คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : 12 - 03 - 06 : ดูท่าแผนนี้จะไม่เวิร์ค
6 มีนาคม 2012
หลังจากที่ผมซุ่มอ่านข้อเสนอของเพื่อนในบอร์ดนี้มาสักพัก ผมก็สังเกตได้ว่ามีอยู่วิธีหนึ่งที่เพื่อน ๆ เสนอกันขึ้นมาบ่อยที่สุดจนผมอดไม่ได้ที่จะไขว้เขวคล้อยตามและคิดว่าน่าลองไม่น้อย นั่นก็คือ.... นายชิมชางมิน
แผนก็ง่ายเนอะ ให้ชางมินมาเป็นมือที่สาม ยุนโฮก็จะหึงผม แล้วเขาก็จะขอผมเป็นแฟนเอง
ง่ายมาก... แต่ติดอยู่ที่เดียว
คือชิมชางมิน...
นั่นมันชางมินเชียวนะ ชางมินที่กำลังยึดห้องผม โขกสับผม ให้ผมไปเป็นแม่บ้านปัดกวาดเช็ดถูวันเว้นวัน รวมทั้งบริการอาหารเช้า - กลางวัน - เย็น ถึงโต๊ะกินข้าวเชียวนะ
แล้วคิดเหรอว่าเด็กนั่นมันจะยอมร่วมมือกับผมอ่ะ
แต่ก็นั่นแหละ เหมือนผมจะคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วเหมือนกัน สารภาพก่อนก็อย่าหวัง ถามตรง ๆ ก็ไม่มีวัน ผมไม่กล้าเล่นกับยุนโฮตรง ๆ หรอก มีหวังโดนโต้กลับมาให้ตัวระเบิดเสียเปล่า ๆ ผมต้องตั้งหลักให้ดี ต้องเตรียมแผนการรบให้พร้อม (ดูท่าผมจะอยู่กับชางมินมากเกินไป) เพราะงั้นมันก็ดูเหมือนผมจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้วใช่มั้ยล่ะครับ นอกจากพึ่งเจ้าเด็กผีนั่นน่ะ
วันนี้ผมก็เลยเคาะประตูห้องชางมิน... ไม่สิ มันเป็นห้องผมอยู่แล้วนี่นา แล้วผมจะเคาะทำไมเนี่ย เออ ย้ายห้องนานไปก็ชักลืมเหมือนกัน นี่สิ้นเดือนแล้วด้วย ได้เวลาจ่ายค่าหอพอดี ผมคงต้องไปทวงกับนายยูชอนเสียหน่อยแล้ว
“ชางมิน ฉันมีเรื่องจะให้นายช่วยหน่อย”
“ห้าหมื่นวอน”
“หะ?” ผมคิดว่าตัวเองหูฝาดไปนะ
“ค่าจ้าง ฉันคิดห้าหมื่นวอน” แต่ชางมินก็ย้ำคำเดิมด้วยสายตาจิกกัดประมาณว่าผมช่างโง่อะไรเช่นนี้
“บ้าเหรอ! รู้รึยังว่าฉันจะขอให้นายช่วยอะไรฉันน่ะ” แน่ล่ะสิว่าผมไม่มีทางจ่ายหรอก “แถมนี่นายก็มาพักห้องฉันตั้งนานแล้วนะ ช่วยนิดช่วยหน่อยจะเป็นไรไป”
“ที่จริงจะช่วยฟรีก็ได้อยู่หรอก แต่นายทำฉันเสียใจ เพราะงั้นฉันไม่ช่วยนายฟรี ๆ แล้ว”
“นายนี่มันแค้นฝังใจชะมัด” อยากรู้กันแล้วใช่มั้ยครับว่าชางมินเสียใจเรื่องอะไร ไอ้คนที่กำลังยิ้มปากกว้างถึงใบหูซึ่งกล้าพูดคำว่าเสียใจออกมาหน้าด้าน ๆ เนี่ยกำลังงอนผมเรื่องอะไรอยู่รู้มั้ยฮะ
“ก็นายลืมวันเกิดฉัน” ชางมินทำเป็นอมลมในปาก ผมเห็นแล้วอยากใช้สองมือตีให้ลมแฟบมาก แต่นั่นมันชิมชางมินที่กำลังวางแผนฆ่าคนเชียวนะ เพราะงั้นผมก็เลยได้แค่จินตนาการต่อไปเงียบ ๆ ในใจ อย่าให้ถึงทีผมบ้างก็แล้วกัน ชิส์
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้ นายไม่เคยบอก แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าว่าเกิดวันที่สิบแปด” ตลกดีนะครับที่พวกเราสามคน ผม ยุนโฮ แล้วก็ชางมิน เกิดเดือนเดียวกันหมดเลย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะเนอะ ผมยืนเท้าสะเอวค้ำหัวชางมินที่กำลังนั่งเล่นบนเตียงผม ชักรู้สึกเหมือนตัวเองมีลูกชายหัวดื้อยังไงก็ไม่รู้ “แถมก็อวยพรวันเกิดย้อนหลัง ซื้อเค้กมาเป่าให้ย้อนหลังแล้วไง ยังจะเอาอะไรอีกฮะ”
“นายเห็นยุนโฮดีกว่าฉัน”
“ละ... แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหน!?”
