ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Part 1/4
ไม่รู้อะไรดลใจให้ฉันแอบรักแฟนของเพื่อน
ซึ่งก็ดูเหมือนเธอไม่คิดอะไรด้วยซ้ำไป
“ เฮ้ย ! ยุนโฮ ... นี้แจจุงแฟนฉันจำได้ไหมที่เคยเล่าให้ฟังหน่ะ ”
“ จำได้ซิว่ะ ฉันไม่ใช่ปลาทองนะ ที่จะความจำสั้นขนาดนั้นหน่ะ ”
“ สวัสดีครับ แจจุง ผมยุนโฮครับ ”
“ สวัสดีเช่นกันฮะ ยุนโฮ ยูชอนเค้าเล่าเรื่องของคุณให้ผมฟังบ่อยมากเลยฮะ ในที่สุดผมก็ได้เจอตัวจริงซะที ”
นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักกับแจจุง แฟนของยูชอน เพื่อนรักของผม
รอยยิ้มที่สดใส
น้ำเสียงหวานๆที่คอยชวนคุย ในยามที่ไม่รู้จะทำอะไร
ดวงหน้าหวานที่คอยแย้มยิ้ม หรือแม้แต่ในยามที่ถูกยูชอนหอมแก้มก็มักจะเบนหน้าหนี ซ้อนความอายเอาไว้
สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมไม่อาจลืมใบหน้านั้นได้ แม้แต่ยามหลับ ใบหน้านี้ก็จะตามมาอยู่ในฝันของผมทุกครั้งไป
แต่ผมก็คงจะไปสารภาพรักกับเค้าไม่ได้หรอกครับ ในเมื่อเค้าก็มีคนรักของเค้าอยู่แล้ว
ผมไม่กล้าหักหลังเพื่อนตัวเองได้หรอกครับ
ในเมื่อเค้ารักกันอยู่แล้ว ผมซึ่งมาทีหลัง คงทำอะไรไม่ได้นอกจาก ... ได้แต่แอบรักเค้าอยู่อย่างนี้ ...
ตลอดไป
ทั้งรู้ว่าผิดนะ แต่ก็รัก ไม่รู้ว่าทำไม
รู้แล้วก็เหยียบไว้ นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องไปจากชีวิตเธอ
@@@@@@@@@@
“ แจจุงคุณอธิบายมาทีซิ ว่าเมื่อวานคุณไปอยู่ที่ผับนั้นกับไอ้ซีวอนมันได้ไง ” ยูชอนตะคอกใส่แจจุงด้วยความโมโห
“ ทำไมฉันจะต้องไปที่ผับนั้นไม่ได้ด้วยหล่ะ ... ในเมื่อฉันก็ไปเพื่อแสดงความยินดีที่ซีวอนเค้าจะหมั้นกับฮีชอล ฉันผิดหรอ แล้วทีคุณหล่ะ คุณยังไปที่ผับนั้นโดยไม่บอกฉันซักคำ ฉันยังไม่ว่าอะไรคุณเลย ” แจจุงเอ่ยบอกด้วยความรู้สึกน้อยใจที่คนรักดูเหมือนจะไม่เชื่อใจเค้าเลยซักนิด ดวงตาคู่สวยเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตา แต่เจ้าตัวก็ไม่คิดที่จะเช็ดมันออก
“ ยูชอน ... คุณเคยเชื่อใจฉันบ้างไหม ” แจจุงถามเสียงเบาแต่ยูชอนกลับได้ยินชัดในทุกคำพูด ร่างสูงไม่ตอบเอาแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น เลยทำให้ร่างบางเลือกที่จะไปจากตรงนี้ .... จากไปทั้งน้ำตา
เหนื่อย .... เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องมาทะเลาะกันแบบนี้
“ เฮ้ย ! ยูชอน .... แจจุงเค้าเป็นอะไรหน่ะ ฉันเห็นเค้าวิ่งร้องไห้ออกไปเมื่อกี้เนี่ย .... หรือว่าพวกนายทะเลาะกัน ” ยุชอนได้แต่พยักหน้าตอบรับคำถามของร่างสูง ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมให้ยูชอน
