ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ] +:-= Because of Love =-:+ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #12 : 12 - 01 - 07 : ห้ามแซว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.11K
      7
      2 ก.พ. 55

     

     

     

     

    7  มกราคม  2012

     

     

                สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน  ผมกลับมาแล้ว  คิดถึงผมกันมั้ยเอ่ย  (คาดว่าส่วนใหญ่คงจะคิดถึงเพื่อนร่วมหอของผมซะมากกว่าล่ะม้างงงง)  มีหลายคนอยากให้ผมลงรูปตัวเองกับยุนโฮ  เอ่อ...  อย่าดีกว่า  ผมไม่อยากเปิดเผยตัวตนขนาดนั้น  แถมคงทำให้หลายต่อหลายคนผิดหวังกันซะเปล่า ๆ   ผมไม่ได้หน้าตาดีอะไรเลย  มีสองหู  สองตา  หนึ่งปากแบบคนทั่วไปเด๊ะเลยฮะ  เพราะงั้นอย่าดูเลยดีกว่า  (พูดง่าย ๆ คือผมเขิน  ขอเป็นแจจุงในมุมหลืบต่อไปเถอะนะฮะ  พลีส ๆ ๆ  ไม่โกรธกันน้า)

     

                แต่หน้าตาของยุนโฮนี่สิ...

     

                รู้มั้ย  ผมเคยสงสัยนะว่าภายใต้หนวดเครารุงรังของยุนโฮเนี่ย  หน้าตาที่แท้จริงของเขาจะเป็นแบบไหนกันหนอ  เพราะเท่าที่เห็นคือตาคม ๆ ที่มองแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นช็อกโกแลตเยิ้ม ๆ  กับจมูกโด่ง ๆ ไร้สิวเสี้ยนของเขา  (ทำไมคนซกมกถึงไม่มีสิวนะ  ผมอิจฉายีนของนายคนนี้จริง ๆ)  นอกนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหน้าตาของยุนโฮเป็นยังไง

     

                ใช่แล้ว  ผมไม่เคยรู้เลย  ไม่เคยจินตนาการออกด้วย  จนกระทั่ง... วันนี้

     

                วันที่ยุนโฮถูกคนที่บ้านบังคับให้โกนออกทั้งหมด

     

                แน่นอนว่าเขาไม่พอใจมาก

     

                แต่เขาก็ปฏิเสธคำสั่งของพ่อแม่ไม่ได้

     

                และมันก็ยาวไม่ทันวันเปิดเรียนของพวกเราด้วย

     

                เรื่องของเรื่องคือผมไปเคาะห้องเขา  เพราะจะเอาของฝากจากบ้านเกิดไปให้  ซึ่งยุนโฮก็ใช้เวลานานมาก ๆ กว่าจะออกมาเปิดประตูได้  แถมเขายังเอาผ้าพันคอพัน ๆ ๆ ๆ ซะถึงจมูกแน่ะ  ตอนแรกผมก็นึกแค่ว่าเขาหนาว  ด้วยความเป็นห่วงก็เลยถามไปว่าฮีตเตอร์ที่ห้องเสียเหรอ  แต่เขาก็บอกว่าเปล่า  แล้วก็ดูร้อนรนยังไงก็ไม่รู้  เหมือนไม่ค่อยอยากคุยกับผมอ่ะ  ผมก็เลยชักเอะใจ

     

                “นายตัดผมด้วยนี่นา”  ผมพยายามยื้อทุกวินาทีไม่ให้ยุนโฮปิดประตูฮะ  เขาต้องกำลังมีความลับกับผมแน่ ๆ  ซึ่งขอบอกเลยว่ามันทำให้ผมยิ่งอยากรู้ขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยล่ะ  “นี่ ๆ ๆ  แล้วกลับควางจูทั้งที  ไม่มีของฝากฉันบ้างเหรอ”

     

                “อยู่ในห้องน่ะ  ยังไม่ได้แยก  ไว้วันหลังก็แล้วกัน”  แล้วเขาก็ทำท่าจะหนีผมอีกครั้ง

     

