ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sea board

    ลำดับตอนที่ #2 : _บทที่ 1 : นางฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 49


               

            บทที่ 1 : นางฟ้า




             สายฝนที่ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า บดบังแสงแรกของวันใหม่ เหมือนจะเป็นม่านกำบังแสงแห่งความสดใสเพื่อที่จะกักขังความเศร้าหมองให้คงอยู่คู่กับเขา ดรันต์ ศิริพงศ์

             ทำไมวันนี้ฝนต้องตกอีกแล้ว

             ทำไมต้องเป็นวันนี้

             วันนี้เมื่อ 8 ปีก่อน

             บรรยากาศรอบตัวของวันนี้ช่างทำให้หวนคิดถึงเรื่องเมื่อ 8 ปีก่อนเสียจริง หากจะต่างก็คงเป็นที่เขาไม่ใช่เด็กชายที่อายุเพียง 14 ปี ผิวที่เคยขาวเนียนก็กลายมาเป็นคล้ำแดด ร่างกายที่เคยไร้กล้ามเนื้อก็กลายเป็นมีกล้ามอย่างนักกีฬาอาชีพ อีกทั้งความสูง 183 เซนต์ของเขาอีก นัยน์ตาสีนิลว่างเปล่าไร้อารมณ์ มองทอดไปยังสิ่งแวดล้อมรอบตัว มือที่ปล่อยวางแนบลำตัวถูกยกขึ้นสัมผัสกับหยาดฝนที่คอยพร่ำเตือนเรื่องวันวานให้แก่เขา...

    เกลียดจริงๆ ท้องฟ้าที่หลั่งน้ำฝนลงมา

    "รันต์!!!!!" เสียงตื่นตระหนกที่ดังมาก่อนผู้เป็นเจ้าของ เรียกให้ ดรันต์ หันไปยังที่มาของเสียง

    "..." เขาไม่เอ่ยคำใดตอบไป เพียงแต่ใช้ดวงตาว่างเปล่าสบมองร่างสตรีที่วิ่งฝ่าสายฝนมาอยู่เบื้องหน้าเขา ผมสีดำยาวที่จัดเป็นทรงเก๋ๆของเธอถูกสายฝนทำให้เสียทรง เสื้อผ้าที่ดูภูมิฐานก็ถูกเม็ดฝนทำลายความภูมิฐานนั้น

    "มาทำอะไรอยู่ที่นี่ หึ? เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก" น้ำเสียงเล่นๆแต่แฝงด้วยความห่วงใย

    "..." มือที่ยื่นไปรับเม็ดฝนเมื่อครู่เปลี่ยนมาจับหัวไหล่มนของหญิงสาวที่มีอาการหอบหน่อยๆจากการวิ่ง ศีรษะของเธออยู่เพียงหัวไหล่ของเขา ดรันต์จึงต้องโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อที่จะวางศีรษะของตัวเองลงบนไหล่ของเธอ

    "ไป... เข้าร่มก่อน ชั้นไม่อยากให้นักกีฬาของชั้นต้องล้มหมอนนอนเสื่อเหมือนปีที่ผ่านๆมาอีก"

    ตุบบบบบบบบบบบบ!!!!!!!!!!

    พูดไม่ทันขาดคำ ร่างล่ำ ก็เซล้มไปทางหญิงสาวผู้จัดการส่วนตัวของตัวเองทันที

    เนื่องด้วยผู้จัดการส่วนตัวสาวไม่ทันได้ตั้งตัวก่อน จึงพยุงร่างที่ใหญ่กว่าได้ไม่นาน ก็ล้มลงไปกองกับพื้นหญ้าแฉะๆ ในสวนหย่อมของโรงพยาบาลก่อนที่จะมีบุรุษพยาบาลมาช่วยกันหามทั้งคนป่วยและคนไม่ป่วยเข้าไปรักษาตัว