“ ยุนโฮ ... ฉันควรทำยังไงดี .... ฉันไม่น่าว่าแจจุงแบบนั้นเลย ” ยูชอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล แจจุงไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย แจจุงไม่เคยเดินจากเค้าไปแบบนี้
“ ทีตอนนี้หล่ะพึ่งมาคิดนะไอ้เพื่อนบ้า ! ตอนจะพูดทำไมแกไม่คิดก่อนวะ ”
“ ทำไงได้วะ ก็ตอนนั้นฉันคิดมากนี้ ฉันกลัวว่าแจจุงเค้าไปมีคนอื่น แจจุงก็เอาแต่ปกป้องไอ้ซีวอน ฉันก็อารมณ์ขึ้นซิ ฉันไม่เคยเห็นแจจุงเป็นแบบนี้เลยนะ ” ยิ่งพูดยูชอนก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้น กลัวแจจุงจะโกรธเค้า
จนพาลไปเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ เอ่อ ! ฉันเข้าใจ ยังไงก็ไปง้อแจจุงเค้าด้วยหล่ะ ก่อนที่มันจะสายไป นายหน่ะผิดเต็มประตูเลย ... ดีแค่ไหนแล้วที่แจจุงเค้าไม่เห็นว่านายไปที่ผับนั้นกับใครหน่ะ ” คำพูดของยุนโฮประโยคนี้จี้ใจดำยูชอนเข้าไปเต็มๆ
เรื่องที่ยูชอนแอบไปมีคนอื่นนอกจากแจจุงนั้นไม่มีใครรู้นอกจากยุนโฮ
“ นายก็อย่าบอกแจจุงเค้าหล่ะ ”
“ ยูชอน ! นายเลิกทำแบบนี้ได้ไหมว่ะ .... เลือกคนใดคนหนึ่งไม่ได้หรอ ”
“ ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอกยุนโฮ ฉันตัดใจเลือกใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้จริงๆ ” ยูชอนได้แต่ทำสีหน้าลำบากใจ
“ เฮ้ออออออ มันก็แล้วแต่นายนะยูชอน ฉันเป็นคนนอก คงคิดอะไรแทนนายไม่ได้หรอก ยังไงก็อย่าลืมไปปรับความเข้าใจกับแจจุงเค้าด้วยหล่ะ ฉันไปเรียนหล่ะ ” แล้วยุนโฮก็โบกมือลาเพื่อนรัก พร้อมกับออกเดินไปที่คณะของตัวเอง พลางคิดว่า ถ้าเค้ามีความกล้ามากกว่านี้ เค้าคงจะบอกยูชอนไปว่า
‘ ถ้านายไม่รักแจจุงแล้ว ยกเค้าให้ฉันเถอะนะ ’ แต่ความเป็นเพื่อนมันเลยทำให้ร่างสูงเลือกที่จะเก็บคำพูดนี้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจ แทนที่จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด
ส่วนแจจุงนั้น หลังจากที่วิ่งออกมาเค้าก็ตรงไปยังอพาร์ทเมนท์ของเพื่อนรัก ..... ชางมินนั้นเอง
ในทุกๆครั้งที่เวลาแจจุงมีเรื่องทุกข์ใจอะไร เค้าก็มักจะไปหาชางมินตลอด ที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมของแจจุง
ก๊อก ๆ ๆ ๆ
“ ซักครู่นะครับ ..... มาแล้วคร้าบบบบบบ อ้าวแจจุง ! มีเรื่องอะ . ” ยังไม่ทันที่ชางมินจะพูดจบ แจจุงก็เข้ากอดชางมินทันที
“ ฮึก ... ฮือ ... ชางมิน ”
“ แจจุง ! เป็นอะไร ... ทะเลาะกับไอ้ยูชอนอีกแล้วใช่ไหม ” แจจุงพยักหน้ารับทั้งน้ำตา