                “ยุนโฮอ่า  นั่นนายกำลังมีความลับกับฉันใช่ไหม”  เพราะยุนโฮจะหนีเข้าห้อง  ผมก็เลยรีบคว้าชายผ้าพันคอของเขาเอาไว้  มันเป็นไหมพรมถักที่นุ่มมือมาก ๆ เลยล่ะ  แต่เพราะผมคว้ามาตอนที่เขาหมุนตัวไปแล้ว  ก็เลยกลายเป็นว่าผมไปดึงผ้าพันคอเขา  เกือบรัดคอเพื่อนห้องตรงข้ามตายแล้วมั้ยล่ะ  ยุนโฮไอค่อกแค่กยกใหญ่เลยล่ะฮะ  ผมก็รู้สึกผิดสิ  รีบเข้าไปช่วยแก้ผ้าพันคอให้ตาหมีแก่อย่างเร็วไว

     

                “ไม่เป็นไรแจจุง  ฉัน...”  ยุนโฮทำท่าจะห้ามไม่ให้ผมปลดผ้าพันคอของเขา  แต่เขากำลังหายใจไม่ออกนะ  จะให้ผมยืนดูเฉย ๆ ได้ยังไงล่ะ  แถมมือของผมมันก็ทำงานไปก่อนล่วงหน้าแล้วด้วย

     

                “ได้ที่ไหนเล่า  ให้ฉันช่วยนี่แหละ  จะได้หายใจได้คล่อง ๆ คอ.....”

     

                ผมไม่รู้ว่าเสียงของผมมันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่  แต่รู้แค่ว่าหัวใจของผมมันแทบหยุดเต้นไปเสี้ยววินาทีนึงเลยล่ะ  เพราะในทันทีที่ผมแก้ผ้าพันคอออกมาจากคอยุนโฮ  โครงหน้าหมดจดของเขาก็กระแทกเข้าตาผมเต็มเปา  แถมยิ่งยืนใกล้กันขนาดนี้  ผมก็ชักกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของผมซะแล้วสิ

     

                ขนาดผมเป็นผู้ชายด้วยกัน  ผมก็ยังบรรยายหน้าตาของยุนโฮได้คำเดียวฮะว่า... หล่อ

     

                คือแบบหล่อมาก  หล่อจริง ๆ   หล่อหมดจดด้วย

     

                หน้าเขาเล็กมาก  ปากก็เล็ก  จมูกก็เล็ก  มันไม่ได้เล็กแบบตลกนะฮะ  มันดู...  ไม่รู้สิ  ผมก็อธิบายไม่เก่งอ่ะ  แต่เพราะทุกทีมีก้อนดำ ๆ ขยุกขยุยเป็นเงาะป่า  ไอ้เจ้าปากนิดจมูกหน่อยมันก็เลยดูไม่อะไรเท่าไหร่  แต่พอไม่มีหนวดมาบังสายตา  มันก็เลยทำให้เห็นรูปหน้าชัด ๆ ทั้งหมด

     

                ผมงี้ตะลึงเลยล่ะ  ไม่รู้เผลออ้าปากค้างหรือเปล่า  แต่ที่แน่ ๆ คือผมเผลอปล่อยผ้าพันคอของยุนโฮลงพื้นไปแล้วเรียบร้อย  ก็คนมันช็อกนี่

     

                เราสองคนสบตากันในระยะประชิด  ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากี่วินาที  แต่มันคงไม่สำคัญหรอกมั้ง  เพราะสำหรับตัวผมแล้วมันให้ความรู้สึกเนิ่นนานเป็นเอเทอนอลเลยทีเดียว  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครหลบตาก่อน  แต่เหตุผลของผมคือมันรู้สึกเหมือนมีแม่เหล็ก...  เหมือนกับว่าแววตาสีน้ำตาลของยุนโฮเป็นแม่เหล็กดูดลูกตาผมยังไงก็ไม่รู้

     

                ชั่ววูบหนึ่งที่ผมอยากหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้

     

                มัน... เพ้อเจ้อมากเลยใช่มั้ยฮะ

     

                “อย่ามองนานนักได้มั้ย!  สุดท้ายก็เป็นยุนโฮที่ยกมือขึ้นมาดันหน้าผมหนี  ได้ไงอ่ะ!  ผมยังมองไม่พอเลย  ตอนนี้เริ่มเห็นไรหนวดขึ้นหน่อย ๆ แล้ว  อีกไม่กี่วันไม่กี่สัปดาห์ผมก็จะไม่ได้เห็นหน้าเต็ม ๆ ของยุนโฮแล้วนะ

     

                “โห  ยุนโฮ  นายหล่อชะมัดเลยอ่ะ”

     

                “ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพูด!

