ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sea board

    ลำดับตอนที่ #3 : __บทที่ 2 : ความผูกพัน

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 49




                   บทที่ 2 : ความผูกพัน



                   ในห้องสี่เหลี่ยมโทนน้ำตาล เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนทำด้วยไม้ ของตกแต่งแต่ละชิ้นดูเก่า เสริมให้บรรยากาศของห้องนั่งเล่นนี้ขลังเสียจนถ้าไม่บอกคงไม่มีใครรู้ว่า นี่เป็นห้องที่เพิ่งผ่านการตกแต่งใหม่เมื่อไม่นานมานี้

    "ชอบไหม เซลีน" ร่างสูงกว่าเอ่ยถามเด็กสาวร่างเล็ก

    "อื้อ..สีน้ำตาลอีกแล้ว และก็มีแต่ไม้.. เหมือนที่แคนาดาเปี๊ยบ.. ไม่คิดจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้างหรือโมนิก้า?" เจ้าตัวช้อนตามองคนชอบของเก่า พลางนึกสงสัยว่าอะไรจะชอบเอิร์ทโทนมากขนาดนี้.. ได้โอกาสแต่งห้องใหม่ทั้งที ทำไมถึงได้คงความเป็นแอนทีคอย่างเสมอต้นเสมอปลาย บ้านเก่าที่แคนาดาก็เหมือนกัน โทนเดียวกันทุกห้อง ไม่มีความสดใสเอาเสียเลย

    เซลีนเดินสำรวจห้องครัวและห้องนั่งเล่นที่เชื่อมติดกัน พลางมองทีวีเครื่องใหญ่ที่ตั้งอยู่มุมห้อง

    ...ถ้ามีทีวีไม้ขาย โมนิก้าคงซื้อไปแล้วและห้องนี้ก็จะกลายเป็นป่าไร้ใบ!.. เธอนึกอย่างขันๆ

    "ห้องนี้ของเซลีน" โมนิก้าชี้ไปทางห้องที่ติดหน้าต่าง "ส่วนด้านนั้นห้องพี่" ทันทีที่เปิดประตูออก เซลีนก็ต้องร้องว้าว!

    ห้องนี้แปะด้วยวอลเปเปอร์สีเหลืองนวลอ่อน ข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในนั้นล้วนน่ารักและมีสีสดใส

    โมนิก้าหันมามองเซลีนที่ส่งสายฉงนว่า 'แต่งห้องแบบอื่นก็เป็นหรือ' ก็นึกอยากขยี้หัวเจ้าตัวกวนนัก

    "ยุ่งจริง.. พี่ให้อีริคหาคนตกแต่งให้น่ะ"

    เซลีนยิ้มแหะๆ แล้ววิ่งไปรอบๆอย่างดีใจเหมือนคนได้ของเล่นใหม่ ดวงตาโตสีฟ้าใสเปล่งประกายถูกใจ ผมสีบลอนด์ยาวหยักศกถึงเอวพลิ้วตามแรงขยับ ดูราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ โมนิก้ามองภาพนั้นยิ้มๆ ก่อนจะปลีกตัวไปแต่งห้องของเธอ

    -------------------------------------

    โมนิก้าเดินออกมาจากห้องมืดขนาดเล็กติดห้องนอนเธอ ห้องล้างรูปที่อิริคทำให้เป็นพิเศษ เธอก้มมองรูปปึกใหญ่ที่เพิ่งล้างเสร็จ ทั้งหมดเป็นรูปท้องฟ้า หากแต่ไม่มีรูปไหนที่ดูคล้ายกันเลย มีทั้งฟ้าครึ้ม ฟ้าคราม ฟ้ายามพระอาทิตย์ตกดิน ฟ้าหลังฝน หรือแม้กระทั่งภาพที่ดูสวยงามดั่งสวรรค์เปิดจากการสะท้อนของแสงอาทิตย์ยามเย็นต้องละอองบนท้องฟ้า

    มือเรียวทำหน้าที่ซ้อนภาพไปเรื่อยๆ ในขณะที่ตาเขียวใสดั่งทะเลกวาดมองรายละเอียด แล้วเธอก็ต้องสะดุดกับรูปถ่ายหนึ่ง..มันเป็นภาพถ่ายเส้นขอบฟ้า..

    ..หากปรากฏโครงร่างของบุรุษหนึ่งอยู่ในภาพด้วย..

