ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] # + Betray -- ความรัก ... การหักหลัง + # [YunJae]

    ลำดับตอนที่ #1 : Part 1/4

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 51



    ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันแอบรักแฟนของเพื่อน 

    ซึ่งก็ดูเหมือนเธอไม่คิดอะไรด้วยซ้ำไป


    “ เฮ้ย ! ยุนโฮ ... นี้แจจุงแฟนฉันจำได้ไหมที่เคยเล่าให้ฟังหน่ะ ”

    “ จำได้ซิว่ะ ฉันไม่ใช่ปลาทองนะ ที่จะความจำสั้นขนาดนั้นหน่ะ ”

    “ สวัสดีครับ แจจุง ผมยุนโฮครับ ”

    “ สวัสดีเช่นกันฮะ ยุนโฮ ยูชอนเค้าเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังบ่อยมากเลยฮะ ในที่สุดผมก็ได้เจอตัวจริงซะที ”


    นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับแจจุง แฟนของยูชอน เพื่อนรักของผม

    รอยยิ้มที่สดใส

    น้ำเสียงหวานๆที่คอยชวนคุย ในยามที่ไม่รู้จะทำอะไร

    ดวงหน้าหวานที่คอยแย้มยิ้ม หรือแม้แต่ในยามที่ถูกยูชอนหอมแก้มก็มักจะเบนหน้าหนี ซ้อนความอายเอาไว้

    สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมไม่อาจลืมใบหน้านั้นได้ แม้แต่ยามหลับ ใบหน้านี้ก็จะตามมาอยู่ในฝันของผมทุกครั้งไป

    แต่ผมก็คงจะไปสารภาพรักกับเค้าไม่ได้หรอกครับ ในเมื่อเค้าก็มีคนรักของเค้าอยู่แล้ว

    ผมไม่กล้าหักหลังเพื่อนตัวเองได้หรอกครับ

    ในเมื่อเค้ารักกันอยู่แล้ว ผมซึ่งมาทีหลัง คงทำอะไรไม่ได้นอกจาก ... ได้แต่แอบรักเค้าอยู่อย่างนี้ ...

    ตลอดไป

    ทั้งรู้ว่าผิดนะ แต่ก็รัก ไม่รู้ว่าทำไม 

    รู้แล้วก็เหยียบไว้ นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องไปจากชีวิตเธอ



    @@@@@@@@@@


    “ แจจุงคุณอธิบายมาทีซิ ว่าเมื่อวานคุณไปอยู่ที่ผับนั้นกับไอ้ซีวอนมันได้ไง ” ยูชอนตะคอกใส่แจจุงด้วยความโมโห

    “ ทำไมฉันจะต้องไปที่ผับนั้นไม่ได้ด้วยหล่ะ ... ในเมื่อฉันก็ไปเพื่อแสดงความยินดีที่ซีวอนเค้าจะหมั้นกับฮีชอล ฉันผิดหรอ แล้วทีคุณหล่ะ คุณยังไปที่ผับนั้นโดยไม่บอกฉันซักคำ ฉันยังไม่ว่าอะไรคุณเลย ” แจจุงเอ่ยบอกด้วยความรู้สึกน้อยใจที่คนรักดูเหมือนจะไม่เชื่อใจเค้าเลยซักนิด ดวงตาคู่สวยเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตา แต่เจ้าตัวก็ไม่คิดที่จะเช็ดมันออก

    “ ยูชอน ... คุณเคยเชื่อใจฉันบ้างไหม ” แจจุงถามเสียงเบาแต่ยูชอนกลับได้ยินชัดในทุกคำพูด ร่างสูงไม่ตอบเอาแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เลยทำให้ร่างบางเลือกที่จะไปจากตรงนี้ .... จากไปทั้งน้ำตา

    เหนื่อย .... เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องมาทะเลาะกันแบบนี้

    “ เฮ้ย ! ยูชอน .... แจจุงเค้าเป็นอะไรหน่ะ ฉันเห็นเค้าวิ่งร้องไห้ออกไปเมื่อกี้เนี่ย .... หรือว่าพวกนายทะเลาะกัน ” ยุชอนได้แต่พยักหน้าตอบรับคำถามของร่างสูง ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมให้ยูชอน

