คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 12 - 01 - 07 : ห้ามแซว
7 มกราคม 2012
สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน ผมกลับมาแล้ว คิดถึงผมกันมั้ยเอ่ย (คาดว่าส่วนใหญ่คงจะคิดถึงเพื่อนร่วมหอของผมซะมากกว่าล่ะม้างงงง) มีหลายคนอยากให้ผมลงรูปตัวเองกับยุนโฮ เอ่อ... อย่าดีกว่า ผมไม่อยากเปิดเผยตัวตนขนาดนั้น แถมคงทำให้หลายต่อหลายคนผิดหวังกันซะเปล่า ๆ ผมไม่ได้หน้าตาดีอะไรเลย มีสองหู สองตา หนึ่งปากแบบคนทั่วไปเด๊ะเลยฮะ เพราะงั้นอย่าดูเลยดีกว่า (พูดง่าย ๆ คือผมเขิน ขอเป็นแจจุงในมุมหลืบต่อไปเถอะนะฮะ พลีส ๆ ๆ ไม่โกรธกันน้า)
แต่หน้าตาของยุนโฮนี่สิ...
รู้มั้ย ผมเคยสงสัยนะว่าภายใต้หนวดเครารุงรังของยุนโฮเนี่ย หน้าตาที่แท้จริงของเขาจะเป็นแบบไหนกันหนอ เพราะเท่าที่เห็นคือตาคม ๆ ที่มองแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นช็อกโกแลตเยิ้ม ๆ กับจมูกโด่ง ๆ ไร้สิวเสี้ยนของเขา (ทำไมคนซกมกถึงไม่มีสิวนะ ผมอิจฉายีนของนายคนนี้จริง ๆ) นอกนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหน้าตาของยุนโฮเป็นยังไง
ใช่แล้ว ผมไม่เคยรู้เลย ไม่เคยจินตนาการออกด้วย จนกระทั่ง... วันนี้
วันที่ยุนโฮถูกคนที่บ้านบังคับให้โกนออกทั้งหมด
แน่นอนว่าเขาไม่พอใจมาก
แต่เขาก็ปฏิเสธคำสั่งของพ่อแม่ไม่ได้
และมันก็ยาวไม่ทันวันเปิดเรียนของพวกเราด้วย
เรื่องของเรื่องคือผมไปเคาะห้องเขา เพราะจะเอาของฝากจากบ้านเกิดไปให้ ซึ่งยุนโฮก็ใช้เวลานานมาก ๆ กว่าจะออกมาเปิดประตูได้ แถมเขายังเอาผ้าพันคอพัน ๆ ๆ ๆ ซะถึงจมูกแน่ะ ตอนแรกผมก็นึกแค่ว่าเขาหนาว ด้วยความเป็นห่วงก็เลยถามไปว่าฮีตเตอร์ที่ห้องเสียเหรอ แต่เขาก็บอกว่าเปล่า แล้วก็ดูร้อนรนยังไงก็ไม่รู้ เหมือนไม่ค่อยอยากคุยกับผมอ่ะ ผมก็เลยชักเอะใจ
“นายตัดผมด้วยนี่นา” ผมพยายามยื้อทุกวินาทีไม่ให้ยุนโฮปิดประตูฮะ เขาต้องกำลังมีความลับกับผมแน่ ๆ ซึ่งขอบอกเลยว่ามันทำให้ผมยิ่งอยากรู้ขึ้นไปอีกหลายเท่าเลยล่ะ “นี่ ๆ ๆ แล้วกลับควางจูทั้งที ไม่มีของฝากฉันบ้างเหรอ”
“อยู่ในห้องน่ะ ยังไม่ได้แยก ไว้วันหลังก็แล้วกัน” แล้วเขาก็ทำท่าจะหนีผมอีกครั้ง
“ยุนโฮอ่า นั่นนายกำลังมีความลับกับฉันใช่ไหม” เพราะยุนโฮจะหนีเข้าห้อง ผมก็เลยรีบคว้าชายผ้าพันคอของเขาเอาไว้ มันเป็นไหมพรมถักที่นุ่มมือมาก ๆ เลยล่ะ แต่เพราะผมคว้ามาตอนที่เขาหมุนตัวไปแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่าผมไปดึงผ้าพันคอเขา เกือบรัดคอเพื่อนห้องตรงข้ามตายแล้วมั้ยล่ะ ยุนโฮไอค่อกแค่กยกใหญ่เลยล่ะฮะ ผมก็รู้สึกผิดสิ รีบเข้าไปช่วยแก้ผ้าพันคอให้ตาหมีแก่อย่างเร็วไว
“ไม่เป็นไรแจจุง ฉัน...” ยุนโฮทำท่าจะห้ามไม่ให้ผมปลดผ้าพันคอของเขา แต่เขากำลังหายใจไม่ออกนะ จะให้ผมยืนดูเฉย ๆ ได้ยังไงล่ะ แถมมือของผมมันก็ทำงานไปก่อนล่วงหน้าแล้วด้วย
“ได้ที่ไหนเล่า ให้ฉันช่วยนี่แหละ จะได้หายใจได้คล่อง ๆ คอ.....”
