที่ฉันชนไปเมื่อหลายวันก่อนนี่ ” ใบหน้าหล่อได้รูปเริ่มระเรื่อสีขึ้นมานิดๆ
“ ช่ายเลยเพื่อน .... นี่ฉันสองคนอุตส่าห์วิ่งไปตามนายเพื่อให้มาเจอคนสวยโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย ”
“ แต่ ..... มันก็ไม่ได้มีอะไรนี่ ดูสิ เขาก็ยังอยู่กับแฟนเขาอยู่เลย ”
“ ยุนโฮ ..... แกแน่ใจหรอ ว่าหนึ่งในสองคนที่เหลือนั้นจะเป็นแฟนกับคนสวยหน่ะ ” ยุนโฮส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ เห็นมะ ขนาดนายยังไม่แน่ใจ ...... ก็แสดงว่าความจริงแล้วอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดก็ได้ เพราะฉะนั้นนะ พวกฉันขอแนะนำให้นายเข้าไปคุยกับคนสวยซะ ” ฮยอกแจทำท่าจะลากร่างของเพื่อนตัวสูงไปที่โต๊ะนั้น แต่ยุนโฮก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
“ เฮ้ย !!! ไม่เด็ดขาด ”
“ ทำไมหล่ะ ..... ก็ในเมื่อนายบอกพวกเราเองว่านายหน่ะชอบเขา แล้วทำไมนายไม่ไปคุยกับเขาหล่ะ ” ฮยอกแจชะงักไปนิดๆ ‘ หึ่ย ..... กำลังจะได้ไปคุยอยู่แล้ว ขัดทำไมเนี่ย ’
“ ใครมันจะไปกล้าทำแบบนั้นกันหล่ะ ..... อีกอย่างเรายังไม่ได้รู้จักกันเลย จะให้เดินเข้าไปคุยกับเขามันก็ยังไงๆอยู่นะ ”
“ แต่ฉันว่า ตอนนี้นายปฏิเสธไม่ได้แล้วหล่ะว่าคนในกลุ่มนั้นไม่มีใครที่นายไม่รู้จัก ” คยูที่หันไปเห็นร่างสูงคนหนึ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีโดยเฉพาะยุนโฮกำลังเดินไปยังโต๊ะตัวนั้น
“ อ้าว ..... นั้นมันพี่ยูชอนนี่หว่าไอ้ยุน ”
‘ เอาแล้วไงหล่ะ ..... ปฏิเสธไม่ได้อย่างที่ไอ้คยูมันบอกเลย ’
“ แจจุง สเตฟ ...... นี่ยูชอน คนรักของพี่เองจ๊ะ ” จุนซูเอ่ยแนะนำคนรักให้กับรุ่นน้องได้รู้จักอย่างเป็นทางการ แม้แจจุงจะมาหาจุนซูอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเจอร่างสูงคนนี้เลย ...... บอกได้คำเดียวว่า หล่อ มากอ่ะ ^^
“ สวัสดีครับ / ค่ะ พี่ยูชอน ”
“ ยูชอนนี่แจจุงกับสเตฟานี่ รุ่นน้องที่คณะหน่ะ ”
“ อืม .... นี่คนไหนหรอที่อยากมาทำงานที่สายการบินของเราหรือเปล่า ” เมื่อยูชอนสั่งอะไรมาทานเรียบร้อยแล้วก็หันมาคุยกับรุ่นน้องของคนรักอย่างเป็นกันเอง
“ ผมอยากทำฮะ พี่ยูชอน ...... แต่ของสเตฟ นี่เขาอยากทำเป็นพวกบริษัทมากกว่าหน่ะฮะ ”
“ อ๋อ คนนี้นั้นเองที่จุนซูเคยเล่าให้ฟัง ”
“ ใช่แล้วหล่ะยูชอน เอ่อ แจจุง เราอยากถามเรื่องนักเรียนการบินไม่ใช่หรอ ถามยูชอนได้เลยนะ เขาเป็นครูฝึกอยู่ น่าจะตอบคำถามของเราได้ ” แจจุงตกใจขึ้นมาทันทีที่อยู่ดีๆจุนซูก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ...... อยู่ๆมาทิ้งระเบิดให้น้องรักแบบนี้ได้ไงอ่ะพี่จุนซู
“ แจจุงมีอะไรจะถามพี่หรอ ??? ”
“ คือ เปล่าฮะพี่ยูชอน เรื่องนั้นผมไม่อยากรู้แล้วครับ ” ร่างบางส่ายหน้าเป็นพันละวัน ก็เขาไม่กล้าพูดนี่ ....