    “ ยุนโฮ ... ฉันควรทำยังไงดี .... ฉันไม่น่าว่าแจจุงแบบนั้นเลย ” ยูชอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล แจจุงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย แจจุงไม่เคยเดินจากเค้าไปแบบนี้

    “ ทีตอนนี้หล่ะพึ่งมาคิดนะไอ้เพื่อนบ้า ! ตอนจะพูดทำไมแกไม่คิดก่อนวะ ”
    “ ทำไงได้วะ ก็ตอนนั้นฉันคิดมากนี้ ฉันกลัวว่าแจจุงเค้าไปมีคนอื่น แจจุงก็เอาแต่ปกป้องไอ้ซีวอน ฉันก็อารมณ์ขึ้นซิ ฉันไม่เคยเห็นแจจุงเป็นแบบนี้เลยนะ ” ยิ่งพูดยูชอนก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้น กลัวแจจุงจะโกรธเค้า
    จนพาลไปเกิดเรื่องอะไรขึ้น

    “ เอ่อ ! ฉันเข้าใจ ยังไงก็ไปง้อแจจุงเค้าด้วยหล่ะ ก่อนที่มันจะสายไป นายหน่ะผิดเต็มประตูเลย ... ดีแค่ไหนแล้วที่แจจุงเค้าไม่เห็นว่านายไปที่ผับนั้นกับใครหน่ะ ” คำพูดของยุนโฮประโยคนี้จี้ใจดำยูชอนเข้าไปเต็มๆ
    เรื่องที่ยูชอนแอบไปมีคนอื่นนอกจากแจจุงนั้นไม่มีใครรู้นอกจากยุนโฮ

    “ นายก็อย่าบอกแจจุงเค้าหล่ะ ”

    “ ยูชอน ! นายเลิกทำแบบนี้ได้ไหมว่ะ .... เลือกคนใดคนหนึ่งไม่ได้หรอ ”

    “ ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกยุนโฮ ฉันตัดใจเลือกใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้จริงๆ ” ยูชอนได้แต่ทำสีหน้าลำบากใจ

    “ เฮ้ออออออ มันก็แล้วแต่นายนะยูชอน ฉันเป็นคนนอก คงคิดอะไรแทนนายไม่ได้หรอก ยังไงก็อย่าลืมไปปรับความเข้าใจกับแจจุงเค้าด้วยหล่ะ ฉันไปเรียนหล่ะ ” แล้วยุนโฮก็โบกมือลาเพื่อนรัก พร้อมกับออกเดินไปที่คณะของตัวเอง พลางคิดว่า ถ้าเค้ามีความกล้ามากกว่านี้ เค้าคงจะบอกยูชอนไปว่า

    ‘ ถ้านายไม่รักแจจุงแล้ว ยกเค้าให้ฉันเถอะนะ ’ แต่ความเป็นเพื่อนมันเลยทำให้ร่างสูงเลือกที่จะเก็บคำพูดนี้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจ แทนที่จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด

    ส่วนแจจุงนั้น หลังจากที่วิ่งออกมาเค้าก็ตรงไปยังอพาร์ทเมนท์ของเพื่อนรัก ..... ชางมินนั้นเอง
    ในทุกๆครั้งที่เวลาแจจุงมีเรื่องทุกข์ใจอะไร เค้าก็มักจะไปหาชางมินตลอด ที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมของแจจุง

    ก๊อก ๆ ๆ ๆ

    “ ซักครู่นะครับ ..... มาแล้วคร้าบบบบบบ อ้าวแจจุง ! มีเรื่องอะ …. ” ยังไม่ทันที่ชางมินจะพูดจบ แจจุงก็เข้ากอดชางมินทันที

    “ ฮึก ... ฮือ ... ชางมิน ”

    “ แจจุง ! เป็นอะไร ... ทะเลาะกับไอ้ยูชอนอีกแล้วใช่ไหม ” แจจุงพยักหน้ารับทั้งน้ำตา

