ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ForEver เธอคือสายลม ฉันคือทราย

    ลำดับตอนที่ #7 : .. นักเรียนใหม่ .. ---+ แก้ใหม่ +---

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 124
      0
      16 พ.ค. 47

    “  ทำไมไม่ดีใจเลยหล่ะคลิฟฟ์  ทีนี้พวกเธอสองคนก็ได้กลับด้วยกันทุกวันแล้ว”  แล้วเฟย์ก็ทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้  

    “  ขอโทษที  ฉันชอบนึกว่าเธอเป็นแฟนกันจริงๆทุกทีเลยสินะ  “  เฟย์ว่าตัวเอง  คลิฟฟ์มีสีหน้าเครียดจนเฟย์รู้สึกผิดสังเกต

    “  มีอะไรรึเปล่า  “  เฟย์ถาม  ขณะนั้นเอง  ครีมวิ่งเข้ามาหาคลิฟฟ์  ยังไม่ทันตะโกนเรียกชื่อก็เห็นสองคนอยู่ตรงหน้า ครีมหลบมุมทันที

    “  เปล่า  ไม่มีอะไร  “  คลิฟฟ์ปฏิเสธ

    “  คลิฟฟ์  เราเป็นเพื่อนกันน่า  ฉันเห็นเธอมาตั้งแต่เราสองคนเพิ่งจะเข้าเรียนประถมด้วยซ้ำ  มีอะไรก็บอกนะ  - -  อา....เอาล่ะๆ  ฉันยอมรับนะ  มาถึงวันนี้ฉันยังไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่เธอปิดกั้นตัวเองมีเหตุผลอะไร  แต่ฉันก็อยากให้เธอมองฉันในฐานะที่ไม่ใช่คนอื่น  ไม่ใช่เพื่อน  และไม่ใช่ครีมาเทียร์  “

    “  ทำไมต้องเจาะจงครีมด้วย  “  คลิฟฟ์ถาม  น้ำเสียงขุ่นเล็กน้อย

    “  ครีมาเทียร์อยู่ในสถานะพิเศษ  จะเรียกว่าเพื่อนก็ไม่ใช่  เพราะเธอกับเค้าถ้าไม่ใช่เพราะเคยช่วยกันและกันวันนี้คงไม่มาเป็นแฟนหลอกๆต่อกัน  จะเรียกว่าคนอื่นก็ไม่ใช่อีกเพราะพวกเธอก็คุยกันปกติ  แต่สถานะของครีม  คือเค้าเป็นคนพิเศษของเธอ  “  เฟย์ยิ้มๆ

    “  วิเคราะห์เสร็จสรรพเลยนะ  “  คลิฟฟ์ประชดใส่แล้วหันหน้าไปทางอื่น

    “  โอ้ย  !  แม่นายลืมสร้างต่อมความรู้สึกให้นายมารึไงนะ  ฉันไปหล่ะ  คุยกับนายแล้วเสียอารมณ์ชะมัด  “

    “  บาย  “  คลิฟฟ์บอกลาเรียบๆ  ทั้งสองแยกออกจากกันแล้ว ครีมจึงแกล้งเดินเข้ามาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร

    “  กลับรึยัง  “  ครีมถาม

    “  กลับสิ  “  คลิฟฟ์ตอบ  

                  ระหว่างทางที่ทั้งสองเดินออกจากมหาวิทยาลัย

    “  ต่อไปเรามาเจอกันที่นี่นะ  อีกสองอาทิตย์เธอกับฉันคงต้องเริ่มซ้อมด้วยกันแล้วแหละ  “

    “  อื้ม  “  ครีมเปล่งเสียงในลำคอ

    “  เสียงเปียโนเป็นเสียงเอกหล่ะสิ  “

    “  ใช่  เพิ่งได้โน๊ตมา  ยาวมาก  รู้สึกจะเล่นคลอตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเลย  จะเว้นก็แค่ช่วง .....  ( เธอทำท่าคิด )  ช่วงที่พระเอกกับนางเอก  - -  เอ้อ  จีบกัน  เฟย์กับเซรันตกลงกันแล้วว่าอย่าให้มีเสียงดนตรีแทรก  เพราะเฟย์อยากให้บทตรงนั้นเด่นกว่าบทอื่น  “  

