ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ] +:-= Because of Love =-:+ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #23 : 12 - 02 - 13 : เขากลับมาแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 55


     

     

     

     

    13  กุมภาพันธ์  2012

     

     

                ทุกคน...  นายชิมชางมินกลับมาอีกแล้วฮะ  T_____T

     

                คราวนี้แบกกระเป๋าเป้มาห้องผมใหญ่กว่าเดิมด้วย  ท่าทางแข็งแรงไร้รอยขีดข่วนดี  แต่รังสีอาฆาตรุนแรงมาก  สงสัยแผนฆาตกรรมจะไม่สำเร็จ  เพราะชางมินบอกว่าจะขอตั้งค่ายทหารที่ห้องผมสักอาทิตย์สองอาทิตย์  คราวนี้จะเอาให้ชัวร์ว่าไปแล้วไปลับ  โอ๊ย  นี่ผมกำลังเผชิญกับอะไรเนี่ย  แต่เพราะตาขวาง ๆ ของนายเบ็ดตกปลานั่น  ผมก็เลยไม่กล้าไล่กลับเลยด้วย  ได้แต่เตรียมข้าวเตรียมปลาให้ว่าที่ฆาตรกร (ชางมินว่างั้น) อย่างไม่มีปากมีเสียง  ตอนนี้ผมชักกลัวแล้วสิว่าวันดีคืนดีชางมินจะลุกขึ้นมาปาดคอผมแทนเป้าหมายของเขา

     

                และพอผมไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง

     

                ผมก็เลยตัดสินใจ... โทรศัพท์

     

                มันสืบเนื่องมาจากเมื่อวานที่มีเบอร์ประหลาดส่งข้อความมาสั่งให้ผมแก้ข่าว  ข่าวอะไรก็ไม่บอก  แล้วผมจะรู้เรื่องมั้ยเนี่ย  ใช่มั้ยล่ะ  ผมก็เลยพิมพ์ตอบไปว่าไม่แก้  ไม่เข้าใจ  ไม่สน  ไม่  ไม่  ไม่  อยากแก้ก็แก้เองสิ  พวกเราพิมพ์โต้กันไปกันมาอยู่ตั้งนานจนกระทั่งเงินผมหมด  และพอเงินหมดนั่นแหละ  ถึงเพิ่งนึกออกว่าลืมถามชื่อ  แต่สำนวนการตอบมันก็ทำให้ผมคิดว่าเป็นยุนโฮจนลืมถามจริง ๆ นั่นแหละ

     

                แต่วันนี้ผมเติมเงินไว้แล้ว  แต่ไม่แล้วล่ะ  ผมไม่ส่งข้อความแล้ว  เปลืองเงินชะมัด  โทรคุยกันยังรู้เรื่องมากกว่าอีก  แต่หวังว่าคนปลายสายจะเป็นยุนโฮจริง ๆ นะ  เพราะตอนที่ถือสายรอเนี่ย  ผมตื่นเต้นมาก ๆ เลยล่ะฮะ  ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เป็นยุนโฮทีเถอะ  เพี้ยง ๆ ๆ

     

                และที่สุดก็มีคนรับ 

     

                แต่... เงียบมาก

     

                เหมือนรับแล้วไม่พูด  อารมณ์แบบลองเชิงผมอ่ะ  เข้าใจความหมายมั้ยฮะ  เหมือนแข่งกันว่าใครพูดก่อนแพ้อย่างนั้นเลย  พวกเรายืนหายใจใส่กันอยู่เกือบนาที  ยิ่งเงียบผมก็ยิ่งหวั่น  แต่เอาก็เอาวะ  เป็นฝ่ายโทรหาแล้วนี่เนอะ  ลุยสักตั้งก็แล้วกัน  ผมก็เลยตัดสินใจตัดคำทักทายทิ้ง (เพราะกลัวหน้าแตก) แล้วพูดออกไปว่า

     

                “มีคนมายึดเตียงฉันล่ะ”

     

                “...ใคร”  นั่นไง!  เสียงยุนโฮจริง ๆ ด้วย!!  ผมกำมือถือแน่น  ชั่งใจว่าจะถามเรื่องของยุนโฮเลยดีไหม  แต่อีกใจก็กลัวเขาจะตัดสายทิ้ง  ผมก็เลยเตะถ่วงเวลาออกไปก่อนเรื่อย ๆ ดีกว่า

     

                “จำคนที่เดินแก้ผ้าในห้องฉันวันนั้นได้ไหม... เขากลับมาอีกแล้ว”

     

                “...”

     

                “...”

