คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : 11 - 12 - 12 : มันไม่โอเค (อีกแล้ว)
12 ธันวาคม 2011
ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ ในห้องนี้ลืมผมไปแล้วเหรอยัง แจจุงเองนะครับ พอดีช่วงนี้ยุ่ง ๆ กับโครงงานที่ต้องรีบปั่นส่งอาจารย์ ก็เลยไม่ได้แวะเข้ามาเล่นในนี้เท่าไหร่เลย หวังว่าคงยังไม่ลืมปัญหาที่ผมเคยมาปรึกษาบ่อย ๆ นะ เพราะตอนนี้ผมมีปัญหาใหม่มาให้วิตกอีกแล้วล่ะฮะ แน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่สืบเนื่องมาจากปัญหาเดิม นั่นก็คือนายเพื่อนร่วมหอที่อยู่ฝั่งตรงข้ามผมนั่นเอง
ผมคงต้องเท้าความช่วงที่ผมไม่ได้มาเล่นในห้องนี้ก่อนสินะ
นับถอยหลังไปจากครั้งล่าสุดที่ผมมีปัญหากับยุนโฮ (และก็เคลียร์กันได้แล้ว) ก็ร่วมอาทิตย์กว่า ๆ แล้วใช่ไหมฮะ และตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา พวกเราก็เป็นญาติดีกันในระดับหนึ่งนะ เพราะผมเลิกระแวงเขาแล้ว ส่วนเขาเองก็เลิกเซ้าซี้ผมแล้วเหมือนกัน พวกเราเป็นเพื่อนร่วมหอที่ดีต่อกันครับ (ในความคิดผมนะ) ก็แบบ... มีฝากอีกคนลงไปซื้อของบ้างอะไรอย่างนี้ หรือไม่บางวันที่อยู่ห้องด้วยกันทั้งคู่ เราก็จะขนของมานั่งเล่นกันตรงประตูห้อง ขนมเอย โน้ตบุ๊กเอย หนังสือเอย ยิ่งช่วงนี้อากาศหนาว ๆ ทั้งผมและยุนโฮต่างก็จะขนผ้าห่มมาคลุมกันอยู่ตรงระเบียงทางเดินเลยล่ะ เรียกได้ว่าเกะกะคนอื่นมาก แต่โชคดีที่ห้องของพวกเราอยู่ติดบันไดหนีไฟฮะ ก็เลยไม่ค่อยเป็นปัญหาสักเท่าไหร่ ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่โลดโผนดีนะ (สำหรับคนที่ไม่ค่อยกล้าทำอะไรนอกกรอบอย่างผม) ทุกครั้งที่ทำอย่างนี้ผมก็เลยจะตื่นเต้นฮะ แต่ก็แอบรู้สึกดีด้วย เหมือนกับว่าเป็นเด็กเกเรอะไรอย่างนั้นเลย สงสัยผมคงติดนิสัยติสต์ ๆ ของยุนโฮมาแล้วแน่ ๆ แต่ผมก็ไม่รังเกียจที่ตัวเองเป็นแบบนี้หรอกนะ
และก็นั่นแหละฮะ สรุปก็คือพวกเราเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่ปัญหาใหม่ของผมมันก็เริ่มจากตรงจุดนี้แหละ เรื่องของเรื่องก็คือวันนี้รูมเมทเก่าผมมาเที่ยวที่ห้องผมครับ อันที่จริงต้องบอกว่าทะเลาะกับแฟนตัวเอง เลยหนีมาแอบอยู่ห้องผมมากกว่า สมมติว่าเพื่อนคนนี้ของผมชื่อจุนซูก็แล้วกันนะ
จุนซูเป็นบุคคลตัวอย่างของพวกเลือดกรุ๊ปบีเลยฮะ คือเอาแน่เอานอนไม่ได้ ยึดตามอารมณ์ของตัวเองเองเป็นหลัก แถมยังทำอะไรตามใจฉันสุด ๆ อีกต่างหาก บางครั้งเพื่อนคนอื่น ๆ ยังบอกเลยว่าจุนซูเป็นเหมือนแมวดี ๆ นี่เอง (ในขณะที่ผมถูกเปรียบเป็นลูกสุนัข) บางครั้งแม้แต่ผมเองก็ยังเดาอารมณ์ของจุนซูไม่ออก เพราะมีทั้งด้านที่ร่าเริงสุด ๆ แล้วก็ด้านที่เงียบขรึมสุด ๆ อยู่ด้วยกัน แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราสองคนก็สนิทกันดีตามประสาเพื่อนร่วมห้องนั่นแหละครับ