    “ เข้ามาข้างในก่อนนะแจจุง ” แล้วชางมินก็พาร่างของแจจุงมานั่งที่โซฟา

    “ ไหนเล่าให้ฉันฟังซิ ว่านาย 2 คนทะเลาะเรื่องอะไรกัน ” แล้วแจจุงก็เริ่มเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้เขาและยูชอนทะเลาะกัน

    “ ฮึก ... ยูชอนเค้า ... มะ ... ไม่เคยเชื่อใจฉันเลย ... ชางมิน ... ฮือ ... ”

    “ มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ ... แจจุง ฉันว่านายเลิกกับมันเถอะ ” ชางมินเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ทำไมเพื่อนรักของเค้าต้องมารักกับไอ้บ้านี้ด้วยก็ไม่รู้

    “ มะ ... ไม่นะ ชางมิน ฉันรักยูชอน ฉันรักเค้า ... จะให้ฉันเลิกกับเค้าไม่ได้หรอก ”

    “ โถ่เอ้ย ! แจจุง นายดูสิ่งที่มันทำกับนายซิ นายยังจะให้อภัยมันอีกหรอก กี่ครั้งแล้วที่นายต้องมานั่งร้องไห้กับฉัน
    กี่ครั้งแล้วที่ยูชอนสัญญากับฉันว่าจะไม่ทำให้นายเสียใจอีก กี่ครั้งแล้วแจจุง ! ”

    “ ....... ” แจจุงได้แต่นิ่งเงียบ เพราะเค้าไม่รู้จะตอบคำถามนี้ของชางมินอย่างไรดี แต่แล้วโทรศัพท์มือถือของแจจุงก็ดังขัดขึ้นมาก่อน

    RRRRRRRR

    “ ไม่ต้องเลยแจจุง ... ฉันรับเอง ” เสียงเรียกเข้าแบบนี้มันของยูชอนชัดๆ ชางมินเลยอาสารับโทรศัพท์แทน

    “ ฮัลโล ! ”

    “ ฮัลโล! แจจุง คุณอยู่ไหน ”

    “ นี่ ! ยูชอน นายเลิกยุ่งกับแจจุงซักทีเถอะ ”

    “ ชางมิน ! นี่นายอยู่กับแจจุงหรอ ”

    “ ไม่ใช่มั้ง ! นายนี้ถามแปลกๆถ้าฉันไม่ได้อยู่กับแจจุงฉันจะรับโทรศัพท์ได้ไงห่ะ ! ”

    “ ชางมิน ... ให้ฉันคุยกับแจจุงเถอะ ฉันรู้ว่าฉันผิด ... ฉันอยากขอโทษ ” ยูชอนเอ่ยบอกเพื่อนสนิทของร่างบางให้เห็นใจเค้าซักหน่อย

    “ ไม่ ! ” แล้วชางมินก็กดวางสายทันทีพร้อมกับถอดแบตโทรศัพท์ของแจจุงออกไปด้วย (นี้ก่ะว่าจะไม่ให้โทรหากันได้เลยใช่ไหมเนี่ย)

    “ ชางมิน ... นายทำแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยหรอ ยูชอนเค้าก็สำนึกผิดแล้วนะ ” แจจุงเอ่ยเสียงเบา เค้ารู้สึกสงสารยูชอนขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเพื่อนรักทำอะไรลงไป

    “ ไม่เกินไปหรอกแจจุง คนอย่างนายนั้นอ่ะนะมันต้องเจอแบบนี้ซะบ้าง ” ชางมินเอ่ยเสียงแข็ง

    “ ฉันยังรู้สึกว่านี้มันยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ น่าจะเล่นให้หนักกว่านี้ซักหน่อย ” แจจุงก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับความโหดของเพื่อนรัก แบบนี้ซินะถึงยังหาคนรู้ใจไม่ได้ซักที

    “ เอ่อ ! แจจุง คืนนี้นายนอนที่นี้นะ พรุ่งนี้นายค่อยกลับบ้าน ”

    “ ไม่เป็นไรหรอกชางมิน เกรงใจนายหน่ะ ”

    “ ไม่ต้องเกรงใจฉันเลยนะแจจุง ขื่นฉันให้นายกลับบ้านนะ นายได้ไปหาไอ้ยูชอนแน่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ”
    เฮ้ออออออออ ทำไมชางมินต้องรู้ความคิดเค้าทุกครั้งด้วยนะ

    มันดูเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วหล่ะสำหรับแจจุง ที่จะต้องแวะคอนโดของยูชอนก่อนกลับบ้าน และต้องไปหาชาย

    หนุ่มในตอนเช้าเพื่อที่จะได้ไปมหาวิทยาลัยพร้อมกัน

    สุดท้ายแจจุงก็ไม่สามารถขัดใจชางมินได้จำเป็นต้องนอนค้างที่นี้

    @@@@@@@@@@

    “ โถ่โว้ย ! ทำไมโทรไม่ติดวะ ” ยุชอนเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย จะไม่ให้อารมณ์เสียได้ไงในเมื่อเค้าโทรติดต่อร่างบางตลอดเวลาหลังจากที่ชางมินวางสายเค้าไปแบบนั้น แต่มันก็ไม่สามารถติดต่อได้

    “ ใจเย็นก่อนสิวะนายหน่ะ ” ยุนโฮที่นั่งมองเพื่อนซี้เรียนหนังสือในภาคบ่ายไปโทรศัพท์หาร่างบางไป แล้วอดสงสารไม่ได้เลยลากเพื่อนรักออกจากห้องมานั่งอยู่ที่หน้าคณะ แต่ไอ้เจ้าเพื่อนตัวดีมันก็ยังไม่เลิกกระวนวาย จนเค้าต้องบอกให้มันใจเย็น ก่อนที่เจ้าตัวจะเครียดจนหัวใจวาย

    “ ถ้าเป็นนายหล่ะ ! นายจะเย็นไหวไหม ”

    “ เอ่อ ! ถ้าเป็นฉันก็เย็นไม่ไหวหรอก แต่ถ้านายยังไม่เลิกเครียดกับการโทรศัพท์แล้วมานั่งคิดหาวิธีอื่นที่จะได้เจอแจจุงมันจะดีกว่าไหมห่ะ ”

    “ เอ่อออออออออ ขอโทษทีวะเพื่อน คนมันเครียด ” ยูชอนเอ่ยอย่างสำนึกผิด

    “ อืม ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่ตอนที่นายโทรไปหน่ะ แจจุงเค้าอยู่กับเพื่อนหรอ ”

    “ ใช่ ! เอ่อ ! ทำไมฉันคิดไม่ออกนะ แจจุงอยู่กับชางมิน งั้นก็ต้องอยู่ที่คอนโดชางมินหน่ะสิ ” ยุชอนเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มๆที่นึกอะไรขึ้นมาได้

    “ นึกได้แล้วสินะ นายหน่ะ ”

    “ ขอบใจนะโว้ย ! ยุนโฮ ที่พูดเตือนสติฉันหน่ะ ” ยุนโฮส่ายหน้าแทนคำตอบ

    “ นายหน่ะไปหาแจจุงเค้าได้แล้ว มัวแต่มานั่งรอให้มหาลัยเลิกก่อนหรือไงห่ะ ” ยุนโฮพูดแขวะเพื่อนรักที่ยังนั่งบื้ออยู่กับที่ทั้งๆที่รู้แล้วว่าควรจะไปเจอคนรักได้ที่ไหน -*-

    “ เออ ใช่ลืมไปเลย งั้นฉันไปก่อนนะโว้ย ! ” แล้วยูชอนก็รีบวิ่งไปที่รถของตัวเองที่จอดไว้ข้างๆคณะ

    ‘ ยูชอน ฉันอยากให้นายดูแลแจจุงให้ดีๆนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแย่งเค้ามาจากนาย เพราะฉันจะไม่มีวันทำให้เค้าเสียใจเป็นอันขาด ’

    @@@@@@@@@@

    “ แจจุง นายจะกินข้าวเลยไหม เดี๋ยวฉันไปอุ่นมาให้ ” เสียงของชางมินเอ่ยขึ้นจากห้องครัว