“ เข้ามาข้างในก่อนนะแจจุง ” แล้วชางมินก็พาร่างของแจจุงมานั่งที่โซฟา
“ ไหนเล่าให้ฉันฟังซิ ว่านาย 2 คนทะเลาะเรื่องอะไรกัน ” แล้วแจจุงก็เริ่มเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้เขาและยูชอนทะเลาะกัน
“ ฮึก ... ยูชอนเค้า ... มะ ... ไม่เคยเชื่อใจฉันเลย ... ชางมิน ... ฮือ ... ”
“ มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ ... แจจุง ฉันว่านายเลิกกับมันเถอะ ” ชางมินเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์เสีย ทำไมเพื่อนรักของเค้าต้องมารักกับไอ้บ้านี้ด้วยก็ไม่รู้
“ มะ ... ไม่นะ ชางมิน ฉันรักยูชอน ฉันรักเค้า ... จะให้ฉันเลิกกับเค้าไม่ได้หรอก ”
“ โถ่เอ้ย ! แจจุง นายดูสิ่งที่มันทำกับนายซิ นายยังจะให้อภัยมันอีกหรอก กี่ครั้งแล้วที่นายต้องมานั่งร้องไห้กับฉัน
กี่ครั้งแล้วที่ยูชอนสัญญากับฉันว่าจะไม่ทำให้นายเสียใจอีก กี่ครั้งแล้วแจจุง ! ”
“ ....... ” แจจุงได้แต่นิ่งเงียบ เพราะเค้าไม่รู้จะตอบคำถามนี้ของชางมินอย่างไรดี แต่แล้วโทรศัพท์มือถือของแจจุงก็ดังขัดขึ้นมาก่อน
RRRRRRRR
“ ไม่ต้องเลยแจจุง ... ฉันรับเอง ” เสียงเรียกเข้าแบบนี้มันของยูชอนชัดๆ ชางมินเลยอาสารับโทรศัพท์แทน
“ ฮัลโล ! ”
“ ฮัลโล! แจจุง คุณอยู่ไหน ”
“ นี่ ! ยูชอน นายเลิกยุ่งกับแจจุงซักทีเถอะ ”
“ ชางมิน ! นี่นายอยู่กับแจจุงหรอ ”
“ ไม่ใช่มั้ง ! นายนี้ถามแปลกๆถ้าฉันไม่ได้อยู่กับแจจุงฉันจะรับโทรศัพท์ได้ไงห่ะ ! ”
“ ชางมิน ... ให้ฉันคุยกับแจจุงเถอะ ฉันรู้ว่าฉันผิด ... ฉันอยากขอโทษ ” ยูชอนเอ่ยบอกเพื่อนสนิทของร่างบางให้เห็นใจเค้าซักหน่อย
“ ไม่ ! ” แล้วชางมินก็กดวางสายทันทีพร้อมกับถอดแบตโทรศัพท์ของแจจุงออกไปด้วย (นี้ก่ะว่าจะไม่ให้โทรหากันได้เลยใช่ไหมเนี่ย)
“ ชางมิน ... นายทำแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยหรอ ยูชอนเค้าก็สำนึกผิดแล้วนะ ” แจจุงเอ่ยเสียงเบา เค้ารู้สึกสงสารยูชอนขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าเพื่อนรักทำอะไรลงไป
“ ไม่เกินไปหรอกแจจุง คนอย่างนายนั้นอ่ะนะมันต้องเจอแบบนี้ซะบ้าง ” ชางมินเอ่ยเสียงแข็ง
“ ฉันยังรู้สึกว่านี้มันยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ น่าจะเล่นให้หนักกว่านี้ซักหน่อย ” แจจุงก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับความโหดของเพื่อนรัก แบบนี้ซินะถึงยังหาคนรู้ใจไม่ได้ซักที
“ เอ่อ ! แจจุง คืนนี้นายนอนที่นี้นะ พรุ่งนี้นายค่อยกลับบ้าน ”
“ ไม่เป็นไรหรอกชางมิน เกรงใจนายหน่ะ ”