เข้าเรื่องกันต่อ วันนี้ผมไม่มีเรียนตอนบ่าย ก็เลยชวนจุนซูมานั่งเล่นหน้าห้องด้วยความเคยชิน (ยุนโฮมีเรียนฮะ ผมเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เองว่าเขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับผม แต่เป็นรุ่นพี่ผมสองปี แล้วก็คนละคณะด้วย ผมไม่บอกก็แล้วกันว่าคณะอะไร แต่เป็นคณะชื่อดังที่ติดอันดับคนอยากเข้าเรียนต่อมากที่สุดในโซลเลยล่ะ จนป่านนี้ผมก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่ติดเกมส์ออนไลน์ทั้งวันทั้งคืนอย่างยุนโฮจะเรียนเก่ง พระเจ้าไม่ยุติธรรมชะมัด) ตอนแรกจุนซูก็งง ๆ ที่ผมขนผ้าห่มมานั่งหน้าห้อง แถมยังเปิดประตูซะอ้าซ่าอีกต่างหาก แต่พวกเราก็นั่งคุยนอนคุยกันอยู่ตรงนั้นไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งยุนโฮกลับมาพอดี
“ฉันไม่รู้ว่านายอยู่กับเพื่อน” ยุนโฮที่มาพร้อมหนวดเครารุงรังเอ่ยทักผมโดยไม่แม้แต่จะชายตามองจุนซู เขาเป็นคนแบบนี้เสมอแหละฮะ แต่ผมก็ชินเสียแล้ว ผมมองดูยุนโฮยื่นถุงที่ใส่แก้วกระดาษมาให้ผม นี่ก็เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเราเหมือนกัน “ก็เลยซื้อโกโก้ร้อนมาแค่แก้วเดียว”
“ขอบคุณนะ” ใช่แล้ว ผมชอบโกโก้ร้อน ๆ ที่สุดเลยล่ะ ยิ่งเจ้าข้างล่างหอพักเรา ยิ่งเป็นอะไรที่ผมชอบมาก เพราะเขาชงได้เข้มดีครับ ยิ่งดื่มตอนอากาศหนาว ๆ จะเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดในสามโลกเลยล่ะ
ยุนโฮพยักหน้าให้ผมหนึ่งที ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องตัวเองไป เขาคงไม่ออกมานั่งเล่นโน้ตบุ๊กหน้าห้องแน่ เพราะเห็นว่าผมมีเพื่อนอยู่ด้วย ใจหนึ่งผมก็รู้สึกผิดเล็ก ๆ นะ เพราะที่หน้าห้องเป็นเหมือนสถานที่ระหว่างผมกับยุนโฮ แต่อยู่ดี ๆ ผมกลับแบ่งสถานที่นี้ให้จุนซูด้วย เพราะถ้าผมเป็นยุนโฮ ผมอาจจะเกิดความรู้สึกน้อยใจหรือไม่ก็เหมือนถูกหักหลังก็ได้ ไม่รู้สิ ผมมันเป็นพวกชอบแคร์ความรู้สึกของคนอื่นนี่นา ดังนั้นผมจึงได้แต่หวังว่ายุนโฮจะไม่คิดมากกับเรื่องนี้
“นายสนิทกับพี่เขาเหรอ” จู่ ๆ จุนซูก็ถามผมขึ้นมา เขายังคงจ้องประตูห้องของยุนโฮเหมือนจะทะลุเข้าไปหาคนที่อยู่ข้างใน จุนซูโหมดดาร์กที่ผมอ่านใจไม่ออกปรากฏตัวขึ้นแล้ว
“อือออ ก็คงนิดหน่อยล่ะมั้ง อยู่ห้องตรงข้ามกันนี่” ผมขานรับแบบไม่เต็มเสียง แต่เมื่อสังเกตเห็นนัยน์ตาระยิบระยับของจุนซู ผมก็เริ่มเดาอะไรได้บางอย่าง ก็อย่างว่าแหละฮะ พวกเราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว แถมจุนซูยังเรียกว่าพี่อีก แสดงว่าต้องรู้จักยุนโฮแน่นอน แต่เพื่อความชัวร์ ผมก็เลยถามออกไปตรง ๆ แบบไม่คิดอะไร “ทำไม? นายรู้จักยุนโฮอย่างนั้นเหรอ”