    “ อืม ก็ดีนะฉันหิวแล้วอ่ะ ” แล้วชางมินก็จัดการนำอาหารที่สั่งขึ้นมาอุ่นให้เพื่อนรัก
    15 นาทีผ่านไป ชางมินก็ออกมาพร้อมกับอาหารหลายอย่าง ที่น่าตาน่ากินจนแจจุงต้องรีบลุกออกจากโซฟาในห้องนั่งเล่น มาที่โต๊ะอาหารทันที

    “ ว้าวววววววว น่ากินจังเลย อพาร์ทเมนท์นายนี้มีอาหารน่ากินเยอะดีจังเลย ” แจจุงเอ่ยอย่างมีความสุข ‘ นี่คงจะหายเศร้าเรื่องยูชอนไปได้บ้างแล้วสินะ แล้วนี้ไอ้บ้านั้นมันไม่คิดจะตามมาง้อแจจุงหรือไงนะ ถึงยังไม่เห็นแม้แต่เงาเนี่ย ’ ชางมินคิดในใจพลางมองแจจุงที่กินข้าวอย่างมีความสุข

    “ นี่แจ นายไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่แย่งนายกินหรอน่า ” ชางมินเอ่ยแซว

    “ บ้า ! ฉันไม่ได้กลัวนายจะแย่งกินซะหน่อย ก็มันอร่อยนี้น่า ” ชางมินได้แต่แอบขำกับท่าทางของเพื่อน แบบนี้แหล่ะเค้าเรียกว่า กลัวคนอื่นจะมาแย่ง

    ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที อาหารน่าตาน่ารับประทานทั้งหมดได้หายเกลี้ยงไปอยู่ในกระเพาะน้อยๆของแจจุงเป็นที่เรียบร้อย

    “ โอ้โห แจจุง คบกันมาตั้งนานเพิ่งรู้นะเนี่ยว่านายก็กินจุเหมือนกัน ”
    “ อะไรกัน ฉันเพิ่งจะกินจุก็วันนี้วันแรกต่างหากหล่ะ นายอย่าเอาฉันไปเป็นพวกแบบเดียวกับนายได้ไหมห่ะ ไอ้กินจุ ” เอาแล้ว แจจุงคนเก่า comeback แล้ว

    แต่ก่อนแจจุงกับชางมินชอบทะเลาะกันบ่อยๆแต่เรื่องที่ทะเลาะกันนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรให้มาทะเลาะกันอย่างยิ่ง อย่างเช่นวันนี้เป็นต้น

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    “ แจจุง นายช่วยเก็บจานพวกนี้ให้หน่อยสิ ฉันจะไปเปิดประตู ” แจจุงพยักหน้ารับ แล้วเริ่มขนจานนับ 10 ใบเข้าห้องครัว

    ทางด้านชางมิน

    “ สักครู่นะคร้าบบบบบบบบบบ ” ชางมินตะโกนไปด้วยวิ่งไปที่ประตูด้วย ‘ ใครมาฟ่ะเนี่ย ’

    แอ๊ดดดดดดดดดดด

    เมื่อประตูเปิดออกชางมินก็พบกับบุคคลที่ทำให้เพื่อนของเค้าร้องห่มร้องไห้มากี่รอบต่อกี่รอบแล้ว

    “ ชางมิน ! ........... แจจุงอยู่ไหน ” ยุชอนเอ่ยถามขึ้นเมื่อมองหาแจจุงไม่เจอ

    ในขณะเดียวกัน แจจุงที่เก็บจานเข้าควรก็ได้ยินเสียงของยูชอน จึงวิ่งออกมาหา

    “ ยูชอน ! ” แจจุงเอ่ยอย่างดีใจ ‘ ยูชอนมาหาเค้าแล้ว ’

    “ แจจุง ! ผมขอโทษ ขอโทษที่ว่าคุณไปแบบนั้น ”

    “ แจจุง นี้นายจะออกมาทำไมเนี่ย ..... ” ชางมินเอ่ยอย่างเอื่อมระอากับเพื่อนรัก

    “ นี่ยูชอน ! นายยังมีหน้ามาขอคืนดีกับแจจุงอีกหรอ ..... นายรู้ตัวบ้างไหมว่าเคยทำให้เพื่อนฉันคนนี้ต้องหนีมาร้องไห้กับฉันเพราะนายกี่ครั้งแล้วตั้งแต่ที่แจเค้าไปคบกันนายน่ะ ” ชางมินเอ่ยอย่างสุดจะทนแล้ว ถ้ายังมีครั้งหน้าอีกเค้าคงได้ติดคุกข้อหาฆ่าคนตายอย่างแน่นอนเลย