“ ไม่ต้องเกรงใจฉันเลยนะแจจุง ขื่นฉันให้นายกลับบ้านนะ นายได้ไปหาไอ้ยูชอนแน่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ”
เฮ้ออออออออ ทำไมชางมินต้องรู้ความคิดเค้าทุกครั้งด้วยนะ
มันดูเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วหล่ะสำหรับแจจุง ที่จะต้องแวะคอนโดของยูชอนก่อนกลับบ้าน และต้องไปหาชาย
หนุ่มในตอนเช้าเพื่อที่จะได้ไปมหาวิทยาลัยพร้อมกัน
สุดท้ายแจจุงก็ไม่สามารถขัดใจชางมินได้จำเป็นต้องนอนค้างที่นี้
@@@@@@@@@@
“ โถ่โว้ย ! ทำไมโทรไม่ติดวะ ” ยุชอนเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย จะไม่ให้อารมณ์เสียได้ไงในเมื่อเค้าโทรติดต่อร่างบางตลอดเวลาหลังจากที่ชางมินวางสายเค้าไปแบบนั้น แต่มันก็ไม่สามารถติดต่อได้
“ ใจเย็นก่อนสิวะนายหน่ะ ” ยุนโฮที่นั่งมองเพื่อนซี้เรียนหนังสือในภาคบ่ายไปโทรศัพท์หาร่างบางไป แล้วอดสงสารไม่ได้เลยลากเพื่อนรักออกจากห้องมานั่งอยู่ที่หน้าคณะ แต่ไอ้เจ้าเพื่อนตัวดีมันก็ยังไม่เลิกกระวนวาย จนเค้าต้องบอกให้มันใจเย็น ก่อนที่เจ้าตัวจะเครียดจนหัวใจวาย
“ ถ้าเป็นนายหล่ะ ! นายจะเย็นไหวไหม ”
“ เอ่อ ! ถ้าเป็นฉันก็เย็นไม่ไหวหรอก แต่ถ้านายยังไม่เลิกเครียดกับการโทรศัพท์แล้วมานั่งคิดหาวิธีอื่นที่จะได้เจอแจจุงมันจะดีกว่าไหมห่ะ ”
“ เอ่อออออออออ ขอโทษทีวะเพื่อน คนมันเครียด ” ยูชอนเอ่ยอย่างสำนึกผิด
“ อืม ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่ตอนที่นายโทรไปหน่ะ แจจุงเค้าอยู่กับเพื่อนหรอ ”
“ ใช่ ! เอ่อ ! ทำไมฉันคิดไม่ออกนะ แจจุงอยู่กับชางมิน งั้นก็ต้องอยู่ที่คอนโดชางมินหน่ะสิ ” ยุชอนเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มๆที่นึกอะไรขึ้นมาได้
“ นึกได้แล้วสินะ นายหน่ะ ”
“ ขอบใจนะโว้ย ! ยุนโฮ ที่พูดเตือนสติฉันหน่ะ ” ยุนโฮส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ นายหน่ะไปหาแจจุงเค้าได้แล้ว มัวแต่มานั่งรอให้มหาลัยเลิกก่อนหรือไงห่ะ ” ยุนโฮพูดแขวะเพื่อนรักที่ยังนั่งบื้ออยู่กับที่ทั้งๆที่รู้แล้วว่าควรจะไปเจอคนรักได้ที่ไหน -*-
“ เออ ใช่ลืมไปเลย งั้นฉันไปก่อนนะโว้ย ! ” แล้วยูชอนก็รีบวิ่งไปที่รถของตัวเองที่จอดไว้ข้างๆคณะ
‘ ยูชอน ฉันอยากให้นายดูแลแจจุงให้ดีๆนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแย่งเค้ามาจากนาย เพราะฉันจะไม่มีวันทำให้เค้าเสียใจเป็นอันขาด ’
@@@@@@@@@@
“ แจจุง นายจะกินข้าวเลยไหม เดี๋ยวฉันไปอุ่นมาให้ ” เสียงของชางมินเอ่ยขึ้นจากห้องครัว
“ อืม ก็ดีนะฉันหิวแล้วอ่ะ ” แล้วชางมินก็จัดการนำอาหารที่สั่งขึ้นมาอุ่นให้เพื่อนรัก
