คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : 12 - 02 - 13 : เขากลับมาแล้ว
13 กุมภาพันธ์ 2012
ทุกคน... นายชิมชางมินกลับมาอีกแล้วฮะ T_____T
คราวนี้แบกกระเป๋าเป้มาห้องผมใหญ่กว่าเดิมด้วย ท่าทางแข็งแรงไร้รอยขีดข่วนดี แต่รังสีอาฆาตรุนแรงมาก สงสัยแผนฆาตกรรมจะไม่สำเร็จ เพราะชางมินบอกว่าจะขอตั้งค่ายทหารที่ห้องผมสักอาทิตย์สองอาทิตย์ คราวนี้จะเอาให้ชัวร์ว่าไปแล้วไปลับ โอ๊ย นี่ผมกำลังเผชิญกับอะไรเนี่ย แต่เพราะตาขวาง ๆ ของนายเบ็ดตกปลานั่น ผมก็เลยไม่กล้าไล่กลับเลยด้วย ได้แต่เตรียมข้าวเตรียมปลาให้ว่าที่ฆาตรกร (ชางมินว่างั้น) อย่างไม่มีปากมีเสียง ตอนนี้ผมชักกลัวแล้วสิว่าวันดีคืนดีชางมินจะลุกขึ้นมาปาดคอผมแทนเป้าหมายของเขา
และพอผมไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง
ผมก็เลยตัดสินใจ... โทรศัพท์
มันสืบเนื่องมาจากเมื่อวานที่มีเบอร์ประหลาดส่งข้อความมาสั่งให้ผมแก้ข่าว ข่าวอะไรก็ไม่บอก แล้วผมจะรู้เรื่องมั้ยเนี่ย ใช่มั้ยล่ะ ผมก็เลยพิมพ์ตอบไปว่าไม่แก้ ไม่เข้าใจ ไม่สน ไม่ ไม่ ไม่ อยากแก้ก็แก้เองสิ พวกเราพิมพ์โต้กันไปกันมาอยู่ตั้งนานจนกระทั่งเงินผมหมด และพอเงินหมดนั่นแหละ ถึงเพิ่งนึกออกว่าลืมถามชื่อ แต่สำนวนการตอบมันก็ทำให้ผมคิดว่าเป็นยุนโฮจนลืมถามจริง ๆ นั่นแหละ
แต่วันนี้ผมเติมเงินไว้แล้ว แต่ไม่แล้วล่ะ ผมไม่ส่งข้อความแล้ว เปลืองเงินชะมัด โทรคุยกันยังรู้เรื่องมากกว่าอีก แต่หวังว่าคนปลายสายจะเป็นยุนโฮจริง ๆ นะ เพราะตอนที่ถือสายรอเนี่ย ผมตื่นเต้นมาก ๆ เลยล่ะฮะ ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เป็นยุนโฮทีเถอะ เพี้ยง ๆ ๆ
และที่สุดก็มีคนรับ
แต่... เงียบมาก
เหมือนรับแล้วไม่พูด อารมณ์แบบลองเชิงผมอ่ะ เข้าใจความหมายมั้ยฮะ เหมือนแข่งกันว่าใครพูดก่อนแพ้อย่างนั้นเลย พวกเรายืนหายใจใส่กันอยู่เกือบนาที ยิ่งเงียบผมก็ยิ่งหวั่น แต่เอาก็เอาวะ เป็นฝ่ายโทรหาแล้วนี่เนอะ ลุยสักตั้งก็แล้วกัน ผมก็เลยตัดสินใจตัดคำทักทายทิ้ง (เพราะกลัวหน้าแตก) แล้วพูดออกไปว่า
“มีคนมายึดเตียงฉันล่ะ”
“...ใคร” นั่นไง! เสียงยุนโฮจริง ๆ ด้วย!! ผมกำมือถือแน่น ชั่งใจว่าจะถามเรื่องของยุนโฮเลยดีไหม แต่อีกใจก็กลัวเขาจะตัดสายทิ้ง ผมก็เลยเตะถ่วงเวลาออกไปก่อนเรื่อย ๆ ดีกว่า
“จำคนที่เดินแก้ผ้าในห้องฉันวันนั้นได้ไหม... เขากลับมาอีกแล้ว”
“...”
“...”