    “ ชางมินพอเถอะ ..... ยูชอนเค้าก็มาขอโทษแล้วนี้ไง .... นายอย่าว่ายูชอนเค้าเลยนะ ” แจจุงที่เห็นว่าชางมินอารมณ์ยังไม่เย็นลงจึงเอ่ยอ้อนให้ชางมินอย่าโกรธยูชอนเลย

    “ เฮ้ออออออ แจจุง ... นายก็เป็นซะอย่างนี้อ่ะ .... ให้อภัยคนอื่นตลอดเวลา ... เห็นหรือยังยูชอน ที่เนี่นนายก็ช่วยทำตัวดีๆให้สมกับที่แจจุงเค้าเชื่อใจนายหน่อยนะ ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก นายได้ไปนอนอยู่ในโลงแน่ ”

    “ ฉันสัญญา ชางมินว่ามันจะไม่มีครั้งหน้าอีก ” ยูชอนเอ่ยให้คำสัญญา คำสัญญาที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างที่พูดไว้หรือเปล่า

    @@@@@@@@@@

    บนรถของยูชอน หลังจากที่ยูชอนได้ให้คำสัญญากับชางมินแล้วว่าจะไม่ทำให้แจจุงเสียใจอีก เค้าก็ได้พาแจจุงออกมาด้วย เค้าอยากพาแจจุงไปเที่ยวเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดที่มีต่อร่างบางที่เป็นคนรักของเค้า

    “ ยูชอน ...... ” เสียงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในตัวรถยนต์คันหรู

    “ คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอกแจจุง .... ผมขอโทษนะที่พูดแบบนั้นกับคุณ ผมรักคุณ แล้วก็คงจะรักคุณมากเกินไป มันเลยทำให้ผมระแวงกลัวคุณจะไปจากผม ผมรู้นะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมดูแลคุณในฐานะคนรักไม่ได้เลย คุณจะให้โอกาสกับผมอีกครั้งได้ไหมครับ ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด เท่าที่ผูชายอย่างผมจะทำได้ ได้ไหมครับแจจุง ”

    “ ความจริงแล้ว ยูชอนไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก ฉันว่ายูชอนทำอะไรที่มันเป็นตัวของคุณจะดีกว่านะ เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็รักยุชอนอยู่ดี คุณจะเป็นเดียวที่อยู่ในหัวใจของฉันนะ ยูชอน ” คำบอกรักของแจจุงถูกส่งผ่านไปยังยูชอน ที่แจจุงจะรู้ไหมว่าคำบอกรักเมื่อซักครู่ได้ทำให้ร่างสูงของคนรักถึงกับสะอึกขึ้นมาทันที

    แจจุงรักยูชอนเพียงคนเดียว ยูชอนจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของแจจุง

    แล้วตัวเค้าหล่ะ มันช่างแตกต่างจากร่างบางโดยสิ้นเชิง

    ยูชอนไม่ได้รักแจจุงเพียงคนเดียว แจจุงไม่ได้เป็นคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของยูชอน มันยังมีอีกคนที่เพิ่งเข้ามาแบ่งหัวใจ ของยูชอนให้ออกเป็น 2 ดวง

    แจจุง คือคนรักของเค้า

    คือคนที่ทำให้เค้ารู้จักกับความรักอันบริสุทธิ์

    แต่ใครอีกคนนั้นก็เข้ามาทำให้หัวใจของยูชอนและความรักที่มีให้แจจุงนั้นเริ่มลดน้อยถอยลงไป จนกระทั่งตอนนี้เค้าก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า เค้าจะยังรักแจจุงไปได้อีกนานแค่ไหน

    ‘ ขอโทษนะแจจุง ที่เอาความรักของคุณมาเล่นตลกแบบนี้ ’

    “ ยูชอน .... ยูชอน ... เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเรียกตั้งนานแล้ว ทำไมไม่ตอบหล่ะ ”