    "ไม่เป็นไรค่ะ แค่มีแผลทะถอกนิดหน่อย ไม่ต้องลำบากคุณพยาบาลหรอกค่ะ" ผู้จัดการส่วนตัวของดรันต์ ปฏิเสทการทำแผลเล็กๆน้อยๆ จากพยาบาลสาวที่เข้าเวรอยู่อย่างสุภาพ แล้วดึงความสนใจของพยาบาลที่มีต่อแผลของตนไปที่ชายหนุ่มที่ยังไม่ได้สติแทน

    "ไปดูรันต์ กันดีกว่าค่ะ รายนั้นน่าเป็นห่วงกว่ากันเยอะ" โดยไม่รอคำตอบรับ นันทนัช ก็จูงมือพยาบาลสาวไปยังเตียงคนป่วยฉุกเฉินทันที

    ผู้จัดการส่วนตัวทอดสายตามองร่าง บุรุษที่อยู่ภายใต้การดูแล นอนหลับสนิทนิ่ง หน้าซีดเผือด ราวกับคนไร้วิญญาณ

    นักกีฬาของชั้น ปกติเธอจะแข็งแรงต่อให้เอาไฟมารนหรือเอาน้ำแข็งมาจ่อ เธอก็จะไม่เป็นอะไรง่ายๆ ไม่ใช่หรอ รันต์

    เธอ เป็น นักกีฬาที่เพอร์เฟ็ค ไปซะทุกอย่างไม่ใช่หรอ รันต์

    เหมือน

    เหมือนปีที่แล้ว

    เหมือนปีก่อนๆ...

    1 วันนี้ที่เธอจะเผยความอ่อนแอออกมา

    1 วันเดียวกันในทุกๆปี ตลอด 7  ปีที่ผ่านมา

    นันทนัช ใคร่ครวญในใจพลางนึกถึงเหตุการณ์คล้ายๆกันนี้ที่ผ่านไป ปีแล้วปีเล่า ราวกับจะเป็นภาพหนังฉายซ้ำไปมา

    ทั้งๆที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ให้ปีนี้เป็นเหมือนปีที่แล้ว

    ทั้งๆที่เตรียมการป้องกันไปแล้ว

    แต่ ชั้น ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนเดิม

    "เฮ้ออออออ………." นันทนัช ถอนใจเสียงดังอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะกุมมือเย็นชืดของ ดรันต์ อย่างทะนุถนอม บีบบ้างนวดบ้าง หวังจะให้ร่างไร้สติได้มีสติขึ้นมา

    "รันต์.... นัท อยู่นี่ อยู่ข้างๆคุณเสมอนะ" นันทนัช กระซิบกับร่างที่ยังคงหลับไม่ได้สติอยู่ แล้วก็ฟุบนอนลง ใช้มือตัวที่กุมมือเขาอยู่เป็นหมอนหนุน เธอเลยไม่ได้เห็นรอยยิ้มที่ดรันต์เผยออกมาอย่างไม่รู้ตัว

    ...

    ...

    ...

    "คุณนันท์" เสียงทุ้มปลุกเธอจากห้วงนิทรา

    "... รันต์ ตื่นแล้วหรอ... อ้าว..นี่มัน.." นันทนัชถามทันทีที่ตาสว่าง เธอมองบรรยากาศรอบตัว... ไม่ใช่โรงพยาบาล... แต่เป็นท้องถนนหน้าบ้านของเธอ เธอกำลังอยู่บนรถของ ดรันต์

    "ถึงบ้านแล้วครับ คุณผู้จัดการสุดสวย" ดรันต์เล่นเสียงล้อเลียน นันทนัช เป็นปกตินิสัยของเขาเสียแล้วที่ชอบแหย่แกล้งเธอ

    "ยะ! รู้แล้วว่าถึงบ้านชั้นแล้ว มีตายะ มีตา ชั้นมองเห็นน่า...." นันทนัช ตอบกลับเล่นๆ ก่อนจะใช้น้ำเสียงจริงจัง "รันต์ไม่เป็นไรแล้วนะ... กลับมาเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย" มือเล็กของผู้จัดการสาวยกขึ้นลูบแก้มสีแทนอย่างนุ่มนวล

