ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic TVXQ] +:-= Because of Love =-:+ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #20 : 12 - 02 - 04 : มีใครอยากได้ของขวัญวันเกิดของผมบ้างไหม

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 55


     

     

     

     

    04  กุมภาพันธ์  2012

     

     

                วันนี้... ผมได้ของขวัญวันเกิดตัวโตที่น่าฆ่าหมกตู้เย็นมากถึงมากที่สุดฮะ

     

                อาจจะยังไม่รู้กัน  แต่วันนี้วันเกิดผมครับ  แก่ขึ้นอีกปีซะแล้วสิ  แถมยังเป็นปีที่แย่ชะมัดด้วย  (โปรดอย่าถามนะว่าทำไม  ผมพยายามทำเป็นลืมอยู่ฮะ  วันเกิดผมทั้งทีนี่นา  ผมต้องมีความสุขใช่มั้ย  ยิ้ม ๆ ๆ  สู้ ๆ ๆ )

     

                ในที่สุดผมก็ขนของไปนอนค้างกับจุนซูและแฟนของเขา  แม้ไม่คิดจะเล่าอะไรให้ฟัง  แต่จุนซูก็รู้แหง ๆ ล่ะว่าผมมีปัญหากับยุนโฮ  เพราะเจ้าเพื่อนคนนี้เล่นเค้นผมยิ่งกว่าผู้ต้องหาในเรือนจำซะอีก  (ไอ้ไก่มันบ้าจี้เอาโคมไฟมาส่องหน้าผมด้วยซ้ำ)  สุดท้ายผมก็ต้องเล่าคร่าว ๆ ให้ฟังว่ายุนโฮไปนอนค้างที่อื่น  แล้วก็ไม่ยอมให้ผมรู้เรื่องของเขาด้วย

     

                เท่านั้นล่ะที่จุนซูดิ้นเป็นเจ้าเข้า  บอกว่าจะเอาหิมะไปถมที่ประตูห้องยุนโฮ  (แต่ฝั่งตรงข้ามมันก็ห้องผมนะ)  ร้อนถึงพวกผมที่ต้องยื้อเป็นการใหญ่  กว่าจุนซูจะสงบลงก็ใช้เวลาตั้งนานน่ะ  แต่ถึงอย่างนั้นจุนซูก็ยังแค้นฝังใจมาก  บอกว่าจะหาทางแก้แค้นที่กล้าทำอย่างนี้กับผม  รู้มั้ย  ผมไม่เคยรู้สึกรักจุนซูเท่านี้มาก่อนเลย  ถึงจุนซูจะดื้อจะแรงยังไง  แต่จุนซูก็พร้อมโกรธแทนผมเสมอ  ชาตินี้ผมคงหาเพื่อนที่ทำเพื่อผมขนาดนี้ไม่ได้แล้วแหง ๆ

     

                และแล้วเราก็ฉลองวันเกิดผมกันสามคนที่ห้องยูชอนนั่นแหละ  จุนซูซื้อเค้กมาเป่า  ซื้อตุ๊กตาหมีสีขาวตัวเบ่อเริ่มมาให้ผมด้วย  (ผมสะอึกเลยแหละ  มันทำให้ผมคิดถึงหมีห้องตรงข้ามจริง ๆ นะ)  ส่วนยูชอนก็ซื้อโซจูมาตั้งสองสามโหล  บอกว่าจะมอมผมให้กร้านโลก  แต่แหงล่ะสิว่าคนซื้ออยากกร้านโลกเองเสียมากกว่า

     

                พวกเราเฮฮากันไปเรื่อยเปื่อย  ผมไม่ค่อยดื่มหรอกฮะ  เพราะไม่อยากตื่นขึ้นมาปวดหัว  แต่กับคู่รักปัญญาอ่อนนี่สิที่แทบจะลงไปเลื้อยด้วยกันอยู่รอมร่อ  สงสัยจะลืมผมที่นั่งหัวโด่อยู่ด้วยไปแล้วแหง ๆ  ผมก็เลยคิดว่าออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อยดีกว่า  ปล่อยให้เขาสวีทกันหน่อยก็แล้วกัน  ผมแกล้งทำเป็นบอกว่าจะลงไปซื้อกับแกล้มเพิ่ม  แล้วก็ชิ่งออกมาเลย

     