     

                “แล้วมาบอกฉันทำไม”

     

                “ก็ฉันกลัวนี่  ช่วยมาไล่กลับไปหน่อยสิ”

     

                “เปิดประตูสิ”

     

                “หา?”

     

                “เปิดประตู”  ยุนโฮสั่งย้ำเสียงแข็งตามสไตล์เขา  และเพราะไม่มีทางเลือก  ผมก็เลยเดินไปเปิดประตูห้องแบบงง ๆ ตามคำสั่งอย่างว่าง่าย  แต่เชื่อมั้ยฮะ  เชื่อมั้ยว่าผมเห็นอะไรยืนอยู่หน้าประตูห้องผม

     

                ยุนโฮ!!

     

                นายหมีหนวดเครารุงรังตัวเป็น ๆ กำลังยืนสะพายกระเป๋าเป้ใบเดิมกับที่เคยสะพายในวันนั้น  และก็กำลังยืนจ้องผมเขม็งจนผมงี้อยากร้องออกมาดัง ๆ (นึกว่าโจร)   ผมรู้ตัวเลยล่ะว่าตัวเองตีหน้าเหวอมาก ๆ   ปากงี้อ้าค้างจนแมลงวันเข้าไปวางไข่ได้แล้วมั้ง  ยุนโฮก็เลยถือโอกาสดีดหน้าผากผมดังเผี๊ยะ  เจ็บจนเรียกสติได้เลยฮะ

     

                “ยะ...ยุนโฮ?”

     

                “อยู่ไหน”

     

                “นายกลับมาแล้วเหรอ”

     

                “ฉันถามว่าชีเปลือยนั่นอยู่ไหน”

     

                “ออกไปซื้ออุปกรณ์ฆ่าคน”  นี่ผมไม่ได้พูดเล่นนะ  แต่ชางมินบอกผมไว้อย่างนั้นจริง ๆ  และผมก็ไม่อยากเซ้าซี้ถามเจ้าเด็กเป็ดนั่นด้วยว่าจะฆ่าคนด้วยกรรมวิธีแบบไหน  ผมตั้งสติอีกครั้ง  กะพริบตายังไงยุนโฮก็ไม่หายไป  ความรู้สึกผมในตอนนั้นมันโล่งใจมาก ๆ เลยครับ  คือเหมือนกับความเครียดทั้งหมดมันหายไปในทันทีที่เห็นหน้ายุนโฮน่ะ  แถมงวดนี้เขากลับมาแบบไม่มีร่องรอยบาดเจ็บด้วย  ดีจัง  “นาย... กลับมาแล้ว?”

     

                “ไม่ดีใจเหรอ”  ยุนโฮเลิกคิ้วใส่ผม  หน้าตาเขาเฉยชามาก  “แต่ลืมไป  เพิ่งเลิกกันนี่เนอะ”

     

                “นายพูดอะไรของนายน่ะ”  ผมก็ทำเนียนไม่รู้เรื่องไปสิฮะ  ไม่อยากดราม่าอ่ะ  “นายต่างหากที่ติดค้างคำอธิบายกับฉันอยู่  ไปมาไม่มีลา  ...ใจร้าย”

     

                ยุนโฮดูชะงักไปนิดหน่อย  สงสัยจะเริ่มรู้สึกผิด  เพราะผมค้อนใส่เขา  แต่ผมก็รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นี่   เพื่อน ๆ ก็คิดกันใช่ไหมล่ะว่ายุนโฮใจร้ายกับผมมากที่ไม่ยอมให้ผมมีส่วนร่วมกับเรื่องราวของเขา  เขาจะรู้บ้างไหมว่าผมทั้งคิดมากทั้งเป็นห่วง  วัน ๆ ก็เอาแค่คิดถึงยุนโฮจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว

     

                “ขอโทษ...”  ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองตอนที่ได้ยินยุนโฮพูดคำนี้ออกมา

     

                “นายทิ้งฉัน”  พอรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ  ผมก็เลยเริ่มร่ายรายการความเสียใจของผม

     

                “ขอโทษ”  และยุนโฮก็เอาแต่พูดคำเดิม  เฮ้อ  ฟังแล้วก็หายโกรธขึ้นมาหน่อย

     

                “นายไปกับคารัม”

     

                “อืม”

     

                “นายไม่ยอมเล่าอะไรให้ฉันฟังเลย”

     

                “อืม”

     

                “นายบอกว่าไม่ใช่เรื่องของฉัน”

     

                “ขอโทษ”

     

                “คารัมสำคัญกว่าฉันใช่ไหม”

     

                “เขากำลังมีปัญหา”

     