ผมไม่รู้ว่าเสียงของผมมันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้แค่ว่าหัวใจของผมมันแทบหยุดเต้นไปเสี้ยววินาทีนึงเลยล่ะ เพราะในทันทีที่ผมแก้ผ้าพันคอออกมาจากคอยุนโฮ โครงหน้าหมดจดของเขาก็กระแทกเข้าตาผมเต็มเปา แถมยิ่งยืนใกล้กันขนาดนี้ ผมก็ชักกลัวว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของผมซะแล้วสิ
ขนาดผมเป็นผู้ชายด้วยกัน ผมก็ยังบรรยายหน้าตาของยุนโฮได้คำเดียวฮะว่า... หล่อ
คือแบบหล่อมาก หล่อจริง ๆ หล่อหมดจดด้วย
หน้าเขาเล็กมาก ปากก็เล็ก จมูกก็เล็ก มันไม่ได้เล็กแบบตลกนะฮะ มันดู... ไม่รู้สิ ผมก็อธิบายไม่เก่งอ่ะ แต่เพราะทุกทีมีก้อนดำ ๆ ขยุกขยุยเป็นเงาะป่า ไอ้เจ้าปากนิดจมูกหน่อยมันก็เลยดูไม่อะไรเท่าไหร่ แต่พอไม่มีหนวดมาบังสายตา มันก็เลยทำให้เห็นรูปหน้าชัด ๆ ทั้งหมด
ผมงี้ตะลึงเลยล่ะ ไม่รู้เผลออ้าปากค้างหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ คือผมเผลอปล่อยผ้าพันคอของยุนโฮลงพื้นไปแล้วเรียบร้อย ก็คนมันช็อกนี่
เราสองคนสบตากันในระยะประชิด ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากี่วินาที แต่มันคงไม่สำคัญหรอกมั้ง เพราะสำหรับตัวผมแล้วมันให้ความรู้สึกเนิ่นนานเป็นเอเทอนอลเลยทีเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครหลบตาก่อน แต่เหตุผลของผมคือมันรู้สึกเหมือนมีแม่เหล็ก... เหมือนกับว่าแววตาสีน้ำตาลของยุนโฮเป็นแม่เหล็กดูดลูกตาผมยังไงก็ไม่รู้
ชั่ววูบหนึ่งที่ผมอยากหยุดเวลาตรงนี้เอาไว้
มัน... เพ้อเจ้อมากเลยใช่มั้ยฮะ
“อย่ามองนานนักได้มั้ย!” สุดท้ายก็เป็นยุนโฮที่ยกมือขึ้นมาดันหน้าผมหนี ได้ไงอ่ะ! ผมยังมองไม่พอเลย ตอนนี้เริ่มเห็นไรหนวดขึ้นหน่อย ๆ แล้ว อีกไม่กี่วันไม่กี่สัปดาห์ผมก็จะไม่ได้เห็นหน้าเต็ม ๆ ของยุนโฮแล้วนะ
“โห ยุนโฮ นายหล่อชะมัดเลยอ่ะ”
“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพูด!”