“ไม่เชิงหรอก แต่พี่ยุนโฮเขาดังจะตาย เป็นตัวแทนไปแข่งนอกมหาวิทยาลัยบ่อย ๆ ด้วย” จุนซูเองก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับผมฮะ แต่คนละเอก
“เห ทำไมฉันไม่เห็นจะรู้จักเขาเลย” ข่าวใหม่ของผมเลยนะนั่น
“นอกจากเพื่อนในห้องเรียนแล้วนายเคยรู้จักใครในมหาลัยอีกมั่งล่ะ” จุนซูพูดอะไรแทงใจผมทุกที ก็นิสัยผมมันเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ จะให้ทำยังไงล่ะ “แต่เพราะนิสัยที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร พี่แกก็เลยไม่ค่อยสนใจคนอื่น ๆ สักเท่าไหร่ เรียกว่าไม่อยู่ในสายตานั่นแหละ แต่ขนาดทำตัวอย่างนี้ก็ยังมีแฟนคลับกับเขาเหมือนกันนะ ส่วนหนึ่งอาจเป็นพวกชื่นชมในพรสวรรค์ แต่อีกส่วนก็เป็นพวกบ้า ๆ ที่ชอบความติสต์ของพี่เขานั่นแหละ หุ่นก็ดี ขาก็ยาว แถมยังเรียนเก่งอีก เฮ้อ”
“อย่าบอกนะว่านายเองก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับของยุนโฮ” ผมอยู่กับจุนซูมาตั้งปีนึงแล้ว ทำไมผมไม่เห็นจะรู้เลยล่ะ โลกนี้มันกลม ๆ ๆ ๆ ๆ ชะมัด
“ไม่ใช่สักหน่อย!” จุนซูแหวใส่ แต่อยู่ดี ๆ ก็เงียบลง แล้วรอยยิ้มน่ารัก ๆ ก็หลุดออกมาให้ผมสยองเล่น เพราะจุนซูยิ้มอย่างนี้ทีไร ย่อมแปลว่ามีแผนชั่ว (แบบน่ารัก ๆ ) อยู่ในใจทุกที “ตกลงว่านายสนิทกับพี่เขาใช่มั้ยอ่ะแจจุง”
“มะ... ไม่หรอก” ผมเริ่มตั้งการ์ดป้องกันโดยอัตโนมัติ
“แต่พี่แกก็อุตส่าห์ซื้อน้ำมาฝากนายนี่นา”
“เพื่อนข้างห้อง เรื่องปกติจะตาย”
“แต่พี่ยุนโฮที่ฉันรู้จักไม่ใช่คนแบบนี้สักหน่อย”
นั่นเพราะผมหน้าเหมือนน้องชายที่หายไปของเขาต่างหาก ผมคันปากอยากบอกเหตุผลที่แท้จริงนี้มาก แต่ก็ไม่อยากเปิดเผยความลับของยุนโฮเช่นกัน ดังนั้นผมจึงได้แต่เงียบ
“นายว่าพี่เขาจะ ‘เป็น’ เหมือนฉันมั้ย” คำว่า ‘เป็น’ ของจุนซูในที่นี้คือมีรสนิยมชอบคนเพศเดียวกันครับ ใช่แล้ว แฟนที่จุนซูกำลังทะเลาะอยู่ก็เป็นผู้ชายครับ คงไม่ต้องสาธยายอะไรเพิ่มใช่มั้ย ผมงี้ใจหายวาบเลยล่ะ ท่าทางจุนซูจะหมายตาเหยื่อรายใหม่ได้แล้ว แถมยังเป็นเหยื่อที่มีผมเป็นตัวเชื่อมเสียด้วยสิ
“คง... คงไม่หรอกมั้ง ยุนโฮดูแมนจะตายไป ซกมกหน่อย ๆ ด้วย”
“ดิบ ๆ เถื่อน ๆ ดีออก เปลี่ยนรสชาติมาเคี้ยวของป่าบ้างก็ไม่เลว” จุนซู... T__T
“แล้วยูชอนล่ะ” ผมถามถึงแฟนเขา “ยังไม่เลิกกันเลยไม่ใช่เหรอ”
“ก็ไม่ได้เลิกเสียหน่อย ยูชอนน่ะ ฉันก็รักของฉัน แต่เพราะหมอนั่นชอบทำตัวงี่เง่า ซ้ำยังนอกใจฉันบ่อย ๆ อีกต่างหาก” ครั้งนี้ที่จุนซูทะเลาะกับแฟนก็เป็นเรื่องนี้เช่นกัน ผมว่ายูชอนเป็นพวกรักสนุก ปากหวาน เทคแคร์ดี เอาใจเก่ง และใช้ชีวิตแบบคุณชายได้สุดเหวี่ยงสมฐานะที่มี ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แถมเสน่ห์ของยูชอนก็อยู่ที่ตรงนั้นนั่นแหละ ไม่งั้นจะชนะใจแมวอย่างจุนซูได้ยังไง “เพราะงั้นฉันนอกใจยูชอนบ้างจะเป็นไรไป”