                ผมเดินลงมาข้างล่าง  นอกตึกตอนกลางคืนมันหนาวมากเลยล่ะฮะ  แต่ผมก็ชอบนะ  ผมชอบอากาศหนาวแหละ  แต่ตอนนี้ความหนาวมันก็ทำให้ผมรู้สึกเหงาได้เหมือนกัน  เพราะมันคงจะดีไม่น้อยเลยถ้าหากว่าผมมีใครสักคนเดินกุมมือผมอยู่ข้าง ๆ  ...บ้าชะมัด  ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่คิดถึงยุนโฮแล้วแท้ ๆ เชียว  แต่ผมก็ทำไม่ได้  ผมไม่มีทางลืมได้หรอก  เพราะทุกครั้งที่บอกตัวเองว่าจะลืม  นั่นก็แปลว่าเรายังคิดถึงเขานี่นา

     

                และในเวลานี้ผมก็กำลังคิดถึงยุนโฮ

     

                ผมโกรธยุนโฮที่ทำอย่างนี้กับผม

     

                และก็โกรธตัวเองที่หยุดคิดถึงเขาไม่ได้ด้วย

     

                ผมเดินเตร่ไปเรื่อยเปื่อย  แวะร้านค้าข้างทางเป็นระยะ ๆ เพราะไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรมากมายอยู่แล้ว  วันนี้มีแต่คนโทรมาอวยพรวันเกิดให้ผม  แต่ยุนโฮกลับเงียบหายออกไปจากชีวิตของผมโดยสมบูรณ์  เขาคงไม่รู้หรอกว่าผมเกิดวันนี้  (แต่ผมแอบหวังว่าเขาจะรู้นี่นา)  สุดท้ายผมก็มาหยุดที่แม่น้ำสายเล็ก ๆ แห่งหนึ่งฮะ  ดูท่าผมจะเดินออกมาไกลน่าดูนะเนี่ย  แต่เพราะบรรยากาศเหงา ๆ ของที่นี่ทำให้ผมชะงัก  อยากเก็บภาพสวย ๆ แบบนี้ไว้ซะแล้วสิ  ผมก็เลยควักมือถือขึ้นมาถ่ายวิวทิวทัศน์  แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่แสงแฟลชของผมไปรบกวนใครอีกคนที่นั่งเล่นอยู่แถวนั้น

     

                “นายทำให้ปลาตื่น”

     

                “อ่ะ  ขอโทษที  ฉันไม่ทันเห็นว่านายตกปลาอยู่”  ผมรีบก้มหัวขอโทษใครก็ตามที่หันมาดุผม  ก็แล้วใครให้เขามานั่งตกปลาท่ามกลางอากาศหนาวจัดแบบนี้ล่ะ  แถมแถวนี้ยังไม่ค่อยมีโคมไฟอีกต่างหาก  ผมที่มัวแต่คิดเรื่องอื่นก็เลยไม่ทันได้เอะใจว่าไม่ได้อยู่คนเดียว

     

                “ชื่ออะไร”  อยู่ดี ๆ เขาก็ถามผม

     

                “แจจุง”  ผมก็ซื่อตอบเขาไปซะงั้นเนอะ  แต่เราเป็นฝ่ายผิดนี่นา

     

                “นามสกุลล่ะ  เวลาใครเขาถาม  นายต้องตอบชื่อเต็ม ๆ พร้อมนามสกุลไม่ใช่เหรอไง”

     

                “เอ่อ... คิมแจจุง”  นามสกุลนี้โหลมาก  ผมเลยไม่ห่วงที่จะเปิดเผยมันเท่าไหร่

     

                “เอาล่ะคิมแจจุง  กรุณาชดใช้ความเสียหายด้วย  ไปซื้อปลามาคืนฉันเดี๋ยวนี้”

     

                “หา?”

     

                “ยังจะทำหน้าเหวออีก  ก็นายทำให้ปลาว่ายหนีไปหมดแล้ว  แล้วคืนนี้คิดว่าฉันจะตกอะไรได้อีกอย่างนั้นเหรอ”  เขาใส่ผมเป็นชุด  นี่มันอะไรกันเนี่ย  จากที่งง ๆ มาตอนนี้ผมเริ่มโกรธ ๆ แล้วล่ะ

     

                “ก็ฉันไม่รู้นี่ว่านายตกปลาอยู่  คราวหลังก็จุดตะเกียงอะไรไว้ข้างตัวหน่อยสิ”

     

                “ฉันหิว”

     

                “ฮะ?”