                “แล้วฉันล่ะ”

     

                “ตอนนี้นายก็เป็นตัวปัญหาเหมือนกัน”

     

                “ยุนโฮ!  ผมฉุนกึก  แต่ก็เกือบหลุดยิ้มออกมาด้วย  แทนที่เขาจะทำหน้าหงอเหมือนลูกหมาสำนึกผิดไปเรื่อย ๆ จนกว่าผมจะบอกว่ายกโทษให้  แต่ปากหนอปากของยุนโฮก็ยังเหมือนเดิมไม่มีผิด  “ฉันยังไม่หายโกรธนะ”

     

                “นายโกรธฉันเรื่องอะไร”

     

                “ก็เรื่องที่นายหายไป”

     

                “เรื่องเดียว?”

     

                “ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังด้วย”

     

                “สองเรื่อง?”

     

                “เอ่อ... คงงั้น”  ผมเริ่มงงว่าแล้วยุนโฮจะมานั่งนับความผิดของตัวเองไปทำไม  แต่แล้วผมก็ได้คำตอบทันทีเมื่อยุนโฮเริ่มนับนิ้วไล่ความโกรธของเขาบ้าง

     

                “นายพาคนอื่นเข้าห้อง  นายให้ชีเปลือยเดินเพ่นพล่าน  นายไม่ยอมร้องเพลงวันเกิดให้ฉัน  แถมนายก็ยังไม่ยอมแก้ข่าวเรื่องเราสองคนด้วย”  ยุนโฮชูนิ้วขึ้นมาสี่นิ้วตามจำนวนข้อที่เขาพูด  “หักความผิดของฉันสองเรื่อง  ก็ยังเหลืออีกสองเรื่องที่นายนั่นแหละต้องเป็นฝ่ายขอโทษฉัน”

     

                “ตลก!  ผมล่ะไม่เค้ยไม่เคย  ไม่เคยเจอใครนับความผิดกันอย่างนี้เลย  ของอย่างนี้มันทดกันได้ด้วยเหรอไง  สมองของนายคนนี้ต้องอยู่มิติอื่นแน่ ๆ  “ฉันไม่ได้อยากให้ชางมินมาพักด้วยเสียหน่อย  แต่เด็กนั่นเป็นน้องยูชอนนี่นา  ฉันไล่เขาไม่ได้หรอก”

     

                “น้องชาย?”

     

                “น้องของแฟนเพื่อนน่ะ  มาขอพักด้วยชั่วคราว”

     

                “แล้ววันเกิดฉันล่ะ”  ยุนโฮยังไม่เลิกเซ้าซี้

     

                “วันเกิดฉันนายก็ไม่ได้ร้องเหมือนกันแหละ  เจ๊ากัน”

     

                “อืม...”

     

                “หายโกรธแล้วใช่มั้ย”  ทำไมไป ๆ มา ๆ เหมือนผมเป็นฝ่ายง้อเลยแฮะ  นี่ผมก็ชักงง ๆ กับตัวเองแล้วล่ะ  แต่ยุนโฮตอนไม่โกนหนวดมันน่ากลัวจริง ๆ นี่  ผมไม่กล้าทำตัวกร่างให้หมีภูเขาอาละวาดหรอก

     

                “ชีเปลือยเป็นน้องของเพื่อนนายใช่มั้ย”  ยุนโฮตอบคำถามด้วยคำถาม  ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว  “งั้นนายนั่นแหละที่เก็บกระเป๋าซะ”

     

                “เก็บ?  แล้วทำไมฉันต้องเก็บด้วย”  เอ๊ะ  รึยุนโฮจะยอมให้ผมไปผจญภัยกับเขาแล้ว  เขาจะยอมให้ผมมีส่วนร่วมกับความลับอะไรนั่นของเขาแล้วใช่ไหมนะ  ผมเริ่มตื่นเต้น  แต่ในวินาทีถัดมา  หัวใจผมแทบหยุดเต้นเสียแทน

     

                เพราะยุนโฮตอบว่า...

     

                “ไปนอนห้องฉันจนกว่าชีเปลือยจะกลับ”

     

                ............

     

                ............

     

                ............

     

                สมองผมระเบิดไปแล้วฮะ!!  (ขอเวลาเก็บเศษเนื้อมาขยุ้มรวมกันอีกที)

     

                คือ...  คือ...  คือผมบังคับหน้าตัวเองไม่ได้แล้ว  มันร้อนมาก  ร้อนจนถึงคอเลยมั้ง  ผมพยายามตีความหมายนั่นใหม่  ไปนอน?  ไปนอนห้องยุนโฮ?  โฮกกกก  ผมแทบคำราม  แทบปะทุ  ผมอยากเอาหน้าทิ่มลงไปในกองหิมะมาก ๆ   ผมอยากเอาหน้าไปไว้ที่ไหนก็ได้ที่ยุนโฮมองไม่เห็นอ่ะ!