    ร่างนั้นเห็นเป็นเพียงแค่เงา.. เงาของคนกำลังเล่นเจ็ตสกี!! ให้ตาย! เธอไปถ่ายติดเอามาตอนไหนนะเนี่ย

    แล้วโมนิก้าก็นึกออก เมื่ออาทิตย์ก่อนที่เธอมาไทย

    ...ภาพโรงพยาบาลแห่งหนึ่งผุดขึ้นในมโนภาพหร้อมกับเหตุการณ์ในอดีต

    "ที่นี่หรืออีริค.."โมนิก้ามองสำรวจหน้ารพ.ใหญ่ ในมือถือร่มสีฟ้าป้องกันฝนที่กระหน่ำตกลงมา

    "อืม! ดูใช้ได้ไหม?"เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางเขยิบเข้าไปใกล้โมนิก้าเพื่อเอาร่มกันให้เธออีกชั้น ..เธอเหม่อ..เสียจนถือร่มเอียงกะเท่เร่ปล่อยให้ไหล่เปียกฝน

    "ขอบคุณมากอีริค ที่นี่.."ร่างบางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเศร้า "..คงจะเหมาะกับเซลีนแล้ว"

    หลังจากเดินดูรอบๆโรงพยาบาลและตัดสินใจจะกลับโมนิก้าและอิริคก็สวนกับกลุ่มคนกลุ่มใหญ่หามหนุ่มที่น่าจะเป็นคนเจ็บเข้ามา.. เธอสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกุมมือของชายเจ็บคนนั้นไว้ พร่ำพูดอะไรสักอย่างที่เธอฟังไม่ออก ทำหน้าเจ็บปวดราวกับเป็นคนเจ็บเสียเอง

    แล้วโมนิก้าก็เดินนำอิริคออกจากโรงพยาบาล ทิ้งกลุ่มบุคคลนั้นไว้เบื้องหลังโดยไม่หันไปมองอีกเลย

    ..เธอเข้าใจผู้หญิงคนนั้นดี..เซลีน..หากทำได้.....พี่อยากเป็นแทนเธอเหลือเกิน..

    ..แล้วอิริคก็พาเธอไปพัทยา...อา..ใช่แล้ว ต้องถ่ายติดจากชายหาดที่นั่นแน่ๆ..

    "ทำอะไรอยู่หรือโมนิก้า"เสียงหนึ่งปลุกเธอออกจากภวังค์ ร่างสูงก้าวเข้ามาในห้องได้สักพักแล้ว แต่เธอเอาแต่จ้องรูปเหม่อลอย ดูจะไม่ได้สังเกตเลยว่า ไม่ได้อยู่ตรงนี้คนเดียว

    "อ่อ..กำลังเลือกรูปน่ะ จะเอามาแปะห้องเป็นวอลเปเปอร์" มือเรียวรีบสลับรูปแล้วนำไปกองรวมกับรูปที่คัดไว้แล้ว... "มาเมื่อไหร่น่ะ..ไม่รู้เลย"

    "ก็เธอ.." เขาหยุดคำพูด เมื่อเห็นโมนิก้าลากเก้าอี้มาเพื่อจะติดรูปดังที่ตั้งใจไว้ มือใหญ่เอื้อมไปหยิบรูปจากเธอ แล้วแบ่งเป็นสองส่วน "ผมช่วย.."

    -------------------------------------

    ในร้านกาแฟที่เบาบางด้วยผู้คน บุรุษผมน้ำตาลโบกมือให้ร่างที่เพิ่งจะสาวเท้ามาเป็นเชิงบอกว่าเขานั่งอยู่ตรงนี้

    "งานใหม่?" โมนิก้าถามเสียงเรียบ พลางพลิกดูเมนูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปสั่งกาแฟ...กับพนักงาน

    "อืม...เงินดี..แต่"เขาสบดวงตาสีน้ำทะเลคู่สวย "งานนี้..เกรงว่าเธอจะไม่อยากรับ"

    "อะไรล่ะ ฉันไม่เกี่ยงหรอก..คุณก็รู้ว่าฉันต้องการเงินจำนวนมาก..ถ้า"เสียงของเธอยังคงไม่บอกอารมณ์เหมือนเดิม หากเขาก็ขัดขึ้นก่อน

    "งานประเภทที่เธอไม่เคยรับ..และไม่คิดจะรับ จะทำหรือ.." ราวกับคำพูดประกาศิต ไม่มีเสียงใดๆรอดออกมากจากริมฝีปากทั้งสองคู่อีก

    ใบหน้านวลครุ่นคิดหนักเขาเห็นดังนั้นก็เสริมต่อ "ผมเห็นว่าจำเป็นหรอก..ถึงได้ลองถามดูไม่รับก็ได้นะ"

    "ไม่มีงานอื่นแล้วหรือ"สีหน้าของโมนิก้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด

    อิริคถอนหายใจ เขารู้ว่าเธอไม่ชอบงานประเภทนี้มากขนาดไหน.. "ตอนนี้ยังไม่มี" ครั้นเห็นเธอแสดงอาการผิดหวังอย่างรุนแรงเขาก็ทนไม่ไหว จึงลองเอ่ยประโยคที่เขาเคยพูดมาสักล้านครั้งแล้วได้

    "โมนิก้า..ถ้ายังไงเรื่องเงิน ฉันช่วย.."

    "ไม่!!" เธอสวนกลับทันควันและคำตอบก็ยังคงเป็นเช่นเดิม "ฉันไม่อยากเป็นหนี้ใคร..ฉันช่วยตัวเองได้"

    ให้มันดื้อได้อย่างนี้สิน่า

    "แต่เรื่องนี้ผมปล่อยไม่ได้..คุณจะไปหาเงินจำนวนมากมาจากไหนในเวลาอันสั้น งานที่มีก็ไม่อยากจะรับ..ให้ผมช่วย.."