“เห็นมั้ยว่านายไม่ปฏิเสธ!”
“โอ๊ย! อย่ามาปาหมอนใส่หน้าฉันนะ!!” ผมก็ฉุนสิฮะ อยู่ดี ๆ ชางมินก็ขว้างหมอนใส่หน้าผมอ่ะ แรงก็ไม่ใช่น้อย ๆ ถึงมันจะไม่เจ็บอะไรมากมาย แต่ผมก็เจ็บใจนะขอบอก ผมก็เลยปาหมอนกลับใส่สุดแรง “อย่างน้อย ๆ ก็หัดเคารพฉันในฐานะพี่บ้างสิชางมิน!”
“พี่? พี่ที่ไหนจะตัวเล็กกว่าฉัน ถ้าเป็นพี่ยุนโฮก็ว่าไปอย่าง สูงหล่อขายาว อย่างนั้นน่ะถึงจะนับญาติกับฉันได้”
“นายจะว่าฉันเตี้ยไม่หล่อแล้วก็ขาสั้นใช่มั้ย!?”
“ฉันจะบอกว่านายเป็นได้แค่นกหวีดเท่านั้นแหละ เอาไว้ให้พี่ยุนโฮเป่าไง” ว่าแล้วชางมินก็ลงไปขำก๊ากอยู่บนเตียงคนเดียว ทิ้งให้ผมยืนหน้าแดงแป๊ด ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะว่าชางมินหมายถึงอะไร แต่ผมก็ไม่อยากเข้าใจเหมือนกัน หนอย ไอ้เด็กบ้า เพราะงี้ไงล่ะผมถึงไม่อยากมาขอร้องชางมินเอาเลยจริง ๆ ชอบล้อเรื่องผมหนีไปนอนห้องยุนโฮอยู่ได้ ไม่รู้รึไงว่าผมต้องใจเต้นจนแทบบ้าทุกคืนก็เพราะใครน่ะ
และเพราะชางมินเอาแต่หัวเราะไม่หยุด ด้วยความเจ็บใจที่สั่งสมมาหลายวัน ผมก็เลยกระโดดทับเขาแล้วเอาหมอนกดหน้าซะเลย
“คิมแจจุง! นายจะฆ่าฉันงั้นเรอะ!?” ชางมินปัดหมอนทิ้ง ตอนนี้น่ากลัวสุด ๆ ไปเลยครับ แต่ผมก็เหมือนคนไม่มีอะไรจะเสียอ่ะ หัวใจเต้นแรงจนแทบบ้าอยู่แล้วทุกชั่วโมง ความโกรธของชิมชางมินทำอะไรผมไม่ได้แล้ว
“นายต้องช่วยฉัน!” ผมยืนกรานคำเดิม
“ไม่!!”
“ไม่งั้นฉันไม่ลุก”
“อยากตายใช่มั้ยฮะ”
“น้า~ ชางมิน ช่วยฉันหน่อยเถอะน้า” เพราะชางมินบอกว่าจะฆ่าผม ผมก็เลยรีบใช้ไม้อ่อนด้วยการทำตัวเป็นกระต่ายกะพริบตาปริบ ๆ โหย ทำไมผมต้องเสี่ยงตายขนาดนี้เพื่อให้ยุนโฮขอผมเป็นแฟนด้วยเนี่ย บอกทีสิครับว่าผมยังไม่ได้บ้า “ฉันไม่ได้ขออะไรยากเย็นเลยสักนิด แค่เป็นแฟนฉันเท่านั้นเอง นะ ๆ ๆ”
“หา? แฟน?” ชางมินเบิกตาโต เขาเลิกเอานิ้วง้างปากผมทันที สงสัยจะช็อกมาก แต่ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าช็อกเรื่องไหนมากกว่ากัน ระหว่างที่ผมขอให้เขาช่วยเป็นแฟนปลอม ๆ กับ... “นายไม่ได้เป็นแฟนกับพี่ยุนโฮอยู่แล้วเหรอไง”
“ก็ไม่ได้เป็นน่ะสิ” ถ้าเป็นแล้วผมจะมาขอให้ชางมินช่วยทำไมเล่า ไหนบอกว่าฉลาดนักไง
“แต่ดูท่าพี่ยุนโฮจะไม่ได้คิดอย่างนั้นนะ”
“แล้วจะพูดถึงยุนโฮทำไม”
“ก็พี่เขายืนอยู่ตรงประตูห้องนี่ไง”
“ยุนโฮ!?” ใจผมหล่นวูบเลยฮะ เพราะทันทีที่หันกลับไปมองประตูห้อง ผมก็เห็นนายหมียืนกอดอกเขม็งมองผมเหมือนโกรธสุด ๆ ไปเลยอ่ะ ตาย ๆ ๆ ๆ ยุนโฮต้องเข้าใจผิดแน่ ๆ ผมรีบลุกออกมาจากร่างชางมิน กำลังจะอ้าปากบอกว่าเราแค่เล่นมวยปล้ำกัน แต่ยุนโฮก็ปิดประตูใส่หน้าผมไปแล้ว