     

                “ฉันบอกว่าฉันหิว  และตอนนี้ฉันก็ไม่มีเงินติดตัวด้วย!

     

                เมื่อดูจากหน้าตาและรูปร่างแล้ว  ผมไม่คิดว่าเขาจนหรอกนะ  แต่ไม่มีเงินถึงขั้นมาตกปลาเลยอย่างนั้นเหรอ  ช่างเป็นผู้ชายที่แปลกประหลาดและน่ากลัวจริง ๆ   ผมค่อย ๆ เขยิบเข้าไปใกล้เขา  (การอยู่กับหมีติสต์แตกนาน ๆ ทำให้ผมเริ่มไม่กลัวคนแปลกหน้าฮะ)  อืม  มาตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกผิดแล้วล่ะ  เพราะถ้าเขาไม่มีเงินจนต้องมานั่งตกปลาอย่างนี้  เขาก็สมควรที่จะโกรธผม

     

                “งั้นให้ฉันเลี้ยงข้าวนายแล้วกัน  อยากกินอะไรล่ะ”

     

                “เค้ก”  เขาตอบชัดถ้อยชัดคำ  แล้วก็ออกอาการชักสีหน้าเมื่อเห็นผมยิ้ม  “ขำอะไร  ฉันอยากกินของหวานแล้วมันผิดตรงไหนไม่ทราบคิมแจจุง”

     

                “เปล่า  มันก็แค่... วันนี้วันเกิดฉันน่ะ”

     

                “เหรอ  สุขสันต์วันเกิดก็แล้วกัน  อายุเท่าไหร่แล้วล่ะ  ครบสามสิบรึยัง”  ผมเริ่มอยากเอาเหยื่อตกปลายัดใส่ปากตาคนนี้แล้วล่ะ  “เอาล่ะ  งั้นถือซะว่านายพาฉันไปเลี้ยงฉลองก็ได้  นายเป็นเจ้าภาพนี่  จัดเต็มซักมื้อเลยก็แล้วกัน”

     

                “เคยมีใครบอกนายมั้ยว่ากวนตีนมาก”  พอนายเบ็ดตกปลายืนเท่านั้นแหละ  โห  เขาสูงกว่าผมอีกแน่ะ  น่าจะสูงกว่ายุนโฮด้วยซ้ำ  อ่ะ  ผมบอกไปแล้วนี่นาว่าจะไม่คิดถึงเขา  หยุด ๆ ๆ

     

                “มีแต่คนบอกว่าฉันมันหล่อและรวยมาก”

     

                “รวยแต่ไม่มีเงินกินข้าวเนี่ยนะ?”

     

                “ฉันหนีออกจากบ้าน”

     

                “พูดจริง?”

     

                “ฉันเป็นคนมีอุดมการณ์นะ”  เขาบอกผมแบบมั่นใจในตัวเองมาก  พวกเราเดินออกไปที่ถนนอีกครั้ง  พอมีแสงไฟ  ผมก็เพิ่งได้เห็นชัด ๆ นี่แหละว่านายกวนเบื้องล่างคนนี้หน้าตาดีมากแค่ไหน

     

                “แล้วฉันควรเรียกนายว่าอะไรดีล่ะนายคนหนีออกจากบ้าน”

     

                “ฉันชื่อชิมชางมิน”  ทุกคนจำไว้นะฮะ  ถ้าเจอใครชื่อนี้  กรุณาอยู่ให้ห่างจากเขา  ย้ำว่าอยู่ให้ห่าง  นี่ผมประกาศชื่อแซ่ออกสื่อชัดเจนขนาดนี้เป็นครั้งแรกเพราะไม่อยากให้ใครเก็บ (ปาก) สุนัขไปเลี้ยงแบบผมอีกแล้ว

     

                ใช่  ที่ผมใช้คำว่าเก็บไปเลี้ยงก็เพราะว่าหลังจากที่ผมเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ชางมินไปแล้ว  (ขอเน้นเลยว่าใหญ่มาก  ผมงี้แทบเกลี้ยงกระเป๋า  เขากินจุจริง ๆ ฮะ)  แทนที่เราสองคนจะแยกกัน  ชางมินกลับขอตามไปนอนค้างกับผมด้วยซะงั้น  เขาบอกว่าเขาไม่มีที่ไป  กลัวคนที่บ้านตามเจอ  เพราะงั้นไปนอนกับคนแปลกหน้าน่าจะปลอดภัยที่สุด