    “  แล้วนายหล่ะ  ซ้อมเป็นไงบ้าง  “  ครีมถามต่อ

    “  บทไร้สาระ  เดินไปเดินมาแล้วก็พูดบทยาวเฟื้อย  “  คลิฟฟ์บ่น  สีหน้าของเค้าดูแสดงอาการมากขึ้นกว่าเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น  ครีมหัวเราะ

    “  น่าเสียดายที่ฉันไม่เห็นนะ  อ่านบทแล้วหล่ะสิ  มันเป็นไงบ้างหล่ะ  นายชอบรึเปล่า  “

    “  ไม่เห็นชอบซักบท  มีแต่เต้นรำ  จีบกัน  ทะเลาะกัน  แล้วก็.....  จูบกันแค่นั้นเอง  “  ดูเหมือนประโยคหลังคลิฟฟ์จะพูดเร็วๆ  ( ถ้าเธอไม่คิดมากไป )

    ทั้งคู่เดินต่อไปเงียบๆอีกซักพัก  แล้วครีมก็ถามขึ้น

    “  แล้วฉันต้องทำอะไรอีกมั๊ย  “  

    “  ทำอะไร “   คลิฟฟ์ย้อนถาม

    “  ก็  ข่าวก็ออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ  ฉันต้องทำอะไรต่อไปรึเปล่า  “

    “  ฮื้ม  “  คลิฟฟ์ถอนหายใจ  “  ให้ข่าวกระจายไปมากกว่านี้อีกหน่อยแล้วค่อยคิดเถอะ  --  ว่าแต่  ถึงยังไงก็ขอบคุณมากนะที่ช่วย  เสร็จเรื่องแล้วฉันจะตอบแทนเธอบ้าง  “

    “  ถ้าฉันบอกให้หาแฟนให้ซักคนหล่ะ  “  ครีมพูดแล้วหัวเราะลั่น

    “  อยากได้จริงรึเปล่า  เดี๋ยวคลิฟฟ์คิวปิดออกโรงเอง  “  คลิฟฟ์และครีมหัวเราะด้วยกันอย่างสนุกสนาน  มีแต่ครีมที่สามารถแง้มประตูหัวใจของคลิฟฟ์ได้  ถึงแม้จะน้อยมากก็ตามที...



    เมื่อครีมกลับมาถึงบ้าน  พ่อกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา

    “  พ่อ !  แปลกจังทำไมวันนี้พ่ออยู่บ้านหล่ะคะ  “

    “  เฮ้อ  พรุ่งนี้พ่อต้องให้ปากคำตำรวจถึงเรื่องที่พ่อคลี่คลายได้  แต่พักนี้พ่อเป็นอะไรก็ไม่รู้  จำอะไรที่ผ่านมาไม่ค่อยได้   พ่อเลยต้องหาข้อมูลทั้งหมดมาโยงกันใหม่  พรุ่งนี้พ่อจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด  ไม่งั้นแทนที่จะเป็นนักสืบเจ้าของคดี  จะกลายเป็นผู้ต้องหาซะเอง  “

    “  ครีมช่วยมั๊ยคะ  “  ครีมถามก่อนจะปีนขึ้นเก้าอี้หยิบชิ้นไก่เข้าปาก

    “  ดีเลย  ครีมช่วยหาหนังสือที่พ่อเคยบันทึกคดีของพ่อเอาไว้ให้หน่อยสิ  “

    “  ความจริงแฟ้มคดีพวกนี้กรมตำรวจน่าจะมีนี่คะพ่อ  “  ครีมพูด  ในปากยังมีของกินอยู่เต็มไปหมด

    “  ก็พ่อต้องไปให้ปากคำ  ในฐานะนักสืบเจ้าของคดี  ถ้าพ่อไปขอแฟ้มประวัติตัวเอง  มีหวังได้ดังถล่มทลายหน่ะสิ  “

    “  เอ้อ  พ่อคะ  พ่อเป็นคนดังนี่  ในอินเตอร์เน็ตน่าจะมีเว็บไซท์แฟนๆพ่อที่เก็บแฟ้มประวัติของพ่อเอาไว้บางส่วนนะ  จะลองหาดูมั๊ยคะ  “