15 นาทีผ่านไป ชางมินก็ออกมาพร้อมกับอาหารหลายอย่าง ที่น่าตาน่ากินจนแจจุงต้องรีบลุกออกจากโซฟาในห้องนั่งเล่น มาที่โต๊ะอาหารทันที
“ ว้าวววววววว น่ากินจังเลย อพาร์ทเมนท์นายนี้มีอาหารน่ากินเยอะดีจังเลย ” แจจุงเอ่ยอย่างมีความสุข ‘ นี่คงจะหายเศร้าเรื่องยูชอนไปได้บ้างแล้วสินะ แล้วนี้ไอ้บ้านั้นมันไม่คิดจะตามมาง้อแจจุงหรือไงนะ ถึงยังไม่เห็นแม้แต่เงาเนี่ย ’ ชางมินคิดในใจพลางมองแจจุงที่กินข้าวอย่างมีความสุข
“ นี่แจ นายไม่ต้องรีบกินขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่แย่งนายกินหรอน่า ” ชางมินเอ่ยแซว
“ บ้า ! ฉันไม่ได้กลัวนายจะแย่งกินซะหน่อย ก็มันอร่อยนี้น่า ” ชางมินได้แต่แอบขำกับท่าทางของเพื่อน แบบนี้แหล่ะเค้าเรียกว่า กลัวคนอื่นจะมาแย่ง
ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที อาหารน่าตาน่ารับประทานทั้งหมดได้หายเกลี้ยงไปอยู่ในกระเพาะน้อยๆของแจจุงเป็นที่เรียบร้อย
“ โอ้โห แจจุง คบกันมาตั้งนานเพิ่งรู้นะเนี่ยว่านายก็กินจุเหมือนกัน ”
“ อะไรกัน ฉันเพิ่งจะกินจุก็วันนี้วันแรกต่างหากหล่ะ นายอย่าเอาฉันไปเป็นพวกแบบเดียวกับนายได้ไหมห่ะ ไอ้กินจุ ” เอาแล้ว แจจุงคนเก่า comeback แล้ว
แต่ก่อนแจจุงกับชางมินชอบทะเลาะกันบ่อยๆแต่เรื่องที่ทะเลาะกันนั้นล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรให้มาทะเลาะกันอย่างยิ่ง อย่างเช่นวันนี้เป็นต้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ แจจุง นายช่วยเก็บจานพวกนี้ให้หน่อยสิ ฉันจะไปเปิดประตู ” แจจุงพยักหน้ารับ แล้วเริ่มขนจานนับ 10 ใบเข้าห้องครัว
ทางด้านชางมิน
“ สักครู่นะคร้าบบบบบบบบบบ ” ชางมินตะโกนไปด้วยวิ่งไปที่ประตูด้วย ‘ ใครมาฟ่ะเนี่ย ’
แอ๊ดดดดดดดดดดด
เมื่อประตูเปิดออกชางมินก็พบกับบุคคลที่ทำให้เพื่อนของเค้าร้องห่มร้องไห้มากี่รอบต่อกี่รอบแล้ว
“ ชางมิน ! ........... แจจุงอยู่ไหน ” ยุชอนเอ่ยถามขึ้นเมื่อมองหาแจจุงไม่เจอ
ในขณะเดียวกัน แจจุงที่เก็บจานเข้าควรก็ได้ยินเสียงของยูชอน จึงวิ่งออกมาหา
“ ยูชอน ! ” แจจุงเอ่ยอย่างดีใจ ‘ ยูชอนมาหาเค้าแล้ว ’
“ แจจุง ! ผมขอโทษ ขอโทษที่ว่าคุณไปแบบนั้น ”
“ แจจุง นี้นายจะออกมาทำไมเนี่ย ..... ” ชางมินเอ่ยอย่างเอื่อมระอากับเพื่อนรัก
“ นี่ยูชอน ! นายยังมีหน้ามาขอคืนดีกับแจจุงอีกหรอ ..... นายรู้ตัวบ้างไหมว่าเคยทำให้เพื่อนฉันคนนี้ต้องหนีมาร้องไห้กับฉันเพราะนายกี่ครั้งแล้วตั้งแต่ที่แจเค้าไปคบกันนายน่ะ ” ชางมินเอ่ยอย่างสุดจะทนแล้ว ถ้ายังมีครั้งหน้าอีกเค้าคงได้ติดคุกข้อหาฆ่าคนตายอย่างแน่นอนเลย