    “ อ้อ เอ่ออออออ ขอโทษทีนะแจ พอดีผมคิดอะไรเพลินๆหน่ะ ”

    “ เออ แล้วนี้ยูชอนจะพาฉันไปไหนหรอ ยังไม่ได้บอกเลยนะ ” ร่างบางเอ่ยถามอย่างสงสัย

    “ อ๋อ ผมจะพาแจจุงไปเที่ยวห้างหน่ะครับ แล้วตอนเย็นเราก็ไปหาร้านอาหารอร่อยๆทาน ดีไหมครับ ” ยูชอนเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

    “ อืม ดีสิ ยูชอนจะพาฉันไปไหน ฉันก็ชอบทั้งนั้นแหล่ะ ” แจจุงเอ่ยตอบ

    ณ ห้างดังใจกลางกรุงโซล

    แจจุงและยูชอนกำลังเดินซื้อของด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งเวลาก็ล่วงเลยเข้าใกล้สู่เวลาอาหารเย็น แจจุงจึงเอ่ยกับร่างสูงที่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษถือของให้ร่างบางอย่างออดอ้อน น่ารัก

    “ ยูชอน ... เราไปหาอะไรทานกันเถอะ ฉันหิวแล้วอ่ะ ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบแล้วส่งยิ้มไปให้ยูชอนที่ยืนอยู่ข้างกาย เล่นเอายูชอนอดที่จะหัวเราะไปกับปฏิกิริยาแบบเด็กๆของร่างบางไม่ได้

    “ ได้เลยครับเจ้าหญิง เดี๋ยวองครักษ์ยูชอนจะพาเจ้าหญิงไปเสวยพระกระยาหารเองนะขอรับ ” แล้วยูชอนก็ทำท่าผายมือให้เจ้าหญิงเดินนำไปก่อน

    “ อิอิ ยูชอนอ่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ฉันเป็นผู้ชายนะ จะเป็นเจ้าหญิงได้ไง ” แจจุงต่อว่า พลางก้มหน้างุดซ้อนใบหน้าของตัวเองที่คงจะแดงเถือกไปทั้งหน้าเรียบร้อยแล้ว แล้วยูชอนก็ขับรถไปยังร้านอาหารสุดหรู

    @@@@@@@@@@

    ณ ร้านอาหารสุดหรู

    “ เราไปนั่งข้างในหน่อยดีไหมครับแจจุง ” ยุชอนเอ่ยถามความเห็นจากร่างบาง

    “ อืม ก็ได้นะ แล้วแต่ยูชอนแล้วกัน ”

    “ อ้า งั้นเราไปนั่งตรงนั้นดีไหม ว่างพอดีเลย ” ยูชอนชี้ให้แจจุงดูที่นั่งที่เพิ่งจะว่างเมื่อสักครู่ เพื่อถามความเห็น

    “ อืม ตรงนั้นก็ได้ ” แล้วยูชอนก็เดินพาร่างบางไปยังโต๊ะ แต่ในระหว่างทางสายตาของยูชอนก็พลันไปเห็นใครคนหนึ่งที่คุ้นตานั่งทานอาหารอยู่คนเดียว

    “ อ้าว ! ยุนโ ฮ ”

    “ ไง ! ยูชอน อ้าว หวัดดีครับแจจุง ” ยุนโฮเอ่ยทักทายบุคคลทั้ง 2 ด้วยสีหน้าที่ยังงงๆอยู่

    “ แล้วนี้ทำไมนายมานั่งกินข้าวคนเดียวหล่ะเนี่ย ” ยูชอนถามอย่างสงสัย ก็ปกติเพื่อนเค้าคนนี้มักจะทานอาหารกับครอบครัวตลอด

    “ อ๋อ พอดีวันนี้พ่อกับแม่ฉันติดประชุมหน่ะตอนนี้ยังประชุมไม่เสร็จเลย แล้วก็เบื่อๆอาหารที่โรงแรม เลยมาหาอะไรข้างนอกกินหน่ะ ”

    “ อืม เอ่องั้นฉันกับแจจุงขอนั่งด้วยได้ไหม ”