     

                แต่กับผมนี่สิ... กุมขมับยังน้อยไป

     

                ผมเลยบอกไปว่าผมนอนค้างห้องเพื่อนอยู่เหมือนกัน  คงไม่สะดวกให้เขาไปค้าง  แต่รู้มั้ยว่านายชิมชางมิน  เพศผู้  หน้าตาดี  ขายาว  ตาโต  หูกาง  ปากเสีย  ทำเช่นไร

     

                เขาหยิบกระเป๋าเงินผมไปค้นดื้อ ๆ !!

     

                แล้วพอเห็นกุญแจห้องผม  เห็นบัตรประจำตัวผม  เขาก็จัดการโบกรถแท็กซี่แล้วผลักผมขึ้นรถเฉยเลย  วินาทีนั้นผมคิดออกแค่ว่าผมโดนลักพาตัวแล้วแน่ ๆ   แต่ก็กลับกลายเป็นว่าชางมินบอกที่อยู่หอพักผมให้โชเฟอร์ซะงั้น  (ที่กุญแจผมจะมีชื่อหอพักติดอยู่ฮะ)

     

                “เดี๋ยวสิ!  ฉันยังไม่อนุญาตให้นายไปนอนกับฉันเลยนะ!

     

                “ผู้ชายด้วยกัน  กลัวไรนักหนา”  ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นซะที่ไหนเล่า

     

                “ฉันไม่รู้จักนายซะหน่อย  นายน่ะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับฉันชัด ๆ   แล้วจะให้ฉันพาคนไม่รู้จักไปนอนด้วยเนี่ยนะ  เกิดนายย่องเบาหรือฆ่าปาดคอฉันขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ!?

     

                “โอ๊ย  โวยวายอยู่นั่นแหละ  เอ้า  นี่บัตรประชาชนฉัน”  ชางมินโยนบัตรแข็ง ๆ มาให้ผม  “เก็บไว้จนพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน  ถ้าฉันปล้ำนายเมื่อไหร่  นายก็เอาบัตรนี้ไปให้ตำรวจซะ  ส่วนฆาตกรรมเนี่ย  ไม่ต้องห่วงนะ  ฉันจะพยายามหักห้ามใจ”

     

                ผมมองบัตรในมือสลับกับหน้าชางมิน  คืองงมาก  เหวอมาก  แล้วก็ตื่นตระหนกมาก ๆ ด้วย

     

                ตกลงว่ายังไง ๆ ชางมันก็ดึงดันจะไปนอนกับผม  เพราะสุดท้ายแล้วเราก็มาถึงที่หมาย... หอพักของผมเอง

     

                ชางมินจ่ายเงินให้แท็กซี่  (เขายึดกระเป๋าผมไปแล้ว)  แล้วก็ลากผมขึ้นไปตามหมายเลขห้องที่ติดอยู่ตรงกุญแจ  มาถึงตรงนี้  ผมว่าผมไม่มีทางเลือกแล้วล่ะฮะ  เพราะชางมินแรงเยอะมาก  เขาบอกว่าถ้าผมยังเสียงดังไม่เลิก  เขาจะเอาหนอนที่ยังไม่ตาย (เหยื่อปลา) ยัดปากผม  ผมไม่กลัวหนอนนะ  แต่กลัวว่าชางมินจะทำได้จริง

     

                สุดท้ายผมก็เลยต้องยอมเขา  พอไขกุญแจห้องได้  เจ้าเด็กนี่ (ผมดูบัตรเขาแล้ว  ชางมินอ่อนกว่าผมปีนึงฮะ) ก็วิ่งโร่ไปอาบน้ำทันที  และพออาบเสร็จ  เปลี่ยนชุดเสร็จ  ก็ยึดเตียงผมไปนอนกรนคร่อก ๆ โดยไม่ขออนุญาตผมด้วยซ้ำ  ท่าทางเขาจะเพลียมาทั้งวัน  แต่ผมนี่สิ... ที่ยังเหวอไม่เลิก

     