“ ชางมินพอเถอะ ..... ยูชอนเค้าก็มาขอโทษแล้วนี้ไง .... นายอย่าว่ายูชอนเค้าเลยนะ ” แจจุงที่เห็นว่าชางมินอารมณ์ยังไม่เย็นลงจึงเอ่ยอ้อนให้ชางมินอย่าโกรธยูชอนเลย
“ เฮ้ออออออ แจจุง ... นายก็เป็นซะอย่างนี้อ่ะ .... ให้อภัยคนอื่นตลอดเวลา ... เห็นหรือยังยูชอน ที่เนี่นนายก็ช่วยทำตัวดีๆให้สมกับที่แจจุงเค้าเชื่อใจนายหน่อยนะ ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก นายได้ไปนอนอยู่ในโลงแน่ ”
“ ฉันสัญญา ชางมินว่ามันจะไม่มีครั้งหน้าอีก ” ยูชอนเอ่ยให้คำสัญญา คำสัญญาที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้อย่างที่พูดไว้หรือเปล่า
@@@@@@@@@@
บนรถของยูชอน หลังจากที่ยูชอนได้ให้คำสัญญากับชางมินแล้วว่าจะไม่ทำให้แจจุงเสียใจอีก เค้าก็ได้พาแจจุงออกมาด้วย เค้าอยากพาแจจุงไปเที่ยวเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดที่มีต่อร่างบางที่เป็นคนรักของเค้า
“ ยูชอน ...... ” เสียงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบในตัวรถยนต์คันหรู
“ คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอกแจจุง .... ผมขอโทษนะที่พูดแบบนั้นกับคุณ ผมรักคุณ แล้วก็คงจะรักคุณมากเกินไป มันเลยทำให้ผมระแวงกลัวคุณจะไปจากผม ผมรู้นะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมดูแลคุณในฐานะคนรักไม่ได้เลย คุณจะให้โอกาสกับผมอีกครั้งได้ไหมครับ ต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด เท่าที่ผูชายอย่างผมจะทำได้ ได้ไหมครับแจจุง ”
“ ความจริงแล้ว ยูชอนไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอก ฉันว่ายูชอนทำอะไรที่มันเป็นตัวของคุณจะดีกว่านะ เพราะไม่ว่ายังไงฉันก็รักยุชอนอยู่ดี คุณจะเป็นเดียวที่อยู่ในหัวใจของฉันนะ ยูชอน ” คำบอกรักของแจจุงถูกส่งผ่านไปยังยูชอน ที่แจจุงจะรู้ไหมว่าคำบอกรักเมื่อซักครู่ได้ทำให้ร่างสูงของคนรักถึงกับสะอึกขึ้นมาทันที
แจจุงรักยูชอนเพียงคนเดียว ยูชอนจะเป็นคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของแจจุง
แล้วตัวเค้าหล่ะ มันช่างแตกต่างจากร่างบางโดยสิ้นเชิง
ยูชอนไม่ได้รักแจจุงเพียงคนเดียว แจจุงไม่ได้เป็นคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของยูชอน มันยังมีอีกคนที่เพิ่งเข้ามาแบ่งหัวใจ ของยูชอนให้ออกเป็น 2 ดวง
แจจุง คือคนรักของเค้า
คือคนที่ทำให้เค้ารู้จักกับความรักอันบริสุทธิ์
