รวมมิตรญี่ปุ่น

ลำดับตอนที่ #50 : Suica & ICOCA คืออะไร

     หลายคนคงงง คำนี้มันหมายถึงอะไร ไม่ต้องงงหรอกค่ะ เดี๋ยวจะเฉลยให้ฟังกันเด้อ...ว้าว รถไฟกำลังมา(รถไฟที่ญี่ปุ่นค่ะ) ตายแล้ว!!! ยังไม่ได้ซื้อตั๋วเลย เอ..ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะไปลงสถานีไหนดี เชื่อว่าหลายคนอาจเคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้ แถมรถไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อเรื่องตรงเวลาสุดๆ ทุกอย่างต้องเร่งรีบทำเวลา ถ้ายังลังเลตัดสินใจไม่ได้ แน่ๆเลยค่ะต้องพลาดรถไฟขบวนนั้นอย่างแน่นอน และที่ญี่ปุ่นก็ถือเรื่องเวลาเป็นสำคัญเสียด้วยสิ

ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อคุณซื้อตั๋วรถไฟประเภทจ่ายล่วงหน้า (prepaid fare card) ซึ่งออกให้โดย การรถไฟของญี่ปุ่น (Japan's train) หรือ บริษัทรถไฟใต้ดิน (Subway companies) จริงๆแล้วตั๋วประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ญี่ปุ่น และนับวันก็จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นแถมใช้งานได้หลากหลายอีกด้วย บัตรตั๋วที่ว่านี้เรียกว่า "Suica and ICOCA" บัตรทั้ง 2 ประเภทนี้ช่างอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้จริงๆ

สาเหตุที่เรียกว่า Suica และ ICOCA
Suica มาจากคำว่า "Suisui ikeru IC card" แปลว่า การ์ดที่ทำให้คุณผ่านไปอย่างรวดเร็ว เริ่มใช้ครั้งแรกออกโดย East Japan Railway Company เมื่อเดือน พ.ย. 2001 Suica ปัจจุบันถูกใช้ในบริเวณโตเกียวและบริเวณใกล้เคียง โดยเฉพาะแทบเซ็นได
ICOCA ทำงานหลักด้วยไอซี การ์ดชนิดนี้ออกโดย West Japan Railway Company และเริ่มใช้มาตั้งแต่ พ.ย. 2003 ในแถบคันไซตอนใต้ของญี่ปุ่น คำว่า "ICOCA" มาจากคำว่า "ICOCA de ikoka" หมายถึง ไปด้วยกันกับ ICOCA มั๊ย? (ikoka = Shall we go?) ปัจจุบันการ์ดชนิดนี้ถูกใช้ในแถบคินคิ (Kinki region)
การ์ดทั้ง 2 ชนิดนี้ฝังวงจรไอซีอยู่ในบัตรจึงใช้เป็นบัตรเครดิตได้ด้วย แผ่นการ์ดไอซีบางๆนี้สามารถบรรจุข้อมูลได้มหาศาล จึงทำให้การ์ดนี้แสดงถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของญี่ปุ่น มิใช่เป็นเพียงแค่แผ่นพลาสติกเท่านั้น

        มาดูวิธีการใช้งานการ์ด Suica & ICOCA
หลายปีมาแล้วที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้การ์ดที่ว่านี้ เนื่องจากว่าสะดวกสบาย ราคาขายจะขายเป็นเซ็ท มีราคา 3,000 เยน และ 5,000 เยน เมื่อคุณใช้การ์ดนี้ก็จะสามารถโดยสารรถไฟได้ตลอดจนกว่ามูลค่าในการ์ดจะหมดไป ยกตัวอย่างเช่น IO Card (ee-oh card) ออกให้โดย JR East สามารถใช้ได้ทั้งรถไฟของเอกชนและรถไฟสายใต้ดินในกรุงโตเกียว การ์ดนี้สามารถใช้ได้เรื่อยๆจนหมดมูลค่า อ๊ะๆ ยังไม่ต้องทิ้งนะคะ สามารถที่จะเติมเงินได้ในบัตรใบเดิม และก็ใช้ต่อได้ทันที ซึ่งการเติมเงินนี้สามารถเติมได้ไม่จำกัดจำนวน จนกว่าเจ้าของจะเห็นสมควรที่จะเปลี่ยนใบใหม่นั่นแหล่ะค่ะ ดังนั้นการ์ดทั้งคู่นี้จึงสนองนโยบายประหยัดทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ นอกจากนี้หากเราโดยสารรถไฟโดยวิธีปกติ คือไปซื้อตั๋วที่เครื่องอัตโนมัติ เมื่อเราต้องการลงสถานีที่ไกลกว่าตั๋วที่ซื้อ จะต้องไปเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมถึงจะออกจากสถานีได้ ซึ่งก็ต้องเสียเวลาอีกใช่มั๊ยคะ แต่ถ้าคุณใช้ Suica and ICOCA Card การ์ดนี้จะอำนวยความสะดวกให้คุณโดยการ์ดจะทำการคำนวณค่าเดินทางทั้งหมดจากสถานีต้นทาง จนถึงปลายทางแล้วมาหักจากมูลค่าในบัตร ด้วยการ์ดมหัศจรรย์นี้คุณสามารถโดยสารรถไฟของ JR ไปที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องไปปวดหัวกับเรื่องหยุมหยิมอีกแล้วค่ะ

