คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : 12 - 01 - 28 : เขา........?
28 มกราคม 2012
ตอนนี้ผมสามารถโกนหนวดให้ยุนโฮได้เกลี้ยงเกลาไร้รอยแผลแล้วนะ สุดยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ ผมว่าผมออกไปเปิดร้านรับโกนหนวดดีกว่า บางทีผมอาจจะรุ่งก็ได้ บ๊ะ เข้าเรื่องกันดีกว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผมถามเพื่อน ๆ ไปว่ารับมือกับเสียงแซวกันยังไง ซึ่งส่วนใหญ่ก็บอกให้ผมทำตัวนิ่ง ๆ เฉย ๆ ใช่มั้ยฮะ ผมว่ามันก็โอเคระดับนึงนะ แต่เหมือนผมจะทำตัวเฉยไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ เพื่อนในห้องชอบบอกว่าผมหน้าแดง แล้วก็ล้อผมต่อตามเดิมอยู่ดีอ่ะ (และจุนซูก็ไม่ช่วยอะไรผมเลย) สงสัยแผนนี้จะไม่เวิร์คแฮะ ผมก็เลยตัดสินใจใช้ทางเลือกที่สองที่มีคนเสนอเข้ามาเยอะไม่ต่างกัน
นั่นคือให้ไปถามยุนโฮ
ใช่ ผมก็เลยไปถามเขาว่าโดนแซวโดนล้อเหมือนผมรึเปล่า ที่จริงผมค่อนข้างกังวลนิด ๆ นะ ก็ยุนโฮออกจะดัง แล้วต้องมาเป็นข่าวกับผม แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีกต่างหาก เขาอาจจะลำบากใจแต่ไม่อยากบอกผมตรง ๆ ก็ได้ แต่ถึงยังไงผมก็ควรต้องถามเขานั่นแหละ เพราะยุนโฮดูจะชินกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างทั้งหลายแหล่นี่นา เขาต้องมีวิธีรับมือแน่ ๆ
แต่เพื่อน ๆ รู้มั้ยว่าเขาตอบว่าอะไร
นายหมีแก่คางเขียวแค่จ้องหน้าผมนิ่ง ๆ แล้วตอบเสียงเรียบ ๆ ว่า
“อืม”
อืมคำเดียว ซึ่งมันจะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย ถ้าผมไม่ได้เป็นคนถามเขาว่า
“นายตอบว่าอะไร เวลามีคนมาแซวว่าเราสองคนคบกัน”
แล้วคิดดูสิ ยุนโฮตอบคำว่าอืมเนี่ยนะ ไอ้เราก็เอ๋อแดกอยู่หลายวินาที เข้าใจว่าการไม่ยินดียินร้ายและไม่หือไม่อือกับอะไรทั้งสิ้นเป็นการรับมือกับเสียงล้อวิธีหนึ่ง แต่ทำไมเขาต้องตอบ อืม ออกไปด้วยเล่า!
“อืม? อืมเนี่ยนะ!?” ผมอยากอัดเขาอ่ะ อยากตีปากเขามาก แต่ก็ไม่กล้าอยู่ดี “ทำไมนายไม่ปฏิเสธไปเล่า”
“แล้วทำไมฉันต้องปฏิเสธ” ดู ดู๊ ดู ดูยุนโฮย้อนสิฮะ นี่เขาตั้งใจจะแกล้งผมรึเปล่าเนี่ย
“ก็เราไม่ได้เป็นแฟนกันนี่ ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด”
“ยังไงเขาก็เข้าใจกันไปเองอยู่ดี พูดไปก็เท่านั้น” ยุนโฮยักไหล่ไม่แยแส ดูท่าทางเขาจะไม่ทุกข์ร้อนเรื่องที่ตกเป็นข่าวกับผมเลย ทั้งที่ผมต้องคอยแก้ข่าวเป็นพัลวันแท้ ๆ “เพราะงั้นใครถามไรมาก็ตอบอืมไปเถอะ เดี๋ยวพวกนั้นก็เลิกเซ้าซี้เองนั่นแหละ”
“แต่...”
“ทำไม เป็นข่าวกับฉันมันไม่ดีตรงไหน”
“ไม่ใช่อย่างนั้น แต่... แต่นายไม่กลัวเธอรู้เรื่องนี้บ้างเหรอ”
“เธอ?” ยุนโฮหันมาเลิกคิ้วใส่ผม เขาชะงักไปเล็กน้อย สงสัยจะเพิ่งเอะใจเรื่องนี้แหง ๆ
“ก็คนที่นายแอบชอบไง”
คราวนี้ยุนโฮเงียบนานมาก นานจนผมชักใจเสีย นี่ผมพูดอะไรผิดรึเปล่าฮะ ยุนโฮเขาไม่พอใจที่ผมยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขารึเปล่านะ เพราะถึงแม้ว่าพักนี้เราจะเดินเข้าห้องของกันและกันจนเป็นเรื่องปกติแล้ว แต่ยุนโฮก็แทบไม่เคยพูดถึงผู้หญิงคนนั้นเลยสักหน เขาอาจจะอยากเก็บเธอไว้ในใจคนเดียวก็ได้นะ
“ถ้านายไม่อยากพูด ฉันก็ขอโทษ...”