แต่ใครอีกคนนั้นก็เข้ามาทำให้หัวใจของยูชอนและความรักที่มีให้แจจุงนั้นเริ่มลดน้อยถอยลงไป จนกระทั่งตอนนี้เค้าก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า เค้าจะยังรักแจจุงไปได้อีกนานแค่ไหน
‘ ขอโทษนะแจจุง ที่เอาความรักของคุณมาเล่นตลกแบบนี้ ’
“ ยูชอน .... ยูชอน ... เป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเรียกตั้งนานแล้ว ทำไมไม่ตอบหล่ะ ”
“ อ้อ เอ่ออออออ ขอโทษทีนะแจ พอดีผมคิดอะไรเพลินๆหน่ะ ”
“ เออ แล้วนี้ยูชอนจะพาฉันไปไหนหรอ ยังไม่ได้บอกเลยนะ ” ร่างบางเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ อ๋อ ผมจะพาแจจุงไปเที่ยวห้างหน่ะครับ แล้วตอนเย็นเราก็ไปหาร้านอาหารอร่อยๆทาน ดีไหมครับ ” ยูชอนเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
“ อืม ดีสิ ยูชอนจะพาฉันไปไหน ฉันก็ชอบทั้งนั้นแหล่ะ ” แจจุงเอ่ยตอบ
ณ ห้างดังใจกลางกรุงโซล
แจจุงและยูชอนกำลังเดินซื้อของด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งเวลาก็ล่วงเลยเข้าใกล้สู่เวลาอาหารเย็น แจจุงจึงเอ่ยกับร่างสูงที่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษถือของให้ร่างบางอย่างออดอ้อน น่ารัก
“ ยูชอน ... เราไปหาอะไรทานกันเถอะ ฉันหิวแล้วอ่ะ ” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบแล้วส่งยิ้มไปให้ยูชอนที่ยืนอยู่ข้างกาย เล่นเอายูชอนอดที่จะหัวเราะไปกับปฏิกิริยาแบบเด็กๆของร่างบางไม่ได้
“ ได้เลยครับเจ้าหญิง เดี๋ยวองครักษ์ยูชอนจะพาเจ้าหญิงไปเสวยพระกระยาหารเองนะขอรับ ” แล้วยูชอนก็ทำท่าผายมือให้เจ้าหญิงเดินนำไปก่อน
“ อิอิ ยูชอนอ่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ฉันเป็นผู้ชายนะ จะเป็นเจ้าหญิงได้ไง ” แจจุงต่อว่า พลางก้มหน้างุดซ้อนใบหน้าของตัวเองที่คงจะแดงเถือกไปทั้งหน้าเรียบร้อยแล้ว แล้วยูชอนก็ขับรถไปยังร้านอาหารสุดหรู
@@@@@@@@@@
ณ ร้านอาหารสุดหรู
“ เราไปนั่งข้างในหน่อยดีไหมครับแจจุง ” ยุชอนเอ่ยถามความเห็นจากร่างบาง
“ อืม ก็ได้นะ แล้วแต่ยูชอนแล้วกัน ”
“ อ้า งั้นเราไปนั่งตรงนั้นดีไหม ว่างพอดีเลย ” ยูชอนชี้ให้แจจุงดูที่นั่งที่เพิ่งจะว่างเมื่อสักครู่ เพื่อถามความเห็น
“ อืม ตรงนั้นก็ได้ ” แล้วยูชอนก็เดินพาร่างบางไปยังโต๊ะ แต่ในระหว่างทางสายตาของยูชอนก็พลันไปเห็นใครคนหนึ่งที่คุ้นตานั่งทานอาหารอยู่คนเดียว
“ อ้าว ! ยุนโ ฮ ”
“ ไง ! ยูชอน อ้าว หวัดดีครับแจจุง ” ยุนโฮเอ่ยทักทายบุคคลทั้ง 2 ด้วยสีหน้าที่ยังงงๆอยู่
“ แล้วนี้ทำไมนายมานั่งกินข้าวคนเดียวหล่ะเนี่ย ” ยูชอนถามอย่างสงสัย ก็ปกติเพื่อนเค้าคนนี้มักจะทานอาหารกับครอบครัวตลอด