                ผมยืนมองคนที่ยึดเตียงผมไปครองอย่างไม่แน่ใจว่าควรแจ้งตำรวจดีมั้ย  แต่ชางมินบอกว่าหนีออกจากบ้านนี่นา  ป่านนี้ที่บ้านคงเป็นห่วงเขาน่าดู  ดูจากผิวพรรณแล้ว  คงจะรวยแหง ๆ   พวกเสื้อผ้าที่พกใส่กระเป๋ามาก็เป็นแบรนด์เนมทั้งนั้นด้วย  อ่า  แล้วตกลงว่าผมควรจะทำยังไงดีเนี่ย  แจ้งตำรวจก็สงสาร  แต่จะให้อยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่ดีแน่ ๆ   ลำบากใจชะมัด  ทำไมผมต้องเป็นคนขี้ใจอ่อนแบบนี้ด้วยนะ

     

                แล้วเพื่อน ๆ ล่ะฮะ... คิดว่าผมควรทำยังไงกับของขวัญวันเกิดชิ้นนี้ดี  ผมควรรอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าแล้วบอกให้ชางมินออกไปอยู่ที่อื่นซะดีมั้ย  ตอนนี้ผมคิดออกแค่วิธีนี้เอง  แต่ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าจะสำเร็จ  เพราะเขาดูดื้อยิ่งกว่าจุนซูซะอีก  แถมรั้นถึงขั้นหนีออกจากบ้านได้เนี่ย  แค่ขอให้ออกไปดี ๆ คงไม่สำเร็จแน่  ใครมีวิธีจัดการดี ๆ ก็ช่วยแนะนำผมเข้ามาหน่อยนะฮะ  กลุ้มใจมากเลยล่ะ  ผมไม่ได้ขอของขวัญวันเกิดเป็นชิมชางมินเสียหน่อย

     

                ปล.  จนถึงวันนี้  ยุนโฮก็ยังไม่กลับเลยล่ะฮะ  เฮ้อ...

     

     

                แจจุง            

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                รู้มั้ยคะ...  ตอนแรกอาซินไม่ได้ลืมชางมินนะ

     

                คือตอนแรกสุด  เอาแบบสุด ๆ ๆ ๆ เลยนะ  อาซินตั้งใจจะให้มินเป็นเจ้าของหอพักที่ยุนแจพักอยู่ค่ะ  อารมณ์แบบลูกเจ้าของมาเก็บค่าเช่าไรงี้  แต่ตอนนั้นคิดว่ายังไม่ถึงเวลา  รอจังหวะมือที่สามไปก่อน  แล้วพอรอไปนาน ๆ   อาซินก็ลืมมมมมมมมสุดที่รักของตัวเองไปเฉยเลย  รู้สึกตัวอีกที...  อ้าว  วันเกิดชางมิน  อ้าว  ชางมินยังไม่มีบท  ฉิบหายล่ะ...

     

                เพราะงั้นก็เลยจัดให้ซักดอก  โผล่มาในวาระวันเกิดของจริงไปเลยแล้วกัน  เก๋ไปอีกแบบนะตัว  ในเรื่องคือวันเกิดแจจุง  แต่ของจริงคือวันเกิดชางมิน  คู่โหดโซลไฟเตอร์นี่อาซินก็ชอบน้า  มันซาดิสต์ดีอ่ะ  ฮา

     

                พาร์ทที่ผ่านมา  เหมือนจะมีแต่คนยุให้โกรธยุน  หนียุน  งอนยุน  ก็โอเค้  เป็นสิทธิ์ค่ะเป็นสิทธิ์  แต่ก็พึ่งระวังไว้นะว่ามันอาจจะไม่ได้จบแบบยุนแจ  ถึงจะบอกว่าไม่มีเกมโอเวอร์แล้ว  แต่ถ้าแจไม่ให้อภัยยุนเนี่ย...  อาซินก็ตัดจบได้นะเอ้อ  หรือไม่ก็เบนหัวเข็มไปหามินซะเลย  (แต่ทางทฤษฎีก็น่าจะถือว่าเกมโอเวอร์นะ  เพราะภารกิจล้มเหลวนี่นา)

     

                แต่ก็เอาเถอะ  แจจุงจะทำตามคอมเม้นต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ  มันจะจบอีท่าไหนอาซินเองก็ยังไม่รู้  ตอนนี้ยังพอเมตตาหาทางคืนดีให้อยู่  (ย้ำว่าที่ผ่านมาอาซินมีเมตตาเสมอ)  เพราะงั้นก็เอาใจช่วยแจจุงกันต่อไปเน้อ

     

                ปล. รักคนอ่าน

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×