     

                “เอ๊ะ  อย่าเอามือปิดหน้าสิ  ฉันมองไม่เห็นนะ”

     

                “แจจุง!

     

                “นิดเดียวน้านิดเดียว”  ผมเข้าไปอ้อนเกาะแขนเกาะขาเขา  (ในแบบที่ถ้ายุนโฮยังมีหนวดผมจะไม่กล้าทำ)  ตอนนี้ผมอยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสุด ๆ เลยล่ะ

     

                “ไม่!!  แต่ยุนโฮก็ยืนกรานคำเดิมเสียงแข็ง  เขาเอามือนึงปิดหน้าตัวเอง  ส่วนอีกมือก็ปิดประตูใส่หน้าผม  ทุกคนดูสิ  ยุนโฮใจร้ายมากเลยอ่ะ  เขาปิดประตูใส่หน้าผมเพียงเพราะอายเนี่ยนะ

     

                เอ๊ะ...  เดี๋ยวก่อน  เมื่อกี้ผมใช้คำว่าอายงั้นเหรอ  เอ...  มันเป็นคำที่ดูตลกไปหน่อยเมื่อเทียบกับส่วนสูงของยุนโฮนะ  แต่ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเขาก็ทำให้ผมนึกคำอื่นไม่ออกเหมือนกัน  แต่ยุนโฮจะอายอะไรล่ะ  ก็ในเมื่อเขาหน้าตาดีออกจะตายไป

     

                เพื่อความชัวร์  ผมก็เลย...  เคาะประตูเรียกเขา  (ผมคงบ้าไปแล้วที่ทำอะไรเสี่ยงตายแบบนี้)

     

                “ยุนโฮ~  นายโกนหนวดออกแล้วดูดีจะตายไป  ไม่เห็นต้องหลบหน้าฉันเลย”

     

                เงียบ...

     

                “ยุนโฮ~  นายโกรธฉันแล้วเหรอ”

     

                เงียบ...

     

                “ยุนโฮ~  แต่ฉันชอบนายแบบนี้มากกว่าจริง ๆ นะ”

     

                อยู่ดี ๆ ประตูที่ผมกำลังจะลงมือเคาะเป็นหนที่สี่ก็เปิดพรวดออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย  ผมเกือบจะเคาะหน้าอกเขาอยู่แล้วเชียว  ดีนะที่สะดุ้งแล้วหยุดมือไว้ได้ทัน

     

                “ยุน...!  ผมกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างออกมา  แต่ก็ถูกยุนโฮจิ้มนิ้วใส่หน้าผากขัดไว้ก่อน

     

                “เลิกแซวได้แล้ว!  แล้วก็อย่าไปแซวแบบนี้กับคนอื่นด้วย!!

     

                เขาขึ้นเสียงใส่ผมเสร็จก็ปิดประตูใส่หน้าผมเฉยเลย  ผมงี้เหวอสิครับ  เริ่มเดาอารมณ์ตาหมีติสต์แตกตัวนี้ไม่ออกแล้วสิว่าเขาแค่เขินหรือว่าโกรธผมจริง ๆ   แต่ครั้นจะเคาะประตูถามอีกทีก็ใช่เรื่อง  ผมก็เลยได้แต่กลับมาห้องตัวเองแบบงง ๆ

     

                ตกลงว่ายุนโฮเขาโกรธผมรึเปล่าเนี่ย

     

                แล้วเพื่อน ๆ ล่ะฮะ  คิดว่ายุนโฮเขาโกรธผมรึเปล่า  แล้วผมควรต้องง้อเขาด้วยวิธีไหนดีล่ะ  ใครมีเคล็ดลับเจ๋ง ๆ เอาไว้ง้อเพื่อนห้องตรงข้ามก็กระซิบบอกผมมั่งนะฮะ

     

                สงสัยผมคงแซวเขามากไปจริง ๆ นั่นแหละ 

     

                แต่... ทำไมเขาต้องห้ามผมไปแซวแบบนี้กับคนอื่นด้วยล่ะ

     

     

                แจจุง            

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×