“แล้วมาบอกฉันทำไม”
“ก็ฉันกลัวนี่ ช่วยมาไล่กลับไปหน่อยสิ”
“เปิดประตูสิ”
“หา?”
“เปิดประตู” ยุนโฮสั่งย้ำเสียงแข็งตามสไตล์เขา และเพราะไม่มีทางเลือก ผมก็เลยเดินไปเปิดประตูห้องแบบงง ๆ ตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่เชื่อมั้ยฮะ เชื่อมั้ยว่าผมเห็นอะไรยืนอยู่หน้าประตูห้องผม
ยุนโฮ!!
นายหมีหนวดเครารุงรังตัวเป็น ๆ กำลังยืนสะพายกระเป๋าเป้ใบเดิมกับที่เคยสะพายในวันนั้น และก็กำลังยืนจ้องผมเขม็งจนผมงี้อยากร้องออกมาดัง ๆ (นึกว่าโจร) ผมรู้ตัวเลยล่ะว่าตัวเองตีหน้าเหวอมาก ๆ ปากงี้อ้าค้างจนแมลงวันเข้าไปวางไข่ได้แล้วมั้ง ยุนโฮก็เลยถือโอกาสดีดหน้าผากผมดังเผี๊ยะ เจ็บจนเรียกสติได้เลยฮะ
“ยะ...ยุนโฮ?”
“อยู่ไหน”
“นายกลับมาแล้วเหรอ”
“ฉันถามว่าชีเปลือยนั่นอยู่ไหน”
“ออกไปซื้ออุปกรณ์ฆ่าคน” นี่ผมไม่ได้พูดเล่นนะ แต่ชางมินบอกผมไว้อย่างนั้นจริง ๆ และผมก็ไม่อยากเซ้าซี้ถามเจ้าเด็กเป็ดนั่นด้วยว่าจะฆ่าคนด้วยกรรมวิธีแบบไหน ผมตั้งสติอีกครั้ง กะพริบตายังไงยุนโฮก็ไม่หายไป ความรู้สึกผมในตอนนั้นมันโล่งใจมาก ๆ เลยครับ คือเหมือนกับความเครียดทั้งหมดมันหายไปในทันทีที่เห็นหน้ายุนโฮน่ะ แถมงวดนี้เขากลับมาแบบไม่มีร่องรอยบาดเจ็บด้วย ดีจัง “นาย... กลับมาแล้ว?”
“ไม่ดีใจเหรอ” ยุนโฮเลิกคิ้วใส่ผม หน้าตาเขาเฉยชามาก “แต่ลืมไป เพิ่งเลิกกันนี่เนอะ”
“นายพูดอะไรของนายน่ะ” ผมก็ทำเนียนไม่รู้เรื่องไปสิฮะ ไม่อยากดราม่าอ่ะ “นายต่างหากที่ติดค้างคำอธิบายกับฉันอยู่ ไปมาไม่มีลา ...ใจร้าย”
ยุนโฮดูชะงักไปนิดหน่อย สงสัยจะเริ่มรู้สึกผิด เพราะผมค้อนใส่เขา แต่ผมก็รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ นี่ เพื่อน ๆ ก็คิดกันใช่ไหมล่ะว่ายุนโฮใจร้ายกับผมมากที่ไม่ยอมให้ผมมีส่วนร่วมกับเรื่องราวของเขา เขาจะรู้บ้างไหมว่าผมทั้งคิดมากทั้งเป็นห่วง วัน ๆ ก็เอาแค่คิดถึงยุนโฮจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว
“ขอโทษ...” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองตอนที่ได้ยินยุนโฮพูดคำนี้ออกมา
“นายทิ้งฉัน” พอรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ ผมก็เลยเริ่มร่ายรายการความเสียใจของผม
“ขอโทษ” และยุนโฮก็เอาแต่พูดคำเดิม เฮ้อ ฟังแล้วก็หายโกรธขึ้นมาหน่อย
“นายไปกับคารัม”
“อืม”
“นายไม่ยอมเล่าอะไรให้ฉันฟังเลย”
“อืม”
“นายบอกว่าไม่ใช่เรื่องของฉัน”
“ขอโทษ”
“คารัมสำคัญกว่าฉันใช่ไหม”
“เขากำลังมีปัญหา”
“แล้วฉันล่ะ”
“ตอนนี้นายก็เป็นตัวปัญหาเหมือนกัน”
“ยุนโฮ!” ผมฉุนกึก แต่ก็เกือบหลุดยิ้มออกมาด้วย แทนที่เขาจะทำหน้าหงอเหมือนลูกหมาสำนึกผิดไปเรื่อย ๆ จนกว่าผมจะบอกว่ายกโทษให้ แต่ปากหนอปากของยุนโฮก็ยังเหมือนเดิมไม่มีผิด “ฉันยังไม่หายโกรธนะ”
“นายโกรธฉันเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่นายหายไป”
“เรื่องเดียว?”
“ไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังด้วย”
“สองเรื่อง?”
“เอ่อ... คงงั้น” ผมเริ่มงงว่าแล้วยุนโฮจะมานั่งนับความผิดของตัวเองไปทำไม แต่แล้วผมก็ได้คำตอบทันทีเมื่อยุนโฮเริ่มนับนิ้วไล่ความโกรธของเขาบ้าง
“นายพาคนอื่นเข้าห้อง นายให้ชีเปลือยเดินเพ่นพล่าน นายไม่ยอมร้องเพลงวันเกิดให้ฉัน แถมนายก็ยังไม่ยอมแก้ข่าวเรื่องเราสองคนด้วย” ยุนโฮชูนิ้วขึ้นมาสี่นิ้วตามจำนวนข้อที่เขาพูด “หักความผิดของฉันสองเรื่อง ก็ยังเหลืออีกสองเรื่องที่นายนั่นแหละต้องเป็นฝ่ายขอโทษฉัน”
“ตลก!” ผมล่ะไม่เค้ยไม่เคย ไม่เคยเจอใครนับความผิดกันอย่างนี้เลย ของอย่างนี้มันทดกันได้ด้วยเหรอไง สมองของนายคนนี้ต้องอยู่มิติอื่นแน่ ๆ “ฉันไม่ได้อยากให้ชางมินมาพักด้วยเสียหน่อย แต่เด็กนั่นเป็นน้องยูชอนนี่นา ฉันไล่เขาไม่ได้หรอก”
“น้องชาย?”
“น้องของแฟนเพื่อนน่ะ มาขอพักด้วยชั่วคราว”
“แล้ววันเกิดฉันล่ะ” ยุนโฮยังไม่เลิกเซ้าซี้
“วันเกิดฉันนายก็ไม่ได้ร้องเหมือนกันแหละ เจ๊ากัน”
“อืม...”
“หายโกรธแล้วใช่มั้ย” ทำไมไป ๆ มา ๆ เหมือนผมเป็นฝ่ายง้อเลยแฮะ นี่ผมก็ชักงง ๆ กับตัวเองแล้วล่ะ แต่ยุนโฮตอนไม่โกนหนวดมันน่ากลัวจริง ๆ นี่ ผมไม่กล้าทำตัวกร่างให้หมีภูเขาอาละวาดหรอก
“ชีเปลือยเป็นน้องของเพื่อนนายใช่มั้ย” ยุนโฮตอบคำถามด้วยคำถาม ดูเหมือนเขาจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว “งั้นนายนั่นแหละที่เก็บกระเป๋าซะ”
“เก็บ? แล้วทำไมฉันต้องเก็บด้วย” เอ๊ะ รึยุนโฮจะยอมให้ผมไปผจญภัยกับเขาแล้ว เขาจะยอมให้ผมมีส่วนร่วมกับความลับอะไรนั่นของเขาแล้วใช่ไหมนะ ผมเริ่มตื่นเต้น แต่ในวินาทีถัดมา หัวใจผมแทบหยุดเต้นเสียแทน
เพราะยุนโฮตอบว่า...
“ไปนอนห้องฉันจนกว่าชีเปลือยจะกลับ”
............
............
............
สมองผมระเบิดไปแล้วฮะ!! (ขอเวลาเก็บเศษเนื้อมาขยุ้มรวมกันอีกที)
คือ... คือ... คือผมบังคับหน้าตัวเองไม่ได้แล้ว มันร้อนมาก ร้อนจนถึงคอเลยมั้ง ผมพยายามตีความหมายนั่นใหม่ ไปนอน? ไปนอนห้องยุนโฮ? โฮกกกก ผมแทบคำราม แทบปะทุ ผมอยากเอาหน้าทิ่มลงไปในกองหิมะมาก ๆ ผมอยากเอาหน้าไปไว้ที่ไหนก็ได้ที่ยุนโฮมองไม่เห็นอ่ะ!