    “  เออใช่ !  ลืมนึกไปเลยแฮะ  “



    ผ่านไป  3  ชั่วโมง  ห้าทุ่มแล้ว

    “  โอย  ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย  “  พ่อครีมทรุดตัวลงนั่งโซฟา  ขณะที่ครีมกำลังปั่นนิ้วพิมพ์คอมพิวเตอร์เสิร์ชหาอย่างไม่ละความพยายาม  

    “  พ่อคงอัลไซเมอร์จริงๆ  แก่แล้วนี่นะ  “ พ่อพูดปลงๆ  ครีมเองก็ล้ากับแสงหน้าจอคอม  ลงมานั่งข้างๆพ่อ

    “  ทำไมพ่อถึงคิดว่าเป็นอัลไซเมอร์หล่ะคะ  นี่เพิ่งจะครั้งแรกเองไม่ใช่เหรอ  “

    “  ครั้งแรกเหรอ ?  หลายครั้งแล้วที่พ่อมักจะคิดอะไรไม่รอบคอบ  พ่อสังเกตอะไรได้ไม่ดีเท่าเมื่อก่อน  พ่อตีความหมายหลักฐานกับพยานไม่ได้  แต่พ่อมักจะคิดว่าพ่อแค่ขี้ลืม  แต่ตอนนี้  พ่อรู้แล้วว่าพ่อแก่เกินไป  “

    “  อย่าคิดมากน่า  “

    “  เฮ้อ  แผลไฟไหม้บ้านเราก็ยังไม่เรียบร้อยดี  ถ้าการสอบปากคำพรุ่งนี้ติดขัด  พ่ออาจจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปโดยปริยาย  “

    “  อย่าเพิ่งคิดอะไรล่วงหน้าเลยค่ะพ่อ  พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาพ่ออาจจะจำอะไรขึ้นมาได้ก็ได้  บางทีพ่ออาจจะไม่มีสมาธิพอจะนึกเรื่องเครียดๆ  “

    “  อื้ม  หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น  “  พ่อพยายามปลอบใจตัวเอง  สองพ่อลูกเข้านอน  และหวังว่า  เมื่อไหร่ที่พระอาทิตย์ขึ้น  ทุกอย่างจะดีขึ้นจากเดิม



              รุ่งเช้า  ครีมใส่เสื้อข้างในสีขาว  และสูททับสีดำฟอร์มมหาวิยาลัย  (  จะมีให้ใส่เฉพาะวันที่มีงานหรือพิธีทางศาสนาเท่านั้น ในวันธรรมดาจะไม่มีฟอร์มตายตัว ) เธอเรียกหาพ่อ  พร้อมกับผูกไทค์ไปพร้อมๆกัน  แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบ  ครีมสะพายเป้แล้ววิ่งลงข้างล่างเมื่อรู้สึกตัวว่ามันค่อนข้างสายแล้วสำหรับการเข้าเรียน  ครีมรีบหย่อนขนมปังลงในเตาปิ้ง  แต่แล้วก็เห็นขนมปังที่ปิ้งเรียบร้อยแล้ววางอยู่ข้างๆทาแยมสตรอเบอร์รี่ของโปรดของเธอเอาไว้ให้แล้วด้วย  ครีมรู้ทันทีว่าพ่อออกจากบ้านไปแล้ว  ครีมไม่รีรอที่จะรีบกินแล้วออกไปจากบ้านทันที

    ครีมมาถึงมหาวิทยาลัย  กว่าจะเข้าเรียนได้ก็สายมาแล้ว  ตอนนั้นเองที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับนักเรียนใหม่เพิ่งเข้าเรียน  ครีมนั่งข้างๆเทล่าเพื่อนของเธอ  และถามหาเหตุผลที่ทุกอย่างดูวุ่นวายกว่าทุกครั้ง

    “  ก็วันนี้มีนักเรียนใหม่  เค้าเป็นพวกเดียวกับเธอด้วยนะ  “

    “  พวกเดียว .....  กับฉัน  ?  “   ครีมทวนคำ

    “  ช่ายย ... เค้าเป็นคนไทยหล่ะ  แต่ดูแล้วเค้าพูดภาษาอังกฤษได้คล่องเชียวหล่ะ  คล่องกว่าเธอด้วย  “  พอลลี่หันมาบอก