    "คร๊าบผม... มิสเตอร์เพอร์เฟ็คกลับมาแล้วครับคุณนันท์" เขาตอบพลางยกมือตะเบะเหมือนที่ยามหน้าหมู่บ้านของ นันทนัช ทำเวลาให้รถผ่านเข้า-ออก

    "พูดไม่อายปาก....แต่ก็ดีแล้ว เอ้าๆ!!! แล้วก็รีบกลับบ้านเข้าล่ะ อย่าให้ป่วยอีกเข้าใจ๋" ผู้จัดการส่วนตัวสั่งคนในอาณัติทันที แล้วก็พาร่างโปร่งที่สภาพค่อนข้างมอมแมมลงจากรถกลับเข้าบ้านไป

    "ขอบคุณครับ....คุณนันท์" ดรันต์เอ่ยขอบคุณ สตรีที่จากไปแล้วกับตัวเอง ก่อนจะเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าไปกลับไปบ้านศิริพงศ์

    ขอบคุณที่คอยดูแลผมตลอดมาในทุกช่วงเวลา

    ขอบคุณที่ไม่ทิ้งผม... คุณนันท์

    ...

    ...

    ...

    เมื่อเดินเข้าบ้าน นันทนัช เข่าอ่อนทรุดตัวลงกับพื้นเมื่อจินตนาการไปถึงเหตุการณ์ตอนที่ตัวเองหลับ... รันต์ต้องเป็นคนอุ้มเธอขึ้นรถแน่ๆ... หน้าขาวไปถึงใบหูขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามไม่ได้

    น่าเสียดายที่หลับลึกจนไม่รู้สึกตัว...

    ดรันต์ เธอจะรู้ความรู้สึกของชั้นมั้ยน้า

    กริ้งงงงง  กริ้งงงงง

    เสียงโทรศัพท์ ดังเรียกคนกำลังฝันหวานให้ตื่นจากภวังค์

    "ค่ะ" นันทนัชรับสายอย่างปกติ

    "..."

    "ค่ะ จำได้ค่ะ ที่พัทยาใช่มั้ยคะ"

    "..."

    "ค่ะ เดี๋ยวนัทบอกรันต์ให้ค่ะ... ค่ะ แค่นี้นะคะ"

    นันทนัช วางสาย แล้วก็ต่อสายถึง ดรันต์ ทันที

    ตูดดดดดดด ตูดดดดดดดดด

    "ฮาโหลคับ"

    "รันต์ มีแข่งที่พัทยามะรืนนี้ รายการไม่ใหญ่แต่เพื่อการกุศล รันต์ จะไปรึเปล่า"

    "ไป ไปสิครับ งานกุศลไม่ไปได้ไง"

    "แต่รันต์เพิ่งหาย... จะไหวหรอ"

    "เพิ่งหายอะไรคุณนันท์ ไม่ได้เป็นอะไรต่างหาก สบาย เบ เบ เลยครับเนี่ย ให้ผมรับงานนี้นะครับ คุณนันท์"

    "..."

    "รับรอง ร่างกาย 100% เลย จริงๆนะ"

    "ห้ามหักโหม ถ้าชั้นเห็น รันต์ท่าทางไม่ไหว ชั้นถอนเธอแน่ๆ ไม่ไว้หน้าด้วย เค?"