“ฉันไม่ได้ชอบ ‘เธอ’ ” อยู่ดี ๆ ยุนโฮก็พูดแทรกผมเอาดื้อ ๆ “แต่ฉันชอบ ‘เขา’ ”
ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองอ้าปากค้างรึเปล่า แต่ผมละสายตาออกจากการจ้องมองของยุนโฮไม่ได้เลย แววตาของเขามันจริงจังมากเลยล่ะฮะ คือปกติก็ทำผมเป็นช็อกโกแลตเหลวได้อยู่แล้ว แต่มาคราวนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นป็อบคอร์นเลย คือมันอยากระเบิดตัวเองมาก ๆ อ่ะ วุ้ย บรรยายไม่ถูกแฮะ
และถ้าผมไม่ได้คิดมาก (ตามสไตล์ผมอีกครั้ง) นั่นเหมือนยุนโฮจะหมายถึงผมเลยอ่ะ เอ๊ะ ไม่ ๆ ๆ ๆ ผมแค่กำลังหลงตัวเองต่างหาก ผมแค่ฟังคนในบอร์ดนี้มากเกินไปก็เท่านั้น ยุนโฮเขาไม่ได้หมายถึงผมหรอก เพราะเรากำลังพูดกับถึงสรรพนามที่สามนี่นา และสรรพนามที่สามมันก็ใช้สำหรับกล่าวถึงคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาด้วย เพราะงั้นไม่ใช่ผมชัวร์ ๆ
ยุนโฮบอกว่าชอบ ‘เขา’
ไม่ได้บอกว่าชอบ ‘นาย’
เพราะฉะนั้น - เป็น - ผม - ไม่ได้ - แหง ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... แต่ถึงอย่างนั้น... ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกันนะ!
เข้าใจอารมณ์ผมตอนนั้นกันมั้ย คือแบบ... ไม่รู้จะตอบยังไง ต้องหัวเราะเหรอ รึว่าต้องแสดงความยินดีกับจุนซู (ที่รสนิยมเดียวกันซะแล้ว) หรือว่าต้องขอให้ยุนโฮเจาะจงมาเลยว่า ‘เขา’ คนไหน คือผมคิดอะไรไม่ออกเลยอ่ะ สมองมันตื้อม่ากกกก ยุนโฮยิ่งเลเซอร์บีมใส่ผมเข้าอย่างจังซะแล้ว
และพอคิดอะไรไม่ออก สัญชาตญาณเก่าของผมก็กลับมาครองสติอีกครั้ง ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึงการหนี!
ผมวิ่งกลับเข้าห้องตัวเองทันที ไม่คงไม่คุยมันแล้ว คือมัน... คือมันแบบ... เขาจะฆ่าผมด้วยสายตารึไง! แล้วยังคำพูดแบบนั้นอีกล่ะ!!
ใจหนึ่งผมก็งงกับตัวเองนะที่คิดอะไรเข้าข้างตัวเองสุดฤทธิ์ขนาดนั้น ผมไม่ปฏิเสธหรอกว่าผมเองก็ชอบยุนโฮ แต่มันก็แค่ชอบเองนะ ไม่ได้หมายถึงชอบแบบคนรักอะไรอย่างนั้นสักหน่อย (ถึงผมจะยังไม่เคยมีแฟนก็เถอะ) ก็แค่... แบบสบายใจดีเวลาอยู่กับยุนโฮ เหมือนเราได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องคอยกังวลด้วยว่ายุนโฮเขาจะคิดยังไง (เพราะถ้ายุนโฮไม่ชอบอะไร เขาก็จะพูดออกมาตรง ๆ อยู่แล้ว ไม่ปล่อยให้ผมต้องเสียเวลาคิดเองเออเองคนเดียว) ดังนั้นเวลาอยู่กับยุนโฮผมก็เลยสบายใจเป็นพิเศษ มันชิว ๆ เพลิน ๆ แฮปปี้ดีออก แถมช่วงนี้เราก็อยู่ด้วยกันบ่อยด้วย ออกไปข้างนอกด้วยกันเป็นประจำ แต่ผมก็เข้าใจมาตลอดว่าเพราะเราสนิทกัน ยุนโฮเห็นผมเป็นน้องชายเขาอะไรทำนองนั้นนี่
เพราะงั้นพอเจอสายตาพิฆาตกับคำพูดประหลาด ๆ ของเขา ผมก็เลยเผลอใจเต้นออกไปเองอย่างห้ามไม่ได้อ่ะ
แต่ครั้นจะให้ไปถามยุนโฮตรง ๆ ว่าหมายถึงผมรึเปล่ามันก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ! ผมไม่กล้าถามเขาหรอก และจะให้ไปปรึกษาจุนซูก็อย่าหวังซะล่ะว่าจะได้คำตอบดี ๆ เจ้านั่นต้องเชียร์ให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองสุดฤทธิ์แน่ ๆ ทั้งที่ผมก็ยังไม่รู้แน่ชัดเลยว่าผมรู้สึกยังไงกับยุนโฮ เอ๊ะ เมื่อกี้ผมเพิ่งบอกว่าชอบเขาแบบเพื่อนไปเองใช่มั้ยนะ เห็นมั้ยล่ะว่าผมสับสนขนาดไหน ผมไม่รู้แล้วนะเนี่ยว่าต้องแยกแยะความรู้สึกยังไง ใช่ ผมชอบเวลาอยู่กับยุนโฮ และผมก็น่าจะชอบยุนโฮด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะชอบแบบแฟนนี่นา โอ๊ย งงจัง ตกลงว่าตอนนี้ผมควรเริ่มทำอะไรก่อนดีล่ะ ชักไม่มั่นใจแล้วสิว่าจะกล้ามองหน้ายุนโฮเหมือนเมื่อก่อน ทั้งที่คนที่ยุนโฮบอกว่าชอบไม่ได้หมายถึงผมซะหน่อย แต่ผมก็ดันหนีเข้าห้องเหมือนเป็นตัวเองที่โดนสารภาพรักซะงั้นแน่ะ ยุนโฮจะต้องหาว่าผมบ้าแน่ ๆ
เพื่อน ๆ ว่าผมควรจะทำยังไงดีครับ.... T_____T
แจจุง
ความคิดเห็น