“ อะไรกันแจจุง ..... ไม่ต้องอายหรอก เอางี้แล้วกันเดี๋ยวพี่ถามให้ ” เมื่อจุนซูทำท่าจะบอกยูชอนเองขึ้นมาอย่างที่พูด ร่างบางก็รีบโบกมือปฏิเสธทันที ..... ปฏิกิริยาแบบนี้ทำให้ทั้งจุนซูและสเตฟานี่ยิ้มออกมากับอาการเขินอายของร่างบาง
ขนาดว่าสเตฟานี่ที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้ด้วยก็พอจะเข้าใจเลาๆว่า แจจุงคงจะไปแอบปิ๊งนักเรียนการบินคนไหนเข้าแน่ๆเลย
แต่ก่อนที่จุนซูจะได้ถามยูชอน กลับมีใครที่ร่างเล็กไม่คุ้นหน้าเลย เดินเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยตั้งสามคนแหน่ะ
“ เอ่อ .... พี่ยูชอนฮะ ยุนโฮมีเรื่องจะคุยด้วยหน่ะฮะ ”
“ เฮ้ย !!! ไปบอกแบบนั้นทำไม ฉันไม่มีเรื่องจะคุยกับพี่เขาซะหน่อย ” ยุนโฮกระซิบที่ข้างหูของเพื่อนที่ทำอะไรไม่ยอมปรึกษากันก่อน
“ เอาหน่า .... โอกาสมาถึงแล้วนะโว้ย แกจะไม่คว้าซะหน่อยหรอ ” ฮยอกแจหันไปทำหน้าดุๆใส่เพื่อนรักหน้าหมี .... นี่เขาช่วยจนสุดๆแล้วนะ ..... ที่เหลือก็ฝีมือนายล้วนๆหล่ะนะ
“ ว่าไงยุนโฮ ..... นายมีเรื่องอะไรหรอ ” ยูชอนที่นั่งรออยู่สักพักก็เอ่ยถามขึ้นเมื่อยุนโฮไม่ยอกถามอะไรเขาสักคำ เอาแต่กระซิบกระซาบกับเพื่อนตัวเองอย่างเดียว
“ เอ่อ ..... คือ .... ”
“ ไอ้ยุนมันอยากรู้จักคนสวยนี้หน่ะครับ พี่ยูชอน ” ฮยอกแจที่ทนไม่ไหว ในเมื่อมันไม่ยอมพูดงั้นเขาพูดแทนให้เองหล่ะกัน !!!!!
“ หา !!! อะไรนะ ” 4 ชีวิตที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ เอ่ยขึ้นพร้อมกัน เล่นเอาคนรอบข้างหันมามองทันที ..... แต่ก็ได้ยูชอนที่คอยบอกไปว่าไม่มีอะไร .....
“ ไอ้ฮยอกแจ !!! .... คือ ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ อย่าไปฟังเพื่อนผมนะครับ ”
“ จริงๆครับพี่ยูชอน .... คุณจำเพื่อนผมได้ไหมครับ ที่ชนคุณวันนั้นหน่ะ ” ฮยอกแจเบนเป้าหมายไปที่คนสวยที่ยังดูงงๆกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ก็ยังพอมีสติตอบคำถามของฮยอกแจอยู่
“ เอ่อ .... จำได้ครับ ”
“ ดีครับ .... ผมจะบอกให้นะว่ายุนโฮหน่ะมันชอบคุณมากเลย .... แต่มันไม่รู้ว่าคุณมีคนรักแล้วหรือยัง ”
“ !!!!! ”
TBC >>> Next Part 3rd Trip
::: TALK :::
สวัสดีค่ะ ..... ทุกๆคน ^^
ปริศนาจากตอนที่แล้ว ..... ถูกเปิดแล้วนะค่ะ
เอ ..... มีใครจำได้ป่าวอ่ะ เราทิ้งท้ายไว้ว่าตอนต่อไปจะมีคู่รักเกิดขึ้นหนึ่งคู่
นั้นก็คือ ...... ซีวอนก่ะเจ๊ฮีชอลนั้นเองค่ะ
แต่ !!!! มันจะไม่ราบรื่นแบบนี้ตลอดหรอค่ะ .... มันต้องมีตัวร้ายมาบั่นทอนคู่รักคู่นี้
เขาคนนั้นเป็นใคร ???? ..... ลองทายกันดูนะค่ะ
ช่วงนี้เนื้อเรื่องอาจจะน่าเบื่อไปหน่อยนะค่ะ ..... มันยังคงเป็นเกริ่นนำอยู่อ่ะค่ะ
แต่อีกไม่นานค่ะ ..... เราจะบินไปท่องเที่ยวกันที่ปารีสค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเมนท์มากๆนะค่ะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น