     มาสคอท(Mascot) ประจำการ์ด
มาสคอทประจำการ์ด Suica คือ เพนกวิน ถูกออกแบบโดย Sakazaki Chiharu ส่วนมาสคอทประจำการ์ด ICOCA คือ ตุ่นปากเป็ด มีชื่อว่า Ico และการ์ด ICOCA ยังออกเวอร์ชั่นสำหรับเด็กออกมาด้วยเมื่อ สิงหาคม 2004 แต่น่าเสียดายที่ Suica ไม่ได้ออกเวอร์ชั่นนี้มาด้วย ซึ่ง Kids' ICOCA นี้จะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งสามารถโดยสารรถไฟในราคาครึ่งหนึ่งของราคาปกติ และมาสคอทประจำบัตร Kids'ICOCA มีชื่อว่า Icota และ Icomi

A Suica commuter pass ( East Japan Railway Company)	A ICOCA commuter pass
ICOCA commuter	ICOCA for kids (West Japan Railway Company)

      ชอปปิ้งด้วยการ์ด Suica
การ์ดนี้ยังอำนวยความสะดวกให้แกผู้ถือบัตรโดยใช้ซื้อสินค้ากับร้านค้าที่อยู่ภายในสถานีรถไฟได้อีกด้วย โดยจะเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ekinaka แปลว่า inside station ใช้ได้ทั้งบูธรถเข็น, คอนวีเนียนสโตร์ และยังรวมไปถึงคาเฟ่และร้านอาหารอีกด้วย เพียงคุณเอาการ์ดสัมผัสกับเครื่องอ่านที่อยู่ตรงเคาเตอร์ชำระเงิน คุณก็ชำระค่าสินค้าและอาหารได้เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าถ้าคุณมีการ์ดนี้ เวลาคุณอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าคุณแทบจะลืมกระเป๋าสตางค์ไปได้เลย นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าคุณสามารถใช้ Suica ตามร้านค้าทั่วไปที่อยู่นอกสถานีและมีป้ายว่ารับบัตรนี้ได้อีกด้วย นับวันก็ยิ่งให้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้นค่ะสำหรับ Suica (ส่วน ICOCA ณ ปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถใช้ชอปปิ้งได้ค่ะ)

       จะเห็นว่าการ์ดทั้ง 2 ประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสำหรับชาวญี่ปุ่น เพราะว่าอำนวยความสะดวกสบายได้มากมายและยังใช้ชอปปิ้งได้อีกด้วย เดิมทีทั้ง Suica และ ICOCA สามารถใช้ได้เฉพาะพื้นที่เท่านั้น คือ Suica จะใช้ในเขตโตเกียวและเซ็นได ส่วน ICOCA จะใช้แถบคินกิ แต่ว่าตั้งแต่ สิงหาคม 2004 ได้มีโครงการร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน ทำให้สามารถที่จะใช้การ์ดนอกพื้นที่ได้ นั่นหมายความว่า คุณสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปได้ทั้งคินกิ , คันไซ และพื้นที่อื่นด้วยบัตร Suica และบัตรประเภทเดียวกันนี้ที่ออกโดยบริษัทรถไฟเอกชนในคันไซ มีชื่อเรียกว่า Pitapa ก็มีโครงการมาร่วมจอยกับบัตรอื่นในเร็วๆนี้ด้วย และเมื่อนั้นเพียงบัตรเดียวก็สามารถไปได้ทั่วญี่ปุ่น ไม่ต้องพกหลายบัตรให้ปวดเฮดด้วยค่ะ