    “ อืม เอาสิ ฉันเองก็เพิ่งสั่งอาหารไปเมื่อกี้นี้เอง นายจะสั่งอะไรเพิ่มไหมหล่ะ จะได้ขอเมนูเขา ” ยูชอนพยักหน้าให้ แล้วยุนโฮก็เรยกพนักงานในร้านเพื่อขอเมนูมาให้เพื่อนร่วมโต๊ะทั้ง 2

    ทั้งยูชอนและแจจุงต่างก็สั่งอาหารมาเพิ่มเติมอีกคนอย่าง 2 อย่าง บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีทีเดียว แต่บุคคลที่มาใหม่ทั้ง 2 นั้นจะรู้หรือเปล่าว่าสร้างความลำบากใจให้กับยุนโฮไม่น้อยเลย

    ไม่ใช่ว่าสูงรังเกลียดที่จะกินข้าวร่วมโต๊ะกับเพื่อน แต่มันเป็นเพราะว่า เค้าไม่อยากเห็นภาพบาดหัวใจ

    ภาพของยูชอนและแจจุง

    ภาพของร่างบาง คนที่ได้แต่แอบรักอยู่ข้างเดียว กำลังมีความสุขที่ได้กินข้าวร่วมกับคนรักในร้านอาหารสุดหรูแบบนี้

    ตอนนี้เค้ารู้สึกอิจฉาเพื่อนตัวเองขึ้นมาทันที ทำไมคนที่ได้ใกล้ชิดกับร่างบางถึงไม่ใช่เค้า
    ทำไมแจจุงถึงต้องยูชอนได้มากขนาดนี้ ทั้งๆเพื่อนของเค้าสร้างความเจ็บปวดให้กับแจจุงมามากเท่าไหร่แล้ว
    นี้คงเป็นเพราะอานุภาพของความรักของแจจุงที่มีให้กับยูชอน และเค้าคงไม่มีวันได้สัมผัส

    “ เฮ้ย ! ไอ้ยุนโฮ นายเป็นอะไรว่ะ เหม่ออยู่ได้ตั้งนาน ” ยุชอนเอ่ยถามเพื่อนรักที่เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวเล่นอยู่นานหลายนาที

    “ อ๋อ เปล่าหรอก ไม่ได้เป็นอะไร พอดีกำลังคิดโปรเจคที่ต้องส่งอาจารย์หน่ะ ” ยุนโฮเอาเรื่องเรียนเข้ามาอ้าง ที่จริงแล้วกับไอ้แค่โปรเจคที่อาจารย์สั่งครั้งนี้เค้าใช้เวลาไม่นานก็คิดออกแล้ว แต่ ณ สถานการณ์แบบนี้คงพูดความจริงออกไปไม่ได้

    “ โถ่ นึกว่าเรื่องอะไร นายไม่ต้องคิดมากหรอก ระดับสมองอย่างนายอ่ะนะ คิดแปปเดียวก็ได้แล้ว ”
    ขณะที่ยูชอนกำลังคุยกับยุนโฮอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

    RRRRRRRRRR

    “ เอ่อ ขอตัวแปปนะยุนโฮ แจจุง ” ทั้ง 2 ได้แต่พยักหน้าให้ แล้วหันกลับมาทานอาหารบนโต๊ะต่ออย่างเงียบๆ

    นอกร้านอาหาร

    “ ว่าไงครับ จุนซู .... โทรมาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ ”

    “ เอ่อ .... คือ .... ยูชอน .... คุณว่างหรอเปล่า มาหาผมที่คอนโดได้ไหมฮะ ”

    “ อืม ... ได้สิจุนซู ... งั้นหรอผมแปปนึงนะ ”

    “ ฮะ ... แล้วผมจะรอนนะ ”

    TBC

    TALK ::: สวัสดีค่ะ เราชื่อ จาร์ นะค่ะ

    นี้ก็แอบเอาฟิคเก่ามาลง

    แต่งไว้นานแล้วอ่ะค่ะ ..... เพิ่งไปขุดเจอ

    เลยเอามาลงให้ได้อ่านกัน

    ดีไม่ดียังไงบอกได้นะค่ะ ..... ยินดีรับฟังค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×