“เอ๊ะ อย่าเอามือปิดหน้าสิ ฉันมองไม่เห็นนะ”
“แจจุง!”
“นิดเดียวน้านิดเดียว” ผมเข้าไปอ้อนเกาะแขนเกาะขาเขา (ในแบบที่ถ้ายุนโฮยังมีหนวดผมจะไม่กล้าทำ) ตอนนี้ผมอยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกสุด ๆ เลยล่ะ
“ไม่!!” แต่ยุนโฮก็ยืนกรานคำเดิมเสียงแข็ง เขาเอามือนึงปิดหน้าตัวเอง ส่วนอีกมือก็ปิดประตูใส่หน้าผม ทุกคนดูสิ ยุนโฮใจร้ายมากเลยอ่ะ เขาปิดประตูใส่หน้าผมเพียงเพราะอายเนี่ยนะ
เอ๊ะ... เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ผมใช้คำว่าอายงั้นเหรอ เอ... มันเป็นคำที่ดูตลกไปหน่อยเมื่อเทียบกับส่วนสูงของยุนโฮนะ แต่ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเขาก็ทำให้ผมนึกคำอื่นไม่ออกเหมือนกัน แต่ยุนโฮจะอายอะไรล่ะ ก็ในเมื่อเขาหน้าตาดีออกจะตายไป
เพื่อความชัวร์ ผมก็เลย... เคาะประตูเรียกเขา (ผมคงบ้าไปแล้วที่ทำอะไรเสี่ยงตายแบบนี้)
“ยุนโฮ~ นายโกนหนวดออกแล้วดูดีจะตายไป ไม่เห็นต้องหลบหน้าฉันเลย”
เงียบ...
“ยุนโฮ~ นายโกรธฉันแล้วเหรอ”
เงียบ...
“ยุนโฮ~ แต่ฉันชอบนายแบบนี้มากกว่าจริง ๆ นะ”
อยู่ดี ๆ ประตูที่ผมกำลังจะลงมือเคาะเป็นหนที่สี่ก็เปิดพรวดออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ผมเกือบจะเคาะหน้าอกเขาอยู่แล้วเชียว ดีนะที่สะดุ้งแล้วหยุดมือไว้ได้ทัน
“ยุน...!” ผมกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างออกมา แต่ก็ถูกยุนโฮจิ้มนิ้วใส่หน้าผากขัดไว้ก่อน
“เลิกแซวได้แล้ว! แล้วก็อย่าไปแซวแบบนี้กับคนอื่นด้วย!!”
เขาขึ้นเสียงใส่ผมเสร็จก็ปิดประตูใส่หน้าผมเฉยเลย ผมงี้เหวอสิครับ เริ่มเดาอารมณ์ตาหมีติสต์แตกตัวนี้ไม่ออกแล้วสิว่าเขาแค่เขินหรือว่าโกรธผมจริง ๆ แต่ครั้นจะเคาะประตูถามอีกทีก็ใช่เรื่อง ผมก็เลยได้แต่กลับมาห้องตัวเองแบบงง ๆ
ตกลงว่ายุนโฮเขาโกรธผมรึเปล่าเนี่ย
แล้วเพื่อน ๆ ล่ะฮะ คิดว่ายุนโฮเขาโกรธผมรึเปล่า แล้วผมควรต้องง้อเขาด้วยวิธีไหนดีล่ะ ใครมีเคล็ดลับเจ๋ง ๆ เอาไว้ง้อเพื่อนห้องตรงข้ามก็กระซิบบอกผมมั่งนะฮะ
สงสัยผมคงแซวเขามากไปจริง ๆ นั่นแหละ
แต่... ทำไมเขาต้องห้ามผมไปแซวแบบนี้กับคนอื่นด้วยล่ะ
แจจุง
ความคิดเห็น