    "คร้าบๆ"

    "อืมม์ งั้นแค่นี้นะ นอนแต่หัวค่ำด้วยล่ะ แล้วพรุ่งนี้จะไปรับ ไปที่นั่นก่อนจะได้ลองสนาม ถึงเป็นรายการเล็กแต่ก็ควรรักษาระดับเข้าใจมั้ย"

    "คร้าบๆ"

    "อืมม์ งั้นวางจริงๆแล้ว บาย ฝันดีน้า"

    ดรันต์ โยนโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงนอนด้วยความเคยชิน ความเหนื่อยอ่อนของร่างกายแทบจะหายเป็นปกติเมื่อได้รู้ว่าจะมีการแข่ง jet ski สำหรับเขา เขาไม่เคยคิดจะเกี่ยงงานใดๆที่เกี่ยวข้องกับ jet ski เลย ไม่ว่างานเล็ก งานใหญ่ เขามักจะรับหมด แต่บางที คุณนันท์ผู้จัดการส่วนตัวของเขาก็มักจะตัดงานบางงานออกไป ด้วยว่ากลัวว่า เขา จะไม่สบาย เหนื่อยตายเพราะทำงาน

    ดรันต์หลับตาลงนึกถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา คุณนันท์มักอยู่ในภาพความทรงจำของเขาตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เธอเข้ามาช่วยฉุดดึงเขาออกมาจากหลุมลึก ที่เขาเป็นคนขุดมันเอง ถ้าไม่มีเธอ เขาจะเป็นอย่างไร

    คุณนันท์ นางฟ้าของผม

    นางฟ้าประจำตัวที่คอยช่วยเหลือ

    นางฟ้าที่อยู่เฝ้าเป่าปัดฝันร้ายของผม จนเธอเผลอหลับไปเอง

    นางฟ้าจะเป็นอย่างนี้ทุกที ตลอด 7  ปีที่ผ่านมา

    ขอบคุณเธอ คุณนันทนัช ดำรงฤทธิ์

    ...

    ...

    ...

    กริ้งงงงง  กริ้งงงงง

    กริ้งงงงง  กริ้งงงงง

    ร่างบุรุษล่ำ นอนอยู่บนเตียงขนาน 6 ฟุต มีผ้าห่มผืนหนานุ่มห่อหุ้มตัวอยู่ ถูกปลุกด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือข้างหมอน

    "ฮาาาาโหล ค้าบ" เขารับโทรศัพท์อย่างงัวเงีย

    "รันต์!!!!!! ตื่น! อาบน้ำ! แต่งตัว! แล้วลงมาได้แล้ว อ่อไม่ต้องจัดของชั้นทำเตรียมให้แล้วนะ เร็วๆนะรถจะได้ไม่ติด ชั้นรออยู่ข้างล่างนะ บาย.....เร็วๆล่ะ"

    ตูด ตูด ตูด ตูด ตูด

    นันทนัช สั่งยาวรวดเดียวไม่หายใจแล้วก็ตัดสายไป

    "คร้าบบบบ" คนที่ยังสลึมเสลืออยู่ตอบกลับโทรศัพท์ที่ไร้สัญญาณ

    ดรันต์ค่อยๆพาร่างนักกีฬาของตัวเองที่ใส่แค่กางเกงขาสั้นหลวมๆออกจากห่อผ้าห่ม ไปยังห้องน้ำ ห้องแต่งตัว แล้วก็ลงไปยังห้องรับแขกที่ชั้นล่างของบ้าน เขาเห็นคุณนันท์พูดจาเจื้อยแจ้ว อยู่กับบุพการีของเขาอย่างเป็นกันเอง

    ...จะไม่ให้เป็นกันเองได้ไงล่ะ รู้จักกันมาตั้ง 7  ปีแก่ๆแล้ว รู้ไส้รู้พุงกันหมดไม่เหลือแล้ว ก็เล่นมารู้จักกันตั้งแต่ยังเรียนแล้วทำงานพิเศษ จนเรียนจบ ทำงาน...