    "ฉันบอกว่าไม่"คราวนี้เธอเอ่ยเสียงเย็นเยียบ

    "ผมรักเซลีนเหมือนน้องแท้ๆ ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจ"เขาชักเริ่มโมโหหน่อยๆแล้ว

    โมนิก้าจะอ้าปากเถียง แต่พนักงานกลับมาเสิรฟ์กาแฟเสียก่อน เป็นอันยุติการโต้แย้ง..อิริคยกถ้วยขึ้นดื่มดับอารมณ์ ส่วนโมนิก้าก็เฝ้าคนกาแฟในถ้วยอย่างใช้ความคิด

    "…"

    "ซีลีนเป็นน้องของฉัน ไม่ใช่น้องคุณ โปรดจำเอาไว้"พอเริ่มเอ่ยปากก็ชักเรื่องเสียเสียแล้ว

    ได้ยินดังนั้นเขาก็รู้ว่าเธอโกรธจริง ปกติโมนิก้าเป็นคนเงียบ..เงียบมาก เป็นคนสุภาพ เก็บตัว และไม่มีเพื่อน ถึงจะไม่ได้ให้ความสนิทสนมกับใคร แต่เธอก็เป็นคนมีมารยาท พูดจาดีเสมอ หากเธอเริ่มพูดจาทำนองนี้แสดงว่า...โกรธจริง..จนคุมอารมณ์ไม่อยู่

    คำพูดต่อมาของเธอทำเขาใจหายวาบ

    "ฉันยังไม่ลืมเรื่องนั้น..ไม่มีวันลืมอีริค"

    เสียงทั้งหมดถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ..เขาพูดอะไรไม่ออก..

    ..เมื่อไหร่หนอ เธอถึงจะยอมเปิดใจ..

    ..เมื่อไหร่หนอ เธอถึงจะยอมยกโทษให้..

    ..เมื่อไหร่หนอ เธอถึงจะยอมลืมเรื่องนั้นไป..

    ..เขายอมทำทุกอย่าง เพื่อให้เธอกลับมาเรียกเขาว่า 'พี่ชาย'..

    "ฉันจะยอมรับงาน ว่ารายละเอียดมา"

     -------------------------------------

     "อย่าดื้อ"

    "อื้อ"

    "ห้ามหักโหม"

    "อื้อ"

    "ถ้ามีอะไรให้โทรหาพี่"

    "อื้อ"

    "ไม่ได้ฟังพี่เลยใช่ไหม"

    "อื้อ"

    "เซลีนนน" โมนิก้าเอ่ยเสียงเขียว

    พอเจ้าตัวน้อยรู้ว่าทำพลาดก็วิ่งจู๊ดเข้าโรงเรียนนานาชาติไป อย่างกลัวโดนดุ แถมตะโกนดังๆส่งท้าย

    "โกรธมากระวังเหี่ยวเร็วนะ"

    โมนิก้านึกอยากทุบเด็กซ่าขึ้นมาเสียเฉยๆ มองตามร่างเล็กไปด้วยความกังวล ..เพิ่งบอกหยกๆว่าอย่าหักโหม..จะเป็นอะไรไหมนั่น..

    โมนิก้าก้าวขึ้นรถที่อีริคจอดรออยู่แล้ว เธอหันไปมองใบหน้าคมอย่างพินิจ ตั้งแต่คราวนั้น เธอกับเขาก็พูดกันแทบนับคำได้.. อีริคทำเพื่อเธอหลายอย่าง เธอเข้าใจว่าเขาหวังดี.. แล้วเจ้าตัวก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ

    "อิริค"

    "หืม" ตายังคงมองถนนข้างหน้า ไม่ได้ชำเลืองมาแม้เพียงนิด

    "ขอโทษ"

    เพียงแค่นั้นใจของเขาก็ชื้นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เขายิ้มอ่อนโยน สีหน้าผ่อนคลายขึ้นมาทันใด

    "ขอบคุณ" คำที่เอ่ยตอบไปช่างไม่ได้เข้ากันเลย..

    ..แค่คำเดียวก็เกินพอแล้วน้องรัก..

    ..เวลาระหว่างเราที่หายไป..พี่จะชดเชยอย่างเต็มความสามารถ..

    ..ความอบอุ่นที่น้องโหยหา..พี่จะเติมให้เต็ม..

    ..อย่าเหงาอีกเลย..โมนิก้า..

    "ว่าแต่นายแบบชื่ออะไรนะอีริค"เธอถามอย่างหมั่นไส้ เมื่อเห็นเขาทำหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตั้งแต่เมื่อครู่

    "ไม่ทันไรลืมซะแล้ว"เขาพูดอย่างขำๆ

    "ก็ชื่อจำยาก" คนพูดน้อยแอบเถียง

    อีริคส่ายหัวทำนองว่าไม่ไหวเลย ยั่วโทสะสาวแคนาดาได้ดีนัก"คราวนี้จำให้แม่นก็แล้วกัน จะไปทำงานกับเขาอยู่แล้ว ชื่อยังจำไม่ได้..เขาชื่อ ดรันต์ ศิริพงศ์ "

















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×