ผมงี้ใจเสียสุด ๆ ไปเลยฮะ แทบร้องไห้ได้อยู่รอมร่อ ผมไม่อยากให้ยุนโฮเข้าใจผิดนี่นา แต่เอ๊ะ... จุดประสงค์หลักที่ผมมาห้องชางมินก็เพื่อให้ยุนโฮหึงแบบนี้ไม่ใช่เหรอไง ถึงวิธีการจะไม่ใช่ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็เหมือนกันอยู่ดีนี่
แต่ผมไม่สนแล้ว ผมไม่สนแล้วว่ายุนโฮจะหึงมั้ย
เพราะตอนนี้ผมไม่อยากให้ยุนโฮโกรธผมมากกว่า
“ยุนโฮมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมหันไปตีชางมินแบบพาล ๆ “ทำไมนายไม่บอกฉันก่อนล่ะชางมิน!”
“ก็บอกแล้วนี่ไง” ชางมินผลักหัวผมกลับ หามีความเคารพไม่ “พี่เขาเปิดประตูเข้ามาตอนนายกำลังขอฉันเป็นแฟนนี่แหละ ขอให้ช่วยอะไรบ้า ๆ รีบ ๆ กลับไปง้อแฟนตัวเองเลยไป”
พอถูกชางมินว่า ผมก็เลยนึกออกว่าต้องรีบไปง้อ (ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายง้ออีกแล้วเนี่ย) ผมรีบวิ่งออกไปห้องตรงข้าม แต่ปรากฏว่ายุนโฮไม่ได้อยู่ในห้องซะงั้นอ่ะ กุญแจรถเขาหายไปด้วย สงสัยจะโกรธผมจนไม่อยากเจอหน้าแล้วแน่ ๆ เลย โอ๊ย แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไปดีเนี่ย ดูท่าแผนยั่วให้หึงจะไม่เวิร์คแล้วแหง ๆ ผมลืมไปได้ยังไงว่ายุนโฮไม่เหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป ก่อนหน้านี้เขาก็เคยหึงชางมินมาทีนึงแล้ว (มั้ง) แต่เขาก็จะไม่แสดงออกตรง ๆ นอกจากเดินหนีผมไปแบบนี้นี่แหละ
ผมเลยตัดสินใจโทรเข้ามือถือเขา แต่ก็ปรากฏว่ายุนโฮไม่ได้เอามือถือไปด้วย คราวนี้ผมก็เลยหมดทางหาตัวเขาจริงจัง ผมไม่รู้แล้วว่ายุนโฮขับมอเตอร์ไซค์ออกไปไหน และจะกลับมากี่โมง
แล้วถ้าเขากลับมาล่ะ ถ้าเขากลับมา เขาจะยอมเจอหน้าผมรึเปล่านะ
เพราะภาพที่ยุนโฮเห็นเมื่อกี้ก็คือผมนั่งคร่อมชางมินพร้อมขอให้ชางมินมาเป็นแฟน คือถึงผมจะไม่ได้มีเจตนาอะไรแบบนั้น แต่ยุนโฮที่ทั้งเห็นทั้งได้ยินด้วยตัวเองก็คงต้องคิดบ้างไม่มากก็น้อยแหละ
แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ
ถ้ายุนโฮกลับมา ผมควรจะเล่าความจริงให้เขาฟังว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ หรือจะแกล้งอมพะนำปล่อยไปตามน้ำเพื่อให้เขาขอผมเป็นแฟนให้ได้ดี (ยังจะหวังลม ๆ แล้ง ๆ) ใจนึงผมก็อยากอธิบายให้ยุนโฮหายเข้าใจผิดนะ แต่อีกใจ... เหตุบังเอิญมันก็พามาถึงขนาดนี้ บางทีมันอาจเป็นลิขิตสวรรค์ก็ได้ เฮ้อ คิดไม่ตกจริง ๆ นะเนี่ย ผมไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหนดีเลยล่ะครับ
แล้วถ้าเป็นเพื่อน ๆ ล่ะ
คิดว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดีฮะ
แจจุง
ความคิดเห็น