    "คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวหนูจะดูแล รันต์ให้เองค่ะ รับรองด้วยเกียรติ์ของดำรงฤทธิ์ เลยค่ะ" สาวผู้จัดการส่วนตัว คนสนิทของบ้านศิริพงศ์ ให้คำมั่นสัญญาด้วยท่าทีทีเล่นทีจริง จนผู้ใหญ่ทั้งสองคนอดอมยิ้มไม่ได้

    "ไม่ต้องถึงขนาดนั้นแม่ก็เชื่อใจหนูนัทจ๊ะ" พูดจบบุพการีของ ดรันต์ก็หันมายิ้มให้กันแล้วยังเผื่อแผ่ให้คนใกล้ตัว ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ดรันต์ และ นันทนัช

    "ผมสิที่ต้องดูแล คุณนันท์ ไม่ใช่ให้คุณนันท์มาดูผมนะแม่" ดรันต์โวยเมื่อคนรอบตัวมักมองว่าเขาเป็นเด็ก ทั้งๆที่เขาอายุน้อยกว่า นัท เพียง 6 ปีเท่านั้นเอง

    บรรยากาศในห้องรับแขกบ้านศิริพงศ์เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แต่ นันทนัช หญิงสาวต่างสกุลกลับมองเห็นความเศร้าสร้อยที่แอบแฝงอยู่... ในแววตาของทุกคนในบ้านหลังนี้

    "ไปดีมาดีนะ ลูกๆ"  ผู้เป็นพ่อเอ่ยไล่หลังรถเก๋งคันงามสีดำขลับก่อนที่ เจ้าลูกชายนักกีฬาจะเหยียบคันเร่งพุ่งทะยานออกไปยังท้องถนน

    ...

    ...

    ...

    "รันต์ เดี๋ยวชั้นจะไปจัดการเรื่องห้องพักให้ เธอจะไปขี่ jet เล่นก่อนก็แล้วกัน เค?" ผู้จัดการนัททำหน้าที่ตั้งแต่รถเก๋งยังไม่ทันจะดับเครื่องยนต์

    "คร้าบบบบ ๆ" คนในอาณัติตอบอย่างจำใจ ที่จริงแล้วก็ไม่จำใจหรอก เขาออกจะชอบใจเสียด้วยซ้ำที่จะได้ขี่เจ้านิลคันเก่งของเขา แต่ที่ทำน้ำเสียงแบบนั้นก็เพื่อแหย่คุณนันท์เล่นเป็นอาหารทางใจ

    "หรือว่าจะทำอย่างอื่น ห๊ะ???" นัท รู้แกวดรันต์จึงทำเป็นโกรธแกล้งกลับไป

    "ไม่ครับๆ จาไปขี่ jet แต่โดยดีครับ" ว่าจบ ร่างล้ำคล้ำแดดก็วิ่งลงจากรถไปยังท่าเรือ ที่เขาเคยมาบ่อยๆ จากการฝึกซ้อมและแข่งขันหลายรายการ

    "มานิล พ่อจะพุ่งทะยานไปทั่วทะเลเมืองพัทยาเลย" ดรันต์ว่ากับ jet ski สีดำขลับเงาที่เห็นแล้วรู้ว่าผ่านการดูแลมาอย่างดี ยังกับว่ามันมีชีวิตและเข้าอกเข้าใจเขา ก่อนจะกระโดดขึ้นคร่อม jet แล้วสตาร์ทเครื่องทะยานออกไปสู่ท้องทะเลที่เขารัก...

    คำพูดของผู้เป็นแม่เมื่อครั้งที่เขาแสดงท่าทีสนใจต่อทะเล ดังก้องในโสตประสาทของเขา

    แม่รู้ว่าลูกต้องชอบท้องทะเล

    แม่รู้สึกได้

    แม่เห็นฝ่ามือน้อยๆที่กวัดแกว่งในอากาศเมื่อยามลูกแรกเกิด

    มันเหมือนกับการตื่นตัว และตั้งใจเพียรที่จะมีชีวิตอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    เหมือนกับทะเล ที่มีคลื่นอยู่ตลอดเวลา

    คลื่นที่หมั่นเพียรพัดเข้าฝั่งอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

    คลื่นที่ไม่หลับใหลตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

    แม่จึงตั้งชื่อลูกว่า ดรันต์ ที่มีความหมายว่า ทะเล





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×