“ อ๋อ พอดีวันนี้พ่อกับแม่ฉันติดประชุมหน่ะตอนนี้ยังประชุมไม่เสร็จเลย แล้วก็เบื่อๆอาหารที่โรงแรม เลยมาหาอะไรข้างนอกกินหน่ะ ”
“ อืม เอ่องั้นฉันกับแจจุงขอนั่งด้วยได้ไหม ”
“ อืม เอาสิ ฉันเองก็เพิ่งสั่งอาหารไปเมื่อกี้นี้เอง นายจะสั่งอะไรเพิ่มไหมหล่ะ จะได้ขอเมนูเขา ” ยูชอนพยักหน้าให้ แล้วยุนโฮก็เรยกพนักงานในร้านเพื่อขอเมนูมาให้เพื่อนร่วมโต๊ะทั้ง 2
ทั้งยูชอนและแจจุงต่างก็สั่งอาหารมาเพิ่มเติมอีกคนอย่าง 2 อย่าง บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีทีเดียว แต่บุคคลที่มาใหม่ทั้ง 2 นั้นจะรู้หรือเปล่าว่าสร้างความลำบากใจให้กับยุนโฮไม่น้อยเลย
ไม่ใช่ว่าสูงรังเกลียดที่จะกินข้าวร่วมโต๊ะกับเพื่อน แต่มันเป็นเพราะว่า เค้าไม่อยากเห็นภาพบาดหัวใจ
ภาพของยูชอนและแจจุง
ภาพของร่างบาง คนที่ได้แต่แอบรักอยู่ข้างเดียว กำลังมีความสุขที่ได้กินข้าวร่วมกับคนรักในร้านอาหารสุดหรูแบบนี้
ตอนนี้เค้ารู้สึกอิจฉาเพื่อนตัวเองขึ้นมาทันที ทำไมคนที่ได้ใกล้ชิดกับร่างบางถึงไม่ใช่เค้า
ทำไมแจจุงถึงต้องยูชอนได้มากขนาดนี้ ทั้งๆเพื่อนของเค้าสร้างความเจ็บปวดให้กับแจจุงมามากเท่าไหร่แล้ว
นี้คงเป็นเพราะอานุภาพของความรักของแจจุงที่มีให้กับยูชอน และเค้าคงไม่มีวันได้สัมผัส
“ เฮ้ย ! ไอ้ยุนโฮ นายเป็นอะไรว่ะ เหม่ออยู่ได้ตั้งนาน ” ยุชอนเอ่ยถามเพื่อนรักที่เอาแต่นั่งเขี่ยข้าวเล่นอยู่นานหลายนาที
“ อ๋อ เปล่าหรอก ไม่ได้เป็นอะไร พอดีกำลังคิดโปรเจคที่ต้องส่งอาจารย์หน่ะ ” ยุนโฮเอาเรื่องเรียนเข้ามาอ้าง ที่จริงแล้วกับไอ้แค่โปรเจคที่อาจารย์สั่งครั้งนี้เค้าใช้เวลาไม่นานก็คิดออกแล้ว แต่ ณ สถานการณ์แบบนี้คงพูดความจริงออกไปไม่ได้
“ โถ่ นึกว่าเรื่องอะไร นายไม่ต้องคิดมากหรอก ระดับสมองอย่างนายอ่ะนะ คิดแปปเดียวก็ได้แล้ว ”
ขณะที่ยูชอนกำลังคุยกับยุนโฮอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
RRRRRRRRRR
“ เอ่อ ขอตัวแปปนะยุนโฮ แจจุง ” ทั้ง 2 ได้แต่พยักหน้าให้ แล้วหันกลับมาทานอาหารบนโต๊ะต่ออย่างเงียบๆ
นอกร้านอาหาร
“ ว่าไงครับ จุนซู .... โทรมาหาผมมีอะไรหรือเปล่าครับ ”
“ เอ่อ .... คือ .... ยูชอน .... คุณว่างหรอเปล่า มาหาผมที่คอนโดได้ไหมฮะ ”
“ อืม ... ได้สิจุนซู ... งั้นหรอผมแปปนึงนะ ”
“ ฮะ ... แล้วผมจะรอนนะ ”
TBC
TALK ::: สวัสดีค่ะ เราชื่อ จาร์ นะค่ะ
นี้ก็แอบเอาฟิคเก่ามาลง
แต่งไว้นานแล้วอ่ะค่ะ ..... เพิ่งไปขุดเจอ
เลยเอามาลงให้ได้อ่านกัน
ดีไม่ดียังไงบอกได้นะค่ะ ..... ยินดีรับฟังค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น