“ไม่ดีมั้ง” ผมพยายามห้ามจุนซู ไม่อยากรบกวนยุนโฮด้วย ถ้าจุนซูเอาจริงขึ้นมา มีหวังปัญหาล้านแปดตามมาแน่ ๆ ผมอุตส่าห์เป็นญาติดีกับเขาได้แล้วแท้ ๆ ไม่อยากกลับไปที่จุดเดิมอีกครั้งหรอกนะ “นายแค่อยากประชดยูชอนเท่านั้นเอง ใจเย็นก่อนดีกว่า”
“ไม่ ฉันจะเอาคนนี้”
“จุนซูอ่า”
“นายจะช่วยฉันรึเปล่า”
จุนซูถามทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าผมไม่เคยขัดใจเขาได้สำเร็จ ร้ายชะมัด เอาแต่ใจไม่มีใครเกินล่ะ แต่ถ้าใครทนลูกอ้อนของจุนซูได้ก็เป็นอรหันต์แล้ว ผมเริ่มวิตก ท่าทางจุนซูอยากได้ยุนโฮจริง ๆ ซะด้วยสิ
หลังจากนั้นผมพยายามเกลี้ยกล่อมจุนซูอีกหลายต่อหลายครั้ง แต่จุนซูก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปลี่ยนใจ เขายังคงยืนกรานให้ผมไปสืบเรื่องของยุนโฮมาให้มากที่สุด เพื่อหาโอกาสในการตีสนิท เพราะจุนซูบอกว่าถ้าเขาควงยุนโฮไปมหาลัยได้ เขาจะต้องโด่งดังขึ้นมาแน่ ๆ แถมยูชอนคงเต้นแรงเต้นกาเป็นการใหญ่ด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวชัด ๆ แต่ผมนี่สิที่ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นเลยจริง ๆ
เหตุผลที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้นน่ะเหรอ ก็เพราะยุนโฮไม่ได้มีรสนิยมเหมือนจุนซู (ผมคิดงั้นนะ) แถมจุนซูก็ไม่ได้รักยุนโฮจริง ๆ สักหน่อย ผมไม่อยากให้ยุนโฮเสียใจภายหลังหรอกนะ แถมถ้าเขารู้ว่าผมอยู่เบื้องหลังด้วยแล้วล่ะก็... ผมไม่อยากจินตนาการเลยจริง ๆ เฮ้อ ผมลำบากใจในสถานะคนกลางมาก ๆ เลยล่ะครับ แถมวันนี้จุนซูก็อยู่กับผมทั้งวัน ทำให้ผมไม่ได้เจอหน้ายุนโฮอีกเลย ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไงดี ใจหนึ่งก็อยากช่วยเพื่อน แต่อีกใจก็ไม่อยากช่วยซะนี่ ทั้งที่เมื่อก่อนผมไม่เคยขัดใจจุนซูเลยซักอย่าง ตอนนี้ผมคิดไม่ตกมากเลยล่ะครับ ยิ่งพรุ่งนี้จุนซูสั่งให้ผมไปสืบสเป็กแฟนที่ยุนโฮน่าจะชอบมาอีก ผมล่ะอยากจะบ้าตาย
เพื่อน ๆ คิดว่าผมควรจัดการกับปัญหานี้ยังไงดีครับ เพราะใจผมไม่อยากทำจริง ๆ แต่ถ้าไม่ทำ มีหวังได้เป็นผมเองแน่ที่ทะเลาะกับจุนซู ผมไม่อยากทะเลากับเพื่อนซะด้วยสิ แต่กล่อมยังไงก็ไม่ฟังแบบนี้ ดูท่าจะเอาจริงเรื่องยุนโฮมาก ๆ ด้วย
ใจหนึ่งผมก็อยากเอาเรื่องนี้ไปบอกยุนโฮตรง ๆ แต่มันก็เหมือนผมหักหลังจุนซู
แต่ถ้าผมตามใจจุนซู มันก็เหมือนผมทำลายมิตรภาพหน้าห้องของเราสองคน
ฮึ่มมม คืนนี้ผมคงนอนไม่หลับแล้วแน่ ๆ
แจจุง
ความคิดเห็น