     

                “ละ... แล้วนายล่ะ  นายจะนอนไหน”  ผมยังไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

     

                “ฉันก็นอนเตียงฉันสิ”  ยุนโฮตอบเหมือนมันเป็นโจทย์ตายตัว  แต่ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนี่!

     

                “แล้วฉันล่ะ”  ตอนนี้ผมกลัวคำตอบที่จะออกมาจากปากยุนโฮเอามาก ๆ  คือสมองมันมโนไปเองแล้วไง  มันคิดภาพในหัวเอาเองไปแล้วเรียบร้อย  ซึ่งมันน่าอายม่ากกกกก  ผม...  ผม...  ผมอธิบายอะไรไม่ออกแล้วครับ  มันเยอะจริง ๆ   ยุนโฮเป็นมนุษย์เพศผู้ที่เยอะจริง ๆ

     

                ยืนยันได้ด้วยประโยคถัดมาของเขา

     

                “เตียงฉันกว้างพอ”

     

                ผมแทบระเบิดตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด  ไม่ได้การ  ขืนต้องนอนเตียงเดียวกับยุนโฮ  ผมคงหลับไม่ลงแน่ ๆ   ก็ในเมื่อผมรู้แล้วว่าตัวเองคิดยังไงกับยุนโฮ  แล้วจะให้ผมกล้าขึ้นไปนอนเตียงเดียวกับเขาอีกเหรอ  ไม่มีทาง  ผมไม่กล้าหรอก  ผมไม่กล๊าไม่กล้า!

     

                “ไม่!  ฉันไม่นอนห้องนายหรอก  ห้องฉันก็มีนี่  ทำไมต้องย้ายด้วย”  ผมแข็งใจเถียงกลับไป  แต่ก็รู้แหละว่าเสียงมันแอบสั่น ๆ เขิน ๆ

     

                “ก็ห้องนายมีชีเปลือย”

     

                “ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย”

     

                “ถ้าไปนอนกับฉัน  คืนนี้ฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง”

     

                ข้อเสนอของยุนโฮอันนี้ต่างหากที่ทำเอาผมชะงัก  แน่นอนว่าผมอยากรู้มาเป็นอาทิตย์  และนี่ก็เป็นโอกาสที่จะรู้เรื่องทั้งหมด  แต่...  แต่.....  แต่ทำไมผมต้องไปนอนกับเขาด้วยเล่า  T_____T

     

                “ยังไงนายก็สัญญาว่าจะเล่าอยู่แล้ว  ฉันไม่จำเป็นต้องไป”

     

                “ตามใจ”  ผิดคาดแฮะ  ยุนโฮไม่เถียงต่อ  น่าแปลกใจใช่ไหมฮะ  ตอนแรกผมก็แปลกใจนะ  แต่พอได้ยินประโยคถัดมา  ผมก็ไม่สงสัยว่าเป็นยุนโฮตัวปลอมแล้วล่ะ  “การเล่ามันมีหลายแบบ  มันก็ขึ้นอยู่กับนายล่ะนะว่าอยากได้แบบประโยคเดียวจบ  หรือจะเอาแบบละเอียด ๆ”

     

                “ยุนโฮอ่ะ!

     

                “รอที่ห้อง”

     

                พูดจบเขาก็หมุนประตูกลับเข้าห้องตัวเองไปเฉยเลย  ทิ้งผมให้ยืนหน้าแดงอยู่ตรงนั้นคนเดียวอ่ะ  ร้ายมาก!  ยุนโฮใจร้ายมาก!  เพื่อน ๆ ก็คิดเหมือนผมใช่ไหมฮะ  ยุนโฮขี้โกงชัด ๆ

     

                แล้วผมจะทำไงดีล่ะเนี่ย  แหงล่ะว่าผมอยากรู้เรื่องทั้งหมดใจจะขาด  แล้วต้องรู้แบบละเอียดด้วย  เพราะถ้าให้ยุนโฮพูดสรุปตามสไตล์มึนเมาแล้วล่ะก็  ผมคงไม่มีทางเข้าใจแน่ ๆ   โอ๊ย  แล้วผมควรจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย

     

                ทุกคนว่า... ผมควรเก็บกระเป๋ามั้ยฮะ

     

     

                แจจุง            

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×