“ละ... แล้วนายล่ะ นายจะนอนไหน” ผมยังไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“ฉันก็นอนเตียงฉันสิ” ยุนโฮตอบเหมือนมันเป็นโจทย์ตายตัว แต่ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนี่!
“แล้วฉันล่ะ” ตอนนี้ผมกลัวคำตอบที่จะออกมาจากปากยุนโฮเอามาก ๆ คือสมองมันมโนไปเองแล้วไง มันคิดภาพในหัวเอาเองไปแล้วเรียบร้อย ซึ่งมันน่าอายม่ากกกกก ผม... ผม... ผมอธิบายอะไรไม่ออกแล้วครับ มันเยอะจริง ๆ ยุนโฮเป็นมนุษย์เพศผู้ที่เยอะจริง ๆ
ยืนยันได้ด้วยประโยคถัดมาของเขา
“เตียงฉันกว้างพอ”
ผมแทบระเบิดตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ได้การ ขืนต้องนอนเตียงเดียวกับยุนโฮ ผมคงหลับไม่ลงแน่ ๆ ก็ในเมื่อผมรู้แล้วว่าตัวเองคิดยังไงกับยุนโฮ แล้วจะให้ผมกล้าขึ้นไปนอนเตียงเดียวกับเขาอีกเหรอ ไม่มีทาง ผมไม่กล้าหรอก ผมไม่กล๊าไม่กล้า!
“ไม่! ฉันไม่นอนห้องนายหรอก ห้องฉันก็มีนี่ ทำไมต้องย้ายด้วย” ผมแข็งใจเถียงกลับไป แต่ก็รู้แหละว่าเสียงมันแอบสั่น ๆ เขิน ๆ
“ก็ห้องนายมีชีเปลือย”
“ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย”
“ถ้าไปนอนกับฉัน คืนนี้ฉันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง”
ข้อเสนอของยุนโฮอันนี้ต่างหากที่ทำเอาผมชะงัก แน่นอนว่าผมอยากรู้มาเป็นอาทิตย์ และนี่ก็เป็นโอกาสที่จะรู้เรื่องทั้งหมด แต่... แต่..... แต่ทำไมผมต้องไปนอนกับเขาด้วยเล่า T_____T
“ยังไงนายก็สัญญาว่าจะเล่าอยู่แล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องไป”
“ตามใจ” ผิดคาดแฮะ ยุนโฮไม่เถียงต่อ น่าแปลกใจใช่ไหมฮะ ตอนแรกผมก็แปลกใจนะ แต่พอได้ยินประโยคถัดมา ผมก็ไม่สงสัยว่าเป็นยุนโฮตัวปลอมแล้วล่ะ “การเล่ามันมีหลายแบบ มันก็ขึ้นอยู่กับนายล่ะนะว่าอยากได้แบบประโยคเดียวจบ หรือจะเอาแบบละเอียด ๆ”
“ยุนโฮอ่ะ!”
“รอที่ห้อง”
พูดจบเขาก็หมุนประตูกลับเข้าห้องตัวเองไปเฉยเลย ทิ้งผมให้ยืนหน้าแดงอยู่ตรงนั้นคนเดียวอ่ะ ร้ายมาก! ยุนโฮใจร้ายมาก! เพื่อน ๆ ก็คิดเหมือนผมใช่ไหมฮะ ยุนโฮขี้โกงชัด ๆ
แล้วผมจะทำไงดีล่ะเนี่ย แหงล่ะว่าผมอยากรู้เรื่องทั้งหมดใจจะขาด แล้วต้องรู้แบบละเอียดด้วย เพราะถ้าให้ยุนโฮพูดสรุปตามสไตล์มึนเมาแล้วล่ะก็ ผมคงไม่มีทางเข้าใจแน่ ๆ โอ๊ย แล้วผมควรจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย
ทุกคนว่า... ผมควรเก็บกระเป๋ามั้ยฮะ
แจจุง
ความคิดเห็น