    “  เออ  ขอบใจ  “  ครีมหรี่ตาอย่างหมันไส้  แล้วมองไปที่โต๊ะของนักเรียนใหม่  เค้าดูเฮฮากับเพื่อนใหม่และดูมีมนุษยสัมพันธ์  เค้ามองมาที่ครีมาเทียร์  และส่งยิ้มให้เธอ  ครีมยิ้มตอบ  แล้วหันหน้ากลับมา  พลางพูดเบาๆกับตัวเอง

    “  น่ารักชะมัดยาดเลย !  “

    ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นในเวลากลางวัน  ครีมนั่งกินอาหารอยู่กับคลิฟฟ์  และเธอกำลังเล่าเรื่องนักเรียนใหม่ให้คลิฟฟ์ฟังอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน  คลิฟฟ์ฟังด้วยสีหน้าเฉยๆ  ผิดกับครีมที่ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ

    “  แล้วเค้าชื่ออะไรหล่ะ  “  คลิฟฟ์ถาม

    “  นายก็สนใจเหมือนกันเหรอ  ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ  รู้แต่ว่าเค้าเป็นคนไทย  แต่คงจะอยู่ที่นี่มานานแล้ว  ก็เลยพูดภาษาอังกฤษคล่อง  คล่องกว่าฉันซะอีก  แล้วยัง...  “

    “  ไทม์เอ้าท์  !  หมดเวลาโม้แล้ว  กลับไปเข้าเรียน  “  คลิฟฟ์ผลักครีมออกไป

    “  แหม  ชอบขัดคออยู่เรื่อยเลยนายเนี่ย  “  ครีมกับคลิฟฟ์แยกกันไปคนละทาง  เพราะคลิฟฟ์ไม่มีเรียนช่วงบ่ายทุกวันอยู่แล้ว  ทุกๆบ่ายเค้าต้องเข้าชมรม....  ผิดกับครีมที่กำลังจะสายเข้าอีกแล้ว

    “  นี่เธอ !  “  นักเรียนใหม่ตะโกนเรียกครีม

    “  เข้าเรียนสายเหรอ “  เค้าถามครีมอีก  ครีมทั้งตกใจและตื่นเต้น

    “  ช..ใช่  - -  นายไม่ต้องเข้าเรียนเหรอ  “

    “  ใครว่าล่ะ  ฉันเรียกเธอไว้วิ่งด้วยกันตะหากเล่า  “  เค้ารีบออกวิ่งพร้อมกับครีม  ครีมแปลกใจและกำลังมึนงง  แต่แล้วระหว่างวิ่ง  นักเรียนใหม่ก็ถามครีมอีก

    “  เธอชื่ออะไร  “

    “  ครีมาเทียร์  “

    “  อ๋อ  มีชื่ออังกฤษแล้วเหรอ  “

    “  ใช่  อยู่มานานแล้วหล่ะ  - -  เฮ้ย !  แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันเป็นคนไทย  “

    “  อะไรของเธอ  ก็ฉันพูดกับเธอเป็นภาษาไทยอยู่นี่ไง  “  ครีมนึกขึ้นได้ว่าเธอกำลังสื่อสารกับเค้าเป็นภาษาไทยโดยไม่รู้ตัว  

    “  แล้วนายชื่ออะไรหล่ะ  “

    “  หม่อน  “  

    “  ยังไม่มีชื่ออังกฤษอีกเหรอ  “  ครีมถาม

    “  มี  แต่ไม่อยากให้เรียก  “  เค้าตอบ  ครีมทัก  “  คลิฟฟ์คงดีใจมากที่ได้เจอคนพันธุ์เดียวกับเค้า  เย็นชาไร้ความรู้สึก  “  หม่อนหัวเราะในลำคอ

    “  มีคนทักฉันแบบนั้นเหมือนกัน  --  คลิฟฟ์เชียร์  พอล   อืมม...  “  หม่อนทำท่าคิด  “  เค้าเป็นคนดังมากเหรอ  “

    “  ที่สุดของเอ็นซอร์  “  ครีมตอบ  “  แต่ช่างเถอะ  เข้าเรียนกัน  “

    ทั้งสองออกจากลิฟท์แล้วเข้าห้องเรียนไป



    edited  by  NACHI  16-05-47
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×